ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 4 จากทั้งหมด 15 หน้า แสดงรายการที่ 61 - 80 จากข้อมูลทั้งหมด 299 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
61 | ผลการประชุมระหว่างนายกรัฐมนตรีกับผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้แทนภาคเอกชน และผู้บริหารท้องถิ่น เพื่อขับเคลื่อนการพัฒนากลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามัน (กระบี่ ภูเก็ต ตรัง พังงา ระนอง และสตูล) | นร.11 สศช | 16/11/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. รับทราบผลการประชุมระหว่างนายกรัฐมนตรีกับผู้ว่าราชการจังหวัด
ผู้แทนภาคเอกชน และผู้บริหารท้องถิ่น
เพื่อขับเคลื่อนการพัฒนากลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามัน (กระบี่ ภูเก็ต ตรัง พังงา
ระนอง และสตูล) เมื่อวันอังคารที่ ๑๖ พฤศจิกายน ๒๕๖๔ เห็นชอบในหลักการของโครงการที่มีความจำเป็นเร่งด่วนที่สามารถดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในหนึ่งปีทั้ง
๗ โครงการ กรอบวงเงิน ๔๙๔ ล้านบาท โดยให้ใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปี
งบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๕ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น
และให้กระทรวงมหาดไทยเสนอขอรับการจัดสรรจากสำนักงบประมาณตามขั้นตอนต่อไป
และอนุมัติในหลักการให้ประเทศไทยเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดงานเอ็กซ์โปร วาระพิเศษ (Specialized Expo) ณ จังหวัดภูเก็ต
ภายใต้ชื่องาน EXPO-๒๐๒๘-Phuket, Thailand และมอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข
(นายอนุทิน ชาญวีรกูล)
หรือผู้ที่ได้รับมอบหมายลงนามในหนังสือเสนอตัวเป็นเจ้าภาพในนามของประเทศไทยอย่างเป็นทางการ
(Letter candidature) ทั้งนี้ ในส่วนของงบประมาณให้ดำเนินการพิจารณาความเหมาะสมตามขั้นตอนของกฎหมายที่เกี่ยวข้องต่อไป
พร้อมทั้งมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับไปดำเนินการด้านการเยียวยา ฟื้นฟู
และช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (COVID-19) ด้านการท่องเที่ยว ด้านเกษตร
ด้านการพัฒนาคุณภาพชีวิต ด้านโครงสร้างพื้นฐาน และข้อสั่งการนายกรัฐมนตรีเพิ่มเติม
ตามที่สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอ ๒. ให้สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี)
ในการเสนอเรื่องนี้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
62 | ขออนุมัติกรอบวงเงินโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปี 2564/65 เพิ่มเติม | พณ. | 09/11/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. รับทราบการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าวภายใต้โครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว
ปี ๒๕๖๔/๖๕ เพิ่มเติม ของกระทรวงพาณิชย์
เพื่อให้เกษตรกรมีรายได้จาการจำหน่ายข้าวเปลือกในราคาที่เหมาะสมและสามารถป้องกันความเสี่ยงในการจำหน่ายผลผลิต
และช่วยเหลือเกษตรกรในช่วงการชะลอตัวของเศรษฐกิจจากผลกระทบของสถานการณ์ Covid-19 ๒.
มอบหมายให้กระทรวงพาณิชย์ร่วมกับกระทรวงการคลัง สำนักงบประมาณ
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พิจารณาจัดหาแหล่งเงินเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายตามโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว
ปี ๒๕๖๔/๖๕ เพิ่มเติม ภายใต้กรอบวงเงินจำนวน ๗๖,๐๘๐.๙๕ ล้านบาท โดยให้ดำเนินการให้ถูกต้อง เป็นไปตามพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ
พ.ศ. ๒๕๖๑ ตลอดจนกฎหมาย ระเบียบ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้
ให้กระทรวงพาณิชย์รับความเห็นของสำนักงบประมาณและสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ที่ควรเร่งดำเนินการพิจารณาแหล่งเงินภายใต้อัตราชดเชยค่าใช้จ่ายหรือการสูญเสียรายได้ของหน่วยงานของรัฐ
สัดส่วนวงเงินตามประกาศคณะกรรมการนโยบายการเงินการคลังภาครัฐ
และปรับปรุงคุณภาพข้าวให้ได้มาตรฐานซึ่งจะช่วยแก้ปัญหาราคาข้าวตกต่ำในเบื้องต้นและไม่ส่งผลต่อราคาเกณฑ์กลางอ้างอิง
รวมทั้งพัฒนาประสิทธิภาพการผลิตและการยกระดับมูลค่าข้าวจากคุณภาพมาตรฐาน
ไปพิจารณาดำเนินการด้วย ๒. ให้กระทรวงพาณิชย์ได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี)
ในการเสนอเรื่องนี้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
63 | ขอรับการสนับสนุนงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 งบกลาง รายการค่าใช้จ่ายในการบรรเทา แก้ไขปัญหา และเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 | สธ. | 09/11/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. รับทราบโครงการแก้ไขปัญหาโรคติดต่ออุบัติใหม่ : กรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ระยะการระบาดระลอกเมษายน ๒๕๖๔ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๕ และอนุมัติการสนับสนุนงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๕ งบกลาง รายการค่าใช้จ่ายในการบรรเทา แก้ไขปัญหา และเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ จำนวนทั้งสิ้น ๑,๓๓๔,๙๔๕,๐๐๐ บาท และขยายระยะเวลาการดำเนินกิจกรรมและใช้จ่ายเงินกันไว้เบิกเหลื่อมปีและเงินเหลือจ่ายจากโครงการที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติให้ความเห็นชอบไว้แล้ว ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๕ มกราคม ๒๕๖๔ วันที่ ๕ พฤษภาคม ๒๕๖๔ และวันที่ ๑๐ สิงหาคม ๒๕๖๔ ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ และให้กระทรวงสาธารณสุขดำเนินการให้ถูกต้องเป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย กฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด ๒. ให้กระทรวงสาธารณสุขได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
64 | การกำหนดขอบเขตสภาพการจ้างที่เกี่ยวกับการเงินสำหรับรัฐวิสาหกิจแต่ละแห่งที่รัฐวิสาหกิจนั้นอาจดำเนินการเองได้ ตามมาตรา 13 (2) แห่งพระราชบัญญัติแรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ พ.ศ. 2543 กรณีการจัดหาวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา (COVID-19) | รง. | 09/11/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการกำหนดขอบเขตสภาพการจ้างที่เกี่ยวกับการเงินสำหรับรัฐวิสาหกิจแต่ละแห่งที่รัฐวิสาหกิจนั้นอาจดำเนินการเองได้
ตามมาตรา ๑๓ (๒) แห่งพระราชบัญญัติแรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ พ.ศ. ๒๕๔๓
กรณีการจัดหาวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (COVID-19) และให้มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่
๑๔ มิถุนายน ๒๕๖๔ ตามมติคณะกรรมการแรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ ครั้งที่ ๔/๒๕๖๔
เมื่อวันที่ ๑๖ กรกฎาคม ๒๕๖๔ ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ ทั้งนี้ ให้กระทรวงแรงงาน
รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของสำนักงบประมาณ ที่ควรจะต้องคำนึงถึงผลประโยชน์ที่ลูกจ้างของรัฐวิสาหกิจแต่ละแห่งจะได้รับเป็นสำคัญ
ตามความจำเป็น ความคุ้มค่า และประหยัด ตามนัยพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ
พ.ศ. ๒๕๖๑ และจัดให้มีระบบการกำกับ ติดตาม และตรวจสอบค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น
ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ เงื่อนไข อัตราที่กำหนด
และสามารถตรวจสอบได้ในทุกกรณี ทั้งนี้ ให้เป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย และระเบียบที่เกี่ยวข้องให้ถูกต้องและครบถ้วนด้วย
ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
65 | แผนการดำเนินงาน งบประมาณรายจ่าย และประมาณการรายได้ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 ของสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน | พน. | 09/11/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ๑.
รับทราบและเห็นชอบตามที่กระทรวงพลังงานเสนอ ดังนี้ ๑.๑ รับทราบผลการดำเนินงาน การจัดเก็บรายได้
และการใช้จ่ายงบประมาณประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๔ เช่น
การออกมาตรการช่วยเหลือผู้ใช้ไฟฟ้าที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
๒๐๑๙ (COVID-19) การออกระเบียบและการประกาศรับซื้อไฟฟ้าโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ที่ติดตั้งบนหลังคา
(Solar Rooftop) เป็นต้น การจัดเก็บรายได้
และการใช้จ่ายงบประมาณ เป็นต้น ๑.๒ เห็นชอบแผนการดำเนินงาน งบประมาณรายจ่าย
และประมาณการรายได้ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๕ วงเงินงบประมาณรายจ่าย ๙๐๔.๗๖๙
ล้านบาท และประมาณการรายได้ ๑,๐๐๒.๗๗๑ ล้านบาท
ซึ่งเป็นการดำเนินงานตามความในมาตรา ๔๑ แห่งพระราชบัญญัติการประกอบกิจการพลังงาน
พ.ศ. ๒๕๕๐ ๒.
ให้กระทรวงพลังงาน (สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน)
รับความเห็นของกระทรวงการคลัง กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม
สำนักงบประมาณ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และสำนักงาน ก.พ.ร.
เช่น เห็นควรที่กระทรวงพลังงาน (สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน)
จะได้รายงานผลสัมฤทธิ์จากการดำเนินงานตามแผนการดำเนินงาน งบประมาณรายจ่าย และประมาณการรายได้ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๕
ให้สอดคล้องกับตัวชี้วัดและเป้าหมายของแผนย่อยภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติในแต่ละระดับ
รวมถึงแผนการปฏิรูปด้านพลังงาน ตามที่กำหนดด้วย เป็นต้น
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
66 | ผลการพิจารณารายงานการพิจารณาศึกษา เรื่อง ข้อเสนอเชิงนโยบายการบริหารจัดการธุรกิจสายการบิน ธุรกิจสนับสนุน และบุคลากรการบิน ช่วงวิกฤติ COVID-19 ของคณะกรรมาธิการการคมนาคม วุฒิสภา | สว. | 04/11/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการพิจารณารายงานการพิจารณาศึกษา เรื่อง ข้อเสนอเชิงนโยบายการบริหารจัดการธุรกิจสายการบิน
ธุรกิจสนับสนุน และบุคลากรการบิน ช่วงวิกฤติ COVID-19 ของคณะกรรมาธิการการคมนาคม วุฒิสภา ซึ่งได้พิจารณาร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
สรุปได้ ดังนี้ (๑) โครงการย่อยที่ ๑ การบริหารจัดการธุรกิจสายการบิน ช่วงวิกฤติ COVID-19
สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทยอยู่ระหว่างการจัดทำนโยบายด้านการบินพลเรือนให้ครอบคลุมทุกด้าน
และหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องได้มีมาตรการช่วยเหลือบรรเทาผลกระทบธุรกิจสายการบิน
เช่น การสนับสนุนเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ (Soft Loan) การลดค่าบริการในการขึ้นลงของอากาศยาน
(๒) โครงการระยะที่ ๒ การเตรียมความพร้อมบุคลากรการบินเชิงบูรณาการ ระยะเร่งด่วน ได้กำหนดแนวทางผ่อนผันกฎระเบียบบางอย่างเพื่อช่วยเหลือบุคลากรการบินและมีมาตรการผ่อนผันให้นักบินที่มีประสบการณ์ให้ใช้เครื่องฝึกบินจำลองแทน
รวมทั้งส่งเสริมการพัฒนาทักษะอาชีพด้านอื่นให้แก่บุคคลการบิน และระยะสั้น
ได้มีการออกใบอนุญาตผู้ประจำหน้าที่และปรับปรุงกระบวนการกำกับดูแล
ซึ่งสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทยได้มีการกำกับดูแลให้เป็นไปตามมาตรฐาน ICAO
แล้ว และได้มีการพัฒนาหลักสูตรนายช่างภาคพื้นดินเพื่อให้ได้มาตรฐาน
และ (๓) โครงการย่อยที่ ๓ โอกาสการพัฒนาศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยาน
และอุตสาหกรรมผลิตชิ้นส่วนอากาศยาน สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทยได้จัดทำแผนส่งเสริมอุตสาหกรรมผลิตชิ้นส่วนและการซ่อมบำรุงอากาศยานร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน
เพื่อได้รับการสนับสนุนทางด้านสิทธิประโยชน์ทางภาษีในกิจการผลิตหรือซ่อมอากาศยานหรืออุปกรณ์ยานอวกาศ
ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ และแจ้งให้สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาทราบต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
67 | รายงานการประชุมด้านการป้องกันอาชญากรรมและความยุติธรรมทางอาญาในกรอบสหประชาชาติ ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา2019 (COVID-19) | ยธ. | 04/11/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานการประชุมด้านการป้องกันอาชญากรรมและความยุติธรรมทางอาญาในกรอบสหประชาชาติ
ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (COVID-19) จำนวน ๒ การประชุม ผ่านระบบการประชุมทางไกล ได้แก่ (๑)
การประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการป้องกันอาชญากรรมและความยุติธรรมทางอาญา สมัยที่ ๑๔ ระหว่างวันที่ ๗-๑๒
มีนาคม ๒๕๖๔ ณ นครเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น และการประชุมคณะกรรมาธิการว่าด้วยการป้องกันอาชญากรรมและความยุติธรรมทางอาญา สมัยที่ ๓๐ ระหว่างวันที่ ๑๗-๒๑
พฤษภาคม ๒๕๖๔ ณ กรุงเวียนนา สาธารณรัฐออสเตรีย ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
68 | ขอความเห็นชอบร่างปฏิญญา Ministerial Declaration of the High-level Conference on COVID-19 | คค. | 19/10/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างปฏิญญา Ministerial Declaration of the High-level
Conference on COVID-19 ที่จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ ๑๒-๒๒ ตุลาคม ๒๕๖๔
ผ่านระบบการประชุมทางไกล และอนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมหรือผู้ที่ได้รับมอบหมายร่วมรับรองร่างปฏิญญา Ministerial Declaration of the High-level
Conference on COVID-19 โดยร่างปฏิญญาฯ มีวัตถุประสงค์ในการแสดงเจตนารมณ์ร่วมกันของประเทศสมาชิกเพื่อฟื้นฟูภาคอุตสาหกรรมการบิน
รวมถึงพัฒนาความสามารถในการรับมือกับวิกฤตการณ์และความยั่งยืนของภาคการบินภายหลังการแพร่ระบาดของโรค
COVID-19
ซึ่งเน้นย้ำความสำคัญของการร่วมมือกันระหว่างรัฐสมาชิกและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
อาทิ ICAO และองค์การอนามัยโลก
(World Health Organization : WHO) ในการฟื้นฟูภาคอุตสาหกรรม
การบินอย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างปฏิญญา Ministerial
Declaration of the High-level Conference on COVID-19
ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้
ให้กระทรวงคมนาคมดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
69 | หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการกำหนดค่าใช้จ่ายในการดำเนินการผู้ป่วยฉุกเฉินโรคติดต่ออันตรายตามกฎหมายว่าด้วยโรคติดต่อ กรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด 19 [Coronavirus Disease 2019 (COVID-19)] (ฉบับที่ 6) | สธ. | 12/10/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
ดังนี้ ๑. เห็นชอบหลักเกณฑ์ วิธีการ
และเงื่อนไขการกำหนดค่าใช้จ่ายในการดำเนินการผู้ป่วยฉุกเฉินโรคติดต่ออันตรายตามกฎหมายว่าด้วยโรคติดต่อ
กรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด 19 [Coronavirus Disease 2019 (COVID-19)] (ฉบับที่ ๖) เพื่อเป็นการเพิ่มรายการที่มีความจำเป็นต้องใช้กับผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด 19 [Coronavirus
Disease 2019 (COVID-19)]
เพื่อการดูแลรักษาพยาบาลและช่วยชีวิตผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด 19 [Coronavirus Disease 2019 (COVID-19)] ได้อย่างทันท่วงที ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ
ทั้งนี้ ให้กระทรวงสาธารณสุขดำเนินการให้ถูกต้องเป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย ระเบียบ
และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด รวมทั้งให้กระทรวงสาธารณสุขรับความเห็นของสำนักงบประมาณ
โดยให้ปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง กำกับ ติดตาม
และตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณดังกล่าวให้มีประสิทธิภาพ ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ เงื่อนไข อัตราที่กำหนด
และสามารถตรวจสอบได้ในทุกขั้นตอนพร้อมกับดำเนินการให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ค่าใช้จ่ายของกระทรวงการคลังด้วย
ไปพิจารณาดำเนินการด้วย ๒. ให้กระทรวงสาธารณสุขได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี)
ในการเสนอเรื่องนี้ |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
70 | การทบทวนมติคณะรัฐมนตรีโครงการสินเชื่อเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการรายย่อยที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของไวรัสโคโรนา (COVID-19) | กค. | 28/09/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ๑. เห็นชอบและอนุมัติตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
ดังนี้ ๑.๑ เห็นชอบการทบทวนมติคณะรัฐมนตรีโครงการสินเชื่อเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการรายย่อยที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
๒๐๑๙ (COVID-19) (โรคโควิด ๑๙) โดยปรับปรุงหลักเกณฑ์และเงื่อนไขของโครงการ
เช่น (๑) ปรับวัตถุประสงค์การกู้ให้ครอบคลุมถึงการลงทุน ขยาย และปรับปรุงกิจการ
เพื่อแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายในการประกอบธุรกิจ (๒) ขยายระยะเวลากู้เงิน
จากเดิมไม่เกิน ๕ ปี เป็นไม่เกิน ๑๐ ปี (ปลอดชำระเงินต้นสูงสุดไม่เกิน ๒ ปี) และ
(๓) ปรับเงื่อนไขการชดเชยของรัฐบาล
โดยรัฐบาลจะชดเชยความเสียหายที่เกิดจากหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (Non-Performing
Loans : NPLs) ร้อยละ ๑๐๐ สำหรับ NPLs ไม่เกินร้อยละ
๔๐
ของวงเงินสินเชื่อที่อนุมัติตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการทบทวนมติคณะรัฐมนตรีในครั้งนี้ ๑.๒ อนุมัติงบประมาณเพิ่มเติมจำนวนไม่เกิน
๑๓๕ ล้านบาท จากงบประมาณรายจ่ายประจำปี พร้อมทั้งมอบหมายให้ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย
(ธพว.) ทำความตกลงกับสำนักงบประมาณเพื่อขอรับการจัดสรรงบประมาณเป็นรายปีตามความเหมาะสมและความจำเป็นต่อไป
เพื่อให้ผู้ประกอบการรายย่อยและผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดย่อมสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้มากขึ้น
และแบ่งเบาภาระในการผ่อนชำระหนี้เพื่อประคับประคองและฟื้นฟูภาคธุรกิจให้สามารถดำเนินกิจการต่อไปได้
รวมถึงช่วยให้สถาบันการเงินมีความมั่นใจในการปล่อยสินเชื่อเพิ่มขึ้น
ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด ๑๙ ที่ยังคงมีความไม่แน่นอนสูง ๒. ให้กระทรวงการคลัง
โดย ธพว. รับความเห็นของกระทรวงคมนาคม สำนักงบประมาณ และธนาคารแห่งประเทศไทย เช่น ควรดำเนินการตามนัยมาตรา
๒๗ แห่งพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. ๒๕๖๑ ให้ครบถ้วน เป็นต้น ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
71 | ขอรับการสนับสนุนงบประมาณเพิ่มเติมเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการแก้ปัญหาการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ระยะที่ 8 | กห. | 21/09/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. อนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๔ งบกลาง
รายการค่าใช้จ่ายในการบรรเทา แก้ไขปัญหา และเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
๒๐๑๙ วงเงิน ๑๓๐,๕๖๙,๗๐๐ บาท
ให้สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการแก้ปัญหาการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
๒๐๑๙ (COVID-19) ระยะที่ ๘
(ตั้งแต่วันที่ ๑ มิถุนายน ถึงวันที่ ๒๐ กรกฎาคม ๒๕๖๔) สำหรับค่าใช้จ่ายในการดำเนินการพื้นที่กักกันโรคแห่งรัฐ (State Quarantine) ในส่วนของสถานที่เอกชน ตามที่กระทรวงกลาโหมเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
72 | หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการกำหนดค่าใช้จ่ายในการดำเนินการผู้ป่วยฉุกเฉินโรคติดต่ออันตรายตามกฎหมายว่าด้วยโรคติดต่อ กรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด 19 [Coronavirus Disease 2019 (COVID-19)] (ฉบับที่ 5) | สธ. | 14/09/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. เห็นชอบหลักเกณฑ์
วิธีการและเงื่อนไขการกำหนดค่าใช้จ่ายในการดำเนินการผู้ป่วยฉุกเฉินโรคติดต่ออันตรายตามกฎหมายว่าด้วยโรคติดต่อ
กรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด 19 [Coronavirus Disease 2019 (COVID-19)] (ฉบับที่ ๕) มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมหลักเกณฑ์
วิธีการและเงื่อนไขแนบท้ายประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขการกำหนดค่าใช้จ่ายในการดำเนินการผู้ป่วยฉุกเฉินโรคติดต่ออันตรายตามกฎหมายว่าด้วยโรคติดต่อ
กรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด 19 [Coronavirus Disease 2019 (COVID-19) ลงวันที่ ๓ เมษายน ๒๕๖๓ และที่แก้ไขเพิ่มเติม
โดยแก้ไขเพิ่มเติมนิยามคำว่า “สถานพยาบาล” แก้ไขอัตราค่า COVID-19 Real time PCR รวมทั้งกำหนดเพิ่มบัญชีและอัตราค่าใช้จ่ายให้ครอบคลุมถึงค่าใช้จ่ายที่มีความจำเป็นต้องใช้กับผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
2019 และค่าใช้จ่ายของสถานพยาบาลที่ให้การดูแลรักษาผู้ป่วยโรคดังกล่าว
ณ ที่พำนักของผู้ป่วย ตามกฎหมายว่าด้วยสถานพยาบาล ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ
และให้กระทรวงสาธารณสุขรับความเห็นของสำนักงบประมาณและข้อสังเกตของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ที่ควรกำกับ ติดตาม และตรวจสอบการจ่ายงบประมาณดังกล่าวให้มีประสิทธิภาพ ตามหลักเกณฑ์
วิธีการ เงื่อนไข อัตราที่กำหนด และตรวจสอบได้ในทุกขั้นตอน ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป
ทั้งนี้ ให้กระทรวงสาธารณสุขดำเนินการให้ถูกต้อง เป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย
ระเบียบ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด ๒. ให้กระทรวงสาธารณสุขได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี)
ในการเสนอเรื่องนี้ |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
73 | ผลการพิจารณาญัตติด่วน เรื่อง ขอให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาการป้องกันและแก้ไขปัญหาสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ระลอกใหม่ | สผ. | 07/09/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการพิจารณาญัตติด่วน
เรื่อง ขอให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาการป้องกันและแก้ไขปัญหาสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา
๒๐๑๙ (COVID-19)
ระลอกใหม่ ของสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขได้พิจารณาร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยสรุปผลการพิจารณาได้ว่า
กรมควบคุมโรคได้กำหนดขั้นตอนการขออนุญาตดำเนินการการจัดตั้งสถานกักกันในรูปแบบองค์กร
(Organizational
Quarantine : OQ) วัตถุประสงค์เพื่อเป็นการกักกันผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ
ทั้งที่มีสัญชาติไทย หรือไม่มีสัญชาติ ซึ่งเป็นบุคคล
หรือกลุ่มบุคคลเฉพาะที่เป็นสมาชิกขององค์กรที่เดินทางมาปฏิบัติภารกิจขององค์กร
เช่น ทำงานตามสัญญาว่าจ้างและมีเอกสารจ้างงาน กลุ่มนักเรียน/นักศึกษา
การฝึกทางการทหาร หากมีความจำเป็นที่จะต้องมีการ Lockdown ควรกำหนดหลักเกณฑ์และเหตุผลในการ
Lockdown โดยคำนึงถึงความสมดุลในการกักกันโรคกับเศรษฐกิจ ถ้า
Lockdown เป็นเวลานานเกินไปจะส่งผลให้เกิดความล้มเหลวทางเศรษฐกิจ
ถ้า Lockdown เป็นเวลาน้อยเกินไป ทำให้ไม่สามารถกักกันโรคได้
แรงงานต่างชาติจะมีส่วนเข้ามาฟื้นฟูเศรษฐกิจไทยหลังจากโควิด ๑๙ อย่างไรก็ตาม
การพึ่งพิงแรงงานข้ามชาติมากเกินไปอาจจะส่งผลเสียในระยะยาวได้ ทำให้ผู้ประกอบการธุรกิจชะลอการใช้เครื่องจักรและเทคโนโลยีซึ่งอาจทำให้ประเทศไทยติดกับดักรายได้ปานกลางต่อไป
เป็นต้น ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ
และแจ้งให้สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรทราบต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
74 | ผลการพิจารณาของคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ ภายใต้พระราชกำหนดฯ เพิ่มเติม พ.ศ. 2564 ในคราวประชุมครั้งที่ 7/2564 | นร.11 สศช | 07/09/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. อนุมัติตามผลการพิจารณาของคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้
ตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้
ภายใต้พระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและสังคม
จากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ เพิ่มเติม พ.ศ. ๒๕๖๔ ในคราวประชุม
ครั้งที่ ๗/๒๕๖๔ เมื่อวันที่ ๓ กันยายน ๒๕๖๔ ซึ่งได้พิจารณาอนุมัติโครงการจัดหาวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
๒๐๑๙ (COVID-๑๙)
สำหรับบริการประชากรในประเทศไทย เพิ่มเติม จำนวน ๑๒ ล้านโดส (Sinovac) ของกรมควบคุมโรค มอบหมายให้กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข
เป็นหน่วยงานรับผิดชอบโครงการ ดำเนินการจัดทำความต้องการใช้จ่ายเป็นรายเดือน อนุมัติโครงการเยียวยานายจ้างและผู้ประกันตนมาตรา
๓๓ ในกิจการที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการของรัฐในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ๑๓
จังหวัด เพิ่มเติม ๑ เดือน ของสำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน มอบหมายให้สำนักงานประกันสังคม
กระทรวงแรงงาน เป็นหน่วยงานรับผิดชอบโครงการ
ดำเนินการจัดทำความต้องการใช้จ่ายเป็นรายวัน และมอบหมายให้กระทรวงคมนาคม เร่งพิจารณาความเหมาะสมในการจัดทำข้อเสนอโครงการเพื่อให้ความช่วยเหลือเยียวยาผู้ขับขี่รถยนต์รับจ้างบรรทุกคนโดยสารไม่เกินเจ็ดคนและรถจักรยานยนต์สาธารณะที่ไม่สามารถสมัครเป็นผู้ประกันตนมาตรา
๔๐ เนื่องจากอายุเกินคุณสมบัติที่สำนักงานประกันสังคมกำหนดไว้ ตามที่เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ประธานกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้เสนอ และให้หน่วยงานรับผิดชอบโครงการและกระทรวงต้นสังกัดรับความเห็นของกระทรวงการคลัง
สำนักงบประมาณ สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
เช่น ให้หน่วยงานรับผิดชอบโครงการควรเตรียมความพร้อมให้ทันต่อสถานการณ์ ตลอดจนเร่งรัดประชาสัมพันธ์
เพื่อสร้างความรับรู้และความเข้าใจในมาตรการที่ถูกต้องให้กับประชาชน เร่งรัดการใช้จ่ายให้เป็นไปตามแผนการดำเนินงาน
และให้ความสำคัญกับระบบการติดตามและประเมินผลให้ทันต่อสถานการณ์ และให้หน่วยงานรับผิดชอบโครงการดำเนินโครงการต่าง
ๆ โดยใช้วงเงินกู้ตามพระราชกำหนดนี้ให้เป็นไปตามกฎหมาย กฎ ระเบียบ
และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องโดยเคร่งครัด รวมทั้งให้ดำเนินการตามข้อสังเกตและความเห็นเพิ่มเติมของคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้
โดยเคร่งครัดตามขั้นตอนของกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องต่อไป ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป ๒. ให้เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ประธานกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี)
ในการเสนอเรื่องนี้ |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
75 | ผลการพิจารณาของคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ ภายใต้พระราชกำหนดฯ เพิ่มเติม พ.ศ. 2564 ในคราวประชุม ครั้งที่ 6/2564 | นร.11 สศช | 30/08/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. อนุมัติตามผลการพิจารณาของคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้
คณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้
ภายใต้พระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและสังคม
จากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ เพิ่มเติม พ.ศ. ๒๕๖๔ ในคราวประชุม
ครั้งที่ ๖/๒๕๖๔ เมื่อวันที่ ๒๗ สิงหาคม ๒๕๖๔ ซึ่งได้พิจารณาอนุมัติโครงการจัดหาวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
๒๐๑๙ (Covid-๑๙)
สำหรับบริการประชากรในประเทศไทย เพิ่มเติม จำนวน ๙,๙๙๘,๘๒๐ โดส (Pfizer) ของกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข มอบหมายให้กรมควบคุมโรค
กระทรวงสาธารณสุข เป็นหน่วยงานรับผิดชอบโครงการ
ดำเนินการจัดทำความต้องการใช้จ่ายเป็นรายเดือน อนุมัติให้สำนักงานประกันสังคม
กระทรวงแรงงาน เปลี่ยนแปลงรายละเอียดที่เป็นสาระสำคัญของโครงการเยียวยาผู้ประกันตนมาตรา
๓๙ และมาตรา ๔๐ ในกิจการที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการของรัฐ
ในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด และมอบหมายให้กระทรวงคมนาคม
พิจารณาความเหมาะสมในการจัดทำข้อเสนอโครงการเพื่อให้ความช่วยเหลือเยียวยาผู้ขับขี่รถยนต์รับจ้างบรรทุกคนโดยสารไม่เกินเจ็ดคนและรถจักรยานยนต์สาธารณะที่ไม่สามารถสมัครเป็นผู้ประกันตนมาตรา
๔๐ เนื่องจากอายุเกินคุณสมบัติที่สำนักงานประกันสังคมกำหนดไว้ ตามที่เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ประธานกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้เสนอ
และให้หน่วยงานรับผิดชอบโครงการรับความเห็นของสำนักงบประมาณ สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เช่น ให้หน่วยงานรับผิดชอบโครงการควรเตรียมความพร้อมให้ทันต่อสถานการณ์
และปฏิบัติตามขั้นตอนของกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง
ให้ครบถ้วนถูกต้องอย่างเคร่งครัด ตลอดจนเร่งรัดประชาสัมพันธ์ เพื่อสร้างความรับรู้และความเข้าใจในมาตรการที่ถูกต้องให้กับประชาชน
และเร่งรัดการใช้จ่ายให้เป็นไปตามแผนการดำเนินงาน
และให้ความสำคัญกับระบบการติดตามและประเมินผลให้ทันต่อสถานการณ์ รวมทั้ง ให้หน่วยงานรับผิดชอบโครงการดำเนินการตามข้อสังเกตและความเห็นเพิ่มเติมของคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้
โดยเคร่งครัดตามขั้นตอนของกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องต่อไป ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป ๒.
ในการดำเนินโครงการจัดหาวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ สำหรับบริการประชากรในประเทศไทย
เพิ่มเติม จำนวน ๙,๙๙๘,๘๒๐ โดส (Pfizer) ให้กระทรวงสาธารณสุข
(กรมควบคุมโรค) บูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและภาคเอกชน
เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙
ให้อยู่ในวงจำกัดโดยเร็วที่สุด โดยเร่งกระจายวัคซีนอย่างเป็นระบบ ทั่วถึง
และเป็นธรรม
รวมทั้งให้สร้างความเข้าใจแก่ประชาชนให้มีความพร้อมในการเข้ารับการฉีดวัคซีนและการป้องกันโรคในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
๒๐๑๙ ที่ยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ ให้เผยแพร่ข้อมูลผลการดำเนินงานดังกล่าวสู่สาธารณชนเพื่อให้เกิดความโปร่งใสด้วย ๓. ให้สำนักงานเลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ติดตามและประเมินผลการดำเนินการตามโครงการเยียวยาผู้ประกันตนมาตรา ๓๙ และมาตรา ๔๐ ในกิจการที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการของรัฐในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดอย่างเป็นระบบ
ครอบคลุมในทุกมิติ พร้อมทั้งเผยแพร่ผลการดำเนินการให้ความช่วยเหลือให้ประชาชนทราบเป็นระยะ
ๆ ด้วย |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
76 | ขอรับการจัดสรรงบประมาณรายจ่าย งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายโครงการรณรงค์เอาชนะโควิดตามมาตรการเร่งด่วน (Thailand Prevention) | นร.04 | 30/08/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๔ งบกลาง
รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น โครงการรณรงค์เอาชนะโควิดตามมาตรการเร่งด่วน
(Thailand Prevention) จำนวน ๑๐๕,๕๙๒,๐๐๐ บาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายโครงการรณรงค์เอาชนะโควิดตามมาตรการเร่งด่วน
(Thailand Prevention)
สำหรับผลิตและเผยแพร่สื่อประชาสัมพันธ์เพื่อการป้องกันและแก้ไขสถานการณ์อันมีผลกระทบอันเนื่องมาจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
๒๐๑๙ (COVID-19) เฉพาะกิจกรรมที่มีความจำเป็นต้องดำเนินการในระยะเร่งด่วน
(ภายในเดือนธันวาคม ๒๕๖๔) โดยคำนึงถึงความเหมาะสมสอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน
ตามที่สำนักนายกรัฐมนตรี (กรมประชาสัมพันธ์) เสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
77 | สรุปผลการประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) (ศบค.) ครั้งที่ 13/2564 | นร.04 | 30/08/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19)
(ศบค.) ครั้งที่ ๑๓/๒๕๖๔ เมื่อวันที่ ๒๗ สิงหาคม ๒๕๖๔ ซึ่งมีผลการประชุมที่สำคัญ
ได้แก่ (๑) รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดและผู้ติดเชื้อโรคโควิด-19 (๒) หลักการและแนวคิดการเปลี่ยนผ่านภาวะวิกฤตสู่การเปิดกิจกรรม/กิจการที่มีความพร้อมในแต่ละพื้นที่อย่างปลอดภัย
ภายใต้มาตรการควบคุมโรคแนวใหม่ (Smart Control and Living with Covid-19) (๓) มาตรการเปิดเรียนมั่นใจ ปลอดภัยไร้โควิด-19 ในโรงเรียนประจำ (Sandbox
Safety Zone in School : SSS) (๔) รายงานแนวโน้มสถานการณ์ความต้องการใช้ออกซิเจนทางการแพทย์
(๕) แผนการให้บริการวัคซีนโควิด-19 (๖) การปรับมาตรการป้องกันควบคุมโรคโควิด-19
และ (๖) ข้อสั่งการนายกรัฐมนตรี
ตามที่สำนักงานเลขาธิการศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 เสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
78 | ผลการพิจารณารายงานการพิจารณาศึกษา เรื่อง COVID–19 : ผลกระทบต่อความมั่นคง ของคณะกรรมาธิการการทหารและความมั่นคงของรัฐ วุฒิสภา | สว. | 24/08/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการพิจารณารายงานการพิจารณาศึกษา เรื่อง COVID–19 :
ผลกระทบต่อความมั่นคง ของคณะกรรมาธิการการทหารและความมั่นคงของรัฐ วุฒิสภา
ซึ่งกระทรวงมหาดไทยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้พิจารณารายงานและข้อเสนอแนะของคณะกรรมาธิการฯ
โดยสรุปผลการพิจารณาได้ว่า ข้อเสนอแนะต่อแนวโน้มสถานการณ์การเปลี่ยนแปลงของโลก
หน่วยงานที่รับผิดชอบแผนเตรียมพร้อมแห่งชาติควรทบทวนแผนให้สอดคล้องกับสถานการณ์เปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง
และประสานความร่วมมือกับนานาชาติและองค์กรระหว่างประเทศเกี่ยวกับการวิจัยและพัฒนานวัตกรรมและองค์ความรู้รองรับการดำเนินการ
ในส่วนข้อเสนอแนะต่อแนวโน้มสถานการณ์ภายในประเทศ
ควรเพิ่มการใช้เครื่องมือของภาครัฐประเภทอื่นที่มีอยู่มาสนับสนุนการดำเนินการนำเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารมาใช้เป็นเครื่องมือในการจำกัดติดตามและเฝ้าระวังบุคคลเพื่อบรรเทาสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
๒๐๑๙ การเสนอข้อเท็จจริงของข่าวสารต่าง ๆ
เกี่ยวกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคและการนำเทคโนโลยีมาใช้ในการขับเคลื่อนมาตรการด้านสาธารณสุข
การบูรณาการมาตรการต่าง ๆ ระหว่างหน่วยงานของรัฐ ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และแจ้งให้สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาทราบต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
79 | ผลการพิจารณาของคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ ในคราวประชุมครั้งที่ 30/2564 | นร.11 สศช | 24/08/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. รับทราบมติของคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้
ในคราวประชุมครั้งที่ ๓๐/๒๕๖๔ เมื่อวันที่ ๒๐ สิงหาคม ๒๕๖๔ ในส่วนของโครงการพัฒนาและเสริมสร้างความเข้มแข็งของเศรษฐกิจฐานราก
ครั้งที่ ๒ รวม ๑๒ จังหวัด จำนวน ๒,๑๘๖ โครงการ กรอบวงเงินรวม ๓,๕๘๗,๒๑๘,๕๑๔ บาท และให้กระทรวงมหาดไทย
(สำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย) เร่งรวบรวมโครงการที่ผ่านการพิจารณาแล้ว ดำเนินการให้เป็นไปตามระเบียบว่าด้วยการบริหารงบประมาณรายจ่ายงบกลาง
รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น พ.ศ. ๒๕๖๒ และมอบหมายให้จังหวัดรับความเห็นและข้อสังเกตของคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้
ตามผลการพิจารณาของคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ ในคราวประชุมครั้งที่ ๒๙/๒๕๖๔
ไปประกอบการดำเนินการตามขั้นตอน รวมทั้งจัดทำแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ
โดยคำนึงถึงศักยภาพและความสามารถในการใช้จ่าย ความคุ้มค่า ประหยัด เป้าหมาย
และประโยชน์ที่ทางราชการและประชาชนได้รับเป็นสำคัญ ตามความเห็นของสำนักงบประมาณต่อไป ๒. อนุมัติตามผลการพิจารณาของคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้
ในคราวประชุมครั้งที่ ๓๐/๒๕๖๔ เมื่อวันที่ ๒๐ สิงหาคม ๒๕๖๔ ซึ่งได้พิจารณาอนุมัติให้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
ขยายระยะเวลาการดำเนินโครงการกำลังใจ จากเดิม สิ้นสุดระยะเวลาเบิกจ่ายในเดือนสิงหาคม
๒๕๖๔ เป็น เดือนธันวาคม ๒๕๖๔
มอบหมายให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
รับไปพิจารณาความเหมาะสมของช่วงระยะเวลาที่จะเริ่มดำเนินโครงการเราเที่ยวด้วยกันและโครงการทัวร์เที่ยวไทย
อนุมัติให้กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ขยายระยะเวลาการดำเนินโครงการยกระดับหน่วยบริการกรมอนามัยรองรับการระบาดของโรค
COVID-๑๙
จากเดิม เดือนมิถุนายน-กันยายน ๒๕๖๔ เป็น เดือนมิถุนายน-ธันวาคม ๒๕๖๔
และอนุมัติให้มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ขยายระยะเวลาการดำเนินการโครงการ Gastronomy
Tourism : LANNA Gastronomy “คิดถึงเชียงใหม่”
จากเดิม ๑ ตุลาคม ๒๕๖๓ ถึง ๓๐ กันยายน ๒๕๖๔ เป็น ๑ ตุลาคม ๒๕๖๓ ถึง ๓๑ ธันวาคม
๒๕๖๔ ตามที่เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ประธานกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้เสนอ
และให้หน่วยงานรับผิดชอบโครงการและกระทรวงต้นสังกัดรับความเห็นของกระทรวงการคลัง
และสำนักงบประมาณ โดยให้กระทรวงต้นสังกัดกำกับดูแลให้หน่วยงานเจ้าของโครงการดำเนินโครงการให้แล้วเสร็จตามแผนงานที่กำหนด
และติดตามการดำเนินโครงการอย่างใกล้ชิด
เพื่อให้การใช้จ่ายเงินกู้เป็นไปอย่างคุ้มค่า มีประสิทธิภาพ
และบรรลุผลสัมฤทธิ์ของโครงการตามที่ได้กำหนดไว้
ตลอดจนการปฏิบัติตามขั้นตอนของกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ
และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง ให้ถูกต้องครบถ้วนอย่างเคร่งครัด ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
ทั้งนี้ ในส่วนของโครงการพัฒนาและเสริมสร้างความเข้มแข็งของเศรษฐกิจฐานราก
ครั้งที่ ๒ ให้เป็นไปตามข้อ ๑ ๓. ให้เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ประธานกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี)
ในการเสนอเรื่องนี้ |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
80 | ขอรับการสนับสนุนงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 งบกลาง รายการค่าใช้จ่ายในการบรรเทา แก้ไขปัญหา และเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 กรณีให้บริการฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) นอกสถานพยาบาล กระทรวงสาธารณสุข | สธ. | 10/08/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. รับทราบโครงการแก้ไขปัญหาโรคติดต่ออุบัติใหม่ : กรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
2019 (COVID-19) ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๔
กรณีให้บริการฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) นอกสถานพยาบาล กระทรวงสาธารณสุข และอนุมัติรับการสนับสนุนงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๔ งบกลาง รายการค่าใช้จ่ายในการบรรเทา แก้ไขปัญหา และเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
๒๐๑๙ กรณีให้บริการฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) นอกสถานพยาบาล กระทรวงสาธารณสุข จำนวนเงินทั้งสิ้น
๑,๘๗๗,๔๕๕,๐๐๐
บาท ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ ทั้งนี้ ให้กระทรวงสาธารณสุขเร่งประเมินผลและพิจารณาปรับเป้าหมายของโครงการแก้ไขปัญหาโรคติดต่ออุบัติใหม่
: กรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.
๒๕๖๔ กรณีให้บริการฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) นอกสถานพยาบาล กระทรวงสาธารณสุข
ให้เหมาะสมและสอดคล้องกับข้อเท็จจริงในปัจจุบัน
เพื่อให้การดำเนินโครงการดังกล่าวเป็นระบบและมีประสิทธิภาพประสิทธิผลมากยิ่งขึ้นต่อไป ๒. ให้กระทรวงสาธารณสุขได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี)
ในการเสนอเรื่องนี้
|