ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 862 จากทั้งหมด 6199 หน้า แสดงรายการที่ 17221 - 17240 จากข้อมูลทั้งหมด 123972 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
17221 | การแต่งตั้งโฆษกประจำรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายสุวิทย์ เมษินทรีย์) | นร04 | 25/07/2560 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายชื่อโฆษกประจำรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อทำหน้าที่ในการประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ผลการดำเนินงาน ตามที่รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายออมสิน ชีวะพฤกษ์) และรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายสุวิทย์ เมษินทรีย์) เสนอ ดังนี้
๑. นายคณิต วัลยะเพ็ชร์ กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี เป็นโฆษกประจำรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายออมสิน ชีวะพฤกษ์) ๒. นายนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ ที่ปรึกษาด้านการลงทุน (นักวิเคราะห์นโยบายและแผน ระดับทรงคุณวุฒิ) สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน เป็นโฆษกประจำรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายสุวิทย์ เมษินทรีย์)
|
||||||||||||||||||||||||||||||
17222 | ร่างพระราชบัญญัติส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | อื่นๆ | 25/07/2560 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ วันจันทร์ที่ ๒๔ กรกฎาคม ๒๕๖๐ ซึ่งเห็นควรให้เสนอร่างพระราชบัญญัติส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติเพื่อบรรจุระเบียบวาระเป็นเรื่องด่วน โดยก่อนบรรจุวาระ ให้สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมไปพิจารณาเพิ่มเติมข้อมูลการดำเนินการตามมาตรา ๗๗ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยอีกครั้ง โดยเฉพาะประเด็นดังต่อไปนี้
๑. การรับฟังความเห็นผู้ประกอบวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมเพิ่มเติม ๒. การรายงานการเปิดเผยผลการรับฟังความเห็นและการวิเคราะห์ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อประชาชน โดยให้หารือกับสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีและสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาในฐานะหน่วยงานที่รับผิดชอบตรวจสอบหลักเกณฑ์ในการตรวจสอบความจำเป็นในการตราพระราชบัญญัติ (Checklist)
|
||||||||||||||||||||||||||||||
17223 | ความคืบหน้าการดำเนินงานด้านการปฏิรูปประเทศ ระหว่างวันที่ 18 - 25 กรกฎาคม 2560 | นร | 25/07/2560 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบความคืบหน้าการดำเนินงานด้านการปฏิรูปประเทศ ระหว่างวันที่ ๑๘-๒๕ กรกฎาคม ๒๕๖๐ ตามที่รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายสุวิทย์ เมษินทรีย์) ประธานกรรมการประสานงาน รวม ๓ ฝ่าย (คณะรัฐมนตรี สภานิติบัญญัติแห่งชาติ และสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ) เสนอ ดังนี้
๑. สรุปผลการประชุมสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ ครั้งที่ ๓๐/๒๕๖๐ เมื่อวันอังคารที่ ๑๘ กรกฎาคม ๒๕๖๐ รวม ๓ เรื่อง (เรื่อง การปฏิรูประบบงบประมาณกิจการตำรวจ เพื่อยกระดับความปลอดภัยของประชาชน เรื่อง การใช้ระบบบันทึกภาพและเสียงในการพิจารณาคดีในชั้นศาล และเรื่อง แนวทางการจัดตั้งศาลสิ่งแวดล้อม) ๒. สรุปผลการประชุมสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ ครั้งที่ ๓๑/๒๕๖๐ เป็นพิเศษ ในวันอังคารที่ ๒๕ กรกฎาคม ๒๕๖๐ เป็นครั้งสุดท้าย โดยจะมีการรับรองรายงานการประชุมสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ รวม ๔ ครั้ง ได้แก่ ๒.๑ ครั้งที่ ๒๒/๒๕๖๐ วันจันทร์ที่ ๑๙ มิถุนายน ๒๕๖๐ ๒.๒ ครั้งที่ ๒๓/๒๕๖๐ วันอังคารที่ ๒๐ มิถุนายน ๒๕๖๐ ๒.๓ ครั้งที่ ๒๔/๒๕๖๐ วันจันทร์ที่ ๒๖ มิถุนายน ๒๕๖๐ ๒.๔ ครั้งที่ ๒๕/๒๕๖๐ วันอังคารที่ ๒๗ มิถุนายน ๒๕๖๐ ๓. สรุปสถานะข้อเสนอประเด็นปฏิรูปตามแผนการปฏิรูปของสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (ข้อมูล ณ วันที่ ๒๔ กรกฎาคม ๒๕๖๐) รวม ๑๗๔ เรื่อง
|
||||||||||||||||||||||||||||||
17224 | สรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (วันจันทร์ที่ 24 กรกฎาคม 2560) | นร | 25/07/2560 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ วันจันทร์ที่ ๒๔ กรกฎาคม ๒๕๖๐ ซึ่งพิจารณาระเบียบวาระการประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ครั้งที่ ๔๖/๒๕๖๐ เป็นพิเศษ วันพฤหัสบดีที่ ๒๗ กรกฎาคม ๒๕๖๐ และรับทราบข้อสังเกตของคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ โดยมอบหมายให้รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายสุวิทย์ เมษินทรีย์) รับข้อสังเกตดังกล่าวไปประสานงานกับคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการสภานิติบัญญัติแห่งชาติต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||
17225 | ร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (การเข้าถึงและได้มาซึ่งเอกสารหรือข้อมูลข่าวสารที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด) (สรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ) | นร | 25/07/2560 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ วันจันทร์ที่ ๒๔ กรกฎาคม ๒๕๖๐ ซึ่งเห็นควรพิจารณาดำเนินการ ดังต่อไปนี้
๑. ปรับแก้ไขถ้อยคำอธิบายร่างพระราชบัญญัติ จากเดิม “ร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (ว่าด้วยการให้อำนาจดักรับและเข้าถึงพยานหลักฐานของเจ้าหน้าที่ตำรวจในการสืบสวนสอบสวนคดีอาญา)” แก้ไขเป็น “ร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (การเข้าถึงและได้มาซึ่งเอกสารหรือข้อมูลข่าวสารที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด)” ตามที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว ๒. มอบให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติไปพิจารณาเพิ่มเติมข้อมูลการดำเนินการตามมาตรา ๗๗ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยอีกครั้ง โดยเฉพาะการเพิ่มเติมประเด็น ๒.๑ การรับฟังความเห็นจากองค์กรด้านสิทธิมนุษยชน และองค์กรด้านสื่อสารมวลชน ๒.๒ ข้อมูลรายงานการเปิดเผยผลการรับฟังความเห็นและการวิเคราะห์ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อประชาชน ๒.๓ เพิ่มเติมข้อมูลการเทียบเคียงกับกฎหมายต่างประเทศ โดยให้หารือกับสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีและสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาในฐานะหน่วยงานที่รับผิดชอบตรวจสอบหลักเกณฑ์ในการตรวจสอบความจำเป็นในการตราพระราชบัญญัติ (Checklist) ๓. ให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติจัดทำแผนประชาสัมพันธ์ร่างพระราชบัญญัตินี้ให้ทั่วถึงและสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องต่อประชาชน
|
||||||||||||||||||||||||||||||
17226 | ร่างพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (สรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ) | นร | 25/07/2560 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ วันจันทร์ที่ ๒๔ กรกฎาคม ๒๕๖๐ ซึ่งเห็นควรเสนอแนะคณะรัฐมนตรี ดังนี้
๑. ให้เสนอร่างพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติเพื่อบรรจุระเบียบวาระเป็นเรื่องด่วน โดยก่อนบรรจุวาระ ให้เพิ่มเติมบทเฉพาะกาลในประเด็นการคงอยู่ของกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในร่างพระราชบัญญัตินี้ ตามที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาและกระทรวงการคลังได้พิจารณาร่วมกัน ดังนี้ “มาตรา ๑๔ ให้กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการนโยบายและกำกับการบริหารหนี้สาธารณะ ซึ่งดำรงตำแหน่งอยู่ก่อนวันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ คงอยู่ในตำแหน่งต่อไปจนกว่าจะครบวาระ” ๒. มอบหมายให้กระทรวงการคลังไปพิจารณาเพิ่มเติมข้อมูลการดำเนินการตามมาตรา ๗๗ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยอีกครั้ง โดยเฉพาะประเด็นรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อประชาชน โดยให้หารือกับสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีและสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาในฐานะหน่วยงานที่รับผิดชอบตรวจสอบหลักเกณฑ์ในการตรวจสอบความจำเป็นในการตราพระราชบัญญัติ (Checklist)
|
||||||||||||||||||||||||||||||
17227 | การแก้ไขหรือปรับปรุงกฎหมายว่าด้วยการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว | นร | 25/07/2560 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม) เสนอว่า ตามที่ได้มีคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ ๓๓/๒๕๖๐ เรื่อง มาตรการชั่วคราวเพื่อแก้ไขข้อขัดข้องในการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว โดยกำหนดให้กระทรวงแรงงานดำเนินการแก้ไขหรือปรับปรุงกฎหมายว่าด้วยการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าวเสนอต่อคณะรัฐมนตรี นั้น ได้หารือร่วมกับรองนายกรัฐมนตรี (พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ) และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานแล้ว เห็นว่า การแก้ไขหรือปรับปรุงกฎหมายว่าด้วยการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าวจะต้องพิจารณาโครงสร้างของกฎหมายดังกล่าวทั้งระบบ เพื่อให้การแก้ไขปัญหาในการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าวเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ อันจะสร้างความมั่นคงทางด้านแรงงาน เศรษฐกิจ และสังคมของประเทศ เห็นควรมอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีการับไปพิจารณาดำเนินการแก้ไขหรือปรับปรุงกฎหมายว่าด้วยการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าวและรับฟังความคิดเห็นของผู้ที่เกี่ยวข้อง แล้วเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||
17228 | ข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี | นร | 25/07/2560 | |||||||||||||||||||||||||||
ในคราวประชุมคณะรัฐมนตรี นายกรัฐมนตรีมีข้อสั่งการ ดังนี้
๑. ด้านเศรษฐกิจ ๑.๑ ตามที่นายกรัฐมนตรีได้มีข้อสั่งการให้กระทรวงพลังงานเร่งดำเนินการเกี่ยวกับการนำปาล์มน้ำมันไปใช้ในการผลิตไบโอดีเซลและส่งเสริมให้มีการใช้ไบโอดีเซลให้มากยิ่งขึ้น โดยให้พิจารณาแนวทางการลดต้นทุนการผลิตไบโอดีเซลจากปาล์มน้ำมันให้มีราคาจำหน่ายที่เหมาะสมและแข่งขันได้ ซึ่งจะทำให้เกิดแรงจูงใจให้มีการใช้ไบโอดีเซลมากขึ้นต่อไป นั้น ให้กระทรวงพลังงานร่วมกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงการคลัง กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงอุตสาหกรรม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาแนวทางแก้ไขปัญหาปาล์มน้ำมันทั้งระบบตั้งแต่การเพาะปลูก การผลิต และการนำไปใช้ประโยชน์ เช่น การส่งเสริมการปลูกปาล์มน้ำมันโดยใช้พันธุ์ปาล์มที่ให้ปริมาณน้ำมันมาก การวางแผนการผลิตให้มีปริมาณที่เหมาะสม สอดคล้องกับปริมาณความต้องการใช้ในแต่ละช่วงเวลา การส่งเสริมการรวมกลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกปาล์มน้ำมันตามแนวทางประชารัฐ การพิจารณาแนวทางการใช้มาตรการทางภาษีเพื่อลดต้นทุนการผลิตและการจำหน่ายน้ำมันไบโอดีเซลจากปาล์มน้ำมัน การปรับปรุงคุณภาพและมาตรฐานของโรงกลั่นน้ำมันปาล์มให้ดียิ่งขึ้น ทั้งนี้ ให้มีการบูรณาการการทำงานและแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างกันให้ถูกต้อง ชัดเจน เพื่อให้การกำหนดมาตรการต่าง ๆ ของแต่ละกระทรวงสอดคล้องและเป็นไปในทิศทางเดียวกัน และให้นำผลการพิจารณาเสนอต่อนายกรัฐมนตรีโดยด่วน ๑.๒ ให้กระทรวงมหาดไทยร่วมกับกระทรวงพาณิชย์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาแนวทางส่งเสริมการใช้สินค้าไทยชนิดต่าง ๆ ที่ได้มาตรฐานให้แพร่หลายยิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งสินค้าหนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ (OTOP) เพื่อเป็นทางเลือกให้แก่ผู้บริโภคแทนการใช้สินค้านำเข้า โดยเฉพาะสินค้าฟุ่มเฟือยที่มีราคาสูง เช่น เครื่องสำอาง ๑.๓ ตามที่นายกรัฐมนตรีได้มีข้อสั่งการให้รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายสุวิทย์ เมษินทรีย์) หารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงคมนาคม กระทรวงการคลัง กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมโดยด่วน เพื่อให้สามารถดำเนินการขับเคลื่อนการวิจัยและพัฒนานวัตกรรมต่าง ๆ ให้เกิดผลเป็นรูปธรรมภายในปี ๒๕๖๐ และรองรับการเข้าสู่ประเทศไทย ๔.๐ ต่อไป นั้น ให้กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาดำเนินการขยายผลการนำงานวิจัยและพัฒนานวัตกรรมต่าง ๆ ที่ได้วิจัยศึกษาเสร็จสิ้นและได้ขึ้นทะเบียนบัญชีนวัตกรรมแล้วไปสู่การผลิตและการขยายผลงานนวัตกรรมออกสู่ตลาดผู้บริโภค เพื่อให้เกิดการใช้ประโยชน์ในเชิงพาณิชย์ได้อย่างกว้างขวางและเป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้น รวมทั้งให้มุ่งวิจัยและพัฒนาเกี่ยวกับการใช้ประโยชน์ผลผลิตทางการเกษตรเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม โดยเฉพาะในผลผลิตที่มีปริมาณการผลิตมากจนเกิดปัญหาล้นตลาด ๑.๔ ตามที่นายกรัฐมนตรีได้มีข้อสั่งการให้กระทรวงการคลังร่วมกับกระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมพิจารณาแนวทางการพัฒนาและส่งเสริมการลงทุนรูปแบบใหม่ในเขตเศรษฐกิจพิเศษต่าง ๆ โดยเฉพาะเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) โดยอาจศึกษาจากรูปแบบต่าง ๆ จากต่างประเทศที่มีศักยภาพ เช่น การจัดตั้งศูนย์เพื่อวิจัยและพัฒนาด้านการลงทุนร่วมกันระหว่างประเทศจีนและมาเลเซีย และนำแนวทางต่าง ๆ ดังกล่าวมาปรับใช้เพื่อประโยชน์ในการส่งเสริมและพัฒนาการลงทุนให้เหมาะสมกับบริบทของประเทศไทยต่อไป นั้น มอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรี (นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์) เร่งรัดการดำเนินการดังกล่าวให้เกิดผลเป็นรูปธรรมโดยเร็ว ๒. ด้านการบริหารราชการแผ่นดินและอื่น ๆ ๒.๑ มอบหมายรองนายกรัฐมนตรีทุกท่านกำกับและติดตามให้กระทรวงและหน่วยงานในกำกับรวบรวมงานเชิงนโยบาย (agenda) ที่มีประเด็นปัญหาติดขัด หรือควรมีการเร่งรัด ขับเคลื่อนการดำเนินงานในช่วงระยะเวลาที่เหลืออยู่ของรัฐบาล เพื่อนำไปสู่การปฏิรูปภาครัฐ (Government Reform) ทั้งด้านกฎหมาย (Regulatory) และด้านการบริหารงาน (Administrative) เสนอรองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม) เพื่อพิจารณาและบูรณาการแนวทางการปฏิรูปในระยะเร่งด่วนเสนอต่อนายกรัฐมนตรีและให้คณะกรรมการบริหารราชการแผ่นดินตามกรอบการปฏิรูปประเทศ ยุทธศาสตร์ชาติ และการสร้างความสามัคคีปรองดอง (ป.ย.ป.) นำไปพิจารณาขับเคลื่อนต่อไป โดยความสำเร็จของการปฏิรูปในแต่ละหน่วยงานจะนำไปใช้ประกอบการประเมินผลการปฏิบัติงานของรัฐมนตรีต่อไปด้วย ๒.๒ ให้ทุกส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐที่จะมีการปรับปรุงโครงสร้างและ/หรือขออัตรากำลังเพิ่มเพื่อรองรับภารกิจที่เพิ่มขึ้น ให้พิจารณานำเทคโนโลยีสารสนเทศหรือการจ้างงานในรูปแบบอื่น ๆ เช่น การจ้างพนักงานชั่วคราว (Part time) การจ้างทำงานพิเศษ เป็นต้น มาทดแทนการบรรจุอัตรากำลังเพื่อเป็นการประหยัดงบประมาณและลดภาระผูกพันค่าใช้จ่ายในระยะยาว ๒.๓ ตามที่นายกรัฐมนตรีได้มีข้อสั่งการให้ทุกส่วนราชการเร่งรัดการจัดทำทะเบียนรายชื่อผู้ได้รับรางวัลจากการแข่งขันระดับชาติและระดับนานาชาติประเภทต่าง ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผลงานทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ศิลปวัฒนธรรม วิชาชีพเฉพาะทางในสาขาต่าง ๆ พร้อมทั้งให้การสนับสนุนกลุ่มบุคคลดังกล่าวโดยจัดทำเป็นฐานข้อมูลด้วย และต่อมาได้มีข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรีให้กระทรวงศึกษาธิการเป็นหน่วยงานนำร่องในการดำเนินการให้การสนับสนุนผู้ได้รับรางวัลจากการแข่งขันต่าง ๆ เช่น การให้ทุนการศึกษาเพื่อพัฒนาความรู้ ความเชี่ยวชาญ และความสามารถในด้านต่าง ๆ โดยเฉพาะการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีสารสนเทศและโทรคมนาคม แล้วรายงานผลการดำเนินการต่อคณะรัฐมนตรีโดยด่วนต่อไป นั้น ให้ทุกส่วนราชการดำเนินการตรวจสอบข้อมูลเกี่ยวกับทะเบียนรายชื่อผู้ได้รับรางวัลจากการแข่งขันระดับชาติและระดับนานาชาติประเภทต่าง ๆ ดังกล่าวเพิ่มเติม โดยเฉพาะการแข่งขันด้านวิชาการ และดำเนินการปรับปรุงฐานข้อมูลของกลุ่มบุคคลดังกล่าว ให้มีรายละเอียดที่ถูกต้อง ครบถ้วน และเป็นปัจจุบัน เช่น ประวัติการศึกษา ผลงาน และอาชีพปัจจุบัน เพื่อใช้เป็นฐานข้อมูลของกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่มีความสามารถที่จะขับเคลื่อนประเทศให้มีความก้าวหน้าต่อไปได้ รวมทั้งให้กระทรวงศึกษาธิการเร่งรัดดำเนินการตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรีและรายงานให้คณะรัฐมนตรีทราบภายในเดือนกันยายน ๒๕๖๐ ด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||
17229 | ข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | สว | 18/07/2560 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ซึ่งเห็นควรแก้ไขเหตุผลประกอบร่างพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... รวมทั้งการได้มาซึ่งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่เป็นตุลาการศาลปกครองที่ได้รับเลือกจากตุลาการศาลปกครองในคณะกรรมการต่าง ๆ สมควรที่ศาลปกครองจะพิจารณากำหนดมาตรการหรือวิธีการใด ๆ เพื่อให้การเลือกกรรมการในคณะกรรมการต่าง ๆ ปราศจากการโน้มน้าวจูงใจด้วยวิธีการที่ทำให้การเลือกนั้นไม่เป็นกลาง ตามที่สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ปฏิบัติหน้าที่สำนักงานเลขาธิการสภานิติบัญญัติแห่งชาติเสนอ ๒. ให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีนำเหตุผลของร่างพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ เป็นเหตุผลของร่างพระราชบัญญัติในเรื่องนี้ในการประกาศราชกิจจานุเบกษาต่อไป ๓. มอบหมายให้สำนักงานศาลปกครองรับข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ไปพิจารณาศึกษาแนวทางและความเหมาะสมของข้อสังเกตดังกล่าว และสรุปผลการพิจารณาหรือผลการดำเนินการในภาพรวม แล้วส่งให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีภายใน ๓๐ วัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้งคำสั่งเพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||
17230 | การเปลี่ยนโฆษกกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม | ดศ | 18/07/2560 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบการเปลี่ยนโฆษกกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม จากเดิม นายฉัตรชัย คุณปิติลักษณ์ รองผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) เป็น นาวาอากาศเอก สมศักดิ์ ขาวสุวรรณ์ รองปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ตามคำสั่งกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ที่ ๔๔/๒๕๖๐ ลงวันที่ ๖ มิถุนายน ๒๕๖๐ เรื่อง แต่งตั้งโฆษกกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ตามมที่กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||
17231 | รายงานงบการเงินประจำปี 2559 ของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย | พน | 18/07/2560 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานงบการเงินประจำปี ๒๕๕๙ ของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ที่สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินได้ตรวจสอบและรับรองแล้ว ประกอบด้วยงบแสดงฐานะทางการเงินรวม ณ วันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๙ กฟผ. มีสินทรัพย์รวม ๙๕๖,๕๔๗.๓๐ ล้านบาท และงบกำไรขาดทุน สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๙ กำไรสำหรับปี ๒๕๕๙ จำนวน ๔๗,๒๐๓.๔๐ ล้านบาท และดำเนินการประกาศลงในราชกิจจานุเบกษาต่อไป ตามที่กระทรวงพลังงานเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||
17232 | การทบทวนมาตรการกำหนดสัดส่วนการนำเข้าข้าวสาลีต่อการรับซื้อข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ในประเทศ | พณ | 18/07/2560 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. รับทราบการทบทวนมาตรการกำหนดสัดส่วนการนำเข้าข้าวสาลีต่อการรับซื้อข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ในประเทศ ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ มีประเด็นสำคัญ ดังนี้ ๑.๑ กรมปศุสัตว์ได้รายงานผลการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๘ พฤศจิกายน ๒๕๕๙ (เรื่อง การบริหารจัดการการนำเข้าวัตถุดิบอื่นทดแทนข้าวโพดเลี้ยงสัตว์) โดยตั้งแต่วันที่ ๑๙ มกราคม-๒๗ เมษายน ๒๕๖๐ มีการอนุญาตนำเข้าข้าวสาลี รวม ๕๕ ราย จำนวน ๔๗๖,๔๕๔.๒๒๙ ตัน และปริมาณการรับซื้อข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ จำนวน ๑,๔๓๙,๗๐๕.๔๑๙ ตัน ๑.๒ ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ (นบขพ.) ครั้งที่ ๑/๒๕๖๐ เมื่อวันที่ ๒๙ มีนาคม ๒๕๖๐ มีมติให้ปรับอัตราการกำหนดสัดส่วนการนำเข้าข้าวสาลีต่อการรับซื้อข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ในประเทศ จากเดิมกำหนดอัตราส่วน ๑ : ๓ เป็นอัตราส่วน ๑ : ๒ เฉพาะผู้ผลิตอาหารสัตว์เลี้ยงที่นำเข้าทั้งข้าวสาลีคุณภาพสูง และไม่มีบริษัทในเครือรองรับการใช้ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์เป็นวัตถุดิบในการผลิตอาหารสัตว์อื่น ๆ และมอบหมายให้กรมปศุสัตว์ดำเนินการติดตามตรวจสอบปริมาณการใช้และปริมาณการนำเข้าข้าวสาลีของผู้ผลิตอาหารสัตว์เลี้ยง และในการประชุม นบขพ. ครั้งที่ ๒/๒๕๖๐ เมื่อวันที่ ๒๙ พฤษภาคม ๒๕๖๐ มีมติให้ยกเว้นการปฏิบัติตามมาตรการควบคุมการนำเข้าข้าวสาลีแก่กลุ่มผู้ผลิตกุ้ง จำนวน ๖ ราย ตามปริมาณที่สมาคมผู้ผลิตอาหารสัตว์ไทยเสนอ ปริมาณรวมไม่เกิน ๑๕๐,๔๒๓ ตัน/ปี ๒. ให้กระทรวงพาณิชย์กำกับการดำเนินการตามมาตรการกำหนดสัดส่วนการนำเข้าข้าวสาลีต่อการรับซื้อข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ในประเทศอย่างใกล้ชิด เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อเกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ภายในประเทศ ๓. ให้กระทรวงพาณิชย์หารือร่วมกับกระทรวงการคลัง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อพิจารณาทบทวนความเป็นไปได้ในการกำหนดอัตราอากรข้าวสาลีที่นำเข้ามาในราชอาณาจักรให้มีความเหมาะสมและเป็นปัจจุบัน ภายใต้พันธกรณีกับองค์การการค้าโลก (WTO) และ/หรือพันธกรณีระหว่างประเทศอื่นที่เกี่ยวข้อง เพื่อคุ้มครองดูแลไม่ให้เกิดผลกระทบต่อเกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดและพืชอื่นที่เกี่ยวข้องในประเทศ และให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||
17233 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน รวม 2 ฉบับ (ร่างพระราชกฤษฎีกากำเหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน ในท้องที่ตำบลตาลเดี่ยว อำเภอแก่งคอย และตำบลตลิ่งชั่น อำเภอเมืองสระบุรี จังหวัดสระบุรี พ.ศ. ....) | คค | 18/07/2560 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน รวม ๒ ฉบับ มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน เพื่อสร้างทางรถไฟทางคู่เลี่ยงเมืองที่สถานีชุมทางบ้านภาชีและสถานีชุมทางแก่งคอย ตามโครงการก่อสร้างทางคู่ในเส้นทางรถไฟสายชายฝั่งทะเลตะวันออก ช่วงฉะเชิงเทรา-คลองสิบเก้า-แก่งคอย และเพื่อให้เจ้าหน้าที่หรือผู้ซึ่งได้รับมอบหมายจากเจ้าหน้าที่มีสิทธิเข้าไปทำการสำรวจและเพื่อทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ที่จะต้องเวนคืนที่แน่นอน ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน แล้วดำเนินการต่อไปได้ ดังนี้ ๑.๑ ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน ในท้องที่ตำบลไผ่ล้อม ตำบลดอนหญ้านาง และตำบลหนองน้ำใส อำเภอภาชี จังหวัดพระนครศรีอยุธยา พ.ศ. .... ๑.๒ ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน ในท้องที่ตำบลตาลเดี่ยว อำเภอแก่งคอย และตำบลตลิ่งชัน อำเภอเมืองสระบุรี จังหวัดสระบุรี พ.ศ. .... ๒. มอบหมายให้กระทรวงคมนาคมรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาและสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นว่า แนวเขตบริเวณที่ที่จะเวนคืนตามร่างพระราชกฤษฎีกาทั้งสองฉบับดังกล่าวได้เคยมีการตราพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน ในท้องที่ตำบลไผ่ล้อม ตำบลดอนหญ้านาง และตำบลหนองน้ำใส อำเภอภาชี จังหวัดพระนครศรีอยุธยา พ.ศ. ๒๕๕๖ และพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน ในท้องที่ตำบลตาลเดี่ยว อำเภอแก่งคอย และตำบลตลิ่งชัน อำเภอเมืองสระบุรี จังหวัดสระบุรี พ.ศ. ๒๕๕๖ รวมระยะเวลาทั้งสิ้นฉบับละ ๔ ปี จึงเห็นควรให้การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เร่งรัดการดำเนินการตามพระราชกฤษฎีกาทั้งสองฉบับให้แล้วเสร็จภายในระยะเวลาที่มีพระราชกฤษฎีกาใช้บังคับใหม่ ประกอบกับปัจจุบัน รฟท. มีแผนพัฒนาระบบรถไฟในพื้นที่บริเวณสถานีชุมทางบ้านภาชีและสถานีชุมทางแก่งคอยหลายโครงการ จึงเห็นควรให้ รฟท. พิจารณากำหนดแผนการใช้ประโยชน์ที่ดินภายในเขตทางรถไฟในพื้นที่บริเวณชุมทางบ้านภาชีและสถานีชุมทางแก่งคอยให้เกิดประโยชน์สูงสุด เพื่อลดผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่และลดภาระงบประมาณของภาครัฐในภาพรวม ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||
17234 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ให้เป็นเขตสำรวจการจัดรูปที่ดิน รวม 2 ฉบับ (ร่างพระราชกฤษฎีกากำเหนดเขตที่ดินในท้องที่ตำบลโพธิ์ อำเภอเมืองศรีสะเกษ จังหวัดศรีสะเกษ ให้เป็นเขตสำรวจการจัดรูปที่ดิน พ.ศ. ....) | กษ | 18/07/2560 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ให้เป็นเขตสำรวจการจัดรูปที่ดิน รวม ๒ ฉบับ มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดเขตสำรวจการจัดรูปที่ดิน เพื่อให้พนักงานเจ้าหน้าที่เข้าทำการสำรวจพื้นที่ที่จะจัดทำเป็ดำเนินโครงการจัดรูปที่ดิน ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ดังนี้ ๑.๑ ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในท้องที่ตำบลชัยนาท อำเภอเมืองชัยนาท จังหวัดชัยนาท ให้เป็นเขตสำรวจการจัดรูปที่ดิน พ.ศ. .... ๑.๒ ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในท้องที่ตำบลโพธิ์ อำเภอเมืองศรีสะเกษ จังหวัดศรีสะเกษ ให้เป็นเขตสำรวจการจัดรูปที่ดิน พ.ศ. .... ๒. ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์รับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรประเมินผลการดำเนินโครงการจัดรูปที่ดินและการนำที่สาธารณะไปจัดรูที่ดินที่ผ่านมา โดยเฉพาะปัญหาและอุปสรรคต่าง ๆ เพื่อนำมาใช้ในการปรับปรุงและวางแผนการดำเนินงานในระยะต่อไปให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||
17235 | ขอถอนร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทาน เป็นทางน้ำชลประทาน ที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน รวม 2 ฉบับ (ขอถอนร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทานในเขตโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำปาว เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน พ.ศ. ....) | กษ | 18/07/2560 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้ถอนร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทาน เป็นทางน้ำชลประทาน ที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน รวม ๒ ฉบับ ที่อยู่ระหว่างการตรวจพิจารณาของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ ดังนี้
๑. ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทานในเขตโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำปาว เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน พ.ศ. .... ๒. ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทานคลองบางซ้าย-ลาดบัวหลวง เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน พ.ศ. ....
|
||||||||||||||||||||||||||||||
17236 | รายงานผลการประเมินการปฏิบัติงานตามคำรับรองการปฏิบัติงานขององค์การมหาชน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 | นร12 | 18/07/2560 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการประเมินการปฏิบัติงานตามคำรับรองการปฏิบัติงานขององค์การมหาชน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๙ ซึ่งผลการประเมินการปฏิบัติงานฯ ขององค์การมหาชน รวม ๓๑ แห่ง พบว่า ไม่มีองค์การมหาชนใดที่มีคะแนนรวมต่ำกว่าเป้าหมาย โดยองค์การมหาชนที่มีผลการดำเนินงานเป็นไปตามเป้าหมาย มีจำนวน ๒ แห่ง คิดเป็นร้อยละ ๖.๔๕ ได้แก่ โรงพยาบาลบ้านแพ้ว ได้คะแนน ๓.๗๐๘๙ และสถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศ ได้คะแนน ๓.๙๔๘๒ ส่วนองค์การมหาชนที่มีผลการดำเนินงานดีกว่าเป้าหมาย มีจำนวน ๗ แห่ง คิดเป็นร้อยละ ๒๒.๕๘ เช่น โรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์ ได้คะแนน ๔.๓๑๔๖ และศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร ได้คะแนน ๔.๑๑๗๑ เป็นต้น และองค์การมหาชนที่มีผลการดำเนินงานดีกว่าเป้าหมายมาก มีจำนวน ๒๒ แห่ง คิดเป็นร้อยละ ๗๐.๙๗ เช่น สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร ได้คะแนน ๔.๙๔๒๐ และสถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง ได้คะแนน ๔.๘๓๒๙ เป็นต้น ตามที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||
17237 | การแก้ไขปรับปรุงถ้อยคำในบันทึกแสดงเจตจำนงระหว่างกระทรวงอุตสาหกรรมกับกระทรวงเศรษฐกิจการค้าและอุตสาหกรรมแห่งญี่ปุ่น | อก | 18/07/2560 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบการแก้ไขปรับปรุงถ้อยคำในบันทึกแสดงเจตจำนงระหว่างกระทรวงอุตสาหกรรมกับกระทรวงเศรษฐกิจการค้าและอุตสาหกรรมแห่งญี่ปุ่น โดยการแก้ไขดังกล่าวเป็นการปรับหัวข้อให้มีความกระชับมากขึ้น เพื่อให้เห็นความชัดเจนในการยกระดับโครงสร้างอุตสาหกรรมเป้าหมายของประเทศทั้ง ๑๐ อุตสาหกรรม โดยกรมสนธิสัญญาและกฎหมาย กระทรวงการต่างประเทศพิจารณาแล้วมีความเห็นว่า การแก้ไขปรับปรุงถ้อยคำเป็นการแก้ไขในส่วนที่มิใช่สาระสำคัญ จึงสามารถดำเนินการได้ ทั้งนี้ บันทึกแสดงเจตจำนงฯ ดังกล่าวได้มีการลงนามเมื่อวันที่ ๗ มิถุนายน ๒๕๖๐ ในระหว่างการเดินทางเยือนประเทศญี่ปุ่น ระหว่างวันที่ ๔-๘ มิถุนายน ๒๕๖๐ ของรองนายกรัฐมนตรี (นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์) และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมเพื่อเข้าร่วมประชุม Thailand-Japan High Level Joint Commission : HLJC ครั้งที่ ๓ และการประชุม Nikkei Forum ครั้งที่ ๒๓ ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||
17238 | รายงานการค้าระหว่างประเทศของไทยเดือนพฤษภาคม 2560 | พณ | 18/07/2560 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานการค้าระหว่างประเทศของไทยเดือนพฤษภาคม ๒๕๖๐ ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ สรุปสาระสำคัญได้ ดังนี้
๑. ภาพรวมการส่งออก เดือนพฤษภาคม ๒๕๖๐ ขยายตัวร้อยละ ๑๓.๒ เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน (YoY) หรือคิดเป็นมูลค่า ๑๙,๙๔๔ ล้านดอลลาร์สหรัฐ ตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก โดยการส่งออกขยายตัวดีขึ้นในทุกตลาดสำคัญ และขยายตัวในระดับสูงในทุกกลุ่มสินค้า โดยเฉพาะกลุ่มสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตรที่เติบโตต่อเนื่องทั้งในด้านราคาและปริมาณ ๒. มูลค่าการค้าในรูปเงินบาท เดือนพฤษภาคม ๒๕๖๐ การส่งออกมีมูลค่า ๖๘๐,๑๒๕ ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ ๑๑.๒ เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน (YoY) ขณะที่การนำเข้ามีมูลค่า ๖๕๕,๙๘๕ ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ ๑๖.๑ ส่งผลให้การค้าเกินดุล ๒๔,๑๔๐ ล้านบาท สำหรับมูลค่าการค้าในรูปของเงินดอลลาร์สหรัฐ เดือนพฤษภาคม ๒๕๖๐ การส่งออกมีมูลค่า ๑๙,๙๔๔ ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัวร้อยละ ๑๓.๒ เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน (YoY) ขณะที่การนำเข้ามีมูลค่า ๑๙,๐๐๐ ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัวร้อยละ ๑๘.๒ ส่งผลให้การค้าเกินดุล ๙๔๔ ล้านดอลลาร์สหรัฐ ๓. การส่งออกรายสินค้า เดือนพฤษภาคม ๒๕๖๐ มูลค่าการส่งออกสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตรขยายตัวร้อยละ ๑๗.๖ (YoY) โดยสินค้าส่งออกที่ขยายตัวดี ได้แก่ ยางพารา ผัก ผลไม้สด แช่แข็ง กระป๋องและแปรรูป น้ำตาลทราย ไก่สดแช่แข็งและแปรรูป และข้าว ส่วนมูลค่าการส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมขยายตัวร้อยละ ๑๒.๘ (YoY) โดยสินค้าที่ขยายตัว ได้แก่ ผลิตภัณฑ์ยาง รถยนต์ อุปกรณ์ และส่วนประกอบ แผงวงจรไฟฟ้า คอมพิวเตอร์และส่วนประกอบ ๔. การส่งออกไปตลาดสำคัญ ขยายตัวได้ดีอย่างต่อเนื่อง โดยสัดส่วนที่ขยายตัวคิดเป็นมากกว่าร้อยละ ๙๐ ของตลาดทั้งหมด ๕. การค้าชายแดนและการค้าผ่านแดน เดือนพฤษภาคม ๒๕๖๐ มีมูลค่าทั้งสิ้น ๑๑๒,๓๓๙ ล้านบาท ขยายตัวที่ร้อยละ ๑๓.๒ (YoY) เป็นผลจากการขยายตัวของการค้าชายแดนเป็นหลัก
|
||||||||||||||||||||||||||||||
17239 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดบริเวณห้ามก่อสร้าง ดัดแปลง หรือเปลี่ยนการใช้อาคารบางชนิดหรือบางประเภท ในพื้นที่บางส่วนในท้องที่จังหวัดเลย พ.ศ. .... | มท | 18/07/2560 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดบริเวณห้ามก่อสร้าง ดัดแปลง หรือเปลี่ยนการใช้อาคารบางชนิดหรือบางประเภท ในพื้นที่บางส่วนในท้องที่จังหวัดเลย พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดบริเวณห้ามก่อสร้าง ดัดแปลง หรือเปลี่ยนการใช้อาคารบางชนิดหรือบางประเภท ในพื้นที่บางส่วนในท้องที่จังหวัดเลย เพื่อประโยชน์ในด้านการป้องกันอัคคีภัย การรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม การผังเมือง การสถาปัตยกรรม และการอำนวยความสะดวกแก่การจราจร ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงมหาดไทยรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นว่า เพื่อให้การบังคับใช้ร่างกฎกระทรวงฯ ฉบับนี้มีผลในทางปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม เมื่อร่างกฎกระทรวงฯ ประกาศใช้ กรมโยธาธิการและผังเมืองควรกำกับดูแลให้เจ้าพนักงานท้องถิ่นควบคุมการอนุญาตก่อสร้างอาคารพาณิชยกรรมประเภทค้าปลีกและค้าส่งให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ของร่างกฎกระทรวงฯ ดังกล่าวอย่างเข้มงวด ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||
17240 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดลักษณะของเหรียญกษาปณ์ที่ระลึกเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี เนื่องในโอกาสพระราชพิธีฉลองพระชนมายุ 5 รอบ 4 กรกฎาคม 2560 พ.ศ. .... | กค | 18/07/2560 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดลักษณะของเหรียญกษาปณ์ที่ระลึกเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี เนื่องในโอกาสพระราชพิธีฉลองพระชนมายุ ๕ รอบ ๔ กรกฎาคม ๒๕๖๐ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการจัดทำเหรียญกษาปณ์ทองคำ ชนิดราคาหนึ่งหมื่นหกพันบาท เหรียญกษาปณ์เงิน ชนิดราคาแปดร้อยบาท และเหรียญกษาปณ์โลหะสีขาว (ทองแดงผสมนิกเกิล) ชนิดราคาห้าสิบบาท เพื่อเป็นที่ระลึกเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี เนื่องในโอกาสพระราชพิธีฉลองพระชนมายุ ๕ รอบ ในวันที่ ๔ กรกฎาคม ๒๕๖๐ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
.....