ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1440 จากทั้งหมด 6223 หน้า แสดงรายการที่ 28781 - 28800 จากข้อมูลทั้งหมด 124448 รายการ
| ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||
|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
| 28781 | ขอรับรองคำแถลงข่าวร่วมและอนุมัติลงนามหนังสือแสดงเจตจำนงในระหว่างการเยือนนิวซีแลนด์อย่างเป็นทางการของนายกรัฐมนตรี | กต | 19/03/2556 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. เห็นชอบตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ ดังนี้ ๑.๑ เห็นชอบคำแถลงข่าวร่วมไทย-นิวซีแลนด์ในหลักการ และอนุมัติให้นายกรัฐมนตรีร่วมรับรองคำแถลงข่าวร่วมดังกล่าว โดยคำแถลงข่าวร่วมฯ มีสาระสำคัญเพื่อยืนยันเจตนารมณ์ร่วมเชิงนโยบายของรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยและรัฐบาลนิวซีแลนด์ในการกระชับความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ระหว่างสองประเทศในทุกระดับและในมิติต่าง ๆ รวมทั้งสะท้อนถึงความสัมพันธ์และความร่วมมืออันแน่นแฟ้นตลอด ๕๗ ปี นับตั้งแต่การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทยและนิวซีแลนด์ ๑.๒ เห็นชอบหนังสือแสดงเจตจำนงว่าด้วยความร่วมมือด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรมไทย-นิวซีแลนด์ และอนุมัติให้รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศหรือผู้ที่ได้รับมอบหมายลงนามในหนังสือแสดงเจตจำนงดังกล่าว โดยหนังสือแสดงเจตจำนงฯ จัดทำขึ้นเพื่อจัดตั้งกลไกหารือเชิงนโยบายและกรอบความร่วมมือทางวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม (High Level Policy Dialogue) รวมทั้งเป็นช่องทางการส่งเสริมและสร้างเครือข่ายการวิจัยระหว่างไทยและนิวซีแลนด์ ๑.๓ หากมีความจำเป็นต้องแก้ไขปรับปรุงเอกสารดังกล่าวในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดต่อผลประโยชน์ของไทย ให้กระทรวงการต่างประเทศสามารถดำเนินการได้โดยไม่ต้องนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาอีกครั้ง ๒. ให้กระทรวงการต่างประเทศรับความเห็นและข้อสังเกตของกระทรวงวัฒนธรรม กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และกระทรวงอุตสาหกรรม ที่เห็นควรเพิ่มเติมความร่วมมือด้านวัฒนธรรมในหัวข้อ Education, culture, science and innovation รายละเอียด ดังนี้ “The Prime Ministers have recognised the importance of culture as a key factor in enhancing people to people connectivity. Both sides agreed to encourage the expanding of cultural cooperation between the relevant agencies of the two countries.” และเห็นควรเพิ่มเติมถ้อยคำที่กล่าวถึง Food Security ในคำแถลงข่าวร่วมฯ และปรับถ้อยคำจาก Chief Science Advisor เป็น High-Level Official ในหนังสือแสดงเจตจำนงฯ และในคำแถลงข่าวร่วมฯ เพื่อให้เกิดความยืดหยุ่นในทางปฏิบัติ รวมทั้งเพิ่มเติมกิจกรรมด้าน Food Safety and Food Security เป็นหนึ่งในกิจกรรมที่ไทยและนิวซีแลนด์ประสงค์จะเน้นภายใต้หนังสือแสดงเจตจำนงฯ นอกจากนี้ ในประเด็นเรื่องการค้าและการลงทุน เห็นควรระบุอุตสาหกรรมเป้าหมายในการชักชวนนักลงทุนจากนิวซีแลนด์มาลงทุนในประเทศไทย ประกอบด้วย อุตสาหกรรมเกษตรแปรรูป ผลิตภัณฑ์โลหะและชิ้นส่วน พลังงานทดแทน เทคโนโลยีชีวภาพ เครื่องใช้ไฟฟ้า ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมเป้าหมายในการชักจูงการลงทุนจากนิวซีแลนด์ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน ไปพิจารณาดำเนินการด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||
| 28782 | ขอรับรองคำแถลงข่าวร่วมและอนุมัติลงนามบันทึกความเข้าใจในระหว่างการเยือนปาปัวนิวกินีอย่างเป็นทางการของนายกรัฐมนตรี ระหว่างวันที่ 24 - 25 มีนาคม 2556 | กต | 19/03/2556 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. เห็นชอบตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ ดังนี้ ๑.๑ เห็นชอบคำแถลงข่าวร่วมไทย-ปาปัวนิวกินีในหลักการ และอนุมัติให้นายกรัฐมนตรีร่วมรับรองคำแถลงข่าวร่วมดังกล่าว โดยคำแถลงข่าวร่วมฯ มีสาระสำคัญเพื่อแสดงถึงการเปิดศักราชใหม่ของความสัมพันธ์ทวิภาคีระหว่างไทยและปาปัวนิวกินี โดยการเยือนปาปัวนิวกินีครั้งนี้เป็นการเยือนระดับนายกรัฐมนตรีครั้งแรกของไทย เพื่อกระชับความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองประเทศในทุกมิติ ทั้งนี้ การเยือนดังกล่าวยังเป็นการแสดงความพร้อมของไทยในฐานะประเทศผู้ให้ใหม่ (emerging donor) และแสดงถึงบทบาทนำของไทยในภูมิภาคอาเซียน ๑.๒ เห็นชอบร่างบันทึกความเข้าใจว่าด้วยการหารือทวิภาคีไทย-ปาปัวนิวกินี และอนุมัติให้รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ หรือผู้ที่ได้รับมอบหมายลงนามในร่างบันทึกความเข้าใจฯ โดยร่างบันทึกความเข้าใจฯ จัดทำขึ้นเพื่อจัดตั้งกรอบและกลไกการหารือทวิภาคีระหว่างเจ้าหน้าที่ระดับสูงของกระทรวงการต่างประเทศของไทยและปาปัวนิวกินีในลักษณะเปิดกว้าง โดยทั้งสองฝ่ายสามารถกำหนดวาระการหารือ ระดับหัวหน้าคณะ ช่วงเวลาสถานที่ประชุมหารือ ประเด็นหารือให้ครอบคลุมความสัมพันธ์ทวิภาคี ประเด็นระหว่างประเทศ และอื่น ๆ ตามที่ทั้งสองฝ่ายเห็นความเหมาะสม ๑.๓ หากมีความจำเป็นต้องแก้ไขปรับปรุงเอกสารดังกล่าวในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดต่อผลประโยชน์ของไทย ให้กระทรวงการต่างประเทศดำเนินการได้โดยไม่ต้องนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาอีกครั้ง ๒. ให้กระทรวงการต่างประเทศรับความเห็นของกระทรวงวัฒนธรรมที่เห็นควรเพิ่มเติมความร่วมมือด้านวัฒนธรรมในร่างคำแถลงข่าวร่วมฯ ในหัวข้อ Enhancement of Bilateral Relations รายละเอียด ดังนี้ “In this regard, they attached importance to the establishment of the Thailand-Papua New Guinea Bilateral Consultations as a mechanism to discuss areas of mutual interests, ranging from political issues to economic, technical and cultural cooperation as well as global challenges.” ไปพิจารณาดำเนินการด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||
| 28783 | ร่างกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการกรมอาเซียน กระทรวงการต่างประเทศ พ.ศ. .... | นร09 | 19/03/2556 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบร่างกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการกรมอาเซียน กระทรวงการต่างประเทศ พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว โดยร่างกฎกระทรวงฯ มีสาระสำคัญ ดังนี้
๑. ยกเลิกกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการกรมอาเซียน กระทรวงการต่างประเทศ พ.ศ. ๒๕๔๕ ๒. กำหนดอำนาจหน้าที่ของกรมอาเซียน ๓. แบ่งส่วนราชการกรมอาเซียน ได้แก่ สำนักงานเลขานุการ กองยุทธศาสตร์และความร่วมมืออาเซียน กองการเมืองและความมั่นคง กองเศรษฐกิจ กองสังคมและวัฒนธรรม และกองความสัมพันธ์กับคู่เจรจาและองค์กรระหว่างประเทศ
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 28784 | การแต่งตั้งผู้ประสานงานคณะรัฐมนตรีและรัฐสภา (ปคร.) ของกระทรวงยุติธรรม (นางสุวณา สุวรรณจูฑะ) | ยธ | 19/03/2556 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบการแต่งตั้งนางสุวณา สุวรรณจูฑะ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม เป็นผู้ประสานงานคณะรัฐมนตรีและรัฐสภาของกระทรวงยุติธรรม ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 28785 | แผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ พ.ศ. 2553 - 2557 "บทว่าด้วยการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย" | มท | 19/03/2556 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. อนุมัติและเห็นชอบตามที่คณะกรรมการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติเสนอ ดังนี้ ๑.๑ อนุมัติบทว่าด้วยการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัยเป็นบทเพิ่มเติมในแผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๕๓-๒๕๕๗ ประกอบด้วย ๑.๑.๑ วัตถุประสงค์ เพื่อบูรณาการแผนงานและการปฏิบัติการของหน่วยงานของรัฐในการบริหารจัดการน้ำ โดยมีองค์กรรับผิดชอบในการกำหนดนโยบายและบริหารจัดการน้ำและอุทกภัยที่เป็นศูนย์กลาง เพื่อให้การกำหนดแนวทางการทำงาน การสั่งการ และการแก้ไขปัญหาเป็นไปอย่างรวดเร็ว มีความสอดคล้องกับเอกภาพเดียวกันในการอำนวยการ ๑.๑.๒ การจัดตั้งองค์กรปฏิบัติ ได้แก่ องค์กรปฏิบัติที่รับผิดชอบการปฏิบัติการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย โดยมีการกำหนดหน้าที่และความรับผิดชอบในการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย ๑.๑.๓ การเชื่อมโยงกลไกการจัดการสาธารณภัย ขององค์กรภายใต้พระราชบัญญัติป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พ.ศ. ๒๕๕๐ กับองค์กรบริหารจัดการน้ำและอุทกภัยแห่งชาติ ได้แก่ คณะกรรมการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ คณะกรรมการนโยบายน้ำและอุทกภัยแห่งชาติ และคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย ๑.๑.๔ ขั้นตอนการปฏิบัติ เพื่อเป็นกรอบและแนวทางในการปฏิบัติงานขององค์กรปฏิบัติต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องในการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย ตามระดับความรุนแรงของภัยที่เกิดขึ้น ๑.๒ เห็นชอบให้กระทรวง กรม องค์กรและหน่วยงานภาครัฐ รัฐวิสาหกิจ จังหวัด อำเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ภาคเอกชน และภาคส่วนอื่น ๆ ถือปฏิบัติตามแผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๕๓-๒๕๕๗ “บทว่าด้วยการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย” อีกบทหนึ่ง ๒. ให้กระทรวงมหาดไทย (กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย) รับความเห็นของกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเกี่ยวกับความไม่ชัดเจนในการกำกับการเลื่อนระดับความรุนแรงของภัยพิบัติและแก้ปัญหาความสับสนของประชาชนเกี่ยวกับการกำหนดหน่วยงานที่รับผิดชอบในการเตือนภัย รวมทั้งวิธีการลดความรุนแรงและบรรเทาผลกระทบและความสูญเสียที่จะเกิดโดยการบริหารจัดการน้ำและการลดความเสี่ยง ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||
| 28786 | ร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมจังหวัดสุราษฎร์ธานี พ.ศ. .... | มท | 19/03/2556 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้ถอนร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมจังหวัดสุราษฎร์ธานี พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 28787 | ร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมจังหวัดสตูล พ.ศ. .... | มท | 19/03/2556 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้ถอนร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมจังหวัดสตูล พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 28788 | สาธารณรัฐยูกันดาขอแต่งตั้งกงสุลกิตติมศักดิ์สาธารณรัฐยูกันดาประจำประเทศไทย (นายโอฬาร วีรวรรณ) | กต | 19/03/2556 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งนายโอฬาร วีรวรรณ เป็นกงสุลกิตติมศักดิ์สาธารณรัฐยูกันดาประจำประเทศไทย สืบแทนนายทวี บุตรสุนทร ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 28789 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (กระทรวงพาณิชย์) (นายสมชาติ สร้อยทอง) | พณ | 19/03/2556 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งนายสมชาติ สร้อยทอง ข้าราชการพลเรือนสามัญ ให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาการพาณิชย์ (นักวิชาการพาณิชย์ทรงคุณวุฒิ) สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงพาณิชย์ ตั้งแต่วันที่ ๒๔ ธันวาคม ๒๕๕๕ ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 28790 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืนเพื่อสร้าง ทางหลวงพิเศษหมายเลข 7 สายกรุงเทพมหานคร - บ้านฉาง รวมทางแยก ไปบรรจบทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 34 (บางวัว) และทางแยกเข้าท่าเรือแหลมฉบัง ตอนบ้านหนองปรือ - บ้านฉาง และเพื่อขยายทางหลวงแผ่นดิน หมายเลข 331 สายพนมสารคาม - สัตหีบ ที่บ้านเขาบายศรี ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 3 สายกรุงเทพมหานคร - ตราด ตอนบ้านกม. 16 - บ้านกม. 18 พ.ศ. .... | คค | 19/03/2556 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืนเพื่อสร้าง ทางหลวงพิเศษหมายเลข ๗ สายกรุงเทพมหานคร-บ้านฉาง รวมทางแยกไปบรรจบทางหลวงแผ่นดินหมายเลข ๓๔ (บางวัว) และทางแยกเข้าท่าเรือแหลมฉบัง ตอนบ้านหนองปรือ-บ้านฉาง และเพื่อขยายทางหลวงแผ่นดินหมายเลข ๓๓๑ สายพนมสารคาม-สัตหีบ ที่บ้านเขาบายศรี ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข ๓ สายกรุงเทพมหานคร-ตราด ตอนบ้านกม. ๑๖-บ้านกม. ๑๘ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ กำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน เพื่อสร้างทางหลวงพิเศษหมายเลข ๗ สายกรุงเทพมหานคร-บ้านฉาง รวมทางแยกไปบรรจบทางหลวงแผ่นดินหมายเลข ๓๔ (บางวัว) และทางแยกเข้าท่าเรือแหลมฉบัง ตอนบ้านหนองปรือ-บ้านฉาง และเพื่อขยายทางหลวงแผ่นดินหมายเลข ๓๓๑ สายพนมสารคาม-สัตหีบ ที่บ้านเขาบายศรี ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข ๓ สายกรุงเทพมหานคร-ตราด ตอนบ้าน กม.๑๖- บ้านกม.๑๘ ในท้องที่อำเภอบางละมุง อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี และอำเภอบ้านฉาง จังหวัดระยอง เพื่ออำนวยความสะดวกและความรวดเร็วแก่การจราจรและการขนส่งอันเป็นกิจการสาธารณูปโภค และเพื่อให้เจ้าหน้าที่หรือผู้ซึ่งได้รับมอบหมายจากเจ้าหน้าที่มีสิทธิเข้าไปทำการสำรวจและเพื่อทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ที่จะต้องเวนคืนที่แน่นอน ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 28791 | การขออนุมัติเงื่อนไขพิเศษ (Special Conditions) เพื่อออกหนังสือรับรอง (Letter of Assurance) สำหรับการขอรับการค้ำประกันเงินกู้จาก European Export Credit Agencies (ECAs) ในการจัดหาเงินกู้เพื่อชำระค่าเครื่องบินแอร์บัส A380-800 จำนวน 1 ลำ ของบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) | คค | 19/03/2556 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. เห็นชอบและอนุมัติตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ ดังนี้ ๑.๑ เห็นชอบเงื่อนไขพิเศษ (Special Conditions) เพื่อออกหนังสือรับรอง (Letter of Assurance) สำหรับการขอรับการค้ำประกันเงินกู้จาก European Export Credit Agencies (ECAs) ในการจัดหาเงินกู้เพื่อชำระค่าซื้อเครื่องบินแอร์บัส A380-800 (ลำที่ ๔) จำนวน ๑ ลำ ของบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) โดยเงื่อนไขพิเศษที่กระทรวงการคลังจะออกหนังสือรับรองให้แก่ ECAs ได้แก่ ๑.๑.๑ รับทราบการใช้เครื่องบินเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกัน (Security) สำหรับธุรกรรมในครั้งนี้ โดยตราบเท่าที่กระทรวงการคลังหรือหน่วยงานอื่นภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงการคลังถือหุ้นบริษัท การบินไทยฯ ไม่น้อยกว่าร้อยละ ๒๕ หรือกระทรวงการคลังหรือหน่วยงานอื่นของรัฐบาลยังคงกำกับควบคุมบริษัท การบินไทยฯ อยู่ หากบริษัท การบินไทยฯ จำเป็นต้องส่งมอบเครื่องบินคืนตามเงื่อนไขของสัญญาเช่าซื้อ กระทรวงการคลังพร้อมที่จะให้ความช่วยเหลือเกี่ยวกับการถอนทะเบียน การส่งมอบเครื่องบิน และการนำเครื่องบินออกนอกประเทศตามที่กฎหมายกำหนดไว้ ๑.๑.๒ การกู้เงินในรูปแบบ Asset Based Financing ในครั้งนี้จะได้รับการยกเว้นภาษีหัก ณ ที่จ่าย (Withholding Tax) และภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ๑.๑.๓ ในอนาคตถ้าหากบริษัท การบินไทยฯ จะทำ Asset Based Financing โดยมีกระทรวงการคลังเป็นผู้ค้ำประกัน กระทรวงการคลังจะต้องให้คำมั่นว่าจะให้การค้ำประกันสำหรับการกู้เงินของบริษัท การบินไทยฯ ในครั้งนี้ด้วย ๑.๒ ให้กระทรวงการคลังและกระทรวงคมนาคมออกหนังสือรับรอง (Letter of Assurance) ให้แก่ European Export Credit Agencies (ECAs) และให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาจัดทำความเห็นทางกฎหมายสำหรับการกู้เงินในครั้งนี้ ๒. อนุมัติให้ใช้ข้อสัญญาอนุญาโตตุลาการในการระงับข้อพิพาทสำหรับสัญญาจัดหาเงินกู้ด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||
| 28792 | ร่างประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง ลดอัตราภาษีสรรพสามิต (ฉบับที่ ..) | กค | 19/03/2556 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบร่างประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง ลดอัตราภาษีสรรพสามิต (ฉบับที่ ..) มีสาระสำคัญคือ กำหนดให้ขยายเวลาการปรับลดอัตราภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลที่มีปริมาณกำมะถันไม่เกินร้อยละ ๐.๐๐๕ โดยน้ำหนัก ในอัตราภาษี ๐.๐๐๕ บาทต่อลิตร และน้ำมันดีเซลที่มีไบโอดีเซลประเภทเมทิลเอสเตอร์ของกรดไขมันผสมอยู่ไม่น้อยกว่าร้อยละ ๔ ในอัตราภาษี ๐.๐๐๕ บาทต่อลิตร ออกไปอีก ๑ เดือน คือ ตั้งแต่วันที่ ๑ เมษายน ๒๕๕๖ ถึงวันที่ ๓๐ เมษายน ๒๕๕๖ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้รองนายกรัฐมนตรี (นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ไปหารือร่วมกันเพื่อกำหนดแผนการลดการใช้พลังงาน โดยสนับสนุนให้มีการใช้พลังงานอย่างประหยัดและเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ส่งเสริมการให้มีการนำพลังงานทางเลือกมาใช้ รวมทั้งให้เสนอมาตรการขยายเวลาการปรับลดอัตราภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซล โดยให้พิจารณาผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นในภาพรวม แล้วนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาภายในเดือนพฤษภาคม ๒๕๕๖
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 28793 | การจัดสร้างโครงข่ายเคเบิลใต้น้ำใยแก้ว APG (Asia Pacific Gateway) ของ บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) | ทก | 19/03/2556 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติให้บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) (กสท) ดำเนินโครงการโครงข่ายเคเบิลใต้น้ำใยแก้ว (Asia Pacific Gateway : APG) ร่วมกับภาคีสมาชิก วงเงินลงทุนรวมทั้งสิ้น ๒,๐๕๕.๗๔ ล้านบาท โดยให้ใช้วิธีอนุญาโตตุลาการเพื่อระงับข้อพิพาทที่เกิดขึ้นระหว่างภาคีสมาชิกและระหว่างภาคีสมาชิกกับผู้รับจ้างตามข้อตกลงก่อสร้างและบำรุงรักษาและสัญญาจ้างก่อสร้างระบบเคเบิลใต้น้ำใยแก้ว APG ตามความเห็นของสำนักงานอัยการสูงสุด ตามที่กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเสนอ ๒. ให้กระทรวงการคลัง และ กสท รับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเกี่ยวกับการเร่งศึกษาข้อมูลทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบจากการดำเนินโครงการฯ รวมทั้งผลกระทบต่อระบบนิเวศที่มีความเปราะบาง และจัดให้มีมาตรการลดผลกระทบและมาตรการติดตามตรวจสอบผลกระทบต่อทรัพยากรชีวภาพดังกล่าว การตรวจสอบและกลั่นกรองกิจกรรมของโครงการฯ เนื่องจากจุดขึ้นบกของโครงการฯ ยังไม่มีความชัดเจนว่าเป็นพื้นที่ที่มีความอ่อนไหวต่อการได้รับผลกระทบสิ่งแวดล้อมหรือทรัพยากรธรรมชาติที่สำคัญหรือไม่ เพื่อประกอบการวางแผนประสานงานกับหน่วยงานซึ่งดูแลในพื้นที่ และการประสานกองทัพเรือเพื่อตรวจสอบเส้นทางที่อาจเกิดผลกระทบต่อเส้นทางการเดินเรือของกองทัพเรือ การเร่งนำเสนอแผนพลิกฟื้นฐานะการเงิน (Turnaround) แก่คณะกรรมการกำกับนโยบายด้านรัฐวิสาหกิจพิจารณาโดยเร็ว เพื่อเตรียมการรองรับการสิ้นสุดของสัญญาสัมปทาน และเพื่อไม่ให้มีผลกระทบต่อสภาพคล่องทางการเงินและฐานะการเงินขององค์กร การปรับโครงสร้างองค์กรและกลยุทธ์ทางธุรกิจเพื่อเพิ่มรายได้และลดรายจ่าย การแสวงหาพันธมิตรในการดำเนินธุรกิจร่วมกันเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน รวมทั้งพิจารณาโครงสร้าง รูปแบบ กลไก การกำกับดูแล การบริหารจัดการรัฐวิสาหกิจที่มีฐานะเป็นบริษัทมหาชนให้สอดคล้องกับพระราชบัญญัติบริษัท มหาชน จำกัด พ.ศ. ๒๕๓๕ พระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. ๒๕๓๕ หลักเกณฑ์และการกำกับดูแลกิจการที่ดีของตลาดหลักทรัพย์ และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องให้แล้วเสร็จโดยเร็ว ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป |
|||||||||||||||||||||||||||
| 28794 | ร่างพระราชบัญญัติให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของประเทศ พ.ศ. .... | กค | 19/03/2556 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบให้ถอนความเห็นของกระทรวงคมนาคม ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมเสนอ ๒. เห็นชอบและรับทราบตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ดังนี้ ๒.๑ เห็นชอบร่างพระราชบัญญัติให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของประเทศ พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาได้ตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญคือ ให้มีกฎหมายว่าด้วยการให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของประเทศ มีมูลค่ารวมกันไม่เกิน ๒ ล้านล้านบาท และให้ส่งสภาผู้แทนราษฎรพิจารณา แล้วแจ้งให้คณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรทราบต่อไป ๒.๒ รับทราบเอกสารประกอบการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของประเทศ พ.ศ. .... ประกอบด้วย ๓ ยุทธศาสตร์หลัก ได้แก่ ยุทธศาสตร์ปรับเปลี่ยนรูปแบบการขนส่งสินค้าทางถนนสู่การขนส่งที่มีต้นทุนต่ำกว่า ยุทธศาสตร์พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและสิ่งอำนวยความสะดวกในการเดินทางและขนส่งไปสู่ศูนย์กลางของภูมิภาคทั่วประเทศและเชื่อมโยงกับประเทศเพื่อนบ้าน และยุทธศาสตร์พัฒนาและปรับปรุงระบบขนส่งเพื่อยกระดับความคล่องตัว และส่งให้รัฐสภาเพื่อใช้ประกอบการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติฯ ต่อไป ๒.๓ เห็นชอบหลักเกณฑ์ในการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีเพื่อชำระหนี้เงินกู้ตามพระราชบัญญัติให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของประเทศ พ.ศ. .... ให้เสร็จภายใน ๕๐ ปี โดยเริ่มจัดสรรภายในปีที่ ๑๑ นับแต่กฎหมายมีผลบังคับใช้ พร้อมทั้งกำหนดวงเงินขั้นต่ำในการชำระหนี้แบบขั้นบันได ๒.๓.๑ ปีที่ ๑๑-๒๐ ไม่ต่ำกว่าร้อยละ ๑ ของ ๒ ล้านล้านบาท ต่อปี ๒.๓.๒ ปีที่ ๒๑-๓๐ ไม่ต่ำกว่าร้อยละ ๒ ของ ๒ ล้านล้านบาท ต่อปี ๒.๓.๓ ปีที่ ๓๑-๔๐ ไม่ต่ำกว่าร้อยละ ๓ ของ ๒ ล้านล้านบาท ต่อปี ๒.๓.๔ ปีที่ ๔๑-๕๐ ไม่ต่ำกว่าร้อยละ ๔ ของ ๒ ล้านล้านบาท ต่อปี หากในปีงบประมาณใดมีการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายเพื่อชำระคืนต้นเงินกู้เกินกว่าจำนวนที่กำหนดไว้ ให้สามารถนำงบประมาณรายจ่ายมาถัวเฉลี่ยในปีอื่นของแต่ละช่วงเวลาได้ โดยคำนึงถึงภาวะเศรษฐกิจ แต่เมื่อมีการถัวเฉลี่ยแล้วจะต้องไม่ต่ำกว่าจำนวนที่กำหนดไว้ของแต่ละช่วงเวลา และสำนักงบประมาณอาจพิจารณาจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีเพื่อชำระคืนต้นเงินกู้ก่อนปีที่ ๑๑ ได้ตามความจำเป็นและเหมาะสม ๓. รับทราบแนวทางการดำเนินโครงการภายใต้ร่างพระราชบัญญัติให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของประเทศ พ.ศ. .... ได้แก่ ๓.๑ การเตรียมความพร้อมโครงการ สำหรับโครงการที่ยังไม่ได้ดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ให้หน่วยงานเจ้าของโครงการจัดเตรียมความพร้อมของโครงการ อาทิ การศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการ (Feasibility Study) การออกแบบรายละเอียด (Detailed Design) การศึกษาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม (EIA) หรือผลกระทบสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ (EHIA) โดยเสนอโครงการต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาอนุมัติจัดสรรวงเงินกู้สำหรับการดำเนินการเพื่อเตรียมความพร้อมของโครงการ ๓.๒ การอนุมัติโครงการและอนุมัติจัดสรรวงเงินกู้ สำหรับโครงการที่ได้ดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องแล้ว ให้หน่วยงานเจ้าของโครงการนำเสนอต่อคณะรัฐมนตรีพิจารณาอนุมัติโครงการ และอนุมัติจัดสรรวงเงินกู้ โดยสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สำนักงบประมาณ และกระทรวงการคลังเสนอความเห็นประกอบการพิจารณาของคณะรัฐมนตรี ๓.๓ การจัดสรรและการเบิกจ่ายเงินกู้ ให้สำนักงบประมาณและสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะเป็นผู้พิจารณาอนุมัติแผนการดำเนินงานและแผนการใช้จ่ายเงินกู้ภายใต้วงเงินกู้ที่ได้รับอนุมัติจากคณะรัฐมนตรี และให้หน่วยงานเจ้าของโครงการเบิกจ่ายเงินกู้ตามระเบียบที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังกำหนด ๓.๔ การติดตามประเมินผลและการรายงานผล ให้หน่วยงานเจ้าของโครงการรายงานผลการดำเนินโครงการ และการเบิกจ่ายเงินกู้ผ่านระบบบริหารจัดการโครงการลงทุนด้านคมนาคมขนส่งของประเทศ (Public Investment for Transport & Logistics : PITL) โดยให้กระทรวงเจ้าสังกัดรายงานผลการติดตามและการประเมินผลโครงการและแผนงานภายใต้ยุทธศาสตร์ที่กำหนด รวมทั้งการประเมินประสิทธิภาพและประสิทธิผลของแผนงานในภาพรวมต่อกระทรวงการคลังตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังกำหนด โดยกระทรวงการคลังมีหน้าที่จัดทำรายงานการกู้เงิน รายละเอียดการใช้จ่ายเงินกู้ในแต่ละแผนงานของปีงบประมาณที่ผ่านมา ผลการดำเนินโครงการและการประเมินผลการดำเนินการตามแผนงานในแต่ละยุทธศาสตร์เพื่อเสนอคณะรัฐมนตรี เพื่อรายงานต่อสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาเพื่อทราบภายใน ๑๒๐ วัน นับแต่วันสิ้นปีงบประมาณ ๔. ให้กระทรวงการคลัง กระทรวงคมนาคม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรร่วมกันศึกษาแนวทางการปฏิรูปโครงสร้างการบริหารจัดการระบบรางทั้งในด้านการกำหนดนโยบายการกำกับดูแลและการให้บริการ รวมทั้งแนวทางสนับสนุนทางการเงินของภาครัฐที่เหมาะสมและผลักดันให้เกิดผลในทางปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรมก่อนที่การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานระบบรางจะแล้วเสร็จ เพื่อให้สามารถใช้ประโยชน์จากสินทรัพย์ของภาครัฐได้อย่างมีประสิทธิภาพตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ และความเห็นของสำนักงบประมาณเกี่ยวกับการกำหนดหลักเกณฑ์ในการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีเพื่อชำระหนี้เงินกู้ตามพระราชบัญญัติฯ ให้แล้วเสร็จภายใน ๕๐ ปี พร้อมกำหนดวงเงินขั้นต่ำในการชำระหนี้แบบขั้นบันไดที่เฉพาะเจาะจงในแต่ละปีงบประมาณนั้น จะทำให้การจัดสรรงบประมาณขาดความยืดหยุ่นและความคล่องตัวโดยเฉพาะในกรณีที่เกิดภาวะวิกฤตทางเศรษฐกิจและสังคม จึงเห็นควรที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีจะพิจารณาความเห็นของสำนักงบประมาณอีกครั้ง และกำหนดเป็นสาระสำคัญในมติคณะรัฐมนตรีดังกล่าวว่า การจัดสรรงบประมาณเพื่อชำระหนี้เงินกู้ สมควรจัดสรรงบประมาณโดยคำนึงถึงกรอบความยั่งยืนทางการคลังที่กำหนดสัดส่วนภาระหนี้ต่องบประมาณไม่เกินร้อยละ ๑๕ เพื่อให้มีกรอบวงเงินและสัดส่วนของงบประมาณรายจ่ายที่เพียงพอในการจัดทำบริการสาธารณะตามนโยบายรัฐบาลและภารกิจของรัฐอย่างเหมาะสม ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||
| 28795 | ผลการประชุมของคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย (กบอ.) ครั้งที่ 3/2556 | นร | 19/03/2556 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. เห็นชอบมติคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย (กบอ.) ในการประชุมครั้งที่ ๓/๒๕๕๖ เมื่อวันที่ ๑๓ มีนาคม ๒๕๕๖ ตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายปลอดประสพ สุรัสวดี) ประธานกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัยเสนอ ดังนี้ ๑.๑ เห็นชอบการปรับวงเงินในการดำเนินงานตามโครงการออกแบบก่อสร้างระบบบริหารจัดการทรัพยากรน้ำอย่างยั่งยืนและระบบแก้ไขปัญหาอุทกภัยของประเทศไทย จากกรอบวงเงิน ๓๔๐,๐๐๐ ล้านบาท เป็น ๓๐๑,๐๐๐ ล้านบาท ๑.๒ อนุมัติให้ใช้เงินที่เหลือจากการปรับลดค่าก่อสร้าง จำนวน ๘,๗๓๐.๘๓ ล้านบาท ในการบริหารโครงการในส่วนของ Project Management and Engineering Consultant (PMEC) และ Project Supervision Consultant (PSC) ตลอดระยะเวลาโครงการ ๕ ปี และให้ กบอ. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องประสานการดำเนินการในรายละเอียดกับสำนักงบประมาณต่อไป ทั้งนี้ ไม่ต้องนำการปรับกรอบวงเงินตามข้อ ๑.๑ และ ๑.๒ เสนอรัฐสภาเพื่อทราบ ตามความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ๒. ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์นำเรื่อง โครงการชลประทานพิษณุโลกฝั่งซ้าย ระยะที่ ๒ ของกรมชลประทาน เสนอ กบอ. พิจารณาอีกครั้งหนึ่ง เนื่องจากยังไม่มีข้อยุติเรื่อง ความเชื่อมโยงของโครงการกับแผนงานหลักการบริหารจัดการน้ำของ กบอ. ตลอดจนการตอบสนองและแก้ไขปัญหาในภาพรวม ในเรื่องปริมาณ/สัดส่วนของน้ำที่จะส่งเข้าระบบ และสามารถช่วยเหลือพื้นที่การเกษตรและป้องกันน้ำท่วมได้อย่างมีประสิทธิภาพหรือไม่ อย่างไร ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ |
|||||||||||||||||||||||||||
| 28796 | ความเห็นและข้อเสนอแนะของสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เรื่อง "ผังเมืองในหัวเมืองภูมิภาค กรณีหาดใหญ่" | สสป | 19/03/2556 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบความเห็นและข้อเสนอแนะของสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เรื่อง "ผังเมืองในหัวเมืองภูมิภาค กรณีหาดใหญ่" และรับทราบความเห็น ผลการพิจารณา และผลการดำเนินการของกระทรวงมหาดไทยร่วมกับกระทรวงกลาโหม กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงคมนาคม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ โดยในส่วนความเห็นและข้อเสนอแนะของสภาที่ปรึกษาฯ ประกอบด้วย ๔ ด้าน สรุปได้ ดังนี้
๑. ด้านการบริหารจัดการเมือง ได้แก่ การใช้แผนปฏิบัติการระดับท้องถิ่น (Local Agenda) มาใช้ในการพัฒนาชุมชน พิจารณาผังเมืองหาดใหญ่ร่วมกับผังเมืองขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นต่าง ๆ และเมืองสงขลา โดยให้คำนึงถึงเอกลักษณ์ อัตตลักษณ์ของเมืองหาดใหญ่ ขยายเขตผังเมืองรวมหาดใหญ่ และกำหนดแผนการจัดทำผังเมืองรวม ก่อนที่จะหมดอายุการใช้บังคับ ๒. ด้านการบริหารจัดการอุทกภัย ได้แก่ จัดการศึกษาการป้องกันอุทกภัยอย่างถาวรในระยะยาว และดำเนินการกำหนดพื้นที่แนวน้ำหลากและพัฒนาแนวน้ำหลาก โดยขุดเป็นคลองที่ระบายน้ำลงทะเลได้รวดเร็วขึ้น ปรับปรุงขุดลอกระบบคลองให้ระบายน้ำได้สะดวก เพิ่มปริมาตรทางระบายน้ำในลุ่มน้ำคลองอู่ตะเภา ด้วยการทำเขื่อนและขุดคลอง ปรับถนนในส่วนที่ตัดขวางทางน้ำให้มีช่องระบายน้ำเพิ่มขึ้นและให้มีถนนที่สามารถทำหน้าที่เป็นคันป้องกันน้ำท่วมได้ เพิ่มจำนวนและขนาดบานระบายน้ำ (Flash Valve) ในคลองระบายน้ำที่ ๑ กำหนดให้มีพื้นที่เสี่ยงภัยน้ำท่วมและป้องกันน้ำท่วม และมาตรการป้องกันน้ำท่วม ปรับวิถีชีวิตของชุมชนในพื้นที่น้ำท่วมซ้ำซากให้อยู่อาศัยในกรณีน้ำท่วมได้ดีขึ้น และเพิ่มขีดความสามารถในการรับมืออุทกภัยในระดับชุมชน ๓. ด้านการจราจร ได้แก่ กำหนดมาตรการเข้าออกของรถขนาดใหญ่ในพื้นที่ชุมชนต่าง ๆ ตามความเหมาะสม พัฒนาพื้นที่ว่างกลางเมืองเป็นที่จอดรถ ตามช่วงเวลาที่เหมาะสม กำหนดให้ถนนบางสายไม่ให้มีที่จอดรถข้างทาง โดยให้ถนนนิพัทธ์อุทิศ ๑-๓ เป็นถนนนำร่อง เพิ่มบริการขนส่งมวลชนสาธารณะ เพิ่มช่องทางจราจร จัดให้มีทางด่วนเฉพาะ (แบบเก็บค่าบริการ) จากด่านสะเดาเข้าเมืองหาดใหญ่ และจัดพื้นที่เพื่อรองรับการดำเนินการโครงการรถไฟความเร็วสูง จากหนองคาย-กรุงเทพฯ-ปาดังเบซาร์ ตามที่รัฐบาลมีนโยบายอยู่ ๔. ด้านการพัฒนาพื้นที่ ได้แก่ ปรับลดพื้นที่เขตปลอดภัยทางทหารตามความเหมาะสม พัฒนาพื้นที่ทหารและรอบมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์เป็นพื้นที่ตั้งถิ่นฐานใหม่ พัฒนาพื้นที่ตำบลควนลัง เพื่อรองรับการพัฒนาเป็นมหานครหาดใหญ่ และใช้วิธีเวนคืนหรือจัดรูปที่ดินเพื่อตัดถนนสายใหม่ผ่านที่ดินที่ถูกปิดล้อม เพื่อเพิ่มพื้นที่พัฒนาใหม่ ๆ ลดปัญหาการจราจร และลดปัญหาอาชญากรรม ฯลฯ
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 28797 | การลงนามร่างหนังสือแลกเปลี่ยนของเลขาธิการอาเซียนต่อหนังสือของฝ่ายเยอรมนี และร่างความตกลงสำหรับการดำเนินโครงการเสริมสร้างโครงสร้างพื้นฐานด้านคุณภาพในอาเซียน | อก | 19/03/2556 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบและอนุมัติตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ ดังนี้
๑. เห็นชอบ ๑.๑ ร่างหนังสือแลกเปลี่ยนของเลขาธิการอาเซียนต่อหนังสือของฝ่ายเยอรมนี มีสาระสำคัญกล่าวถึงการที่อาเซียนให้ความเห็นชอบกับข้อตกลงและเงื่อนไขที่ระบุในหนังสือแลกเปลี่ยนของฝ่ายเยอรมนี เช่น การให้สถาบัน Physikalisch Technische Bundestanstalt (PTB) เป็นผู้ดำเนินโครงการฝ่ายเยอรมนี และคณะกรรมการที่ปรึกษาด้านมาตรฐานและคุณภาพของอาเซียน (ASEAN Consultative Committee for Standards and Quality : ACCSQ) ทำหน้าที่ประสานการดำเนินโครงการฝ่ายอาเซียน ๑.๒ ร่างความตกลงสำหรับการดำเนินโครงการเสริมสร้างโครงสร้างพื้นฐานด้านคุณภาพในอาเซียน มีวัตถุประสงค์เพื่อกำหนดรายละเอียดของข้อตกลงในการดำเนินโครงการ ประกอบด้วย วัตถุประสงค์และตัวชี้วัดความสำเร็จของโครงการ การสนับสนุนการดำเนินโครงการของฝ่ายเยอรมนีและฝ่ายอาเซียน และข้อบทอื่น ๆ เช่น การประเมินผลโครงการ การปรับปรุงแก้ไข การระงับข้อพิพาท ผลที่คาดว่าจะได้รับ รวมถึงพันธกรณีต่าง ๆ ซึ่งจะจัดทำขึ้นระหวางอาเซียนกับสถาบัน PTB และเป็นไปตามกฎหมายและระเบียบข้อบังคับของประเทศเยอรมนี ทั้งนี้ ร่างความตกลงฯ จะมีผลบังคับใช้เมื่อเลขาธิการอาเซียนหรือผู้แทนลงนามในร่างหนังสือแลกเปลี่ยนและร่างความตกลงฯ ถึงวันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๖๐ ระยะเวลาดำเนินการทั้งสิ้น ๗ ปี แบ่งเป็นระยะแรก ๔ ปี โดยรัฐบาลเยอรมนีจะให้เงินสนับสนุนโครงการผ่านสถาบัน PTB รวมทั้งสิ้น ๒.๕ ล้านยูโร แบ่งเป็นระยะแรก ๑.๕ ล้านยูโร ๒. อนุมัติให้เลขาธิการอาเซียนหรือผู้แทนเป็นผู้ลงนามในเอกสารทั้งสองฉบับดังกล่าว ๓. ให้กระทรวงการต่างประเทศแจ้งสำนักเลขาธิการอาเซียนผ่านคณะผู้แทนถาวรไทยประจำอาเซียน ณ กรุงจาการ์ตา ว่ารัฐบาลไทยเห็นชอบร่างเอกสารดังกล่าว และเห็นชอบให้เลขาธิการอาเซียนหรือผู้แทนเป็นผู้ลงนามในร่างเอกสารดังกล่าว |
|||||||||||||||||||||||||||
| 28798 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทาน เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน จำนวน 4 ฉบับ | กษ | 19/03/2556 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวง จำนวน ๔ ฉบับ ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ดังนี้
๑. ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทานอ่างเก็บน้ำแม่ต๊าก เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน พ.ศ. .... มีสาระสำคัญ กำหนดทางน้ำชลประทานที่จะเรียบเก็บค่าชลประทาน เพื่อให้เกิดประโยชน์จากการใช้น้ำอย่างเต็มที่ ๒. ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทานอ่างเก็บน้ำห้วยหมากเอียก เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน พ.ศ. .... มีสาระสำคัญ กำหนดทางน้ำชลประทานที่จะเรียบเก็บค่าชลประทาน เพื่อให้เกิดประโยชน์จากการใช้น้ำอย่างเต็มที่ ๓. ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทานอ่างเก็บน้ำแม่เปิน เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน พ.ศ. .... มีสาระสำคัญ กำหนดทางน้ำชลประทานที่จะเรียบเก็บค่าชลประทาน เพื่อให้เกิดประโยชน์จากการใช้น้ำอย่างเต็มที่ ๔. ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทานอ่างเก็บน้ำห้วยตาควน เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน พ.ศ. .... มีสาระสำคัญ กำหนดทางน้ำชลประทานที่จะเรียบเก็บค่าชลประทาน เพื่อให้เกิดประโยชน์จากการใช้น้ำอย่างเต็มที่
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 28799 | รายงานผลการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 7 กันยายน 2553 (เรื่อง แนวทางการแก้ไขปัญหาการใช้ความเค็มในการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ ในพื้นที่น้ำจืด) | กษ | 19/03/2556 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเร่งดำเนินการตามที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ ๗ กันยายน ๒๕๕๓ และวันที่ ๑๔ มีนาคม ๒๕๕๔ เกี่ยวกับการจัดทำแผนแม่บทการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำของประเทศ การกำหนดหลักเกณฑ์การกำหนดเขตพื้นที่น้ำจืดใหม่ และการกำหนดมาตรการรองรับผลกระทบและมาตรการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบให้ได้ข้อยุติโดยเร็วต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 28800 | รายงานผลการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี เรื่อง แนวทางแก้ไขปัญหาที่ดินทำกินเกษตรกรสภาประชาชน 4 ภาค (ครั้งที่ 5) | กษ | 19/03/2556 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลความคืบหน้าการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี เรื่อง แนวทางแก้ไขปัญหาที่ดินทำกินเกษตรกรสภาประชาชน ๔ ภาค (ครั้งที่ ๕) ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) เสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. ผลการดำเนินการแก้ไขปัญหาที่ดินทำกินให้แก่เกษตรกรสภาประชาชน ๔ ภาค (ครั้งที่ ๕) ตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๕๓ จนถึงวันที่ ๓๑ ตุลาคม ๒๕๕๕ ๑.๑ รับคำเสนอขายที่ดิน จำนวน ๒๒ จังหวัด เนื้อที่ ๓๔,๐๖๖-๓-๖๔ ไร่ ๑.๒ เกษตรกรมาตรวจสอบสิทธิ จำนวน ๑,๗๔๘ ราย (ปัจจุบันเสียชีวิต ๓๐ ราย คงเหลือ ๑,๗๐๑ ราย) มีคุณสมบัติครบ ๑,๔๙๑ ราย ๑.๓ คณะกรรมการปฏิรูปที่ดินจังหวัด (คปจ.) เห็นชอบแผนการจัดซื้อที่ดิน จำนวน ๑๘ จังหวัด เกษตรกร จำนวน ๑,๐๓๔ ราย เนื้อที่ ๑๕,๔๕๔-๑-๗๐ ไร่ จำแนกเป็น ๑.๓.๑ ที่ดินที่ตั้งอยู่ในเขตปฏิรูปที่ดิน คปจ. เห็นชอบแผนการจัดซื้อ จำนวน ๙๓๕ ราย เนื้อที่ ๑๔,๐๑๙-๐-๒๘ ไร่ จดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ให้ ส.ป.ก. แล้ว จำนวน ๘๓๒ ราย เนื้อที่ ๑๒,๕๗๖-๐-๕๒ ไร่ จัดทำสัญญาเช่าซื้อที่ดินกับเกษตรกรแล้ว จำนวน ๕๗๙ ราย เนื้อที่ ๘,๐๑๖-๑-๙๘ ไร่ ๑.๓.๒ ที่ดินตั้งอยู่นอกเขตปฏิรูปที่ดิน คปจ. เห็นชอบแผนการจัดซื้อ จำนวน ๓ จังหวัด เกษตรกร ๙๙ ราย เนื้อที่ ๑,๔๓๕-๑-๔๒ ไร่ ส.ป.ก. จัดทำแผนพัฒนาพื้นที่การเกษตรในแปลงที่ดินที่ได้จัดซื้อแล้วโดยใช้งบประมาณของ ส.ป.ก. จำนวน ๖ จังหวัด ขุดบ่อบาดาล ๓ บ่อ ขุดสระเก็บน้ำขนาดต่าง ๆ จำนวน ๗๙ สระ งบประมาณ ๔,๔๓๓,๔๗๕ บาท ๒. ปัญหาอุปสรรค ๒.๑ เกษตรกรที่ได้รับความช่วยเหลือไม่มาแสดงตนเพื่อขอรับการจัดที่ดิน ส่วนเกษตรกรที่แสดงตนแล้ว แต่ยังไม่ดำเนินการคัดเลือกแปลงที่ดินที่พึงพอใจเพื่อให้ ส.ป.ก. ดำเนินการจัดซื้อ ๒.๒ เกษตรกรที่คัดเลือกแปลงที่ดินแล้ว และ คปจ. ได้เห็นชอบแผนการจัดซื้อที่ดินแล้วต่อมาได้เปลี่ยนใจและประสงค์จะไปจัดหาที่ดินแปลงใหม่ที่จังหวัดอื่น ๒.๓ การจัดซื้อที่ดินที่อยู่นอกเขตปฏิรูปที่ดินต้องดำเนินการหลายขั้นตอน ต้องใช้เวลานาน เจ้าของที่ดินหลายรายไม่สามารถรอได้ จึงขอยกเลิกการเสนอขาย |
|||||||||||||||||||||||||||
.....
