ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 200 จากทั้งหมด 6200 หน้า แสดงรายการที่ 3981 - 4000 จากข้อมูลทั้งหมด 123994 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
3981 | รายงานสรุปผลการพิจารณาในภาพรวมต่อข้อเสนอแนะของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ กรณีการพิจารณาวินิจฉัยอุทธรณ์ของคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมล่าช้า | สนง. กสม. | 29/08/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานสรุปผลการพิจารณาในภาพรวมต่อข้อเสนอแนะของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ
กรณีการพิจารณาวินิจฉัยอุทธรณ์ของคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมล่าช้า ซึ่งสำนักงาน
ก.พ. ได้ประชุมหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้วเมื่อวันที่ ๒ พฤษภาคม ๒๕๖๖
โดยมีผลสรุปในภาพรวมว่า
ข้อเสนอแนะที่ให้มีหน่วยงานที่มีหน้าที่สนองต่อภารกิจซึ่งอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมโดยตรง
นั้น ที่ประชุมเห็นว่า ยังไม่มีความจำเป็นต้องจัดตั้งหน่วยงานสนับสนุนคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมแยกออกจากสำนักงาน
ก.พ. แต่ควรกำหนดแผนการแก้ไขปัญหาเป็น ๓ ระยะ ได้แก่ (๑) แผนระยะสั้น : ปรับโครงสร้าง อัตรากำลัง
การบริหารจัดการงานให้รวดเร็วมีประสิทธิภาพ (๒) แผนระยะกลาง : ให้ความรู้แก่เจ้าหน้าที่และข้าราชการทั่วไปเกี่ยวกับการพิทักษ์ระบบคุณธรรม
และ (๓) แผนระยะยาว : ประเมินผลการดำเนินงานตามแผนระยะสั้นและระยะกลางเพื่อวิเคราะห์ความเหมาะสมของการมีหน่วยงานอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรม
ส่วนข้อเสนอแนะที่ให้ปรับปรุงการพิจารณาเรื่องร้องทุกข์ให้มีความยืดหยุ่น
โดยนำกระบวนการไกล่เกลี่ยระหว่างคู่กรณีมาใช้ ที่ประชุมเห็นว่า
เป็นการเพิ่มขั้นตอนในกระบวนการพิจารณา อาจส่งผลให้เกิดความล่าช้ากว่าเดิม นอกจากนี้
ข้อเสนอแนะที่ให้ปรับปรุงกฎหมายให้ร้องทุกข์ไปยังคณะอนุกรรมการสามัญประจำกรม (อ.ก.พ.
กรม) หรือคณะอนุกรรมการสามัญประจำจังหวัด (อ.ก.พ. จังหวัด) นั้น เห็นว่า
จะไม่สอดคล้องกับเจตนารมณ์และหลักการของพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ.
๒๕๕๑ มาตรา ๑๒๓ และกฎ ก.พ.ค.
ว่าด้วยการร้องทุกข์และการพิจารณาวินิจฉัยเรื่องร้องทุกข์ พ.ศ. ๒๕๕๑ และสำนักงาน
ก.พ. อยู่ระหว่างการปรับปรุงแก้ไขกฎ ก.พ.ค.
ว่าด้วยการอุทธรณ์และการพิจารณาวินิจฉัยอุทธรณ์ พ.ศ. .... และกฎ ก.พ.ค.
ว่าด้วยการร้องทุกข์และการพิจารณาวินิจฉัยเรื่องร้องทุกข์ พ.ศ. ....
เพื่อให้การพิจารณาเรื่องอุทธรณ์และร้องทุกข์เป็นไปอย่างยุติธรรมและรวดเร็วยิ่งขึ้น
ตามที่สำนักงาน ก.พ. เสนอ และแจ้งให้คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติทราบต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3982 | การดำเนินการเพื่อรองรับการขับเคลื่อนการดำเนินงานด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของประเทศ | นร. | 29/08/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอว่า
ตามที่ได้มีการเปลี่ยนชื่อ “กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม” เป็น
“กรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม” ตั้งแต่วันที่ ๑๘ สิงหาคม ๒๕๖๖
เป็นต้นมา เพื่อให้สอดคล้องกับการปรับปรุงภารกิจของส่วนราชการ
เพื่อรองรับการขับเคลื่อนการดำเนินงานด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของประเทศ
นั้น เนื่องจากปัจจุบันปัญหาที่เกิดขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงด้านสภาพภูมิอากาศของโลก (Climate
Change) หรือภาวะโลกร้อน
กำลังเป็นปัญหาสำคัญเร่งด่วนที่ทั่วโลกเร่งดำเนินการสร้างความร่วมมือในการแก้ไขปัญหาร่วมกันอย่างจริงจัง
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อองค์การสหประชาชาติได้แจ้งถึงการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่บ่งชี้ว่าโลกได้เปลี่ยนแปลงจากภาวะโลกร้อน
(Global Warming) เข้าสู่ภาวะโลกเดือด (Global
Boiling) เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ดังนั้น
เพื่อให้การดำเนินการในเรื่องดังกล่าวของประเทศไทยเป็นไปอย่างเป็นระบบและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
จึงเห็นควรให้ทุกส่วนราชการให้ความสำคัญในการดำเนินงานต่าง ๆ
ที่เกี่ยวข้องเพื่อร่วมขับเคลื่อนการดำเนินงานด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศอย่างพร้อมเพรียงกัน
โดยให้แต่งตั้งคณะทำงานหรือเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบในการกำกับดูแลการดำเนินงานต่าง
ๆ รวมทั้งการประสานการดำเนินการกับกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมให้ชัดเจนและมีความต่อเนื่องต่อไปด้วย
และให้ส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐพิจารณาดำเนินการต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3983 | การรับรองร่างปฏิญญาผู้นำอาเซียนว่าด้วยการเป็นภูมิภาคที่มีภูมิคุ้มกันอย่างยั่งยืน (ASEAN Leaders' Declaration on Sustainable Resilience) | มท. | 29/08/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
ดังนี้ ๑.
เห็นชอบร่างปฏิญญาผู้นำอาเซียนว่าด้วยการเป็นภูมิภาคที่มีภูมิคุ้มกันอย่างยั่งยืน
(ASEAN Leaders' Declaration on Sustainable
Resilience) และอนุมัติให้นายกรัฐมนตรีหรือผู้แทนที่ได้รับมอบหมายร่วมรับรองร่างปฏิญญาฯ
ในการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ ๔๓ (43rd ASEAN Summit) ที่จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ ๔-๗ กันยายน ๒๕๖๖ ณ กรุงจาการ์ตา
สาธารณรัฐอินโดนีเซีย โดยร่างปฏิญญาฯ มีสาระสำคัญเป็นการแสดงเจตนารมณ์ของผู้นำอาเซียนในการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันของประชาคมอาเซียนต่อความไม่แน่นอน
ความซับซ้อน
และความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นอย่างเป็นระบบทั้งจากภัยพิบัติและผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
รวมถึงการใช้ทรัพยากรที่ส่งผลกระทบด้านลบต่อสิ่งแวดล้อม สังคม และเศรษฐกิจ เป็นต้น
ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และหากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างปฏิญญาฯ
ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้
ให้กระทรวงมหาดไทยดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าว
ทั้งนี้
ให้กระทรวงมหาดไทยรับความเห็นของสำนักงบประมาณในกรณีหากมีค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้น
ให้กระทรวงมหาดไทยพิจารณาปรับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ
หรือโอนเงินจัดสรรหรือเปลี่ยนแปลงเงินจัดสรรประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๖ มาดำเนินการ
ตามระเบียบว่าด้วยการบริหารงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๒ ตามขั้นตอนของกฎหมาย ระเบียบ
ข้อบังคับ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องให้ถูกต้องครบถ้วนในทุกมิติ
รวมทั้งจัดให้มีระบบการติดตามและประเมินผลการดำเนินโครงการอย่างต่อเนื่องและเปิดเผยต่อสาธารณชน
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย ๒. ให้กระทรวงมหาดไทยได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี)
ในการเสนอเรื่องนี้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3984 | ขอความเห็นชอบการจำหน่ายอสังหาริมทรัพย์ของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยให้แก่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค | พน. | 29/08/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยจำหน่ายที่ดิน ซึ่งเป็นที่ตั้งสถานีไฟฟ้าแรงสูงชลบุรี
๒ (บางส่วน)
ของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ตามหลักฐานโฉนดที่ดินเลขที่ ๒๔๕๙๗๘
ท้องที่ตำบลบางพระ อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี เนื้อที่ ๑๔-๐-๒๐ ไร่
ให้แก่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ในราคาที่ดินไร่ละ ๕,๖๑๖,๙๖๖ บาท เป็นเงิน
๗๘,๙๑๘,๓๗๒ บาท และค่าดำเนินการร้อยละ
๒๐ ของราคาที่ดิน เป็นเงิน ๑๕,๗๘๓,๖๗๔
บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น ๙๔,๗๐๒,๐๔๖
บาท ตามที่กระทรวงพลังงานเสนอ และให้กระทรวงพลังงาน
(การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย) รับความเห็นของสำนักงบประมาณ ที่เห็นควรดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย
ระเบียบ ข้อบังคับ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง ไปดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3985 | การรับรองร่างกรอบงานเครือข่ายหมู่บ้านอาเซียน (ASEAN Villages Network Framework) | มท. | 29/08/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
ดังนี้ ๑.
เห็นชอบในหลักการต่อร่างกรอบงานเครือข่ายหมู่บ้านอาเซียน (ASEAN Villages Network Framework) และให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย
ในฐานะรัฐมนตรีอาเซียนด้านการพัฒนาชนบทและขจัดความยากจน
มีหนังสือแจ้งความเห็นชอบรับรองร่างกรอบงานเครือข่ายหมู่บ้านอาเซียนไปยังสำนักเลขาธิการอาเซียนภายหลังจากคณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบแล้ว
โดยร่างกรอบงานเครือข่ายหมู่บ้านอาเซียนเป็นเอกสารที่รัฐมนตรีอาเซียนด้านการพัฒนาชนบทและขจัดความยากจนจะให้การรับรองและจะมีการเสนอเป็นวาระเพื่อทราบในการประชุมสุดยอดอาเซียน
ครั้งที่ ๔๓ (43rd ASEAN Summit) ที่จะจัดขึ้นระหว่างวันที่
๔-๗ กันยายน ๒๕๖๖ ณ กรุงจาการ์ตา สาธารณรัฐอินโดนีเซีย เป็นการกำหนดรายละเอียดแนวทางการขับเคลื่อนงานในระดับหมู่บ้านของอาเซียนผ่านกลไกเครือข่ายความร่วมมือระหว่างประเทศ
อาทิ หลักการและสาขาที่ให้ความสำคัญ ผลลัพธ์เชิงยุทธศาสตร์ การใช้ระบบ
และแผนปฏิบัติการระหว่างปี ๒๕๖๖-๒๕๖๘
โดยมีวัตถุประสงค์สำคัญในการสนับสนุนการพัฒนาชนบทและขจัดความยากจนในภูมิภาคอาเซียนและมีเป้าหมายหลักเพื่อส่งเสริมความเป็นอยู่ที่ดีของพลเมืองอาเซียน
มุ่งเน้นการพัฒนาศักยภาพของหมู่บ้านให้มีความเข้มแข็งในลักษณะจากล่างขึ้นบน (bottom-up)
ซึ่งเป็นการพัฒนาคุณภาพชีวิตของพลเมืองจากฐานราก
และส่งเสริมการมีส่วนร่วมของผู้หญิงและกลุ่มเปราะบางอื่น ๆ รวมทั้งเสริมสร้างเครือข่ายเชื่อมโยงระหว่างประเทศสมาชิกอาเซียนกับหุ้นส่วนภายนอก
โดยใช้เวทีการเรียนรู้และความร่วมมือเป็นตัวขับเคลื่อนเพื่อแบ่งปันแนวปฏิบัติที่ดี
ร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและประสบการณ์ในการแก้ไขปัญหาและพัฒนาเชิงพื้นที่
ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างกรอบงานเครือข่ายหมู่บ้านอาเซียนในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้
ให้กระทรวงมหาดไทยดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวด้วย ๒. ให้กระทรวงมหาดไทยได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี)
ในการเสนอเรื่องนี้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3986 | องค์ประกอบและท่าทีของราชอาณาจักรไทยในการประชุมคณะกรรมการมรดกโลกสมัยสามัญ ครั้งที่ 45 ที่ขยายออกมา | ทส. | 29/08/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบและรับทราบตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ ๑.
เห็นชอบการกำหนดท่าทีของราชอาณาจักรไทยในการประชุมคณะกรรมการมรดกโลกสมัยสามัญ
ครั้งที่ ๔๕ ที่ขยายออกมา ดังนี้ ๑.๑ หากคณะผู้แทนไทยเห็นว่า (ร่าง) ข้อมติ
วาระการประชุมที่ 7B รายงานสถานภาพการอนุรักษ์แหล่งมรดกโลก
พื้นที่กลุ่มป่าดงพญาเย็น-เขาใหญ่ (7B.19) และพื้นที่กลุ่มป่าแก่งกระจาน
(7B.88) ไม่เป็นผลดีต่อไทย หรือสุ่มเสี่ยงต่อการขึ้นทะเบียนเป็นแหล่งมรดกโลกในภาวะอันตราย
เห็นชอบให้คณะผู้แทนไทยดำเนินการชี้แจงทำความเข้าใจและโน้มน้าวคณะกรรมการมรดกโลก
องค์กรที่ปรึกษา และศูนย์มรดกโลก เกี่ยวกับสถานการณ์ปัจจุบัน
และการดำเนินการของราชอาณาจักรไทยในการให้ความสำคัญต่อการดำเนินการเพื่อดูแลและอนุรักษ์พื้นที่กลุ่มป่าฯ
ให้คงคุณค่าความโดดเด่นอันเป็นสากลอย่างยั่งยืน
รวมทั้งจัดให้มีการส่งเสริมกระบวนการมีส่วนร่วมกับชุมชนต่าง ๆ และองค์กรต่าง ๆ
ที่เกี่ยวข้องในการอนุรักษ์ ปกป้อง คุ้มครอง และบริหารจัดการพื้นที่กลุ่มป่าฯ
ร่วมกัน และขอปรับแก้ (ร่าง) ข้อมติที่จะส่งผลต่อผลการดำเนินงานของไทยในอนาคต ๑.๒ กรณีมีประเด็นอื่นที่เกิดขึ้นเฉพาะหน้า
หรือได้รับการร้องขอจากรัฐภาคีสมาชิก ให้อยู่ในดุลยพินิจของหัวหน้าคณะผู้แทนไทย
ในการพิจารณากำหนดท่าทีในประเด็นนั้น ๆ ทั้งนี้
ให้คณะผู้แทนไทยพิจารณาร่วมกันระหว่างการประชุมฯ โดยคำนึงถึงหลักการขออนุสัญญาคุ้มครองมรดกโลก
ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ
และข้อมูลด้านเทคนิคและวิชาการจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและองค์กรที่ปรึกษา ๒.
รับทราบองค์ประกอบคณะผู้แทนไทยในการประชุมคณะกรรมการมรดกโลกสมัยสามัญ ครั้งที่ ๔๕
ที่ขยายออกมา ได้แก่ (๑) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
เป็นที่ปรึกษา (๒) นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว
ทำหน้าที่กรรมการในคณะกรรมการมรดกโลกและหัวหน้าคณะผู้แทนไทย และ (๓)
ผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงวัฒนธรรม
กระทรวงการต่างประเทศ และผู้แทนที่เกี่ยวข้อง
ในคณะทำงานเพื่อสนับสนุนการดำเนินงานในการดำรงตำแหน่งกรรมการมรดกโลก วาระปี พ.ศ.
๒๕๖๒-๒๕๖๖ |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3987 | ร่างกฎกระทรวงการขออนุญาตนำเข้าหรือส่งออกยาเสพติดให้โทษหรือวัตถุออกฤทธิ์ กรณีเป็นผู้ป่วยหรือสัตว์ป่วยเดินทางระหว่างประเทศโดยนำยาเสพติดให้โทษหรือวัตถุออกฤทธิ์ซึ่งจำเป็นต้องใช้รักษาโรคเฉพาะตัวติดตัวเข้ามาในหรือออกไปนอกราชอาณาจักร พ.ศ. .... | สธ. | 29/08/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงการขออนุญาตนำเข้าหรือส่งออกยาเสพติดให้โทษหรือวัตถุออกฤทธิ์
กรณีเป็นผู้ป่วยหรือสัตว์ป่วยเดินทางระหว่างประเทศโดยนำยาเสพติดให้โทษหรือวัตถุออกฤทธิ์ซึ่งจำเป็นต้องใช้รักษาโรคเฉพาะตัวติดตัวเข้ามาในหรือออกไปนอกราชอาณาจักร
พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไข
ในการขออนุญาตนำเข้า หรือส่งออกซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท ๒ และประเภท ๓
สำหรับบุคคล หรือวัตถุออกฤทธิ์ประเภท ๒ ประเภท ๓ และประเภท ๔ สำหรับบุคคลหรือสัตว์
ซึ่งจำเป็นต้องใช้รักษาโรคเฉพาะตัวติดตัวนำเข้าในหรือออกไปนอกราชอาณาจักร ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ
และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ทั้งนี้
ให้กระทรวงสาธารณสุขรับความเห็นของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ที่เห็นว่าเมื่อร่างกฎกระทรวงฉบับนี้มีผลใช้บังคับแล้วจำเป็นต้องมีการสื่อสารและประชาสัมพันธ์ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยวและนักท่องเที่ยได้รับทราบข้อมูล
เพื่อให้เกิดความารู้ความเข้าใจ และถือปฏิบัติได้อย่างถูกต้องต่อไป
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3988 | ร่างกฎกระทรวงการขออนุญาตจำหน่ายวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 3 หรือประเภท 4 พ.ศ. .... | สธ. | 29/08/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงการขออนุญาตจำหน่ายวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท
๓ หรือประเภท ๔ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ
และเงื่อนไขการขออนุญาตจำหน่ายวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท ๓ หรือประเภท ๔
ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา
โดยให้รับความเห็นของสำนักงาน ก.พ.ร. ที่เห็นว่าในส่วนของร่างกฎกระทรวงฯ ข้อ ๖ ควรพิจารณาระยะเวลาในการพิจารณาอนุญาตให้มีความเหมาะสมและสอดคล้องกับระยะเวลาดำเนินงานจริงในปัจจุบัน
เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกให้กับประชาชน
และกำหนดระยะเวลาการแจ้งผลการพิจารณาในกรณีมีคำสั่งไม่อนุญาตเป็นระยะเวลาภายใน ๗
วัน เพื่อให้สอดคล้องกับมาตรา ๑๐แห่งพระราชบัญญัติการอำนวยความสะดวกในการพิจารณาอนุญาตของทางราชการ
พ.ศ. ๒๕๕๘ และในกรณีที่ผู้ขออนุญาตได้ยื่นคำขออนุญาตหรือติดต่อกับผู้อนุญาตหรือหน่วยงานของรัฐโดยวิธีทางอิเล็กทรอนิกส์แล้ว
การติดต่อหรือออกเอกสารหลักฐานใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับผู้นั้น
ให้ทำโดยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ เว้นแต่ผู้นั้นจะได้ระบุไว้เป็นประการอื่นในการยื่นคำขออนุญาตหรือในการติดต่อ
เพื่อให้สอดคล้องกับมาตรา ๑๑ แห่งพระราชบัญญัติการปฏิบัติราชการทางอิเล็กทรอนิกส์
พ.ศ. ๒๕๖๕ ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3989 | ขออนุมัติการใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ในการจ่ายเงินงบอุดหนุนเฉพาะกิจ โครงการเงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 | พม. | 29/08/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ
งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น
ในการจ่ายเงินอุดหนุนเฉพาะกิจ โครงการเงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด
ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๖ จำนวน ๙๙๘.๔๔๒ ล้านบาท เพื่อเป็นเงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด
ที่จะได้รับเงินต่อเนื่องในเดือนกันยายน ๒๕๖๖ จำนวน ๒,๒๕๔,๕๓๔ คน
โดยเบิกจ่ายในงบเงินอุดหนุน ตามที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เสนอ
และให้ดำเนินการต่อไปได้เมื่อได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการการเลือกตั้งตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
มาตรา ๑๖๙ (๓) แล้ว ทั้งนี้
ให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์และสำนักงบประมาณเร่งดำเนินการรวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวข้อง
รวมทั้งเหตุผลและความจำเป็นในการขอใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายงบกลาง
รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น
เสนอต่อคณะกรรมการการเลือกตั้งเพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบโดยด่วนต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3990 | ร่างกฎกระทรวงการขออนุญาตและการอนุญาตให้ผลิตหรือนำเข้าตัวอย่างของตำรับยาเสพติดให้โทษในประเภท 3 หรือตำรับวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 3 หรือประเภท 4 พ.ศ. .... | สธ. | 29/08/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑.อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงการขออนุญาตและการอนุญาตให้ผลิตหรือนำเข้าตัวอย่างของตำรับยาเสพติดให้โทษในประเภท
๓ หรือตำรับวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท ๓ หรือประเภท ๔ พ.ศ. .... ของกระทรวงสาธารณสุข มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์
วิธีการ เงื่อนไข
และอัตราค่าธรรมเนียมการขออนุญาตและการอนุญาตให้ผลิตหรือนำเข้าตัวอย่างตำรับยาเสพติดให้โทษประเภท
๓ หรือตำรับวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท ๓ หรือประเภท ๔ ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว
และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง
โดยให้รับความเห็นของสำนักงาน ก.พ.ร. ที่เห็นว่าในส่วนของร่างกฎกระทรวงฯ ข้อ ๓ ในกรณีผู้ขออนุญาตไม่แก้ไขเพิ่มเติมความบกพร่อง
ควรกำหนดให้ผู้อนุญาตมีหนังสือแจ้งเหตุแห่งการคืนคำขอให้ผู้ขออนุญาตทราบ และร่างกฎกระทรวงฯ
ข้อ ๔ ควรกำหนดระยะเวลาการแจ้งผลการพิจารณาทั้งในกรณีที่มีคำสั่งอนุญาตและไม่อนุญาตเป็นภายใน
๗ วัน เพื่อให้สอดคล้องตามมาตรา ๙ และมาตรา ๑๐ แห่งพระราชบัญญัติการอำนวยความสะดวกในการพิจารณาอนุญาตของทางราชการ
พ.ศ. ๒๕๔๘ นอกจากนี้
ในกรณีที่ผู้ขออนุญาตได้ยื่นคำขออนุญาตโดยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์แล้ว
การติดต่อหรือเอกสารหลักฐานใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับผู้นั้นควรกระทำโดยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์
เว้นแต่ผู้ขออนุญาตจะระบุไว้ เป็นประการอื่นในการยื่นคำขออนุญาต
เพื่อให้สอดคล้องกับพระราชบัญญัติการปฏิบัติราชการทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. ๒๕๖๕
ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒.
ให้กระทรวงสาธารณสุขรับความเห็นของกระทรวงอุตสาหกรรมและสำนักงาน ก.พ.ร. ที่เห็นว่าร่างกฎกระทรวงฯ
จะต้องคำนึงถึงประโยชน์และผลกระทบของประชาชนเป็นสำคัญ
เพื่อป้องกันการนำยาเสพติดไปใช้ในทางที่ให้โทษ และบั่นทอนสุขภาพของประชาชน ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3991 | แจ้งผลการพิจารณาของคณะกรรมการการเลือกตั้ง เรื่อง การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (นายกิตติ อินทรกุล และนางรุ่งทิวา สุดแดน) | นร.05 | 23/08/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการพิจารณาของคณะกรรมการการเลือกตั้ง
เรื่อง การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง
สังกัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จำนวน ๒ ราย ซึ่งคณะกรรมการการเลือกตั้งได้พิจารณาเรื่องดังกล่าวเมื่อวันที่
๘ สิงหาคม ๒๕๖๖ ตามที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอ ดังนี้ ๑. นายกิตติ อินทรกุล ๒. นางรุ่งทิวา สุดแดน
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3992 | แจ้งผลการพิจารณาของคณะกรรมการการเลือกตั้ง เรื่อง การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (นายเดชา พฤกษ์พัฒนรักษ์) | สลค. | 23/08/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการพิจารณาของคณะกรรมการการเลือกตั้ง
เรื่อง การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง ราย
นายเดชา พฤกษ์พัฒนรักษ์ ซึ่งคณะกรรมการการเลือกตั้งได้พิจารณาเรื่องดังกล่าวเมื่อวันที่
๒๗ กรกฎาคม ๒๕๖๖ ตามที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3993 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (นางสาวนันทินี ทรัพย์ศิริ) | รง. | 23/08/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง
นางสาวนันทินี ทรัพย์ศิริ ข้าราชการพลเรือนสามัญ ตำแหน่งประกันสังคมจังหวัด
(ผู้อำนวยการระดับสูง) สำนักงานประกันสังคม จังหวัดกาญจนบุรี สำนักงานประกันสังคม
ให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาด้านประสิทธิภาพ (นักวิชาการแรงงานทรงคุณวุฒิ)
สำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน ตั้งแต่วันที่ ๒ ธันวาคม ๒๕๖๕
ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานเสนอ
และให้ดำเนินการต่อไปได้เมื่อได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการการเลือกตั้งตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
มาตรา ๑๖๙ (๒)
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3994 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (นางนิพัทธา บรรจงลิขิตสาร) | นร.10 | 23/08/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง
นางนิพัทธา บรรจงลิขิตสาร ข้าราชการพลเรือนสามัญ ตำแหน่งผู้อำนวยการศูนย์
(ผู้อำนวยการระดับสูง) ศูนย์นักบริหารระดับสูง สำนักงาน ก.พ.
ให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาระบบราชการ
(นักทรัพยากรทรงคุณวุฒิ) สำนักงาน ก.พ. สำนักนายกรัฐมนตรี ตั้งแต่วันที่ ๓๑
พฤษภาคม ๒๕๖๖ ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่สำนักงาน
ก.พ.เสนอ
และให้ดำเนินการต่อไปได้เมื่อได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการการเลือกตั้งตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
มาตรา ๑๖๙ (๒)
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3995 | แจ้งผลการพิจารณาของคณะกรรมการการเลือกตั้ง เรื่อง การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (นางสาวมัทนา เจริญศรี) | สลค. | 23/08/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการพิจารณาของคณะกรรมการการเลือกตั้ง
เรื่อง การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ
ราย นางสาวมัทนา เจริญศรี ซึ่งคณะกรรมการการเลือกตั้งได้พิจารณาเรื่องดังกล่าวเมื่อวันที่
๘ สิงหาคม ๒๕๖๖ ตามที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3996 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (นางสาวภคนันท์ ศิลาอาสน์) | นร.04 | 23/08/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง
นางสาวภคนันท์ ศิลาอาสน์ ข้าราชการพลเรือนสามัญ ตำแหน่งผู้อำนวยการกอง
(ผู้อำนวยการระดับสูง) กองงานนายกรัฐมนตรี สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี
ให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีฝ่ายข้าราชการประจำด้านประสานกิจการภายในประเทศ
(นักวิเคราะห์นโยบายและแผนทรงคุณวุฒิ) สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี
สำนักนายกรัฐมนตรี ตั้งแต่วันที่ ๗ กรกฎาคม ๒๕๖๖
ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ
และให้ดำเนินการต่อไปได้เมื่อได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการการเลือกตั้งตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
มาตรา ๑๖๙ (๒)
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3997 | แจ้งผลการพิจารณาของคณะกรรมการการเลือกตั้ง เรื่อง การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (นายกิติพงษ์ มหารัตนวงศ์) | นร.05 | 23/08/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการพิจารณาของคณะกรรมการการเลือกตั้ง
เรื่อง การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง
ราย นายกิติพงษ์ มหารัตนวงศ์ ซึ่งคณะกรรมการการเลือกตั้งได้พิจารณาเรื่องดังกล่าวเมื่อวันที่
๒๗ กรกฎาคม ๒๕๖๖ ตามที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3998 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดลักษณะของเหรียญกษาปณ์ที่ระลึก 100 ปี มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ พ.ศ. .... | กค. | 23/08/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดลักษณะของเหรียญกษาปณ์ที่ระลึก
๑๐๐ ปี มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดลักษณะของเหรียญกษาปณ์โลหะสีขาว
(ทองแดงผสมนิกเกิล) ชนิดราคา ๒๐ บาท เพื่อเป็นที่ระลึกเนื่องในโอกาสครบ ๑๐๐ ปี
มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ ในวันที่ ๑ พฤษภาคม ๒๕๖๗ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา
แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3999 | การขยายระยะเวลาในการออกกฎหรือดำเนินการอย่างหนึ่งอย่างใดตามมาตรา 22 วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติหลักเกณฑ์การจัดทำร่างกฎหมายและการประเมินผลสัมฤทธิ์ของกฎหมาย พ.ศ. 2562 | มท. | 23/08/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบ
ดังนี้ ๑.
ให้ขยายระยะเวลาในการออกกฎ ซึ่งออกตามความในมาตรา ๖ ประกอบมาตรา ๔๔
แห่งพระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง
และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ. ๒๔๙๐ ออกไปอีก ๑ ปี ตั้งแต่วันที่ ๒๗ พฤศจิกายน ๒๕๖๖ ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
4000 | รายงานผลการดำเนินงานของระบบประกันภัยและพัฒนาการที่สำคัญ รอบ 12 เดือน ปี 2565 | กค. | 23/08/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการดำเนินงานของระบบประกันภัยและพัฒนาการที่สำคัญ
รอบ ๑๒ เดือน ปี ๒๕๖๕
ของสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (สำนักงาน คปภ.)
สรุปสาระสำคัญได้ ดังนี้ (๑) ภาพรวมธุรกิจประกันภัยของไทยรอบ ๑๒ เดือน ปี ๒๕๖๕
ขยายตัวร้อยละ ๐.๗๖ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนและคาดการณ์ว่าในปี ๒๕๖๖
ธุรกิจประกันภัยจะมีอัตราการเติบโตร้อยละ-๐.๑๓ ถึง ๑.๘๗ (๒)
การดำเนินงานตามแผนยุทธศาสตร์ สำนักงาน คปภ. ระยะ ๓ ปี (พ.ศ. ๒๕๖๔-๒๕๖๖)
และตามนโยบายของรัฐบาล เช่น
พัฒนาเครื่องมือและเพิ่มมิติการกำกับดูแลธุรกิจประกันภัย
ยกระดับมาตรฐานการให้บริการด้านการประกันภัย ส่งเสริมและสนับสนุนให้ไทยเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีการประกันภัย
และสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อให้บริษัทมีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ประกันภัยใหม่ ๆ และพัฒนาบุคลากรให้มีศักยภาพและสมรรถนะ (๓)
มาตรการให้ความช่วยเหลือและบรรเทาผลกระทบจากโควิด-๑๙ ต่อผู้เอาประกันภัย
ประชาชน ภาคธุรกิจประกันภัย และผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้อง เช่น การอนุโลมจ่ายค่ารักษาพยาบาลและค่าชดเชยรายวันให้แก่ผู้เอาประกันภัยที่รักษาตัวในศูนย์แยกกักตัวในชุมชนหรือสถานที่กักตัวในโรงแรมและมาตรการบรรเทาผลกระทบสำหรับบริษัทประกันวินาศภัยที่มีค่าสินไหมทดแทนโควิด-๑๙
(๔) การประเมินผลการดำเนินงานปี ๒๕๖๕ มีค่าคะแนนถ่วงน้ำหนักรวมอยู่ที่ ๔.๖๑
จากคะแนนเต็ม ๕ คะแนน และ (๕) ผลสำรวจความพึงพอใจของผู้รับบริการปี ๒๕๖๕
มีระดับความพึงพอใจมากที่สุดร้อยละ ๙๓.๖๐ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
|