ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 193 จากทั้งหมด 6200 หน้า แสดงรายการที่ 3841 - 3860 จากข้อมูลทั้งหมด 123994 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
3841 | กรอบและงบลงทุนของรัฐวิสาหกิจประจำปีงบประมาณ 2567 | นร.11 สศช | 26/09/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. เห็นชอบกรอบและงบลงทุนของรัฐวิสาหกิจประจำปีงบประมาณ
๒๕๖๗ วงเงินดำเนินการ จำนวน ๑,๓๘๐,๖๒๔ ล้านบาท และวงเงินเบิกจ่ายลงทุน จำนวน ๒๕๘,๙๘๕
ล้านบาท ประกอบด้วย (๑) กรอบการลงทุนสำหรับงานตามภารกิจปกติและโครงการต่อเนื่อง วงเงินดำเนินการ
จำนวน ๑,๑๘๐,๖๒๔ ล้านบาท และวงเงินเบิกจ่ายลงทุน
จำนวน ๒๐๘,๙๘๕ ล้านบาท และ (๒)
กรอบการลงทุนสำหรับการเพิ่มเติมระหว่างปี วงเงินดำเนินการ จำนวน ๒๐๐,๐๐๐ ล้านบาท และวงเงินเบิกจ่ายลงทุน จำนวน ๕๐,๐๐๐
ล้านบาท สำหรับโครงการที่ยังไม่ได้รับอนุมัติจากคณะรัฐมนตรี
และการลงทุนที่ใช้เงินงบประมาณตามพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๗ ให้ดำเนินการได้เมื่อได้รับอนุมัติตามขั้นตอนแล้ว ทั้งนี้
กำหนดเป้าหมายให้รัฐวิสาหกิจเบิกจ่ายลงทุนไม่น้อยกว่าร้อยละ ๙๕
ของกรอบวงเงินอนุมัติให้เบิกจ่ายลงทุน เห็นชอบให้สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
(สศช.) ปรับวงเงินลงทุนของรัฐวิสาหกิจประจำปีงบประมาณ ๒๕๖๗
ให้สอดคล้องกับผลการจัดสรรงบประมาณตามพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๗ รวมถึงงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติม งบกลาง
หรืองบประมาณที่ปรับปรุงเปลี่ยนแปลงตามหลักเกณฑ์และวิธีการงบประมาณหรือได้รับความเห็นชอบจากสำนักงบประมาณแล้ว
และปรับเพิ่มกรอบวงเงินดำเนินการและกรอบวงเงินเบิกจ่ายลงทุนให้สอดคล้องกับการอนุมัติการลงทุนเพิ่มเติมตามมติคณะรัฐมนตรี
เพื่อให้รัฐวิสาหกิจสามารถดำเนินการได้ทันทีภายในปีงบประมาณ เห็นชอบให้ สศช.
โดยประธาน สศช. เป็นผู้พิจารณาอนุมัติการเปลี่ยนแปลงงบลงทุนระหว่างปีในส่วนงบลงทุน
เพื่อการดำเนินงานปกติและโครงการต่อเนื่องที่การเปลี่ยนแปลงไม่มีผลกระทบต่อสาระสำคัญและกรอบวงเงินโครงการที่คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติไว้แล้ว
รวมทั้งเห็นชอบข้อเสนอแนะเชิงนโยบาย ระดับกระทรวง และระดับรัฐวิสาหกิจ
โดยให้กระทรวงเจ้าสังกัดและรัฐวิสาหกิจรับข้อเสนอแนะในส่วนที่เกี่ยวข้องไปพิจารณาดำเนินการ
และเห็นควรให้รัฐวิสาหกิจรายงานผลความก้าวหน้าของการดำเนินงานและการลงทุนปี ๒๕๖๗
ให้ สศช. ทราบภายในทุกวันที่ ๕ ของเดือนอย่างเคร่งครัด
รวมทั้งรายงานผลการดำเนินงานตามข้อเสนอแนะและความก้าวหน้าการดำเนินโครงการลงทุนทุกไตรมาส
เพื่อประโยชน์ในการติดตามประเมินผลการดำเนินงานและการลงทุนของรัฐวิสาหกิจได้อย่างต่อเนื่อง
และรับทราบประมาณการงบทำการประจำปีงบประมาณ ๒๕๖๗ ที่คาดว่าจะมีกำไรสุทธิประมาณ ๗๖,๗๕๖ ล้านบาท และประมาณการแนวโน้มการดำเนินงานช่วงปี ๒๕๖๘-๒๕๗๐
ของรัฐวิสาหกิจในเบื้องต้นที่คาดว่าจะมีการลงทุนเฉลี่ยประมาณปีละ ๓๗๖,๓๖๗ ล้านบาท และผลประกอบการจะมีกำไรสุทธิเฉลี่ยประมาณปีละ ๘๓,๔๔๓ ล้านบาท ตามที่สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอ
และให้กระทรวงเจ้าสังกัดที่กำกับดูแลรัฐวิสาหกิจและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงคมนาคม
กระทรวงพลังงาน สำนักงบประมาณ
และสำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก เช่น ปฏิบัติตามกฎหมาย
ระเบียบ ข้อบังคับและมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องโดยเคร่งครัด พิจารณาแนวทางการบรรเทาปัญหาด้านสภาพคล่องให้แก่การไฟฟ้าทั้ง
๓ แห่ง
และกำกับดูแลการดำเนินงานและการเบิกจ่ายงบลงทุนของรัฐวิสาหกิจสังกัดกระทรวงพลังงานให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
ควรมีการติดตามและประเมินผลการดำเนินงาน
เพื่อนำไปปรับใช้ในการจัดทำกรอบและงบลงทุนฯ ในระยะต่อไป
ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย ๒.
ให้กระทรวงเจ้าสังกัดที่กำกับดูแลรัฐวิสาหกิจเร่งรัดการดำเนินการเบิกจ่ายลงทุนของรัฐวิสาหกิจทุกแห่งในช่วงไตรมาสที่หนึ่งและไตรมาสที่สองของปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๗ ให้แล้วเสร็จโดยเร็ว เพื่อช่วยกระตุ้นระบบเศรษฐกิจในช่วงระหว่างการจัดทำ
(ร่าง) พระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๗
รวมทั้งให้กระทรวงการคลังประสานกับสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อเร่งแก้ไขปัญหารัฐวิสาหกิจที่อยู่ในแผนฟื้นฟูให้เกิดผลเป็นรูปธรรมโดยเร็ว |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3842 | การโอนข้าราชการพลเรือนสามัญเพื่อแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายเเดนภาคใต้ (พันตำรวจโท วรรณพงษ์ คชรักษ์) | นร. | 26/09/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติรับโอน พันตำรวจโท วรรณพงษ์
คชรักษ์ ข้าราชการพลเรือนสามัญ ตำแหน่งอธิบดีกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน
กระทรวงยุติธรรม
และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้
ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อทดแทนผู้ดำรงตำแหน่งที่จะเกษียณอายุราชการ ตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๖๖ เป็นต้นไป
ตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายสมศักดิ์ เทพสุทิน) เสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3843 | การจัดกิจกรรมเนื่องในวันคล้ายวันสวรรคตพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราชบรมนาถบพิตร 13 ตุลาคม 2566 ครบ 7 ปี | นร. | 26/09/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอว่า วันที่ ๑๓ ตุลาคม ของทุกปี
ถือเป็นวันสำคัญของชาติและเป็นวันหยุดราชการประจำปี
เนื่องจากเป็นวันคล้ายวันสวรรคตพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร
มหาภูมิพลอดุลยเดชบรมนาถบพิตร และสำหรับปีนี้นับเป็นวันแห่งการสวรรคตครบ ๗ ปี
หรือเรียกว่า “สัตตมวรรษ” รัฐบาลจึงนำความกราบบังคมทูลพระกรุณาขอพระราชทานพระบรมราชวินิจฉัยและทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้กำหนดชื่อวันดังกล่าวว่า
“วันนวมินทรมหาราช” ตามที่รัฐบาลขอพระราชทานพระมหากรุณา
เพื่อเป็นการน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงมีต่อปวงชนชาวไทยเป็นล้นพ้นอย่างหาที่สุดมิได้
ในการนี้ จึงขอให้ทุกส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐพิจารณาจัดกิจกรรมต่าง ๆ
ตามที่เห็นสมควรและเหมาะสม
เพื่อร่วมเทิดพระเกียรติและถวายพระราชกุศลเนื่องในโอกาสดังกล่าว ทั้งนี้
ขอเชิญชวนประชาชนและเอกชนทุกภาคส่วนจัดกิจกรรม/เข้าร่วมกิจกรรมต่าง ๆ
ดังกล่าวอย่างพร้อมเพรียงกันด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3844 | ขออนุมัติวงเงินงบประมาณก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ เพื่อเช่าที่ดินการรถไฟแห่งประเทศไทยบริเวณแนวทางรถไฟสายบางซื่อ-คลองตัน (ริมถนนรัชดาภิเษกแปลงที่ 39-41) | อส. | 26/09/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้สำนักงานอัยการสูงสุดดำเนินการเช่าที่ดินการรถไฟแห่งประเทศไทย
บริเวณแนวทางรถไฟสายบางซื่อ-คลองตัน (ริมถนนรัชดาภิเษก แปลงที่ ๓๙-๔๑)
ในลักษณะก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๗-พ.ศ. ๒๕๘๑
กำหนดอายุสัญญาเช่าเป็นระยะเวลา ๑๕ ปี นับตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๖๖ ถึงวันที่
๓๐ กันยายน ๒๕๘๑ วงเงินทั้งสิ้น ๑๔๔,๗๕๑,๕๐๐ บาท ตามนัยมาตรา ๔๒
แห่งพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑
และยกเว้นการปฏิบัติตามนัยมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๐ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๒
สำหรับค่าใช้จ่ายในการเช่าที่ดินที่จะเกิดขึ้นในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๗ จำนวน ๗,๙๗๘,๕๐๐ บาท ให้ใช้จ่ายตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการใช้งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๖ ไปพลางก่อน และจัดทำแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ
เพื่อเสนอขอตั้งงบงบประมาณรายจ่ายประจำปีตามขั้นตอนต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบบประมาณ
และให้สำนักงานอัยการสูงสุดรับความเห็นของกระทรวงการคลังและกระทรวงคมนาคม ที่เห็นควรให้ความสำคัญกับการควบคุม
และกำกับดูแลการใช้เงินดังกล่าว ให้เป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ
และหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้การใช้จ่ายงบประมาณมีความคุ้มค่าและเกิดประโยชน์สูงสุด
และให้ปฏิบัติตามกฎหมาย ข้อบังคับ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง โดยเคร่งครัด ไปดำเนินการต่อไปด้วย |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3845 | ขอรับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพื่อเป็นค่าตอบแทนรายเดือนแก่เจ้าหน้าที่การศึกษาพระปริยัติธรรม (จศป.) | พศ. | 26/09/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๖ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น
เพื่อเป็นค่าตอบแทนรายเดือนแก่เจ้าหน้าที่การศึกษาพระปริยัติธรรม จำนวน ๓,๓๒๐ อัตรา จำนวน ๓๔๖,๗๒๖,๔๐๐ บาท ตามที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติเสนอ และให้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติรับความเห็นของสำนักงบประมาณ
(หนังสือสำนักงบประมาณ ด่วนที่สุด ที่ นร ๐๗๐๓/๑๗๐๐๔ ลงวันที่ ๒๖ กันยายน ๒๕๖๖) ที่เห็นควรจะต้องตรวจสอบคุณสมบัติของผู้มีสิทธิได้รับค่าตอบแทน
จำนวนค่าตอบแทนตามสิทธิที่พึงได้รับ พร้อมจัดให้มีระบบควบคุมการเบิกจ่ายค่าตอบแทนอย่างชัดเจนมีเอกสารหลักฐานการเบิกจ่ายงบประมาณดังกล่าว
ตลอดจนการปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ประกาศคณะกรรมการศึกษาพระปริยัติธรรม
แผนกสามัญศึกษา ว่าด้วยขนาดโรงเรียนและกรอบอัตรากำลังพนักงานศาสนการด้านการศึกษา
พ.ศ. ๒๕๕๕ ตามสัดส่วนดังกล่าว ไปดำเนินการต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3846 | ขอรับการสนับสนุนงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น สำหรับค่าใช้จ่ายบุคลากรภาครัฐ ของสำนักงาน ป.ป.ช. เพิ่มเติม | ปช. | 26/09/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการการขอรับการจัดสรรงบประมาณรายจ่าย
งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ของสำนักงาน ป.ป.ช.
โดยให้สำนักงาน ป.ป.ช. ปรับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ
ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๖ ภายใต้แผนงานบุคลากรภาครัฐ รายการค่าใช้จ่ายดำเนินงาน
จำนวน ๒,๗๘๑,๙๕๔ บาท และใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๖ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น จำนวน ๙,๒๑๔,๐๔๖ บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น ๑๑,๙๙๖,๐๐๐ บาท เพื่อสมทบเป็นค่าใช้จ่ายบุคลากรในส่วนที่ไม่เพียงพอต่อไป
ตามนัยข้อ ๘ และข้อ ๙ (๑) ของระเบียบว่าด้วยการบริหารงบประมาณรายจ่ายงบกลาง
รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น พ.ศ. ๒๕๖๒
ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้รับทราบด้วยแล้ว และให้ปฏิบัติตามกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ
มติคณะรัฐมนตรี และหนังสือเวียนที่เกี่ยวข้องให้ถูกต้องครบถ้วนในทุกขั้นตอน โดยคำนึงถึงประโยชน์สูงสุดของทางราชการและประโยชน์ที่ประชาชนจะได้รับเป็นสำคัญ
ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3847 | การบริจาคเงินอุดหนุนตามความสมัครใจให้แก่ศูนย์ทุ่นระเบิดภูมิภาคอาเซียน | กต. | 26/09/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติในหลักการให้ไทยบริจาคเงินอุดหนุนสำหรับศูนย์ทุ่นระเบิดภูมิภาคอาเซียน
(ศูนย์ ARMAC) เป็นเวลา ๓ ปี ตั้งแต่ปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๗ ถึงปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๙ จำนวนปีงบประมาณละ ๑๐,๐๐๐
ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ ๔๐๐,๐๐๐ บาท รวมทั้งสิ้น ๓๐,๐๐๐ ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ ๑,๒๐๐,๐๐๐ บาท โดยให้กระทรวงการต่างประเทศเบิกจ่ายเงินอุดหนุนดังกล่าว จากงบประมาณของกระทรวงการต่างประเทศ
ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
และให้กระทรวงการต่างประเทศรับความเห็นของสำนักงบประมาณ โดยให้จัดทำแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ
เพื่อเสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีตามความจำเป็นและเหมาะสม
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3848 | มาตรการพักชำระหนี้ให้กับลูกหนี้รายย่อยตามนโยบายรัฐบาล (ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 13 กันยายน 2566) | กค. | 26/09/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบการแต่งตั้งคณะทำงานเพื่อกำหนดมาตรการในการพักหนี้เกษตรกรและผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม
(SMEs)
ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ เห็นชอบมาตรการพักชำระหนี้ให้กับลูกหนี้รายย่อยตามนโยบายรัฐบาล
รวมถึงการพัฒนาศักยภาพเพื่อฟื้นฟูลูกหนี้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร
ผู้เข้าร่วมมาตรการพักชำระหนี้ดังกล่าวภายใต้หลักการ “ตลาดนำ นวัตกรรมเสริม
เพิ่มรายได้” และอนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี จำนวนรวมทั้งสิ้น ๑๒,๐๙๖ ล้านบาท โดยมอบหมายให้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรทำความตกลงกับสำนักงบประมาณเพื่อขอรับการจัดสรรงบประมาณเป็นรายปีตามความเหมาะสมโดยคำนึงถึงสภาพคล่องของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรต่อไป
ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ทั้งนี้ ให้กระทรวงการคลัง
ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของสำนักงบประมาณ
สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และธนาคารแห่งประเทศไทย เช่น ให้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรจัดทำแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณเพื่อเสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีตามความจำเป็นและตามผลการดำเนินงานจริงต่อไป
ควรคัดกรองผู้ที่เข้าร่วมโครงการให้เป็นลูกหนี้ที่ได้รับความเดือดร้อนทางด้านสภาพคล่องอย่างแท้จริง
เพื่อมิให้ลูกหนี้ที่มีศักยภาพในการชำระหนี้ เกิดแรงจูงใจที่จะไม่ชำระหนี้
และมอบหมายให้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่มีข้อมูลของเกษตรกร
ร่วมกันประเมินสภาพปัญหาของผู้ที่แสดงความประสงค์จะเข้าร่วมโครงการ
และกำหนดแนวทางในการให้ความช่วยเหลือให้เหมาะสมแก่สภาพปัญหาของเกษตรกรแต่ละราย
ควรมีการสร้างแรงจูงใจให้ลูกหนี้ที่มีศักยภาพยังชำระหนี้ต่อเนื่อง
โดยออกแบบมาตรการที่ให้ผลตอบแทนแก่ลูกหนี้มากพอที่จะยังชำระหนี้ต่อ
รัฐจะต้องให้ความสำคัญกับการประชาสัมพันธ์และสื่อสารทำความเข้าใจกับลูกหนี้ถึงเจตนารมณ์และเงื่อนไขของโครงการอย่างชัดเจน
ครบถ้วน เป็นต้น ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3849 | ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้กำหนดชื่อวันคล้ายวันสวรรคตพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศรมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ว่า "วันนวมินทรมหาราช" ตามที่ขอพระราชทานพระมหากรุณา | นร.01 | 26/09/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบการกำหนดให้วันที่
๑๓ ตุลาคมของทุกปี เป็น “วันนวมินทรมหาราช” และให้ดำเนินการต่อไปได้
ตามที่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3850 | สรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร (วันจันทร์ที่ 25 กันยายน 2566) | ปสส. | 26/09/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร วันจันทร์ที่ ๒๕ กันยายน ๒๕๖๖ ซึ่งพิจารณาระเบียบวาระการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ ๒๖ ปีที่ ๑ ครั้งที่ ๑๗ (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่หนึ่ง) วันพุธที่ ๒๗ กันยายน ๒๕๖๖ และพิจารณาระเบียบวาระการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ ๒๖ ปีที่ ๑ ครั้งที่ ๑๘ (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่หนึ่ง) วันพฤหัสบดีที่ ๒๘ กันยายน ๒๕๖๖ ตามที่ฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3851 | แผนการบริหารหนี้สาธารณะ ประจำปีงบประมาณ 2567 | กค. | 26/09/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ๑.
อนุมัติตามที่คณะกรรมการนโยบายและกำกับการบริหารหนี้สาธารณะเสนอ ดังนี้ ๑.๑ อนุมัติแผนการบริหารหนี้สาธารณะ
ประจำปีงบประมาณ ๒๕๖๗ เฉพาะในส่วนที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติอนุมัติแล้ว การบริหารหนี้ที่ครบกำหนด
และการชำระหนี้ ประกอบด้วย (๑) แผนการก่อหนี้ใหม่ วงเงินรวม ๑๙๔,๔๓๔.๕๓ ล้านบาท
(๒) แผนการบริหารหนี้เดิม วงเงินรวม ๑,๖๒๑,๑๓๕.๒๒ ล้านบาท และ (๓) แผนการชำระหนี้
วงเงินรวม ๓๙๐,๕๓๘.๖๓ ล้านบาท ทั้งนี้ การดำเนินการตามแผนฯ หน่วยงานภายใต้แผนฯ
จะต้องดำเนินการตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องด้วย ๑.๒ อนุมัติให้รัฐวิสาหกิจ จำนวน ๔ แห่ง
ได้แก่ การเคหะแห่งชาติ (กคช.) บริษัท ธนารักษ์พัฒนาสินทรัพย์ จำกัด (ธพส.)
การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) และองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.)
ที่มีสัดส่วนความสามารถในการหารายได้เทียบกับภาระหนี้ของกิจการ (Debt Service Coverage Ratio : DSCR) ต่ำกว่า
๑ เท่า สามารถกู้เงินและบริหารหนี้ภายใต้แผนฯ ประจำปีงบประมาณ ๒๕๖๗
โดยให้รัฐวิสาหกิจทั้ง ๔ แห่งดังกล่าวและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของคณะกรรมการฯ
เช่น (๑) กคช. ควรเร่งดำเนินการตามแผนการบริหารจัดการทรัพย์สิน (Sunk Cost)
อย่างใกล้ชิดและต่อเนื่อง
และร่วมมือกับภาครัฐในการจัดทำแผนการใช้ที่ดินเพื่อพัฒนาโครงการภายใต้ยุทธศาสตร์การเคหะแห่งชาติ
เพื่อนำที่ดินไปใช้ในการพัฒนาโครงการในอนาคต (๒) ธพส. ควรเร่งรัดการดำเนินโครงการพัฒนาพื้นที่ส่วนขยายศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ
๘๐ พรรษา พื้นที่โซน C ให้มีความก้าวหน้า
ตามแผนการดำเนินงานและแผนการใช้เงิน และบริหารสินทรัพย์และหนี้สินให้มีประสิทธิภาพ
รวมทั้งพัฒนาและเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงานทั้งในด้านธุรกิจและด้านการเงิน
เพื่อเพิ่มระดับความน่าเชื่อถือและความเชื่อมั่นในการระดมทุน (๓) รฟท.
ควรเร่งโอนทรัพย์สินให้แก่บริษัทบริหารสินทรัพย์ของ รฟท.
ให้เป็นไปตามแผนงานที่กำหนด เพื่อให้เกิดรายได้มาชำระคืนหนี้คงค้างที่สะสม
และเร่งรัดดำเนินโครงการรถไฟทางคู่ และ (๔) ขสมก. ควรเร่งรัดการจัดทำแผนฟื้นฟูกิจการและแผนต่าง
ๆ อย่างครบถ้วน และจัดทำแผนดังกล่าวเป็นตัวชี้วัด (KPI) ของ
ขสมก. และมีการจัดการข้อมูลเกี่ยวกับการบริหารหนี้สาธารณะที่ถูกต้อง ครบถ้วน
และทันสมัย ไปดำเนินการด้วย ทั้งนี้ ขอให้ รฟท. และ ขสมก.
เร่งรัดการดำเนินการตามแผนฟื้นฟูกิจการของหน่วยงานเพื่อเพิ่มรายได้ให้เพียงพอสำหรับการชำระหนี้และเพื่อทำให้ฐานะทางการเงินของหน่วยงานดีขึ้นตามข้อสังเกตของคณะกรรมการฯ
รวมทั้งให้ รฟท. และ ขสมก.
รายงานความก้าวหน้าและปัญหาอุปสรรคในการดำเนินการตามแผนพื้นฟูกิจการของหน่วยงานต่อคณะกรรมการ
ฯ เพื่อทราบต่อไป ๑.๓
อนุมัติการกู้เงินเฉพาะในส่วนที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติอนุมัติแล้ว
ในส่วนของรัฐบาลสำหรับการก่อหนี้ใหม่ การกู้มาและการนำไปให้กู้ต่อ
การกู้เงินเพื่อปรับโครงสร้างหนี้ และการค้ำประกันเงินกู้ให้กับรัฐวิสาหกิจ
ตามมาตรา ๗ แห่งพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. ๒๕๔๘ และที่แก้ไขเพิ่มเติม
มาตรา ๗
แห่งพระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินและจัดการเงินกู้เพื่อช่วยเหลือกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน
(กองทุน Financial Institutions Development Fund :
FIDF) พ.ศ. ๒๕๔๑ และมาตรา ๗ แห่งพระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินและจัดการเงินกู้เพื่อช่วยเหลือกองทุน
FIDF ระยะที่สอง พ.ศ. ๒๕๔๕
รวมทั้งอนุมัติการกู้เงินของรัฐวิสาหกิจเฉพาะในส่วนที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติอนุมัติแล้วเพื่อลงทุนในโครงการพัฒนา
และการกู้เงินเพื่อปรับโครงสร้างหนี้ ภายใต้กรอบวงเงินของแผนฯ ประจำปีงบประมาณ
๒๕๖๗ และให้กระทรวงการคลังเป็นผู้พิจารณาการกู้เงิน วิธีการกู้เงิน
เงื่อนไขและรายละเอียดต่าง ๆ ของการกู้เงิน การค้ำประกัน
และการบริหารความเสี่ยงในแต่ละครั้งได้ตามความเหมาะสมและจำเป็น ทั้งนี้
หากรัฐวิสาหกิจสามารถดำเนินการกู้เงินได้เอง
ให้สามารถดำเนินการได้ตามความเหมาะสมและจำเป็นของรัฐวิสาหกิจนั้น ๆ ๒.
ให้กระทรวงการคลัง คณะกรรมการฯ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของสำนักงบประมาณ
สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และธนาคารแห่งประเทศไทยเกี่ยวกับการกำกับ
ติดตาม และเร่งรัดการดำเนินการของรัฐวิสาหกิจทั้ง ๔ แห่ง ให้เป็นรูปธรรมโดยเร็ว
การเร่งรัดการดำเนินงานและเบิกจ่ายเงินกู้ให้สอดคล้องและบรรลุวัตถุประสงค์ตามแผนที่กำหนด
การให้ความสำคัญกับการเพิ่มขีดความสามารถในการจัดเก็บรายได้
การจัดสรรงบประมาณเพื่อการชำระหนี้คืนต้นเงินกู้ให้มากขึ้น และการดำเนินนโยบายการคลังและการบริหารเงินกู้ที่ต้องเป็นไปอย่างระมัดระวังรอบคอบ
รวมทั้งการติดตามการดำเนินงานตามแนวทางการแก้ไขปัญหาขององค์กรหรือแผนพื้นฟูกิจการของรัฐวิสาหกิจที่มีความจำเป็นต้องกู้เงิน
แต่มีผลการดำเนินงานที่ไม่สอดคล้องกับหลักเกณฑ์ความสามารถในการชำระหนี้ตามระเบียบคณะกรรมการนโยบายและกำกับการบริหารหนี้สาธารณะ
พ.ศ. ๒๕๖๑
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3852 | ขอให้คณะรัฐมนตรีส่งรายชื่อผู้แทนคณะรัฐมนตรีเพื่อเป็นกรรมาธิการในคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการวุฒิสภา | สว. | 26/09/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติมอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรี
(นายสมศักดิ์ เทพสุทิน) เป็นผู้แทนคณะรัฐมนตรีเป็นกรรมาธิการในคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการวุฒิสภา
และให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีแจ้งรายชื่อดังกล่าวให้สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาทราบต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3853 | ขอรับจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น | กค. | 26/09/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๖ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น
ให้แก่ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร
เพื่อดำเนินการลดยอดลูกหนี้รอการชดเชยของรัฐบาล จำนวน ๑๔,๙๗๒,๔๑๗,๒๐๐ บาท ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3854 | คำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี (เรื่อง แก้ไขเพิ่มเติมคำสั่งมอบหมายและมอบอำนาจให้รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีปฏิบัติราชการแทนนายกรัฐมนตรี และเรื่อง มอบหมายและมอบอำนาจให้รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีปฏิบัติหน้าที่ประธานกรรมการ และมอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีปฏิบัติหน้าที่ประธานกรรมการ รองประธานกรรมการ และกรรมการ ในคณะกรรมการต่าง ๆ ตามกฎหมายและระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี) | นร.04 | 26/09/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีที่
๒๔๕/๒๕๖๖ เรื่อง แก้ไขเพิ่มเติมคำสั่งมอบหมายและมอบอำนาจให้รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีปฏิบัติราชการแทนนายกรัฐมนตรี
ลงวันที่ ๒๕ กันยายน ๒๕๖๖ และคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ ๒๔๖/๒๕๖๖ เรื่อง
มอบหมายและมอบอำนาจให้รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีปฏิบัติหน้าที่ประธานกรรมการ
และมอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีปฏิบัติหน้าที่ประธานกรรมการ
รองประธานกรรมการ และกรรมการ ในคณะกรรมการต่าง ๆ ตามกฎหมาย และระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี
ลงวันที่ ๒๕ กันยายน ๒๕๖๖ ตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3855 | ปรับปรุงการมอบหมายผู้มีอำนาจกำกับแผนงานบูรณาการ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 | นร.07 | 26/09/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติปรับปรุงการมอบหมายผู้มีอำนาจกำกับแผนงานบูรณาการ
ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๗ เพื่อให้การจัดทำงบประมาณรายจ่ายบูรณาการ
ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๗ และการกำกับดูแลการบริหารงบประมาณรายจ่ายบูรณาการประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๗ จำนวน ๑๐ แผนงาน เป็นไปด้วยความเรียบร้อย และมีประสิทธิภาพ ตามที่สำนักงบประมาณเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3856 | ขออนุมัติงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น พ.ศ. 2566 เพื่อใช้ในโครงการส่งเสริมการผลิตข้าวอินทรีย์ ปี 2564 | กษ. | 26/09/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๖
งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น พ.ศ. ๒๕๖๖ ในวงเงิน ๑,๐๓๔,๙๘๒,๐๐๐ บาท (เบิกจ่ายในงบเงินอุดหนุน ประเภทอุดหนุนทั่วไป)
สำหรับเป็นเงินอุดหนุนเกษตรกรของโครงการส่งเสริมผลิตข้าวอินทรีย์ ปี ๒๕๖๔ ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ
และให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของสำนักงบประมาณ
(หนังสือสำนักงบประมาณ ด่วนที่สุด ที่ นร ๐๗๐๗/๑๖๙๘๒ ลงวันที่ ๒๕ กันยายน ๒๕๖๖)
เช่น ควรพิจารณากำหนดมาตรการและแนวทางในการส่งเสริมเกษตรกรให้เข้าสู่ระบบเกษตรอินทรีย์
และสนับสนุนต่อยอดเกษตรกรที่ปัจจุบันทำนาข้าวอินทรีย์อยู่แล้วให้มีความสามารถในการรผลิตข้าวได้ตามมาตรฐานเกษตรอินทรีย์
โดยการอบรมถ่ายทอดองค์ความรู้ในการผลิตข้าวอินทรีย์ให้กับเกษตรกรอย่างต่อเนื่อง
การพัฒนาระบบ การตรวจสอบและรับรองมาตรฐานการผลิตข้าวอินทรีย์ให้มีประสิทธิภาพ
รวมถึงการสร้างการรับรู้ให้เห็นถึงคุณประโยชน์ของการบริโภคข้าวปลอดสารพิษ
รวมทั้งต้องกำกับติดตามการดำเนินงานให้เป็นไปอย่างโปร่งใส มีประสิทธิภาพ
ถูกต้องครบถ้วน ไม่ซ้ำซ้อน และบรรลุผลสัมฤทธิ์ตามวัตถุประสงค์ของโครงการ
ตลอดจนจัดทำรายงานการติดตาม ประเมินผลสัมฤทธิ์
และประโยชน์ที่เกษตรกรได้รับจากการดำเนินโครงการ
เพื่อให้มีข้อมูลประกอบการกำหนดนโยบายและบริหารจัดการของภาครัฐที่เหมาะสม
และรายงานผลการดำเนินโครงการต่อคณะรัฐมนตรีเมื่อสิ้นสุดโครงการ ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3857 | ขอรับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในรายการค่าอยู่เวรรักษาการณ์ผู้คุมผู้ต้องขัง | ยธ. | 26/09/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๖ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น
จำนวน ๑๔๙,๕๗๑,๘๐๐ บาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมรายการค่าอยู่เวรรักษาการณ์ผู้คุมผู้ต้องขัง ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.
๒๕๖๖ ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3858 | ขออนุมัติจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่าย เพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น (เงินอุดหนุนการสงเคราะห์เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุและเบี้ยยังชีพความพิการของกรุงเทพมหานคร) | มท. | 26/09/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๖ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่าย เพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เป็นเงิน ๕๔๑,๐๙๖,๘๐๐ บาท ให้กรุงเทพมหานคร
เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายเงินอุดหนุนการสงเคราะห์เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ เป็นเงิน ๕๑๘,๗๑๘,๒๐๐ บาท และเงินอุดหนุนการสงเคราะห์เบี้ยยังชีพความพิการ
เป็นเงิน ๒๒,๓๗๘,๖๐๐ บาท ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3859 | ขออนุมัติเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพื่อดำเนินการตามมาตรการสนับสนุนการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าประเภทรถยนต์และรถจักรยานยนต์ | กค. | 26/09/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๖ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น จำนวน ๑,๐๒๔,๔๑๔,๐๐๐ บาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายเงินอุดหนุนตามมาตรการสนับสนุนการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าประเภทรถยนต์และรถจักรยานยนต์ต่อไป
ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3860 | การใช้ประโยชน์ในที่ดินของรัฐในความครอบครองของกระทรวงกลาโหม | นร. | 26/09/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอว่า
เพื่อให้การใช้ประโยชน์ในที่ดินของรัฐในความครอบครองของหน่วยงานต่าง ๆ ในสังกัดกระทรวงกลาโหมเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและเกิดประโยชน์สูงสุด
จึงขอให้กระทรวงกลาโหมรับเรื่องนี้ไปประสานกับหน่วยงานต่าง ๆ
ในสังกัดกระทรวงกลาโหมเพื่อตรวจสอบพื้นที่ของรัฐในความครอบครองของแต่ละหน่วยงานให้ถูกต้อง
ชัดเจน และพิจารณากำหนดแนวทางการอนุญาตให้ประชาชนเข้าใช้ประโยชน์เพื่อทำกินในที่ดินดังกล่าวในส่วนที่หน่วยงานมิได้ใช้ประโยชน์จริง
ทั้งนี้ ให้กระทรวงกลาโหมรายงานความคืบหน้าในการดำเนินการเรื่องนี้ต่อคณะรัฐมนตรีภายใน
๒ สัปดาห์
|