ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 183 จากทั้งหมด 6200 หน้า แสดงรายการที่ 3641 - 3660 จากข้อมูลทั้งหมด 123994 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
3641 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (นางรุ่งรัตนา บุญ-หลง) | นร.01 | 24/10/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง
นางรุ่งรัตนา บุญ-หลง ข้าราชการพลเรือนสามัญ ตำแหน่งผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ให้ดำรงตำแหน่งรองปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี
สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี สำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่าง
เนื่องจากผู้ดำรงตำแหน่งเดิมเกษียณอายุราชการ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไป
ตามที่สำนักนายกรัฐมนตรีเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3642 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (นายธนากร คัยนันท์) | ยธ. | 24/10/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายธนากร คัยนันท์ ข้าราชการพลเรือนสามัญ
ตำแหน่งรองเลขาธิการ ป.ป.ส. (นักบริหารระดับต้น) สำนักงาน ป.ป.ส. ให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด
(นักวิเคราะห์นโยบายและแผนทรงคุณวุฒิ) สำนักงาน ป.ป.ส. กระทรวงยุติธรรม
ตั้งแต่วันที่ ๑๐ เมษายน ๒๕๖๖ ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์
ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3643 | รายงานการโอนงบประมาณรายจ่ายตามพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. 2561 มาตรา 51 ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 | นร.07 | 24/10/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานการโอนงบประมาณรายจ่ายตามพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๑ มาตรา ๕๑ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๖ ในระหว่างวันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๖๕-๓๐
กันยายน ๒๕๖๖ ตามที่สำนักงบประมาณเสนอ และให้รายงานต่อรัฐสภาต่อไป
ซึ่งสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีได้เสนอรายงานดังกล่าวไปเพื่อรัฐสภาทราบต่อไปแล้ว
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3644 | รายงานประจำปีและรายงานงบการเงินขององค์กรร่วมไทย-มาเลเซีย ประจำปี 2565 | พน. | 24/10/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานประจำปีและรายงานงบการเงินขององค์กรร่วมไทย-มาเลเซีย
ประจำปี ๒๕๖๕
ซึ่งผ่านการตรวจสอบจากผู้สอบบัญชีและได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการองค์กรร่วมฯ
และการประชุมสมัยสามัญประจำปีขององค์กรร่วมฯ เมื่อวันที่ ๑๗ มิถุนายน ๒๕๖๖ สรุปได้
ดังนี้ (๑) การผลิตก๊าซธรรมชาติจากพื้นที่พัฒนาร่วม มีจำนวน ๔๐๒.๕๗
พันล้านลูกบาศก์ฟุต โดยมีก๊าซธรรมชาติส่งเข้าไทย ๑๖๖.๔๓ พันล้านลูกบาศก์ฟุต
และส่งเข้ามาเลเซีย ๒๓๖.๑๔ พันล้านลูกบาศก์ฟุต และ (๒) รายได้จากการขายปิโตรเลียม
องค์กรร่วมฯ มีรายได้จากการขายปิโตรเลียม จำนวน ๑๙๖๐.๗๘ ล้านดอลลาร์สหรัฐ มีรายรับสุทธิ
รวม ๔๙๒.๐๑ ล้านดอลลาร์สหรัฐ สถานะของกองทุนองค์กรร่วมฯ ณ วันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๖๕
มียอดรวม ๙๙๓.๒๕ ล้านดอลลาร์สหรัฐ และได้นำส่งรายได้ให้รัฐบาลทั้ง ๒ ประเทศ รวม
๖๘๙.๕๐ ล้านดอลลาร์สหรัฐ ตามที่กระทรวงพลังงานเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3645 | ขออนุมัติการขอรับจัดสรรงบประมาณรายจ่ายงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น สำหรับโครงการเช่าพื้นที่บริเวณศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2560 | กค. | 24/10/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติการขอรับจัดสรรงบประมาณรายจ่ายงบกลาง
รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น จำนวน ๑๘๙,๗๔๗,๓๐๐ บาท
เพื่อสมทบเพิ่มเติมรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๖ ไปพลางก่อน
ให้เต็มกรอบวงเงินตามสัญญาเช่าพื้นที่อาคารและสัญญาบริการของโครงการเช่าพื้นที่บริเวณศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ
๘๐ พรรษา ๕ ธันวาคม ๒๕๕๐ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๗ ต่อไป ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
และให้กระทรวงการคลังรับความเห็นของสำนักงบประมาณ (หนังสือสำนักงบประมาณ ด่วนที่สุด ที่ นร ๐๗๐๖/๔๑๐ ลงวันที่ ๒๔ ตุลาคม
๒๕๖๖) โดยให้เบิกจ่ายในงบดำเนินงาน และให้กรมธนารักษ์จัดทำแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ
เพื่อขอทำความตกลงกับสำนักงบประมาณตามขั้นตอน ไปดำเนินการต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3646 | ข้อเสนอแนะแนวทางในการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชน เพื่อแก้ไขปัญหาที่ดินให้สอดคล้องกับหลักการสิทธิในที่ดินและสิทธิชุมชน | สม. | 24/10/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. รับทราบข้อเสนอแนะแนวทางในการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชน
เพื่อแก้ไขปัญหาที่ดินทำกินให้สอดคล้องกับหลักการสิทธิในที่ดินและสิทธิชุมชน
เพื่อให้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา ๒๔๗ (๓)
และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๖๐ มาตรา ๒๖ (๓) (ตามข้อ ๒.๓) ตามที่คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3647 | การเลื่อนวันหยุดชดเชยวันหยุดราชการ ประจำปี 2566 และการกำหนดวันหยุดราชการเพิ่มเป็นกรณีพิเศษประจำปี 2567 | นร.05 | 24/10/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑.เห็นชอบให้เลื่อนวันหยุดชดเชยวันสิ้นปี ประจำปี
๒๕๖๖ จากวันอังคารที่ ๒ มกราคม ๒๕๖๗ เป็นวันศุกร์ที่ ๒๙ ธันวาคม ๒๕๖๖ ๒. เห็นชอบการกำหนดวันหยุดราชการเพิ่มเป็นกรณีพิเศษ
ประจำปี ๒๕๖๗ จำนวน ๑ วัน คือวันจันทร์ที่ ๓๐ ธันวาคม ๒๕๖๗
และรับทราบภาพรวมวันหยุดราชการ ประจำปี ๒๕๖๗ จำนวน ๒๐ วัน ๓. ในกรณีที่หน่วยงานใด มีภารกิจในการให้บริการประชาชน
หรือมีความจำเป็น หรือราชการสำคัญในวันหยุดดังกล่าวที่ได้กำหนดหรือนัดหมายไว้ก่อนแล้ว
ซึ่งหากยกเลิกหรือเลื่อนไปจะเกิดความเสียหายหรือกระทบต่อการให้บริการประชาชน
ให้หัวหน้าหน่วยงานนั้นพิจารณาดำเนินการตามที่เห็นสมควร โดยมิให้เกิดความสียหายแก่ทางราชการและกระทบต่อการให้บริการประชาชน ๔. ในส่วนของรัฐวิสาหกิจ สถาบันการเงิน และภาคเอกชน
ให้รัฐวิสาหกิจแต่ละแห่ง ธนาคารแห่งประเทศไทย
และกระทรวงแรงงานพิจารณาความจำเป็นเหมาะสมของการกำหนดให้วันดังกล่าวข้างต้น เป็นวันหยุดให้สอดคล้องกับกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
แล้วแต่กรณีต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3648 | การขอยกเว้นการยื่นรายการตามแบบรายการของคนต่างด้าวซึ่งเดินทางเข้ามาในหรือออกไปนอกราชอาณาจักร (แบบ ตม.6) ณ ด่านตรวจคนเข้าเมืองสะเดา จังหวัดสงขลา เป็นการชั่วคราว | กก. | 24/10/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. เห็นชอบในหลักการยกเว้นการยื่นรายการตามแบบรายการของคนต่างด้าวซึ่งเดินทางเข้ามาในหรือออกไปนอกราชอาณาจักร
(แบบ ตม.๖) ณ ด่านตรวจคนเข้าเมืองสะเดา
จังหวัดสงขลา เป็นการชั่วคราว ในช่วงระหว่างวันที่ ๑ พฤศจิกายน ๒๕๖๖-๓๐ เมษายน
๒๕๖๗ และให้กระทรวงมหาดไทยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
ตามที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเสนอ ทั้งนี้
ให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงมหาดไทย
สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ที่เห็นควรให้มีการจัดทำประเมินรายได้จากการท่องเที่ยวทั้งทางตรงและทางอ้อม
เพื่อสะท้อนให้เห็นประโยชน์ในเชิงเศรษฐกิจของการดำเนินมาตรการดังกล่าว
ตลอดจนอาจพิจารณาดำเนินการในลักษณะเดียวกันกับชายแดนประเทศเพื่อนบ้านอื่น ๆ
เพื่อไม่ให้เกิดการเลือกปฏิบัติด้วย
ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตามและประเมินผลกระทบที่เกิดขึ้นอย่างรอบด้าน เช่น ผลของการกระตุ้นเศรษฐกิจในฤดูท่องเที่ยวหรือสถิติที่เกี่ยวกับอาชญากรรมหรือความมั่นคง
โดยรายงานผลการดำเนินการเมื่อสิ้นสุดมาตรการ
และควรมีการประเมินความเสี่ยงจากการยกเลิกการยื่นรายการตามแบบ ตม.๖ เป็นระยะ
พร้อมทั้งควรส่งเสริมระบบการตรวจคนเข้าเมืองในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อให้นักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าประเทศไทยผ่านช่องทางบกและทางน้ำสามารถยื่นแบบได้ก่อนการเดินทาง
โดยการมีระบบดังกล่าวจะช่วยส่งผลให้ประเทศไทยสามารถดูแลความมั่นคงในการเดินทางเข้าเมืองระหว่างประเทศได้อย่างยั่งยืนในระยะยาว
ไปพิจารณาประกอบการดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3649 | การประชุมหารือพิเศษของรัฐมนตรีท่องเที่ยวอาเซียน - ญี่ปุ่น | กก. | 24/10/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างถ้อยแถลงข่าวร่วมการประชุมหารือพิเศษของรัฐมนตรีท่องเที่ยวอาเซียน-ญี่ปุ่น และอนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา หรือผู้แทนที่ได้รับมอบหมายร่วมรับรองร่างแถลงข่าวร่วมฯ โดยร่างถ้อยแถลงข่าวร่วมฯ มีเนื้อหาสะท้อนเจตนารมณ์ของรัฐมนตรีท่องเที่ยวอาเซียน-ญี่ปุ่น ในการพัฒนาศักยภาพการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ซึ่งจะเป็นกุญแจสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ภายใต้กลยุทธ์เชิงนโยบายของญี่ปุ่นและอาเซียน โดยมุ่งส่งเสริมการเดินทางท่องเที่ยวในพื้นที่ท้องถิ่น การใช้ตลาดเชิงนวัตกรรมเพื่อการท่องเที่ยว การอำนวยความสะดวกในการเดินทางให้นักท่องเที่ยว การเสริมสร้างขีดความสามารถของจุดหมายปลายทางด้านการท่องเที่ยวในการรับมือต่อการเปลี่ยนแปลง การพัฒนาศักยภาพบุคลากรด้านการท่องเที่ยว และการส่งเสริมความร่วมมือระหว่างภาครัฐและภาคเอกชนผ่านการส่งเสริมและประชาสัมพันธ์จุดหมายปลายทางด้านท่องเที่ยว โดยเฉพาะในพื้นที่ชนบท และความร่วมมือเชิงวิชาการในด้านต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ตามที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเสนอ ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างถ้อยแถลงข่าวร่วมฯ ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้ ให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3650 | ร่างถ้อยแถลงร่วมว่าด้วยการส่งเสริมการแบ่งปันข้อมูลข่าวสาร ระหว่างกระทรวงกลาโหมแห่งราชอาณาจักรไทยกับกระทรวงกลาโหมแห่งเครือรัฐออสเตรเลีย | กห. | 24/10/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างถ้อยแถลงร่วมว่าด้วยการส่งเสริมการแบ่งปันข้อมูลข่าวสารระหว่างกระทรวงกลาโหมแห่งราชอาณาจักรไทยกับกระทรวงกลาโหมแห่งเครือรัฐออสเตรเลีย
(Joint Statement on Enhanced Information
Sharing between the Ministry of Defence of the Kingdom of Thailand and the
Department of Defence of the Commonwealth of Australia) และให้ปลัดกระทรวงกลาโหม
หรือผู้แทนที่ได้รับมอบหมาย เป็นผู้ร่วมลงนามในร่างถ้อยแถลงร่วมฯ
โดยร่างถ้อยแถลงร่วมฯ
เป็นเอกสารที่แสดงเจตนารมณ์ร่วมกันในการกำหนดขั้นตอนกรอบแนวทางและการดำเนินการตามกฎหมายที่เหมาะสมในการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารระหว่างหน่วยงานภายใต้กระทรวงกลาโหมของทั้งสองประเทศ
ซึ่งจะเป็นการส่งเสริมการพัฒนาศักยภาพในด้านต่าง ๆ
สนับสนุนความพร้อมในการรับมือกับความท้าทายด้านความมั่นคงที่มีร่วมกันในปัจจุบัน
อาทิ การบริหารจัดการโรคระบาด การต่อต้านการก่อการร้าย
การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และความมั่นคงทางทะเล
ตลอดจนเป็นการเสริมสร้างการพัฒนาความร่วมมือด้านความมั่นคง อันจะนำไปสู่ขีดความสามารถในการป้องปรามและตอบสนองต่อภัยคุกคามและสิ่งท้าทายร่วมกันในอนาคตอย่างมีประสิทธิภาพ
ตามที่กระทรวงกลาโหมเสนอ ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างถ้อยแถลงร่วมฯ
ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้
ให้กระทรวงกลาโหมดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง
พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ประเทศไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวตามหลักเกณฑ์ของมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การจัดทำหนังสือสัญญาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรือองค์การระหว่างประเทศ)
และให้กระทรวงกลาโหมรับความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรวิเคราะห์และประเมินผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้อง
รวมถึงสื่อสารผลลัพธ์ให้สาธารณชนและทุกภาคส่วนได้รับรู้ถึงประโยชน์ที่ประเทศไทยพึงจะได้รับ
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3651 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดลักษณะของเหรียญกษาปณ์ที่ระลึก 100 ปี วันประสูติ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ พ.ศ. .... | กค. | 24/10/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงกำหนดลักษณะของเหรียญกษาปณ์ที่ระลึก 100 ปี วันประสูติ
สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ พ.ศ. ....
ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดลักษณะของเหรียญกษาปณ์โลหะสีขาว
(ทองแดงผสมนิกเกิล) ชนิดราคายี่สิบบาท เพื่อเป็นที่ระลึกเนื่องในโอกาสครบ ๑๐๐ ปี
วันประสูติ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา
กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ในวันที่ ๖ พฤษภาคม ๒๕๖๖ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3652 | การโอนเงินหรือสินทรัพย์ของกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงินเพื่อชำระคืนต้นเงินกู้และดอกเบี้ย FIDF 1 และ FIDF 3 | กค. | 24/10/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้โอนเงินกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงินเข้าบัญชีสะสมเพื่อการชำระคืนต้นเงินกู้ชดใช้ความเสียหายของกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน
(บัญชีสะสม) ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๗ จำนวน ๒,๐๐๐ ล้านบาท โดยให้กองทุนฯ ทยอยโอนเงินดังกล่าวเข้าบัญชีสะสมฯ
ตามปริมาณสภาพคล่องของกองทุนฯ เนื่องจากจำนวนเงินดังกล่าวมีความเหมาะสมกับประมาณการกระแสเงินรับ-จ่ายของกองทุนฯ
และมีเงินสดคงเหลือเพียงพอเพื่อสำรองเป็นค่าใช้จ่ายดำเนินงาน ๒ ปี และภาระชดเชย ที่ต้องดำเนินการ
อย่างไรก็ดี หากกองทุนฯ
ได้รับเงินที่มีนัยสำคัญให้พิจารณาทบทวนเพื่อขออนุมัตินำส่งเงินเข้าบัญชีสะสมฯ
เพื่อเติมต่อไป ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3653 | การจัดทำร่างบันทึกความเข้าใจว่าด้วยการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมระหว่างกระทรวงวัฒนธรรมแห่งราชอาณาจักรไทยกับกระทรวงแถลงข่าว วัฒนธรรม และการท่องเที่ยวแห่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว | วธ. | 24/10/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการจัดทำร่างบันทึกความเข้าใจว่าด้วยการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมระหว่างกระทรวงวัฒนธรรมแห่งราชอาณาจักรไทยกับกระทรวงแถลงข่าว
วัฒนธรรม และการท่องเที่ยวแห่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (Memorandum of Understanding on Cultural Exchange between
the Ministry of Culture of the Kingdom of Thailand and the Ministry of
Information, Culture and Tourism of the Lao People’s Democratic Republic) และอนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมหรือผู้แทนที่ได้รับมอบหมายเป็นผู้ลงนามฝ่ายไทยในร่างบันทึกความเข้าใจฯ
รวมทั้งมอบหมายให้กระทรวงการต่างประเทศจัดทำหนังสือมอบอำนาจเต็ม (Full
Powers) ให้แก่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมหรือผู้แทนที่ได้รับมอบหมายเป็นผู้ลงนามในร่างบันทึกความเข้าใจฯ
โดยร่างบันทึกความเข้าใจฯ มีสาระสำคัญเป็นการส่งเสริมความสัมพันธ์ฉันมิตรระหว่างสองประเทศ
และความเข้าใจระหว่างประชาชนให้แน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น โดยความร่วมมือในสาขาวัฒนธรรม
อาทิ การฝึกอบรม การแลกเปลี่ยนประสบการณ์และข้อมูลข่าวสารด้านวัฒนธรรม
ตลอดจนความร่วมมือต่าง ๆ ระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
เพื่อสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมของกันและกัน
การส่งเสริมการแลกเปลี่ยนและความร่วมมือด้านการปกป้องมรดกทางวัฒนธรรม
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านพิพิธภัณฑ์วิทยา การเก็บรักษาอนุสรณ์สถานทางประวัติศาสตร์
และการค้นคว้าทางโบราณคดี
รวมทั้งการดำเนินการร่วมกันต่อต้านการลักลอบค้าวัตถุทางวัฒนธรรม ตามที่กระทรวงวัฒนธรรมเสนอ
ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างบันทึกความเข้าใจฯ
ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้
ให้กระทรวงวัฒนธรรมดำเนินการได้โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง
พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวตามหลักเกณฑ์ของมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การจัดทำหนังสือสัญญาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรือองค์การระหว่างประเทศ)
ด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3654 | ขออนุมัติงบประมาณสำหรับงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 | สปสช. | 24/10/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติให้คณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติรับเรื่องนี้คืนไปเพื่อพิจารณาทบทวนในรายละเอียดร่วมกับสำนักงบประมาณและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ชัดเจนและเหมาะสมมากยิ่งขึ้น
โดยให้รับความเห็นของกระทรวงการคลัง สำนักงบประมาณ
สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข
ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีอีกครั้งหนึ่ง
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3655 | ข้อเสนอแนะ กรณีปัญหามลภาวะทางอากาศในพื้นที่ 8 จังหวัด ภาคเหนือตอนบน | สม. | 24/10/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. รับทราบข้อเสนอแนะ กรณีปัญหามลภาวะทางอากาศในพื้นที่
๘ จังหวัด ภาคเหนือตอนบน ได้แก่ จังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย ลำปาง ลำพูน แม่ฮ่องสอน
น่าน แพร่ และพะเยา เพื่อให้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา ๒๔๗ (๓)
และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๖๐
มาตรา ๒๖ (๓) ตามที่คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติเสนอ ๒. มอบหมายให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเป็นหน่วยงานหลักรับเรื่องนี้ไปพิจารณาร่วมกับกระทรวงการคลัง
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
กระทรวงมหาดไทย กระทรวงสาธารณสุข สำนักงบประมาณ สำนักงาน ก.พ.ร. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อศึกษาแนวทางและความเหมาะสมของข้อเสนอแนะดังกล่าว
โดยให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
สรุปผลการพิจารณาหรือผลการดำเนินการดังกล่าวในภาพรวม
แล้วส่งให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีภายใน ๓๐ วัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้งคำสั่ง
เพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3656 | การสนับสนุนการสร้างพลังสร้างสรรค์ หรือ Soft Power ของประเทศ | นร. | 24/10/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอว่า
ตามที่รัฐบาลได้แถลงนโยบายต่อรัฐสภาไว้ว่า
รัฐบาลมีนโยบายสนับสนุนการสร้างพลังสร้างสรรค์ หรือ Soft Power ของประเทศ
เพื่อยกระดับและพัฒนาความรู้ ความสามารถ
และความคิดสร้างสรรค์ของคนไทยให้สร้างมูลค่าและสร้างรายได้ รวมทั้งการอนุรักษ์
ฟื้นฟู และพัฒนาต่อยอดศิลปะ วัฒนธรรม และส่งเสริมภูมิปัญญาท้องถิ่น
เพื่อนำมาต่อยอดในการสร้างมูลค่าเพิ่ม นั้น
ขอให้ทุกส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐร่วมกันขับเคลื่อนและผลักดัน Soft
Power ประเภทต่าง ๆ
ของไทยในส่วนที่อยู่ในอำนาจหน้าที่หรือที่เกี่ยวข้อง เช่น สถานที่ท่องเที่ยว ศิลปะ
ประเพณี วัฒนธรรม การแสดง อาหาร ดนตรี ให้เกิดผลเป็นรูปธรรมและขยายวงกว้างออกไปมากยิ่งขึ้นโดยเร็วต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3657 | ผลการประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังและผู้ว่าการธนาคารกลางอาเซียน ครั้งที่ 10 และการประชุมอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง | กค. | 24/10/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังและผู้ว่าการธนาคารกลางอาเซียน
ครั้งที่ ๑๐ และการประชุมอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ระหว่างวันที่ ๒๒-๒๕ สิงหาคม ๒๕๖๖ ณ
กรุงจาการ์ตา สาธารณรัฐอินโดนีเซีย โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังในขณะนั้น
(นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ) เป็นหัวหน้าคณะผู้แทนเข้าร่วมประชุม
โดยที่ประชุมได้มีการปรับปรุงร่างแถลงการณ์ร่วมดังกล่าว
โดยมีบางถ้อยคำแตกต่างจากฉบับร่างที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบเมื่อวันที่ ๒๓
สิงหาคม ๒๕๖๖ เพื่อให้มีความเหมาะสม และสะท้อนข้อเท็จจริงมากขึ้น
โดยไม่กระทบสาระสำคัญ ไม่กระทบหรือขัดต่อผลประโยชน์ของประเทศไทย
และไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3658 | การประชุมรัฐภาคีอนุสัญญามินามาตะว่าด้วยปรอท สมัยที่ 5 | ทส. | 24/10/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบและเห็นชอบเรื่องการประชุมรัฐภาคีอนุสัญญามินามาตะว่าด้วยปรอท สมัยที่ ๕ ซึ่งมีกำหนดจัดประชุมระหว่างวันที่ ๓๐ ตุลาคม - ๓ พฤศจิกายน ๒๕๖๖ ณ นครเจนีวา สมาพันธรัฐสวิส มีวัตถุประสงค์เพื่อปกป้องสุขภาพของมนุษย์และสิ่งแวดล้อมจากการปลดปล่อยสู่บรรยากาศ และการปล่อยสู่ดินหรือน้ำของปรอทและสารประกอบปรอทจากกิจกรรมของมนุษย์ ปัจจุบันมีภาคีสมาชิก จำนวน ๑๔๗ ประเทศทั่วโลก (ข้อมูล ณ เดือนกันยายน ๒๕๖๖) กรอบการเจรจาของไทยสำหรับการประชุมฯ มีสาระสำคัญคือสนับสนุนการดำเนินการเพื่อปกป้องสุขภาพของมนุษย์และสิ่งแวดล้อม คำนึงถึงสภาพการณ์ต่าง ๆ และความต้องการจำเพาะของประเทศกำลังพัฒนา และสอดคล้องกับนโยบายของไทย ส่วนท่าทีของไทย มีประเด็นที่สำคัญ เช่น (๑) สนับสนุนการแก้ไขภาคผนวก เอ และ บี ของอนุสัญญามินามาตะว่าด้วยปรอท โดยขอเพิ่มผลิตภัณฑ์ที่ห้ามผลิต นำเข้า และส่งออก และเพิ่มประบวนการผลิตที่ห้ามใช้ปรอทและสารประกอบปรอท (๒) ไม่เห็นด้วยกับการยกเลิกการใช้อะมัลกัมทางทันตกรรม และ (๓) สนับสนุนการกำหนดเกณฑ์ความเข้มข้นของของเสียที่ปนเปื้อนปรอทหรือสารประกอบของปรอทที่ ๒๕ มก./กก. เป็นต้น โดยรับทราบองค์ประกอบคณะผู้แทนไทย สำหรับการประชุมรัฐภาคีอนุสัญญามินามาตะว่าด้วยปรอท สมัยที่ ๕ และเห็นชอบต่อกรอบการเจรจาและท่าทีของประเทศไทย สำหรับการประชุมรัฐภาคีอนุสัญญามินามาตะว่าด้วยปรอท สมัยที่ ๕ รวมทั้งหากมีข้อเจรจาใดที่นอกเหนือจากกรอบการเจรจาและท่าทีของประเทศไทย และไม่มีผลผูกพันทางกฎหมาย (Legally binding) ต่อประเทศไทย ขอให้เป็นดุลยพินิจของหัวหน้าคณะผู้แทนไทยเป็นผู้พิจารณา โดยไม่ต้องนำกลับเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาใหม่จนสิ้นสุดการประชุมรัฐภาคือนุสัญญามินามาตะว่าด้วยปรอท สมัยที่ ๕ ในวันที่ ๓ พฤศจิกายน ๒๕๖๖ ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ ทั้งนี้ ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา (หนังสือสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ด่วนที่สุด ที่ นร ๑๙๐๗/๑๗๓ ลงวันที่ ๒๕ สิงหาคม ๒๕๖๖) รวมทั้งความเห็นและข้อสังเกตของกระทรวงการต่างประเทศ (หนังสือกระทรวงการต่างประเทศ ที่ กต ๐๘๐๒/๕๔๗ ลงวันที่ ๑๒ กันยายน ๒๕๖๖) ที่เห็นพ้องตรงกันว่า ไม่ขัดข้อง และเห็นว่าเรื่องดังกล่าวนี้ไม่มีประเด็นพิจารณาเกี่ยวกับการทำหนังสือตามสัญญาตามมาตรา ๑๗๘ ของรัฐธรรมนูญ อย่างไรก้ตาม หากที่ประชุมฯ รับรองการแก้ไขภาคผนวก การรับรองดังกล่าวจะมีผลต่อเมื่อไทยยื่นสัตยาบันสาร สารการยอมรับ สารการให้ความเห็นชอบ หรือภาคยานุวัติสาร โดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรีในภายหลัง ไปพิจารณาด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3659 | การต่ออายุความตกลงประเทศเจ้าภาพระหว่างไทยกับสหประชาชาติในรูปแบบหนังสือแลกเปลี่ยนสำหรับการฝึกอบรมหลักสูตรกฎหมายระหว่างประเทศระดับภูมิภาคของสหประชาชาติ (United Nations Regional Course in International Law) ประจำปี 2566 | กต. | 24/10/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างหนังสือแลกเปลี่ยนเพื่อต่ออายุความตกลงประเทศเจ้าภาพระหว่างไทยกับสหประชาชาติ
ปี ๒๕๖๐ ที่แก้ไขเพิ่มเติม ปี ๒๕๖๕ ในรูปแบบหนังสือแลกเปลี่ยนสำหรับการฝึกอบรมหลักสูตรกฎหมายระหว่างประเทศระดับภูมิภาคของสหประชาชาติ
(United Nations Regional
Course in International Law) ประจำปี ๒๕๖๖ ระหว่างวันที่ ๑๓
พฤศจิกายน-๖ ธันวาคม ๒๕๖๖ ณ กรุงเทพมหานคร โดยมีวัตถุประสงค์เพื่ออบรมกฎหมายระหว่างประเทศให้แก่ผู้ที่มีภูมิหลังด้านกฎหมายหรือประสบการณ์ในการทำงานด้านกฎหมายระหว่างประเทศจากภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก
และอนุมัติให้เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ ณ นครนิวยอร์ก
หรือผู้ที่ได้รับมอบหมาย เป็นผู้ลงนามในหนังสือแลกเปลี่ยนฯ ของฝ่ายไทยสำหรับการฝึกอบรมฯ
ประจำปี ๒๕๖๖ ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ ทั้งนี้
หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างหนังสือแลกเปลี่ยนเพื่อการต่ออายุความตกลงประเทศเจ้าภาพระหว่างไทยกับสหประชาติสำหรับการฝึกอบรมหลักสูตรกฎหมายระหว่างประเทศระดับภูมิภาคของสหประชาชาติ
(United Nations Regional Course in International Law)
ประจำปี ๒๕๖๖
ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้
ให้กระทรวงการต่างประเทศดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวตามหลักเกณฑ์ของมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๘ (เรื่อง
การจัดทำหนังสือสัญญาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรือองค์การระหว่างประเทศ)
และให้กระทรวงการต่างประเทศรับความเห็นของสำนักงบประมาณและสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
เกี่ยวกับค่าใช้จ่ายสำหรับการจัดการฝึกอบรมฯ ให้กระทรวงการต่างประเทศใช้จ่ายตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการใช้งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๖ ไปพลางก่อน และจัดทำแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ เพื่อเสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีตามขั้นตอนต่อไป
และควรวิเคราะห์และติดตามประเมินผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้อง
รวมถึงสื่อสารผลลัพธ์ให้สาธารณชนและทุกภาคส่วนได้รับทราบถึงประโยชน์ที่ไทยพึงจะได้รับด้วย
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3660 | ขออนุมัติกู้เงินเพื่อเสริมสภาพคล่องทางการเงิน (กรณีรายได้ไม่พอสำหรับรายจ่าย) ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ | คค. | 24/10/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ
กู้เงินเพื่อเสริมสภาพคล่องทางการเงิน (กรณีรายได้ไม่พอสำหรับรายจ่าย)
ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๗ รวมจำนวน ๘,๒๖๘.๔๖๙ ล้านบาท
และให้กระทรวงการคลังเป็นผู้ค้ำประกันเงินกู้ กำหนดวิธีการกู้เงิน เงื่อนไข
และรายละเอียดต่าง ๆ ในการกู้เงิน ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ และให้กระทรวงคมนาคม
(องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ) เร่งรัดการจัดทำแผนฟื้นฟูกิจการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ
(ฉบับปรับปรุงใหม่) ให้แล้วเสร็จโดยเร็ว
และนำเสนอคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจพิจารณาต่อไปตามความเห็นของกระทรวงการคลัง
ทั้งนี้ ให้กระทรวงการคลัง องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงการคลัง สำนักงบประมาณ
(หนังสือสำนักงบประมาณ ที่ นร ๐๗๐๙/๙๖๕๔ ลงวันที่ ๒๔ พฤษภาคม ๒๕๖๖)
และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
(หนังสือสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ที่ นร ๑๑๒๔/๒๙๓๔ ลงวันที่
๑๐ พฤษภาคม ๒๕๖๖) ที่เห็นควรให้องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพดำเนินการอย่างเคร่งครัด
พร้อมทั้งรายงานผลการดำเนินงานต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างต่อเนื่อง
และมอบให้กระทรวงคมนาคมปฏิบัติหน้าที่ในการกำกับ ดูแล และติดตามการดำเนินการ
เพื่อให้เกิดความต่อเนื่อง และสามารถบรรลุวัตถุประสงค์ตามที่กำหนดไว้ได้จริง
และเพื่อให้เกิดความชัดเจนเรื่องวงเงินต้นเงินกู้ที่ใช้เป็นฐานในการพิจารณาจัดสรรงบประมาณชำระค่าดอกเบี้ย
โดยให้องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพยืนยันวงเงินต้นเงินกู้ที่ภาครัฐรับภาระต่อสำนักงบประมาณอีกครั้ง
เพื่อให้ทราบต้นเงินกู้คงเหลือ ณ ปัจจุบัน
สำหรับเป็นข้อมูลประกอบการจัดสรรงบประมาณให้เป็นไปอย่างถูกต้องและเหมาะสมต่อไป
และควรจัดเก็บข้อมูลการเดินทางของผู้ใช้บริการเพื่อนำมาใช้ในการวางแผนการเดินรถสำหรับรถโดยสารที่จะจัดหาใหม่และสอดคล้องตามแผนการปฏิรูประบบรถโดยสารประจำทางในกรุงเทพฯ
รวมทั้งเร่งรัดติดตามและกำกับบริษัทที่ปรึกษาเพื่อจัดทำแผนขับเคลื่อนองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพให้แล้วเสร็จโดยเร็ว
เพื่อองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพจะได้มีกรอบแนวทางที่ชัดเจนสำหรับใช้ในการดำเนินกิจการและผลักดันสู่การปฏิบัติให้เกิดผลเป็นรูปธรรมต่อไป
ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องด้วย
|