ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 513 จากทั้งหมด 6210 หน้า แสดงรายการที่ 10241 - 10260 จากข้อมูลทั้งหมด 124195 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
10241 | รายงานสถานการณ์ด้านทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง และการกัดเซาะชายฝั่งของประเทศไทย พ.ศ. 2561 | ทส. | 25/08/2563 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานสถานการณ์ด้านทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง
และการกัดเซาะชายฝั่งของประเทศไทย พ.ศ. ๒๕๖๑ ประกอบด้วย
สถานการณ์และปัจจัยขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงด้านทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง
สถานการณ์ด้านทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง และการกัดเซาะชายฝั่งของประเทศไทย
สถานการณ์ด้านทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง และการกัดเซาะชายฝั่งรายจังหวัด
และสรุปสถานการณ์ การคาดการณ์แนวโน้มในอนาคต
และข้อเสนอแนะเชิงนโยบายด้านทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง สิ่งแวดล้อมทางทะเล
และการกัดเซาะชายฝั่ง ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
10242 | แต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ | ดศ. | 25/08/2563 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์
รวม ๙ คน ตามมาตรา ๓๖ แห่งพระราชบัญญัติว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. ๒๕๔๔
ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (ฉบับที่ ๓)
พ.ศ. ๒๕๖๒ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๒๕ สิงหาคม ๒๕๖๓) เป็นต้นไป
ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมเสนอ ดังนี้ ๑. นางอรรชกา
สีบุญเรือง ประธานกรรมการ ๒. นางสาวสิริธิดา
พนมวัน ณ อยุธยา กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านการเงิน ๓. นายศีลวัต สันติวิสัฎฐ์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ ๔. นายสราวุธ
เบญจกุล กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านนิติศาสตร์ ๕. นายอนุชิต อนุชิตานุกูล กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านวิทยาการคอมพิวเตอร์ ๖. นายกนิษฐ์ สารสิน กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านวิทยาศาสตร์หรือวิศวกรรมศาสตร์ ๗. นางสาวช่อผกา
วิริยานนท์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านสังคมศาสตร์ ๘. นายเฉลิมรัฐ นาควิเชียร กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านบริหารธุรกิจ หรือ ตัวแทน Startup ๙ นายยรรยง เต็งอำนวย กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านความมั่นคงปลอดภัยสารสนเทศ
|
||||||||||||||||||||||||
10243 | การขยายระยะเวลาประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักร | นร.08 | 25/08/2563 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ๑.
เห็นชอบให้ขยายระยะเวลาการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักร
ออกไปอีก ๑ เดือน ตั้งแต่วันที่ ๑-๓๐ กันยายน ๒๕๖๓ ๒.
เห็นชอบและรับทราบร่างประกาศ รวม ๓ ฉบับ ตามที่สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติเสนอ
และให้ดำเนินการต่อไปได้ ดังนี้ ๒.๑ เห็นชอบร่างประกาศ เรื่อง
การขยายระยะเวลาการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักร (คราวที่
๕) และร่างประกาศ เรื่อง
การให้ประกาศที่คณะรัฐมนตรีกำหนดตามประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินยังคงมีผลใช้บังคับ ๒.๒ รับทราบร่างประกาศ เรื่อง การให้ข้อกำหนด
ประกาศ และคำสั่งที่นายกรัฐมนตรีกำหนดตามประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินยังคงมีผลใช้บังคับ
|
||||||||||||||||||||||||
10244 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (นายกิตติพัฒน์ เดชะพหุล) | ยธ. | 25/08/2563 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง
นายกิตติพัฒน์ เดชะพหุล ข้าราชการพลเรือนสามัญ ให้ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง
สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงยุติธรรม เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่าง
ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไป
ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
10245 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (นายประเสริฐ สินสุขประเสริฐ และนางเปรมฤทัย วินัยแพทย์) | พน. | 25/08/2563 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ
สังกัดกระทรวงพลังงาน ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน ๒ ราย
เพื่อทดแทนผู้ดำรงตำแหน่งที่จะเกษียณอายุราชการ และสับเปลี่ยนหมุนเวียน ทั้งนี้
ตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๖๓ เป็นต้นไป ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานเสนอ
ดังนี้ ๑. นายประเสริฐ สินสุขประเสริฐ ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมพัฒนาพลังงาน ทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน ๒. นางเปรมฤทัย วินัยแพทย์ ดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง
|
||||||||||||||||||||||||
10246 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (นายดนุชา พิชยนันท์) | นร.04 | 25/08/2563 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง
นายดนุชา พิชยนันท์ ข้าราชการพลเรือนสามัญ
ให้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สำนักนายกรัฐมนตรี
เพื่อทดแทนผู้ดำรงตำแหน่งที่จะเกษียณอายุราชการ ตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๖๓
เป็นต้นไป ตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์) เสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
10247 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (นางยุพา ทวีวัฒนะกิจบวร) | วธ. | 25/08/2563 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง
นางยุพา ทวีวัฒนะกิจบวร ข้าราชการพลเรือนสามัญ ให้ดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวง
สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงวัฒนธรรม
เพื่อทดแทนผู้ดำรงตำแหน่งที่จะเกษียณอายุราชการ ตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๖๓
เป็นต้นไป ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
10248 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (นายชยธรรม์ พรหมศร) | คค. | 25/08/2563 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง
นายชยธรรม์ พรหมศร ข้าราชการพลเรือนสามัญ ให้ดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวง
สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงคมนาคม เพื่อทดแทนผู้ดำรงตำแหน่งที่จะเกษียณอายุราชการ
ตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๖๓ เป็นต้นไป ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
10249 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (นายธนากร บัวรัษฏ์) | นร.06 | 25/08/2563 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง
นายธนากร บัวรัษฏ์ ข้าราชการพลเรือนสามัญ
ให้ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ สำนักข่าวกรองแห่งชาติ
สำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อทดแทนผู้ดำรงตำแหน่งที่จะเกษียณอายุราชการ ตั้งแต่วันที่ ๑
ตุลาคม ๒๕๖๓ เป็นต้นไป ตามที่สำนักข่าวกรองแห่งชาติเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
10250 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (นางสาวกุลยา ตันติเตมิท) | กค. | 25/08/2563 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง
นางสาวกุลยา ตันติเตมิท ผู้ไปปฏิบัติงานตามมติคณะรัฐมนตรีกลับเข้ารับราชการ
ให้ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงการคลัง
ตั้งแต่วันที่ ๑ พฤศจิกายน ๒๕๖๓ เป็นต้นไป เนื่องจากครบกำหนดเวลา ๒ ปี
ที่ออกจากราชการเพื่อไปปฏิบัติงานตามมติคณะรัฐมนตรี (ตั้งแต่วันที่ ๑ พฤศจิกายน
๒๕๖๑ ถึงวันที่ ๓๑ ตุลาคม ๒๕๖๓) ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
10251 | ขอให้คณะรัฐมนตรีส่งรายชื่อผู้แทนคณะรัฐมนตรีเพื่อเป็นกรรมาธิการในคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการวุฒิสภา และมอบหมายให้สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเป็นผู้ประสานงานในการเลือกสรรผู้สมควรดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาและกรรมการในคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร | สว. | 25/08/2563 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
ดังนี้ ๑. มอบหมายให้รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
(นายอนุชา นาคาศัย) เป็นผู้แทนคณะรัฐมนตรี เป็นกรรมาธิการในคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการวุฒิสภา
และให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีแจ้งรายชื่อดังกล่าวให้สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาทราบต่อไป ๒. มอบหมายให้รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
(นายอนุชา นาคาศัย) เป็นที่ปรึกษาและกรรมการในคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร
และให้สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||
10252 | ร่างพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (ในส่วนที่เกี่ยวกับอำนาจหน้าที่ในการออกระเบียบของ ก.บ.ศป.) [สรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร (วันจันทร์ที่ 24 สิงหาคม 2563)] | นร.04 | 25/08/2563 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร
วันจันทร์ที่ ๒๔ สิงหาคม ๒๕๖๓
ซึ่งให้เสนอร่างพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง (ฉบับที่
..) พ.ศ. .... ต่อสภาผู้แทนราษฎร เพื่อบรรจุระเบียบวาระเป็นเรื่องด่วน
|
||||||||||||||||||||||||
10253 | ขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อซักถามข้อเท็จจริงหรือเสนอแนะปัญหาต่อคณะรัฐมนตรีในเรื่องวิกฤตทางเศรษฐกิจและวิกฤตทางการเมือง โดยไม่มีการลงมติ | สผ. | 25/08/2563 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีเห็นว่า
ตามที่สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรแจ้งว่า สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคเพื่อไทย
กับคณะ รวม ๗๙ คน
ได้เข้าชื่อกันเพื่อเสนอญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อซักถามข้อเท็จจริงหรือเสนอแนะปัญหาต่อคณะรัฐมนตรีโดยไม่มีการลงมติ
ตามมาตรา ๑๕๒ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย นั้น คณะรัฐมนตรีพิจารณาแล้วมีความพร้อมจะไปชี้แจงตามญัตติดังกล่าวต่อที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร
ในวันพุธที่ ๙ กันยายน ๒๕๖๓ จึงได้ลงมติ ๑.
มอบหมายให้รัฐมนตรีทุกท่านเข้าร่วมรับฟังการแถลงและชี้แจงข้อเท็จจริงตามญัตติขออภิปรายทั่วไปเพื่อซักถามข้อเท็จจริงหรือเสนอแนะปัญหาต่อคณะรัฐมนตรี
ในวันพุธที่ ๙ กันยายน ๒๕๖๓ ๒.
มอบหมายให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมรับไปประสานประธานสภาผู้แทนราษฎรเกี่ยวกับกำหนดวันที่คณะรัฐมนตรีจะไปชี้แจงตามญัตติดังกล่าวต่อที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ๓.
มอบหมายให้กระทรวงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดเตรียมข้อมูลและจัดทำประเด็นประกอบการชี้แจงของรัฐมนตรีต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||
10254 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทาน เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน รวม 4 ฉบับ (ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทานในเขตโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำปลายมาศ เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน พ.ศ. ....) | กษ. | 25/08/2563 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทานในเขตโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำปลายมาศ
เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน พ.ศ. ....
ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทานคลองส่งน้ำฝั่งขวา
เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน พ.ศ. .... ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทานแม่น้ำน้อย
เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน พ.ศ. .... และร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทานแม่น้ำเจ้าพระยา
เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน พ.ศ. .... รวม ๔ ฉบับ ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว
มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้ทางน้ำชลประทานโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำปลายมาศ
ในท้องที่จังหวัดบุรีรัมย์ ทางน้ำชลประทานคลองส่งน้ำฝั่งขวา
ในท้องที่จังหวัดนครนายก ทางน้ำชลประทานแม่น้ำน้อย
ในท้องที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และทางน้ำชลประทานแม่น้ำเจ้าพระยา
ในท้องที่จังหวัดนครสวรรค์ เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทานจากผู้ใช้น้ำที่นำน้ำไปใช้เพื่อกิจการโรงงาน
การประปา หรือกิจการอื่นนอกจากภาคเกษตรกรรม เพื่อประโยชน์ในการควบคุมดูแลปริมาณน้ำ
และให้การใช้น้ำเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ
และให้ดำเนินการต่อไปได้ |
||||||||||||||||||||||||
10255 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทาน เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน รวม 4 ฉบับ (ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทานแม่น้ำน้อย เป็นทางน้ำชลประทานทึ่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน พ.ศ. .... และร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทานแม่น้ำเจ้าพระยา เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน พ.ศ. .... รวม 2 ฉบับ) | กษ. | 25/08/2563 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทานในเขตโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำปลายมาศ
เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน พ.ศ. ....
ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทานคลองส่งน้ำฝั่งขวา
เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน พ.ศ. .... ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทานแม่น้ำน้อย
เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน พ.ศ. .... และร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทานแม่น้ำเจ้าพระยา
เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน พ.ศ. .... รวม ๔ ฉบับ ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว
มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้ทางน้ำชลประทานโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำปลายมาศ
ในท้องที่จังหวัดบุรีรัมย์ ทางน้ำชลประทานคลองส่งน้ำฝั่งขวา
ในท้องที่จังหวัดนครนายก ทางน้ำชลประทานแม่น้ำน้อย
ในท้องที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และทางน้ำชลประทานแม่น้ำเจ้าพระยา
ในท้องที่จังหวัดนครสวรรค์ เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทานจากผู้ใช้น้ำที่นำน้ำไปใช้เพื่อกิจการโรงงาน
การประปา หรือกิจการอื่นนอกจากภาคเกษตรกรรม เพื่อประโยชน์ในการควบคุมดูแลปริมาณน้ำ
และให้การใช้น้ำเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ
และให้ดำเนินการต่อไปได้ |
||||||||||||||||||||||||
10256 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทาน เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน รวม 3 ฉบับ [ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทานอ่างเก็บน้ำห้วยทรง (ตอนล่าง) เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน พ.ศ. ....] | กษ. | 18/08/2563 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทาน
เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน
จากผู้ใช้น้ำที่นำน้ำไปใช้เพื่อกิจการโรงงาน การประปา หรือกิจการอื่นนอกจากภาคเกษตรกรรม
เพื่อประโยชน์ในการควบคุมดูแลปริมาณน้ำ และให้การใช้น้ำเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
รวม ๓ ฉบับ ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ
และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ดังนี้ ๑. ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทานอ่างเก็บน้ำห้วยน้ำทรง
(ตอนล่าง) เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน พ.ศ. ....
มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้ทางน้ำชลประทานอ่างเก็บน้ำห้วยน้ำทรง (ตอนล่าง)
ในท้องที่ตำบลน้ำโสม อำเภอน้ำโสม จังหวัดอุดรธานี
เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน ๒. ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทานคลองตรอน
เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน พ.ศ. ....
มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้ทางน้ำชลประทานคลองตรอน จากกิโลเมตรที่ ๒.๐๐๐
ในท้องที่ตำบลน้ำไคร้ อำเภอน้ำปาด จังหวัดอุดรดิตถ์ ถึงกิโลเมตรที่ ๑๘.๑๔๐
ในท้องที่ตำบลน้ำไคร้ อำเภอน้ำปาด จังหวัดอุตรดิตถ์
เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน
๓.
ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทานอ่างเก็บน้ำหนองบัว
เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน พ.ศ. ....
มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้ทางน้ำชลประทานอ่างเก็บน้ำหนองบัว ในท้องที่ตำบลไฮหย่อง
อำเภอพังโคน จังหวัดสกลนคร เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน
|
||||||||||||||||||||||||
10257 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทาน เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน รวม 3 ฉบับ (ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทานคลองตรอน เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน พ.ศ. ....) | กษ. | 18/08/2563 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทาน
เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน
จากผู้ใช้น้ำที่นำน้ำไปใช้เพื่อกิจการโรงงาน การประปา หรือกิจการอื่นนอกจากภาคเกษตรกรรม
เพื่อประโยชน์ในการควบคุมดูแลปริมาณน้ำ และให้การใช้น้ำเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
รวม ๓ ฉบับ ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ
และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ดังนี้ ๑. ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทานอ่างเก็บน้ำห้วยน้ำทรง
(ตอนล่าง) เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน พ.ศ. ....
มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้ทางน้ำชลประทานอ่างเก็บน้ำห้วยน้ำทรง (ตอนล่าง)
ในท้องที่ตำบลน้ำโสม อำเภอน้ำโสม จังหวัดอุดรธานี
เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน ๒. ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทานคลองตรอน
เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน พ.ศ. ....
มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้ทางน้ำชลประทานคลองตรอน จากกิโลเมตรที่ ๒.๐๐๐
ในท้องที่ตำบลน้ำไคร้ อำเภอน้ำปาด จังหวัดอุดรดิตถ์ ถึงกิโลเมตรที่ ๑๘.๑๔๐
ในท้องที่ตำบลน้ำไคร้ อำเภอน้ำปาด จังหวัดอุตรดิตถ์
เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน ๓.
ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทานอ่างเก็บน้ำหนองบัว
เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน พ.ศ. ....
มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้ทางน้ำชลประทานอ่างเก็บน้ำหนองบัว ในท้องที่ตำบลไฮหย่อง
อำเภอพังโคน จังหวัดสกลนคร เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน
|
||||||||||||||||||||||||
10258 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทาน เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน รวม 3 ฉบับ (ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทานอ่างเก็บน้ำหนองบัว เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน พ.ศ. ....) | กษ. | 18/08/2563 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทาน
เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน
จากผู้ใช้น้ำที่นำน้ำไปใช้เพื่อกิจการโรงงาน การประปา หรือกิจการอื่นนอกจากภาคเกษตรกรรม
เพื่อประโยชน์ในการควบคุมดูแลปริมาณน้ำ และให้การใช้น้ำเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
รวม ๓ ฉบับ ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ
และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ดังนี้ ๑. ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทานอ่างเก็บน้ำห้วยน้ำทรง
(ตอนล่าง) เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน พ.ศ. ....
มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้ทางน้ำชลประทานอ่างเก็บน้ำห้วยน้ำทรง (ตอนล่าง)
ในท้องที่ตำบลน้ำโสม อำเภอน้ำโสม จังหวัดอุดรธานี
เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน ๒. ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทานคลองตรอน
เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน พ.ศ. ....
มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้ทางน้ำชลประทานคลองตรอน จากกิโลเมตรที่ ๒.๐๐๐
ในท้องที่ตำบลน้ำไคร้ อำเภอน้ำปาด จังหวัดอุดรดิตถ์ ถึงกิโลเมตรที่ ๑๘.๑๔๐
ในท้องที่ตำบลน้ำไคร้ อำเภอน้ำปาด จังหวัดอุตรดิตถ์
เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน ๓.
ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทานอ่างเก็บน้ำหนองบัว
เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน พ.ศ. ....
มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้ทางน้ำชลประทานอ่างเก็บน้ำหนองบัว ในท้องที่ตำบลไฮหย่อง
อำเภอพังโคน จังหวัดสกลนคร เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน
|
||||||||||||||||||||||||
10259 | สรุปผลการดำเนินการเรื่องร้องทุกข์/เสนอความคิดเห็นจากประชาชน ไตรมาสที่ 1 และไตรมาสที่ 2 ของปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 | นร.01 | 18/08/2563 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบและเห็นชอบตามที่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเสนอ
ดังนี้ ๑. รับทราบสรุปผลการดำเนินการเรื่องร้องทุกข์/เสนอความคิดเห็นจากประชาชน
ไตรมาสที่ ๑ และไตรมาสที่ ๒ ของปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓
พร้อมผลการวิเคราะห์เรื่องร้องทุกข์/เสนอความคิดเห็น ๒. ให้ทุกส่วนราชการให้ความสำคัญกับการแจ้งความคืบหน้าการดำเนินการเรื่องร้องทุกข์และเร่งรัดการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนให้มีผลเป็นที่ยุติด้วยความเป็นธรรมภายในระยะเวลาที่เหมาะสม ๓.
การดำเนินการแก้ปัญหาเรื่องราวร้องทุกข์
ควรใช้กลไกของคณะกรรมการกำกับติดตามการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของมวลชน
และคณะกรรมการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของมวลชนระดับกระทรวง
การกำกับดูแลและเร่งรัดติดตามผลการแก้ไขปัญหาของผู้นำการขับเคลื่อนการดำเนินการเรื่องราวร้องทุกข์ประจำหน่วยงาน
(Chief Complaint Executive Officer : CCEO) รวมถึงการตรวจราชการแบบบูรณาการของผู้ตรวจราชการประจำกระทรวง
การประสานงานผ่านเครือข่ายในพื้นที่ ๔.
ให้หน่วยงานของรัฐดำเนินการพัฒนาระบบฐานข้อมูลในทุกด้านอย่างต่อเนื่อง
รวมถึงฐานข้อมูลเรื่องร้องทุกข์ด้วย
ซึ่งหากระบบมีประสิทธิภาพจะสามารถตอบสนองหน่วยงานในการวางแผนการปฏิบัติงานบูรณาการข้อมูล
และกำหนดแนวทางแก้ไขปัญหาได้อย่างทันท่วงที
ในภาวะที่เกิดเหตุวิกฤตหรือภัยพิบัติได้
๕.
ให้มีการประชาสัมพันธ์ สร้างการรับรู้ถึงภารกิจของหน่วยงาน การให้บริการ
และการให้ความช่วยเหลือของแต่ละหน่วยงานให้ประชาชนทราบอย่างทั่วถึง
รวมทั้งหน่วยงานในพื้นที่ควรมีแนวทางการให้ความช่วยเหลือประชาชนก่อนที่ปัญหาจะขยายวงกว้าง
และประชาชนเดินทางมาที่ส่วนกลางเพื่อขอความช่วยเหลือ
|
||||||||||||||||||||||||
10260 | รายงานผลการปฏิบัติงานและผลการใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายของหน่วยรับงบประมาณ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 (ไตรมาสที่ 3) | นร.07 | 18/08/2563 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการปฏิบัติงานและผลการใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายของหน่วยรับงบประมาณประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๓ (ไตรมาสที่ ๓) ตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๖๒ ถึงวันที่ ๓๐ มิถุนายน ๒๕๖๓
วงเงินงบประมาณรวมทั้งสิ้น ๓,๒๐๐,๐๐๐.๐๐ ล้านบาท มีผลการเบิกจ่าย จำนวน
๒,๒๔๙,๕๙๖.๖๗ ล้านบาท มีการก่อหนี้แล้ว จำนวน ๒,๔๘๐,๙๒๙.๙๔ ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ
๗๐.๓๐ และ ๗๗.๕๓ ตามลำดับ
รายการโอนงบประมาณรายจ่ายของหน่วยรับงบประมาณตามพระราชบัญญัติโอนงบประมาณรายจ่าย
พ.ศ. ๒๕๖๓ จำนวนทั้งสิ้น ๘๘,๔๕๒.๖๐ ล้านบาท จำแนกเป็น รายจ่ายประจำ จำนวน
๔๘,๕๖๖.๓๘ ล้านบาท รายจ่ายลงทุน จำนวน ๓๙,๘๘๖.๒๒ ล้านบาท ดังนั้น
งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓ กรณีไม่รวมงบกลาง
และวงเงินตามพระราชบัญญัติโอนงบประมาณรายจ่าย พ.ศ. ๒๕๖๓ วงเงินงบประมาณทั้งสิ้น
จำนวน ๒,๕๓๐,๐๖๗.๐๒ ล้านบาท เป้าหมายการใช้จ่ายงบประมาณ ไตรมาสที่ ๓ จำนวน ๑,๙๔๘,๑๕๑.๖๑
ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ ๗๗.๐๐ มีผลการเบิกจ่าย จำนวน ๑,๗๙๖,๙๕๓.๒๐ ล้านบาท
คิดเป็นร้อยละ ๗๑.๐๒ มีการก่อหนี้แล้ว จำนวน ๒,๐๒๔,๐๘๑.๗๖ ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ
๘๐.๐๐ ผลการก่อหนี้สูงกว่าเป้าหมาย ร้อยละ ๓.๐๐ (เป้าหมายกำหนดไว้ ร้อยละ ๗๗)
จำแนกเป็น รายจ่ายประจำมีผลการเบิกจ่าย จำนวน ๑,๖๐๓,๙๙๕.๑๑ ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ
๘๐.๔๐ มีการก่อหนี้แล้ว จำนวน ๑,๖๒๘,๙๕๕.๓๗ ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ ๘๑.๖๕
ผลการก่อหนี้สูงกว่าเป้าหมาย ร้อยละ ๑.๖๕ (เป้าหมายกำหนดไว้ ร้อยละ ๘๐)
รายจ่ายลงทุนมีผลการเบิกจ่าย จำนวน ๑๙๒,๙๕๘.๐๙ ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ ๓๖.๐๗
มีการก่อหนี้แล้ว จำนวน ๓๙๕,๑๒๖.๓๙ ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ ๗๓.๘๖
ผลการก่อหนี้สูงกว่าเป้าหมาย ร้อยละ ๘.๘๖ (เป้าหมายกำหนดไว้ ร้อยละ ๖๕) ตามที่สำนักงบประมาณเสนอ
|