ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 659 จากทั้งหมด 6212 หน้า แสดงรายการที่ 13161 - 13180 จากข้อมูลทั้งหมด 124231 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
13161 | ร่างประกาศคณะกรรมการนโยบายการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน เรื่อง กิจการเกี่ยวเนื่องที่จำเป็นเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ของการดำเนินกิจการเกี่ยวกับโครงสร้างพื้นฐานและบริการสาธารณะ ตามมาตรา 7 (3) แห่งพระราชบัญญัติการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน พ.ศ. 2562 พ.ศ. .... | กค | 24/04/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบในหลักการร่างประกาศคณะกรรมการนโยบายการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน เรื่อง กิจการเกี่ยวเนื่องที่จำเป็นเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ของการดำเนินกิจการเกี่ยวกับโครงสร้างพื้นฐานและบริการสาธารณะตามมาตรา ๗ (๓) แห่งพระราชบัญญัติการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน พ.ศ. ๒๕๖๒ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดกิจการเกี่ยวเนื่องที่จำเป็นเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ของการดำเนินกิจการเกี่ยวกับโครงสร้างพื้นฐานและบริการสาธารณะในกรณีกิจการท่าอากาศยานและกิจการการขนส่งทางอากาศตามมาตรา ๗ (๓) แห่งพระราชบัญญัติการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน พ.ศ. ๒๕๖๒ พ.ศ. .... ตามที่คณะกรรมการนโยบายการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชนเสนอ และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน โดยให้รับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเกี่ยวกับร่างข้อ ๓ (๓) และ (๔) อาจมีการใช้ถ้อยคำที่ซ้ำซ้อนกัน จึงควรตรวจสอบการใช้ถ้อยคำเพื่อให้เกิดความชัดเจน ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงการคลังรับความเห็นของกระทรวงคมนาคมที่เห็นว่า อุตสาหกรรมการบินเป็นกิจการที่มีการแข่งขันสูงและมีการปรับเปลี่ยนอย่างรวดเร็ว จึงควรติดตามการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวเพื่อพิจารณารายละเอียดของประกาศฯ ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ในอุตสาหกรรมการบินต่อไป และให้คณะกรรมการนโยบายการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชนรับความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรพิจารณากำหนดกลไกเพื่อรองรับการดำเนินงานต่าง ๆ ให้เกิดความชัดเจน ได้แก่ (๑) แนวทางการพิจารณาทบทวนกำหนดประเภทกิจการเกี่ยวเนื่องที่จำเป็นให้มีความครอบคลุมสอดคล้องกับสถานการณ์การพัฒนา รวมทั้งข้อกฎหมาย กฎ ระเบียบ ข้อบังคับ ประกาศหรือคำสั่งในแต่ละช่วงเวลาในอนาคตที่สามารถดำเนินการได้อย่างยืดหยุ่นและทันต่อการเปลี่ยนแปลงในอนาคต และ (๒) ในกรณีที่เห็นว่าโครงการร่วมลงทุนที่ไม่ได้จัดอยู่ในประเภทกิจการเกี่ยวเนื่องจำเป็นแต่เป็นการลงทุนที่มีความสำคัญต่อความสำเร็จในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและบริการสาธารณะตามมาตรา ๗ จะต้องมีกลไกที่กำหนดให้คณะกรรมการนโยบายการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชนสามารถกำหนดให้หน่วยงานเจ้าของโครงการต้องดำเนินการตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่กำหนดไว้ในพระราชบัญญัตินี้ได้เช่นเดียวกันกับหลักการที่ได้กำหนดไว้ในมาตรา ๙ ของพระราชบัญญัติการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน พ.ศ. ๒๕๖๒ เพื่อให้การร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชนเป็นไปอย่างโปร่งใส ตรวจสอบได้ และเกิดความคุ้มค่าตามเจตนารมณ์ของกฎหมาย ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป ๓. ให้คณะกรรมกรนโยบายการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชนได้รับการยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
13162 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ (นางต้องฤดี มากบุญ) | กต | 24/04/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นางต้องฤดี มากบุญ ข้าราชการพลเรือนสามัญ ให้ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตประจำกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงการต่างประเทศ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไป เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่าง ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
13163 | การเสนอชื่อบุคคลเพื่อเข้ารับการคัดเลือกเป็นกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (นายชาติชาย สุทธิกลม) | ปปท. | 24/04/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการเสนอชื่อ นายชาติชาย สุทธิกลม เป็นบุคคลที่คณะรัฐมนตรีสรรหา เพื่อเสนอต่อคณะกรรมการคัดเลือกพิจารณาคัดเลือกเป็นกรรมการในคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ ตามที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐเสนอ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๒๔ เมษายน ๒๕๖๒) เป็นต้นไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
13164 | การแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการพัฒนาและส่งเสริมองค์การมหาชน (จำนวน 2 คน 1. นายปีติพงศ์ พึ่งบุญ ณ อยุธยา และนายเทวินทร์ วงศ์วานิช) | นร12 | 24/04/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการพัฒนาและส่งเสริมองค์การมหาชน แทนผู้ที่ลาออก จำนวน ๒ คน ได้แก่ นายปีติพงศ์ พึ่งบุญ ณ อยุธยา และนายเทวินทร์ วงศ์วานิช ตามที่สำนักงาน ก.พ.ร. เสนอ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๒๔ เมษายน ๒๕๖๒) เป็นต้นไป และให้สำนักงาน ก.พ.ร. ดำเนินการแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการพัฒนาและส่งเสริมองค์การมหาชนในครั้งต่อไปให้เป็นไปตามกรอบระยะเวลาที่กฎหมายกำหนดไว้อย่างเคร่งครัด ตามนัยมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๙ (เรื่อง การดำเนินการแต่งตั้งกรรมการในคณะกรรมการต่าง ๆ ตามที่กฎหมายบัญญัติให้เป็นไปตามกรอบระยะเวลาตามกฎหมาย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
13165 | การแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการบริหารศูนย์ความเป็นเลิศด้านชีววิทยาศาสตร์ (นายนิวัฒน์ มนตรีวสุวัฒน์ และคณะ) | วท | 24/04/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. อนุมัติแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการบริหารศูนย์ความเป็นเลิศด้านชีววิทยาศาสตร์ แทนตำแหน่งที่ว่าง จำนวน ๓ คน โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๒๔ เมษายน ๒๕๖๒) เป็นต้นไป และให้อยู่ในตำแหน่งเท่ากับวาระที่เหลืออยู่ของกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งได้แต่งตั้งไว้แล้ว ตามที่กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเสนอ ดังนี้ ๑.๑ นายนิวัฒน์ มนตรีวสุวัฒน์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านชีววิทยาศาสตร์ ๑.๒ นางศันสนีย์ ไชยโรจน์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านชีววิทยาศาสตร์ ๑.๓ นายสุรศักดิ์ วงศ์รัตนชีวิน กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านการบริหาร ๒. ให้กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีดำเนินการแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการบริหารศูนย์ความเป็นเลิศด้านชีววิทยาศาสตร์ในครั้งต่อไปให้เป็นไปตามกรอบระยะเวลาที่กฎหมายกำหนดไว้อย่างเคร่งครัด ตามนัยมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๙ (เรื่อง การดำเนินการแต่งตั้งกรรมการในคณะกรรมการต่าง ๆ ตามที่กฎหมายบัญญัติให้เป็นไปตามกรอบระยะเวลาตามกฎหมาย)
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
13166 | ความก้าวหน้ามาตรการพัฒนาอุตสาหกรรมชีวภาพของไทย ปี พ.ศ. 2561-2570 | อก | 24/04/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานความก้าวหน้ามาตรการพัฒนาอุตสาหกรรมชีวภาพของไทย ปี พ.ศ. ๒๕๖๑-๒๕๗๐ ประกอบด้วย (๑) มาตรการขจัดอุปสรรคการลงทุนและสร้างปัจจัยสนับสนุน (๒) ผลการดำเนินงานขยายผลมาตรการฯ เพื่อให้เกิดการพัฒนาเศรษฐกิจชีวภาพ (Bioeconomy) ในพื้นที่ส่วนภูมิภาคที่มีศักยภาพของประเทศตามนโยบายของรัฐบาล และ (๓) การดำเนินงานในระยะต่อไป ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
13167 | ข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี | นร05 | 24/04/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
ในคราวประชุมคณะรัฐมนตรี นายกรัฐมนตรีมีข้อสั่งการด้านการบริหารราชการแผ่นดินและอื่น ๆ ดังนี้ ให้ทุกกระทรวงเร่งจัดทำสรุปผลงานของกระทรวง โดยมุ่งเน้นผลงานที่สำคัญซึ่งเป็นการป้องกันการแก้ไขปัญหา การให้บริการประชาชนในด้านต่าง ๆ รวมถึงการปรับปรุงและพัฒนาประเทศในภาพรวม โดยระบุข้อมูลให้ชัดเจนและเป็นรูปธรรมแล้วส่งให้สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีโดยเร็วภายในเดือนเมษายน ๒๕๖๒ เพื่อรวบรวมและจัดทำเป็นสื่อในรูปแบบต่าง ๆ เพื่อเผยแพร่และสร้างการรับรู้แก่สาธารณชนให้ถูกต้องและทั่วถึงต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
13168 | แนวทางการดำเนินการเกี่ยวกับกฎหมายหลักประกันทางธุรกิจตามตัวชี้วัดการพัฒนาการได้รับสินเชื่อ (Getting Credit) ของการปรับปรุงสภาพแวดล้อม สำหรับการประกอบธุรกิจในประเทศไทยของธนาคารโลก (Ease of Doing Business) | นร12 | 17/04/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. มอบหมายให้กระทรวงพาณิชย์เป็นหน่วยงานหลักร่วมกับกระทรวงการคลัง สำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่มีระบบจดทะเบียนทรัพย์สินซึ่งก่อให้เกิดสิทธิในหลักประกันของสังหาริมทรัพย์ทุกประเภทเร่งดำเนินการเชื่อมโยงฐานข้อมูลการจดทะเบียนทรัพย์สินเข้าด้วยกัน โดยใช้ระบบที่เหมาะสม เพื่อให้ฐานข้อมูลทะเบียนทรัพย์สินมีความครบถ้วน ทันสมัย และสามารถสืบค้นได้ ณ ที่เดียว รวมทั้งให้รับความเห็นของกระทรวงคมนาคม กระทรวงมหาดไทย และกระทรวงอุตสาหกรรมที่เห็นว่า ในการเชื่อมโยงฐานข้อมูลดังกล่าวต้องไม่ขัดต่อกฎหมายที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และควรมีแนวทางป้องกันเพื่อมิให้เกิดการละเมิดนำข้อมูลไปใช้ในการแสวงหาผลประโยชน์ รวมทั้งควรพิจารณาดำเนินการด้วยความรอบคอบและพิจารณาให้ครอบคลุมการดำเนินการด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ (Cyber Security) เพื่อให้พร้อมรับมือกับภัยคุกคามที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต และควรให้มีการตรวจสอบผู้เข้าถึงแหล่งข้อมูลเพื่อป้องกันการกระทบสิทธิของผู้ที่เกี่ยวข้อง ความปลอดภัยของข้อมูล และการตรวจทานข้อมูลให้มีความถูกต้อง ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย ๒. มอบหมายให้กระทรวงการคลังร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงยุติธรรม และสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาดำเนินการศึกษากฎหมายเกี่ยวกับหลักประกันทางธุรกิจทั้งระบบ เพื่อพัฒนากฎหมายเกี่ยวกับหลักประกันของประเทศไทยให้สอดคล้องกับบริบทที่เปลี่ยนแปลงไป โดยให้ดำเนินการตามมาตรา ๗๗ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยโดยเคร่งครัด เพื่อให้กฎหมายเป็นที่ยอมรับของทุกภาคส่วนต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
13169 | ผลการดำเนินงานตามแผนปฏิบัติการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ด้านการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน และการต่อต้านการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้าย พ.ศ. 2560 - 2564 รอบไตรมาสที่ 4 ของปีงบประมาณ พ.ศ. 2561 | ปง | 17/04/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบผลการดำเนินงานตามแผนปฏิบัติการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ด้านการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน และการต่อต้านการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้าย พ.ศ. ๒๕๖๐-๒๕๖๔ รอบไตรมาสที่ ๔ ของปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ และรับทราบปัญหา/อุปสรรคในการดำเนินงานตามแผนปฏิบัติการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ฯ และข้อเสนอแนวทางการแก้ไข โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้บูรณาการเพื่อขับเคลื่อนโครงการ/กิจกรรมภายใต้แผนปฏิบัติการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ฯ จำนวนทั้งสิ้น ๗๓ โครงการ/กิจกรรม มีผลการดำเนินการแล้วเสร็จ ๕๓ โครงการ/กิจกรรม (คิดเป็นร้อยละ ๗๒.๖๐) และอยู่ระหว่างดำเนินการ ๒๐ โครงการ/กิจกรรม (คิดเป็นร้อยละ ๒๗.๔๐) ตามที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินเสนอ ๒. ให้สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรดำเนินการตามข้อเสนอแนวทางแก้ไข เพื่อจะได้มีการปรับปรุงแผนปฏิบัติการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ฯ ให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ และแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ ตามนัยมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๗ มีนาคม ๒๕๖๒ และควรดำเนินการตามนัยมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๗ มิถุนายน ๒๕๖๑ ในการรายงานผลการดำเนินการตามแผนระดับ ๓ ผ่านระบบติดตาม ตรวจสอบ และประเมินผล (eMENSCR) ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
13170 | รายงานผลการพิจารณาแผนระดับที่ 3 (ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2562) | นร11 | 17/04/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบบัญชีรายชื่อแผนระดับที่ ๓ (ณ สิ้นเดือนมีนาคม ๒๕๖๒) ที่ผ่านกระบวนการพิจารณาแล้ว จำนวน ๑๑ แผนงาน ตามที่สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอ ดังนี้
๑. ร่างแผนปฏิบัติการด้านการพัฒนาเด็กปฐมวัย (พ.ศ. ๒๕๖๑-๒๕๖๔) กระทรวงศึกษาธิการ ๒. ร่างแผนแม่บทการบริหารงานยุติธรรมแห่งชาติ ฉบับที่ ๓ (พ.ศ. ๒๕๖๒-๒๕๖๕) คณะกรรมการบริหารงานยุติธรรมแห่งชาติ ๓. ร่างนโยบายแห่งชาติด้านยาและแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาระบบยาแห่งชาติ (พ.ศ. ๒๕๖๐-๒๕๖๔) กระทรวงสาธารณสุข ๔. ร่างแผนปฏิบัติการเฝ้าระวังป้องกัน และควบคุมโรคติดต่อหรือโรคระบาด (พ.ศ. ๒๕๖๒-๒๕๖๔) ตามพระราชบัญญัติโรคระบาด พ.ศ. ๒๕๕๘ กระทรวงสาธารณสุข ๕. แผนการจัดการศึกษาสำหรับคนพิการ ฉบับที่ ๓ (พ.ศ. ๒๕๖๐-๒๕๖๔) กระทรวงศึกษาธิการ ๖. แผนผู้สูงอายุแห่งชาติ ฉบับที่ ๒ (พ.ศ. ๒๕๔๕-๒๕๖๔) ฉบับปรับปรุงครั้งที่ ๒ พ.ศ. ๒๕๖๑ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ๗. แผนปฏิบัติการด้านการส่งเสริมและพัฒนาองค์กรภาคประชาสังคม ระยะที่ ๑ (พ.ศ. ๒๕๖๑-๒๕๖๔) กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ๘. ร่างแผนจัดการเพื่อคุ้มครองสมุนไพรในพื้นที่เขตอนุรักษ์บ้านป่าเกี๊ยะ ตำบลท่าก๊อ อำเภอแม่สรวย จังหวัดเชียงราย (พ.ศ. ๒๕๖๑-๒๕๖๓) กระทรวงสาธารณสุข ๙. มาตรการสร้างและพัฒนากำลังคนภาครัฐเชิงกลยุทธ์เพื่อการไปสู่ดิจิทัลไทยแลนด์ สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน ๑๐. ร่างแผนปฏิบัติการด้านการสร้างเสริมกิจการเพื่อสังคม ระยะที่ ๑ (พ.ศ. ๒๕๖๑-๒๕๖๔) กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ๑๑. ร่างแผนปฏิบัติการการจัดการมูลฝอยติดเชื้อ (พ.ศ. ๒๕๖๒-๒๕๖๔) กระทรวงสาธารณสุข (กรมอนามัย)
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
13171 | โครงการก่อสร้างทางวิ่งเส้นที่ 3 ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ของบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) | คค | 17/04/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติโครงการก่อสร้างทางวิ่งเส้นที่ ๓ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ของบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.) วงเงินลงทุนรวม ๒๑,๗๙๕.๙๔๑ ล้านบาท โดยเป็นการก่อสร้างทางวิ่งทางฝั่งตะวันตก (ฝั่งเดียวกับอาคารคลังสินค้าและทางวิ่งฝั่งตะวันตก ความยาว ๓,๗๐๐ เมตร) มีความกว้าง ๖๐ เมตร และความยาว ๔,๐๐๐ เมตร ขนานไปกับทางวิ่งฝั่งตะวันตก โดยโครงการฯ จะรวมถึงการจัดหาระบบเครื่องช่วยเดินอากาศยาน การก่อสร้างระบบระบายน้ำ และสถานีกู้ภัยและดับเพลิง รวมถึงสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นที่เกี่ยวข้อง ซึ่งโครงการฯ จะเป็นการเพิ่มขีดความสามารถของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิให้สามารถรองรับปริมาณการจราจรทางอากาศที่จะเพิ่มขึ้นในอนาคตและรองรับการปิดทางวิ่งเพื่อซ่อมบำรุงหรือในกรณีฉุกเฉิน รวมทั้งยังอำนวยความสะดวกให้แก่เที่ยวบินขนสินค้าด้วย ทั้งนี้ ทอท. จะสามารถลงนามผูกพันในสัญญาก่อสร้างโครงการฯ ได้ เมื่อรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมสำหรับโครงการหรือกิจการที่อาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อชุมชนอย่างรุนแรงทั้งทางด้านคุณภาพสิ่งแวดล้อมทรัพยากรธรรมชาติและสุขภาพ (Environmental Health Impact Assessment : EHIA) ได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติแล้ว ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ ๒. ให้กระทรวงคมนาคมรับความเห็นของกระทรวงมหาดไทย สำนักงบประมาณ สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ รวมทั้งข้อสังเกตของกระทรวงการคลัง เช่น ควรเร่งดำเนินโครงการฯ ให้เป็นไปตามเป้าหมาย ควรใช้มาตรการการก่อสร้างที่เหมาะสมกับสภาพพื้นที่ ควรจัดทำแผนการซ่อมแซมใหญ่ทางวิ่งเส้นที่ ๑ และทางวิ่งเส้นที่ ๒ ให้สอดคล้องกับการเปิดใช้งานทางวิ่งเส้นที่ ๓ ควรวางแผนการก่อสร้างทางวิ่งเส้นที่ ๔ ให้สอดคล้องกับแนวโน้มปริมาณการจราจรทางอากาศในอนาคต ควรบริหารจัดการเรื่องการเงินและการลงทุนให้เหมาะสม โดยอาจพิจารณากำหนดแผนการบริหารความเสี่ยงในกรณีที่ผลการดำเนินงานทางด้านการเงินไม่เป็นไปตามประมาณการที่ตั้งไว้ ควรให้ความสำคัญกับการวางแผนทางการเงินขององค์กรในระยะยาว และควรกำกับติดตามการดำเนินโครงการฯ ให้เป็นไปตามแผนงาน เป็นต้น ไปพิจารณาดำเนินการด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
13172 | (ร่าง) Roadmap การจัดการขยะพลาสติก พ.ศ. 2561 - 2573 | ทส | 17/04/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบ (ร่าง) Roadmap การจัดการขยะพลาสติก พ.ศ. ๒๕๖๑-๒๕๗๓ เพื่อใช้เป็นกรอบนโยบายการบริหารจัดการขยะพลาสติกในภาพรวมของประเทศ สำหรับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำไปใช้เป็นกรอบแนวทางการจัดทำแผนปฏิบัติการด้านการจัดการขยะพลาสติกแบบบูรณาการของหน่วยงานเพื่อบรรลุเป้าหมายที่กำหนดไว้ตาม (ร่าง) Roadmap โดยตั้งเป้าหมายในการลดและเลิกใช้พลาสติกบางประเภทภายในปี พ.ศ. ๒๕๖๒ เช่น พลาสติกหุ้มฝาขวดน้ำดื่มด้วยการใช้วัสดุทดแทนที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และเลิกใช้พลาสติกประเภทถุงพลาสติกหูหิ้ว กล่องโฟมบรรจุอาหาร แก้วพลาสติก (แบบบางใช้ครั้งเดียว) และหลอดพลาสติก ภายในปี พ.ศ. ๒๕๖๕ รวมทั้งมีการกำหนดหน่วยงานต่าง ๆ ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการดำเนินงานตาม (ร่าง) Roadmap ในทุกภาคส่วน และกำหนดกลไกต่าง ๆ ในการขับเคลื่อน เช่น สร้างความรู้ ความเข้าใจกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้เกิดความร่วมมือการดำเนินงานรณรงค์ประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อสังคมออนไลน์ เป็นต้น ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ ๒. ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยกรมควบคุมมลพิษ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องปรับปรุง (ร่าง) Roadmap และ (ร่าง) แผนปฏิบัติการด้านการจัดการขยะพลาสติก พ.ศ.๒๕๖๑-๒๕๗๓ ให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติและแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๒ มีนาคม ๒๕๖๒ [เรื่อง (ร่าง) แผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ] ก่อนเสนอไปยังสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติพิจารณากลั่นกรองตามขั้นตอนของมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๔ ธันวาคม ๒๕๖๐ (เรื่อง แนวทางการเสนอแผนเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี) ต่อไป ตามความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ รวมทั้งให้รับความเห็นของกระทรวงการคลัง กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงมหาดไทย สำนักงบประมาณ และข้อเสนอแนะของกระทรวงพลังงานและกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เช่น (๑) ควรให้ความสำคัญในการเสริมสร้างความรู้ ความเข้าใจ การเตรียมความพร้อมให้แก่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และสนับสนุนงบประมาณในการดำเนินการสำหรับโครงการที่มีการลงทุนสูงให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (๒) หากจะให้ (ร่าง) Roadmap มีความสอดคล้องกับทิศทางของการหารือในเวทีระหว่างประเทศและมีความสมบูรณ์ยิ่งขึ้นอาจพิจารณาเพิ่มมิติของการบริหารจัดการขยะด้วย (๓) ให้ความสำคัญในการเสริมสร้างความรู้ ความเข้าใจ การเตรียมความพร้อมให้แก่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และสนับสนุนงบประมาณในการดำเนินการสำหรับโครงการที่มีการลงทุนให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และ (๔) มอบหมายให้กรมควบคุมมลพิษร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดทำ/ปรับปรุงแผนปฏิบัติการด้านการจัดการขยะพลาสติก พ.ศ. ๒๕๖๑-๒๕๗๓ เพื่อขับเคลื่อนการดำเนินงานตาม (ร่าง) Roadmap และให้นำแผนปฏิบัติการดังกล่าวเสนอสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเพื่อพิจารณาตามนัยมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๔ ธันวาคม ๒๕๖๐ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
13173 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทานแม่น้ำเจ้าพระยาเป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน พ.ศ. .... | กษ | 17/04/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทานแม่น้ำเจ้าพระยาเป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้ทางน้ำชลประทานแม่น้ำเจ้าพระยา ในท้องที่ตำบลพยุหะ และตำบลน้ำทรง อำเภอพยุหะคีรี จังหวัดนครสวรรค์ และในท้องที่ตำบลโกรกพระ และตำบลยางตาล อำเภอโกรกพระ จังหวัดนครสวรรค์ เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน โดยเรียกเก็บจากผู้ใช้น้ำที่นำน้ำไปใช้เพื่อกิจการโรงงาน การประปา หรือกิจการอื่นที่มิใช่การเกษตรกรรม เพื่อควบคุมดูแลปริมาณของน้ำ และเพื่อให้การใช้น้ำเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
13174 | ร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการบริหารระบบการเตือนภัยพิบัติแห่งชาติ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | มท | 17/04/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการบริหารระบบการเตือนภัยพิบัติแห่งชาติ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการบริหารระบบการเตือนภัยพิบัติแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๕๒ เพื่อให้สอดคล้องกับมาตรา ๑๘ แห่งพระราชบัญญัติปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม (ฉบับที่ ๑๗) พ.ศ. ๒๕๕๙ ที่บัญญัติให้โอนบรรดาอำนาจหน้าที่ของศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร มาเป็นอำนาจหน้าที่ของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กระทรวงมหาดไทย ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา โดยให้รับความเห็นของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรแก้ไขข้อความในส่วนองค์ประกอบของคณะกรรมการบริหารระบบการเตือนภัยพิบัติแห่งชาติ ตามร่างข้อ ๔ จาก “เลขาธิการสำนักนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม...” เป็น “เลขาธิการสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม...” รวมทั้งเพิ่มเลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติเป็นองค์ประกอบในคณะกรรมการบริหารระบบการเตือนภัยพิบัติแห่งชาติ สำหรับการแก้ไขเพิ่มเติมให้ผู้ทรงคุณวุฒิที่นายกรัฐมนตรีแต่งตั้งเป็นรองประธานกรรมการคนที่สาม ตามร่างข้อ ๔ นั้น เมื่อร่างระเบียบนี้กำหนดให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษา และมิได้กำหนดบทเฉพาะกาลรองรับกรณีที่ยังไม่ได้แต่งตั้งตำแหน่งดังกล่าวไว้ กรณีจึงมีความจำเป็นต้องดำเนินการแต่งตั้งรองประธานดังกล่าวทันทีเมื่อระเบียบนี้มีผลใช้บังคับ ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
13175 | ร่างประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง การลดอัตราอากรและยกเว้นอากรศุลกากรตามมาตรา 12 แห่งพระราชกำหนดพิกัดอัตราศุลกากร พ.ศ. 2530 (ฉบับที่ ..) (การยกเว้นอากรขาเข้ายาในกลุ่มยากำพร้า) | กค | 17/04/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบในหลักการร่างประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง การลดอัตราอากรและยกเว้นอากรศุลกากรตามมาตรา ๑๒ แห่งพระราชกำหนดพิกัดอัตราศุลกากร พ.ศ. ๒๕๓๐ (ฉบับที่ ..) มีสาระสำคัญเป็นการยกเว้นอากรขาเข้าผลิตภัณฑ์ยารักษาหรือยาป้องกันโรคในกลุ่มยากำพร้า เฉพาะที่ได้รับการขึ้นทะเบียน และระบุ (P) ต่อท้ายในเลขทะเบียนตำรับยา เว้นแต่ยากำพร้าที่มีการผลิตในประเทศ ๑๑ รายการ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา โดยให้รับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเกี่ยวกับเนื้อหาร่างประกาศดังกล่าวควรกำหนดให้ชัดเจนว่าเป็นการยกเว้นอากรในบัญชีรายการยากำพร้าตามที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยากำหนด เว้นแต่กลุ่มยา ๑๑ รายการที่มีการผลิตในประเทศ ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงการคลังรับความเห็นของกระทรวงสาธารณสุขและสำนักงบประมาณเกี่ยวกับยากำพร้าที่ผลิตในประเทศและยากำพร้าที่ไม่เข้าข่ายที่จะได้รับการลดอัตราอากรและยกเว้นอากรศุลกากร อาจมีการเปลี่ยนแปลงหรือเพิ่มเติมได้ จึงจำเป็นต้องปรับปรุงเป็นระยะเพื่อให้เกิดความเหมาะสมและเป็นปัจจุบัน และควรสร้างการรับรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับมาตรการภาษี รวมทั้งจัดทำประมาณการรายได้ เพื่อกำหนดไว้ในแผนการคลังระยะปานกลาง และใช้เป็นกรอบในการวางแผนการดำเนินการทางการเงินการคลังและงบประมาณของประเทศ ตามพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. ๒๕๖๑ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย ๓. ให้กระทรวงสาธารณสุขรับความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรมีระบบฐานข้อมูลยากำพร้าของประเทศในด้านการผลิต การนำเข้า การกระจาย และการใช้ยากำพร้า ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
13176 | ข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติการเดินอากาศ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | สว | 17/04/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติการเดินอากาศ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ที่เห็นควรแก้ไขเพิ่มเติมเหตุผลประกอบร่างพระราชบัญญัติดังกล่าว รวมทั้งมีข้อสังเกตว่า การจะออกกฎหมายลำดับรองควรมีการประชาสัมพันธ์และรับฟังข้อมูลจากผู้ที่เกี่ยวข้องตามความเหมาะสม และต้องมีกระบวนการที่สามารถเข้าถึงข้อมูลได้ตามสมควร ตลอดจนเห็นควรให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมสั่งการหรือประสานงานให้ภาครัฐและภาคเอกชนที่เกี่ยวข้องจัดทำหรือเตรียมแผนในการค้นหาและช่วยเหลืออากาศยานที่ประสบอุบัติเหตุหรืออุบัติการณ์รุนแรงในบริเวณนอกทะเลอาณาเขตโดยเฉพาะบริเวณไหล่ทวีปซึ่งเป็นแหล่งผลิตปิโตรเลียมของประเทศไทย และมีการใช้อากาศยานเพื่อการลำเลียงขนส่งเป็นประจำ หรือบริเวณพื้นที่ซึ่งไม่ได้อยู่ภายใต้อาณาเขตของประเทศใด เพื่อให้การช่วยเหลือในด้านต่าง ๆ ตามที่เห็นสมควรด้วย ตามที่สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ปฏิบัติหน้าที่สำนักงานเลขาธิการสภานิติบัญญัติแห่งชาติเสนอ ๒. ให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีนำเหตุผลของร่างพระราชบัญญัติการเดินอากาศ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการฯ เป็นเหตุผลของร่างพระราชบัญญัติในเรื่องนี้ในการประกาศราชกิจจานุเบกษาต่อไป ๓. ให้กระทรวงคมนาคมเป็นหน่วยงานหลักรับข้อสังเกตดังกล่าวไปพิจารณาร่วมกับกระทรวงการต่างประเทศและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อพิจารณาศึกษาแนวทางและความเหมาะสมของข้อสังเกตดังกล่าว และสรุปผลการพิจารณาหรือผลการดำเนินการเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวในภาพรวม แล้วส่งให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีภายใน ๓๐ วัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้งคำสั่ง เพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
13177 | ข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติการควบคุมสินค้าที่เกี่ยวข้องกับการแพร่ขยายอาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูง พ.ศ. .... | สว | 17/04/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติการควบคุมสินค้าที่เกี่ยวข้องกับการแพร่ขยายอาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูง พ.ศ. .... ที่เห็นควรแก้ไขเพิ่มเติมเหตุผลประกอบร่างพระราชบัญญัติดังกล่าว รวมทั้งมีข้อสังเกตเกี่ยวกับกระบวนการในการรับรองตนเองผ่านระบบบฐานข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ การพิจารณาอัตราการจัดเก็บค่าธรรมเนียม การกำหนดมาตรการเพื่อตรวจสอบความเชื่อมโยงของการใช้สุดท้ายหรือผู้ใช้สุดท้ายที่เกี่ยวข้องกับการแพร่ขยายอาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูง และการรับฟังความเห็นจากทุกภาคส่วนในการตราพระราชกฤษฎีกาตามร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้ ตามที่สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ปฏิบัติหน้าที่สำนักงานเลขาธิการสภานิติบัญญัติแห่งชาติเสนอ ๒. ให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีนำเหตุผลของร่างพระราชบัญญัติการควบคุมสินค้าที่เกี่ยวข้องกับการแพร่ขยายอาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูง พ.ศ. .... ตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ เป็นเหตุผลของร่างพระราชบัญญัติในเรื่องนี้ในการประกาศในราชกิจจานุเบกษาต่อไป ๓. ให้กระทรวงพาณิชย์เป็นหน่วยงานหลักรับข้อสังเกตดังกล่าวไปพิจารณาร่วมกับกระทรวงกลาโหม กระทรวงการคลัง กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงอุตสาหกรรม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อพิจารณาศึกษาแนวทางและความเหมาะสมของข้อสังเกตดังกล่าว และสรุปผลการพิจารณาหรือผลการดำเนินการเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวในภาพรวม แล้วส่งให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีภายใน ๓๐ วัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้งคำสั่ง เพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
13178 | ข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติหลักเกณฑ์การจัดทำร่างกฎหมายและการประเมินผลสัมฤทธิ์ของกฎหมาย พ.ศ. .... | สว | 17/04/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติหลักเกณฑ์การจัดทำร่างกฎหมายและการประเมินผลสัมฤทธิ์ของกฎหมาย พ.ศ. .... ที่เห็นควรแก้ไขเพิ่มเติมเหตุผลประกอบร่างพระราชบัญญัติดังกล่าว รวมทั้งมีข้อสังเกตว่า ควรเตรียมความพร้อมในการจัดให้มีร่างระเบียบเกี่ยวกับการรับฟังความคิดเห็นกรณีที่ประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งร่วมกันเข้าชื่อเสนอกฎหมายตามพระราชบัญญัติการเข้าชื่อเสนอกฎหมาย พ.ศ. ๒๕๕๖ และในการดำเนินการตรวจสอบความจำเป็นในการตรากฎหมาย การรับฟังความคิดเห็นของผู้เกี่ยวข้อง และการวิเคราะห์ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากกฎหมาย รวมทั้งการดำเนินการเกี่ยวกับการตรวจสอบเนื้อหาของร่างกฎหมายที่เกี่ยวกับระบบอนุญาต ระบบคณะกรรมการ การใช้ดุลพินิจของเจ้าหน้าที่ของรัฐ ระยะเวลาในการดำเนินการตามขั้นตอนต่าง ๆ และการกำหนดโทษอาญาจะต้องมีการเตรียมความพร้อมและการสร้างความรับรู้ความเข้าใจให้แก่หน่วยงานของรัฐ สำหรับกลไกการตรวจสอบกฎหมายโดยศาลควรให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ของกฎหมายนั้น ๆ และระมัดระวังมิให้เป็นการก้าวล่วงหรือใช้อำนาจที่รัฐธรรมนูญบัญญัติไว้ ส่วนกฎหมายลำดับรองบางประเภทที่จะออกมาใช้บังคับต่อเมื่อมีสถานการณ์หรือเหตุการณ์บางอย่างเกิดขึ้น และต้องออกกฎหมายลำดับรองนั้น ไม่สามารถกำหนดเป็นหลักเกณฑ์ไว้ล่วงหน้าได้ จึงไม่อยู่ในหลักเกณฑ์การกำหนดกรอบเวลาในการออกกฎหมายลำดับรอง นอกจากนี้ การกำหนดให้หน่วยงานของรัฐจัดทำแนวทางปฏิบัติในการใช้ดุลพินิจของเจ้าหน้าที่ของรัฐตามร่างมาตรา ๒๔ วรรคหนึ่ง นั้น หากได้มีการจัดทำแนวทางปฏิบัติในเรื่องนั้นไว้แล้ว หน่วยงานของรัฐสามารถประกาศให้ทราบถึงแนวทางดังกล่าว และถือได้ว่าเป็นการดำเนินการตามร่างมาตรา ๒๔ แล้ว ทั้งนี้ ในการกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และรูปแบบเกี่ยวกับการเผยแพร่ข้อมูลตัวบทกฎหมาย คำแปลของกฎหมาย และคำอธิบายสรุปสาระสำคัญ ควรมีการรับฟังความเห็นจากหน่วยงานของรัฐที่รับผิดชอบการบังคับใช้กฎหมายประกอบด้วย ตามที่สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ปฏิบัติหน้าที่สำนักงานเลขาธิการสภานิติบัญญัติแห่งชาติเสนอ ๒. ให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีนำเหตุผลของร่างพระราชบัญญัติหลักเกณฑ์การจัดทำร่างกฎหมายและการประเมินผลสัมฤทธิ์ของกฎหมาย พ.ศ. .... ตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ เป็นเหตุผลของร่างพระราชบัญญัติในเรื่องนี้ในการประกาศราชกิจจานุเบกษาต่อไป ๓. ให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเป็นหน่วยงานหลักรับข้อสังเกตดังกล่าวไปพิจารณาร่วมกับกระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม สำนักงาน ก.พ.ร. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อพิจารณาศึกษาแนวทางและความเหมาะสมของข้อสังเกตดังกล่าว และสรุปผลการพิจารณาหรือผลการดำเนินการเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวในภาพรวม แล้วส่งให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีภายใน ๓๐ วันนับแต่วันที่ได้รับแจ้งคำสั่งเพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
13179 | รายงานผลการดำเนินการตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแพ่งตลิ่งชัน ศาลแพ่งพระโขนง ศาลแพ่งมีนบุรี ศาลอาญาตลิ่งชัน ศาลอาญาพระโขนง และศาลอาญามีนบุรี พ.ศ. .... | สว | 17/04/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการดำเนินการตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแพ่งตลิ่งชัน ศาลแพ่งพระโขนง ศาลแพ่งมีนบุรี ศาลอาญาตลิ่งชัน ศาลอาญาพระโขนง และศาลอาญามีนบุรี พ.ศ. .... โดยสำนักงานศาลยุติธรรมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเห็นชอบกับข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ เกี่ยวกับการจัดทำแผนแม่บทในการจัดตั้งศาล การกำหนดหลักเกณฑ์การตั้งชื่อศาลตามตำแหน่งพื้นที่ การกำหนดหลักเกณฑ์การจัดตั้งศาลขึ้นใหม่ในอนาคตควรจะพิจารณาเขตอำนาจศาลให้สอดคล้องกับเขตอำนาจของพนักงานสอบสวนต่อไป ตามที่สำนักงานศาลยุติธรรมเสนอ และแจ้งให้สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ปฏิบัติหน้าที่สำนักงานเลขาธิการสภานิติบัญญัติแห่งชาติทราบต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
13180 | รายงานผลการดำเนินการตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติมาตรฐานทางจริยธรรม พ.ศ. .... | สว | 17/04/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการดำเนินการตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติมาตรฐานทางจริยธรรม พ.ศ. .... โดยสำนักงาน ก.พ. ได้ร่วมกับองค์กรกลางบริหารงานบุคคลประเภทต่าง ๆ รายงานผลการดำเนินการตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ ซึ่งเห็นด้วยกับข้อสังเกตดังกล่าวเกี่ยวกับผลการให้องค์กรกลางบริหารงานบุคคลของหน่วยงานของรัฐเป็นผู้จัดทำประมวลจริยธรรมเจ้าหน้าที่ของรัฐที่อยู่ในความรับผิดชอบ และให้หน่วยงานของรัฐสามารถจัดทำข้อกำหนดจริยธรรมเพิ่มเติมจากประมวลจริยธรรมที่องค์กรกลางบริหารงานบุคคลหรือองค์กรที่มีหน้าที่จัดทำขึ้น รวมทั้งการเปิดเผยต่อสาธารณะได้ทราบถึงประมวลจริยธรรมและข้อกำหนดจริยธรรม โดยใช้ช่องทางการสื่อสารที่เหมาะสมและสามารถเข้าถึงได้ง่าย ตลอดจนการเผยแพร่กรณีที่ได้ดำเนินการทางจริยธรรมกับเจ้าหน้าที่ของรัฐ ทั้งในทางที่เป็นคุณและเป็นโทษ ควรพิจารณาถึงความเหมาะสมในกรณีที่เป็นการดำเนินการในทางที่เป็นโทษ และปฏิบัติตามพระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ. ๒๕๔๐ ด้วย ตามที่สำนักงาน ก.พ. เสนอ และแจ้งให้สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาปฏิบัติหน้าที่สำนักงานเลขาธิการสภานิติบัญญัติแห่งชาติต่อไป
|
.....