ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 347 จากทั้งหมด 6200 หน้า แสดงรายการที่ 6921 - 6940 จากข้อมูลทั้งหมด 123982 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
6921 | ขอรับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 งบกลาง รายการค่าใช้จ่ายในการบรรเทา แก้ไขปัญหา และเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ภายใต้โครงการค่าตอบแทน เยียวยา ชดเชย และเสี่ยงภัย สำหรับการปฏิบัติงานของอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ในการเฝ้าระวัง ป้องกัน และควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในชุมชน | สธ. | 08/02/2565 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑.
อนุมัติการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๕ งบกลาง
รายการค่าใช้จ่ายในการบรรเทา แก้ไขปัญหา
และเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ ภายใต้โครงการค่าตอบแทน
เยียวยา ชดเชย และเสี่ยงภัย
สำหรับการปฏิบัติงานของอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ในการเฝ้าระวัง
ป้องกัน และควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ ในชุมชน วงเงินจำนวน ๓,๑๕๐,๙๑๘,๐๐๐ บาท ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ ๒.
ให้กระทรวงสาธารณสุขได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔
พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|
||||||||||||||||||||||||||||||
6922 | ร่างพระราชบัญญัติที่คณะรัฐมนตรีขอรับมาพิจารณาก่อนรับหลักการ รวม 5 ฉบับ | สผ. | 08/02/2565 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. รับทราบข้อสังเกตและผลการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติที่คณะรัฐมนตรีขอรับมาพิจารณาก่อนรับหลักการ
[ร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมพระราชกำหนดการให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ผู้ประกอบวิสาหกิจที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
๒๐๑๙ พ.ศ. ๒๕๖๓ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... รวม ๓ ฉบับ ซึ่งนายชวลิต วิชยสุทธิ์ กับคณะ
นายสมบัติ ศรีสุรินทร์ กับคณะ และนายวรภพ วิริยะโรจน์ กับคณะ เป็นผู้เสนอ
ร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมพระราชกำหนดการรักษาเสถียรภาพของระบบการเงินและความมั่นคงทางเศรษฐกิจของประเทศ
พ.ศ. ๒๕๖๓ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ซึ่งนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ กับคณะ เป็นผู้เสนอ
และร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมพระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหา
เยียวยา และฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม
ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ พ.ศ. ๒๕๖๓ (ฉบับที่
..) พ.ศ. .... ซึ่งนายชลน่าน ศรีแก้ว กับคณะ เป็นผู้เสนอ] ตามที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเสนอ ๒.
ให้ส่งคืนร่างพระราชบัญญัติที่คณะรัฐมนตรีขอรับมาพิจารณาก่อนรับหลักการ รวม ๕
ฉบับดังกล่าว ไปยังสภาผู้แทนราษฎรภายในกำหนดเวลา
พร้อมแจ้งข้อสังเกตดังกล่าวไปเพื่อประกอบการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||
6923 | ผลการดำเนินการปรับปรุงแผนที่แนวเขตที่ดินของรัฐแบบบูรณาการ มาตราส่วน 1 : 4000 (One Map) ของพื้นที่กลุ่มที่ 1 จำนวน 11 จังหวัด | นร16 | 08/02/2565 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑.
รับทราบการเพิ่มเติม “วนอุทยาน” “สวนพฤกษศาสตร์” “สวนรุกขชาติ”
ในหลักเกณฑ์การปรับปรุงแผนที่แนวเขตที่ดินของรัฐแบบบูรณาการ มาตราส่วน ๑ : ๔๐๐๐ (One Map) ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๙
ธันวาคม ๒๕๕๘ (เรื่อง หลักเกณฑ์การปรับปรุงแผนที่แนวเขตที่ดินของรัฐแบบบูรณาการ) ๒.
เห็นชอบผลการดำเนินการปรับปรุงแผนที่แนวเขตที่ดินของรัฐแบบบูรณาการมาตราส่วน ๑ :
๔๐๐๐ (One Map)
และรับรองเส้นแนวเขตที่ดินของรัฐ กลุ่มจังหวัดที่ ๑ จำนวน ๑๑ จังหวัด และให้หน่วยงานที่มีที่ดินของรัฐอยู่ในความรับผิดชอบปรับปรุงแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้องให้สอดคล้องกับผลการดำเนินการปรับปรุงแผนที่แนวเขตที่ดินของรัฐแบบบูรณาการ
มาตราส่วน ๑ : ๔๐๐๐ (One Map) โดยใช้แผนที่แนวเขตที่ดินของรัฐดังกล่าวที่คณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบแล้วแทนแผนที่แนบท้ายกฎหมาย
และใช้เป็นแนวเขตที่ดินของรัฐตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องให้แล้วเสร็จภายในสามร้อยหกสิบวัน
โดยอาจขอขยายระยะเวลาการดำเนินการต่อคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติได้ตามเหตุผล ความจำเป็น
แต่ไม่เกินหนึ่งร้อยแปดสิบวัน ตามที่สำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติเสนอ รวมทั้งให้คณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาแก้ไขปัญหาข้อเรียกร้อง
หรือให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบให้รวดเร็ว เหมาะสมตามแต่กรณี
โดยดำเนินการให้ถูกต้อง เป็นไปตามกฎหมายและมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด
ทั้งนี้ การคุ้มครองและรับรองการดำเนินการของคณะกรรมการ คณะอนุกรรมการ คณะทำงาน
และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่
พ.ศ. ๒๕๓๙ ตามความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา |
||||||||||||||||||||||||||||||
6924 | ขอความเห็นชอบผลการเจรจาและเห็นชอบร่างสัญญาร่วมลงทุนโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว | มท. | 08/02/2565 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีพิจารณาเห็นว่า
ที่ผ่านมากระทรวงคมนาคมได้มีหนังสือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมจากกระทรวงมหาดไทย
(กรุงเทพมหานคร) มาอย่างต่อเนื่องหลายครั้ง ซึ่งกระทรวงมหาดไทย (กรุงเทพมหานคร) ก็ได้ตอบชี้แจงกระทรวงคมนาคมไปแล้ว
อย่างไรก็ตาม ในครั้งนี้ กระทรวงคมนาคมได้มีหนังสือเป็นครั้งที่ ๑๑ ตามหนังสือกระทรวงคมนาคม
ด่วนที่สุด ที่ คค (ปคร) ๐๒๐๘/๒๘ ลงวันที่ ๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๕ ยืนยันว่าไม่เห็นด้วยกับการดำเนินงานของกรุงเทพมหานคร
เนื่องจากข้อมูลที่กรุงเทพมหานครจัดทำเพิ่มเติมนั้นไม่มีการเปลี่ยนแปลงในข้อเท็จจริงที่ทำให้การวิเคราะห์ของกระทรวงคมนาคมแตกต่างไปจากเดิม
โดยเฉพาะในประเด็นของการคำนวณอัตราค่าโดยสาร การรองรับระบบตั๋วร่วม
และความชัดเจนของประเด็นข้อกฎหมาย
รวมทั้งยังมีความไม่ชัดเจนเกี่ยวกับแนวทางการติดตั้งสะพานเหล็ก ๒ แห่ง และรายละเอียดค่าใช้จ่ายโครงการช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต
ด้วย ดังนั้น
เพื่อให้การพิจารณาเรื่องที่กระทรวงมหาดไทยเสนอในครั้งนี้เป็นไปอย่างถูกต้องตามกฎหมายและหลักการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี
รอบคอบ และเป็นประโยชน์สูงสุดต่อประเทศชาติและประชาชน
โดยคำนึงถึงภาระการเงินของรัฐที่อาจต้องรับผิดชอบต่อไป
คณะรัฐมนตรีจึงมีมติมอบหมายให้กระทรวงมหาดไทย (กรุงเทพมหานคร)
รับความเห็นของกระทรวงคมนาคม ไปพิจารณาจัดทำข้อมูลข้อเท็จจริงในประเด็นต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องให้ชัดเจนครบถ้วน
แล้วนำเรื่องนี้พร้อมข้อมูลดังกล่าวเสนอคณะรัฐมนตรีอีกครั้งหนึ่งโดยด่วน
|
||||||||||||||||||||||||||||||
6925 | แจ้งคำสั่งศาลปกครองสูงสุดให้จำหน่ายคดีออกจากสารบบความ ในคดีหมายเลขดำที่ อ.775/2558 คดีหมายเลขดำที่ อ.780/2558 คดีหมายเลขดำที่ อ.781/2558 ระหว่าง นางสาวงามชื่น คูอมรพัฒนะ กับพวกรวม 30 คน ผู้ฟ้องคดี บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) กับพวกรวม 6 คน ผู้ถูกฟ้องคดี เรื่อง ขอให้ศาลพิพากษาหรือมีคำสั่งให้ระงับการให้บริการการขึ้น - ลงของเครื่องบินทุกประเภท และขอให้ศาลพิพากษาให้ดำเนินการเพื่อประกาศให้สนามบินสุวรรณภูมิเป็นแหล่งกำเนิดมลพิษ และการกำหนดมาตรฐานควบคุมมลพิษจากแหล่งกำเนิดดังกล่าว รวมทั้งร่วมกันชำระค่าเสียหายทางละเมิด | อส. | 01/02/2565 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบทราบคำสั่งศาลปกครองสูงสุดในคดีหมายเลขดำที่
อ. ๗๗๕/๒๕๕๘ คดีหมายเลขดำที่ อ. ๗๘๐/๒๕๕๘ และคดีหมายเลขดำที่ อ. ๗๘๑/๒๕๕๘ ระหว่าง
นางสาวงามชื่น คูอมรพัฒนะ กับพวกรวม ๓๐ คน ผู้ฟ้องคดีบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด
(มหาชน) กับพวกรวม ๖ คน ผู้ถูกฟ้องคดี (คณะรัฐมนตรี ผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๖)
ซึ่งศาลปกครองสูงสุดได้มีคำสั่งให้จำหน่ายคดีออกจากสารบบความ ตามที่
สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||
6926 | ผลการประชุมใหญ่สหภาพสากลไปรษณีย์ สมัยที่ 27 | ดศ. | 01/02/2565 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการประชุมใหญ่สหภาพสากลไปรษณีย์ (Universal Postal Union : UPU) สมัยที่ ๒๗ เมื่อวันที่ ๙-๒๗ สิงหาคม ๒๕๖๔ ณ กรุงอาบีจาน สาธารณรัฐโกตดิวัวร์
ผ่านระบการประชุมทางไกล สรุปได้ ดังนี้ (๑) การประชุมเต็มคณะ มีมติเรื่องที่สำคัญ
เช่น การแก้ไขกฎในการเข้าร่วมประชุมใหญ่ UPU เป็นระบบทางไกลและลงมติผ่านการลงคะแนน e-Voting
ผลการเลือกตั้งตำแหน่งต่าง ๆ และการพิจารณาข้อเสนอการแก้ไข/เพิ่มเติมรายละเอียดในเอกสารสำคัญต่าง
ๆ (๒) การประชุมคณะกรรมการภายใต้ UPU จำนวน ๖ คณะ มีมติเรื่องที่สำคัญ เช่น
การแต่งตั้งคณะผู้ทำการแทนของประเทศสมาชิก ๔๕ ประเทศ แผนยุทธศาสตร์อาบีจาน ๔ ปี
รายงานการเงินและงบประมาณประจำปีของ UPU นโยบายทั่วไปและการบริหารจัดการ UPU
และการกำหนดระเบียบปฏิบัติที่เกี่ยวข้องกับการให้บริการไปรษณีย์ระหว่างประเทศ
ตามที่กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||
6927 | ผลการประชุม United Nations Global Sustainable Transport Conference ครั้งที่ 2 | คค. | 01/02/2565 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการประชุม United Nations Global Sustainable Transport Conference ครั้งที่ ๒ เมื่อวันที่ ๑๔–๑๖ ตุลาคม ๒๕๖๔ ณ กรุงปักกิ่ง
สาธารณรัฐประชาชนจีน ผ่านระบบการประชุมทางไกล
โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมเป็นหัวหน้าคณะผู้แทนไทย เข้าร่วมประชุม
สรุปสาระสำคัญได้ ดังนี้ (๑) ภาพรวมการประชุม องค์การสหประชาชาติ (United
Nations : UN) ร่วมกับจีนจัดการประชุมฯ
เพื่อหารือและแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นในการพัฒนาการขนส่งที่ยั่งยืนซึ่งเป็นหนึ่งในเสาหลักที่สำคัญในวาระการพัฒนาที่ยั่งยืน
ค.ศ. ๒๐๓๐ ของ UN และได้กำหนดมาตรการเชื่อมโยงระหว่างเป้าหมายของประเทศ
การพัฒนาที่ยั่งยืน และความตกลงปารีส (๒) ประธานาธิบดีสาธารณรัฐประชาชนจีนและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมจีน
ได้กล่าวถ้อยแถลงโดยเน้นย้ำความมุ่งมั่นที่จะมุ่งสู่การพัฒนาระบบการขนส่งที่ยั่งยืน
โดยเฉพาะการฟื้นฟูจากสถานการณ์โควิด-๑๙ (๓) ประเด็นหารือที่สำคัญ เช่น ๑)
วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรมสำหรับการขนส่งที่ยั่งยืน ๒)
การขนส่งที่ยั่งยืนและพัฒนาระดับภูมิภาค ๓)
บทบาทของภาคธุรกิจในการพัฒนาการขนส่งที่ยั่งยืน และ ๔)
การขนส่งที่ยั่งยืนและการพัฒนาสีเขียว การแก้ไข การปรับตัว
และความทนทานต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และ (๔)
การนำเสนอร่างแถลงการณ์ปักกิ่งซึ่งเน้นย้ำความสำคัญของการขนส่งที่ยั่งยืนที่สามารถเข้าถึงได้
การเพิ่มความปลอดภัย และการนำไปสู่การบรรลุการเปลี่ยนแปลงด้านการขนส่งอย่างยั่งยืน
ซึ่งร่างแถลงการณ์ปักกิ่งเป็นเอกสารที่ไม่มีการเปิดให้เจรจา
โดยจะมีการนำเสนอเอกสารดังกล่าวในที่ประชุมสมัชชา UN ต่อไป ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||
6928 | ผลการประชุมรัฐภาคีอนุสัญญามินามาตะว่าด้วยปรอท สมัยที่ 4 ในรูปแบบออนไลน์ | ทส. | 01/02/2565 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการประชุมรัฐภาคีอนุสัญญามินามาตะว่าด้วยปรอท
สมัยที่ ๔ ในรูปแบบออนไลน์ ระหว่างวันที่ ๑-๕ พฤศจิกายน ๒๕๖๔
ซึ่งสาธารณรัฐอินโดนีเซียเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม โดยมีอธิบดีกรมควบคุมมลพิษ
เป็นหัวหน้าคณะผู้แทนไทยและผู้แทนส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมการประชุมฯ
สรุปสาระสำคัญได้ ดังนี้ (๑) สาระสำคัญที่ผ่านการรับรองในการประชุมฯ รูปแบบออนไลน์
ได้แก่ การกำหนดการประชุมรัฐภาคีอนุสัญญามินามาตะฯ สมัยที่ ๔
ในรูปแบบการประชุมด้วยตนเอง ระหว่างวันที่ ๒๑-๒๕ มีนาคม ๒๕๖๕ ณ เมืองบาหลี
อินโดนีเซีย การเห็นชอบแผนงานและงบประมาณของสำนักเลขาธิการของอนุสัญญามินามาตะฯ
เฉพาะปี ค.ศ. ๒๐๒๒ โดยไทยต้องจ่ายค่าภาคีประจำปี พ.ศ. ๒๕๖๕ เข้าสู่กองทุน General trust fund จำนวน ๘,๘๖๒ ดอลลาร์สหรัฐ ทั้งนี้ ในส่วนของแผนงานและงบประมาณของสำนักเลขาธิการฯ
ปี ค.ศ. ๒๐๒๓ ยังไม่ได้ข้อสรุปและจะนำไปหารือในการประชุมฯ
ในรูปแบบการประชุมด้วยตนเองต่อไป (๒)
สาระสำคัญที่มีความก้าวหน้าและจะนำไปหารือต่อในการประชุมฯ
ในรูปแบบการประชุมด้วยตนเอง ได้แก่
กรอบการดำเนินงานสำหรับการประเมินความมีประสิทธิผลของอนุสัญญามินามาตะฯ
และร่างคำแนะนำสำหรับการกรอกรายการระดับชาติที่ช่วยสนับสนุนการจัดทำรายงานระดับชาติฉบับสมบูรณ์
รวมถึงการสนับสนุนงบประมาณของกองทุนสิ่งแวดล้อมโลก เกี่ยวกับการแก้ไขปัญหามลพิษด้านสารเคมีของกองทุนสิ่งแวดล้อมโลก
ในรอบที่ ๘ ระหว่างวันที่ ๑ กรกฎาคม ๒๕๖๕-๓๐ มิถุนายน ๒๕๖๙ (๓)
อินโดนีเซียจะนำเสนอปฏิญญาบาหลีว่าด้วยการต่อต้านการค้าปรอทอย่างผิดกฎหมายทั่วโลก
ในการประชุมฯ ในรูปแบบการประชุมด้วยตนเอง ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||
6929 | แนวทางการแก้ไขปัญหาของขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (ขปส.) จำนวน 15 กรณีปัญหา | นร.01 | 01/02/2565 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. รับทราบแนวทางการแก้ไขปัญหาของขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม
(ขปส.) จำนวน ๑๕ กรณีปัญหา ซึ่งประเด็นปัญหาส่วนใหญ่ได้มีการนำเสนอต่อที่ประชุมคณะอนุกรรมการ
และคณะทำงาน ภายใต้คณะกรรมการแก้ไขปัญหาของขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม
เพื่อพิจารณาแนวทางการแก้ไขปัญหาในเบื้องต้นแล้ว โดยมีหลายกรณีเป็นเรื่องที่ต้อง พิจารณาดำเนินการในระดับ
นโยบาย ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องพิจารณาให้ความเห็นชอบประกอบการนำเสนอแนวทางการแก้ไขปัญหาตามหน้าที่และอำนาจ
โดยละเอียดรอบคอบและเป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบ หรือมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง ซึ่งการแก้ไขปัญหาดังกล่าวมีความจำเป็นต้องใช้ระยะเวลาในการรวบรวม
ข้อมูล ข้อเท็จจริงในการแก้ปัญหา
ยังมีอีกหลายกรณีปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนที่อยู่ระหว่างดำเนินการแก้ไขปัญหาของส่วนราชการที่เกี่ยวข้องโดยประเด็นปัญหาความเดือดร้อนของขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรมส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องที่อยู่อาศัยและที่ดินทำกินมีจำนวนที่สูงขึ้น
และนำไปสู่ปัญหาความเหลื่อมล้ำในสังคมไทย
เพื่อเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน
และกำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งรัดดำเนินการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนให้เป็นไปอย่างต่อเนื่องด้วยความเรียบร้อย
และมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาความเดือนร้อนของประชาชนอย่างต่อเนื่องตามหน้าที่และอำนาจต่อไป
ตามที่คณะกรรมการแก้ไขปัญหาของขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรมเสนอ ๒.
ให้คณะกรรมการแก้ไขปัญหาของขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรมได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี)
ในการเสนอเรื่องนี้
|
||||||||||||||||||||||||||||||
6930 | ผลการประชุมระดับรัฐมนตรีอาเซียนด้านการพัฒนาชนบทและขจัดความยากจน ครั้งที่ 12 (The 12th ASEAN Ministers Meeting on Rural Development and Poverty Eradication) และการประชุมอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง | มท. | 01/02/2565 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. รับทราบผลการประชุมระดับรัฐมนตรีอาเซียนด้านการพัฒนาชนบทและขจัดความยากจนครั้งที่
๑๒ (The 12th ASEAN Ministers Meeting on
Rural Development and Poverty Eradication : การประชุม AMRDPE
ครั้งที่ ๑๒) และการประชุมอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง และเห็นชอบต่อเอกสารผลลัพธ์ของการประชุมฯ
ประกอบด้วย (๑)
รายงานของประธานเจ้าหน้าที่อาวุโสอาเซียนด้านการพัฒนาชนบทและขจัดความยากจนเสนอต่อการประชุม
AMRDPE ครั้งที่ ๑๒ และ (๒) แถลงการณ์ร่วมสำหรับการประชุม AMRDPE ครั้งที่ ๑๒ และมอบหมายให้กระทรวงมหาดไทยนำผลการประชุมฯ
ไปปฏิบัติเพื่อติดตามความคืบหน้าต่อไป ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ ๒.
ในการดำเนินการจัดทำเอกสารใด ๆ
ที่เกี่ยวข้องกับต่างประเทศหรือองค์การระหว่างประเทศในครั้งต่อไปที่ต้องนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาให้ความเห็นชอบก่อนดำเนินการต่อไป
ให้กระทรวงมหาดไทยถือปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๔๕ (เรื่อง
การทำความตกลงกับต่างประเทศ การทำอนุสัญญา และสนธิสัญญาต่าง ๆ) และวันที่ ๓๐
มิถุนายน ๒๕๕๘ (เรื่อง
การจัดทำหนังสือสัญญาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรือองค์การระหว่างประเทศ)
อย่างเคร่งครัด |
||||||||||||||||||||||||||||||
6931 | ขอถอนร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน ในท้องที่ตำบลบางชะนี และตำบลไทรน้อย อำเภอบางบาล จังหวัดพระนครศรีอยุธยา พ.ศ. .... | กษ. | 01/02/2565 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ถอนร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน
ในท้องที่ตำบลบางชะนี และตำบลไทรน้อย อำเภอบางบาล จังหวัดพระนครศรีอยุธยา พ.ศ.
.... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว
ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||
6932 | ร่างกฎกระทรวงออกตามความในมาตรา 9 ถึงมาตรา 9/6 แห่งพระราชบัญญัติโรงงาน พ.ศ. 2535 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติโรงงาน (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2562 จำนวน 3 ฉบับ | อก. | 01/02/2565 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงดังกล่าว
จำนวน ๓ ฉบับ ดังนี้ ๑. ร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์
วิธีการ และเงื่อนไขการขอรับและการออกใบอนุญาตตรวจสอบหรือรับรอง
การขอต่ออายุและการอนุญาตให้ต่ออายุใบอนุญาตตรวจสอบหรือรับรอง การขอรับและการออกใบแทนใบอนุญาตตรวจสอบหรือรับรอง
พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดรายละเอียดของขั้นตอน ระยะเวลา
และวิธีการเพื่อดำเนินการในการขอรับและการออกใบอนุญาตตรวจสอบหรือรับรอง การต่ออายุ
และการออกใบแทนใบอนุญาตของผู้ได้รับอนุญาตตรวจสอบหรือรับรอง โดยดำเนินการผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ของกระทรวงอุตสาหกรรม ๒ ร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ
และเงื่อนไขการออกหนังสือเตือน การสั่งพักใช้ และการเพิกถอนใบอนุญาตตรวจสอบหรือรับรอง
พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดรายละเอียดของขั้นตอน ระยะเวลา
และวิธีการดำเนินการ เพื่อประกอบการปฏิบัติหน้าที่ของพนักงานเจ้าหน้าที่ในการออกหนังสือเตือนผู้ตรวจสอบเอกชน
และการออกคำสั่งพักใช้และเพิกถอนใบอนุญาตตรวจสอบหรือรับรอง ๓. ร่างกฎกระทรวงกำหนดวิธีการตรวจสอบ
กำหนดเวลาในการตรวจสอบ และการจัดทำรายงานผลการตรวจสอบแทนการปฏิบัติหน้าที่ของพนักงานเจ้าหน้าที่
พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดรายละเอียดกรอบวิธีการและระยะเวลาในการตรวจสอบโรงงานหรือเครื่องจักรหรือดำเนินการอื่นใดที่เกี่ยวข้องแทนการปฏิบัติหน้าที่ของพนักงานเจ้าหน้าที่
และการจัดทำรายงานผลการตรวจสอบเพื่อประกอบการพิจารณาของพนักงานเจ้าหน้าที่ ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ
และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้รับความเห็นของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
โดยมีข้อสังเกตต่อร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ
และเงื่อนไขการออกหนังสือเตือน การสั่งพักใช้
และการเพิกถอนในอนุญาตตรวจสอบหรือรับรอง พ.ศ. .... ข้อ ๔.
เกี่ยวกับการส่งหนังสือเตือน และข้อ ๕
“ระยะเวลาที่กำหนดให้ต้องปฏิบัติที่ระบุไว้ในหนังสือเตือนอาจมีการขยายอีกได้” ไปประกอบการพิจารณาด้วย
แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||
6933 | สรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร (วันพฤหัสบดีที่ 27 มกราคม 2565) | ปสส. | 01/02/2565 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร
วันพฤหัสบดีที่ ๒๗ มกราคม ๒๕๖๕ ซึ่งพิจารณาระเบียบวาระการประชุมสภาผู้แทนราษฎร
ชุดที่ ๒๕ ปีที่ ๓ ครั้งที่ ๒๗ (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่สอง) วันพุธที่ ๒ กุมภาพันธ์
๒๕๖๕ พิจารณาระเบียบวาระการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ ๒๕ ปีที่ ๓ ครั้งที่ ๒๘
(สมัยสามัญประจำปีครั้งที่สอง) วันพฤหัสบดีที่ ๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๕ และพิจารณาระเบียบวาระการประชุมสภาผู้แทนราษฎร
ชุดที่ ๒๕ ปีที่ ๓ ครั้งที่ ๒๙ (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่สอง) เป็นพิเศษ วันศุกร์ที่
๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๕ ตามที่ฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||
6934 | การเสนอความเห็นการขอยุบเลิกทุนหมุนเวียนของคณะกรรมการนโยบายการบริหารทุนหมุนเวียน | กค. | 01/02/2565 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติการขอยุบเลิกกองทุนพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของรัฐ
ของกรมธนารักษ์ พร้อมข้อเท็จจริงและความเห็น เนื่องจากกองทุนฯ
ไม่สามารถดำเนินงานได้ตามวัตถุประสงค์ในการจัดตั้งตามที่กำหนดไว้ ตามที่คณะกรรมการนโยบายการบริหารทุนหมุนเวียนเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||
6935 | ขออนุมัติจ่ายเงินค่าทดแทนให้แก่ราษฎรที่ได้รับผลกระทบจากโครงการฝายหัวนา | กษ. | 01/02/2565 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
ดังนี้ ๑. อนุมัติจ่ายเงินค่าทดแทนที่ดินไม่มีเอกสารสิทธิ
จำนวน ๓๕๐ แปลง เนื้อที่ ๗๗๐-๑-๕๙ ไร่ในอัตราไร่ละ ๔๕,๐๐๐
บาท เป็นเงิน ๓๔.๖๗ ล้านบาท ให้แก่ราษฎรที่ได้รับผลกระทบจากโครงการฝายหัวนา จังหวัดศรีสะเกษ
ที่ผ่านการตรวจสอบและเห็นชอบโดยคณะอนุกรรมการทั้ง ๒ คณะ (คณะอนุกรรมการแก้ไขปัญหาโครงการฝายหัวนา จังหวัดศรีสะเกษ
และคณะอนุกรรมการแก้ไขปัญหาโครงการฝายหัวนา จังหวัดศรีสะเกษ
เฉพาะกลุ่มโนนสัง กลุ่มราษีไศล และกลุ่มกำนันผู้ใหญ่บ้าน) โดยในส่วนของงบประมาณ กรมชลประทานจะปรับแผนปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๕ มาดำเนินการในเรื่องดังกล่าว และอนุมัติแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบและกำกับดูแลการจ่ายเงินค่าทดแทน
จังหวัดศรีสะเกษ เพื่อทำหน้าที่กำกับดูแลการจ่ายเงินและจำนวนเงินค่าทดแทนให้ถูกต้องครบถ้วนตรงตามบัญชีรายละเอียดผลการตรวจสอบร่องรอยการทำประโยชน์ที่ดินที่ได้รับผลกระทบจากโครงการฝายหัวนา
อำเภอเมืองศรีสะเกษ อำเภอกันทรารมย์ และอำเภอราษีไศล จังหวัดศรีสะเกษ รวม ๒๑ ราย
โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ เป็นประธาน
เพื่อกำกับการจ่ายเงินและจำนวนเงินค่าทดแทนให้ถูกต้องครบถ้วน ตามที่คณะกรรมการแก้ไขปัญหาโครงการฝายหัวนาเสนอ และให้คณะกรรมการแก้ไขปัญหาโครงการฝายหัวนาและกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
(กรมชลประทาน) รับความเห็นของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สำนักงบประมาณ
และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
รวมทั้งข้อสังเกตของสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีและสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา เช่น
กรมชลประทานควรเร่งรัดดำเนินการจ่ายค่าทดแทน
กำหนดแผนงานและกรอบระยะเวลาสำหรับการสำรวจพื้นที่และบุคคลที่ได้รับผลกระทบให้มีความชัดเจน
เพื่อให้ทราบงบประมาณที่ต้องนำมาใช้ในการจ่ายค่าทดแทนที่แน่นอน
และให้กรมชลประทานปรับแผนการใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ ๒๕๖๕
แล้วขอทำความตกลงกับสำนักงบประมาณต่อไป เป็นต้น ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย ๒. ให้คณะกรรมการแก้ไขปัญหาโครงการฝายหัวนาเร่งรัดสำรวจพื้นที่และจำนวนราษฎรที่ได้รับผลกระทบจากโครงการฝายหัวนาทั้งหมด
เพื่อให้สามารถจ่ายเงินค่าทดแทนให้แก่ราษฎรได้ถูกต้องครบถ้วนโดยเร็วต่อไป ๓. ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
(กรมชลประทาน)
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งรัดการกำหนดหลักเกณฑ์กลางในการให้ความช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากโครงการชลประทานของรัฐในกรณีต่าง
ๆ ตามนัยมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๘ พฤษภาคม ๒๕๖๔ (เรื่อง
ขออนุมัติจ่ายเงินค่าทดแทนให้แก่ราษฎรที่ได้รับผลกระทบจากโครงการฝายหัวนา)
ให้แล้วเสร็จและนำเสนอคณะรัฐมนตรีโดยเร็วต่อไป |
||||||||||||||||||||||||||||||
6936 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ ระยะเวลา และอัตราการจ่ายประโยชน์ทดแทนในกรณีชราภาพ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | รง. | 01/02/2565 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์
วิธีการ ระยะเวลา และอัตราการจ่ายประโยชน์ทดแทนกรณีชราภาพ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....
มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ ระยะเวลา
และอัตราการจ่ายประโยชน์ทดแทนในกรณีชราภาพ พ.ศ. ๒๕๕๐ โดยแก้ไขเพิ่มเติมหลักเกณฑ์การจ่ายประโยชน์ทดแทนในกรณีชราภาพ
เพื่อเป็นหลักประกันกับผู้รับบำเหน็จชราภาพ
ในกรณีผู้รับเงินบำนาญชราภาพเสียชีวิตภายใน ๖๐
เดือนนับแต่เดือนที่มีสิทธิรับเงินบำนาญชราภาพ ให้ได้รับเงินบำเหน็จชราภาพมากขึ้น ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ
และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒.
ให้กระทรวงแรงงานรับความเห็นของกระทรวงการคลังและสำนักงบประมาณ ที่ควรคำนึงถึงความคุ้มค่า
ต้นทุน และผลประโยชน์ เสถียรภาพและความมั่นคงทางเศรษฐกิจและสังคม
ตลอดจนความยั่งยืนทางการคลังของรัฐ และควรสร้างการรับรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับประโยชน์ที่ผู้ประกันตนจะได้รับ
คำนึงถึงความเสี่ยงและความเสียหายที่จะเกิดขึ้นอย่างรอบคอบ
รวมถึงภาระการเงินการคลังที่อาจเกิดขึ้นแก่รัฐในอนาคต
ตามนัยพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. ๒๕๖๑ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||
6937 | ร่างพระราชบัญญัติที่คณะรัฐมนตรีขอรับมาพิจารณาก่อนรับหลักการ [ร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....] | สผ. | 01/02/2565 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. รับทราบข้อสังเกตและผลการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติที่คณะรัฐมนตรีขอรับมาพิจารณาก่อนรับหลักการ
[ร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา
(ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ซึ่งนายวิรัช พันธุมะผล สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร กับคณะ
เป็นผู้เสนอ] มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาเกี่ยวกับสิทธิการประกันตัวผู้ต้องหา
เพื่อคุ้มครองเสรีภาพของผู้ต้องหาหรือจำเลยในคดีอาญาที่ไม่ใช่คดีอุกฉกรรจ์ให้ได้รับการประกันตัวด้วยตนเองโดยไม่ต้องมีหลักทรัพย์ในการประกันตัว
ตามที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเสนอ ๒.
ให้ส่งคืนร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา
(ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (นายวิรัช พันธุมะผล กับคณะ เป็นผู้เสนอ)
ที่คณะรัฐมนตรีขอรับมาพิจารณาก่อนรับหลักการไปยังสภาผู้แทนราษฎรภายในกำหนดเวลา
พร้อมแจ้งข้อสังเกตดังกล่าวไปเพื่อประกอบการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||
6938 | ขอถอนร่างพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการฝ่ายอัยการ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | อส. | 01/02/2565 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้สำนักงานอัยการสูงสุดถอนร่างพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการฝ่ายอัยการ
(ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ที่อยู่ระหว่างการตรวจพิจารณาของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตามที่เสนอได้
และแจ้งให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาทราบต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||
6939 | โครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2565 | กค. | 01/02/2565 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีเห็นชอบการดำเนินโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ปี
๒๕๖๕ และร่างประกาศคณะกรรมการประชารัฐสวัสดิการเพื่อเศรษฐกิจฐานรากและสังคม เรื่อง
หลักเกณฑ์และวิธีการประเมินผลการดำเนินงานและความคุ้มค่าในการจัดประชารัฐสวัสดิการ
มีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มความแม่นยำในการระบุตัวผู้มีรายได้น้อย
และมีข้อมูลเป็นปัจจุบัน
ตลอดจนเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดสรรสวัสดิการสังคมของภาครัฐ โดยมอบหมายให้คณะกรรมการประชารัฐสวัสดิการเพื่อเศรษฐกิจฐานรากและสังคม
เป็นหน่วยงานหลักในการรับผิดชอบกำหนดหลักเกณฑ์รายละเอียดที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินโครงการฯ
ได้แก่ การกำหนดแบบฟอร์มการลงทะเบียน การจัดทำข้อตกลงความร่วมมือ
ข้อบังคับที่เกี่ยวกับการดำเนินโครงการฯ การกำหนดวัน เวลา ในการตรวจสอบคุณสมบัติ
หรือกำหนดหน่วยตรวจสอบคุณสมบัติเพิ่มเติม การกำหนดระยะเวลาต่าง ๆ
ในการดำเนินโครงการฯ การประสานความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
และการกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการอื่น ๆ
ที่เกี่ยวข้องเพื่อประโยชน์ในการดำเนินโครงการฯ ตามที่คณะกรรมการประชารัฐสวัสดิการเพื่อเศรษฐกิจฐานรากและสังคมเสนอ และให้คณะกรรมการประชารัฐสวัสดิการเพื่อเศรษฐกิจฐานรากและสังคมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงการอุดมศึกษา
วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม
สำนักงบประมาณและข้อสังเกตของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ที่เห็นว่าควรเพิ่มกระทรวงการอุดมศึกษา
วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม
เป็นหน่วยงานตรวจสอบข้อมูลประกอบการลงทะเบียนของผู้งทะเบียนด้วย คณะกรรมการฯ
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องประชาสัมพันธ์และสร้างความรับรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับโครงการฯ
ให้ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในโอกาสแรก ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย |
||||||||||||||||||||||||||||||
6940 | การจัดการศึกษาที่แตกต่างจากมาตรฐานการอุดมศึกษา (Higher Education Sandbox) | อว. | 01/02/2565 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
ดังนี้ ๑. เห็นชอบในหลักการการมอบอำนาจให้สภานโยบายฯ
ทำหน้าที่พิจารณากลั่นกรองเรื่องการจัดการศึกษาที่แตกต่างจากมาตรฐานการอุดมศึกษา
และมีคำสั่งให้สถาบันอุดมศึกษาหรือส่วนงานในสถาบันอุดมศึกษาจัดการศึกษาที่แตกต่างไปจากมาตรฐานการอุดมศึกษาแทนคณะรัฐมนตรี
โดยให้ถือว่าการอนุมัติและความเห็นชอบดังกล่าวเป็นมติของคณะรัฐมนตรี
และรายงานให้คณะรัฐมนตรีทราบเป็นระยะ ตามนัยมาตรา ๖๙
แห่งพระราชบัญญัติการอุดมศึกษา พ.ศ. ๒๕๖๒ ตามที่สภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์
วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติเสนอ ทั้งนี้
ในกรณีที่เป็นการจัดการศึกษาที่แตกต่างจากมาตรฐานการอุดมศึกษาในเรื่องที่เป็นเชิงนโยบาย
มีความสำคัญสูง มีผลกระทบกับระบบการอุดมศึกษาในภาพรวม
หรือก่อให้เกิดภาระงบประมาณในระยะยาว ให้สภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์
วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาตินำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาอนุมัติ หรือให้ความเห็นชอบเป็นกรณี
ๆ ไป ก่อนดำเนินการต่อไป ๒. ให้สภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์
วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
กระทรวงวัฒนธรรม สำนักงาน ก.พ. สำนักงาน ก.พ.ร.
และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เช่น
ให้ภาคเอกชนเข้ามามีส่วนร่วมในการจัดการเรียนรู้ กำหนดมาตรการส่งเสริมเชิงนโยบายในส่วนของการจัดการศึกษาที่เชื่อมโยงกับภารกิจหน่วยงานของภาครัฐ
เป็นต้น ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย ๓.
ให้กระทรวงศึกษาธิการรับเรื่องนี้ไปพิจารณาและหารือกับกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์
วิจัยและนวัตกรรมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อปรับปรุงการจัดการศึกษาในระดับอาชีวศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการให้เหมาะสมและเป็นไปในทิศทางเดียวกันต่อไป |