ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 61 จากทั้งหมด 74 หน้า แสดงรายการที่ 1201 - 1220 จากข้อมูลทั้งหมด 1462 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
1201 | กระทู้ถามที่ 1279 ร. เรื่อง ปัญหาท่อระบายน้ำทรุด | สผ | 23/03/2547 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอคำตอบกระทู้ถามที่ 1279 ร. เรื่อง ปัญหา
ท่อระบายน้ำทรุด ของนายสุขุมพงศ์ โง่นคำ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดกาฬสินธุ์ และให้ประกาศในราช กิจจานุเบกษาต่อไป โดยสาระสำคัญของคำตอบสรุปได้ว่า กระทรวงคมนาคมเป็นหน่วยงานหลักของประเทศ ในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเครือข่ายคมนาคมภายในประเทศ เพื่อให้เชื่อมโยงต่อกันอย่างมีประสิทธิภาพ สะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย และมีหน่วยงานในสังกัดที่มีภารกิจด้านการก่อสร้างถนน คือ กรมทางหลวง รับผิดชอบก่อสร้างทางหลวงแผ่นดินที่เชื่อมระหว่างจังหวัด อำเภอต่าง ๆ ส่วนกรมทางหลวงชนบท รับผิดชอบ โครงข่ายสายรองที่เชื่อมระหว่างกรมทางหลวง และยังมีภารกิจที่ต้องสนับสนุนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ รับโอนภารกิจถนนในท้องถิ่นด้านวิชาการเพื่อให้สามารถดำเนินการเองได้ในอนาคต ทั้งนี้ กระทรวงคมนาคม โดยกรมทางหลวงชนบท ได้ตรวจสอบสายทางพบว่า ถนน รพช. สายสมเด็จ - หนองหญ้าปล้อง ตำบลยอด แกง อำเภอนามน จังหวัดกาฬสินธุ์ เป็นสายเดียวกันกับถนนสาย กส 3061 สี่แยกสมเด็จ - บ้านยอดแก่ง อำเภอสมเด็จ อำเภอนามน จังหวัดกาฬสินธุ์ ซึ่งได้ถ่ายโอนไปอยู่ในความรับผิดชอบขององค์การบริหารส่วน จังหวัดกาฬสินธุ์ ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2545 เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนอันเกิดมาจากการทรุด ตัวของถนนช่วง กม. ที่ 3+000 เนื่องจากการทรุดตัวของท่อระบายน้ำที่ถูกน้ำกัดเซาะเสียหาย สำนักงานทาง หลวงชนบทจังหวัดกาฬสินธุ์ ได้ดำเนินการซ่อมผิวทางที่ทรุดตัวให้สามารถใช้การได้เป็นปกติในเบื้องต้นก่อน แล้ว ส่วนการแก้ไขในระยะยาว กรมทางหลวงชนบทได้ประสานงานให้องค์การบริหารส่วนจังหวัดกาฬสินธุ์ซึ่ง รับผิดชอบโครงการดังกล่าวทราบเพื่อพิจารณาจัดสรรงบประมาณอุดหนุนมาดำเนินการเพื่อแก้ไขปัญหาของ ประชาชนในพื้นที่ต่อไป โดยกรมทางหลวงชนบทยังคงดำเนินการให้การสนับสนุนในด้านวิชาการเพื่อการแก้ ไขปัญหาดังกล่าวต่อไปด้วย |
|||||||||||||||||||||
1202 | โครงการฝึกอบรมเพื่อเตรียมความพร้อมครอบครัวผาสุก | พม | 23/03/2547 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 6 (คกก.6)
ที่มีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เสนอการขยายผลโครงการฝึกอบรม เพื่อเตรียมความพร้อมครอบครัวผาสุก โดยให้กระทรวงมหาดไทยรับไปประสานเพื่อทำความเข้าใจกับองค์กร ปกครองส่วนท้องถิ่นในเรื่องนี้ และให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จัดทำโครงการเพื่อ เสนอของบประมาณดำเนินการในเรื่องดังกล่าวต่อไป ทั้งนี้ ให้รับข้อสังเกตของ คกก.6 ไปพิจารณาดำเนินการ ด้วย ดังนี้ กรณีให้กระทรวงมหาดไทยจัดสรรงบประมาณร้อยละ 3-5 จากงบประมาณขององค์การบริหารส่วน จังหวัด เทศบาล และองค์การบริหารส่วนตำบลมาดำเนินการจัดทำโครงการให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ จะขอความ ร่วมมือได้มากน้อยแค่ไหน หรือจะใช้วิธีตั้งงบประมาณในส่วนกลาง และหากคณะกรรมการการกระจายอำนาจ ให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นตัดงบประมาณส่วนหนึ่งเพื่อใช้ในโครงการจะสามารถทำได้หรือไม่ ประกอบ กับขณะนี้เรื่องทุนทางสังคมและการแก้ไขปัญหายากจนได้ถูกกำหนดเป็นกรอบยุทธศาสตร์ที่ชัดเจน ซึ่งสำนัก งานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ จะนำเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อให้ความเห็นชอบต่อไป ดังนั้น กระทรวงการพัฒนาสังคม ฯ สามารถใช้อ้างอิงในการของบประมาณปี พ.ศ. 2548 ได้ โดยจัดทำแผน งาน/โครงการ และงบประมาณในรายละเอียด มีดัชนีตัวชี้วัด และการประเมินผลในลักษณะเดียวกับโครงการ ทางเศรษฐกิจ และต้องมีการบูรณาการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อจะได้ไม่ตั้งงบประมาณซ้ำซ้อนกัน รวมทั้ง จะต้องพิจารณาจากศักยภาพของหน่วยงานด้วยว่า จะสามารถดำเนินการได้มากน้อยแค่ไหน เพราะอาจจะมี ปัญหาเรื่องการบริหารจัดการได้ และเนื่องจากเงินที่ท้องถิ่นได้รับจัดสรรจะได้ไม่เท่ากัน จำนวนประชากรแต่ ละท้องถิ่นก็ไม่เท่ากัน จะทำให้ขาดความชัดเจนแน่นอนของการใช้เงิน อีกทั้งโครงการไม่ได้มีมาตรการบังคับ ให้ต้องจัดทำ เมื่อจำนวนเงินแตกต่าง รูปแบบก็จะแตกต่างกันด้วย หากกระทรวงการพัฒนาสังคม ฯ ทำคู่มือ ให้องค์การบริหารส่วนตำบลเห็นว่าถ้าอยากร่วมโครงการควรต้องทำอย่างไร สถานภาพเป็นอย่างไร บทบาท ของหน่วยสนับสนุนเป็นอย่างไร ครบถ้วนเป็นสูตรที่พร้อมปฏิบัติการได้ นอกจากนี้ ควรมีการสนับสนุนใน เรื่องของสื่อและในเรื่องของวิทยากรทั้งจากท้องถิ่นเองหรือจากส่วนกลาง ซึ่งในส่วนของท้องถิ่นต้องขอความ ร่วมมือจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่มีความพร้อมโดยพิจารณาศักยภาพของหน่วยงานด้วยว่าจะสามารถ ดำเนินการได้มากน้อยแค่ไหน เพราะอาจจะมีปัญหาในเรื่องการบริหารจัดการได้ โดยให้กระทรวงการพัฒนา สังคม ฯ ควรตั้งงบประมาณในส่วนของกระทรวงขึ้นมา และให้กระทรวงมหาดไทยทำความเข้าใจกับองค์กรปก ครองส่วนท้องถิ่น สำหรับสำนักงบประมาณควรพิจารณาจากยุทธศาสตร์ในการพัฒนาจังหวัดในหลายด้าน ไม่ใช่พิจารณาเฉพาะศักยภาพการแข่งขันเท่านั้น ควรพิจารณาในด้านการพัฒนาสังคมเพื่อให้การพัฒนาเกิด ความสมดุลด้วย |
|||||||||||||||||||||
1203 | โครงการเสริมสร้างความมั่นคงทางสังคมในพื้นที่จังหวัดยะลา ปัตตานี และนราธิวาส (วาระสำคัญของรัฐบาล) | มท | 16/03/2547 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอโครงการเสริมสร้างความมั่นคงทางสังคม
ในพื้นที่จังหวัดยะลา ปัตตานี และนราธิวาส ซึ่งกระทรวงมหาดไทย โดยกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ร่วม กับกรมการพัฒนาชุมชนจัดทำโครงการดังกล่าวขึ้น โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อสนับสนุนและเสริมสร้างให้องค์กร ปกครองส่วนท้องถิ่นสามารถสร้างและดำเนินการตามภารกิจ อำนาจหน้าที่ ในการพัฒนาสังคมและชุมชน เพื่อให้ประชาชนมีความรู้สึกในความมั่นคงของการอยู่ร่วมกันในสังคม เพื่อพัฒนาสังคมและชุมชนในองค์กรปก ครองส่วนท้องถิ่นให้มีความเข้มแข็ง และเพื่อบูรณาการการทำงานร่วมกันของกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น และกรมการพัฒนาชุมชนในการเสริมสร้างชุมชนเข้มแข็ง ทั้งนี้ จะดำเนินการในพื้นที่องค์กรปกครองส่วนท้อง ถิ่น จำนวน263 แห่ง งบประมาณดำเนินการแห่งละ 200,000 บาท รวมเป็นเงิน 52,600,000 บาท โดยเบิก จ่ายจากเงินอุดหนุนทั่วไป สำหรับพัฒนาองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในกรณีเร่งด่วน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2547 ระยะเวลาดำเนินการเดือนมีนาคม 2547 ถึงเดือนกันยายน 2547 |
|||||||||||||||||||||
1204 | ขอรับการสนับสนุนงบประมาณค่าก่อสร้างโครงการแก้ไขปัญหาระบบระบายน้ำบริเวณสี่แยกถนนมิตรภาพตัดกับถนนศรีจันทร์ อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น | ทส | 09/03/2547 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 3 ที่มีมติเห็นชอบ
ในหลักการตามที่คณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติเสนอโครงการแก้ไขปัญหาระบบระบายน้ำบริเวณสี่แยกถนน มิตรภาพตัดกับถนนศรีจันทร์ อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น สำหรับงบประมาณดำเนินการให้ขอรับการสนับสนุน งบประมาณที่กรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่นโดยตรง โดยขอให้กรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่นปรับแผน การใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2547 แผนงานส่งเสริมและพัฒนาองค์กรปกครองส่วน ท้องถิ่น งานส่งเสริมและพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น รายการเงินอุดหนุนสำหรับพัฒนา องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในกรณีเร่งด่วน ซึ่งตั้งงบประมาณปี พ.ศ. 2547 ไว้จำนวน 2,000 ล้านบาท หรือปรับ แผนการใช้จ่ายของแผนงาน/งานอื่นใดที่กรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่นเห็นสมควรแล้ว หากยังไม่เพียงพอ ก็ ให้ขอทำความตกลงกับสำนักงบประมาณอีกครั้งหนึ่ง ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ |
|||||||||||||||||||||
1205 | การจัดทำงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2547 | นร | 09/03/2547 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเสนอแนวทางการจัดสรรและ
หลักเกณฑ์การจัดสรรเงินอุดหนุนให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) จำนวน 12,300 ล้านบาท ตาม มติคณะกรรมการการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (กกถ.) ครั้งที่ 2/2547 เมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2547 ซึ่งเห็นชอบแนวทางการจัดสรรและหลักเกณฑ์การจัดสรรเงินอุดหนุนดังกล่าว ตามที่ คณะอนุกรรมการเฉพาะกิจจัดสรรเงินอุดหนุนทั่วไป เพื่อลดช่องว่างทางการคลัง และเพิ่มขีดความสามารถใน การดำเนินการขยายท้องถิ่นในการจัดการภารกิจที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นได้รับการถ่ายโอนและภารกิจ การถ่ายโอนในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เสนอ ยกเว้น แนวทางการจัดสรรที่ให้ อปท. ต้องจัดทำโครงการ ตามอำนาจหน้าที่ให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์การพัฒนาจังหวัด โดยผ่านการพิจารณาของคณะกรรมการ บริหารงานจังหวัดแบบบูรณาการ (กบจ.) และสภาท้องถิ่น สำหรับกรุงเทพมหานครให้จัดทำโครงการสอด คล้องกับยุทธศาสตร์การพัฒนากรุงเทพมหานคร ให้แก้ไขเป็น "ให้ อปท. จัดทำโครงการตามอำนาจหน้าที่ ให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์การพัฒนาจังหวัดตามแนวทางที่ กบจ. กำหนด โดยให้แจ้ง อปท. ทราบ สำหรับ กรุงเทพมหานครให้จัดทำโครงการสอดคล้องกับยุทธศาสตร์การพัฒนากรุงเทพมหานคร" ทั้งนี้ เพื่อให้ อปท. มีอิสระในการดำเนินงานและมีกรอบในการจัดทำโครงการที่สอดคล้องกับแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาจังหวัด และให้ดำเนินการต่อไปได้ โดยให้ กกถ. รับความเห็นของสำนักงบประมาณเกี่ยวกับการกำหนดกรอบการใช้ จ่ายเงินอุดหนุน ฯ ที่ชัดเจนและมีมาตรฐานกลาง รวมทั้งเร่งรัดให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นดำเนินการใช้ จ่ายเงินงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2547 โดยเร็ว ไปพิจารณาดำเนินการด้วย
|
|||||||||||||||||||||
1206 | ขอรับการสนับสนุนงบประมาณค่าก่อสร้างโครงการแก้ไขปัญหาระบบระบายน้ำบริเวณสี่แยกถนนมิตรภาพตัดกับถนนศรีจันทร์ อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น | ทส | 09/03/2547 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 3 ที่มีมติเห็นชอบ
ในหลักการตามที่คณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติเสนอโครงการแก้ไขปัญหาระบบระบายน้ำบริเวณสี่แยกถนน มิตรภาพตัดกับถนนศรีจันทร์ อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น สำหรับงบประมาณดำเนินการให้ขอรับการสนับสนุน งบประมาณที่กรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่นโดยตรง โดยขอให้กรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่นปรับแผน การใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2547 แผนงานส่งเสริมและพัฒนาองค์กรปกครองส่วน ท้องถิ่น งานส่งเสริมและพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น รายการเงินอุดหนุนสำหรับพัฒนา องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในกรณีเร่งด่วน ซึ่งตั้งงบประมาณปี พ.ศ. 2547 ไว้จำนวน 2,000 ล้านบาท หรือปรับ แผนการใช้จ่ายของแผนงาน/งานอื่นใดที่กรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่นเห็นสมควรแล้ว หากยังไม่เพียงพอ ก็ ให้ขอทำความตกลงกับสำนักงบประมาณอีกครั้งหนึ่ง ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ |
|||||||||||||||||||||
1207 | การจัดทำงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2547 | นร | 09/03/2547 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเสนอแนวทางการจัดสรรและ
หลักเกณฑ์การจัดสรรเงินอุดหนุนให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) จำนวน 12,300 ล้านบาท ตาม มติคณะกรรมการการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (กกถ.) ครั้งที่ 2/2547 เมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2547 ซึ่งเห็นชอบแนวทางการจัดสรรและหลักเกณฑ์การจัดสรรเงินอุดหนุนดังกล่าว ตามที่ คณะอนุกรรมการเฉพาะกิจจัดสรรเงินอุดหนุนทั่วไป เพื่อลดช่องว่างทางการคลัง และเพิ่มขีดความสามารถใน การดำเนินการขยายท้องถิ่นในการจัดการภารกิจที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นได้รับการถ่ายโอนและภารกิจ การถ่ายโอนในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เสนอ ยกเว้น แนวทางการจัดสรรที่ให้ อปท. ต้องจัดทำโครงการ ตามอำนาจหน้าที่ให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์การพัฒนาจังหวัด โดยผ่านการพิจารณาของคณะกรรมการ บริหารงานจังหวัดแบบบูรณาการ (กบจ.) และสภาท้องถิ่น สำหรับกรุงเทพมหานครให้จัดทำโครงการสอด คล้องกับยุทธศาสตร์การพัฒนากรุงเทพมหานคร ให้แก้ไขเป็น "ให้ อปท. จัดทำโครงการตามอำนาจหน้าที่ ให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์การพัฒนาจังหวัดตามแนวทางที่ กบจ. กำหนด โดยให้แจ้ง อปท. ทราบ สำหรับ กรุงเทพมหานครให้จัดทำโครงการสอดคล้องกับยุทธศาสตร์การพัฒนากรุงเทพมหานคร" ทั้งนี้ เพื่อให้ อปท. มีอิสระในการดำเนินงานและมีกรอบในการจัดทำโครงการที่สอดคล้องกับแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาจังหวัด และให้ดำเนินการต่อไปได้ โดยให้ กกถ. รับความเห็นของสำนักงบประมาณเกี่ยวกับการกำหนดกรอบการใช้ จ่ายเงินอุดหนุน ฯ ที่ชัดเจนและมีมาตรฐานกลาง รวมทั้งเร่งรัดให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นดำเนินการใช้ จ่ายเงินงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2547 โดยเร็ว ไปพิจารณาดำเนินการด้วย |
|||||||||||||||||||||
1208 | กระทู้ถามที่ 1154 ร. เรื่อง การรณรงค์ให้ประชาชนในกรุงเทพมหานครอนุรักษ์และพัฒนาดูแลรักษาลำคลองสายต่าง ๆ เพื่อเป็นเส้นทางเดินทางและท่องเที่ยว | สผ | 02/03/2547 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอคำตอบกระทู้ถามที่ 1154
ร. เรื่อง การรณรงค์ให้ประชาชนในกรุงเทพมหานครอนุรักษ์และพัฒนาดูแลรักษาลำคลองสายต่าง ๆ เพื่อ เป็นเส้นทางเดินทางและท่องเที่ยว ของนายศิริ หวังบุญเกิด สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรกรุงเทพมหานคร และ ให้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาต่อไป โดยสาระสำคัญของคำตอบสรุปได้ว่า รัฐบาลมีนโยบายและแนวทาง ในการอนุรักษ์และพัฒนาแม่น้ำ คู คลอง โดยมีมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 18 กันยายน 2544 เห็นชอบ กำหนดให้วันที่ 20 กันยายนของทุกปี เป็นวันอนุรักษ์และพัฒนาแม่น้ำ คู คลอง แห่งชาติ รวมทั้งได้กำหนด ให้ปี พ.ศ. 2544-พ.ศ. 2546 เป็น "ปีแห่งการอนุรักษ์และพัฒนาแม่น้ำ คู คลอง" รวมทั้งให้มีการตั้งคณะ กรรมการระดับชาติ เพื่อเป็นองค์กรหลักในการอนุรักษ์และพัฒนาสภาพแวดล้อม แม่น้ำ คู คลอง และ ให้สำนักงบประมาณสนับสนุนงบประมาณ เพื่อดำเนินการตามนโยบายและแผนงานและโครงการนำร่องที่ กำหนด นอกจากนี้ ได้มีการพัฒนาและดำรงรักษาแม่น้ำ คู คลอง ไม่ให้เสื่อมโทรมไปกว่าที่เป็นอยู่ โดยเร่ง ฟื้นฟูแม่น้ำ คู คลอง ที่เสื่อมโทรม เพื่อให้สามารถนำมาใช้ประโยชน์ในด้านการคมนาคมขนส่ง การเกษตร การอุปโภคและบริโภค และวิถีชีวิตของประชาชน ให้มีกลไกในการกำกับดูแลการอนุรักษ์และพัฒนาแม่น้ำ คู คลอง ทั้งในระดับท้องถิ่น ระดับภาค และระดับประเทศ โดยมีกฎหมายรองรับ และให้มีการขึ้นทะเบียนแม่ น้ำ คูคลองที่ควรอนุรักษ์ เพื่อให้มีการดูแลรักษาและใช้ประโยชน์อย่างเหมาะสม และมีแผนการอนุรักษ์และ พัฒนาสภาพแวดล้อมแม่น้ำ คู คลอง ได้แก่ แผนปฏิบัติงานระยะเร่งด่วน (พ.ศ. 2544-พ.ศ. 2546) และ แผนปฏิบัติงานระยะยาว (พ.ศ. 2544-พ.ศ. 2549) สำหรับมาตรการที่ให้ประชาชนหันมาใช้การคมนาคม ทางน้ำด้วยความปลอดภัย กรุงเทพมหานคร โดยสำนักการจราจรและขนส่ง ได้ประสานกรมการขนส่งทาง น้ำและพาณิชยนาวี ในการขอรับโอนสถานีขนส่งทางน้ำ (ท่าเทียบเรือสาธารณะ ท่าข้าม) จากกระทรวง คมนาคม ตามแผนการถ่ายโอนภารกิจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ส่วนการพัฒนาปรับปรุงลำคลอง สายต่าง ๆ ในกรุงเทพมหานครให้เป็นเส้นทางเดินทางและท่องเที่ยวทางน้ำ ได้มีการกำหนดไว้ในแผนงาน ระยะเร่งด่วน (พ.ศ. 2544-พ.ศ. 2546) และแผนปฏิบัติงานระยะยาว (พ.ศ. 2544-พ.ศ. 2549) ประกอบ ด้วย แผนงานการฟื้นฟูคุณภาพสิ่งแวดล้อม แผนงานการฟื้นฟูธรรมชาติ ศิลปวัฒนธรรมและภูมิปัญญา ท้องถิ่น และแผนงานส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ |
|||||||||||||||||||||
1209 | ร่างแผนปฏิบัติการเพื่อกำหนดขั้นตอนการกระจายอำนาจทางการเงิน การคลัง และงบประมาณให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และร่างแผนปฏิบัติการถ่ายโอนบุคลากรให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น | นร | 02/03/2547 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่สำนักนายกรัฐมนตรีเสนอร่างแผนปฏิบัติการเพื่อกำหนดขั้นตอนการ
กระจายอำนาจทางการเงิน การคลัง และงบประมาณให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และร่างแผนปฏิบัติการ ถ่ายโอนบุคลากรให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ที่ได้ปรับปรุงแล้ว และให้รายงานต่อรัฐสภาเพื่อประกาศใน ราชกิจจานุเบกษาใช้บังคับต่อไป โดยร่างแผนปฏิบัติการเพื่อกำหนดขั้นตอนการกระจายอำนาจทางการเงิน การ คลัง และงบประมาณ ฯ ได้แก้ไขหน้า 25-29 ภารกิจการจัดสรรเงินอุดหนุน กิจกรรม/ขั้นตอน ข้อ 4.1.3, 4.2.3, 4.3.3 และ 4.4.3 เพื่อให้สอดคล้องกับการจัดทำงบประมาณระยะปานกลางของสำนักงบประมาณ โดยแก้ไขข้อ ความจากเดิม "ของสำนักงบประมาณ" เป็น "และนโยบายของคณะกรรมการการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปก ครองส่วนท้องถิ่น (กกถ.)" และแก้ไขหน้า 25 ภารกิจการจัดสรรเงินอุดหนุน กิจกรรมข้อ 4.1-4.4 โดยแก้ไขข้อ ในช่องหมายเหตุ เป็น "ให้สำนักงบประมาณ กระทรวงมหาดไทย และส่วนราชการที่เกี่ยวข้องถือปฏิบัติเกี่ยวกับ การจัดสรรเงินอุดหนุน โดยขอความเห็นจาก กกถ. และดำเนินการให้สอดคล้องกับมติ กกถ. ที่ได้รับความเห็น ชอบจากคณะรัฐมนตรีแล้ว ก่อนที่จะนำร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีเสนอต่อคณะรัฐมนตรี และดำเนินการอย่างต่อเนื่อง" ส่วนร่างแผนปฏิบัติการถ่ายโอนบุคลากรให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ได้เพิ่ม มาตรการในขั้นตอนและวีธีการถ่ายโอนบุคลากรเรื่องการเตรียมความพร้อมสำหรับการถ่ายโอนบุคลากรระยะที่ 2 ปี 2547 ซึ่งเน้นการสร้างระบบจูงใจเป็นตัวนำ ทั้งในเรื่องการปรับปรุงทางก้าวหน้า สิทธิประโยชน์เมื่อเป็น พนักงานส่วนท้องถิ่น รวมทั้งเพิ่มให้มีการศึกษาและปรับกำลังคนภาครัฐให้มีความหลากหลาย ปรับโครงสร้าง การบริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นให้มีขนาดใหญ่ ตลอดจนปรับปรุงระบบบริหารงานบุคคลสำหรับท้องถิ่น ให้ยืดหยุ่นตามสภาพปัญหาและฐานะทางการเงินขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) และให้มีระบบรองรับ เมื่อไม่สามารถจัดบุคลากรลงท้องถิ่นได้อย่างเหมาะสม นอกจากนี้ได้ปรับปรุงในส่วนของตารางสรุปรายละเอียด ของแผน โดยให้แสดงภารกิจกิจกรรมและขั้นตอน ระยะเวลา และหน่วยงานรับผิดชอบในแต่ละกิจกรรม ให้ สอดคล้องกับแผนปฏิบัติการ กำหนดขั้นตอนการกระจายอำนาจ ฯ และแผนปฏิบัติการเพื่อกำหนดขั้นตอนการ กระจายอำนาจทางการเงิน ฯ ตลอดจนข้อเท็จจริงในปัจจุบัน |
|||||||||||||||||||||
1210 | ร่างแผนปฏิบัติการเพื่อกำหนดขั้นตอนการกระจายอำนาจทางการเงิน การคลัง และงบประมาณให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และร่างแผนปฏิบัติการถ่ายโอนบุคลากรให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น | นร | 02/03/2547 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่สำนักนายกรัฐมนตรีเสนอร่างแผนปฏิบัติการเพื่อกำหนดขั้นตอนการ
กระจายอำนาจทางการเงิน การคลัง และงบประมาณให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และร่างแผนปฏิบัติการ ถ่ายโอนบุคลากรให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ที่ได้ปรับปรุงแล้ว และให้รายงานต่อรัฐสภาเพื่อประกาศใน ราชกิจจานุเบกษาใช้บังคับต่อไป โดยร่างแผนปฏิบัติการเพื่อกำหนดขั้นตอนการกระจายอำนาจทางการเงิน การ คลัง และงบประมาณ ฯ ได้แก้ไขหน้า 25-29 ภารกิจการจัดสรรเงินอุดหนุน กิจกรรม/ขั้นตอน ข้อ 4.1.3, 4.2.3, 4.3.3 และ 4.4.3 เพื่อให้สอดคล้องกับการจัดทำงบประมาณระยะปานกลางของสำนักงบประมาณ โดยแก้ไขข้อ ความจากเดิม "ของสำนักงบประมาณ" เป็น "และนโยบายของคณะกรรมการการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปก ครองส่วนท้องถิ่น (กกถ.)" และแก้ไขหน้า 25 ภารกิจการจัดสรรเงินอุดหนุน กิจกรรมข้อ 4.1-4.4 โดยแก้ไขข้อ ในช่องหมายเหตุ เป็น "ให้สำนักงบประมาณ กระทรวงมหาดไทย และส่วนราชการที่เกี่ยวข้องถือปฏิบัติเกี่ยวกับ การจัดสรรเงินอุดหนุน โดยขอความเห็นจาก กกถ. และดำเนินการให้สอดคล้องกับมติ กกถ. ที่ได้รับความเห็น ชอบจากคณะรัฐมนตรีแล้ว ก่อนที่จะนำร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีเสนอต่อคณะรัฐมนตรี และดำเนินการอย่างต่อเนื่อง" ส่วนร่างแผนปฏิบัติการถ่ายโอนบุคลากรให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ได้เพิ่ม มาตรการในขั้นตอนและวีธีการถ่ายโอนบุคลากรเรื่องการเตรียมความพร้อมสำหรับการถ่ายโอนบุคลากรระยะที่ 2 ปี 2547 ซึ่งเน้นการสร้างระบบจูงใจเป็นตัวนำ ทั้งในเรื่องการปรับปรุงทางก้าวหน้า สิทธิประโยชน์เมื่อเป็น พนักงานส่วนท้องถิ่น รวมทั้งเพิ่มให้มีการศึกษาและปรับกำลังคนภาครัฐให้มีความหลากหลาย ปรับโครงสร้าง การบริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นให้มีขนาดใหญ่ ตลอดจนปรับปรุงระบบบริหารงานบุคคลสำหรับท้องถิ่น ให้ยืดหยุ่นตามสภาพปัญหาและฐานะทางการเงินขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) และให้มีระบบรองรับ เมื่อไม่สามารถจัดบุคลากรลงท้องถิ่นได้อย่างเหมาะสม นอกจากนี้ได้ปรับปรุงในส่วนของตารางสรุปรายละเอียด ของแผน โดยให้แสดงภารกิจกิจกรรมและขั้นตอน ระยะเวลา และหน่วยงานรับผิดชอบในแต่ละกิจกรรม ให้ สอดคล้องกับแผนปฏิบัติการ กำหนดขั้นตอนการกระจายอำนาจ ฯ และแผนปฏิบัติการเพื่อกำหนดขั้นตอนการ กระจายอำนาจทางการเงิน ฯ ตลอดจนข้อเท็จจริงในปัจจุบัน
|
|||||||||||||||||||||
1211 | แผนยุทธศาสตร์การจัดการพื้นที่ป่าไม้ของชาติแบบบูรณาการ | ทส | 22/02/2547 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 3 (คกก.3) ที่มี
มติเห็นชอบในหลักการตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอแผนยุทธศาสตร์การจัดการพื้นที่ ป่าไม้ของชาติแบบบูรณาการ โดยให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ ฯ ร่วมกับสำนักงบประมาณและสำนักงานคณะ กรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ รับไปแปลงแผนยุทธศาสตร์การจัดการพื้นที่ป่าไม้ของชาติแบบ บูรณาการไปสู่การปฏิบัติให้มีความชัดเจน และนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาภายใน 30 วัน และให้กระทรวง ทรัพยากรธรรมชาติ ฯ ดำเนินการแต่งตั้งคณะกรรมการติดตามประเมินผลการดำเนินการตามแผน พร้อมทั้งรับ ความเห็นเพิ่มเติมกับข้อสังเกตของ คกก.3 ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย ดังนี้ แผนยุทธศาสตร์ที่เสนอ ยังมี ความไม่ชัดเจนในประเด็นของแนวทางการดำเนินการ เป้าหมาย กลไกการจัดการพื้นที่ป่าไม้ และการแปลงแผน ไปสู่การปฏิบัติ ซึ่งทำให้ไม่สามารถจัดสรรงบประมาณค่าใช้จ่ายให้ครอบคลุมการดำเนินการตามแผนได้ทั้งหมด จึงเห็นควรให้สำนักงบประมาณ และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ดำเนินการ ปรับปรุงรายละเอียดของแผนดังกล่าวให้มีความชัดเจน เพื่อให้การจัดสรรงบประมาณค่าใช้จ่ายมีความสอดคล้อง กับแผนต่อไป สำหรับคณะกรรมการที่ทำหน้าที่บริหารจัดการทรัพยากรป่าไม้ ซึ่งแต่งตั้งโดยส่วนราชการต่าง ๆ หลายคณะ ทำให้การบริหารจัดการไม่มีความเป็นเอกภาพ จึงควรปรับปรุงองค์ประกอบหน้าที่ของคณะกรรม การดังกล่าวให้อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของคณะกรรมการระดับชาติเพียงคณะเดียวโดยให้มีผู้แทนจากหน่วยงาน ต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ทั้งภาครัฐ เอกชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และองค์กรต่าง ๆ ร่วมเป็นองค์ประกอบของ คณะกรรมการระดับชาติด้วย เพื่อนำแผนไปสู่การปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม ส่วนความหมายของคำศัพท์ภาษา อังกฤษ คำว่า "Geographic Information System" หรือ " GIS" ที่นำมาแปลเป็นภาษาไทยยังมีความแตกต่างกัน อาจทำให้เกิดความสับสน จึงเห็นควรกำหนดให้คำศัพท์ภาษาอังกฤษดังกล่าวมีความหมายในภาษาไทยว่า "ภูมิ สารสนเทศ" นอกจากนี้ ในการแปลงแผนยุทธศาสตร์ ฯ ไปสู่การปฏิบัติ ควรทำเป็นแผนปฏิบัติการ 2 ระยะ คือ ระยะแรกเป็นแผนเร่งด่วนดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 2 ปี และระยะต่อไปเป็นแผนระยะยาว ซึ่งควรจัดทำใน เชิงบูรณาการและควรมีการแต่งตั้งคณะกรรมการติดตามประเมินผลการดำเนินการตามแผนด้วย |
|||||||||||||||||||||
1212 | การป้องกันและแก้ไขปัญหาอุบัติภัยจากก๊าซหุงต้ม | มท | 22/02/2547 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอแนวทางการป้องกันและแก้ไขปัญหาอุบัติภัย
จากก๊าซหุงต้มในระยะยาว และให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องถือปฏิบัติต่อไป ดังนี้ ให้กระทรวงพลังงาน เป็นศูนย์กลาง ในการบูรณาการการอนุญาต การควบคุม การตรวจสอบ การบรรจุ การสะสม การจำหน่าย และการตั้งสถานี จำหน่ายก๊าซหุงต้ม รวมทั้งเรื่องอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น การกำหนดพื้นที่จำหน่าย (zoning) การปรับปรุงแก้ไข ระเบียบกฎหมาย การห้ามมิให้มีการสะสม เก็บรักษาและจำหน่ายก๊าซหุงต้มรวมกับก๊าซ สารเคมีหรือวัตถุไวไฟ ชนิดอื่น ๆ ในสถานที่เดียวกัน ฯลฯ และให้จังหวัด อำเภอ กิ่งอำเภอ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เข้มงวดกวด ขันในการตรวจตราและกำกับดูแลการประกอบกิจการเกี่ยวกับก๊าซหุงต้มอย่างใกล้ชิดและต่อเนื่อง โดยพิจารณา ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ที่กำหนดไว้ตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องโดยเคร่งครัด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยและอุบัติภัยที่อาจจะเกิดจากก๊าซหุงต้ม เช่น กฎ หมายว่าด้วยการป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน กฎหมายว่าด้วยการป้องกันและระงับอัคคีภัย ฯลฯ
|
|||||||||||||||||||||
1213 | ขอหารือข้อกฎหมายเกี่ยวกับการรับผิดชอบชดใช้ค่าเสียหายในการให้มีการเลือกตั้งใหม่ | นร | 17/02/2547 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอผลการพิจารณาในปัญหาข้อกฎ
หมายของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา (คณะกรรมการกฤษฎีกา คณะที่ 1) เกี่ยวกับการรับผิดชดใช้ค่าเสีย หายในการให้มีการเลือกตั้งใหม่ โดยกรณีที่ผู้สมัครรับเลือกตั้งต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหาย ตามมาตรา 99 แห่ง พระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ. 2545 ซึ่งต้องไม่เกินค่าใช้จ่ายในการ ให้มีการเลือกตั้งใหม่ กรณีที่มีผู้สมัครรับเลือกตั้งซึ่งต้องรับผิดชอบในการเลือกตั้งใหม่ครั้งเดียวหลายคน มาตรา 99 ดังกล่าว มิได้กำหนดให้ต้องรับผิดอย่างลูกหนี้ร่วม จึงไม่อาจกำหนดให้บุคคลดังกล่าวต้องรับผิดชอบชดใช้ค่า เสียหายอย่างลูกหนี้ร่วมได้ และเป็นอำนาจของคณะกรรมการการเลือกตั้งที่จะพิจารณากำหนดให้บุคคลดังกล่าว แต่ละคนต้องรับผิดชอบชดใช้ค่าเสียหายตามจำนวนที่คณะกรรมการการเลือกตั้งจะได้พิจารณาจากข้อเท็จจริงแต่ ละรายไป สำหรับกรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้งเป็นผู้มีอำนาจดำเนินการแจ้งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนิน การสอบสวนและมีอำนาจฟ้องคดีต่อศาลไม่ว่าจะเป็นเรื่องในทางแพ่ง ท างอาญา หรือทางปกครอง ในกรณีที่มี ผู้ใดกระทำความทำผิดตามกฎหมายว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น โดยถือว่าคณะ กรรมการการเลือกตั้งเป็นผู้เสียหายและอาจมอบหมายให้เจ้าหน้าที่ของรัฐดำเนินการแทนได้ ทั้งนี้ มาตรา 16 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการการเลือก พ.ศ. 2541 อย่างไรก็ตามในการที่คณะ กรรมการการเลือกตั้งจะมอบหมายให้เจ้าหน้าที่ของรัฐ ซึ่งรวมถึงองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นดำเนินการแทนดัง กล่าวก็เป็นอำนาจของคณะกรรมการการเลือกตั้งที่จะพิจารณาตามความเหมาะสมต่อไป
|
|||||||||||||||||||||
1214 | ยุทธศาสตร์การจัดสรรและวงเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2548 | นร | 17/02/2547 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการตามที่สำนักงบประมาณเสนอยุทธศาสตร์การจัดสรรและวงเงิน
งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2548 และให้ดำเนินการต่อไปได้ โดยให้ผู้เกี่ยวข้องรับข้อสังเกต ของคณะรัฐมนตรีไปดำเนินการด้วยดังนี้ แนวทางการจัดทำและเสนอของบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2548 ของส่วนราชการและหน่วยงาน ให้สำนักงบประมาณจัดทำเอกสาร (format) หรือรายการสำหรับ ตรวจสอบ (check list) ให้แก่รองนายกรัฐมนตรี และผู้ที่เกี่ยวข้อง เพื่อใช้ประโยชน์ในการพิจารณางบประมาณ ของส่วนราชการและหน่วยงานในความรับผิดชอบ ให้มีความเหมาะสม และเกิดการบูรณาการในมิติต่าง ๆ ด้วย สำหรับการจัดสรรงบประมาณให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ให้รองนายกรัฐมนตรี (นายจาตุรนต์ ฉายแสง) จัดตั้งคณะทำงานเฉพาะกิจขึ้น ประกอบด้วย ผู้แทนของกระทรวงมหาดไทย (กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น) สำนักงบประมาณและหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง เพื่อพิจารณาปรับปรุงแนวทางและกระบวนการถ่ายโอนภารกิจ การจัดสรรงบประมาณ รวมทั้งการโอนบุคลากร ให้เหมาะสมกับสภาพการณ์และความพร้อมขององค์กรปกครอง ส่วนท้องถิ่นเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพประสิทธิผลทางการบริหารราชการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงของการเปลี่ยน ผ่าน และควรจัดทำคู่มือการปฏิบัติงานที่เกี่ยวข้องที่มีรายละเอียดชัดเจนสำหรับให้บุคลากรขององค์กรปกครอง ส่วนท้องถิ่นใช้เป็นแนวทางในการดำเนินการต่อไป นอกจากนี้ โดยที่มูลค่าการส่งออกสินค้าของประเทศมีแนว โน้มการขยายตัวในลักษณะที่ลดลงตามลำดับ ซึ่งอาจมีผลกระทบต่อการประมาณการทางเศรษฐกิจและการจัด ทำงบประมาณรายจ่ายประจำปีได้ในอนาคต จึงให้กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงพาณิชย์ และสำนักงาน คณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันพิจารณากำหนดยุทธ ศาสตร์และแนวทางการดำเนินการ เพื่อส่งเสริมสนับสนุนการประกอบการที่เป็นการผลิตเพื่อการส่งออกและเพื่อ ทดแทนการนำเข้าให้เพิ่มมากขึ้น เพื่อคงสภาพการได้เปรียบดุลการค้าของประเทศในภาพรวมเอาไว้ แล้วดำเนิน การให้สัมฤทธิผลต่อไปด้วย |
|||||||||||||||||||||
1215 | การจัดสรรเงินอุดหนุนเฉพาะกิจเพื่อพัฒนาองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นตามยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศ ปีงบประมาณ พ.ศ. 2547 | นร | 17/02/2547 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบและให้ดำเนินการต่อไปได้ ตามที่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี (กรม
ส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น) เสนอ หลักเกณฑ์การพิจารณาปรับลด ปรับเพิ่ม งบประมาณเงินอุดหนุนเฉพาะ กิจตามยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศ ปีงบประมาณ พ.ศ. 2547 และวงเงินงบประมาณที่จังหวัดต่าง ๆ ได้รับ กับให้สำนักงบประมาณพิจารณาอนุมัติเงินประจำงวดในรายการเงินอุดหนุนเฉพาะกิจ เพื่อพัฒนาองค์กรปก ครองส่วนท้องถิ่น ตามยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศที่ได้ปรับปรุงแล้ว จำนวน 762 รายการ วงเงินงบประมาณ 2,516.343 ล้านบาท รวมทั้งมอบให้ผู้แทนสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ผู้แทนสำนักงบประมาณ ผู้แทนสำนักงานคณะกรรมการการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และผู้แทนกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย พิจารณาโครงการและวงเงินที่จัดสรรเพิ่มให้ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในจังหวัดต่าง ๆ 31 จังหวัด ประมาณ 710.200 ล้านบาท และให้สำนักงบประ มาณพิจารณาอนุมัติเงินประจำงวดในโครงการที่ได้มีการพิจารณาแล้ว |
|||||||||||||||||||||
1216 | แผนการจัดการขยะมูลฝอยแห่งชาติ | ทส | 10/02/2547 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเกี่ยวกับแผนการจัดการขยะมูลฝอยแห่งชาติ ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและ
สิ่งแวดล้อมเสนอ โดยมอบให้รองนายกรัฐมนตรี (นายสุวิทย์ คุณกิตติ) ประธานกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอ คณะรัฐมนตรี คณะที่ 3 รับเรื่องนี้ และความเห็นเพิ่มเติมของส่วนราชการที่เกี่ยวข้องไปพิจารณาทบทวน แล้วนำ เสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง ทั้งนี้ ให้รับข้อสังเกตของคณะรัฐมนตรีไปประกอบการพิจารณาด้วยว่า การจัดทำแผนการจัดการขยะมูลฝอย ควรจะต้องพิจารณาให้ครอบคลุมครบถ้วนในทุกมิติทั้งในระดับย่อยและใน ภาพรวมของประเทศ โดยการจัดการขยะต้องคำนึงถึงปัจจัยต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น ประเภทขยะ แนวทาง วิธีการ กำจัด/ลดปริมาณ หรือการนำขยะไปใช้ประโยชน์ หน่วยงาน/องค์การ ที่จะรับผิดชอบดำเนินการ สถานที่/ที่ตั้ง ของโรงงานกำจัดขยะ ตลอดจนการประสานและร่วมมือกันระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เป็นต้น และการถ่าย โอนงานด้านนี้ให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ก็จะต้องพิจารณาให้เหมาะสมกับศักยภาพขององค์กรปกครอง ส่วนท้องถิ่นแต่ละแห่งและสอดคล้องกับปัจจัยต่าง ๆ ดังกล่าวด้วย |
|||||||||||||||||||||
1217 | การจัดสรรรายได้ให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น | นร | 10/02/2547 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเกี่ยวกับการจัดสรรรายได้ให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นตามที่สำนักนายกรัฐมนตรี
เสนอ โดยเห็นชอบในหลักการให้กำหนดสัดส่วนรายได้ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นต่อรายได้สุทธิของรัฐบาล ปีงบประมาณ พ.ศ. 2548 เป็นร้อยละ 23.5 ทั้งนี้ เพื่อให้การจัดสรรรายได้ให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นใน ปีงบประมาณดังกล่าวมีสัดส่วนที่เหมาะสมและสอดคล้องกับการจัดทำงบประมาณประจำปีแบบสมดุล ซึ่งอาจทำ ให้สถานะงบประมาณโดยรวมของประเทศมีความตึงตัวมากกว่าในปัจจุบัน และให้รองนายกรัฐมนตรี (นายจาตุรนต์ ฉายแสง) ประธานกรรมการการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (กกถ.) รับไปประสานในราย ละเอียดกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินการต่อไป รวมทั้งให้รับข้อสังเกตของคณะรัฐมนตรีไปประสานกับองค์ กรปกครองส่วนท้องถิ่นด้วยว่า องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นควรต้องเร่งรัดดำเนินการตามอำนาจหน้าที่โดยเฉพาะ การจัดเก็บรายได้ของท้องถิ่น เพื่อให้สามารถบริหารจัดการงบประมาณนอกเหนือจากเงินรายได้ที่ได้รับการจัด สรรจากรัฐบาลด้วย เช่น การเร่งรัดการดำเนินการเก็บภาษีประเภทต่าง ๆ ในท้องถิ่นตามที่กฎหมายกำหนดให้ เป็นอำนาจหน้าที่ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เป็นต้น กับให้กระทรวงการคลังรับไปพิจารณาปรับปรุงโครง สร้างภาษีประเภทต่าง ๆ ของประเทศทั้งระบบให้เหมาะสมและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยให้พิจารณาความ เหมาะสมและเป็นไปได้ในการปรับปรุงหรือขยายฐานภาษีเพื่อให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นสามารถจัดเก็บภาษี ในท้องถิ่นเพื่อเพิ่มรายได้ของตนเองมากขึ้นอีกทางหนึ่งด้วย นอกจากนี้ ให้หน่วยงานต่าง ๆ ทั้งในราชการส่วน กลางและส่วนภูมิภาค ซึ่งมีอำนาจหน้าที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินการตามภารกิจที่จะถ่ายโอนให้องค์กรปกครอง ส่วนท้องถิ่น ถือปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม 2546 เรื่อง การถ่ายโอนภารกิจให้แก่องค์กร ปกครองส่วนท้องถิ่น ที่กำหนดว่าเมื่อมีการถ่ายโอนภารกิจให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นแล้ว หน่วยงานราชการ ยังจะต้องดูแลให้คำปรึกษา แนะนำ และความช่วยเหลือแก่ท้องถิ่น ไประยะหนึ่งก่อน เพื่อสร้างความเข้มแข็งให้กับ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในการปฏิบัติภารกิจที่ได้รับการถ่ายโอน โ ดยให้คำนึงถึงประโยชน์ที่ประชาชนพึงจะ ได้รับเป็นสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งภารกิจสำคัญ ๆ ที่มีผลกระทบต่อสภาพแวดล้อมและความเป็นอยู่ของประชา ชนโดยตรง |
|||||||||||||||||||||
1218 | การบูรณาการแผนปฏิบัติการและงบประมาณปี 2547-2549 ภายใต้แผนแม่บทพัฒนาความปลอดภัยด้านเคมีวัตถุแห่งชาติ ฉบับที่ 2 | มท | 10/02/2547 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายจาตุรนต์ ฉายแสง) ประธานกรรมการ
ป้องกันอุบัติภัยแห่งชาติเสนอ ยุทธศาสตร์/มาตรการ ภายใต้แผนแม่บทพัฒนาความปลอดภัยด้านเคมีวัตถุ แห่งชาติ ฉบับที่ 2 พ.ศ. 2545-2549 ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อให้การจัดการสารเคมีเป็นระบบมีความปลอดภัย และสอดคล้องกับแผนแม่บทพัฒนาความปลอดภัยด้านเคมีวัตถุแห่งชาติ และให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนิน การต่อไปได้ โดยให้กระทรวงมหาดไทย (กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย) เป็นหน่วยงานหลักในการ กำกับ ดูแล และติดตามการดำเนินการด้านยุทธศาสตร์/มาตรการ ภายใต้แผนแม่บท ฯ ให้เกิดผลในเชิง บูรณาการ และเป็นไปตามบทบัญญัติของกฎหมายที่เกี่ยวข้องต่อไป ทั้งนี้ ให้รับข้อสังเกตของคณะรัฐมนตรี ไปประกอบการดำเนินการด้วยว่า การพิจารณาอนุญาตให้ใช้สถานที่ใดเป็นสถานที่จัดเก็บสารเคมีอันตราย จะต้องสอดคล้องกับข้อกฎหมายเกี่ยวกับผังเมืองด้วย รวมทั้งการกำหนดให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเป็น หน่วยดำเนินการตามกฎหมายนั้น หน่วยงานส่วนกลางที่เกี่ยวข้องจะต้องกำกับดูแล ตรวจสอบติดตาม และ ประสานกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นนั้น ๆ อย่างใกล้ชิดและต่อเนื่องด้วย
|
|||||||||||||||||||||
1219 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการประเมินความพร้อมในการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. .... | ศธ | 10/02/2547 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์
และวิธีการประเมินความพร้อมในการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. .... และให้ส่ง สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ โดยสาระสำคัญของร่างกฎกระทรวง ฯ เป็นการกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการประเมินความพร้อมในการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานขององค์กรปกครองส่วน ท้องถิ่นเพื่อส่งเสริมให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีส่วนร่วมในการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน และมอบให้กระทรวง ศึกษาธิการเป็นผู้ดำเนินการจัดทำคู่มือแนวทางการดำเนินการในแต่ละระดับการศึกษาเพื่อเตรียมความพร้อมให้ กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น |
|||||||||||||||||||||
1220 | กระทู้ถามที่ 977 ร. เรื่อง มาตรการแก้ปัญหาแม่น้ำตาปี จังหวัดสุราษฎร์ธานีเน่าเสีย | สผ | 03/02/2547 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอคำตอบกระทู้ถามที่ 977 ร. เรื่อง
มาตรการแก้ปัญหาแม่น้ำตาปี จังหวัดสุราษฎร์ธานี เน่าเสีย ของนายโกเมศ ขวัญเมือง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดสุราษฎร์ธานี และให้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาต่อไป โดยสาระสำคัญของคำตอบสรุปได้ว่า จากการ ตรวจสอบคุณภาพน้ำของแม่น้ำตาปี ในปี พ.ศ. 2545 พบว่า คุณภาพน้ำแม่น้ำตาปีตอนบนอยู่ในเกณฑ์พอใช้ ส่วนแม่น้ำตาปีตอนล่างช่วงที่ผ่านอำเภอเมืองสุราษฎร์ธานี พบว่า คุณภาพน้ำอยู่ในเกณฑ์ต่ำ นื่องจากการขยาย ตัวของชุมชน ซึ่งมีการระบายน้ำเสียจากกิจกรรมต่าง ๆ ของชุมชนระบายลงสู่น้ำโดยตรง ทำให้คุณภาพน้ำแม่น้ำ ตาปีมีแนวโน้มเสื่อมโทรมลง รัฐบาลจึงได้กำหนดมาตรการในการแก้ไขปัญหาดังกล่าว รวม 3 มาตรการ ได้แก่ มาตรการด้านการจัดการน้ำเสีย โดยสนับสนุนให้ท้องถิ่นนำวิธีการจัดการน้ำเสียที่เหมาะสมในแต่ละพื้นที่ไป ใช้แทนการมุ่งไปที่ระบบบำบัดน้ำเสียรวมของชุมชนเพียงทางเลือกเดียว ส่วนการจัดการน้ำเสียพื้นที่ลุ่มน้ำตาปี จังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้สนับสนุนงบประมาณภายใต้แผนปฏิบัติการเพื่อการจัดการคุณภาพสิ่งแวดล้อมในระดับ จังหวัดในปีงบประมาณ พ.ศ. 2545 เทศบาลตำบลท่าข้าม จังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้รับการสนับสนุนงบประมาณ 5 ล้านบาท เพื่อดำเนินการศึกษาความเหมาะสมและออกแบบรายละเอียดระบบรวบรวมและบำบัดน้ำเสีย มาตร การด้านกฎหมาย จะเข้มงวดในการบังคับใช้กฎระเบียบและข้อบัญญัติต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง และมาตรการด้านการ ประชาสัมพันธ์ โดยสนับสนุนและส่งเสริมให้มีการรณรงค์และประชาสัมพันธ์สร้างความเข้าใจ และประชุมรับฟัง ความคิดเห็นของประชาชนในพื้นที่ เพื่อให้เกิดการมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหา และร่วมตัดสินใจในการดำเนิน การจัดการน้ำเสีย นอกจากนี้ รัฐบาลจะจัดสรรงบประมาณตามลำดับของความสำคัญของพื้นที่ ซึ่งกรมควบ คุมมลพิษได้จัดทำแผนการจัดการน้ำเสียชุมชน เป็นการจัดลำดับความสำคัญพื้นที่ที่ต้องมีการบำบัดน้ำเสียตาม ความจำเป็นเร่งด่วน ตามสภาพปัญหาของคุณภาพน้ำ และความสำคัญของพื้นที่ ซึ่งในส่วนของเทศบาลเมือง สุราษฎร์ธานี ซึ่งตั้งบนแม่น้ำตาปี-พุมดวง เป็นพื้นที่เป้าหมายระยะเร่งด่วนและเป็นพื้นที่คุณภาพน้ำเสื่อมโทรม อยู่ในระดับต้น ๆ ซึ่งหากได้รับการจัดการน้ำเสียและบำบัดน้ำเสียอย่างมีประสิทธิภาพ จะสามารถควบคุมการ ระบายมลพิษน้ำเสียออกสู่สิ่งแวดล้อมได้ไม่เกินร้อยละ 50 ของน้ำเสียที่เกิดขึ้นในแต่ละพื้นที่ลุ่มน้ำ ดังนั้น เทศ บาลเมืองสุราษฎร์ธานีจึงควรเตรียมความพร้อมของโครงการเรื่องของที่ดิน การออกแบบรายละเอียดของโครง การที่จะก่อสร้าง รวมทั้งการรับรู้ของประชาชนในพื้นที่ โดยงบประมาณในการดำเนินการ กระทรวงทรัพยากร ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจะเป็นผู้วิเคราะห์โครงการ หากผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแล้ว จะนำเสนอคณะกรรมการการกระจายอำนาจให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เป็นผู้สนับสนุนงบประมาณต่อไป |
.....