ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 168 จากทั้งหมด 6200 หน้า แสดงรายการที่ 3341 - 3360 จากข้อมูลทั้งหมด 123994 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
3341 | มติการประชุมคณะกรรมการนโยบายยานยนต์ไฟฟ้าแห่งชาติ ครั้งที่ 1/2566 | นร.13 | 19/12/2566 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติมติรับทราบและเห็นชอบตามมติคณะกรรมการนโยบายยานยนต์ไฟฟ้าแห่งชาติ
ครั้งที่ ๑/๒๕๖๖ เมื่อวันที่ ๑ พฤศจิกายน ๒๕๖๖ สรุปได้ ดังนี้ (๑) เรื่องเพื่อทราบ
จำนวน ๔ เรื่อง ได้แก่ ๑) รับทราบการแต่งตั้งคณะกรรมการนโยบายฯ
ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้ลงนามในคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง
แต่งตั้งคณะกรรมการนโยบายฯ มีผลตั้งแต่วันที่ ๒๔ ตุลาคม ๒๕๖๖
โดยมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธานและเลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน
เป็นกรรมการและเลขานุการ ๒) รับทราบความคืบหน้าของการส่งเสริมอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า
๓) รับทราบการนำยานยนต์ไฟฟ้ามาใช้ในราชการตามมติคณะรัฐมนตรี (๒๔ สิงหาคม ๒๕๖๔, ๓๐ พฤศจิกายน ๒๕๖๔ และ ๑๖ ตุลาคม
๒๕๖๖) และ ๔) รับทราบมาตรฐานที่เกี่ยวข้องกับยานยนต์ไฟฟ้า และ (๒)
เรื่องเพื่อพิจารณา รวม ๕ เรื่อง ได้แก่ ๑) การแก้ไขหลักเกณฑ์ภายใต้มาตรการสนับสนุนการใช้ยานยนต์ไฟฟ้า
(EV3) ๒) มาตรการ EV3.5 คณะกรรมการนโยบายฯ
ได้พิจารณามาตรการ EV3.5 เพื่อให้มีผลใช้บังคับในช่วงปี ๒๕๖๗-๒๕๗๐
โดยครอบคลุมทั้งรถยนต์นั่ง รถกระบะและรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า
รวมถึงสิทธิประโยชน์สำหรับรถยนต์แต่ละประเภทด้วย ๓) สนับสนุนงบประมาณสำหรับมาตรการ
EV3 ในส่วนที่ขาด และ EV3.5 ๔) การขยายเวลาสิทธิประโยชน์ภาษีสรรพสามิตของรถยนต์ประหยัดพลังงานมาตรฐานสากล
(ECO Car) และ ๕) การปรับปรุงกระบวนการผลิตที่เป็นสาระสำคัญสำหรับรถยนต์นั่งในเขตปลอดอากรหรือเขตประกอบการเสรี
(Free Zone) : คณะกรรมการนโยบายฯ
ในคราวประชุมเมื่อวันที่ ๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๖ ตามที่คณะกรรมการนโยบายยานยนต์ไฟฟ้าแห่งชาติเสนอ
ทั้งนี้
ให้คณะกรรมการนโยบายยานยนต์ไฟฟ้าแห่งชาติและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงการคลังและสำนักงบประมาณ
รวมทั้งข้อสังเกตของกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ที่เห็นควรกำหนดเป้าหมายในการสนับสนุน
Eco Car ที่ชัดเจน
โดยหลังจากขยายระยะเวลาการให้สิทธิประโยซน์ด้านภาษีสรรพสามิตในครั้งนี้แล้ว
ควรใช้อัตราภาษีตามโครงสร้างภาษีสรรพสามิตสินค้ารถยนต์ที่จะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่
๑ มกราคม ๒๕๖๙ เป็นต้นไป หากมีการดำเนินกิจกรรม มาตรการ
หรือโครงการที่อาจก่อให้เกิดภาระต่องบประมาณหรือภาระทางการคลังในอนาคต
รวมทั้งการยกเว้นหรือการลดภาษีอากรใด ๆ
หน่วยงานของรัฐต้องดำเนินการตามกฎหมายว่าด้วยวินัยการเงินการคลังของรัฐต่อไป สำหรับงบประมาณในการดำเนินการตามมาตรการการสนับสนุนการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าดังกล่าว
สำนักงบประมาณได้เสนอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๙
ให้กรมสรรพสามิต ภายใต้แผนงานบูรณาการพัฒนาอุตสาหกรรมและบริการแห่งอนาคต
โครงการการสนับสนุนการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าประเภทรถยนต์และรถจักรยานยนต์ งบเงินอุดหนุน
เงินอุดหนุนทั่วไป รายการเงินอุดหนุนตามมาตรการสนับสนุนการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าประเภทรถยนต์และรถจักรยานยนต์
จำนวน ๓,๐๐๐,๐๐๐,๐๐๐
บาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับเงินอุดหนุนตามมาตรการฯ ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๘-๒๕๗๐
เห็นควรให้กรมสรรพสามิตเสนอขอรับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีตามความจำเป็นและเหมาะสมตามขั้นตอนต่อไป
และควรพิจารณากำหนดแผนงานในส่วนของการดำเนินการตาม “มาตรการเพื่อพัฒนารถยนต์ประหยัดพลังงานมาตรฐานสากล
(ECO Car) และรถกระบะในระยะต่อไป
ให้เป็นไปในทิศทางที่สอดรับกับแนวทางการส่งเสริมการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าของคณะกรรมการนโยบายยานยนต์ไฟฟ้าแห่งชาติ”
ให้ชัดเจนต่อไปโดยเร็ว นอกจากเรื่องการส่งเสริมการผลิต และประเด็นการพัฒนารถยนต์ ECO
Car และรถกระบะ รวมถึงเป้าหมายการแก้ไขปัญหา PM 2.5 และการมุ่งสู่เป้าหมาย Carbon neutrality ในขณะเดียวกัน
ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||
3342 | เรื่องสืบเนื่องจากการเยือนญี่ปุ่นเพื่อเข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียน-ญี่ปุ่น สมัยพิเศษ ของนายกรัฐมนตรี | นร. | 19/12/2566 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอว่า สืบเนื่องจากการเดินทางไปเยือนประเทศญี่ปุ่นเพื่อเข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียน-ญี่ปุ่น
สมัยพิเศษ เพื่อฉลองวาระครบรอบ ๕๐ ปี ความสัมพันธ์อาเซียน-ญี่ปุ่น ในระหว่างวันที่
๑๕-๑๘ ธันวาคม ๒๕๖๖ ได้มีโอกาสหารือกับผู้นำประเทศสมาชิกอาเซียนเกี่ยวกับการขยายความร่วมมือในภูมิภาคในมิติต่าง
ๆ จึงขอมอบหมายให้ผู้เกี่ยวข้องเร่งรัดดำเนินการในเรื่องต่าง ๆ ดังนี้ ๑. ให้รองนายกรัฐมนตรี (นายภูมิธรรม เวชยชัย)
และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ รับไปประสานกับกระทรวงการต่างประเทศ
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อเร่งรัดการดำเนินการส่งออกข้าว
จำนวน ๒ ล้านตัน
ไปยังประเทศอินโดนีเซียให้แล้วเสร็จและเป็นไปตามความประสงค์ของประเทศอินโดนีเซียที่ขอซื้อไว้ ๒.
ให้กระทรวงการต่างประเทศเร่งรัดการดำเนินการจัดตั้งสถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองเสียมราฐ ประเทศกัมพูชา
ให้แล้วเสร็จโดยเร็ว เพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างไทยและกัมพูชา
รวมทั้งเพิ่มประสิทธิภาพในการคุ้มครองดูแลคนไทยและอำนวยความสะดวกให้แก่ชาวต่างชาติที่ประสงค์จะเดินทางเข้ามายังประเทศไทยต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||
3343 | รายชื่อผู้ประสานงานคณะรัฐมนตรีและรัฐสภาของรองนายกรัฐมนตรีและส่วนราชการ | นร 05 | 19/12/2566 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายชื่อผู้ประสานงานคณะรัฐมนตรีและรัฐสภา (ปคร.)
ของรองนายกรัฐมนตรีและส่วนราชการ รวมทั้งหมด ๓๗ ราย
ตามที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอ ดังนี้ ๑. นายชนินทร์
รุ่งธนเกียรติ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ๒. นางสาวอรณี
รัตนประเสริฐ นักทัณฑวิทยาชำนาญการ ๓. นายศึกษิษฏ์
ศรีจอมขวัญ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ๔. นายชื่นชอบ
คงอุดม รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ๕. พลเอก
ธนะศักดิ์ ชื่นอิ่ม รองปลัดกระทรวงกลาโหม ๖. นางสาวพินทุ์สุดา
ชัยนาม เอกอัครราชทูตประจำกระทรวง ๗. นายมนตรี
เดชาสกุลสม รองปลัดกระทรวงคมนาคม ๘. นายเวทางศ์
พ่วงทรัพย์ รองปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ๙. นางโสรดา
เลิศอาภาจิตร์ รองปลัดกระทรวงพาณิชย์ ๑๐. นายสมคิด
จันทมฤก รองปลัดกระทรวงมหาดไทย ๑๑. นายสมาสภ์
ปัทมะสุคนธ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงแรงงาน ๑๒. นางโชติกา
อัครกิจโสภากุล รองปลัดกระทรวงวัฒนธรรม ๑๓.
นายพิเชฐ โพธิ์ภักดี รองปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ๑๔. นายพงศธร พอกเพิ่มดี นายแพทย์ทรงคุณวุฒิ (ด้านสาธารณสุข) รักษาราชการแทน รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข ๑๕. นายเอกภัทร
วังสุวรรณ รองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ๑๖. นายมงคลชัย
สมอุดร รองปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ๑๗. นางนิชา
หิรัญบูรณะ ธุวธรรม รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายบริหาร ๑๘. นางอุดมพร
เอกเอี่ยม รองเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ๑๙.
นางสาวสาวิตรี ชำนาญกิจ รองเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ๒๐. นายวีรศักดิ์
ทิพย์มณเฑียร รองผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ ๒๑. นายยุทธนา
สาโยชนกร รองผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ ๒๒. นายฉัตรชัย
บางชวด รองเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งซาติ ๒๓. นายกิตติศักดิ์ จุลสำรวล กรรมการร่างกฎหมายประจำ
(นักกฎหมายกฤษฎีกาทรงคุณวุฒิ) ๒๔. นายสุวัฒน์ เอื้อเฟื้อ รองเลขาธิการ
ก.พ. ๒๕. นางอารีย์พันธ์ เจริญสุข รองเลขาธิการ
ก.พ.ร. ๒๖. นายนฤชา ฤชุพันธุ์ ที่ปรึกษาด้านการลงทุน ๒๗. นายชยันต์ เมืองสง รองเลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ๒๘. นายศุภฤกษ์ ภู่พงศ์ศักดิ์ รองผู้อำนวยการสำนักงานขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศยุทธศาสตร์ชาติ
และการสร้างความสามัคคีปรองดอง ๒๙. นายประเสริฐ ศิรินภาพร รองผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ ๓๐. นางพิชญดา หัศภาค รองเลขาธิการคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระ ราชดำริ ๓๑. นายศานติ ภักดีคำ รองเลขาธิการราชบัณฑิตยสภา
รักษาราชการแทนเลขาธิการราชบัณฑิตยสภา ๓๒. นายเทพสุ บวรโชติดารา เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ๓๓. นายธัชพล กาญจนกูล รองเลขาธิการคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก ๓๔. พลตรี ธีรวุฒิ วิทยากรณ์ รองเลขาธิการคณะกรรมการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ ๓๕. พลเรือตรี จุมพล นาคบัว ผู้อำนวยการสำนักนโยบายและแผนศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทาง ทะเล ๓๖. นายทศพร แย้มวงษ์ รองเลขาธิการวุฒิสภา |
|||||||||||||||||||||||||||
3344 | การใช้พื้นที่ภายในสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ (สถานีกลางบางชื่อ) เพื่อเป็นศูนย์แสดงสินค้าและผลิตภัณฑ์ของโครงการหนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ (OTOP) | นร.05 | 19/12/2566 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้กระทรวงการต่างประเทศทำสัญญาก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๗-พ.ศ. ๒๕๗๒
เพื่อเป็นค่าเช่าอาคารสถานเอกอัครราชทูตคณะผู้แทนถาวรไทยประจำอาเซียน
และสถานกงสุลใหญ่ และค่าเช่ารถยนต์ประจำตำแหน่ง รวมทั้งสิ้น ๙ รายการ
วงเงินรวมทั้งสิ้น ๑๙๗,๖๗๙,๑๐๐ บาท
หรือไม่เกินวงเงินตามสกุลเงินท้องถิ่นสำหรับกรณีที่มีการเปลี่ยนแปลงอัตราแลกเปลี่ยนตามนัยมาตรา
๔๒ ของพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ สำหรับค่าใช้จ่ายในการเช่าสำนักงานในต่างประเทศและการเช่ารถยนต์ประจำตำแหน่งที่จะเกิดขึ้นในปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๗ จำนวน ๒๘,๘๗๔,๑๐๐ บาท
ให้กระทรวงการต่างประเทศใช้จ่ายตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปี
งบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๖ ไปพลางก่อน และจัดทำแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ เพื่อเสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีตามขั้นตอนต่อไป
รวมถึงพิจารณาดำเนินการตามมติคระรัฐมนตรีเมื่อวัยที่ ๑๖ ตุลาคม ๒๕๖๖ เรื่อง
การสนับสนุนการผลิตและการใช้รถยนต์ไฟฟ้า (Electric Vehicle : EV) ที่ปล่อยมลพิษเป็นศูนย์ตามความจำเป็นและเหมาะสมในโอกาสแรก ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
|
|||||||||||||||||||||||||||
3345 | มาตรการลดภาระค่าใช้จ่ายด้านพลังงานให้แก่ประชาชน | พน. | 19/12/2566 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑.
รับทราบมาตรการลดภาระค่าใช้จ่ายด้านน้ำมันเชื้อเพลิงและมาตรการลดภาระค่าใช้จ่ายด้านไฟฟ้า
ซึ่งเป็นมาตรการต่อเนื่องจากมาตรการที่ดำเนินการในช่วงเดือนกันยายน
๒๕๖๖-ถึงเดือนธันวาคม ๒๕๖๖
เพื่อบรรเทาผลกระทบต่อภาระค่าครองชีพของประชาชนและการพื้นตัวทางเศรษฐกิจของประเทศ ตามที่กระทรวงพลังงานเสนอ
และให้กระทรวงพลังงาน คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาดำเนินการตามมาตรการดังกล่าวตามหน้าที่และอำนาจที่เกี่ยวข้องให้ถูกต้องเป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย
ระเบียบ หลักเกณฑ์ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องต่อไปอย่างเคร่งครัด ทั้งนี้
ให้กระทรวงพลังงาน คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของสำนักงบประมาณและสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
รวมทั้งข้อสังเกตของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ที่เห็นควรให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งจัดทำแผนการปฏิบัติงานและการใช้จ่ายงบประมาณ
เพื่อเสนอขอรับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๖ ไปพลางก่อน
งบกลาง
รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นตามความจำเป็นและเหมาะสมตามขั้นตอนต่อไป
เร่งรัดดำเนินการให้ทันต่อสถานการณ์อย่างรอบคอบ โดยคำนึงถึงภาวะเศรษฐกิจ ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ
ความพร้อม และความสามารถทางการเงินของภาครัฐ รวมถึงปฏิบัติให้เป็นไปตามกฎหมาย
ระเบียบ ข้อบังคับ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องให้ถูกต้องครบถ้วนในทุกขั้นตอน
รวมทั้งเร่งสร้างการรับรู้และความเข้าใจที่ถูกต้องให้กับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ควรติดตามสถานการณ์ราคาพลังงานอย่างใกล้ชิด
เพื่อให้สามารถบริหารจัดการราคาพลังงานของประเทศให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมต่อไป
และควรมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องหาแนวทางในการพัฒนาแหล่งพลังงานอื่นเพื่อใช้ทดแทน
Fossil Fuel เพื่อให้สอดคล้องกับผลการประชุม
COP 28 อันจะเป็นการลดภาระค่าใช้จ่ายด้านพลังงานที่พึ่งพา Fossil Fuel อย่างยั่งยืน ไปพิจารณาประกอบการดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องด้วย ๒. เห็นชอบการช่วยเหลือค่าไฟฟ้าของกลุ่มผู้ใช้ไฟฟ้าบ้านอยู่อาศัยที่ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน
๓๐๐ หน่วยต่อเดือน ตามที่กระทรวงพลังงานเสนอ |
|||||||||||||||||||||||||||
3346 | สรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร (วันจันทร์ที่ 18 ธันวาคม 2566) | ปสส. | 19/12/2566 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร
วันจันทร์ที่ ๑๘ ธันวาคม ๒๕๖๖ ซึ่งพิจารณาระเบียบวาระการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ ๒๖
ปีที่ ๑ ครั้งที่ ๓ (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่สอง)
วันพุธที่ ๒๐ ธันวาคม ๒๕๖๖ และพิจารณาระเบียบวาระการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ชุดที่
๒๖ ปีที่ ๑ ครั้งที่ ๔ (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่สอง) วันพฤหัสบดีที่ ๒๑ ธันวาคม
๒๕๖๖ ตามที่ฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||
3347 | ร่างพระราชบัญญัติสภาชนเผ่าพื้นเมืองแห่งประเทศไทย พ.ศ. .... (นายศักดิ์ดา แสนมี่ กับประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง จำนวน 12,888 คน เป็นผู้เสนอ) [สรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร (วันจันทร์ที่ 18 ธันวาคม 2566)] | ปสส. | 19/12/2566 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้รับร่างพระราชบัญญัติสภาชนเผ่าพื้นเมืองแห่งประเทศไทย
พ.ศ. .... (นายศักดิ์ดา แสนมี่ กับประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง จำนวน ๑๒,๘๘๘ คน เป็นผู้เสนอ
ไปพิจารณาก่อนรับหลักการภายใน ๖๐ วัน นับแต่วันที่สภาผู้แทนราษฎรมีมติ ตามที่คณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||
3348 | มาตรการแก้ไขปัญหาฝุ่นพิษ PM2.5 ปี 2567 และกลไกการบริหารจัดการ | ทส. | 19/12/2566 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. เห็นชอบมาตรการแก้ไขปัญหาฝุ่นพิษ PM2.5 ๒๕๖๗
และกลไกการบริหารจัดการ และมอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการต่อไป และรับทราบคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการจัดการปัญหามลพิษทางอากาศเพื่อความยั่งยืน
ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงการต่างประเทศ
สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี สำนักงบประมาณ
และสำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ
รวมทั้งข้อสังเกตของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
เช่น กระทรวงการต่างประเทศ
เห็นว่ากระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
ในฐานะส่วนราชการเจ้าของเรื่องควรพิจารณาติดตามความคืบหน้าและทบทวนความมีประสิทธิภาพของมาตรการเป็นระยะ
ๆ ตามที่เห็นเหมาะสม
ซึ่งรวมถึงการบังคับใช้มาตรการและกฎหมายที่เกี่ยวข้องในทุกระดับอย่างเคร่งครัดด้วย คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ เห็นควรเพิ่มเติมการบูรณาการการทำงานระหว่างจังหวัด
และขจัดปัญหาอุปสรรคในการกระจายอำนาจการบริหารจัดการสถานการณ์ไปยังองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเพื่อให้ตัดสินใจแก้ไขปัญหาได้อย่างรวดเร็ว
และเพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาในระยะยาว ควรเร่งรัดการออกกฎหมายว่าด้วยอากาศสะอาด
และกฎหมายการปลดปล่อยและเคลื่อนย้ายมลพิษ (Pollutant
Release and Transfer Register : PRTR)
ต่อไป ๒. ให้สำนักงาน ก.พ.ร.
เป็นหน่วยงานหลักร่วมกับคณะกรรมการจัดการปัญหามลพิษทางอากาศเพื่อความยั่งยืน
กระทรวงมหาดไทย สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณากำหนดให้การลดหรือการควบคุมปริมาณการปล่อยมลพิษทางอากาศ
(PM2.5) เป็นตัวชี้วัด (KPIs) ที่สำคัญของแต่ละจังหวัด
รวมทั้งเร่งชี้แจงทำความเข้าใจให้ทุกจังหวัดทราบและถือปฏิบัติต่อไปได้อย่างถูกต้อง
เหมาะสม เพื่อให้การแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ (PM2.5)
เกิดผลสัมฤทธิ์เป็นรูปธรรมได้อย่างยั่งยืนต่อไป |
|||||||||||||||||||||||||||
3349 | การดำเนินการเพิ่มเติมในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการแก้ไขปัญหาหนี้ทั้งระบบ | นร. | 19/12/2566 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอว่า ตามที่รัฐบาลได้แถลงนโยบายในการแก้ไขปัญหาหนี้สินของทุกภาคส่วน
ซึ่งกระทรวงการคลังได้เสนอเรื่อง แนวทางการแก้ไขปัญหาหนี้ทั้งระบบต่อคณะรัฐมนตรีแล้ว
นั้น เพื่อให้การดำเนินการแก้ไขปัญหาดังกล่าวมีความชัดเจนและครบถ้วนมากยิ่งขึ้น
จึงขอมอบหมายการดำเนินการในเรื่องต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม ดังนี้ ๑. ให้ทุกส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ
และหน่วยงานของรัฐดำเนินการปรับปรุง/กำหนดหลักเกณฑ์การหักเงินเดือนทั้งเพื่อชำระหนี้เงินกู้และค่าใช้จ่ายอื่นใดของบุคลากรในสังกัด
โดยต้องมีเงินเดือนคงเหลือสุทธิเพื่อการดำรงชีพไม่น้อยกว่าร้อยละ ๓๐ ตามแนวทางเดียวกับระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยการหักเงินเดือนบำนาญข้าราชการเพื่อชำระหนี้เงินกู้ให้แก่สวัสดิการภายในส่วนราชการและสหกรณ์
พ.ศ. ๒๕๕๑ ๒.
ให้ประธานกรรมการกำกับการแก้ไขหนี้สินของประชาชนรายย่อยประสานงานให้สถาบันการเงินและสหกรณ์ออมทรัพย์ต่าง
ๆ ที่เป็นเจ้าหนี้เงินกู้เพื่อสวัสดิการแก่บุคลากรของส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานของรัฐ
กำหนดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้เพื่อสวัสดิการให้ต่ำลง เพื่อให้เหมาะสมและสอดคล้องกับระดับความเสี่ยงที่ต่ำจากการที่รัฐบาล
รัฐวิสาหกิจ
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เข้ามาทำหน้าที่ประสานงานในการแก้ไขปัญหาหนี้ทั้งระบบ ๓. ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
โดยกรมส่งเสริมสหกรณ์กำกับดูแลให้สหกรณ์ออมทรัพย์ทุกแห่งที่เป็นเจ้าหนี้เงินกู้เพื่อสวัสดิการแก่บุคลากรของส่วนราชการ
รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานของรัฐให้ความร่วมมือกับประธานกรรมการกำกับการแก้ไขหนี้สินของประชาชนรายย่อยในการดำเนินการแก้ไขปัญหาหนี้สินตามแนวทาง
ดังนี้ ๓.๑
กำหนดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้เพื่อสวัสดิการให้เหมาะสมมากยิ่งขึ้น ๓.๒ กำหนดค่างวดเงินต้นให้เหมาะสม ๓.๓
ใช้ทุนเรือนหุ้นของลูกหนี้เพื่อบรรเทาภาระหนี้เงินกู้ลงตามความจำเป็น
|
|||||||||||||||||||||||||||
3350 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (นางครองขนิษฐ รักษ์เจริญ) | กต. | 19/12/2566 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นางครองขนิษฐ รักษ์เจริญ
ข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงการต่างประเทศ ตำแหน่งเอกอัครราชทูต สถานเอกอัครราชทูต
ณ กรุงลิสบอน สาธารณรัฐโปรตุเกส ให้ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมยุโรป เพื่อทดแทนตำแหน่งที่จะว่าง
เนื่องจากผู้ดำรงตำแหน่งเดิมคณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ ๒๘ พฤศจิกายน ๒๕๖๖
อนุมัติแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง เอกอัครราชทูต สถานเอกอัศรราชทูต ณ กรุงเฮก ราชอาณาจักรเนเธอแลนด์
ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไป ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||
3351 | การแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์แทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิเดิมที่พ้นจากตำแหน่งก่อนครบวาระ (นายอมรวิชช์ นาครทรรพ) | พปส. | 12/12/2566 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแต่งตั้ง นายอมรวิชช์ นาครทรรพ เป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ
(ด้านการพัฒนาเด็ก เยาวชนและครอบครัว)
ในคณะกรรมการกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์
แทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิเดิมที่พ้นจากตำแหน่งก่อนครบวาระเนื่องจากลาออก
โดยให้ผู้ได้รับแต่งตั้งแทนนี้อยู่ในตำแหน่งเท่ากับวาระที่เหลืออยู่ของผู้ซึ่งตนแทน
ตามที่กระทรวงวัฒนธรรมเสนอ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๑๒ ธันวาคม
๒๕๖๖) เป็นต้นไป
|
|||||||||||||||||||||||||||
3352 | การขออนุมัติการเปิดสถานเอกอัครราชทูตรัฐเอกราชปาปัวนิวกินีประจำประเทศไทย | กต. | 12/12/2566 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติเปิดสถานเอกอัครราชทูตรัฐเอกราชปาปัวนิวกินีประจำประเทศไทย
ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||
3353 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (นายไพฑูรย์ เก่งการช่าง) | นร.14 | 12/12/2566 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง
นายไพฑูรย์ เก่งการช่าง ข้าราชการพลเรือนสามัญ
ตำแหน่งผู้ช่วยเลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ให้ดำรงตำแหน่งรองเลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ
สำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่าง ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไปตามที่สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||
3354 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (นายพาสิทธิ์ หล่อธีรพงศ์) | อว. | 12/12/2566 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายพาสิทธิ์
หล่อธีรพงศ์ ข้าราชการพลเรือนสามัญ ตำแหน่งรองปลัดกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ให้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่าง
ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไป ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา
วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||
3355 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (นายธรรมรัตน์ รัตนมณี) | นร.06 | 12/12/2566 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายธรรมรัตน์
รัตนมณี ข้าราชการพลเรือนสามัญ ตำแหน่งที่ปรึกษาด้านการต่อต้านการก่อการร้ายและอาชญากรรมข้ามชาติ
(นักการข่าวทรงคุณวุฒิ) กลุ่มงานที่ปรึกษา สำนักข่าวกรองแห่งชาติ
ให้ดำรงตำแหน่งรองผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ สำนักข่าวกรองแห่งชาติ
สำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่าง ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไป
ตามที่สำนักข่าวกรองแห่งชาติเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||
3356 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (1. นางสาวณิษา ไปรยายุตากุล ฯลฯ จำนวน 4 ราย) | สธ. | 12/12/2566 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติให้เลื่อนการพิจารณา เรื่อง การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ
สังกัดกระทรวงสาธารณสุข ให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (๑. นางสาวณิษา ไปรยายุตากุล ฯลฯ จำนวน ๔
ราย) ออกไปก่อน
|
|||||||||||||||||||||||||||
3357 | นโยบายการตรวจเงินแผ่นดิน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 | ตผ. | 12/12/2566 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบนโยบายการตรวจเงินแผ่นดิน
ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๗ ซึ่งมีความสอดคล้องและเป็นไปตามนโยบายการตรวจเงินแผ่นดิน (พ.ศ. ๒๕๖๖-๒๕๗๐)
และได้วางไว้เพื่อให้ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดินใช้เป็นกรอบในการจัดทำแผนการตรวจสอบและแผนปฏิบัติราชการประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๗ เพื่อให้การตรวจเงินแผ่นดินเกิดผลสัมฤทธิ์
การบริหารการเงินการคลังมีเสถียรภาพ ส่งเสริมและสนับสนุนการบรรลุเป้าหมายตามยุทธศาสตร์ชาติ
และเป้าหมายอื่น ๆ มีสาระสำคัญสรุปได้ ดังนี้ (๑)
ทิศทางและเป้าหมายในการตรวจเงินแผ่นดินที่ให้ความสำคัญกับเรื่องต่าง ๆ เช่น
การรักษาวินัยการเงินการคลัง
การตรวจสอบโครงการของรัฐบาลที่มีผลกระทบต่อฐานะการคลังของประเทศ
หรือโครงการที่มีผลกระทบต่อประชาชน การเตรียมความพร้อมในการตรวจสอบภายใต้สถานการณ์ประเด็นอุบัติใหม่
(Emerging Issues) และสถานการณ์ฉุกเฉิน (๒) ผลสัมฤทธิ์ในการตรวจเงินแผ่นดิน เช่น
การตรวจเงินแผ่นดินสามารถระงับยับยั้งคำสั่งอื่นความเสียหายอย่างร้ายแรงที่อาจเกิดขึ้นแก่การเงินการคลังและทรัพย์สินของรัฐ
(Foresight and Prevention) และ (๓)
การดำเนินการเพื่อพัฒนาการตรวจเงินแผ่นดินในด้านต่าง ๆ เช่น ส่งเสริมและผลักดันให้มีการแก้ไขกฎหมายที่เป็นปัญหาอุปสรรคต่อการตรวจเงินแผ่นดิน
ส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนาระบบการตรวจเงินแผ่นดินอิเล็กทรอนิกส์
โดยการวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data Analytics) มาช่วยในการปฏิบัติหน้าที่
ตามที่สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||
3358 | รายงานประจำปี พ.ศ. 2565 ของคณะกรรมการการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น | นร.01 | 12/12/2566 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานประจำปี พ.ศ. ๒๕๖๕
ของคณะกรรมการการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สรุปได้ ดังนี้ (๑) การเลือกกรรมการผู้แทนผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
เป็นกรรมการในคณะกรรมการการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (๒) การถ่ายโอนภารกิจสถานีอนามัยเฉลิมพระเกียรติ
๖๐ พรรษา นวมินทราชินี/โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลให้แก่องค์การบริหารส่วนจังหวัด
(๓) การกำหนดสัดส่วนและการจัดสรรรายได้ให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๖ (๔) การทบทวนแก้ไขกฎหมายเพื่อให้เป็นไปตามแผนการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
และการวินิจฉัยกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
(๕) การคัดเลือกองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่มีการบริหารจัดการที่ดี ปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๕ (๖) การติดตามผลการดำเนินงานขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๕ : ผลการดำเนินงานขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
เพื่อบรรเทาผลกระทบที่เกิดขึ้นจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
๒๐๑๙ ตามที่คณะกรรมการการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||
3359 | ร่างพระราชกฤษฎีกาเงินประจำตำแหน่งและประโยชน์ตอบแทนอย่างอื่นของกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมข้าราชการตำรวจ พ.ศ. .... | ตช. | 12/12/2566 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑.
เห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกาเงินประจำตำแหน่งและประโยชน์ตอบแทนอย่างอื่นของกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมข้าราชการตำรวจ
พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดการได้รับเงินประจำตำแหน่งและประโยชน์ตอบแทนอย่างอื่นของคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมข้าราชการตำรวจ
ซึ่งรวมถึงสิทธิได้รับค่ารักษาพยาบาล
หรือการประกันสุขภาพตามที่จ่ายจริงในอัตราเบี้ยประกันคนละไม่เกิน ๓๐,๐๐๐ บาทต่อปี
และเงินบำเหน็จตอบแทนตามระยะเวลาในการดำรงตำแหน่ง ตามที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติเสนอ
และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||
3360 | ร่างกฎกระทรวงจัดตั้งส่วนราชการในมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม พ.ศ. .... | อว. | 12/12/2566 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบร่างกฎกระทรวงจัดตั้งส่วนราชการในมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม พ.ศ. ....
ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญเป็นการปรับปรุงการจัดตั้งส่วนราชการในมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา
กระทรวงการอุดมศึกษา
วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม โดยเปลี่ยนชื่อส่วนราชการ “คณะเทคโนโลยีอุตสาหกรรม” เป็น “คณะวิศวกรรมศาสตร์และเทคโนโลยีอุตสาหกรรม”
ตามที่กระทรวงการอุดมศึกษา
วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมเสนอ
|