ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 339 จากทั้งหมด 6199 หน้า แสดงรายการที่ 6761 - 6780 จากข้อมูลทั้งหมด 123972 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
6761 | การแต่งตั้งประธานกรรมการในคณะกรรมการโรงพยาบาลบ้านแพ้ว (นายพิศิษฐ์ ศรีประเสริฐ) | สธ. | 08/03/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแต่งตั้ง นายพิศิษฐ์ ศรีประเสริฐ เป็นประธานกรรมการในคณะกรรมการโรงพยาบาลบ้านแพ้ว
แทนประธานกรรมการเดิมที่พ้นจากตำแหน่งเนื่องจากลาออก
โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๘
มีนาคม ๒๕๖๕) เป็นต้นไป
และให้ผู้ได้รับแต่งตั้งอยู่ในตำแหน่งเท่ากับวาระที่เหลืออยู่ของผู้ซึ่งได้แต่งตั้งไว้แล้ว
ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
6762 | การแต่งตั้งรองประธานกรรมการและกรรมการอื่นในคณะกรรมการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (1. นายทองเปลว กองจันทร์ ฯลฯ รวม 13 คน) | กค. | 08/03/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้คณะกรรมการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรมีจำนวนเกินสิบเอ็ดคนแต่ไม่เกินสิบห้าคน
ตามมาตรา ๖ วรรคสอง
แห่งพระราชบัญญัติคุณสมบัติมาตรฐานสำหรับกรรมการและพนักงานรัฐวิสาหกิจ พ.ศ. ๒๕๑๘
และที่แก้ไขเพิ่มเติม และแต่งตั้งรองประธานกรรมการและกรรมการอื่นในคณะกรรมการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร
รวม ๑๓ คน เนื่องจากรองประธานกรรมการและกรรมการอื่นเดิมได้ดำรงตำแหน่งครบวาระสามปี โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๘ มีนาคม ๒๕๖๕) เป็นต้นไป ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเสนอ ดังนี้ ๑. นายทองเปลว กองจันทร์ รองประธานกรรมการ ๒. นายจำเริญ โพธิยอด กรรมการ (ผู้แทนกระทรวงการคลัง) ๓. นางภัทรพร วรทรัพย์ กรรมการ
(ผู้แทนกระทรวงการคลัง) ๔. นายเข้มแข็ง ยุติธรรมดำรง กรรมการ
(ผู้แทนกระทรวงเกษตรและสหกรณ์) ๕. นายวิศิษฐ์ ศรีสุวรรณ์ กรรมการ
(ผู้แทนกรมส่งเสริมสหกรณ์) ๖. นายวิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข กรรมการ
(ผู้แทนสำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม) ๗. นายอัมพร แสงมณี กรรมการ
(ผู้แทนธนาคารแห่งประเทศไทย) ๘. นายสุนทร ตาละลักษณ์ กรรมการ
(ผู้แทนสหกรณ์การเกษตรผู้ถือหุ้น) ๙. นางสาวรื่นวดี สุวรรณมงคล กรรมการ ๑๐. นายวิจารย์ สิมาฉายา กรรมการ ๑๑. นางเสาวณีย์ ไทยรุ่งโรจน์ กรรมการ ๑๒. นายจรูญเดช เจนจรัสสกุล กรรมการ ๑๓. นายธนาวัฒน์ สังข์ทอง กรรมการ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
6763 | สรุปผลการประชุมคณะกรรมการยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (กพต.) ครั้งที่ 3/2564 | นร.52 | 01/03/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้
(กพต.) ครั้งที่ ๓/๒๕๖๔ เมื่อวันที่ ๒๘ ตุลาคม ๒๕๖๔ สรุปสาระสำคัญได้ ดังนี้ (๑)
เรื่องเพื่อทราบ (๑ เรื่อง) ได้แก่ การถ่ายโอนภารกิจจ้างวิทยากรสอนภาษาให้แก่กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน
(๒) เรื่องติดตามความก้าวหน้าการดำเนินการตามข้อสั่งการประธาน กพต. (๒ เรื่อง) ได้แก่
๑)
ความคืบหน้าการช่วยเหลือและพัฒนาแรงงานไทยในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้กลุ่มที่เดินทางกลับจากต่างประเทศภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
๒๐๑๙ (โควิด-๑๙) และ ๒) ความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาการระบาดของโรคใบร่วงชนิดใหม่ในยางพาราในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ และ (๓)
เรื่องเพื่อพิจารณา (๘ เรื่อง) ได้แก่
๑) การศึกษาแนวทางการมอบอำนาจให้เลขาธิการ ศอ.บต. ตามมาตรา ๑๘ แห่งพระราชบัญญัติการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้
พ.ศ. ๒๕๕๓ ๒) กรอบการบูรณาการขับเคลื่อนความยากจนและพัฒนาคนทุกช่วงวัยอย่างยั่งยืนตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้
ภายใต้แนวคิดจัดข้าราชการรับผิดชอบครัวเรือนยากจน ๓) โครงการขยายพื้นที่ปลูกไม้เศรษฐกิจและผลไม้เศรษฐกิจ
เพื่อสร้างความยั่งยืนทางด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้
พ.ศ. ๒๕๖๕-๒๕๗๐ ๔) โครงการยกระดับการพัฒนาพื้นที่เมืองต้นแบบเบตง จังหวัดยะลา “Amazean Jungle Trai” ๕) โครงการก่อสร้างกำแพงป้องกันการกัดเซาะบริเวณปากน้ำเทพา
ตำบลปากบาง อำเภอเทพา จังหวัดสงขลา ๖) โครงการนำเรือประมงออกนอกระบบเพื่อการจัดการทรัพยากรทะเลประมงที่ยั่งยืนพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นกรณีเร่งด่วน
เรือชุดที่ ๑ ๗) โครงการพัฒนาศักยภาพด่านศุลกากรชายแดนไทย-มาเลเซีย (๙ ด่าน) เพื่อยกระดับการค้าชายแดนและความร่วมมือในมิติต่าง ๆ และ ๘)
การขอทบทวนมติ กพต. เมื่อวันที่ ๓๑ ตุลาคม ๒๕๖๒ เรื่อง
การพิจารณาให้ความช่วยเหลือด้านการพัฒนาคุณภาพชีวิตอย่างยั่งยืนกรณีครอบครัวนายอัลดุลเลาะอีซอมูซอ
และมติ กพต. เมื่อวันที่ ๖ กรกฎาคม ๒๕๖๓ เรื่อง
การให้ความช่วยเหลือกรณีราษฎรเสียชีวิตจากการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐ ๓ ศพ
บนเทือกเขาตะเว ตำบลบองอ อำเภอระแงะ จังหวัดนราธิวาส ตามที่ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้เสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
6764 | การแต่งตั้งโฆษกกระทรวง รองโฆษกกระทรวง และผู้ช่วยโฆษกกระทรวงมหาดไทย | มท. | 01/03/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบการแต่งตั้งโฆษกกระทรวง รองโฆษกกระทรวง และผู้ช่วยโฆษกกระทรวงมหาดไทย ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ ดังนี้ ๑. นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม เป็นโฆษกกระทรวง ๒. นายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ เป็นรองโฆษกกระทรวง ๓. นายทรงกลด สว่างวงศ์ เป็นผู้ช่วยโฆษกกระทรวง
๔. นายบรรจบ จันทรัตน์ เป็นผู้ช่วยโฆษกกระทรวง
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
6765 | รายงานของผู้สอบบัญชีและรายงานการเงินของสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน | สผผ. | 01/03/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานของผู้สอบบัญชีและรายงานการเงิน
สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๖๔ ของสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน
โดยรายงานดังกล่าวประกอบด้วยงบแสดงฐานะการเงิน และงบแสดงผลการดำเนินการทางการเงิน
ซึ่งสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินได้ตรวจสอบแล้วเห็นว่า
รายงานการเงินดังกล่าวถูกต้องตามที่ควรในสาระสำคัญตามมาตรฐานการบัญชีภาครัฐและนโยบายการบัญชีภาครัฐตามที่กระทรวงการคลังกำหนด
ตามที่สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
6766 | มติคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ครั้งที่ 4/2564 | ทส. | 01/03/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบมติคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ครั้งที่ ๔/๒๕๖๔
เมื่อวันที่ ๑๕ กันยายน ๒๕๖๔ จำนวน ๑๐ เรื่อง
ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ สรุปได้ ดังนี้ ๑. โครงการพัฒนาท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด
ระยะที่ ๓ (ครั้งที่ ๑) ของการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ๒. โครงการโรงไฟฟ้าแม่เมาะทดแทน
เครื่องที่ ๘-๙ ของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ๓. โครงการโรงไฟฟ้าสุราษฎร์ธานี
ชุดที่ ๑-๒ ของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ๔. โครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองแนวใหม่
สายอำเภอหาดใหญ่-ชายแดนไทย-มาเลเซีย ของกรมทางหลวง ๕. โครงการอ่างเก็บน้ำน้ำญวน
จังหวัดพะเยา ของกรมชลประทาน ๖. โครงการเพิ่มปริมาณน้ำต้นทุนในเขื่อนภูมิพล
แนวส่งน้ำยวม-อ่างเก็บน้ำเขื่อนภูมิพล ของกรมชลประทาน ๗.
ร่างมาตรการและแนวทางในการแก้ไขปัญหาการบริหารจัดการขยะมูลฝอยบนเกาะ ๘. สถานการณ์เกิดเหตุเพลิงไม้
กรณีโรงงานผลิตเม็ดโฟมและพลาสติก บริษัท มิงตี้ เคมีคอล จำกัด จังหวัดสมุทรปราการ ๙. การปรับปรุงค่ามาตรฐานก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์และก๊าซไฮโดรคาร์บอนจากไอเสียรถยนต์ใช้งานขนาดเล็ก ๑๐. การกำหนดมาตรฐานควบคุมการระบายน้ำทิ้งจากสถานประกอบการขนาดเล็กที่ผลิตสินค้าหรือให้บริการบางประเภท
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
6767 | รายงานของผู้สอบบัญชีและรายงานการเงินประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 ของสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ | ศร. | 01/03/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานของผู้สอบบัญชีและรายงานการเงิน
สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๖๔ ของสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ
โดยรายงานดังกล่าวประกอบด้วยงบแสดงฐานะการเงิน และงบแสดงผลการดำเนินการทางการเงิน
ซึ่งสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินได้ตรวจสอบแล้วเห็นว่า
รายงานการเงินดังกล่าวถูกต้องตามที่ควรในสาระสำคัญตามมาตรฐานการบัญชีภาครัฐและนโยบายการบัญชีภาครัฐตามที่กระทรวงการคลังกำหนด
ตามที่สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
6768 | ภาวะเศรษฐกิจไทยไตรมาสที่สี่ของปี 2564 ทั้งปี 2564 และแนวโน้มปี 2565 | นร.11 สศช | 01/03/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบภาวะเศรษฐกิจไทยไตรมาสที่สี่ของปี
๒๕๖๔ ทั้งปี ๒๕๖๕ และแนวโน้มปี ๒๕๖๔ ตามที่สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอ สรุปได้
ดังนี้ ๑. ภาวะเศรษฐกิจไทยไตรมาสที่
๔ ขยายตัวร้อยละ ๑.๙ และภาพรวมทั้งปี ๒๕๖๔ ขยายตัวร้อยละ ๑.๖ ปรับตัวดีขึ้นจากปี
๒๕๖๓ ที่ปรับตัวลดลงร้อยละ ๖.๒ ๒.ด้านค่าใช้จ่าย เช่น การอุปโภคบริโภคภาคเอกชน
ขยายตัวร้อยละ ๐.๓ การใช้จ่ายเพื่อการอุปโภคของรัฐบาล ขยายตัวร้อยละ ๘.๑
และการลงทุนรวมลดลงร้อยละ ๐.๒ ด้านการต่างประเทศ
การส่งสินค้าออกขยายตัวในเกณฑ์สูงร้อยละ ๒๑.๓ และการนำเข้าสินค้าเพิ่มขึ้นร้อยละ
๒๐.๖ เสถียรภาพทางเศรษฐกิจอัตราการว่างงานอยู่ที่ร้อยละ ๑.๖๔
ต่ำกว่าไตรมาสก่อนหน้าซึ่งมีจำนวนร้อยละ ๒.๒๕ ส่วนอัตราเงินเฟ้อเฉลี่ยอยู่ที่ร้อยละ
๒.๔ และหนี้สาธารณะ ณ สิ้นเดือนธันวาคม ๒๕๖๔ คิดเป็นร้อยละ ๕๙.๖ ของ GDP ๓. เศรษฐกิจไทยปี
๒๕๖๔ ขยายตัวร้อยละ ๑.๖ และภาพรวมทั้งปี ๒๕๖๔ GDP อยู่ที่ ๑๖.๒
ล้านล้านบาท และ GDP ต่อหัวของคนไทยเฉลี่ยอยู่ที่ ๒๓๒,๑๗๖ บาทต่อคนต่อปี ๔.
แนวโน้มเศรษฐกิจไทยปี ๒๕๖๕ คาดว่าจะขยายตัวร้อยละ ๓.๕-๔.๕
โดยมีปัจจัยสนับสนุนสำคัญ ประกอบด้วย (๑) การปรับตัวดีขึ้นของอุปสงค์ภายในประเทศ
(๒) การฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยว (๓) การขยายตัวอย่างต่อเนื่องของการส่งออกสินค้า
และ (๔) แรงขับเคลื่อนจากการลงทุนภาครัฐ ๕.
ประเด็นการบริหารเศรษฐกิจในปี ๒๕๖๕
ควรให้ความสำคัญในประเด็นต่าง ๆ เช่น (๑) การป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-๑๙
(๒) การสนับสนุนการฟื้นตัวของภาคธุรกิจควบคู่ไปกับการดูแลภาคเศรษฐกิจ (๓) การรักษาแรงขับเคลื่อนจากการใช้จ่ายภายในประเทศ
และ (๔) การติดตาม
เฝ้าระวังและเตรียมมาตรการรองรับความผันผวนของภาคเศรษฐกิจต่างประเทศ
ตามที่สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
6769 | ผลการประชุมระดับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของการประชุมว่าด้วยการส่งเสริมปฏิสัมพันธ์และมาตรการสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจระหว่างประเทศในภูมิภาคเอเชีย ครั้งที่ 6 | กต. | 01/03/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการประชุมระดับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของการประชุมว่าด้วยการส่งเสริมปฏิสัมพันธ์และมาตรการสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจระหว่างประเทศในภูมิภาคเอเชีย
ครั้งที่ ๖ เมื่อวันที่ ๑๑-๑๒ ตุลาคม ๒๕๖๔ ณ กรุงนูร์-ซุลตัน สาธารณรัฐคาซัคสถาน โดยมีรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศคาซัคสถาน
เป็นประธาน CICA และอนุมัติให้รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศหรือผู้แทนที่ได้รับมอบหมายให้เป็นผู้แทนพิเศษของรองนายกรัฐมนตรี
(นายดอน ปรมัตถ์วินัย) และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศร่วมรับรองร่างเอกสาร
โดยที่ประชุมได้มีการแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นประเด็นต่าง ๆ
รวมถึงประเด็นการรับรองเอกสารผลลัพธ์ของการประชุม
ซึ่งมีเอกสารผลลัพธ์ของการประชุมที่ได้รับรอง จำนวน ๔ ฉบับ
และเอกสารผลลัพธ์ของการประชุมที่ไม่สามารถบรรลุฉันทามติร่วมกันได้ จำนวน ๑ ฉบับ
ซึ่งประธาน CICA
ได้เสนอขอปรับรูปแบบของเอกสารผลลัพธ์การประชุมฯ เป็นถ้อยแถลงของประธาน มีสาระสำคัญ
เช่น ความมั่นคงระหว่างภูมิภาค การคุ้มครองสิทธิมนุษยชน การต่อต้านการก่อการร้าย
และการแพร่ระบาดของโรคโควิด-๑๙ ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
6770 | รายงานความก้าวหน้าโครงการอาคารแสดงประเทศไทย งาน World Expo 2020 Dubai พร้อมวีดิทัศน์ | ดศ. | 01/03/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานความก้าวหน้าโครงการอาคารแสดงประเทศไทย งาน World Expo 2020 Dubai จัดขึ้นระหว่างวันที่
๑ ตุลาคม ๒๕๖๔-๓๑ มีนาคม ๒๕๖๕ ณ เมืองดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดยในช่วง ๓
เดือนแรก (ตุลาคม-ธันวาคม ๒๕๖๔ ) ประเทศไทยได้เปิดอาคารแสดงอย่างเป็นทางการ
เมื่อวันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๖๔ โดยมีรองนายกรัฐมนตรี
(นายดอน ปรมัตถ์วินัย) และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ
เป็นประธานในพิธีเปิด มีการดำเนินกิจกรรมที่สำคัญ เช่น จัดแสดงศิลปวัฒนธรรม ไทย
จัดกิจกรรมตามเทศกาล และกิจกรรมเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ นอกจากนี้ยังเป็นสถานที่รับรองบุคคลสำคัญจากประเทศต่าง
ๆ ทั้งนี้ มีปัญหาและอุปสรรคในการดำเนินการ เช่น สภาพอากาศร้อนในเมืองดูไบ
และมาตรการรักษาระยะห่างจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙
ทำให้มีผู้เข้าชมอาคารแสดงประเทศไทย
งาน World Expo 2020
Dubai น้อยลง ส่วนแผนงานกิจกรรมที่จะดำเนินการในช่วง ๓ เดือนหลัง (เดือนมกราคม-มีนาคม ๒๕๖๕) เช่น
จัดกิจกรรมแสดงเทศกาลดิจิทัลและนวัตกรรม เทศกาลพลังงานและสิ่งแวดล้อม
และเทศกาลแห่งความสุข ตามที่กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
6771 | ผลการพิจารณารายงานการพิจารณาศึกษา เรื่อง ความรุนแรงต่อเด็กในครอบครัว ของคณะกรรมาธิการการพัฒนาสังคม และกิจการเด็ก เยาวชน สตรี ผู้สูงอายุ คนพิการ และผู้ด้อยโอกาส วุฒิสภา | สว. | 01/03/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการพิจารณารายงานการพิจารณาศึกษา เรื่อง
ความรุนแรงต่อเด็กในครอบครัว ของคณะกรรมาธิการการพัฒนาสังคม และกิจการเด็ก เยาวชน
สตรี ผู้สูงอายุ คนพิการ และผู้ด้อยโอกาส วุฒิสภา
ซึ่งกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ได้พิจารณาร่วมกับหนวยงานที่เกี่ยวข้อง
โดยสรุปผลการพิจารณาได้ว่า
กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ได้มีการสำรวจรวบรวมวิเคราะห์ข้อมูลสถานการณ์จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั่วประเทศ
และจัดทำรายงานตามมาตรา ๑๗
แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ถูกกระทำด้วยความรุนแรงในครอบครัว พ.ศ. ๒๕๕๐
เพื่อเสนอต่อคณะรัฐมนตรีและรัฐสภาประจำทุกปี
กรมกิจการเด็กและเยาวชนได้จัดให้แอปพลิเคชัน (Application) “คุ้มครองเด็ก” และเว็ปไซต์ https//cpic.dcy.go.th เพื่อสามารถแจ้งข้อมูลผ่านระบบแจ้งเหตุ
โดยมีเจ้าหน้าที่พร้อมลงพื้นที่ให้ความช่วยเหลือตลอด ๒๔ ชั่วโมง และดำเนินโครงการเสริมสร้างศักยภาพครอบครัวลดความรุนแรงในเด็กร่วมกับจังหวัด
และกลไกสหวิชาชีพในพื้นที่ตามโครงการอบรมเชิงปฏิบัติการ “New Gen Say No-คนรุ่นใหม่ไร้ความรุนแรง” ตามที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เสนอ
และแจ้งให้สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาทราบต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
6772 | สรุปผลการประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) (ศบค.) ครั้งที่ 4/2565 | นร.04 | 01/03/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
2019 (โควิด-19)
(ศบค.) ครั้งที่ ๔/๒๕๖๕ เมื่อวันพุธที่ ๒๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๕
ซึ่งมีผลการประชุมที่สำคัญ ได้แก่ (๑)
รายงานสถานการณ์และแนวโน้มการแพร่ระบาดและผู้ติดเชื้อ (๒)
รายงานมาตรการเปิดเรียนตามปกติในพื้นที่สถานศึกษา (On-Site) อยู่ได้กับโควิดในสถานศึกษา (๓) รายงานการเบิกจ่ายค่ารักษาพยาบาลกรณี UCEP-COVID (๔) การปรับมาตรการป้องกันโรคสำหรับการเดินทางเข้าราชอาณาจักร (๕) แผนการให้บริการวัคซีนโควิด-19 ในเดือนมีนาคม
๒๕๖๕ (๖) รายงานการดำเนินการแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
ของศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 และ (๗)
ข้อสั่งการนายกรัฐมนตรี ตามที่สำนักงานเลขาธิการศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 เสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
6773 | รายงานความคืบหน้าการดำเนินงานของคณะกรรมการติดตามการดำเนินการแก้ไขปัญหา บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ในการประชุมครั้งที่ 2/2564 | กค. | 01/03/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบและเห็นชอบรายงานความคืบหน้าการดำเนินงานของคณะกรรมการติดตามการดำเนินการแก้ไขปัญหา
บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) (บกท) ในการประชุมครั้งที่ ๒/๒๕๖๔ เมื่อวันที่ ๒๗
กันยายน ๒๕๖๔ และมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกับ บกท. เร่งพิจารณาปรับประเด็นการขอรับการสนับสนุนการดำเนินการและฟื้นฟูกิจการของ
บกท. ภายใต้กฎหมายและขอบเขตอำนาจหน้าที่ของแต่ละหน่วยงาน ตลอดจนกฎ ระเบียบต่าง ๆ
ที่เกี่ยวข้อง โดยไม่เกี่ยวกับกระบวนการพิจารณาของศาลให้แล้วเสร็จโดยเร็ว ซึ่งสรุปสาระสำคัญได้
ดังนี้ (๑) บกท.
ได้ดำเนินการตามแผนฟื้นฟูกิจการโดยมีความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาด้วยวิธีการต่าง ๆ
เช่น การลดจำนวนเครื่องบินเก่า การปรับลดค่าใช้จ่ายบุคลากร
การหารายได้จากช่องทางอื่น การวางแผนเครือข่ายเส้นทางบินสู่เมืองสำคัญ
การจำหน่ายทรัพย์สินรอง และการปรับโครงสร้างหนี้ (๒) การขอรับการสนับสนุนจากหน่วยงานภาครัฐประเด็นต่าง
ๆ เช่น ๑) ขอให้บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน)
เร่งดำเนินการตามพระราชบัญญัติการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน พ.ศ. ๒๕๖๒ เพื่อให้
บกท. สามารถเข้ายื่นประมูลได้เร็วที่สุดและจัดเก็บอัตราค่าเช่าพื้นที่ในอัตราที่เหมาะสม
๒) ขอให้สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย พิจารณามาตรการจัดสรรเวลาเข้า-ออก
ของเที่ยวบิน และ (๓) ขอให้กระทรวงคมนาคมอนุญาตให้ บกท.
โอนอากาศยานที่ปลดประจำการแล้ว ตามที่คณะกรรมการติดตามการดำเนินการแก้ไขปัญหา
บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
6774 | รายงานผลการดำเนินการต่อข้อเสนอแนะของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ [รายงานผลการตรวจสอบที่มีข้อเสนอแนะมาตรการหรือแนวทางในการแก้ไขการละเมิดสิทธิมนุษยชน (เรื่อง สิทธิชุมชน กรณีคัดค้านโครงการก่อสร้างทางเลียบแม่น้ำเจ้าพระยา)] | สนง. กสม. | 01/03/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการดำเนินการต่อข้อเสนอแนะของคณะกรรมาธิการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ
[รายงานผลการตรวจสอบที่มีข้อเสนอแนะมาตรการหรือแนวทางในการแก้ไขการละเมิดสิทธิมนุษชน
(เรื่อง สิทธิมนุษยชน กรณีคัดค้านโครงการก่อสร้างทางเลียบแม่น้ำเจ้าพระยา)]
เนื่องจากเรื่องดังกล่าวเป็นคดีที่อยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลปกครองกลาง
ประกอบกับศาลปกครองกลางได้มีคำสั่งเป็นการชั่วคราวห้ามมิให้กรุงเทพมหานครดำเนินโครงการพัฒนาริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา
เฉพาะในส่วนของแผนงานที่ ๑ ไว้เป็นการชั่วคราว
จนกว่าศาลจะมีคำพิพากษาหรือคำสั่งเป็นอย่างอื่น
ซึ่งปัจจุบันกรุงเทพมหานครได้ชะลอการดำเนินการต่าง ๆ
ที่เกี่ยวข้องกับโครงการดังกล่าวไว้แล้ว กระทรวงมหาดไทยได้พิจารณาแล้วเห็นว่า
หากจัดให้มีการประชุมเพื่อพิจารณาข้อเสนอแนะของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติในระหว่างนี้
จะไม่สามารถได้ข้อสรุปผลการพิจารณาหรือกำหนดแนวทางการดำเนินการในระยะต่อไปได้อย่างชัดเจน
และข้อสรุปดังกล่าวอาจไม่เป็นไปตามคำพิพากษาของศาลปกครองกลางหรือศาลปกครองสูงสุด
ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และแจ้งให้คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติทราบต่อไป
ทั้งนี้
เมื่อศาลปกครองกลางหรือศาลปกครองสูงสุดได้มีคำพิพากษาหรือคำสั่งเป็นที่ยุติประการใดแล้ว
ให้กระทรวงมหาดไทยรายงานผลการพิจารณาต่อข้อเสนอแนะฯ
ของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติในเรื่องนี้เสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
6775 | ขอรับความอนุเคราะห์ในการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น | กษ. | 01/03/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. อนุมัติงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น
วงเงินงบประมาณ ๒,๐๐๐,๐๐๐,๐๐๐.๐๐ บาท ให้กองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกรสามารถดำเนินภารกิจในการแก้ไขปัญหาหนี้สินและฟื้นฟูอาชีพเกษตรกรให้กับสมาชิกกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกรได้อย่างต่อเนื่อง
ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ ๒. ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี)
ในการเสนอเรื่องนี้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
6776 | ร่างบันทึกความเข้าใจความร่วมมือในการพัฒนาไฟฟ้าในสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว | พน. | 01/03/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ๑.
เห็นชอบและอนุมัติตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ ดังนี้ ๑.๑
เห็นชอบร่างบันทึกความเข้าใจความร่วมมือในการพัฒนาไฟฟ้าในสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (Memorandum
of Understanding between The Government of the Kingdom of Thailand and The Government of the Lao
People’s Democratic Republic Regarding Cooperation on the Development of
Electrical Energy in the Lao People’s Democratic Republic) มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อขยายความร่วมมือด้านพลังงานไฟฟ้าจากปริมาณกำลังการผลิต
เดิม ๙,๐๐๐ เมกะวัตต์ เป็น ๑๐,๕๐๐ เมกะวัตต์ เพิ่มขึ้น ๑,๕๐๐ เมกะวัตต์ ๑.๒ อนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน
(หรือผู้ได้รับมอบอำนาจจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน) เป็นผู้ลงนามในบันทึกความเข้าใจฯ
ดังกล่าว และขอให้กระทรวงการต่างประเทศออกหนังสือมอบอำนาจเต็ม (Full
Powers) ให้แก่ผู้ลงนาม โดยวิธีการลงนามแบบเสมือนจริง (Virtual
Signing Ceremony) ๒.
หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างบันทึกความเข้าใจฯ
ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้
ให้กระทรวงพลังงานดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง
พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวตามหลักเกณฑ์ของมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การจัดทำหนังสือสัญญาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรือองค์การระหว่างประเทศ)
ต่อไป ๓.
ให้กระทรวงพลังงานรับความเห็นของกระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สำนักงานอัยการสูงสุด
และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เช่น ให้กระทรวงพลังงานดำเนินการการซื้อขายพลังงานไฟฟ้าจาก
สปป.ลาว
ให้เป็นไปอย่างสอดคล้องและเหมาะสมกับแผนการพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศในแต่ละช่วงเวลา
เป็นต้น ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
6777 | ขอความเห็นชอบร่างข้อตกลงด้านแรงงานระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรซาอุดิอาระเบีย | รง. | 01/03/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างข้อตกลงว่าด้วยการจัดหาแรงงานทำงานบ้านระหว่างกระทรวงแรงงานแห่งราชอาณาจักรไทยและกระทรวงทรัพยากรมนุษย์และการพัฒนาสังคมแห่งราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย
และร่างข้อตกลงว่าด้วยการจัดหาแรงงานระหว่างกระทรวงแรงงานแห่งราชอาณาจักรไทยและกระทรวงทรัพยากรมนุษย์และการพัฒนาสังคมแห่งราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย
มีวัตถุประสงค์เพื่อจัดหาแรงงานไปทำงานในประเทศซาอุดีอาระเบียอย่างถูกกฎหมายและปกป้องสิทธิของนายจ้างและแรงงาน
รวมถึงการบังคับใช้กฎระเบียบสัญญาจ้างระหว่างกัน และอนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานหรือผู้แทนที่ได้รับมอบหมายลงนามในร่างข้อตกลงด้านแรงงานฯ
ทั้งสองฉบับ ในนามของผู้แทนไทย โดยมีรัฐมนตรีว่าการทรัพยากรมนุษย์และการพัฒนาสังคมซาอุดีอาระเบียหรือผู้แทนที่ได้รับมอบหมาย
เป็นผู้ลงนามร่วมฝ่ายซาอุดีอาระเบีย และมอบหมายให้กระทรวงการต่างประเทศดำเนินการออกหนังสือมอบอำนาจเต็ม
(Full Powers) ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานหรือผู้แทนที่ได้รับมอบหมาย
ให้ลงนามในข้อตกลงด้านแรงงานฯ ทั้งสองฉบับ ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ
และให้กระทรวงแรงงานรับความเห็นของกระทรวงการต่างประเทศ เช่น
ขอให้ปรับแก้ถ้อยคำเพื่อความถูกต้องเหมาะสมยิ่งขึ้น และปรับแก้ถ้อยคำของร่างความตกลงฯ
ทั้งภาษาไทยและภาษาอารบิกให้สอดคล้องกับร่างภาษาอังกฤษด้วย
ปรับเพิ่มประโยคก่อนการลงนามของความตกลงฯ ทั้งสองฉบับ ดังนี้ “IN WITNESS
WHEREOF the undersigned, being duly authorized thereto by their respective
Governments, have signed this Agreement” ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป
ทั้งนี้
หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างข้อตกลงด้านแรงงานระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย
ทั้ง ๒ ฉบับ
ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้ ให้กระทรวงแรงงานดำเนินการได้
โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง
พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าว
ตามหลักเกณฑ์ของมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๘ (เรื่อง
การจัดทำหนังสือสัญญาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ) ด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
6778 | หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการกำหนดค่าใช้จ่ายในการดำเนินการผู้ป่วยฉุกเฉินโรคติดต่ออันตราย ตามกฎหมายว่าด้วยโรคติดต่อ กรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด 19 [Coronavirus Disease 2019 (COVID-19)] (ฉบับที่ 8) | สธ. | 01/03/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. เห็นชอบหลักเกณฑ์
วิธีการ
และเงื่อนไขการกำหนดค่าใช้จ่ายในการดำเนินการผู้ป่วยฉุกเฉินโรคติดต่ออันตรายตามกฎหมายว่าด้วยโรคติดต่อกรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
2019 หรือโรคโควิด 19 [Coronavirus Disease 2019 (COVID-19)] (ฉบับที่ ๘) โดยมีการปรับอัตราค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลให้สอดคล้องกับสภาวการณ์ปัจจุบัน
เพื่อให้ผู้ป่วยฉุกเฉินที่อยู่ในสภาวะอันตรายได้รับสิทธิที่จำเป็นและเหมาะสมต่อการรักษาพยาบาล
ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ และให้กระทรวงสาธารณสุขดำเนินการให้ถูกต้องเป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย
ระเบียบ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด
รวมทั้งให้รับความเห็นของสำนักงบประมาณและสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
และกำกับ ติดตาม ตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณดังกล่าวให้มีประสิทธิภาพ ตามหลักเกณฑ์
วิธีการ เงื่อนไข อัตราที่กำหนด และสามารถตรวจสอบได้ในทุกขั้นตอน
พร้อมกับดำเนินการให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ค่าใช้จ่ายของกระทรวงการคลังด้วย นอกจากนี้
การปรับลดหลักเกณฑ์ดังกล่าวควรคำนึงถึงคุณภาพการให้บริการเป็นสำคัญ
เพื่อไม่ให้กระทบต่อการรับบริการและการให้ความคุ้มครองการรักษาพยาบาลของประชาชนที่ติดเชื้อไวรัสโคโรนา
2019 ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย ๒.
ให้กระทรวงสาธารณสุขได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔
พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
6779 | ขออนุมัติหลักการก่อสร้างที่ทำการสำนักงาน ป.ป.ช. ส่วนกลาง | ปช. | 01/03/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการก่อสร้างที่ทำการ
สำนักงาน ป.ป.ช. ส่วนกลาง และก่อหนี้ผูกผันข้ามปีงบประมาณตามนัยมาตรา ๔๒ แห่งพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๑ จำนวน ๕๒๔,๑๔๗,๐๐๐ บาท โดยผูกพันระหว่างปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๕-๒๕๖๗ รวมเวลา ๓ ปี ดังนี้ ๑) ปีที่ ๑ (ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๕)
ใช้เงินคงเหลือสะสมสำนักงาน ป.ป.ช. จำนวน ๑๐๔,๘๒๙,๔๐๐ บาท และ ๒) ปีที่ ๒-๓ (ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๖-๒๕๖๗) จำนวน ๔๑๙,๓๑๗,๖๐๐ บาท ให้ผูกพันงบประมาณรายจ่ายประจำปีต่อไป ตามที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติเสนอ
และให้สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติรับความเห็นของกระทรวงการคลัง
กระทรวงมหาดไทย และสำนักงบประมาณ ที่เห็นว่าการกำหนดกรอบการจัดสรรงบประมาณจะต้องคำนึงถึงความสอดคล้องกับหลักเกณฑ์ต่าง
ๆ ที่กำหนดตามพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. ๒๕๖๑ กฎหมาย ระเบียบ
ประกาศและมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องโดยเคร่งครัด ทั้งนี้
การเพิ่มวงเงินค่าก่อสร้างรายการดังกล่าวอยู่ภายใต้กรอบสัดส่วนการก่อหนี้ผูกพันเกินกว่าหรือนอกเหนือไปจากที่กำหนดไว้ในกฎหมายว่าด้วยงบประมาณรายจ่าย
ที่กำหนดว่าต้องไม่เกินร้อยละแปดของบประมาณรายจ่ายประจำปี และต้องปฏิบัติตามกฎหมาย
ระเบียบ ข้องบังคับ มติคณะรัฐมนตรี และหนังสือเวียนที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนมาตรฐานของทางราชการให้ถูกต้องครบถ้วนในทุกขั้นตอน
ไปดำเนินการต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
6780 | ผลการพิจารณาของคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ ในคราวประชุมครั้งที่ 5/2565 | นร.11 สศช | 01/03/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||