ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 190 จากทั้งหมด 6200 หน้า แสดงรายการที่ 3781 - 3800 จากข้อมูลทั้งหมด 123994 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
3781 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (1. นายธงชัย กีรติหัตถยากร ฯลฯ จำนวน 11 ราย) | สธ. | 03/10/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ
สังกัดกระทรวงสาธารณสุข ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน ๑๑ ราย
เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่าง และสับเปลี่ยนหมุนเวียน ทั้งนี้
ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไป
ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเสนอ ๑. นายธงชัย กีรติหัตถยากร ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมควบคุมโรค ๒. นางอัมพร เบญจพลพิทักษ์ ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมการแพทย์ ๓. นายพงศ์เกษม ไข่มุกด์ ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมสุขภาพจิต ๔. นายยงยศ ธรรมวุฒิ ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ๕. นายทวีศิลป์ วิษณุโยธิน ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ๖. นายณรงค์ อภิกุลวณิช ดำรงตำแหน่งเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา
สำนักงาน คณะกรรมการอาหารและยา ๗. นางอัจฉรา นิธิอภิญญาสกุล ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมอนามัย ๘. นายภาณุมาศ ญาณเวทย์สกุล ดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ๙. นายกิตติศักดิ์ อักษรวงศ์ ดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวง
สำนักงานปลัดกระทรวง ๑๐. นายสุรโชค ต่างวิวัฒน์ ดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ๑๑. นายพงศธร พอกเพิ่มดี ดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3782 | การบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าวเพื่อส่งเสริมขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ และส่งเสริมสิทธิประโยชน์ของแรงงาน | รง. | 03/10/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. เห็นชอบการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าวเพื่อส่งเสริมขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ
และส่งเสริมสิทธิประโยชน์ของแรงงาน และร่างประกาศ ๔ ฉบับ ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ ๒. อนุมัติในหลักการ ๒.๑ ร่างประกาศกระทรวงมหาดไทย
เรื่อง การอนุญาตให้คนต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรเป็นกรณีพิเศษ
สำหรับคนต่างด้าวสัญชาติกัมพูชา ลาว เมียนมา และเวียดนาม
ซึ่งนายจ้างได้ยื่นบัญชีรายชื่อความต้องการแรงงานต่างด้าวตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๕ กรกฎาคม ๒๕๖๖ ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ... ๒.๒ ร่างประกาศกระทรวงมหาดไทย
เรื่อง การอนุญาตให้คนต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรเป็นกรณีพิเศษ
สำหรับคนต่างด้าวสัญชาติกัมพูชา ลาว และเมียนมา
ซึ่งได้รับอนุญาตให้เข้ามาทำงานในราชอาณาจักรตามกฎหมายว่าด้วยคนเข้าเมืองภายใต้บันทึกความตกลงหรือบันทึกความเข้าใจที่รัฐบาลไทยทำไว้กับรัฐบาลต่างประเทศ
ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ... รวม ๒ ฉบับ มีสาระสำคัญเป็นการผ่อนผันให้คนต่างด้าวซึ่งนายจ้างได้ยื่นบัญชีรายชื่อความต้องการจ้างแรงงานต่างด้าวไว้สามารถอยู่และทำงานในราชอาณาจักรต่อไปได้ถึงวันที่
๑๕ มกราคม ๒๕๖๗ (เดิม ๓๐ กันยายน ๒๕๖๖) และหากดำเนินการขออนุญาตทำงานแล้วเสร็จ
จะสามารถอยู่และทำงานในราชอาณาจักรได้ถึงวันที่ ๑๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๘
ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ
และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน
แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๓. เห็นชอบในหลักการ ๓.๑
ร่างประกาศกระทรวงแรงงาน เรื่อง การอนุญาตให้คนต่างด้าวทำงานในราชอาณาจักรเป็นกรณีพิเศษ
สำหรับคนต่างด้าวสัญชาติกัมพูชา ลาว เมียนมา และเวียดนาม
ซึ่งนายจ้างได้ยื่นบัญชีรายชื่อความต้องการแรงงานต่างด้าวตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๕ กรกฎาคม ๒๕๖๖ ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ... ๓.๒ ร่างประกาศกระทรวงแรงงาน เรื่อง
การอนุญาตให้คนต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรเป็นกรณีพิเศษ
สำหรับคนต่างด้าวสัญชาติกัมพูชา ลาว และเมียนมา
ซึ่งได้รับอนุญาตให้เข้ามาทำงานในราชอาณาจักรตามกฎหมายว่าด้วยคนเข้าเมืองภายใต้บันทึกความตกลงหรือบันทึกความเข้าใจที่รัฐบาลไทยทำไว้กับรัฐบาลต่างประเทศ
ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ... รวม ๒ ฉบับ มีสาระสำคัญเป็นการผ่อนผันให้คนต่างด้าวที่เข้ามาทำงานในราชอาณาจักรตาม MOU ที่วาระการจ้างงานครบ ๔ ปี ระหว่างวันที่ ๑ พฤศจิกายน ๒๕๖๓-๓๑ ธันวาคม ๒๕๖๖ สามารถอยู่และทำงานในราชอาณาจักรต่อไปได้ถึงวันที่ ๓๐ เมษายน ๒๕๖๗ ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๔. ให้กระทรวงแรงงานและกระทรวงมหาดไทยรับข้อสังเกตของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาไปพิจารณาให้ได้ข้อยุติ แล้วแจ้งผลการพิจารณาให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาทราบโดยด่วน เพื่อประกอบการตรวจพิจารณาร่างประกาศ รวม ๔ ฉบับดังกล่าวต่อไป ๕. ให้กระทรวงแรงงานรับความเห็นของสำนักงานพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ที่เห็นควรมีการประชาสัมพันธ์ให้แก่นายจ้าง ผู้ประกอบการ แรงงานต่างด้าว และผู้ที่เกี่ยวข้อง พร้อมทั้งพัฒนาเว็บไซต์ในการเป็นช่องทางประชาสัมพันธ์ที่ครอบคลุมภาษาหลักของแรงงานต่างด้าวทุกสัญชาติ เพื่อสร้างการรับรู้และความเข้าใจในการดำเนินการอย่างทั่วถึง และควรมีการวางแผนบริหารจัดการคนต่างด้าวในระยะยาว โดยวิเคราะห์ความต้องการแรงงานต่างด้าวในภาคการผลิตและบริการรายสาขา และจัดทำฐานข้อมูลความต้องการแรงงานต่างด้าว เพื่อให้การเข้ามาอยู่และทำงานของแรงงานต่างด้าวเป็นไปอย่างมีระบบและมีประสิทธิภาพ สนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3783 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (1. นายธนสุนทร สว่างสาลี ฯลฯ จำนวน 5 ราย) | พม. | 03/10/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ
สังกัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน ๕ ราย เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่าง และสับเปลี่ยนหมุนเวียน
ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไป
ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เสนอ ดังนี้ ๑. นายธนสุนทร สว่างสาลี ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว ๒. นายอนันต์ ดนตรี ดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวง
สำนักงานปลัดกระทรวง ๓. นายกันตพงศ์ รังษีสว่าง ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ ๔. นายโชคชัย วิเชียรชัยยะ ดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3784 | การแต่งตั้งคณะกรรมการนโยบายโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet | กค. | 03/10/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการในการแต่งตั้งคณะกรรมการนโยบายโครงการเติมเงิน
๑๐,๐๐๐ บาท
ผ่าน Digital Wallet โดยมีองค์ประกอบ
และหน้าที่และอำนาจตามนัยข้อ ๓.๒
ก่อนที่นายกรัฐมนตรีจะลงนามในร่างคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี โดยอาศัยอำนาจตามมาตรา
๑๑ (๖) และ (๙) แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. ๒๕๓๔ และที่แก้ไขเพิ่มเติม
สำหรับคณะอนุกรรมการฯ คณะทำงานด้านตรวจสอบฯ และคณะทำงานด้านบริหารข้อมูลฯ
ให้เป็นการแต่งตั้งตามลำดับต่อไป ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3785 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (นางสาวภคนันท์ ศิลาอาสน์) | นร.04 | 03/10/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นางสาวภคนันท์ ศิลาอาสน์ ข้าราชการพลเรือนสามัญ
ตำแหน่งผู้อำนวยการกอง (ผู้อำนวยการระดับสูง) กองงานนายกรัฐมนตรี
สำนักเลขาธิการนายกรัฐนตรี ให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีฝ่ายข้าราชการประจำ
ด้านประสานกิจการภายในประเทศ (นักวิเคราะห์นโยบายและแผนทรงคุณวุฒิ)
สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ตั้งแต่วันที่ ๗ กรกฎาคม ๒๕๖๖ ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์
ตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3786 | ขอความเห็นชอบต่อการรับรองร่างแถลงการณ์ Statement of ASEAN Ministers on Agriculture and Forestry to reduce the use of Harmful Agrochemicals to ensure Food Safety, Public Health, Occupational Safety and Environmental Protection | กษ. | 03/10/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบต่อร่างแถลงการณ์ของรัฐมนตรีอาเซียนด้านการเกษตรและป่าไม้ว่าด้วยการลดการใช้สารเคมีทางการเกษตรที่เป็นอันตราย
เพื่อประกันความปลอดภัยด้านอาหาร สาธารณสุข ความปลอดภัยในการทำงาน
และปกป้องสิ่งแวดล้อม และให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
หรือผู้แทนที่ได้รับมอบหมายร่วมรับรองร่างแถลงการณ์ฯ ในการประชุมรัฐมนตรีอาเซียนด้านการเกษตรและป่าไม้
ครั้งที่ ๔๕ ในวันที่ ๔ ตุลาคม ๒๕๖๖ โดยร่างแถลงการณ์ฯ เป็นการเน้นความร่วมมือในการที่จะลดการใช้สารเคมีทางการเกษตรที่เป็นอันตรายสูงแก่ผู้บริโภคและเกษตรกร
รวมถึงปกป้องสิ่งแวดล้อม
โดยไม่มีถ้อยคำหรือบริบทใดที่มุ่งจะก่อให้เกิดพันธกรณีภายใต้การบังคับของกฎหมายระหว่างประเทศ
และร่างแถลงการณ์ดังกล่าวไม่เป็นสนธิสัญญาตามกฎหมายระหว่างประเทศ
และไม่เป็นหนังสือสัญญาตามมาตรา ๑๗๘ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. ๒๕๖๐ ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ
ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างแถลงการณ์ของรัฐมนตรีอาเซียนด้านการเกษตรและป่าไม้ว่าด้วยการลดการใช้สารเคมีทางการเกษตรที่เป็นอันตรายเพื่อประกันความปลอดภัยด้านอาหาร
สาธารณสุข ความปลอดภัยในการทำงาน และปกป้องสิ่งแวดล้อม
ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้
ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง
พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3787 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (นางพันพร โตวิริยะเวช) | นร.07 | 03/10/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นางพันพร โตวิริยะเวช ข้าราชการพลเรือนสามัญ ตำแหน่งที่ปรึกษาสำนักงบประมาณ
(นักวิเคราะห์งบประมาณเชี่ยวชาญ) ให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาสำนักงบประมาณ
(นักวิเคราะห์งบประมาณทรงคุณวุฒิ) สำนักงบประมาณ สำนักนายกรัฐมนตรี ตั้งแต่วันที่
๒๗ มีนาคม ๒๕๖๖ ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่สำนักงบประมาณเสนอคณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นางพันพร โตวิริยะเวช ข้าราชการพลเรือนสามัญ ตำแหน่งที่ปรึกษาสำนักงบประมาณ
(นักวิเคราะห์งบประมาณเชี่ยวชาญ) ให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาสำนักงบประมาณ
(นักวิเคราะห์งบประมาณทรงคุณวุฒิ) สำนักงบประมาณ สำนักนายกรัฐมนตรี ตั้งแต่วันที่
๒๗ มีนาคม ๒๕๖๖ ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่สำนักงบประมาณเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3788 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (นางวรรณภรณ์ เกตุทัต) | พณ. | 03/10/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นางวรรณภรณ์ เกตุทัต ข้าราชการพลเรือนสามัญ
ตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ให้ดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวง
สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงพาณิชย์ เพื่อทดแทนตำแหน่งที่เกษียณอายุราชการ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไป
ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพณิชย์เสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3789 | ขออนุมัติรายการผูกพันข้ามปีงบประมาณที่มีวงเงินตั้งแต่ 1,000 ล้านบาทขึ้นไป ของกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม | อว. | 03/10/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติในหลักการให้กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมนำเสนอรายการที่มีวงเงินตั้งแต่
๑,๐๐๐
ล้านบาทขึ้นไป จำนวน ๕ โครงการ วงเงินรวมทั้งสิ้น ๒๔,๐๓๒,๓๐๔,๙๐๐ บาท เสนอเป็นคำขอตั้งงบประมาณตามนัยมาตรา ๒๖
ของพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณพ.ศ. ๒๕๖๑ ทั้งนี้ ให้กระทรวงการอุดมศึกษา
วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม
และหน่วยรับงบประมาณจัดทำแผนการดำเนินการและยืนยันความพร้อมของโครงการ จำนวน ๕
โครงการ ดังกล่าว โดยมีรายละเอียดแบบรูปรายการ ประมาณการค่าสิ่งก่อสร้าง
สถานที่/พื้นที่พร้อมที่จะดำเนินการ รวมถึงการดำเนินการตามระเบียบ
กฎหมายที่เกี่ยวข้อง โดยคำนึงถึงความคุ้มค่า และประหยัด การพิจารณาเป้าหมาย
ประโยชน์ที่จะได้รับ ประสิทธิภาพและผลสัมฤทธิ์ที่จะเกิดขึ้นจากการดำเนินโครงการ และดำเนินการขอรับการจัดสรรงบประมาณให้สอดคล้องกับพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ
พ.ศ. ๒๕๖๑ อย่างเคร่งครัด ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
และให้หน่วยงานผู้รับผิดชอบโครงการรับความเห็นของกระทรวงคมนาคมและสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
โดยให้ปฏิบัติตามกฎหมาย ระเบียบ
ข้อบังคับและมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องโดยเคร่งครัด
และให้หน่วยงานรับผิดชอบโครงการมีการจัดทำแผนการบริหารจัดการโครงการที่ครอบคลุมแผนการบริหารจัดการกำลังคนที่คำนึงกำลังการผลิตและความต้องการในภาพรวมของประเทศ
แผนการบริหารความเสี่ยงของโครงการ การติดตามประเมินผล
ตลอดจนให้ความสำคัญกับการประสานความร่วมมือและการบริหารจัดการทรัพยากร
การจัดบริการทางการแพทย์และสาธารณสุขร่วมกันระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3790 | ขออนุมัติก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณโครงการพัฒนาพื้นที่ส่วนขยายศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550 พื้นที่โซน C | กค. | 03/10/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติในหลักการให้กระทรวงการคลังนำรายการที่มีวงเงินตั้งแต่
๑,๐๐๐
ล้านบาทขึ้นไป
โครงการพัฒนาพื้นที่ส่วนขยายศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ ๘๐ พรรษา ๕ ธันวาคม ๒๕๕๐
พื้นที่โซน C เพื่อเป็นค่าเช่าอาคารให้กับ บริษัท ธนารักษ์พัฒนาสินทรัพย์ จำกัด
เป็นเวลา ๓๐ ปี ในอัตราค่าเช่า ๓๙๐ บาทต่อตารางเมตรต่อเดือน หรือปีละ ๒,๓๘๖,๘๐๐,๐๐๐ บาท และปรับปรุงอัตราค่าเช่าเพิ่มขึ้นร้อยละ
๗ ของอัตราค่าเช่าเดิมทุก ๓ ปี รวม ๓๐ ปี วงเงินรวมทั้งสิ้น ๙๘,๙๓๑,๒๙๓,๙๘๒ บาท เสนอเป็นคำขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๗ ตามนัยมาตรา ๒๖ ของพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑
โดยคำนึงถึงความคุ้มค่าและประหยัด การพิจารณาเป้าหมาย ประโยชน์ที่จะได้รับ
ประสิทธิภาพและผลสัมฤทธิ์ที่จะเกิดขึ้นจากการดำเนินโครงการ ตามนัยพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ
พ.ศ. ๒๕๖๑ ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3791 | สรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร (วันจันทร์ที่ 2 ตุลาคม 2566) | ปสส. | 03/10/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร
วันจันทร์ที่ ๒ ตุลาคม ๒๕๖๖ ซึ่งพิจารณาระเบียบวาระการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ชุดที่
๒๖ ปีที่ ๑ ครั้งที่ ๑๙ (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่หนึ่ง) วันพุธที่ ๔ ตุลาคม ๒๕๖๖
และพิจารณาระเบียบวาระการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ ๒๖ ปีที่ ๑ ครั้งที่ ๒๐
(สมัยสามัญประจำปีครั้งที่หนึ่ง) วันพฤหัสบดีที่ ๕ ตุลาคม ๒๕๖๖
ตามที่ฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3792 | ขออนุมัติรายการผูกพันข้ามปีงบประมาณที่มีวงเงินตั้งแต่ 1,000 ล้านบาทขึ้นไป กระทรวงสาธารณสุข (โครงการศูนย์การแพทย์เพื่อตอบโต้โรคอุบัติใหม่แห่งชาติบำราศนราดูร) | สธ. | 03/10/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติในหลักการให้กระทรวงสาธารณสุข
โดยกรมควบคุมโรคนำรายการที่มีวงเงินตั้งแต่ ๑,๐๐๐ ล้านบาทขึ้นไป
โครงการศูนย์การแพทย์เพื่อตอบโต้โรคอุบัติใหม่แห่งชาติบำราศนราดูร (National
Center for Emerging and Infectious Diseases : NCEID) วงเงินทั้งสิ้น ๒,๒๒๙,๘๔๓,๐๐๐ บาท เสนอเป็นคำขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๗ จำนวน
๔๔๕,๙๖๘,๖๐๐ บาท ส่วนที่เหลือจำนวน ๑,๗๘๓,๘๗๔,๔๐๐ บาท
ผูกพันงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๘-๒๕๗๐ ตามนัยมาตรา ๒๖
แห่งพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ ทั้งนี้ ให้กรมควบคุมโรคจัดทำแผนการดำเนินการ
และยืนยันความพร้อมของโครงการดังกล่าว โดยมีรายละเอียดแบบรูปรายการ ประมาณการค่าก่อสร้าง
สถานที่/พื้นที่พร้อมจะดำเนินการ
รวมถึงการดำเนินการตามระเบียบและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง โดยคำนึงถึงความประหยัด
ความคุ้มค่า ประโยชน์ที่จะได้รับ ประสิทธิภาพ และผลสัมฤทธิ์ที่จะเกิดขึ้นจากการดำเนินโครงการ
ตามนัยพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. ๒๕๖๑ ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
และให้กระทรวงสาธารณสุขรับความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ที่เห็นควรพิจารณาเพิ่มเติมรายละเอียดของกิจกรรมและวงเงินภายใต้แผนการดำเนินการให้ชัดเจน
รวมทั้งควรจัดทำแผนความต้องการครุภัณฑ์เทคโนโลยีทางการแพทย์
และประเภทของบุคลากรเฉพาะทางที่สอดคล้องกับรูปแบบการให้บริการของโครงการที่มุ่งเน้นการรักษาผู้ป่วยโรคติดเชื้อ
โรคอุบัติใหม่ และโรคติดต่อสำคัญ เพื่อให้สะท้อนถึงภาพรวมความพร้อมและกรอบวงเงินรวมของทั้งโครงการ
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3793 | ขออนุมัติการตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 สำหรับรายการงบประมาณที่มีวงเงินตั้งแต่หนึ่งพันล้านบาทขึ้นไป (กระทรวงเกษตรและสหกรณ์) | กษ. | 03/10/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติในหลักการให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์นำรายการที่มีวงเงินตั้งแต่
๑,๐๐๐ ล้านบาท จำนวน ๕ โครงการ ๗
รายการ วงเงินรวมทั้งสิ้น ๑๓,๘๓๔,๒๕๓,๔๐๐ บาท เพื่อเสนอเป็นคำขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๗
จำนวน ๒,๗๖๖,๘๕๐,๗๐๐
บาท และผูกพันปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๘-พ.ศ. ๒๕๗๐ อีกจำนวน ๑๑,๐๖๗,๔๐๒,๗๐๐ บาท ตามนัยมาตรา ๒๖
ของพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ ทั้งนี้
ให้จัดทำแผนการดำเนินการและยืนยันความพร้อมของโครงการและรายการดังกล่าว
โดยมีความพร้อมในเรื่องพื้นที่/สถานที่ที่จะดำเนินการ รายละเอียดแบบรูปรายการ
ประมาณการค่าก่อสร้าง และการกำหนดแบบรูปรายการก่อสร้างให้มีความเหมาะสม
รวมถึงการดำเนินการตามระเบียบและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
รวมทั้งพิจารณาจัดลำดับความสำคัญของโครงการให้เหมาะสมกับความจำเป็นเร่งด่วน
ศักยภาพในการดำเนินการ ตลอดจนสถานะการเงินการคลังของประเทศ
และคำนึงถึงภาระผูกพันงบประมาณในแต่ละปีงบประมาณให้เป็นไปตามสัดส่วนของรายจ่ายลงทุนที่กำหนด
ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๐ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๒ ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
ทั้งนี้ ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (กรมชลประทาน)
รับความเห็นของสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ที่เห็นควรให้กรมชลประทานปรับปรุงแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณของโครงการให้สอดคล้องให้สอดคล้องกับข้อเท็จจริงในปัจจุบัน
และเสนอขออนุมัติขยายระยะเวลาโครงการตามระเบียบและข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3794 | การขอก่อหนี้ผูกพันงบประมาณมากกว่าหนึ่งปีงบประมาณสำหรับรายการที่มีวงเงินตั้งแต่ 1,000 ล้านบาทขึ้นไป เพื่อขอรับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ของกระทรวงมหาดไทย | มท. | 03/10/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติในหลักการให้กระทรวงมหาดไทยนำรายการที่มีวงเงินตั้งแต่
๑๐๐๐ ล้านบาทขึ้นไป ของ ๓ หน่วยงาน จำนวน ๔ โครงการ วงเงินทั้งสิ้น ๑๐,๖๓๖.๒๔๓๘ ล้านบาท
เพื่อเสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ. ๒๕๖๗ ตามนัยมาตรา ๒๖
ของพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ และมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๓
กันยายน ๒๕๖๖ เรื่องการปรับปรุงปฏิทินงบประมาณ
พร้อมแนวทางการจัดทำงบประมาณและยุทธศาสตร์ชาติการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๗ ทั้งนี้ ให้กระทรวงมหาดไทยจัดทำแผนการดำเนินการและยืนยันความพร้อมของโครงการดังกล่าว
โดยมีคุณลักษณะเฉพาะ ประมาณการหรือผลการสอบราคา รายละเอียดแบบรูปรายการ
ประมาณการค่าใช้จ่ายในการก่อสร้างให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน และมีสถานที่/พื้นที่พร้อมจะดำเนินการ
โดยคำนึงถึงความคุ้มค่า ประหยัด การพิจารณาเป้าหมาย ประโยชน์ที่จะได้รับ
ประสิทธิภาพ และผลสัมฤทธิ์ที่จะเกิดขึ้นจากการดำเนินโครงการ
ตามนัยพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. ๒๕๖๑ ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
ทั้งนี้ ให้กระทรวงมหาดไทย (สำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย การประปาส่วนภูมิภาค
และกรุงเทพมหานคร) รับความเห็นของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เช่น โครงการป้องกันและการแก้ไขปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งทะเลบางขุนเทียน
กรุงเทพมหานคร และศูนย์สำรวจและเฝ้าระวังชายฝั่ง ของกรุงเทพมหานคร
และโครงโครงการก่อสร้างศูนย์ราชการกระทรวงมหาดไทย ของสำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย จะต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันและแก้ไขผลกระทบสิ่งแวดล้อม
และมาตรการติดตามตรวจสอบผลกระทบสิ่งแวดล้อมอย่างเคร่งครัด
รวมถึงการจัดทำและจัดส่งรายงานผลการปฏิบัติตามมาตรการฯ ตามมาตรา ๕๑/๕
แห่งพระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๑ โครงการก่อสร้างปรับปรุงขยายการประปาส่วนภูมิภาค
กระทรวงมหาดไทยควรควบคุมและกำกับดูแลการดำเนินโครงการ
ให้เป็นไปตามมาตรการคุ้มครองสิ่งแวดล้อม ข้อ ๔(๑) (ก) ข้อ ๔ (๓) (ค) ข้อ ๔ (๕) (ก)
และข้อ ๖ (๖) ของประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมฯ กรณีโครงการก่อสร้างระบบรวบรวมน้ำเสียและระบบบำบัดน้ำเสียมีนบุรี
ระยะที่ ๒ ของกรุงเทพมหานคร ไม่เข้าข่ายโครงการ กิจการ หรือการดำเนินการ
ซึ่งต้องจัดทำรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม
ตามประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่อง กำหนดโครงการ กิจการ
หรือการดำเนินการ ซึ่งต้องจัดทำรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม
ประกาศราชกิจจานุเบกษาวันที่ ๔ มกราคม ๒๕๖๒ ไปดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3795 | ภาวะสังคมไทยไตรมาสสอง ปี 2566 | นร.11 สศช | 03/10/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบภาวะสังคมไทยไตรมาสสอง ปี ๒๕๖๖ ได้แก่ (๑)
ความเคลื่อนไหวทางสังคมไตรมาสสอง ปี ๒๕๖๖ เช่น สถานการณ์ด้านแรงงาน
มีผู้มีงานทำจำนวน ๓๙.๗ ล้านคน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ ๑.๗
หนี้สินครัวเรือนในไตรมาสหนึ่ง ปี ๒๕๖๖ มีมูลค่า ๑๕.๙๖ ล้านล้านบาท
เพิ่มขึ้นร้อยละ ๓.๖ คงที่เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ผ่านมา
ขณะที่สัดส่วนหนี้สินครัวเรือนต่อ GDP อยู่ที่ร้อยละ ๙๐.๖ การเจ็บป่วยด้วยโรคเฝ้าระวังเพิ่มขึ้นจากโรคที่มากับฝน
ได้แก่ ไข้หวัดใหญ่และไข้เลือดออก การบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และบุหรี่เพิ่มขึ้นร้อยละ
๒.๗ คดีอาญาโดยรวมลดลงร้อยละ ๑๗.๘ และการรับแจ้งอุบัติเหตุทางถนนลดลงร้อยละ ๑๒
และการร้องเรียนผ่าน สคบ. เพิ่มขึ้นร้อยละ ๕๓.๑ โดยเป็นเรื่องสัญญามากที่สุด
ในขณะที่การร้องเรียนผ่าน กสทช. ลดลงร้อยละ ๔๐.๕
โดยเป็นเรื่องเกี่ยวกับโทรศัพท์เคลื่อนที่มากที่สุด (๒) สถานการณ์ทางสังคมที่สำคัญ
จำนวน ๓ เรื่อง ได้แก่ การย้ายถิ่นฐานของประชากรช่วง COVID-19 ความท้าทายของตลาดแรงงาน การจัดการซากรถยนต์เมื่อรถ EV มาแทนที่รถยนต์สันดาป และ LGBTQ+ : หลากหลายที่ไม่แตกต่างเพื่อเปิดกว้างสู่ความเสมอภาคทางเพศ
และ (๓) บทความ “หนี้สินคนไทย : ภาพสะท้อนจากข้อมูลเครดิตบูโร”
สะท้อนให้เห็นว่า มีหนี้จำนวนมากที่ไม่ได้นำเข้าระบบข้อมูลเครดิตบูโร
ส่งผลให้เจ้าหนี้ไม่สามารถตรวจสอบสถานะหนี้สินและรายได้สุทธิหลังหักภาระหนี้ของลูกหนี้ได้
หนี้เสียที่เกิดจากผู้ให้สินเชื่อที่ไม่ใช่ธนาคารพาณิชย์มีสัดส่วนสูงกว่าหนี้เสียของธนาคารพาณิชย์
กลุ่มลูกหนี้ที่ต้องให้ความสนใจเป็นพิเศษ คือ
กลุ่มวัยแรงงานตอนต้นและกลุ่มผู้สูงอายุ และหนี้สินครัวเรือนอื่น ๆ
ที่ไม่สามารถจำแนกประเภทได้อาจเป็นหนี้สินที่ต้องให้ความสำคัญเป็นพิเศษ ตามที่สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3796 | การจัดกิจกรรมสาธารณกุศลเพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศรมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เนื่องในวันครบรอบ 7 ปีแห่งการสวรรคต | นร. | 03/10/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอว่า
ตามที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ ๒๖ กันยายน ๒๕๖๖
ให้ทุกส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐพิจารณาจัดกิจกรรมเนื่องในวันคล้ายวันสวรรคตพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร
มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ๑๓ ตุลาคม ๒๕๖๖ ครบ ๗ ปี ตามที่เห็นสมควรและเหมาะสม
เพื่อร่วมเทิดพระเกียรติถวายพระราชกุศลเนื่องในโอกาสดังกล่าว
และเชิญชวนประชาชนและเอกชนทุกภาคส่วนจัดกิจกรรม/เข้าร่วมกิจกรรมต่าง ๆ
ดังกล่าวอย่างพร้อมเพรียงกันด้วย นั้น กิจกรรมหนึ่งที่สมควรเร่งดำเนินการเพื่อเป็นการร่วมเทิดพระเกียรติและถวายเป็นพระราชกุศลในโอกาสดังกล่าวข้างต้น
คือ การให้การช่วยเหลือดูแลคนยากจน ผู้ด้อยโอกาส ที่เร่ร่อน
เป็นบุคคลจรจัดที่ไม่มีที่พักอาศัยเป็นหลักแหล่ง
รวมตลอดถึงผู้ที่เคยเสพยาเสพติด และผู้ที่ไม่สมประกอบที่พักพิงอยู่ทั่วไปในพื้นที่ต่าง
ๆ เพื่อให้บุคคลเหล่านี้ได้รับปัจจัยพื้นฐานที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิต ทั้ง
๔ ประการ (อาหาร เครื่องนุ่งห่ม ที่อยู่อาศัย และยารักษาโรค)
อย่างเหมาะสมและเพียงพอ รวมถึงสามารถยกระดับคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้น
โดยให้พิจารณาจัดฝึกอาชีพและจัดหางานให้ทำตามความรู้ความสามารถหรือความถนัดที่มี
ตามที่เจ้าตัวสมัครใจเพื่อให้สามารถสร้างรายได้มาเลี้ยงตนเองได้
สำหรับงบประมาณค่าใช้จ่ายเพื่อการนี้ ให้หน่วยงานเจ้าของกิจกรรมเบิกจ่ายจากงบประมาณของหน่วยงานเป็นลำดับแรก
และหากไม่สามารถปรับแผนการใช้จ่ายได้หรือมีงบประมาณไม่เพียงพอก็ให้เสนอขอใช้เงินงบกลางเพิ่มเติมได้ตามแต่กรณี
จึงขอมอบให้รองนายกรัฐมนตรี (พลตำรวจเอก พัชรวาท วงษ์สุวรรณ) รับเรื่องนี้ไปประสานและหารือกับกระทรวงกลาโหม
กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงแรงงาน กระทรวงยุติธรรม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อเร่งดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง
ตามขั้นตอนให้เกิดผลเป็นรูปธรรมโดยเร็วและมีความยั่งยืนต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3797 | การเร่งรัดการออกกฎหมายเพื่อแก้ไขปัญหายาเสพติด | นร. | 03/10/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอว่า
ตามที่รัฐบาลได้แถลงนโยบายด้านความปลอดภัยต่อรัฐสภาไว้
สรุปว่ารัฐบาลจะทำงานร่วมกับประชาชนทุกภาคส่วน เพื่อดำเนินการปราบปรามผู้มีอิทธิพล
และยาเสพติดให้หมดไปจากสังคมไทย โดยยึดหลัก “เปลี่ยนผู้เสพ เป็นผู้ป่วย”
และสนับสนุนให้ผู้เสพเข้าร่วมการบำบัดรักษาอย่างมีประสิทธิภาพและทั่วถึง นั้น
เพื่อให้การดำเนินการดังกล่าวมีความชัดเจนและปรากฏผลเป็นรูปธรรมโดยเร็ว จึงขอให้กระทรวงยุติธรรมเร่งประสานกับกระทรวงมหาดไทย
กระทรวงสาธารณสุข สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
เพื่อจัดทำร่างกฎหมายและอนุบัญญัติต่าง ๆ
ที่เกี่ยวข้องรองรับการดำเนินการตามนโยบายดังกล่าวข้างต้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งกฎหมายเกี่ยวกับการครอบครองยาเสพติดของผู้เสพ/ผู้ป่วยให้แล้วเสร็จตามลำดับความสำคัญและจำเป็นเร่งด่วน
แล้วเสนอตามขั้นตอนเพื่อให้มีผลใช้บังคับโดยด่วนต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3798 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (1. นางสาวกุลยา ตันติเตมิท ฯลฯ จำนวน 13 ราย) | กค. | 03/10/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ
สังกัดกระทรวงการคลัง ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน ๑๓ ราย
เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่าง และสับเปลี่ยนหมุนเวียน ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไป ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเสนอ ดังนี้ ๑. นางสาวกุลยา ตันติเตมิท ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมสรรพากร ๒. นางแพตริเซีย มงคลวนิช ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมบัญชีกลาง ๓. นายพชร อนันตศิลป์ ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ ๔. นายธีรัชย์ อัตนวานิช ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมศุลกากร ๕. นายชาญวิทย์ นาคบุรี ดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวง
สำนักงานปลัดกระทรวง ๖. นายเกียรติณรงค์ วงศ์น้อย ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง
สำนักงานปลัดกระทรวง ๗. นายปิ่นสาย สุรัสวดี ดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวง
สำนักงานปลัดกระทรวง ๘. นายอัครุตม์ สนธยานนท์ ดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวง
สำนักงานปลัดกระทรวง ๙. นายธิบดี วัฒนกุล ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ ๑๐. นางสาวขนิษฐา สหเมธาพัฒน์
ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ๑๑. นายวุฒิพงศ์ จิตตั้งสกุล ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ๑๒. นายธีรลักษ์ แสงสนิท ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง
สำนักงานปลัดกระทรวง
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3799 | รายการที่มีวงเงินตั้งแต่ 1,000 ล้านบาทขึ้นไป ที่จะเสนอคำของบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ | ตช. | 03/10/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติในหลักการให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
นำรายการที่มีวงเงินตั้งแต่ ๑,๐๐๐
ล้านบาทขึ้นไป จำนวน ๒ รายการ เพื่อเป็นค่าเช่ารถยนต์พร้อมอุปกรณ์ จำนวน ๑ รายการ
และจัดหารถจักรยานยนต์ พร้อมอุปกรณ์ ๑ รายการ จำนวน ๑๕,๓๓๒
คัน วงเงินรวมทั้งสิ้น ๒,๘๕๖,๔๔๒,๘๐๐ บาท เพื่อเสนอเป็นคำขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๗
จำนวน ๔๔๖,๘๘๘,๐๐๐ บาท
และส่วนที่เหลืออีก จำนวน ๒,๔๐๙,๕๕๔,๘๐๐ บาท ผูกพันปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๘-พ.ศ. ๒๕๗๑ ตามนัยมาตรา ๒๖
ของพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ และให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติจัดทำแผนการจัดหาครุภัณฑ์ให้สอดคล้องกับแผนแม่บทด้านความมั่นคง
แผนการปฏิบัติงาน แผนการซ่อมบำรุง และยืนยันความพร้อมของรายการดังกล่าว
โดยกำหนดวัตถุประสงค์และสาระสำคัญของรายการ รายละเอียดคุณลักษณะเฉพาะ
ประมาณการราคาหรือผลการสอบราคา สถานที่/พื้นที่พร้อมที่จะดำเนินการให้ชัดเจนเพื่อประกอบการพิจารณา
ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
และให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติรับความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ที่เห็นควรให้พิจารณาถึงความเหมะสม จำเป็น
เพื่อให้การใช้งบประมาณเกิดประสิทธิภาพสูงสุด ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3800 | ขอยื่นคำขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 (สถาบันพระปกเกล้า) | พป. | 03/10/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบคำขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๗ ของสถาบันพระปกเกล้า จำนวน ๖๗๐,๕๘๑,๑๐๐ บาท ทั้งนี้
การจัดทำคำของบประมาณรายจ่ายของหน่วยรับงบประมาณดังกล่าวเป็นการยื่นคำขอตั้งงบประมาณรายจ่ายต่อคณะรัฐมนตรีภายในระยะเวลาที่คณะรัฐมนตรีกำหนด
โดยแสดงวัตถุประสงค์ แผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ และรายงานเกี่ยวกับเงินนอกงบประมาณ ตามนัยมาตรา ๒๘
แห่งพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ เพื่อสำนักงบประมาณจะได้จัดทำงบประมาณตามขั้นตอนต่อไป
ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ทั้งนี้
ให้สถาบันพระปกเกล้ารับความเห็นของกระทรวงการคลัง
ที่เห็นควรให้ความสำคัญกับการควบคุมและกำกับดูแลการใช้จ่ายงบประมาณให้เป็นไปตามกฎหมาย
ระเบียบ ข้อบังคับ และหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง
เพื่อให้การใช้จ่ายงบประมาณมีความคุ้มค่าและเกิดประโยชน์สูงสุด ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|