ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 23 จากทั้งหมด 6199 หน้า แสดงรายการที่ 441 - 460 จากข้อมูลทั้งหมด 123961 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
441 | ร่างบันทึกความร่วมมือด้านดิจิทัลและเทคโนโลยีสารสนเทศระหว่างกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งราชอาณาจักรไทย และกระทรวงการพัฒนาดิจิทัล นวัตกรรม และอุตสาหกรรมการบินและอวกาศแห่งสาธารณรัฐคาซัคสถาน | ดศ. | 22/04/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
442 | การรับรองปฏิญญาระดับรัฐมนตรีเอเชียและแปซิฟิกว่าด้วยการบินพลเรือน (เดลี) | คค. | 22/04/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบปฏิญญาระดับรัฐมนตรีเอเชียและแปซิฟิกว่าด้วยการบินพลเรือน
(เดลี) และให้กระทรวงคมนาคมมีหนังสือแจ้งการรับรองปฏิญญาเดลีถึงผู้อำนวยการสำนักงานสาขาภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิกขององค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO) เพื่อทราบต่อไป โดยปฏิญญาเดลีฯ
มีสาระสำคัญเป็นการแสดงเจตนารมณ์ร่วมกันระหว่างประเทศสมาชิกในภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก
เพื่อมุ่งมั่นส่งเสริมการดำเนินการตามแผนงานและมาตรฐานและข้อพึงปฏิบัติด้านต่าง
ๆ ขององค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO) เช่น
การดำเนินการตามปฏิญญาว่าด้วยการประชุมระดับรัฐมนตรีด้านการบินพลเรือน
การดำเนินการตามแผนนิรภัยในการบินพลเรือนของโลก แผนการเดินอากาศโลก
และแผนการรักษาความปลอดภัยการบินพลเรือนของโลก เป็นต้น ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ
ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนปฏิญญาเดลีฯ ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้
ให้กระทรวงคมนาคมดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวด้วย
และให้กระทรวงคมนาคมรับความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ที่เห็นควรเร่งพัฒนาขีดความสามารถในการกำกับดูแลด้านความปลอดภัยการบิน
และการให้บริการเดินอากาศ
ให้บรรลุเป้าหมายที่กำหนดไว้ในแผนยุทธศาสตร์สำนักงานการบินพลเรือนของไทย ระยะ ๕ ปี
(พ.ศ. ๒๕๖๔ - ๒๕๖๘) ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
443 | การขอความเห็นชอบต่อร่างถ้อยแถลงร่วมสำหรับการประชุมคณะมนตรีประชาคมสังคมและวัฒนธรรมอาเซียน ครั้งที่ 33 | พม. | 22/04/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบต่อร่างถ้อยแถลงร่วมสำหรับการประชุมคณะมนตรีประชาคมสังคมและวัฒนธรรมอาเซียน
ครั้งที่ ๓๓ (Draft Joint Statement of the 33rd
ASCC Council Meeting) และอนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
หรือผู้แทนที่ได้รับมอบหมายในฐานะหัวหน้าคณะผู้แทนไทยในการประชุมคณะมนตรีประชาคมสังคมและวัฒนธรรมอาเซียน
ครั้งที่ ๓๓ (33rd ASCC Council Meeting) ให้การรับรองร่างถ้อยแถลงร่วมสำหรับการประชุมคณะมนตรีประชาคมสังคมและวัฒนธรรมอาเซียน
ครั้งที่ ๓๓ ในวันพฤหัสบดีที่ ๒๔ เมษายน ๒๕๖๘ ณ นครกูชิง รัฐซาราวัก
สหพันธรัฐมาเลเซีย โดยร่างถ้อยแถลงร่วมฯ มีสาระสำคัญเกี่ยวกับการแสดงความยินดีกับมาเลเซียในฐานะประธานอาเซียน
และการสนับสนุนประเด็นสำคัญ ๕ ประเด็นภายใต้หัวข้อหลัก “ความครอบคลุมและความยั่งยืน
(Inclusivity and Sustainability)” การแสดงความยินดีกับความก้าวหน้าการดำเนินการกว่าร้อยละ
๙๙ ของแผนงานประชาคมสังคมและวัฒนธรรมอาเซียน ๒๐๒๕ (ASCC Blueprint 2025) ซึ่งกำลังจะสิ้นสุดลงในปี ค.ศ. ๒๐๒๕
และความคืบหน้าของร่างแผนยุทธศาสตร์ประชาคมสังคมและวัฒนธรรมอาเซียนฉบับใหม่ และยังสนับสนุนประเด็นต่าง
ๆ ที่ส่งผลต่อความเจริญรุ่งเรืองของภูมิภาค อาทิ เศรษฐกิจสร้างสรรค์ บทบาทของวัคซีน
ยา การบูรณาการสิทธิคนพิการ บทบาทของเจ้าหน้าที่เสาสังคมฯ เป็นต้น นอกจากนั้น
ยังได้ชื่นชมการมีส่วนร่วมอย่างแข็งขันของ ติมอร์-เลสเต และสนับสนุนการดำเนินการเพื่อเข้าเป็นสมาชิกอาเซียนของติมอร์-เลสเต
ตามที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เสนอ ทั้งนี้
หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างถ้อยแถลงร่วมฯ ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้
ให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ดำเนินการได้
โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง
พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
444 | มาตรการป้องกันการทุจริตเกี่ยวกับการบรรจุบุคคลผู้ซึ่งเคยออกจากราชการเพราะกระทำผิดวินัยฐานทุจริตต่อหน้าที่ราชการกลับเข้ารับราชการ | ปช. | 22/04/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. รับทราบมาตรการป้องกันการทุจริตเกี่ยวกับการบรรจุบุคคลผู้ซึ่งเคยออกจากราชการเพราะกระทำผิดวินัยฐานทุจริตต่อหน้าที่ราชการกลับเข้ารับราชการ
ตามที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติเสนอ ๒. มอบหมายให้สำนักงาน ก.พ.
เป็นหน่วยงานหลักรับเรื่องนี้ไปพิจารณาร่วมกับองค์กรกลางบริหารงานบุคคลประเภทต่าง
ๆ สำนักงาน ก.พ.ร. สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ได้ข้อยุติ โดยให้สำนักงาน ก.พ.
สรุปผลการพิจารณา/ผลการดำเนินการ/ความเห็นในภาพรวม
แล้วส่งให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีภายใน ๓๐ วัน นับจากวันที่ได้รับแจ้งจากสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี
เพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
445 | การรับรองปฏิญญาว่าด้วยสภาพภูมิอากาศและสุขภาพ (COP28 Declaration on Climate and Health) | สธ. | 22/04/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
446 | การแต่งตั้งข้าราชการการเมือง (นางสาวพิมพ์พร ชีวานันท์) | ศธ. | 22/04/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแต่งตั้ง นางสาวพิมพ์พร ชีวานันท์
เป็นข้าราชการการเมือง ตำแหน่งเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ
(๒๒ เมษายน ๒๕๖๘) เป็นต้นไป ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
447 | ขอความเห็นชอบอนุมัติใช้จ่ายเงินช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในช่วงฤดูฝนปี 2567 เพิ่มเติม และขออนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพิ่มเติม | มท. | 22/04/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติกรอบวงเงิน
และระยะเวลาการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในช่วงฤดูฝนปี ๒๕๖๗ เพิ่มเติม จากมติคณะรัฐมนตรี
เมื่อวันที่ ๓ ธันวาคม ๒๕๖๗ และเมื่อวันที่ ๑๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๘ ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ
ดังนี้ ๑. อนุมัติกรอบวงเงินงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๘ งบกลาง
รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพิ่มเติมอีก จำนวนเงิน ๗๘๑.๘๘๔
ล้านบาท ๒. อนุมัติระยะเวลาการช่วยเหลือตามมติคณะรัฐมนตรี
เมื่อวันที่ ๓ ธันวาคม ๒๕๒๗ วันที่ ๑๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๘ และที่ขอรับสนับสนุนงบประมาณในครั้งนี้
เพิ่มเติม ให้แล้วเสร็จภายใน ๑๕ วันทำการ นับตั้งแต่วันที่ได้รับการจัดสรรงบประมาณที่ขอรับสนับสนุนงบประมาณในครั้งนี้
โดยให้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นหน่วยรับงบประมาณ
และจ่ายเงินช่วยเหลือแก่ผู้ประสบภัย ผ่านธนาคารออมสิน ให้เบิกจ่ายในงบเงินอุดหนุน
ลักษณะเงินอุดหนุนทั่วไป รวมทั้งให้สามารถถัวจ่ายข้ามจังหวัดได้ และให้กระทรวงมหาดไทย
(กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย)
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
(หนังสือสำนักงบประมาณ ด่วนที่สุด ที่ นร ๐๗๐๔/๔๔๓๐ ลงวันที่ ๒๒ เมษายน ๒๕๖๘)
ในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
448 | การปรับค่าจ้างชดเชยให้ลูกจ้างที่ได้รับผลกระทบจากการปรับอัตราแรกบรรจุของลูกจ้างรัฐวิสาหกิจ | รง. | 22/04/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้กำหนดขอบเขตสภาพการจ้างที่เกี่ยวกับการเงินตามมาตรา
๑๓ (๒) แห่งพระราชบัญญัติแรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ พ.ศ. ๒๕๔๓
ที่ให้รัฐวิสาหกิจแต่ละแห่งสามารถดำเนินการเองได้ เมื่อคณะกรรมการรัฐวิสาหกิจนั้นเห็นชอบแล้วในเรื่องการปรับค่าจ้างชดเชยให้แก่ลูกจ้างที่ได้รับผลกระทบจากการปรับอัตราค่าจ้างแรกบรรจุของลูกจ้างรัฐวิสาหกิจ
ตามมติคณะกรรมการแรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์
ในการประชุมครั้งที่ ๕/๒๕๖๗ เมื่อวันที่ ๕ กันยายน ๒๕๖๗ ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ ให้กระทรวงแรงงานและรัฐวิสาหกิจที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงการคลัง
กระทรวงคมนาคม กระทรวงพลังงาน สำนักงบประมาณ
สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และสำนักงาน ก.พ.ร.
ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป เช่น กระทรวงการคลัง เห็นควรคำนึงถึงประเด็นความคุ้มค่า
ต้นทุน และผลประโยชน์ เสถียรภาพและความมั่นคงทางเศรษฐกิจและสังคม ตลอดจนความยั่งยืนทางการคลังของรัฐ
เพื่อให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ของบทบัญญัติมาตรา ๗ แห่งพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ
พ.ศ. ๒๕๖๑ |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
449 | การกำหนดสินค้าควบคุม (เพิ่มเติม) ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ. 2542 | พณ. | 22/04/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบรายการสินค้า จำนวน ๒ รายการ ได้แก่ ๑) สินค้าเครื่องฟอกอากาศ
และ ๒) สินค้าตัวดูดฝุ่นไฟฟ้า (เครื่องดูดฝุ่น) เป็นสินค้าควบคุม (เพิ่มเติม)
ตามมติคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ
และให้กระทรวงพาณิชย์รับความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ที่เห็นควรประชาสัมพันธ์ให้ผู้ที่เกี่ยวข้องทราบและถือปฏิบัติได้อย่างถูกต้อง
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
450 | ขออนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพื่อดำเนินโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ เพื่อรองรับสถานการณ์ภัยแล้งและฝนทิ้งช่วง ปี 2568 | นร.14 | 22/04/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๘ งบกลาง
รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ภายใต้กรอบวงเงิน ๗,๔๐๔.๓๔๐๖ ล้านบาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ
เพื่อรองรับสถานการณ์ภัยแล้งและฝนทิ้งช่วง ปี ๒๕๖๘ จำนวน ๒,๗๔๘ รายการ ตามที่สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติเสนอ ทั้งนี้
ให้สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของสำนักงบประมาณ
(หนังสือสำนักงบประมาณ ด่วนที่สุด ที่ นร ๐๗๐๗/๔๑๖๗ ลงวันที่ ๔ เมษายน ๒๕๖๘) และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติไปดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
ดังนี้ สำนักงบประมาณ เห็นควรให้สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติตรวจสอบชื่อรายการให้ถูกต้องครบถ้วน
หากมีความคลาดเคลื่อนในชื่อรายการ สถานที่ ความซ้ำซ้อนของงบประมาณรายจ่ายประจำปีและเงินนอกงบประมาณ
ให้ประสานหน่วยรับงบประมาณเสนอปรับลดงบประมาณดังกล่าวตามขั้นตอนของกฎหมาย ระเบียบ
ข้อบังคับ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง และดำเนินการนำเรื่องดังกล่าวเสนอขออนุมัติต่อคณะรัฐมนตรี
โดยเสนอผ่านรองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีเจ้าสังกัด หรือรัฐมนตรีที่กำกับดูแล
หรือผู้ที่คณะรัฐมนตรีมอบหมายให้เป็นผู้กำกับแผนงานบูรณาการกรณีเป็นการดำเนินการภายใต้แผนงานบูรณาการ
แล้วแต่กรณี ตามนัยระเบียบว่าด้วยการบริหารงบประมาณรายจ่ายงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น
พ.ศ. ๒๕๖๒ ข้อ ๙ (๓) สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เห็นว่าสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติควรมีมาตรการกำกับดูแลและตรวจสอบการดำเนินโครงการภายใต้โครงการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการน้ำ
เพื่อรองรับสถานการณ์ภัยแล้งและฝนทิ้งช่วง ปี ๒๕๖๘ โดยเฉพาะการซ่อมแซม/ปรับปรุงอาคารชลศาสตร์
การสร้างความมั่นคงด้านน้ำเพื่อการอุปโภค - บริโภค และการเพิ่มน้ำต้นทุน
ให้เกิดประสิทธิภาพ ความคุ้มค่า และเกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชน
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
451 | (ร่าง) ข้อเสนอเชิงนโยบาย เรื่อง แก้ไขปัญหาราคาโคตกต่ำ | สภช. | 22/04/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบ (ร่าง) ข้อเสนอเชิงนโยบาย เรื่อง
แก้ไขปัญหาราคาโคตกต่ำของสภาเกษตรกรแห่งชาติ ประกอบด้วย ๑) ขอให้ภาครัฐห้ามนำเข้าโคเนื้อจากประเทศเมียนมา
๒) ขอให้ภาครัฐดำเนินการป้องกันและปราบปรามการนำเข้าเนื้อโคที่ผิดกฎหมาย และควบคุมการนำเข้าเนื้อโคจากต่างประเทศ
๓) ขอให้ภาครัฐเร่งรัดตรวจสอบควบคุมการนำเข้าสารเร่งเนื้อแดง
และการใช้สารเร่งเนื้อแดงในโคเนื้อ ๔) ขอให้ภาครัฐเร่งรัดผลักดัน
และสนับสนุนให้มีโรงฆ่าชุมชน และโรงแปรรูปโคเนื้อที่ได้มาตรฐานในการบริโภคภายในชุมชน
รวมถึงการส่งเสริมและสนับสนุนการใช้แนวคิด “ตลาดนำ นวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้” และ
๕) ขอให้รัฐเร่งรัดการเจรจาการส่งออกโคมีชีวิต เนื้อโคแช่เย็น แช่แข็ง และผลิตภัณฑ์อื่น
ๆ จากโคกับประเทศคู่ค้าที่สำคัญกับไทย โดยการจัดทำบันทึกข้อตกลงภายใต้พิธีสารกับประเทศคู่ค้าที่สำคัญกับไทยอย่างเร่งด่วน
และมอบหมายให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เป็นหน่วยงานหลักรับเรื่องดังกล่าวไปพิจารณาร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งให้รับความเห็นของกระทรวงการคลัง กระทรวงการต่างประเทศ
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงอุตสาหกรรม สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
และสำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ ไปประกอบการพิจารณาเพื่อดำเนินการตามความจำเป็นเหมาะสมต่อไป
เช่น กระทรวงการต่างประเทศ เห็นว่า การห้ามนำเข้าโคเนื้อจากเมียนมาและการควบคุมการนำเข้าเนื้อโคจากต่างประเทศมีลักษณะเป็นการจำกัดปริมาณการนำเข้าซึ่งควรดำเนินการด้วยความระมัดระวังบนพื้นฐานของความจำเป็นเพื่อมิให้ขัดต่อพันธกรณีของไทยภายใต้กรอบ
WTO |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
452 | ร่างกฎกระทรวงการขอและการออกใบอนุญาตขับรถ และการต่ออายุใบอนุญาตขับรถ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | คค. | 22/04/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงการขอและการออกใบอนุญาตขับรถ
และการต่ออายุใบอนุญาตขับรถ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมกฎกระทรวงการขอและการออกใบอนุญาตขับรถ
และการต่ออายุใบอนุญาตขับรถ พ.ศ. ๒๕๖๓ เพื่อแก้ไขเพิ่มเติมหลักเกณฑ์ วิธีการ
และเงื่อนไขในการขอต่ออายุใบอนุญาตขับรถตามกฎหมายว่าด้วยรถยนต์ เพื่อยกเว้นการทดสอบสมรรถภาพของร่างกาย
โดยผู้ขอต่ออายุใบอนุญาตต้องไม่มีอายุเกินเกณฑ์หรือไม่มีเงื่อนไขของสภาพร่างกาย
หรือเงื่อนไขอื่นตามที่อธิบดีกรมการขนส่งทางบกประกาศกำหนด
อันจะทำให้การดำเนินการต่อใบอนุญาตขับรถสามารถดำเนินการผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ได้
ซึ่งจะทำให้ประชาชนได้รับความสะดวก
ลดภาระค่าใช้จ่ายและระยะเวลาในการเดินทางมาติดต่อราชการ ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ
และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
453 | รัฐบาลสาธารณรัฐโคลอมเบียเสนอขอแต่งตั้งเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งสาธารณรัฐโคลอมเบียประจำประเทศไทย (นางสาวอาลิเซีย อาเลฮันดรา อัลฟาโร กัสติโย) | กต. | 22/04/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นางสาวอาลิเซีย อาเลฮันดรา อัลฟาโร กัสติโย
(Ms. Alicia Alejandra Alfaro Castillo) ให้ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งสาธารณรัฐโคลอมเบีย
ประจำประเทศไทยคนใหม่ โดยมีถิ่นพำนัก ณ กรุงเทพมหานคร สืบแทน นางอานา มาเรีย ปริเอโต
อาบัด (Mrs. Ana Maria Prieto Abad) ซึ่งครบวาระการดำรงตำแหน่ง
ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
454 | รัฐบาลราชอาณาจักรเบลเยียมเสนอขอแต่งตั้งเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งราชอาณาจักรเบลเยียมประจำประเทศไทย (นายมีแชล ปารี) | กต. | 22/04/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายมีแชล ปารึ (Mr. Michel Parys) ให้ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งราชอาณาจักรเบลเยียมประจำประเทศไทยคนใหม่
โดยมีถิ่นพำนัก ณ กรุงเทพมหานคร สืบแทน นายสกันแดร์ นัสรา (Mr. Skander
Nasra) ซึ่งครบวาระการดำรงตำแหน่ง ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
455 | การสิ้นสุดหน้าที่ของกงสุลกิตติมศักดิ์ ณ เมืองกลาสโกว์ สหราชอาณาจักร การปิดสถานกงสุลกิตติมศักดิ์ ณ เมืองกลาสโกว์ สหราชอาณาจักร เป็นการถาวร การเปิดสถานกงสุลกิตติมศักดิ์ ณ เมืองเอดินบะระ สหราชอาณาจักร และการแต่งตั้งกงสุลกิตติมศักดิ์ ณ เมืองเอดินบะระ สหราชอาณาจักร (นายเดวิด จอห์น ริดลีย์) | กต. | 22/04/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ ดังนี้ ๑. รับทราบการสิ้นสุดหน้าที่ของ นายเอ. ดี. สจ๊วต (Mr. A.D. Stewart) กงสุลกิตติมศักดิ์
ณ เมืองกลาสโกว์ สหราชอาณาจักร และการปิดสถานกงสุลกิตติมศักดิ์ ณ เมืองกลาสโกว์
สหราชอาณาจักร เป็นการถาวร ตั้งแต่วันที่ ๒๘ พฤษภาคม ๒๕๖๔
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
456 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดค่าธรรมเนียมของศูนย์ประเมินความรู้ความสามารถกลาง พ.ศ. .... | รง. | 22/04/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติให้เลื่อนการพิจารณาเรื่องนี้ออกไปก่อน
ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
457 | ร่างถ้อยแถลงร่วมกลไกการหารือด้านพลังงานและอุตสาหกรรม (Joint Statement of the Energy and Industry Dialogue) | อก. | 22/04/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
458 | ขอความเห็นชอบต่อร่างบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือในโครงการภายใต้กองทุนพิเศษแม่โขง-ล้านช้าง ประจำปี พ.ศ. 2567 | กษ. | 22/04/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
459 | ขอผ่อนผันการใช้ประโยชน์พื้นที่ลุ่มน้ำชั้นที่ 1 บี เพื่อทำเหมืองแร่ของบริษัท ศิลาสัมพันธ์ จำกัด ที่จังหวัดพัทลุง | อก. | 22/04/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติผ่อนผันให้บริษัท
ศิลาสัมพันธ์ จำกัด ใช้ประโยชน์พื้นที่ลุ่มน้ำชั้นที่ ๑ บี เพื่อทำเหมืองแร่ ตามคำขอประทานบัตรที่
๑/๒๕๕๙ ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๗ พฤศจิกายน ๒๕๓๒ (เรื่อง
มติคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ เรื่อง การกำหนดชั้นคุณภาพลุ่มน้ำภาคใต้
และข้อเสนอแนะมาตรการการใช้ที่ดินในเขตลุ่มน้ำ) และวันที่ ๑๕ พฤษภาคม ๒๕๓๓ (เรื่อง
การอนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ในพื้นที่ป่าไม้) ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ ให้กระทรวงอุตสาหกรรมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงมหาดไทย กระทรวงสาธารณสุข
และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
เช่น กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เห็นควรมีการตรวจสอบ
กำกับ และติดตามมาตรการป้องกันและแก้ไขผลกระทบสิ่งแวดล้อมอย่างเคร่งครัดตามรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมด้านเหมืองแร่
พร้อมทั้งคำนึงถึงความสามารถในการควบคุมแหล่งกำเนิดมลพิษอันเนื่องมาจากการทำเหมืองแร่หินหรือกิจการที่ก่อให้เกิดมลพิษ
และควรจัดให้มีการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนหรือผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่เกี่ยวข้อง
ให้เข้ามามีส่วนร่วมในการแสดงผลกระทบและความรุนแรงที่อาจเกิดขึ้นภายหลังจากการทำเหมืองแร่ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
เห็นว่ากรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ควรดำเนินการติดตามตรวจสอบพื้นที่คำขอประทานบัตรทั้งก่อน ระหว่าง และหลังการดำเนินโครงการเหมืองแร่ดังกล่าว
เพื่อตรวจสอบสภาพพื้นที่คำขอประทานบัตรว่ามีสภาพแวดล้อมและการใช้ประโยชน์พื้นที่เปลี่ยนแปลงไปจากรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมหรือไม่
และเพื่อป้องกันมลภาวะที่อาจส่งผลกระทบต่อพื้นที่ลุ่มน้ำชั้นที่ ๑ บี ที่อยู่รอบบริเวณของพื้นที่โครงการ |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
460 | การประชุมรัฐภาคีอนุสัญญาบาเซลว่าด้วยการควบคุมการเคลื่อนย้ายข้ามแดนของของเสียอันตรายและการกำจัด สมัยที่ 17 การประชุมรัฐภาคีอนุสัญญารอตเตอร์ดัมว่าด้วยกระบวนการแจ้งข้อมูลสารเคมีล่วงหน้าสำหรับสารเคมีอันตรายและสารเคมีป้องกันกำจัดศัตรูพืชและสัตว์บางชนิดในการค้าระหว่างประเทศ สมัยที่ 12 และการประชุมรัฐภาคีอนุสัญญาสตอกโฮล์มว่าด้วยสารมลพิษที่ตกค้างยาวนาน สมัยที่ 12 | ทส. | 22/04/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||