ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 436 จากทั้งหมด 6224 หน้า แสดงรายการที่ 8701 - 8720 จากข้อมูลทั้งหมด 124475 รายการ
| ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
| 8701 | หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการกำหนดค่าใช้จ่ายในการดำเนินการผู้ป่วยฉุกเฉินโรคติดต่ออันตรายตามกฎหมายว่าด้วยโรคติดต่อ กรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด 19 [Coronavirus Disease 2019 (COVID - 19)] (ฉบับที่ 4) | สธ. | 29/06/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. เห็นชอบหลักเกณฑ์
วิธีการ
และเงื่อนไขการกำหนดค่าใช้จ่ายในการดำเนินการผู้ป่วยฉุกเฉินโรคติดต่ออันตรายตามกฎหมายว่าด้วยโรคติดต่อ
กรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด
19 [Coronavirus Disease 2019 (COVID-19)] (ฉบับที่ ๔) ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ
และให้กระทรวงสาธารณสุขรับความเห็นของสำนักงบประมาณ
ที่เห็นว่าให้กระทรวงสาธารณสุขกำกับ ติดตาม
และตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณดังกล่าวให้มีประสิทธิภาพ ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ
เงื่อนไข อัตราที่กำหนดและสามารถตรวจสอบได้ในทุกขั้นตอน
พร้อมกับดำเนินการให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ค่าใช้จ่ายของกระทรวงการคลังด้วย
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย ทั้งนี้ ให้กระทรวงสาธารณสุขดำเนินการให้ถูกต้อง
เป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย ระเบียบ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 8702 | มาตรการบรรเทาผลกระทบต่อกลุ่มแรงงานและผู้ประกอบการ อันเนื่องมาจากข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (ฉบับที่ 25) | นร.11 | 29/06/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. เห็นชอบในหลักการของข้อเสนอมาตรการให้ความช่วยเหลือในระยะเร่งด่วน
เพื่อให้ความช่วยเหลือแก่กลุ่มแรงงานและผู้ประกอบการในพื้นที่สถานการณ์ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด
ในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑลที่ได้รับผลกระทบจากการปฏิบัติตามข้อกำหนด
(ฉบับที่ ๒๕) และมาตรการให้ความช่วยเหลือในระยะต่อไป
เพื่อเตรียมความพร้อมในการดำเนินการมาตรการให้ความช่วยเหลือแก่ประชาชนและผู้ประกอบการทีได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
๒๐๑๙ ที่เหมาะสม และมอบหมายให้กระทรวงการคลัง กระทรวงแรงงาน กระทรวงมหาดไทย สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามมาตรการบรรเทาผลกระทบต่อกลุ่มแรงงานและผู้ประกอบการอันเนื่องมาจากข้อกำหนดออกตามความในมาตรา
๙ แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. ๒๕๔๘ (ฉบับที่ ๒๕)
ตามที่สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอ ๒. มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการเพิ่มเติม
ดังนี้ ๒.๑ ให้กระทรวงมหาดไทยร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตรวจสอบยืนยันตัวตน
ของผู้ลงทะเบียนรับความช่วยเหลือผ่านแอปพลิเคชันถุงเงินภายใต้โครงการคนละครึ่งอย่างเป็นระบบ
โดยมีการเก็บข้อมูลอย่างครบถ้วนเป็นรายแห่งว่ามีความสอดคล้องและเป็นกลุ่มเป้าหมายตามหลักการของมาตรการฯ ๒.๒
ให้สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการติดตามและประเมินผลสัมฤทธิ์ของมาตรการดังกล่าวอย่างเป็นระบบครอบคลุมในทุกมิติ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเด็นความต่อเนื่องในการประกอบกิจการ
การจ้างแรงงานของผู้ประกอบการ ทั้งนี้ ให้เผยแพร่การดำเนินการตามมาตรการข้างต้นให้ประชาชนได้รับทราบเป็นระยะ
ๆ ด้วย ๓.
ให้สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง
การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้ |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 8703 | ร่างเอกสารผลลัพธ์การประชุมระดับรัฐมนตรี Water Dialogues for Results Bonn 2021: Accelerating Cross - Sectoral SDG 6 Implementation | นร.14 | 29/06/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. เห็นชอบร่างสารทางการเมือง
From Dialogues to Results-Key messages for
Accelerating Cross-Sectoral SDG 6 Implementation และมอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรี
(พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ) ในฐานะกำกับการบริหารราชการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติหรือผู้ที่ได้รับมอบหมายระดับรัฐมนตรีกล่าวปาฐกถาในการประชุมระดับรัฐมนตรี
Water Dialogues for Results Bonn 2021 : Accelerating
Cross-Sectoral SDG 6 Implementation ที่จะจัดขึ้นในวันที่
๑ กรกฎาคม ๒๕๖๔ ผ่านระบบการประชุมทางไกล โดยร่างสารทางการเมืองฯ
เป็นเอกสารผลลัพธ์การประชุมฯ ที่จะมีการรับรองโดยไม่มีการลงนาม
มีสาระสำคัญเป็นการแสดงเจตนารมณ์ทางการเมืองของประเทศสมาชิกในการเร่งรัดการดำเนินการเพื่อบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนด้านน้ำภายใต้วาระการพัฒนาที่ยั่งยืน
ค.ศ. ๒๐๓๐ ตามที่สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติเสนอ ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างสารทางการเมืองฯ
ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้
ให้สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวด้วย ๒. ให้สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี)
ในการเสนอเรื่องนี้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 8704 | การทบทวนมติคณะรัฐมนตรีเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการ SMEs ที่ได้รับผลกระทบจากเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ระลอกใหม่ | กค. | 29/06/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. เห็นชอบการทบทวนมติคณะรัฐมนตรีเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการ SMEs ที่ได้รับผลกระทบจากเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (โควิด-๑๙)
ระลอกใหม่ โดยการขยายระยะเวลาการดำเนินโครงการสินเชื่อเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการรายย่อยผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของไวรัสโคโรนา
(โควิด-๑๙) จากเดิมวันที่ ๓๐ มิถุนายน ๒๕๖๔ ออกไปเป็นวันที่ ๓๐ ธันวาคม ๒๕๖๔
การปรับปรุงการดำเนินโครงการ Soft Lone ออมสินฟื้นฟูท่องเที่ยวไทย
เช่น ขยายระยะเวลาเงินกู้ ขยายระยะเวลาปลอดชำระเงินต้น ขยายระยะเวลารับคำขอสินเชื่อ
และการปรับปรุงการดำเนินโครงการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ SMEs มีที่
มีเงิน สำหรับธุรกิจท่องเที่ยว เพื่อให้การช่วยเหลือผู้ประกอบการ SMEs ให้สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนเป็นไปอย่างต่อเนื่อง
ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ทั้งนี้
ให้กระทรวงการคลังและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของสำนักงบประมาณและธนาคารแห่งประเทศไทย
ที่เห็นว่าควรสร้างความรับรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับมาตรการและโครงการให้ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในโอกาสแรก
รวมทั้งการจัดทำประมาณการรายได้ ตลอดจนติดตาม ประเมินผลสัมฤทธิ์
และรายงานการดำเนินงานตามมาตรการและโครงการดังกล่าวเมื่อสิ้นสุดระยะเวลาดำเนินการ
ตามนัยพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. ๒๕๖๑
และดำเนินการให้เป็นไปตามระเบียบ กฎหมาย และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องต่อไป
และพิจารณาดำเนินการให้ลูกหนี้ที่มีความเปราะบางซึ่งมีข้อจำกัดในการเข้าถึงสินเชื่อจากแหล่งอื่นสามารถเข้าถึงได้ง่ายขึ้น
และทบทวนหลักเกณฑ์การพิจารณาการให้สินเชื่อแก่ลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบจาก COVID-19 ให้สอดคล้องกับสถานการณ์
เพื่อช่วยเหลือประคองธุรกิจให้อยู่รอดต่อไป
ไปดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย ๒.
ให้กระทรวงการคลังได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔
พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 8705 | ร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการพัฒนาแรงงานและประสานงานการฝึกอาชีพแห่งชาติ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | รง. | 29/06/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการพัฒนาแรงงานและประสานงานการฝึกอาชีพแห่งชาติ
(ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขปรับปรุงระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี
ว่าด้วยการพัฒนาแรงงานและประสานงานการฝึกอาชีพแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๕๒
เกี่ยวกับองค์ประกอบและอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการพัฒนาแรงงานและประสานงานการฝึกอาชีพแห่งชาติ ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ
และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา
แล้วดำเนินการต่อไปได้ |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 8706 | ขอความเห็นชอบ (ร่าง) แผนปฏิบัติการด้านนโยบายภาษาแห่งชาติ (พ.ศ. 2564 – 2565) | นร.04 | 29/06/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ
ดังนี้ ๑. เห็นชอบ (ร่าง)
แผนปฏิบัติการด้านนโยบายภาษาแห่งชาติ (พ.ศ. ๒๕๖๔-๒๕๖๕)
และมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องใช้เป็นกรอบในการจัดทำแผนงาน โครงการ
ที่มีความสอดคล้องกับกลุ่มเป้าหมาย ประเด็นยุทธศาสตร์ และตัวชี้วัดความสำเร็จของแผนยุทธศาสตร์ฯ
ตั้งแต่ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๔-๒๕๖๕ เป็นต้นไป โดย (ร่าง) แผนปฏิบัติการฯ
ได้รับความเห็นชอบจากราชบัณฑิตยสภา
และได้รับความเห็นชอบจากสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติแล้ว โดยมีเป้าหมายให้สังคมไทยตระหนักถึงความสำคัญของภาษา
เห็นคุณค่าและยอมรับความแตกต่างของภาษาและสังคมวัฒนธรรม
สามารถอยู่ร่วมกันในสังคมได้ ประกอบด้วย ๖ ยุทธศาสตร์ ได้แก่ (๑)
ขับเคลื่อนสังคมไทยไปสู่การยอมรับการเป็นสังคมพหุลักษณ์และมุ่งเน้นการพัฒนาเพื่อการอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุขและยั่งยืนทั้งในประเทศและระหว่างประเทศ
(๒) พัฒนาศักยภาพการเรียนรู้ของคนในชาติด้วยการเรียนรู้ภาษาที่หลากหลาย (๓)
ส่งเสริมการใช้ภาษาไทยในฐานะเป็นภาษาประจำชาติ
และปรับเปลี่ยนการจัดการเรียนรู้ภาษาไทยให้เป็นไปตามธรรมชาติการเรียนรู้ภาษาของมนุษย์
(๔) รักษา สืบทอดการใช้ภาษาท้องถิ่น หรือภาษาแม่ทั้งในชีวิตประจำวันและในระบบการศึกษา
(๕)
พัฒนาทักษะและความสามารถทางด้านภาษาเพื่อเป็นเครื่องมือในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ
และ (๖) ส่งเสริมการพัฒนาทักษะการใช้ภาษาไทยและสื่อเพื่อการสื่อสาร การดำรงชีวิต
และรักษาสิทธิขั้นพื้นฐานให้กับกลุ่มคนด้อยโอกาส ตามที่สำนักงานราชบัณฑิตยสภาเสนอ ๒. ให้สำนักงานราชบัณฑิตยสภาและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของสำนักนายกรัฐมนตรี
(สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี) สำนักงบประมาณ
และสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์
และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ
รวมทั้งข้อสังเกตของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงมหาดไทย
และข้อเสนอแนะของกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม เช่น (๑)
(ร่าง) แผนปฏิบัติการฯ เคยมีการดำเนินการตั้งแต่ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑-๒๕๖๔
จึงควรมีการวิเคราะห์ผลการดำเนินการที่ผ่านมา ประเด็นปัญหาอุปสรรค
และผลกระทบที่เกิดจากการดำเนินการตาม (ร่าง) แผนปฏิบัติการฯ ฉบับดังกล่าว
เพื่อแสดงให้เห็นถึงความสำเร็จ ความสามารถในการตอบสนองต่อประเด็นยุทธศาสตร์ชาติ
แผนการปฏิรูปประเทศ
และแนวทางในการปฏิบัติงานที่มีประสิทธิภาพสำหรับการดำเนินงานของแผนฉบับต่อไป และ
(๒) การพัฒนาทักษะและความสามารถทางด้านภาษาเพื่อเป็นเครื่องมือในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ
ควรระบุภาษาที่ ๒ หรือภาษาอื่น ๆ ที่คนไทยต้องเรียนรู้ให้มีความชัดเจน เช่น
คนไทยสามารถสื่อสารภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่ ๒ ได้ไม่น้อยกว่าร้อยละ ๒๕
ของประชากรทั้งประเทศภายในปี ๒๕๗๐ หรือสามารถสื่อสารภาษาจีนหรือภาษาของประเทศในอาเซียนเป็นภาษาที่
๓ ได้ไม่น้อยกว่าร้อยละ ๑๐ ของประชากรทั้งประเทศภายในปี ๒๕๗๐ เป็นต้น
ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป ๓.
ให้สำนักงานราชบัณฑิตยสภาพิจารณาเร่งรัดการดำเนินการตาม (ร่าง) แผนปฏิบัติการฯ
ให้เกิดผลสัมฤทธิ์เป็นรูปธรรมโดยเร็ว |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 8707 | ผลการประชุมระดับรัฐมนตรีบิมสเทค ครั้งที่ 17 | กต. | 29/06/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. รับทราบผลการประชุมระดับรัฐมนตรีบิมสเทค
ครั้งที่ ๑๗ เมื่อวันที่ ๑ เมษายน
๒๕๖๔ ผ่านระบบการประชุมทางไกล
เพื่อหารือเกี่ยวกับแนวทางความร่วมมือที่จะเป็นประโยชน์ในการรับมือกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของติดโรคเชื้อไวรัสโคโรนา
๒๐๑๙ (โควิด-๑๙) และสภาพปกติใหม่ โดยที่ประชุมฯ ได้เห็นชอบเอกสารสำคัญ เช่น
ถ้อยแถลงร่วมการประชุมบิมสเทค ครั้งที่ ๑๗ ร่างบันทึกความตกลงว่าด้วยการจัดตั้งศูนย์ถ่ายทอดเทคโนโลยีบิมสเทค
ร่างกฎบัตรบิมสเทค และได้มีการปรับความร่วมมือจาก ๑๔ สาขา เป็น ๗ สาขา
ซึ่งไทยได้นำวิสัยทัศน์ในการรับหน้าที่ประเทศผู้ขับเคลื่อนหลักในสาขาความเชื่อมโยงที่ครอบคลุมทุกมิติ
รวมทั้งแนวคิดนโยบายเศรษฐกิจชีวภาพ-เศรษฐกิจหมุนเวียน-เศรษฐกิจสีขียว (Bio-Circular-Green
Economy Model : BCG)
ที่จะผลักดันในวาระการเป็นของไทยต่อไป และมอบหมายส่วนราชการดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องตามตารางติดตามผลการประชุมฯ
ต่อไป ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ ๒.
ให้กระทรวงการต่างประเทศและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นว่า ควรเน้นย้ำการส่งเสริมความร่วมมือในทุกระดับ
ควรให้มีการหารือภายในประเทศเพื่อกำหนดหน่วยงานร่วมดำเนินงานและกำหนดท่าทีของประเทศประกอบการเข้าร่วมประชุมระดับปฏิบัติการดังกล่าวต่อไป
และให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อเป็นหลักในการขับเคลื่อนประเด็นดังกล่าวเพิ่มเติม
โดยยึดพันธกิจและภารกิจของหน่วยงานเป็นสำคัญ
ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 8708 | รายงานผลการปฏิบัติงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ ประจำปี 2563 | กสทช. | 29/06/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการปฏิบัติงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง
กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ ประจำปี ๒๕๖๓ ประกอบด้วย (๑)
ผลการดำเนินงานสำคัญของคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์
และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ ประจำปี ๒๕๖๓ (๒) แผนการดำเนินงานและงบประมาณรายจ่าย
ประจำปี ๒๕๖๔ (๓) งบการเงิน และรายงานการตรวจสอบภายใน (๔) ปัญหาและอุปสรรคในการประกอบกิจการฯ
(๕) ประสิทธิภาพและประสิทธิผลในการพิจารณาเรื่องร้องเรียนของผู้บริโภคในกิจการฯ
(๖) ประสิทธิภาพและประสิทธิผลของกองทุนวิจัยและพัฒนากิจการกระจายเสียง
กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมเพื่อประโยชน์สาธารณะ และ (๗) รายงานสภาพตลาดและการแข่งขัน
ทั้งนี้ งบการเงินของคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์
และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติยังไม่ได้ผ่านการรับรองจากสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน
ซึ่งอยู่ระหว่างดำเนินการตรวจสอบงบการเงินดังกล่าว
ตามที่สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์
และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 8709 | ร่างประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง การออกหนังสือคนประจำเรือตามกฎหมายว่าด้วยการประมง (ฉบับที่ 2) พ.ศ. .... และร่างประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การยกเว้นข้อห้ามมิให้คนต่างด้าวเข้ามาในราชอาณาจักรเป็นการเฉพาะ สำหรับคนต่างด้าวสัญชาติกัมพูชา ลาว และเมียนมา สามารถยื่นคำขอรับหนังสือคนประจำเรือเพื่ออยู่ในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราว และทำงานกับนายจ้างในกิจการประมงทะเล ภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ ............... รวม 2 ฉบับ | กษ. | 29/06/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. เห็นชอบร่างประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง
การออกหนังสือคนประจำเรือตามกฎหมายว่าด้วยการประมง (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการต่ออายุหนังสือสำหรับคนต่างด้าวที่ได้รับหนังสือคนประจำเรือ
ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๓๑ มีนาคม ๒๕๖๓ ออกไปอีก ๑ ปี
นับแต่หนังสือคนประจำเรือเดิมสิ้นอายุ
โดยแรงงานด่างด้าวที่ประสงค์จะทำงานบนเรือประมงต่อไป
จะต้องยื่นคำขอตามระยะเวลาที่กรมประมงประกาศกำหนด และร่างประกาศกระทรวงมหาดไทย
เรื่อง การยกเว้นข้อห้ามมิให้คนต่างด้าวเข้ามาในราชอาณาจักรเป็นการเฉพาะ
สำหรับคนต่างด้าวสัญชาติกัมพูชา ลาว และเมียนมา
สามารถยื่นคำขอรับหนังสือคนประจำเรือเพื่ออยู่ในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราว
และทำงานกับนายจ้างในกิจการประมงทะเล ภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
๒๐๑๙ ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ ............... รวม ๒ ฉบับ มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดยกเว้นให้คนต่างด้าวสัญชาติกัมพูชา
ลาว และเมียนมา ที่ได้รับหนังสือคนประจำเรือตามประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง
การออกหนังสือคนประจำเรือตามกฎหมายว่าด้วยการประมง พ.ศ. ๒๕๖๓
ที่ระยะเวลาการอนุญาตสิ้นสุดลง
แต่ไม่ได้เดินทางออกนอกราชอาณาจักรสามารถยื่นขอต่ออายุหนังสือคนประจำเรือเพื่ออยู่ในราชอาณาจักรไทยเป็นการชั่วคราวและทำงานกับนายจ้างในกิจการประมงทะเลได้
ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้ ๒. เห็นชอบให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการ
ดังนี้ (๑) ให้กรมประมงต่ออายุหนังสือคนค้ำประกันเรือ (๒) ให้กระทรวงสาธารณสุขตรวจสุขภาพซึ่งครอบคลุมถึงการตรวจโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
๒๐๑๙ และทำประกันสุขภาพคนต่างด้าว (๓) ให้กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจัดทำสัญญาจ้างและตรวจสอบสัญญาจ้างของคนต่างด้าว
(๔) ให้สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองตรวจลงตราและประทับตราอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรแก่คนต่างด้าวและจัดเก็บอัตลักษณ์บุคคล
(Biometrics)
(๕) ให้กรมการปกครองต่ออายุบัตรประจำตัวคนซึ่งไม่มีสัญชาติไทย (บัตรสีชมพู) ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ
และให้ดำเนินการต่อไปได้ |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 8710 | ร่างพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยปริญญาในสาขาวิชา อักษรย่อสำหรับสาขาวิชา ครุยวิทยฐานะ เข็มวิทยฐานะ และครุยประจำตำแหน่งของมหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | อว. | 29/06/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยปริญญาในสาขาวิชา
อักษรย่อสำหรับสาขาวิชา ครุยวิทยฐานะ เข็มวิทยฐานะ
และครุยประจำตำแหน่งของมหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา (ฉบับที่ ..) พ.ศ.
.... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดปริญญาในสาขาวิชา และอักษรย่อสำหรับสาขาวิชา และกำหนดสีประจำของสาขาวิชาดุริยางคศาสตร์
และกำหนดสาขาวิชาระดับปริญญาโทและระดับปริญญาเอกของสาขาวิชาการแพทย์แผนไทย
เพิ่มขึ้น ตามที่กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมเสนอ
และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 8711 | ร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (การขยายเวลามาตรการภาษีเพื่อส่งเสริมการลงทุนในจังหวัดชายแดนภาคใต้) | กค. | 29/06/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัญมนตรีมีมติ ๑. มติอนุมัติร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร
ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ดังนี้ ๑.๑ ร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร
ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (มาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการประกอบธุรกิจในจังหวัดนราธิวาส
จังหวัดปัตตานี จังหวัดยะลา จังหวัดสงขลาเฉพาะในอำเภอจะนะ อำเภอเทพา อำเภอนาทวี
อำเภอสะบ้าย้อย และจังหวัดสตูล) ๑.๒ ร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร
ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (มาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนให้มีการติดตั้งระบบกล้องโทรทัศน์วงจรปิด
(CCTV) ในจังหวัดนราธิวาส
จังหวัดปัตตานี จังหวัดยะลา จังหวัดสงขลาเฉพาะในอำเภอจะนะ อำเภอเทพา อำเภอนาทวี
อำเภอสะบ้าย้อย และจังหวัดสตูล) ๑.๓ ร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร
ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (มาตรการภาษีเพื่อส่งเสริมการลงทุนในทรัพย์สินของกิจการ
ในจังหวัดนราธิวาส จังหวัดปัตตานี และจังหวัดยะลา) ๑.๔ ร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร
ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (มาตรการภาษีเพื่อส่งเสริมผู้ประกอบการรายใหม่ (New Start-up)
ในจังหวัดนราธิวาส จังหวัดปัตตานี และจังหวัดยะลา) ๑.๕ ร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร
ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (มาตรการภาษีเพื่อส่งเสริมให้บุคลากรผู้มีความสามารถสูงนอกท้องที่ไปทำงานในท้องที่จังหวัดนราธิวาส
จังหวัดปัตตานี และจังหวัดยะลา
และมาตรการส่งเสริมการลงทุนร่วมกันระหว่างกิจการที่มีศักยภาพนอกท้องที่กับกิจการที่มีศักยภาพในท้องที่จังหวัดนราธิวาส
จังหวัดปัตตานี และจังหวัดยะลา) รวม ๕ ฉบับ มีสาระสำคัญเป็นการขยายเวลาของมาตรการภาษีเพื่อส่งเสริมการลงทุนในจังหวัดชายแดนภาคใต้ จำนวน ๖ มาตรการ
จากสิ้นสุดวันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๖๓ เป็นสิ้นสุดวันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๖๖ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน
แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒ ให้กระทรวงการคลังรับความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติและสำนักงบประมาณ ที่เห็นว่าควรให้ความสำคัญกับการประชาสัมพันธ์และสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับมาตรการภาครัฐรวมทั้งเปิดโอกาสให้ประชาชนในพื้นที่เสนอความคิดเห็นเกี่ยวกับความต้องการการสนับสนุนจากภาครัฐ
เพื่อนำความเห็นมาใช้ในการปรับปรุงมาตรการให้สอดคล้องกับความต้องการ
และสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับมาตรการภาษีดังกล่าว รวมทั้งจัดทำประมาณการรายได้
เพื่อกำหนดไว้ในแผนการคลังระยะปานกลางให้ถูกต้องครบถ้วน
และรายงานผลการดำเนินงานตามมาตรการภาษีดังกล่าวเมื่อสิ้นสุดระยะเวลาดำเนินการ
ตามนัยพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ ๒๕๖๑ ต่อไป ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 8712 | แนวทางการประชุมสภาผู้แทนราษฎร | ปสส. | 29/06/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบแนวทางการประชุมสภาผู้แทนราษฎรเกี่ยวกับระเบียบวาระการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ชุดที่
๒๕ ปีที่ ๓ ครั้งที่ ๗ (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่หนึ่ง) วันพุธที่ ๓๐ มิถุนายน
๒๕๖๔ และครั้งที่ ๘ (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่หนึ่ง) วันพฤหัสบดีที่ ๑ กรกฎาคม
๒๕๖๔ ตามที่คณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 8713 | รัฐบาลราชอาณาจักรบาห์เรนเสนอขอแต่งตั้งเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งราชอาณาจักรบาห์เรนประจำประเทศไทย (นางสาวมุนา อับบาส มะฮ์มูด รอฎี) | กต. | 29/06/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นางสาวมุนา อับบาส
มะฮ์มูด รอฎี (Ms. Muna Abbas Mahmood Radhi) ให้ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งราชอาณาจักรบาห์เรนประจำประเทศไทยคนใหม่
โดยมีถิ่นพำนัก ณ กรุงเทพมหานคร สืบแทน นายอะห์มัด อับดุลเลาะฮ์ อัลฮาญะรี (Mr. Ahmed Abdulla
Al-Hajeri) ซึ่งครบวาระการดำรงตำแหน่ง
ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 8714 | การเพิ่มเติมหลักการของร่างกฎหมายว่าด้วยการดำเนินงานขององค์กรที่ไม่แสวงหารายได้หรือกำไรมาแบ่งปันกัน | ปปง. | 29/06/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. รับทราบการเพิ่มเติมหลักการของร่างกฎหมายว่าด้วยการดำเนินงานขององค์กรที่ไม่แสวงหารายได้หรือกำไรมาแบ่งปันกัน ตามที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินเสนอ ๒. ให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีการับหลักการในข้อกำหนดตามมาตรฐานสากลด้านการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน
และการต่อต้านการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้ายและการแพร่ขยายอาวุธที่มีอนุภาพทำลายล้างสูง(Anti-Money Laundering and Combating the
Financing of Terrorism : AML/CFT) จำนวน ๘ ประเด็น ที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินเสนอ
รวมทั้งรับความเห็นของสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพและสำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ
ไปประกอบการพิจารณายกร่างกฎหมายว่าด้วยการดำเนินงานขององค์กรที่ไม่แสวงหารายได้หรือกำไรมาแบ่งปันกันที่อยู่ระหว่างการตรวจพิจารณาของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
แล้วเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป ทั้งนี้ให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเป็นหน่วยงานเจ้าของเรื่องร่างกฎหมายว่าด้วยการดำเนินงานขององค์กรที่ไม่แสวงหารายได้หรือกำไรมาแบ่งปันกัน
และดำเนินการรับฟังความคิดเห็นของผู้ที่เกี่ยวข้องและวิเคราะห์ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากร่างกฎหมายดังกล่าว
ตามมาตรา ๗๗ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยและพระราชบัญญัติหลักเกณฑ์การจัดทำร่างกฎหมายและการประเมินผลสัมฤทธิ์ของกฎหมาย
พ.ศ. ๒๕๖๒ ด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 8715 | รัฐบาลสาธารณรัฐแอฟริกาใต้เสนอขอแต่งตั้งเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งสาธารณรัฐแอฟริกาใต้ประจำประเทศไทย (นางสาวคีตูเมตเซ ซีเปโล ทานเดกา แมตทิวส์) | กต. | 29/06/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นางสาวคีตูเมตเซ ซีเปโล ทานเดกา แมตทิวส์ (Ms. Keitumetse Seipelo Thandeka Matthews) ให้ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งสาธารณรัฐแอฟริกาใต้ประจำประเทศไทยคนใหม่ โดยมีถิ่นพำนัก ณ กรุงเทพมหานคร สืบแทน นายเจฟฟรีย์ ควินตัน มิตเชลล์ ดอยจ์ (Mr. Geoffrey
Quinton Mitchell Doidge) ซึ่งครบวาระการดำรงตำแหน่ง
ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 8716 | รัฐบาลราชอาณาจักรภูฏานเสนอขอแต่งตั้งเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งราชอาณาจักรภูฏานประจำประเทศไทย (นายคินซัง ดอร์จิ) | กต. | 29/06/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายคินซัง ดอร์จิ (Mr. Kinzang Dorji) ให้ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งราชอาณาจักรภูฏานประจำประเทศไทยคนใหม่
โดยมีถิ่นพำนัก ณ กรุงเทพมหานคร สืบแทน นายเชวัง โชเฟล ดอร์จิ (Mr. Tshewang Chophel Dorji)
ซึ่งครบวาระการดำรงตำแหน่ง ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 8717 | ร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (มาตรการภาษีสำหรับการบริจาคให้แก่กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา) | กค. | 29/06/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร
ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....
(มาตรการภาษีสำหรับการบริจาคให้แก่กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา)
มีสาระสำคัญเป็นการขยายระยะเวลาการให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีสำหรับการบริจาคเงินหรือทรัพย์สินให้แก่กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา
โดยให้หักลดหย่อนหรือหักเป็นรายจ่ายได้ ๒ เท่าของจำนวนเงินที่บริจาค
สำหรับการบริจาคที่กระทำผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-Donation) ของกรมสรรพากร ตั้งแต่วันที่ ๑ มกราคม ๒๕๖๔ ถึงวันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๖๖ รวมทั้งเพิ่มเติมการยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม
ภาษีธุรกิจเฉพาะ และอากรแสตมป์
สำหรับเงินได้ที่ได้รับจากการโอนทรัพย์สินหรือการขายสินค้า หรือสำหรับการกระทำตราสารอันเนื่องมาจากการบริจาคให้แก่กองทุนดังกล่าว
ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน
แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๔. ให้กระทรวงการคลังรับความเห็นของสำนักงบประมาณ
ที่เห็นว่ากระทรวงการคลังและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะสร้างการรับรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับการสูญเสียรายได้และประโยชน์ที่จะได้รับจากมาตรการภาษีให้กับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในโอกาสแรก
รวมทั้งจัดทำประมาณการรายได้เพื่อกำหนดไว้ในแผนการคลังระยะปานกลางให้ถูกต้องครบถ้วน
และใช้เป็นกรอบในการวางแผนการดำเนินการทางการเงินการคลังและงบประมาณของประเทศ
ตลอดจนติดตามประเมินผลสัมฤทธิ์ และรายงานผลการดำเนินงานตามมาตรการภาษีดังกล่าว
ตามนัยพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. ๒๕๖๑ ต่อไป
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 8718 | ผลการพิจารณารายงานการพิจารณาศึกษา เรื่อง การบริหารจัดการงบประมาณโครงการเงินอุดหนุนสำหรับสนับสนุนอาหารกลางวันนักเรียนระดับปฐมวัยและระดับประถมศึกษาในสังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ของคณะกรรมาธิการติดตามการบริหารงบประมาณ วุฒิสภา | สว. | 29/06/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการพิจารณารายงานการพิจารณาศึกษา
เรื่อง
การบริหารจัดการงบประมาณโครงการเงินอุดหนุนสำหรับสนับสนุนอาหารกลางวันนักเรียนระดับปฐมวัยและระดับประถมศึกษาในสังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
ของคณะกรรมาธิการติดตามการบริหารงบประมาณ วุฒิสภา ซึ่งกระทรวงมหาดไทยเป็นหน่วยงานหลักรับข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการติดตามการบริหารงบประมาณ
วุฒิสภา ไปพิจารณาร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สรุปได้ ดังนี้ ๑) ปัญหาความไม่พอเพียงของงบประมาณที่ได้รับการสนับสนุน
ซึ่งปัจจุบันได้มีการจัดสรรงบประมาณค่าอาหารกลางวันในลักษณะขั้นบันได
และพิจารณาแนวทางในการดำเนินการ
เพื่อให้นักเรียนได้รับอาหารกลางวันที่เหมาะสมเพียงพอ
และถูกหลักโภชนาการมากยิ่งขึ้น ๒) ปัญหาความล่าช้าของการรับงบประมาณ กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นได้มีการแก้ไขระเบียบกฎหมายที่เกี่ยวข้องแล้ว
๓) ปัญหาการจัดการอาหารกลางวันให้แก่นักเรียนที่ไม่มีสิทธิได้รับการสนับสนุนตามโครงการดังกล่าวสำหรับเด็กที่ไม่มีหลักฐานทะเบียนราษฎร์หรือไม่มีสัญชาติไทยได้มีการแก้ปัญหานี้แล้ว
ส่วนเด็กมัธยมศึกษาปีที่ ๑-๓ ในโรงเรียนขยายโอกาสทางการศึกษาองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
อาจพิจารณาดำเนินการในลักษณะการสงเคราะห์ช่วยเหลือ
อันเป็นการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตเด็ก เยาวชน และผู้ด้อยโอกาส ๔) ปัญหาการขอรับการสนับสนุนงบประมาณจากกองทุนเพื่อโครงการอาหารกลางวันในโรงเรียนประถมศึกษา
ได้มีการประชาสัมพันธ์กิจกรรมผ่านทางเว็บไซต์ LINK รวมทั้งการทบทวนหลักเกณฑ์การขอรับการสนับสนุนงบประมาณประจำทุกปี
๕) ปัญหาการบริหารจัดการงบประมาณของบุคลากรในสถานศึกษา กรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่นได้มีการจัดฝึกอบรมเพื่อให้ความรู้ความเข้าใจแก่ผู้ปฏิบัติงานและมีการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ผ่านช่องทางต่าง
ๆ ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นรับทราบและถือปฏิบัติ ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ
และแจ้งให้สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาทราบต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 8719 | ร่างกฎกระทรวงยกเว้นค่าธรรมเนียมรายปีให้แก่ผู้ประกอบกิจการโรงงาน พ.ศ. .... | อก. | 29/06/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. เห็นชอบร่างกฎกระทรวงยกเว้นค่าธรรมเนียมรายปีให้แก่ผู้ประกอบกิจการโรงงาน
พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการขยายระยะเวลาการยกเว้นค่าธรรมเนียมรายปีที่เรียกเก็บตามพระราชบัญญัติโรงงาน
พ.ศ. ๒๕๓๕ และที่แก้ไขเพิ่มเติม
ให้แก่ผู้ประกอบกิจการโรงงานจำพวกที่ ๒ และผู้ประกอบกิจการโรงงานจำพวกที่ ๓ ทุกขนาด
เป็นเวลา ๑ ปี โดยให้มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ ๑๐ มิถุนายน ๒๕๖๔ จนถึงวันที่ ๙
มิถุนายน ๒๕๖๕ ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ
ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว และให้ดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงอุตสาหกรรมรับความเห็นของสำนักงาน
ก.พ.ร. และสำนักงบประมาณ ที่เห็นว่าควรเร่งส่งเสริมและประชาสัมพันธ์ให้ผู้ประกอบการเข้ามาใช้ระบบชำระเงินกลาง
(Digital Payment) และทบทวนอัตราค่าธรรมเนียมให้เหมาะสมสอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน และเร่งสร้างการรับรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับมาตรการยกเว้นค่าธรรมเนียมดังกล่าวให้ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องโนโอกาสแรก
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย ๓. ให้กระทรวงการคลังรับความเห็นของสำนักงบประมาณ
ที่เห็นว่าให้กระทรวงการคลังจัดทำประมาณการรายได้เพื่อกำหนดไว้ในแผนการคลังระยะปานกลางให้ถูกต้องครบถ้วน
และใช้เป็นกรอบในการวางแผนการดำเนินการทางการเงินการคลังและงบประมาณของประเทศ
ตลอดจนการรายงาน ติดตาม และประเมินผลสัมฤทธิ์ของการดำเนินมาตรการดังกล่าวเมื่อสิ้นสุดระยะเวลาการดำเนินการ
ตามนัยพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. ๒๕๖๑ ด้วย
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 8720 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (นางภัทรพร วรทรัพย์) | กค. | 29/06/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง
นางภัทรพร วรทรัพย์ ข้าราชการพลเรือนสามัญ ตำแหน่งรองอธิบดีกรมบัญชีกลาง ให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาด้านพัฒนาระบบการเงินการคลัง
(นักวิชาการคลังทรงคุณวุฒิ) กรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง ตั้งแต่วันที่ ๑๘ มกราคม ๒๕๖๔
ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
