ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 831 จากทั้งหมด 6200 หน้า แสดงรายการที่ 16601 - 16620 จากข้อมูลทั้งหมด 123982 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
16601 | ข้อเสนอการพัฒนาระบบอำนวยความสะดวกในการประกอบธุรกิจแบบครบวงจร (Doing Business Portal) | นร12 | 10/10/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบในหลักการข้อเสนอการพัฒนาระบบอำนวยความสะดวกในการประกอบธุรกิจแบบครบวงจร (Doing Business Portal) เพื่อขอรับการสนับสนุนงบประมาณจากกองทุนวิจัยและพัฒนากิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม เพื่อประโยชน์สาธารณะ ภายในกรอบวงเงินงบประมาณ จำนวน ๔,๐๐๐ ล้านบาท และให้สำนักงานรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) เป็นหน่วยงานรับผิดชอบหลักภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กระทรวงการคลัง และสำนักงาน ก.พ.ร. ตามที่สำนักงาน ก.พ.ร. เสนอ ๒. ให้สำนักงาน ก.พ.ร. ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาปรับปรุงแผนการดำเนินการพัฒนาระบบอำนวยความสะดวกในการประกอบธุรกิจแบบครบวงจร (Doing Business Portal) โดยให้กำหนดกิจกรรม/โครงการต่าง ๆ รวมทั้งระยะเวลาดำเนินการให้เหมาะสมและชัดเจนมากยิ่งขึ้น เพื่อให้มีกิจกรรม/โครงการที่สามารถดำเนินการให้แล้วเสร็จและเกิดผลเป็นรูปธรรมในระยะที่ ๑ (ภายในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑) ให้มากยิ่งขึ้น แล้วให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีอีกครั้งหนึ่ง ทั้งนี้ ในส่วนของงบประมาณที่จะขอรับการสนับสนุนจากกองทุนวิจัยและพัฒนากิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม เพื่อประโยชน์สาธารณะ ภายในกรอบวงเงินงบประมาณจำนวน ๔,๐๐๐ ล้านบาท ให้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการให้ถูกต้อง เป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย ระเบียบ และหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย ๓. ให้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม สำนักงานรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) สำนักงาน ก.พ.ร. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงการคลังและสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรมีความชัดเจนด้านการพัฒนาระบบรักษาความปลอดภัยทางอิเล็กทรอนิกส์ที่ดี เพื่อให้ภาคประชาชนเกิดความมั่นใจและเข้าใช้ระบบดังกล่าวตามวัตถุประสงค์ รวมทั้งควรเผยแพร่ข้อมูลและสร้างความเข้าใจให้กับหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องตามเป้าหมาย ซึ่งต้องปรับกระบวนการทำงานใหม่ตามกรอบ Doing Business Portal เพื่อให้เกิดความชัดเจนในแนวทางปฏิบัติที่ถูกต้อง และสามารถบรรลุผลตามระยะเวลาที่กำหนดไว้ได้ ควบคู่ไปกับการประชาสัมพันธ์ทั้งระยะสั้นและระยะยาวให้ภาคเอกชนเตรียมพร้อมรับการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้น ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
16602 | นโยบายและแผนระดับชาติว่าด้วยความมั่นคงแห่งชาติ (พ.ศ. 2560 - 2564) | นร08 | 10/10/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบในหลักการนโยบายและแผนระดับชาติว่าด้วยความมั่นคงแห่งชาติ (พ.ศ. ๒๕๖๐-๒๕๖๔) ซึ่งประกอบด้วยนโยบายความมั่นคงแห่งชาติ จำนวน ๑๖ นโยบาย และแผนระดับชาติว่าด้วยความมั่นคงแห่งชาติ จำนวน ๑๙ แผน โดยให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องใช้เป็นกรอบแนวทางการดำเนินงานจัดทำยุทธศาสตร์หรือแผนงานด้านความมั่นคงเฉพาะเรื่อง หรือการกำหนดแผนงานหรือโครงการที่เกี่ยวข้องให้สอดคล้องกับนโยบายและแผนระดับชาติว่าด้วยความมั่นคงแห่งชาติฯ และยกเลิกนโยบายความมั่นคงแห่งชาติ (พ.ศ. ๒๕๕๘-๒๕๖๔) ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๗ มีนาคม ๒๕๕๘ (เรื่อง นโยบายความมั่นคงแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๕๘-๒๕๖๔) และให้ใช้นโยบายและแผนระดับชาติว่าด้วยความมั่นคงแห่งชาติ (พ.ศ. ๒๕๖๐-๒๕๖๔) แทน รวมทั้งมอบหมายสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีนำกราบบังคมทูลเกล้าถวายเพื่อทรงลงพระปรมาภิไธยประกาศใช้นโยบายและแผนระดับชาติว่าด้วยความมั่นคงแห่งชาติฯ ตามที่สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติเสนอ ๒. ให้สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติรับความเห็นของกระทรวงการคลัง สำนักงาน ป.ป.ท. และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรให้กระทรวงการคลังเป็นหน่วยรับผิดชอบร่วมในการสนับสนุนนโยบายและแผนระดับชาติว่าด้วยความมั่นคงแห่งชาติ (พ.ศ. ๒๕๖๐-๒๕๖๔) รวมทั้งควรกำหนดเกณฑ์การจัดทำยุทธศาสตร์หรือแผนงานโครงการด้านความมั่นคงที่มีความชัดเจน และกำหนดระบบการติดตามการประเมินผลในภาพรวม ทั้งหน่วยงานหลักในการติดตามประเมินผล แนวทางและช่วงเวลาในการติดตามประเมินผล ตลอดจนการรายงานผลในภาพรวมให้คณะรัฐมนตรีทราบอย่างต่อเนื่อง เป็นต้น ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป แล้วให้นำนโยบายและแผนฯ เสนอคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติพิจารณาก่อนดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป ๓. เมื่อนโยบายและแผนระดับชาติว่าด้วยความมั่นคงแห่งชาติ (พ.ศ. ๒๕๖๐-๒๕๖๔) ประกาศใช้แล้ว ให้สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของสำนักงบประมาณที่เห็นควรเร่งดำเนินการปรับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ เพื่อดำเนินการให้สอดคล้องด้วย รวมทั้งนำไปเป็นกรอบในการจัดทำแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณสำหรับเสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีให้ทันต่อสภาวการณ์ตามความจำเป็นและเหมาะสม ไปดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
16603 | ร่างพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. .... | นร09 | 10/10/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบร่างพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. .... ของสำนักงบประมาณ ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญเป็นการปรับปรุงพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๐๒ และที่แก้ไขเพิ่มเติม เพื่อรองรับการปฏิบัติระบบงบประมาณ โดยปรับปรุงหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการจัดทำงบประมาณ การบริหารงบประมาณ การควบคุมงบประมาณ และการประเมินผลและการรายงานการใช้จ่ายงบประมาณ โดยกำหนดหลักการสำคัญของการจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณที่จะก่อให้เกิดความยั่งยืนของการคลังของประเทศในระยะยาว กำหนดให้มีการจัดทำงบประมาณในลักษณะบูรณาการร่วมกันระหว่างหน่วยงานต่าง ๆ ทั้งในมิติด้านภารกิจของหน่วยงาน (Function) มิติด้านยุทธศาสตร์และนโยบายของรัฐบาล (Agenda) และมิติงบประมาณในเชิงพื้นที่ (Area) รวมทั้งให้มีกลไกการติดตามและประเมินผลการปฏิบัติงานและการใช้จ่ายงบประมาณ เพื่อให้การใช้จ่ายงบประมาณเกิดผลสัมฤทธิ์ มีความคุ้มค่า และเกิดประโยชน์สูงสุด และให้ส่งคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณา ก่อนเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติต่อไป ๒. มอบหมายให้กระทรวงการคลังและสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีการับความเห็นของสำนักงบประมาณเกี่ยวกับบทนิยามคำว่า “รัฐวิสาหกิจ” โดยเห็นว่าบทนิยามดังกล่าวสอดคล้องกับร่างพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. .... แล้ว สำหรับการแก้ไขปัญหาและผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นในทางปฏิบัติของหน่วยงานต่าง ๆ เห็นควรบัญญัติไว้ในมาตราใดมาตราหนึ่ง “ให้รัฐวิสาหกิจตามกฎหมายอื่นใดที่อ้างอิงนิยาม “รัฐวิสาหกิจ” ตามพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๐๒ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ยังคงมีผลใช้บังคับอยู่ในระหว่างที่มีการแก้ไขเพิ่มเติมให้สอดคล้องกับพระราชบัญญัตินี้” และให้กระทรวงการคลังและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้พิจารณาแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายที่เกี่ยวข้องให้มีความเหมาะสมและไม่เกิดปัญหาในทางปฏิบัติโดยเร็ว ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
16604 | ร่างกฎกระทรวงยกเว้นค่าธรรมเนียมการใช้ยานยนตร์บนทางหลวงพิเศษหมายเลข 7 และทางหลวงพิเศษหมายเลข 9 ระหว่างวันที่ 24 ตุลาคม 2560 ถึงวันที่ 27 ตุลาคม 2560 พ.ศ. .... | คค | 10/10/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงยกเว้นค่าธรรมเนียมการใช้ยานยนตร์บนทางหลวงพิเศษหมายเลข ๗ และทางหลวงพิเศษหมายเลข ๙ ระหว่างวันที่ ๒๔ ตุลาคม ๒๕๖๐ ถึงวันที่ ๒๗ ตุลาคม ๒๕๖๐ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการยกเว้นค่าธรรมเนียมการใช้ยานยนตร์บนทางหลวงพิเศษหมายเลข ๗ [สายกรุงเทพมหานคร-บ้านฉาง] และทางหลวงพิเศษหมายเลข ๙ [สายวงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานคร (ถนนกาญจนาภิเษก)] ตั้งแต่เวลา ๐๐.๐๑ นาฬิกา ของวันที่ ๒๔ ตุลาคม ๒๕๖๐ ถึงเวลา ๒๔.๐๐ นาฬิกา ของวันที่ ๒๗ ตุลาคม ๒๕๖๐ เพื่อแก้ไขปัญหาการจราจรและอำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนในการเดินทางบนทางหลวงพิเศษดังกล่าวที่จะเข้ามาในกรุงเทพมหานคร เพื่อมีส่วนร่วมงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. มอบหมายให้กระทรวงคมนาคมรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรให้กรมทางหลวงและกรมทางหลวงชนบทเร่งกำหนดมาตรการอำนวยความสะดวกและรักษาความปลอดภัย พร้อมทั้งจัดทำแผนประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทราบอย่างทั่วถึง เพื่อให้สามารถอำนวยความสะดวกและความปลอดภัยในการสัญจรทางถนนในช่วงเวลาดังกล่าวได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
16605 | การดำเนินงานเมืองสิ่งแวดล้อมยั่งยืน ประจำปี 2559 | ทส | 10/10/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบผลการดำเนินงานเมืองสิ่งแวดล้อมยั่งยืน ประจำปี ๒๕๕๙ โดยกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อมได้มีการดำเนินงานเมืองสิ่งแวดล้อมยั่งยืน ประจำปี ๒๕๕๙ โดยจัดประชุมหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งได้แนวทางร่วมกันและข้อเสนอแนะ (๑) ให้ประเด็นการพัฒนาเมืองสิ่งแวดล้อมยั่งยืนเป็นนโยบายระดับชาติ (๒) การดำเนินการเตรียมการเพื่อให้เกิดการขับเคลื่อนอย่างต่อเนื่องและขยายผลการดำเนินงานอย่างครอบคลุมในปีต่อไป และ (๓) การจัดกิจกรรมการประกวดเมืองสิ่งแวดล้อมยั่งยืน ประจำปี ๒๕๕๙ ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ ๒. เห็นชอบในหลักการแนวทางการขับเคลื่อนเมืองสิ่งแวดล้อมยั่งยืน เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องใช้เป็นกรอบในการดำเนินงานอย่างบูรณาการร่วมกัน และผลักดันให้การดำเนินงานเมืองสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืนขยายผลและครอบคลุมพื้นที่อย่างมีประสิทธิภาพ ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ และให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมร่วมกับกระทรวงมหาดไทย กระทรวงศึกษาธิการ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณากำหนดกรอบแนวทางการขับเคลื่อนเมืองสิ่งแวดล้อมยั่งยืนให้มีความชัดเจนเป็นรูปธรรมมากขึ้น เช่น แผนงาน/โครงการที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องดำเนินการเพื่อนำไปสู่เป้าหมายการพัฒนาเมืองสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนให้ครอบคลุมทั่วประเทศได้ภายในปี ๒๕๖๓ ทั้งนี้ กรอบแนวทางการขับเคลื่อนดังกล่าวควรมุ่งเน้นการสร้างการรับรู้ให้ทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการดำเนินการด้วย ๓. ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นว่า การพัฒนาเมืองไปสู่ความยั่งยืนควรพิจารณามิติในการพัฒนาที่ครอบคลุมทั้งทางด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม เพื่อรักษาสมดุลระหว่างสิ่งแวดล้อมกับการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมให้เกิดขึ้น โดยให้ความสำคัญกับประเด็นการพัฒนาในแนวทางการขับเคลื่อนเมืองเพื่อมุ่งสู่ความยั่งยืนเพิ่มเติม อาทิ การผลิตและบริการที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม สร้างหลักประกันให้ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดี มีความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม อนุรักษ์ศิลปะ สืบสานวัฒนธรรมและประเพณีท้องถิ่น การใช้ประโยชน์ที่ดิน อาคาร และโครงสร้างพื้นฐานที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม มีการบริหารจัดการความเสี่ยงจากภัยพิบัติและพร้อมต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และการพัฒนาเมืองอย่างมีส่วนร่วม เป็นต้น รวมทั้งควรสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับแนวทางการพัฒนาเมืองสิ่งแวดล้อมให้กับภาคีพัฒนาทุกภาคส่วนให้เกิดความร่วมมือกันและเล็งเห็นถึงความสำคัญของการดำเนินงานที่มุ่งสู่เมืองสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน ตลอดจนเปิดโอกาสให้ทุกภาคส่วนเข้ามามีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนการดำเนินงานในทุกขั้นตอน ตั้งแต่ร่วมคิด ร่วมดำเนินการ ร่วมติดตามตรวจสอบ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
16606 | รายงานผลการรายงานการปฏิบัติตามอนุสัญญาว่าด้วยการขจัดการเลือกปฏิบัติต่อสตรี ในทุกรูปแบบ ฉบับที่ 6 - 7 (ฉบับรวม) ณ นครเจนีวา สมาพันธรัฐสวิส | พม | 10/10/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบรายงานผลการรายงานการปฏิบัติตามอนุสัญญาว่าด้วยการขจัดการเลือกปฏิบัติต่อสตรีในทุกรูปแบบ ฉบับที่ ๖-๗ (ฉบับรวม) ณ นครเจนีวา สมาพันธรัฐสวิส ซึ่งคณะกรรมการขจัดการเลือกปฏิบัติต่อสตรีในทุกรูปแบบยินดีต่อพัฒนาการของไทยในด้านต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการขจัดการเลือกปฏิบัติต่อสตรี และมีข้อห่วงกังวลและข้อเสนอแนะที่ให้ไทยพิจารณาดำเนินการรวมทั้งสิ้น ๒๑ ประเด็น โดยไทยต้องนำข้อเสนอแนะของคณะกรรมการฯ มาปรับปรุง แก้ไข และพัฒนา เพื่อขจัดการเลือกปฏิบัติต่อสตรีในทุกรูปแบบ และเห็นชอบพิจารณาเร่งรัดให้หน่วยงานภาครัฐทุกหน่วยดำเนินการให้สอดคล้องกับอนุสัญญาฯ ตามที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เสนอ ๒. ให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของสำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติและสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นว่า ข้อเสนอแนะที่เกี่ยวข้องกับหลักสมรสและครอบครัว อาทิ ประกันว่าการห้ามมีคู่สมรสหลายคนให้ครอบคลุมถึงจังหวัดชายแดนภาคใต้ ถือเป็นเรื่องละเอียดอ่อนที่เกี่ยวข้องกับหลักศาสนาและบริบทเฉพาะสังคมกลุ่มต่าง ๆ ในพื้นที่มีความแตกต่างกัน ซึ่งการขับเคลื่อนประเด็นดังกล่าวจำเป็นต้องดำเนินการให้สอดคล้องกับบริบทในแต่ละพื้นที่ เพื่อป้องกันมิให้เกิดเงื่อนไขที่จะสร้างความขัดแย้งมากขึ้นในระยะต่อไป และควรให้ความสำคัญกับการบูรณาการความร่วมมือกับทุกภาคส่วนทั้งหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม เพื่อให้การดำเนินงานการพัฒนาสตรีมีประสิทธิภาพและบรรลุตามอนุสัญญาฯ ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
16607 | ขออนุมัติเปลี่ยนแปลงแบบรูปรายการและเพิ่มวงเงินการก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณรายการก่อสร้างอาคารพักแพทย์ พยาบาล เภสัชกร และทันตแพทย์ 88 ยูนิต เป็นอาคาร คสล. 8 ชั้น พื้นที่ใช้สอยประมาณ 6,911 ตารางเมตร โรงพยาบาลสมเด็จพระพุทธเลิศหล้า ตำบลแม่กลอง อำเภอเมืองสมุทรสงคราม จังหวัดสมุทรสงคราม 1 หลัง | สธ | 10/10/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติเปลี่ยนแปลงรูปแบบรายการและเพิ่มวงเงินการก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ รายการก่อสร้างอาคารพักแพทย์ พยาบาล เภสัชกร และทันตแพทย์ ๘๘ ยูนิต เป็นอาคาร คสล. ๘ ชั้น พื้นที่ใช้สอยประมาณ ๖,๙๑๑ ตารางเมตร โรงพยาบาลสมเด็จพระพุทธเลิศหล้า ตำบลแม่กลอง อำเภอเมืองสมุทรสงคราม จังหวัดสมุทรสงคราม ๑ หลัง ในวงเงิน ๙,๐๘๑,๐๐๐ บาท สมทบกับวงเงินค่าก่อสร้างตามสัญญาจ้าง จำนวน ๖๗,๐๐๐,๐๐๐ บาท รวมเป็นวงเงินทั้งสิ้น ๗๖,๐๘๑,๐๐๐ บาท ก่อนลงนามแก้ไขเปลี่ยนแปลงสัญญาจ้าง และเสนอขอรับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีรองรับให้ครบวงเงินค่างานตามสัญญาต่อไป ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ ๒. ให้กระทรวงสาธารณสุขกำชับให้หน่วยงานในสังกัดปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๑ มีนาคม ๒๕๖๐ (เรื่อง การพิจารณาและตรวจสอบความพร้อมในการดำเนินการตามแผนงาน/โครงการของส่วนราชการ และการตรวจสอบข้อมูลผู้ละทิ้งงานราชการ) อย่างเคร่งครัดต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
16608 | ร่างพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งสำนักงานรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | นร12 | 10/10/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งสำนักงานรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งสำนักงานรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) พ.ศ. ๒๕๕๔ เพื่อปรับโครงสร้างและรูปแบบการทำงานของสำนักงานรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) (สรอ.) ให้อยู่ภายใต้การกำกับของนายกรัฐมนตรี ตามที่สำนักงาน ก.พ.ร. เสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณารวมกับร่างพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งสำนักงานรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ซึ่งคณะรัฐมนตรีได้มีมติอนุมัติหลักการเมื่อวันที่ ๘ พฤศจิกายน ๒๕๕๙ แล้วดำเนินการต่อไปได้ ทั้งนี้ ให้สำนักงาน ก.พ.ร. แจ้งผลการพิจารณาของคณะกรรมการพัฒนาและส่งเสริมองค์การมหาชนในการดำเนินการตามมติคณะกรรมการบริหารราชการแผ่นดินเชิงยุทธศาสตร์เกี่ยวกับการปรับโครงสร้างและรูปแบบการทำงานของ สรอ. ให้อยู่ภายใต้การกำกับของนายกรัฐมนตรี ให้สำนักงานคณะกรรมกฤษฎีกาทราบโดยด่วน เพื่อใช้เป็นข้อมูลประกอบการตรวจพิจารณาร่างพระราชกฤษฎีกาในเรื่องนี้ต่อไป ๒. เห็นชอบให้มีคณะกรรมการขับเคลื่อนการพัฒนารัฐบาลดิจิทัลเป็นคณะกรรมการระดับชาติ ประกอบด้วย นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน รองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ เลขาธิการ ก.พ. เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา ปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เป็นกรรมการ โดยมีเลขาธิการ ก.พ.ร. และผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล เป็นกรรมการและเลขานุการร่วม มีอำนาจหน้าที่กำหนดนโยบายและแผนระดับชาติว่าด้วยการพัฒนารัฐบาลดิจิทัลเสนอต่อคณะรัฐมนตรี สนับสนุนการบูรณาการข้อมูลและวิธีการทำงานด้านดิจิทัลระหว่างหน่วยงานของรัฐทุกแห่งให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน ติดตามและประเมินผลการดำเนินงานตามแผนระดับชาติฯ และเสนอแนะต่อคณะรัฐมนตรี เพื่อปรับปรุงกฎหมายหรือระเบียบที่เป็นอุปสรรคต่อการพัฒนารัฐบาลดิจิทัล ตามที่สำนักงาน ก.พ.ร. เสนอ ๓. ให้สำนักงาน ก.พ.ร. รับข้อสังเกตของสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีและสำนักงาน ก.พ. ที่เห็นว่า ร่างพระราชกฤษฎีกาในเรื่องนี้ยังไม่ได้มีการจัดทำหลักการและเหตุผลประกอบร่างพระราชกฤษฎีกาฯ และควรจะกำหนดแนวทางการกำหนดเครื่องแบบขององค์การมหาชนไว้เพื่อให้การกำหนดเครื่องแบบของทุกองค์การมหาชนเป็นไปในแนวทางเดียวกัน รวมทั้งเครื่องหมายของแต่ละองค์การมหาชนด้วย นอกจากนี้ ควรมีการประสานการทำงานด้านนโยบายการขับเคลื่อนการพัฒนารัฐบาลดิจิทัลให้สอดรับกับคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติและคณะกรรมการเฉพาะด้านตามพระราชบัญญัติการพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม พ.ศ. ๒๕๖๐ ตลอดจนยุทธศาสตร์การปรับเปลี่ยนภาครัฐสู่การเป็นรัฐบาลดิจิทัลตามแผนพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
16609 | รายงานผลการตรวจสอบและประเมินผลภาคราชการ และรายงานผลการประเมินตนเองของคณะกรรมการตรวจสอบและประเมินผลภาคราชการคณะต่าง ๆ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2560 (ครั้งที่ 1) | นร12 | 10/10/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. รับทราบและเห็นชอบตามที่สำนักงาน ก.พ.ร. เสนอ ดังนี้ ๑.๑ รับทราบรายงานผลการตรวจสอบและประเมินผลภาคราชการ และรายงานผลการประเมินตนเองของคณะกรรมการตรวจสอบและประเมินผลภาคราชการ (ค.ต.ป.) คณะต่าง ๆ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๐ (ครั้งที่ ๑) ประกอบด้วย (๑) รายงานผลการตรวจสอบและประเมินผลภาคราชการ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๐ (ครั้งที่ ๑) (เป็นผลการติดตาม ตรวจสอบ และประเมินผลสัมฤทธิ์ในกลุ่มแผนงาน/โครงการประเภทที่ ๓ : การประเมินผลสัมฤทธิ์โครงการในภาพรวม) และ (๒) รายงานผลการประเมินตนเองของ ค.ต.ป. และประเมินผลภาคราชการคณะต่าง ๆ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๐ (ครั้งที่ ๑) ตามมติที่ประชุม ค.ต.ป. ครั้งที่ ๒/๒๕๖๐ เมื่อวันที่ ๓๑ พฤษภาคม ๒๕๖๐ ๑.๒ เห็นชอบข้อเสนอแนะตามบันทึกความเห็นของ ค.ต.ป. เกี่ยวกับการปรับปรุงคุณภาพของการบริหารงาน รวมทั้งการปรับปรุงขีดสมรรถนะและศักยภาพ เพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งของการกำกับดูแลและควบคุมตนเองที่ดีของส่วนราชการ อันจะนำไปสู่การบรรลุผลตามเจตนารมณ์ตามหลักการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี และเห็นควรแจ้งให้รัฐมนตรี หัวหน้าส่วนราชการระดับกระทรวง กรม และจังหวัด ที่มีประเด็นสมควรปรับปรุงแก้ไขได้ดำเนินการตามข้อเสนอแนะของ ค.ต.ป. ดังกล่าว พร้อมทั้งรายงานผลความก้าวหน้าในการดำเนินการต่อ ค.ต.ป. คณะต่าง ๆ ต่อไป ๒. ให้สำนักงาน ก.พ.ร. รับความเห็นของกระทรวงการคลังเกี่ยวกับการกำหนดแนวทางการตรวจสอบและประเมินผลของ ค.ต.ป. ควรให้ความสำคัญกับแผนงาน/โครงการตามยุทธศาสตร์ของรัฐบาลที่มีความเสี่ยงสูงที่อาจส่งผลกระทบต่อการบรรลุผลตามเป้าหมายในยุทธศาสตร์ของรัฐบาล ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
16610 | แผนยุทธศาสตร์การกำกับกิจการพลังงาน ฉบับที่ 3 (พ.ศ. 2561 - 2564) และแผนการดำเนินงาน งบประมาณรายจ่าย และประมาณการรายได้ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2561 ของสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน | พน | 10/10/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. รับทราบและเห็นชอบตามที่กระทรวงพลังงานเสนอ ดังนี้ ๑.๑ รับทราบกรอบแผนยุทธศาสตร์การกำกับกิจการพลังงาน ฉบับที่ ๓ (พ.ศ. ๒๕๖๑-๒๕๖๔) และกรอบการดำเนินงาน งบประมาณรายจ่ายและประมาณการรายได้ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑-๒๕๖๔ และรับทราบผลการดำเนินงาน การจัดเก็บรายได้ และการใช้จ่าย ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๐ ของสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน ๑.๒ เห็นชอบแผนการดำเนินงาน งบประมาณรายจ่าย และประมาณการรายได้ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ ของสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน วงเงินงบประมาณรายจ่าย ๙๐๒.๓๒ ล้านบาท และประมาณการรายได้ ๙๐๒.๓๗ ล้านบาท ๑.๓ เห็นชอบอัตราค่าธรรมเนียมใบอนุญาตเป็นหน่วยตรวจสอบและรับรองมาตรฐานของอุปกรณ์ที่ใช้เชื่อมต่อระบบโครงข่ายไฟฟ้า ใบแทนใบอนุญาต และการต่อใบอนุญาต จำนวน ๑๐,๐๐๐ ๒,๐๐๐ และ ๕,๐๐๐ บาทต่อฉบับ ตามลำดับ เพิ่มเติมในแผนการกำหนดอัตราค่าธรรมเนียมและผลประโยชน์อื่นอันได้จากการดำเนินงานตามพระราชบัญญัติการประกอบกิจการพลังงาน พ.ศ. ๒๕๕๐ ๒. ให้คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงานรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรพิจารณาทบทวนความเหมาะสมของระยะเวลาการยกเว้นให้เอกชนที่มีศักยภาพเป็นหน่วยตรวจสอบและรับรองมาตรฐานอุปกรณ์ที่ใช้เชื่อมต่อกับระบบโครงข่ายไฟฟ้า และเร่งพิจารณาเพื่อเปิดโอกาสให้ภาคเอกชนที่มีศักยภาพสามารถขอรับใบอนุญาตเป็นหน่วยตรวจสอบและรับรองมาตรฐานของอุปกรณ์ที่ใช้เชื่อมต่อกับระบบโครงข่ายไฟฟ้า เพื่อส่งเสริมการแข่งขันในกิจการไฟฟ้า และสร้างทางเลือกให้แก่ผู้ใช้บริการ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย ๓. ให้กระทรวงพลังงานร่วมกับคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงานกำกับดูแลการบริหารงบประมาณของสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงานตามแผนงบประมาณรายจ่ายและประมาณการรายได้ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ และกรอบงบประมาณรายจ่ายและประมาณการรายได้ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑-๒๕๖๔ ให้เกิดความคุ้มค่าและเหมาะสม ทั้งนี้ ตามนัยมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๑ ตุลาคม ๒๕๕๙ (เรื่อง แผนการดำเนินงาน งบประมาณรายจ่าย และประมาณการรายได้ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๐ ของสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน)
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
16611 | โครงการจัดหาเครื่องตรวจจับความเร็วแบบพกพา เพื่อใช้ในการดำเนินการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน | มท | 10/10/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๐ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น จำนวน ๕๗๓,๐๗๕,๐๐๐ บาท สำหรับจัดหาเครื่องตรวจจับความเร็วแบบพกพา จำนวน ๘๔๙ เครื่อง ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ประธานกรรมการและผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนเสนอ ทั้งนี้ ให้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน) ดำเนินการให้ถูกต้อง เป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบ หลักเกณฑ์ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
16612 | การขอรับการสนับสนุนงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2561 จากงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น (ที่เผาดอกไม้จันทน์ฯ) | มท | 10/10/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติให้กระทรวงมหาดไทย โดยสำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย กรมการปกครอง และกรุงเทพมหานคร เบิกจ่ายจากงบประมาณในกรอบวงเงินที่คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติ จำนวน ๒๐๓,๗๓๐,๐๐๐ บาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการก่อสร้างที่เผาดอกไม้จันทน์ งานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช จำนวน ๘๕๒ แห่ง ค่าอุปกรณ์ตกแต่งที่เผาดอกไม้จันทน์ สำหรับ ๘๗๘ อำเภอ และค่าถุงบรรจุเถ้าดอกไม้จันทน์ พร้อมค่าขนส่ง จำนวน ๕,๐๐๐ ใบ ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ๒. ให้กระทรวงมหาดไทยได้รับการยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
16613 | ขออนุมัติก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณสำหรับรายการงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2561 | นร07 | 10/10/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. อนุมัติและเห็นชอบการขออนุมัติก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณสำหรับรายการงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ ตามที่สำนักงบประมาณเสนอ ดังนี้ ๑.๑ อนุมัติให้ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานอื่นก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณรายการก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณรายการใหม่ สำหรับรายการก่อหนี้ผูกพันรายการใหม่ที่มีวงเงินรวมตั้งแต่ ๑,๐๐๐ ล้านบาทขึ้นไป จำนวน ๔๕ รายการ เห็นสมควรให้ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานอื่นเจ้าของเรื่องพิจารณา และนำเสนอนายกรัฐมนตรีทราบอีกครั้งหนึ่งก่อนดำเนินการต่อไป ๑.๒ อนุมัติให้ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานอื่นที่ไม่สามารถดำเนินการตามหลักเกณฑ์การก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ ตามข้อ ๑.๓ และข้อ ๑.๖ ตามนัยมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๐ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๒ (เรื่อง การปรับปรุงแก้ไขมติคณะรัฐมนตรีเกี่ยวกับหลักเกณฑ์การก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณและมาตรการอื่นที่เกี่ยวข้อง) สามารถดำเนินการก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณตามที่เสนอได้ ๑.๓ รายการก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณที่จะต้องจ่ายในรูปของเงินตราต่างประเทศ เช่น รายการค่าเช่าบ้าน ค่าเช่าอาคารสำนักงาน และค่าเช่าทรัพย์สินในต่างประเทศ ฯลฯ ให้สำนักงบประมาณพิจารณาอนุมัติวงเงินผูกพันที่เปลี่ยนแปลงไปจากที่ได้รับอนุมัติเนื่องจากอัตราแลกเปลี่ยน ในกรณีที่ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานอื่น สามารถปรับแผนใช้จ่ายงบประมาณได้โดยไม่ต้องเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาให้ความเห็นชอบอีกครั้ง ๑.๔ ให้ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานอื่นเร่งรัดดำเนินการให้เป็นไปตามแผนปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ โดยเฉพาะรายการก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณรายการใหม่ ขอให้รัฐมนตรีเจ้าสังกัดกำกับดูแลและเร่งรัดการดำเนินงานให้เป็นไปตามแผนฯ และติดตามผลการดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง ๒. ให้สำนักงบประมาณได้รับการยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
16614 | ขยายเวลาการไว้ทุกข์และการลดธงครึ่งเสาในช่วงงานพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร | นร05 | 10/10/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้ทบทวนมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๖ กันยายน ๒๕๖๐ ตามที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอ ดังนี้
๑. ขยายเวลาการไว้ทุกข์ของข้าราชการ พนักงานรัฐวิสาหกิจ และเจ้าหน้าที่ของรัฐ โดยขยายจากวันศุกร์ที่ ๑๓ ตุลาคม ๒๕๖๐ ไปจนถึงวันอาทิตย์ที่ ๒๙ ตุลาคม ๒๕๖๐ ๒. ให้สถานที่ราชการ รัฐวิสาหกิจ หน่วยงานของรัฐ สถานศึกษา และสถานที่ทำการของรัฐ ทั้งในและต่างประเทศลดธงครึ่งเสา ตั้งแต่วันศุกร์ที่ ๑๓ ตุลาคม ๒๕๖๐ ถึงวันอาทิตย์ที่ ๒๙ ตุลาคม ๒๕๖๐ รวม ๑๗ วัน ๓. ให้ข้าราชการและเจ้าหน้าที่ของรัฐ ออกทุกข์ตั้งแต่วันจันทร์ที่ ๓๐ ตุลาคม ๒๕๖๐ เป็นต้นไป ๔. ให้เริ่มเก็บผ้าระบาย ป้ายส่งเสด็จสู่สวรรคาลัย ตามสถานที่ต่าง ๆ ตั้งแต่คืนวันอาทิตย์ที่ ๒๙ ตุลาคม ๒๕๖๐ นอกจากนี้ ให้เป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๖ กันยายน ๒๕๖๐
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
16615 | การปรับปรุงปฏิทินงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 | นร07 | 10/10/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบการปรับปรุงปฏิทินงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๒ ที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติให้ความเห็นชอบเมื่อวันที่ ๑ สิงหาคม ๒๕๖๐ ในขั้นตอนและกิจกรรม ลำดับที่ ๖ และ ๑๐-๑๖ ตามที่สำนักงบประมาณเสนอ ๒. ให้สำนักงบประมาณได้รับการยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
16616 | การแต่งตั้งผู้ที่จะดำรงตำแหน่งรองเลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา (นักบริหารสูง) (สำนักนายกรัฐมนตรี) (นางพงษ์สวาท กายอรุณสุทธิ์) | นร09 | 10/10/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นางพงษ์สวาท กายอรุณสุทธิ์ ข้าราชการพลเรือนสามัญ ให้ดำรงตำแหน่งรองเลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สำนักนายกรัฐมนตรี ตั้งแต่วันที่ ๖ ตุลาคม ๒๕๖๐ ซึ่งเป็นวันที่มีคำสั่งให้รักษาราชการแทนในตำแหน่งดังกล่าว เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่าง ตามที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
16617 | การแต่งตั้งข้าราชการให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา) (นายทวีศักดิ์ วาณิชย์เจริญ) | กก | 10/10/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายทวีศักดิ์ วาณิชย์เจริญ ข้าราชการพลเรือนสามัญ ให้ดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไป เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่าง ตามที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
16618 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (กระทรวงแรงงาน) (นายอนันต์ชัย อุทัยพัฒนาชีพ) | รง | 10/10/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายอนันต์ชัย อุทัยพัฒนาชีพ ข้าราชการพลเรือนสามัญ ให้ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน กระทรวงแรงงาน ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไป เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่าง ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
16619 | การแต่งตั้งข้าราชการการเมือง [ตำแหน่งเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ (นายอดิสัย ธรรมคุปต์)] | พณ | 10/10/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการแต่งตั้ง นายอดิสัย ธรรมคุปต์ เป็นข้าราชการการเมือง ตำแหน่งเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ แทนตำแหน่งที่ว่าง โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๑๐ ตุลาคม ๒๕๖๐) เป็นต้นไป ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์เสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
16620 | แต่งตั้งกรรมการอื่นในคณะกรรมการองค์การสะพานปลา แทนตำแหน่งที่ว่าง (นางนงลักษณ์ ขวัญแก้ว) | กษ | 10/10/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นางนงลักษณ์ ขวัญแก้ว ผู้แทนกระทรวงการคลัง เป็นกรรมการอื่นในคณะกรรมการองค์การสะพานปลา แทนตำแหน่งที่ว่าง โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๑๐ ตุลาคม ๒๕๖๐) เป็นต้นไป ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ
|
.....