ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 186 จากทั้งหมด 6223 หน้า แสดงรายการที่ 3701 - 3720 จากข้อมูลทั้งหมด 124445 รายการ
| ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
| 3701 | การตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 | นร.07 | 26/12/2566 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการให้กำหนดจำนวนกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๗ จำนวน ๗๒ คน
โดยมอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ (นายภูมิธรรม
เวชยชัย) ร่วมกับผู้อำนวยการสำนักงบประมาณประสานในรายละเอียดต่อไป
ตามที่สำนักงบประมาณเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 3702 | ร่างกฎกระทรวงว่าด้วยการแจ้งข้อหาแก่ผู้กระทำความผิดฐานสนับสนุน ช่วยเหลือ หรือสมคบกันกระทำความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติด (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | ยธ. | 26/12/2566 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงว่าด้วยการแจ้งข้อหาแก่ผู้กระทำความผิดฐานสนับสนุน
ช่วยเหลือ หรือสมคบกันกระทำความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติด (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....
มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติม
กฎกระทรวงว่าด้วยการแจ้งข้อหาแก่ผู้กระทำความผิดฐานสนับสนุน ช่วยเหลือ
หรือสมคบกันกระทำความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติด พ.ศ. ๒๕๖๕ โดยกำหนดให้เจ้าพนักงาน
ป.ป.ส. ยื่นคำขออนุมัติแจ้งข้อหาแก่ผู้กระทำความผิดฐานสนับสนุน ช่วยเหลือ
หรือสมคบกันกระทำความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติดต่อเลขาธิการ ป.ป.ส.
กรณีหลังจากศาลออกหมายจับแก่ผู้กระทำความผิดดังกล่าวแล้ว และให้นำไปดำเนินการกับพนักงานสอบสวนต่อไป
ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา
โดยให้รับความเห็นของสำนักงานอัยการสูงสุด เช่น ควรปรับถ้อยคำของร่างข้อ ๑/๑ เป็น “กรณีเจ้าพนักงาน
ป.ป.ส. สังกัดสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด
ซึ่งผู้รับผิดชอบในการแสวงหาข้อเท็จจริงและหลักฐานจนทราบรายละเอียดแห่งความผิดและรู้ตัวผู้กระทำความผิด
ซึ่งศาลได้ออกหมายจับผู้กระทำความผิดตามประมวลกฎหมายยาเสพติด มาตรา ๑๒๕ หรือมาตรา
๑๒๗ ให้เจ้าพนักงาน ป.ป.ส. มีอำนาจยื่นคำขออนุมัติแจ้งข้อหาต่อเลขาธิการ ป.ป.ส. ก่อนร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวนต่อไป”
เพื่อให้เกิดความชัดเจนตรงตามเจตนารมณ์ของร่างกฎกระทรวงในเรื่องนี้
เนื่องจากมุ่งหมายเฉพาะคดีที่เจ้าพนักงาน ป.ป.ส. สังกัดสำนักงาน ป.ป.ส.
ซึ่งเป็นหน่วยงานที่มีอำนาจโดยตรงในการป้องกัน ปราบปราม
และแก้ไขปัญหายาเสพติดเป็นผู้ทำการแสวงหาข้อเท็จจริงและหลักฐานตามอำนาจและหน้าที่จนทราบรายละเอียดแห่งความผิดและตัวผู้กระทำความผิดจนนำไปสู่การขอศาลออกอนุมัติหมายจับ
โดยให้เจ้าพนักงาน ป.ป.ส. ดำเนินการในขั้นตอนขออนุมัติแจ้งข้อหาและนำคำสั่งอนุมัติแจ้งข้อหาไปร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวนไปประกอบการพิจารณาด้วย
แล้วดำเนินการต่อไปได้ |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 3703 | ร่างข้อบังคับการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย ว่าด้วยการกำหนดอัตราค่าโดยสาร วิธีการจัดเก็บค่าโดยสารและการกำหนดประเภทบุคคลที่ได้รับการยกเว้นไม่ต้องชำระค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีชมพู พ.ศ. .... | คค. | 26/12/2566 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑.
เห็นชอบร่างข้อบังคับการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย
ว่าด้วยการกำหนดอัตราค่าโดยสาร วิธีการจัดเก็บค่าโดยสาร
และการกำหนดประเภทบุคคลที่ได้รับการยกเว้นไม่ต้องชำระค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีชมพู
พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดอัตราค่าโดยสารตามวิธีการในสัญญาสัมปทานโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู
(ช่วงแคราย-มีนบุรี) โดยมีอัตราค่าโดยสารเริ่มต้น ๑๕ บาท สูงสุด ๔๕ บาท
และกำหนดให้คณะกรรมการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทยอาจประกาศกำหนดผลิตภัณฑ์ของตั๋วโดยสาร
เพื่อส่งเสริมการใช้บริการรถไฟฟ้า เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้โดยสารเพื่อสนับสนุนกิจกรรมตามนโยบาย
ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้
โดยให้มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๖๖ เป็นต้นไป ๒. ให้กระทรวงคมนาคม
(การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย) รับความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ที่เห็นควรเร่งพิจารณาแนวทางการกำหนดโครงสร้างอัตราค่าโดยสารร่วมในระบบขนส่งสาธารณะในเขตกรุงเทพฯ
และปริมณฑล เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายในการเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะ และสามารถจูงใจให้ประชาชนหันมาเดินทางในระบบขนส่งสาธารณะเพิ่มขึ้นตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ในแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ
ประเด็นโครงสร้างพื้นฐาน ระบบโลจิสติกส์และดิจิทัลต่อไป ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 3704 | นโยบายและมาตรการนำเข้าวัตถุดิบอาหารสัตว์ (ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ กากถั่วเหลือง และปลาป่น) ปี 2567 - 2569 | พณ. | 26/12/2566 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑.
เห็นชอบการกำหนดนโยบายและมาตรการนำเข้าวัตถุดิบอาหารสัตว์ (ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ กากถั่วเหลือง
และปลาป่น) ตามมติคณะกรรมการนโยบายอาหาร ครั้งที่ ๑/๒๕๖๖ (ครั้งที่ ๘๑)
เมื่อวันที่ ๒๐ ตุลาคม ๒๕๖๖ โดยให้ใช้ดำเนินการได้เฉพาะปี ๒๕๖๗ เท่านั้น
และให้กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงการคลัง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงการต่างประเทศ
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เช่น ประเด็นกากถั่วเหลือง
ประเทศไทยควรระมัดระวังไม่ให้เงื่อนไขที่กำหนดให้ผู้มีสิทธินำเข้ารับซื้อกากถั่วเหลืองที่ผลิตจากเมล็ดถั่วเหลืองในประเทศทั้งหมดในราคาที่กำหนดถูกใช้เป็นการเอื้อประโยชน์ให้แก่สินค้ากากถั่วเหลืองของประเทศไทย
และทำให้สินค้ากากถั่วเหลืองจากต่างประเทศเสียเปรียบในด้านการแข่งขัน
ซึ่งอาจขัดต่อพันธกรณีด้านการประติบัติเยี่ยงคนชาติ (national treatment) ตาม Article
III:4 ของความตกลงทั่วไปว่าด้วยภาษีศุลกากรและการค้า (General
Agreement on Tariffs and Trade : GATT) ควรกำกับดูแลและตรวจสอบการนำเข้าอย่างเข้มงวด
เพื่อควบคุมการนำเข้าสินค้าให้ตรงกับการสำแดงพิกัดอัตราภาษีศุลกากร
และป้องกันการลักลอบการนำเข้าอย่างผิดกฎหมายซึ่งอาจจะส่งผลกระทบต่อราคาผลผลิตในประเทศได้
ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย ๒.
มอบหมายให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ร่วมกับกระทรวงพาณิชย์ กระทรวงอุตสาหกรรม คณะกรรมการนโยบายอาหาร
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งจัดทำแผนการส่งเสริมและพัฒนาการเพาะปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์
การเพาะปลูกถั่วเหลือง และการผลิตปลาป่น
เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพประสิทธิผลการผลิตและเพิ่มรายได้แก่เกษตรกร
และเพื่อลดการนำเข้าสินค้าเกษตรดังกล่าว แล้วให้นำแผนฯ เสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาภายใน
๓ เดือน ทั้งนี้
ในส่วนของแผนการส่งเสริมและพัฒนาการเพาะปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ให้พิจารณาเชิญชวนรัฐวิสาหกิจและภาคเอกชนที่เกี่ยวข้องเข้ามาร่วมดำเนินการในรูปแบบการจัดทำการเกษตรพันธสัญญา
(Contract Farming) และให้กำหนดเงื่อนไขในการดำเนินการเพื่อป้องกันปัญหาการเผาเศษซากข้าวโพดภายหลังการเก็บเกี่ยวผลผลิตและการเกิดมลพิษทางอากาศ
(PM2.5) ด้วย ๓.
มอบหมายให้กระทรวงพาณิชย์ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำกับดูแลต้นทุนการผลิตวัตถุดิบอาหารสัตว์
เช่น ราคาปุ๋ย ให้เหมาะสมและเป็นธรรมแก่เกษตรกรให้มากที่สุด
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 3705 | แผนงาน/โครงการเพื่อมอบเป็นของขวัญปีใหม่ พ.ศ. 2567 ให้แก่ประชาชน (สำนักงานตำรวจแห่งชาติ) | ตช. | 26/12/2566 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบแผนงาน/โครงการเพื่อมอบเป็นของขวัญปีใหม่
พ.ศ. ๒๕๖๗ ให้แก่ประชาชน ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จำนวน ๓ โครงการ ดังนี้ (๑)
โครงการแอปพลิเคชันป้องกันการถูกหลอกลวง “ไซเบอร์ โพรเทคชั่น” (Protect U) ของกองบัญชาการสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี
(๒) โครงการพัฒนาช่องตรวจหนังสือเดินทางอัตโนมัติ (Automatic Channel) ของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง และ (๓) โครงการ Police Wellness ของสำนักงานกำลังพล ตามที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 3706 | การเปิดตลาดนำเข้านมผงขาดมันเนย นมและครีม ปี 2566 เพิ่มเติม | กษ. | 26/12/2566 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. เห็นชอบการเปิดตลาดนำเข้านมผงขาดมันเนย
นมและครีม ปี ๒๕๖๖ เพิ่มเติม ปริมาณ ๑๐,๐๓๑.๕๕ ตัน ในอัตราภาษีร้อยละ ๕ มติคณะกรรมการโคนมและผลิตภัณฑ์นม
ในการประชุม ครั้งที่ ๓/๒๕๖๖ เมื่อวันที่ ๑๒ กันยายน ๒๕๖๖
และเนื่องจากการขอโควตานำเข้านมผงขาดมันเนย ปี ๒๕๖๖ เพิ่มเติม เป็นการพิจารณาจัดสรรให้กับผู้ประกอบการตามความจำเป็นและเดือดร้อนจากการขาดแคลนวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิต
จึงให้ยกเว้นการจัดสรรโควตาตามสัดส่วนผู้ประกอบการ ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๒๙ พฤศจิกายน ๒๕๔๘ และเห็นชอบในการเปิดตลาดนำเข้านมและครีม
ปี ๒๕๖๖ เพิ่มเติม ปริมาณ ๗๐๐.๑๘ ตัน ในอัตราภาษีร้อยละ ๒๐
มติคณะกรรมการโคนมและผลิตภัณฑ์นม ในการประชุม ครั้งที่ ๓/๒๕๖๖ เมื่อวันที่ ๑๒
กันยายน ๒๕๖๖ โดยมอบหมายให้คณะกรรมการโคนมและผลิตภัณฑ์นมเป็นผู้บริหารการจัดสรรโควตานำเข้านมผงขาดมันเนย
นมและครีม ปี ๒๕๖๖ เพิ่มเติมดังกล่าว ให้กับผู้ประกอบการตามความจำเป็นและเดือดร้อนจากการขาดแคลนวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิต
โดยต้องนำเข้าให้แล้วเสร็จภายในวันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๖๖ และต้องไม่กระทบต่อมาตรการและปริมาณการรับซื้อน้ำนมดิบจากเกษตรกรและเดือดร้อนจากการขาดแคลนวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิต
ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ และให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงการต่างประเทศ
กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงมหาดไทย และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เช่น
ควรพิจารณาให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปริมาณน้ำนมดิบของไทย เพื่อไม่ให้การเปิดตลาดนำเข้าดังกล่าว
ส่งผลกระทบต่อผู้เลี้ยงโคนมของไทย ทั้งนี้ การเปิดตลาดนำเข้าเพิ่มเติมดังกล่าว
สอดคล้องกับความตกลงว่าด้วยการเกษตรภายใต้องค์การการค้าโลก (WTO) ที่ไทยผูกพันไว้ การเปิดตลาดนำเข้านมผงขาดมันเนยนมและครีม ปี ๒๕๖๖
เพิ่มเติม ต้องไม่กระทบต่อมาตรการและปริมาณการรับซื้อน้ำนมดิบจากเกษตรกร และควรให้ความสำคัญต่อการแก้ปัญหาการขาดแคลนวัตถุดิบในระยะยาว
โดยนำข้อมูลพยากรณ์อุปสงค์และอุปทานของน้ำนมดิบภายในประเทศมาวางแผนการจัดสรรโควตานำเข้าสินค้าในกลุ่มนมและผลิตภัณฑ์นมให้มีความถูกต้อง
เป็นธรรมต่อผู้ประกอบการและไม่กระทบต่อเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมในประเทศ
ตลอดจนเพื่อประโยชน์ในการวางแผนธุรกิจของผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมนมของไทยให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
และก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อเกษตรกร ผู้ประกอบการตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ
และผู้บริโภคภายในประเทศเป็นผู้บริหารการจัดสรรโควตานำเข้านมผงขาดมันเนย นมและครีม
ปี ๒๕๖๖ เพิ่มเติม
ให้กับผู้ประกอบการตามความจำเป็นและเดือดร้อนจากการขาดแคลนวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิต
ทั้งนี้ การเปิดตลาดนำเข้านมผงขาดมันเนยนมและครีม ปี ๒๕๖๖ เพิ่มเติม
ต้องไม่กระทบต่อมาตรการและปริมาณการรับซื้อน้ำนมดิบจากเกษตรกร ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย ๒.
ให้คณะกรรมการโคนมและผลิตภัณฑ์นมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งรัดดำเนินการตามนัยมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๒ ตุลาคม ๒๕๖๖ (เรื่อง
ขออนุมัติปรับเพิ่มราคาน้ำนมดิบเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรโคนม)
ที่ให้ทบทวนแนวทางการให้ความช่วยเหลือแก่เกษตรกรโคนมให้เหมาะสมและตรงกลุ่มเป้าหมายมากยิ่งขึ้น
ให้เกิดผลเป็นรูปธรรมและมีความยั่งยืนต่อไป เช่น
การลดต้นทุนการผลิตและเพิ่มประสิทธิภาพ การผลิตน้ำนมโค การเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันและสร้างรายได้เพิ่มขึ้นให้กับอุตสาหกรรมนมและผลิตภัณฑ์นมของไทย
การจูงใจให้ผู้ประกอบการผลิตภัณฑ์นมเพื่อการส่งออกนำน้ำนมดิบจากเกษตรกรโคนมในประเทศมาใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตทดแทนการนำเข้า
๓.
ให้คณะกรรมการโคนมและผลิตภัณฑ์นมร่วมกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงพาณิชย์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณากำหนดมาตรการเตรียมความพร้อมในการดำเนินการเพื่อรองรับผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับอุตสาหกรรมโคนมและเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมภายในประเทศจากการยกเลิกโควตาภาษีสินค้าเกษตรทั้งหมดตามความตกลงต่าง
ๆ เช่น ความตกลงการค้าเสรีไทย-ออสเตรเลีย (TAFTA) และความตกลงความเป็นหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจที่ใกล้ชิดยิ่งขึ้นไทย-นิวซีแลนด์
(TNZCEP) ในปี ๒๕๖๘ ด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 3707 | ร่างประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่อง การนำข้าวโพดที่ใช้เป็นวัตถุดิบอาหารสัตว์เข้ามาในราชอาณาจักรตามความตกลงภายใต้เขตการค้าเสรีอาเซียน สำหรับปี 2567 ถึงปี 2569 พ.ศ. .... | พณ. | 26/12/2566 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. อนุมัติในหลักการร่างประกาศกระทรวงพาณิชย์
เรื่อง การนำข้าวโพดที่ใช้เป็นวัตถุดิบอาหารสัตว์เข้ามาในราชอาณาจักรตามความตกลงภายใต้เขตการค้าเสรีอาเซียนสำหรับปี ๒๕๖๗
ถึงปี ๒๕๖๙ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการนำเข้าข้าวโพดที่ใช้เป็นวัตถุดิบอาหารสัตว์เข้ามาในราชอาณาจักรตามความตกลงภายใต้เขตการค้าเสรีอาเซียนสำหรับปี
พ.ศ. ๒๕๖๗ ถึงปี พ.ศ. ๒๕๖๙ เพื่อให้เป็นไปตามมติคณะกรรมการนโยบายอาหาร ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ
และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน
โดยให้แก้ไขชื่อร่างประกาศและกำหนดระยะเวลาการใช้บังคับของร่างประกาศดังกล่าวให้เป็นไปตามความเห็นของคณะรัฐมนตรี
และให้รับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ที่เห็นว่าคณะรัฐมนตรีสามารถพิจารณาให้ความเห็นชอบได้ตามที่เห็นสมควร
ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 3708 | การดำเนินโครงการเพื่อมอบเป็นของขวัญปีใหม่ พ.ศ. 2567 ให้แก่ประชาชนของกระทรวงอุตสาหกรรม | อก. | 26/12/2566 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบการดำเนินโครงการเพื่อมอบเป็นของขวัญปีใหม่
พ.ศ. ๒๕๖๗ ให้แก่ประชาชนของกระทรวงอุตสาหกรรม ดังนี้ (๑) ด้านมาตรการสินค้าและบริการดี
ราคาพิเศษ เช่น โปรโมชั่น สิทธิพิเศษ ลดค่าใช้จ่าย ร่วมกับค่ายรถยนต์ไฟฟ้าต่าง ๆ
และลดราคาหนังสือ มอก. เป็นต้น (๒) ด้านมาตรการเติมทุน เสริมสภาพคล่อง เช่น
สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ และยกเว้นค่าธรรมเนียมและลดค่าบริการสำหรับผู้ประกอบกิจการโรงงาน
ใบอนุญาต และใบแทนใบอนุญาต มอก. เป็นต้น (๓) ด้านมาตรการเพิ่มโอกาส
เสริมแกร่งธุรกิจ เช่น เติมความรู้ เสริมศักยภาพ SMEs ยกระดับกระบวนการผลิตสู่ระบบอัตโนมัติและดิจิทัล และ (๔) ด้านมาตรการกระจายรายได้สู่ชุมชนรอบอุตสาหกรรม
เช่น การสร้างความเข้มแข็งให้กับชาวไร่อ้อยและอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทราย
และโครงการเหมืองแร่ปลอดภัยห่วงใยประชาชน ปี ๖๗ เป็นต้น
ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 3709 | ผลการสำรวจความต้องการของประชาชน พ.ศ. 2567 (ของขวัญปีใหม่ที่ต้องการจากรัฐบาล) | ดศ. | 26/12/2566 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการสำรวจความต้องการของประชาชน พ.ศ. ๒๕๖๗ (ของขวัญปีใหม่ที่ต้องการจากรัฐบาล)
ดังนี้ (๑) ควรเพิ่มมาตรการฟื้นฟูเศรษฐกิจโดยการกระตุ้นให้เกิดการจ้างงาน สร้างอาชีพให้กับประชาชนอย่างเร่งด่วน
เช่น ส่งเสริมการท่องเที่ยวภายในประเทศ จัดหาแหล่งเงินทุนดอกเบี้ยต่ำ และเร่งรัดการใช้จ่าย/การลงทุนในหน่วยงานภาครัฐ
เป็นต้น (๒) ควรขยายระยะเวลา/จัดทำโครงการ/มาตรการที่ลดภาระค่าครองชีพให้กับประชาชน
เช่น การลดค่าน้ำ ค่าไฟ ลดราคาน้ำมัน แก๊สที่มีราคาแพง และจำหน่ายสินค้าอุปโภค-บริโภคราคาถูก
(ธงฟ้า) เป็นต้น (๓)
ควรเร่งรัดการช่วยเหลือและแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนให้แก่เกษตรกร เช่น ราคาพืชผลทางการเกษตรตกต่ำ
ปัญหาปุ๋ย/สารเคมี/ยาฆ่าแมลงมีราคาแพง และจัดหาตลาดรองรับผลผลิต เป็นต้น (๔) ควรผลักดันมาตรการในการแก้ไขปัญหายาเสพติดเพื่อสร้างความปลอดภัย
และคุณภาพชีวิตที่ดีให้ประชาชนในทุกพื้นที่ เช่น การเพิ่มบทลงโทษผู้กระทำผิด
และการนำผู้เสพ/ผู้ติดยาเสพติด เข้ารับการบำบัดอย่างทันท่วงที เป็นต้น (๕) ควรเพิ่มช่องทาง/บริการในระบบหลักประกันสุขภาพให้ประชาชนอย่างทั่วถึงและเท่าเทียม
ครอบคลุมทุกพื้นที่ เช่น การใช้บัตรประชาชน ๑ ใบ รักษาได้ทุกพื้นที่ ทุกโรงพยาบาล
เป็นต้น ตามที่กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 3710 | การดำเนินโครงการของกระทรวงพลังงานเพื่อมอบเป็นของขวัญปีใหม่ พ.ศ. 2567 ให้แก่ประชาชน | พน. | 26/12/2566 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบการดำเนินโครงการของกระทรวงพลังงานเพื่อมอบเป็นของขวัญปีใหม่
พ.ศ. ๒๕๖๗ ให้แก่ประชาชน ดังนี้ (๑) แผนงาน/โครงการช่วยเหลือประชาชน เช่น
ลดราคากลุ่มน้ำมันเบนซิน ตรึงราคา บริหารจัดการค่าไฟฟ้า และให้บริการรับคำขอต่ออายุใบอนุญาตประกอบกิจการควบคุมประเภทที่
๓ (นอกเวลาราชการ) เป็นต้น (๒)
แผนงาน/โครงการสำหรับเป็นของขวัญปีใหม่ เช่น จัดกิจกรรมมหกรรม “กระทรวงพลังงานคาราวานสร้างสุข”
สินค้าประหยัดพลังงาน ราคาประหยัดเงิน
และจัดแคมเปญรณรงค์ให้ประชาชนร่วมซื้ออุปกรณ์ประหยัดพลังงาน สถานีบริการน้ำมัน PTT Station ไม่ปรับขึ้นราคาขายปลีกน้ำมันทุกชนิด
เป็นต้น ตามที่กระทรวงพลังงานเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 3711 | ของขวัญปีใหม่กระทรวงแรงงาน ปี 2567 | รง. | 26/12/2566 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบโครงการ/กิจกรรมที่จะดำเนินการเพื่อมอบเป็นของขวัญปีใหม่
ปี ๒๕๖๗ ให้แก่ประชาชน ของกระทรวงแรงงาน รวม ๑๑ โครงการ/กิจกรรม เช่น (๑)
ปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำทั่วประเทศ (๒) กู้เงินกองทุนเพื่อผู้รับงานไปทำที่บ้าน
ดอกเบี้ยฟรีร้อยละ ๐ ต่อปี จำนวน ๒๔ เดือน (๓) ตรวจเช็คสภาพรถยนต์และรถจักรยานยนต์
ก่อนเดินทาง ๗ วัน ช่วงเทศกาลปีใหม่ ฟรี ๑๐ รายการ ระหว่างวันที่ ๒๒-๒๘ ธันวาคม
๒๕๖๖ (ในวันและเวลาราชการ) (๔) ฝึกอบรมออนไลน์พรี ในหลักสูตรภาษาอังกฤษ ภาษาจีน การตลาดออนไลน์ และดิจิทัล Design Thinking Digital
Skill และ Leadership Skill (๕) จัดอบรม Safety
ฟรี จำนวน ๑๐,๐๐๐ คน (๖) ตรวจสุขภาพฟรี ๑๔ รายการ
สำหรับผู้ประกันตนสุขภาพดีถ้วนหน้า (๗) ผู้ประกันตนทำฟันฟรีด้วยรถทันตกรรมเคลื่อนที่
ณ สถานประกอบการ (SSO Mobile e-Dent) ๙๐๐
บาท/คน/ปี ไม่ต้องสำรองจ่าย (๘) บริการประกันสังคมครบจบใน APP เดียว “SSO plus+” ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 3712 | การดำเนินการเพื่อรับมือสภาพอากาศในพื้นที่ภาคใต้ | นร. | 26/12/2566 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอว่า ในช่วงนี้ภาคใต้ของประเทศมีสภาพอากาศแปรปรวน
ฝนตกหนัก และเกิดสภาวะน้ำท่วมในหลายพื้นที่ จึงขอมอบหมายการดำเนินการ ดังต่อไปนี้ ๑. ให้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (กรมอุตุนิยมวิทยา)
สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (ศูนย์บริหารจัดการน้ำส่วนหน้าในพื้นที่เสี่ยงอุทกภัยภาคใต้)
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และแจ้งให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวทราบถึงสภาพอากาศที่เป็นปัจจุบัน
รวมทั้งแจ้งเตือนให้รวดเร็วเพื่อให้สามารถอพยพจากพื้นที่เสี่ยงภัยได้อย่างทันท่วงที ๒. ให้กระทรวงมหาดไทย กระทรวงกลาโหม
กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการให้ความช่วยเหลือในด้านต่าง
ๆ แก่ประชาชนที่ประสบภัยให้รวดเร็วและทั่วถึงด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 3713 | การดำเนินการโครงการเพื่อมอบเป็นของขวัญปีใหม่ พ.ศ. 2567 ให้แก่ประชาชน (กระทรวงศึกษาธิการ) | ศธ. | 26/12/2566 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบการดำเนินการโครงการเพื่อมอบเป็นของขวัญปีใหม่
พ.ศ. ๒๕๖๗ ให้แก่ประชาชน ของกระทรวงศึกษาธิการ เช่น (๑) การจัดฝึกอบรมหลักสูตร “ช่างชุมชน”
ฟรี (๒) โครงการอาชีวะอาสา ร่วมด้วยช่วยประชาชน ฟรี (๓) ศึกษาภัณฑ์พาณิชย์ New Year Sale 2024 ลดราคาสินค้าร้านศึกษาภัณฑ์พาณิชย์
ทุกสาขา (๔) ลดราคาหนังสือ e-Book ของสถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ทุกช่องทางการจำหน่าย และ (๕) ลดราคาสื่อเสริมและบอร์ดเกม ของสถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 3714 | การพิจารณาความเป็นไปได้ในการกำหนดเวลาจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เพื่อสนับสนุนการกระตุ้นการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจ | นร. | 26/12/2566 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอว่า ตามที่รัฐบาลได้มีนโยบายให้เปิดสถานบริการที่ตั้งอยู่ในโรงแรมและสถานบริการที่ตั้งอยู่ในเขตท้องที่กรุงเทพมหานคร
จังหวัดภูเก็ต จังหวัดชลบุรี จังหวัดเชียงใหม่ และท้องที่อำเภอเกาะสมุย
จังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยให้เปิดบริการได้ถึง ๑๔.๐๐ นาฬิกา ของวันรุ่งขึ้น
ซึ่งกระทรวงมหาดไทยได้ออกกฎกระทรวงกำหนดวันเวลาเปิดปิดของสถานบริการ (ฉบับที่ ๓)
พ.ศ. ๒๕๖๖ มีผลใช้บังคับแล้วเมื่อวันที่ ๑๕ ธันวาคม ๒๕๖๖ นั้น ทราบว่า
ผลการดำเนินการในเรื่องนี้เป็นไปด้วยความเรียบร้อยเป็นอย่างดี ดังนั้น
เพื่อเป็นการสนับสนุนการกระตุ้นการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจ สร้างรายได้ให้แก่ประเทศ
ผู้ประกอบธุรกิจ และประชาชนในพื้นที่ จึงขอมอบหมายให้กระทรวงมหาดไทยร่วมกับกระทรวงสาธารณสุขและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาความเหมาะสมและเป็นไปได้ในการขยายกำหนดเวลาจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในร้านอาหารทั่วไป ให้สอดคล้องกับเวลาเปิดปิดของสถานบริการที่ตั้งอยู่ในเขตท้องที่นำร่องดังกล่าวด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 3715 | การจัดทำโครงการของขวัญปีใหม่ของกระทรวงมหาดไทยเพื่อมอบให้ประชาชน ประจำปี พ.ศ. 2567 | มท. | 26/12/2566 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบการจัดทำโครงการของขวัญปีใหม่ของกระทรวงมหาดไทยเพื่อมอบให้ประชาชน
ประจำปี พ.ศ. ๒๕๖๗ ดังนี้ (๑) ด้านบำบัดทุกข์ เช่น โครงการลูกหนี้อุ่นใจ มหาดไทยช่วยไกล่เกลี่ย
โครงการมาตรการปรับลดอัตราดอกเบี้ยสถานธนานุบาลขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเพื่อลดการก่อหนี้นอกระบบ
และโครงการมหาดไทย เติมน้ำ เติมสุข บำบัดทุกข์ คลายแล้ง เป็นต้น (๒) ด้านบำรุงสุข
เช่น โครงการ OTOP Giftset : กระเช้าปีใหม่ คนไทยร้องว้าว โครงการปันรักษ์ ปันสุข จากศูนย์แบ่งปันเมล็ดพันธุ์ชุมชน และโครงการสร้างรายได้
กระจายโอกาส ให้ชุมชนและเกษตรกรกับองค์การตลาด กระทรวงมหาดไทย เป็นต้น ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 3716 | การกำกับ ควบคุม และดูแลงานก่อสร้าง/โครงการของภาครัฐและภาคเอกชนให้มีความปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน | นร. | 26/12/2566 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอว่า เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมาได้เกิดอุบัติเหตุทั้งในบริเวณพื้นที่ก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายต่าง
ๆ รวมทั้งโครงการก่อสร้างอาคาร สถานที่ และเส้นทางจราจรในสายทางต่าง ๆ
อยู่บ่อยครั้ง โดยครั้งล่าสุด ได้แก่ โครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรี และโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง
ช่วงเตาปูน-ราษฎร์บูรณะ (วงแหวนกาญจนาภิเษก) ซึ่งส่งผลให้ประชาชนเสียชีวิตบาดเจ็บ
และทรัพย์สินเสียหายเป็นจำนวนมาก ดังนั้น จึงขอมอบหมายให้กระทรวงคมนาคม การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย
กระทรวงมหาดไทย กรุงเทพมหานคร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามหน้าที่และอำนาจในการกำกับ
ควบคุม และดูแลงานก่อสร้าง/โครงการต่าง ๆ
ทั้งของภาครัฐและภาคเอกชนในความรับผิดชอบให้เป็นไปอย่างถูกต้อง เหมาะสม ตามบทบัญญัติของกฎหมาย
ระเบียบ หลักเกณฑ์
และมาตรการเกี่ยวกับการป้องกันและรักษาความปลอดภัยที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัดและต่อเนื่อง
เพื่อป้องกันมิให้เกิดเหตุการณ์ในลักษณะเช่นนี้ขึ้นอีก
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 3717 | แผนงาน/โครงการเพื่อมอบเป็นของขวัญปีใหม่ พ.ศ. 2567 ให้แก่ประชาชนของกระทรวงกลาโหม | กห. | 26/12/2566 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบแผนงาน/โครงการเพื่อมอบเป็นของขวัญปีใหม่ พ.ศ. ๒๕๖๗
ให้แก่ประชาชนของกระทรวงกลาโหม ประกอบด้วย ๓ กิจกรรม ได้แก่ (๑)
กิจกรรมระหว่างการเดินทาง เช่น จัดตั้งจุดบริการประชาชน
ประชาสัมพันธ์ข้อมูลข่าวสารและเส้นทางจราจรต่าง ๆ (๒) กิจกรรมจุดหมายปลายทาง เช่น จัดตั้งศูนย์ช่วยเหลือประชาชนและนักท่องเที่ยวทางทะเล
เปิดแหล่งท่องเที่ยวและพิพิธภัณฑ์ ให้บริการศูนย์การเรียนรู้ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง
และโครงการเกษตรผสมผสานตามแนวทางศาสตร์พระราชาในพื้นที่ทหารทั่วประเทศ
โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายในการเข้าชม และ (๓) กิจกรรมที่ดำเนินการตลอดห้วงปี ๒๕๖๗ เช่น จัดเจ้าหน้าที่ช่วยเหลือดูแลและฟื้นฟูบ้านเรือนที่ประสบอุทกภัยในทุกภูมิภาคของประเทศ
ตามที่กระทรวงกลาโหมเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 3718 | การดำเนินโครงการ/กิจกรรมของกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม เพื่อมอบเป็นของขวัญปีใหม่ พ.ศ. 2567 ให้แก่ประชาชน | อว. | 26/12/2566 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบการดำเนินโครงการ/กิจกรรมของกระทรวงการอุดมศึกษา
วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม เพื่อมอบเป็นของขวัญปีใหม่ พ.ศ. ๒๕๖๗ ให้แก่ประชาชน ของกระทรวงอุดมศึกษา
วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม เช่น (๑) การอุดหนุนค่าสมัคร TCAS รอบ ๓ ปี ๒๕๖๗ ฟรี (๒)
การให้บริการภาพถ่ายจากดาวเทียม THEOS-2 ฟรี (๓) การจัดหลักสูตร
Upskill Reskill ให้แก่ประชาชนใน ๒๑ จังหวัด (๔) การอบรมอาชีพ
DIY ของขวัญปีใหม่ “สวนสวยในขวดแก้ว” (๕) โครงการ “โอเพ่นไทยจีพีที”
Chatbot ปัญญาประดิษฐ์ภาษาไทย ฟรีสำหรับคนไทยทุกคน (๖) การเปิดให้ประชาชนทั่วประเทศดาวน์โหลดหนังสือ
“เทิด ด้วย ทำ” จัดการน้ำสู่การพัฒนาที่ยั่งยืนได้ฟรี (๗) การให้บริการตรวจวัดรังสีที่อาจปนเปื้อนในอาหารทะเลจากประเทศญี่ปุ่นฟรี
ในเดือนมกราคม ๒๕๖๗ (๘) การให้ส่วนลดค่าบริการกลุ่มบริการทดสอบและสอบเทียบอุตสาหกรรมร้อยละ
๕-๑๐ และ (๙) การเข้าชมพิพิธภัณฑ์และกิจกรรมพิเศษต่าง ๆ เช่น การยกเว้นค่าเข้าชมแหล่งเรียนรู้ด้านเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ
(Space Inspirium) ตามที่กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์
วิจัยและนวัตกรรมเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 3719 | ร่างกฎกระทรวงการขออนุญาตและการอนุญาตจำหน่ายซึ่งยาเสพติดให้โทษในประเภท 2 หรือวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 2 พ.ศ. .... | สธ. | 26/12/2566 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงการขออนุญาตและการอนุญาตจำหน่ายซึ่งยาเสพติดให้โทษในประเภท
๒ หรือวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท ๒ พ..ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์
วิธีการ และเงื่อนไขการขออนุญาตและการอนุญาตให้จำหน่ายซึ่งยาเสพติดให้โทษในประเภท
๒ หรือวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท ๒ กำหนดคุณสมบัติของผู้ขออนุญาต การออกใบอนุญาต การออกใบแทนใบอนุญาต
การต่ออายุใบอนุญาต และกำหนดอัตราค่าธรรมเนียมซึ่งยาเสพติดให้โทษในประเภท ๒
วัตถุออกฤทธิ์ในประเภท ๒ ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ
และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้รับความเห็นของสำนักงานอัยการสูงสุด
ที่เห็นว่าร่างข้อ ๑๕ วรรคหนึ่ง
หากผู้อนุญาตไม่สามารถพิจารณาคำขอและอนุญาตให้เสร็จสิ้นได้ภายในกำหนด ๔๕ วัน
จะมีมาตรการอย่างไรในระหว่างที่พิจารณาคำขอ ควรกำหนดมาตรการเพื่อรองรับผลกระทบดังกล่าวด้วย
และร่างข้อ ๑๕ วรรคสอง กำหนดให้ผู้ขออนุญาตมีสิทธิอุทธรณ์ภายใน ๑๕ วัน
นับแต่วันที่มีคำสั่งไม่อนุญาต เห็นว่า
กำหนดระยะเวลาดังกล่าวเป็นระยะเวลาที่กระชั้นชิดควรเพิ่มระยะเวลาอุทธรณ์จาก ๑๕
วันเป็น ๓๐
วันนับตั้งแต่วันที่ผู้ขออนุญาตได้รับหรือถือว่าได้รับหนังสือแจ้งคำสั่งไม่อนุญาต
ซึ่งจะก่อให้เกิดความเป็นธรรมมากกว่า ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้ |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 3720 | ร่างกฎกระทรวงการขออนุญาตและการอนุญาตให้มีไว้ในครอบครองซึ่งยาเสพติดให้โทษในประเภท 2 และวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 2 ประเภท 3 หรือประเภท 4 พ.ศ. .... | สธ. | 26/12/2566 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑.
อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงการขออนุญาตและการอนุญาตให้มีไว้ในครอบครองซึ่งยาเสพติดให้โทษในประเภท
๒ และวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท ๒ ประเภท ๓ หรือประเภท ๔ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์
วิธีการ และเงื่อนไขการอนุญาตให้มีไว้ในครอบครองซึ่งยาเสพติดให้โทษในประเภท ๒
และวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท ๒ ประเภท ๓ หรือประเภท ๔
การดำเนินการของผู้รับอนุญาตเพื่อประโยชน์ในการควบคุมกำกับดูแลยาเสพติดให้โทษและวัตถุออกฤทธิ์และการกำหนดอัตราค่าธรรมเนียมในเรื่องดังกล่าว
ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา
โดยให้รับความเห็นของกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม
กระทรวงคมนาคม สำนักงาน ก.พ.ร. และสำนักงานอัยการสูงสุด เช่น ควรพิจารณาให้เพิ่มข้อยกเว้นการปฏิบัติตามร่างกฎกระทรวงฯ
ในการมีมอร์ฟีน (Morphine) ซึ่งเป็นยาเสพติดให้โทษประเภทที่
๒ ไว้ในเรือเดินทะเลระหว่างประเทศ
เพื่อให้สอดคล้องกับแนวทางในระหว่างประเทศตามข้อแนะนำการรักษาพยาบาลในเรือขององค์การอนามัยโลกและองค์กรแรงงานระหว่างประเทศและตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข
เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไข ว่าด้วยการจัดให้มีอุปกรณ์
สิ่งอำนวยความสะดวกทางด้านการรักษาพยาบาลในห้องพยาบาลบนเรือการฝึกอบรมการปฐมพยาบาลและการรักษาพยาบาลบนเรือ
การกำหนดระยะเวลาการแจ้งคำสั่งไม่อนุญาตตามร่างกฎกระทรวงฯ ข้อ ๑๙ วรรคสอง
ควรกำหนดให้สอดคล้องตามมาตรา ๑๐ แห่งพระราชบัญญัติการอำนวยความสะดวกในการพิจารณาอนุญาตของทางราชการ
พ.ศ. ๒๕๕๘ และการปรับอัตราค่าธรรมเนียมที่เพิ่มขึ้นควรแสดงให้เห็นถึงการพัฒนาประสิทธิภาพการให้บริการที่ดีขึ้น
ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้ |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
