ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 39 จากทั้งหมด 566 หน้า แสดงรายการที่ 761 - 780 จากข้อมูลทั้งหมด 11307 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
761 | ขอปรับปรุงมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 4 มกราคม 2560 เรื่อง แนวทางการเตรียมบุคลากรก่อนเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมและการพัฒนาบุคลากรในกระบวนการยุติธรรม (การพัฒนาหลักสูตรการเรียนการสอนระดับอุดมศึกษา) | ยธ. | 30/05/2566 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการปรับปรุงมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๔ มกราคม ๒๕๖๐
เรื่อง
แนวทางการเตรียมบุคลากรก่อนเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมและการพัฒนาบุคลากรในกระบวนการยุติธรรม
(การพัฒนาหลักสูตรการเรียนการสอนระดับอุดมศึกษา) มีสาระสำคัญเพื่อเป็นแนวทางการเตรียมบุคลากรเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมและการพัฒนาบุคลากรในกระบวนการยุติธรรม
ตามมติคณะกรรมการพัฒนาการบริหารงานยุติธรรมแห่งชาติ ครั้งที่ ๔/๒๕๕๙ เมื่อวันที่
๑๐ สิงหาคม ๒๕๕๙ ตามที่คณะกรรมการพัฒนาการบริหารงานยุติธรรมแห่งชาติเสนอ และให้คณะกรรมการพัฒนาการบริหารงานยุติธรรมแห่งชาติและกระทรวงยุติธรรมรับความเห็นของสำนักงาน
ก.พ.ร. ที่เห็นว่าการกำหนดให้หน่วยงานในกระบวนการยุติธรรมดำเนินการสนับสนุน
และส่งเสริมกิจกรรมหรือโครงการเสริมสร้างจิตสำนึก รักความยุติธรรมนั้น
กระทรวงยุติธรรมสามารถพิจารณากำหนด Joint KPIs ร่วมกัน เพื่อให้เกิดการบูรณาการการทำงานให้มีความเชื่อมโยงและสอดคล้องในการขับเคลื่อนการดำเนินงาน
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||||||||
762 | การบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว 3 สัญชาติ (กัมพูชา ลาว และเมียนมา) เพื่อประโยชน์ในการรักษาความมั่นคง และเศรษฐกิจของประเทศ | รง. | 30/05/2566 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. เห็นชอบการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว ๓ สัญชาติ
(กัมพูชา ลาว และเมียนมา) เพื่อประโยชน์ในการรักษาความมั่นคง และเศรษฐกิจของประเทศ
และร่างประกาศ รวม ๔ ฉบับ ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ ได้แก่ ๑.๑ ร่างประกาศกระทรวงมหาดไทย
เรื่อง
การยกเว้นข้อห้ามมิให้คนต่างด้าวเข้ามาอยู่ในราชอาณาจักรเป็นกรณีพิเศษเพื่อการทำงานสำหรับคนต่างด้าวสัญชาติกัมพูชา
ลาว และเมียนมา
ซึ่งได้รับอนุญาตให้เข้ามาทำงานในราชอาณาจักรตามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านแรงงาน
ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ .... ๑.๒ ร่างประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง
การอนุญาตให้คนต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรเป็นการเฉพาะ
สำหรับคนต่างด้าวสัญชาติกัมพูชา ลาว และเมียนมา และเวียดนาม
ซึ่งได้รับอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราวถึงวันที่ ๑๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๖
ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๕ กรกฎาคม ๒๕๖๕ (ฉบับที่ ..) ๑.๓ ร่างประกาศกระทรวงแรงงาน เรื่อง
การอนุญาตให้คนต่างด้าวอยู่ทำงานในราชอาณาจักรเป็นกรณีพิเศษ
สำหรับคนต่างด้าวสัญชาติกัมพูชา ลาว และเมียนมา
ซึ่งได้รับอนุญาตให้เข้าทำงานในราชอาณาจักรตามกฎหมายว่าด้วยคนเข้าเมือง
ภายใต้บันทึกความตกลงหรือบันทึกความเข้าใจที่รัฐบาลไทยทำไว้กับรัฐบาลต่างประเทศ
ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ .. ๑.๔ ร่างประกาศกระทรวงแรงงาน เรื่อง
การอนุญาตให้ต่างด้าวทำงานในราชอาณาจักรเป็นการเฉพาะ
สำหรับคนต่างด้าวสัญชาติกัมพูชา ลาว เมียนมา และเวียดนาม
ซึ่งได้รับอนุญาตให้ทำงานถึงวันที่ ๑๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๖
ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๕ กรกฎาคม ๒๕๖๕ (ฉบับที่ ..) ๒. อนุมัติและเห็นชอบในหลักการ ๒.๑ ร่างประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง
การยกเว้นข้อห้ามมิให้คนต่างด้าวเข้ามาอยู่ในราชอาณาจักรเป็นกรณีพิเศษเพื่อการทำงานสำหรับคนต่างด้าวสัญชาติกัมพูชา
ลาว และเมียนมา
ซึ่งได้รับอนุญาตให้เข้ามาทำงานในราชอาณาจักรตามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านแรงงาน
ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ .... ๒.๒ ร่างประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง
การอนุญาตให้คนต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรเป็นการเฉพาะ
สำหรับคนต่างด้าวสัญชาติกัมพูชา ลาว และเมียนมา และเวียดนาม
ซึ่งได้รับอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราวถึงวันที่ ๑๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๖
ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๕ กรกฎาคม ๒๕๖๕ (ฉบับที่ ..) รวม ๒ ฉบับ ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ
และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน
แล้วดำเนินการคต่อไปได้ |
|||||||||||||||||||||||||||||||||
763 | รายงานผลสัมฤทธิ์ของการดำเนินการตามแผนแม่บทการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ 20 ปี (พ.ศ. 2561 - 2580) ช่วงปี พ.ศ. 2561 - 2565 ต่อแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ ประเด็นที่ 19 การบริหารจัดการน้ำทั้งระบบและเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน เป้าหมายที่ 6 (SDG 6) | นร.14 | 23/05/2566 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. รับทราบรายงานผลสัมฤทธิ์ของการดำเนินการตามแผนแม่บทการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ
๒๐ ปี (พ.ศ. ๒๕๖๑-๒๕๘๐) ช่วงปี พ.ศ. ๒๕๖๑-๒๕๖๕ ต่อแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ
ประเด็นที่ ๑๙ การบริหารจัดการน้ำทั้งระบบและเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน
เป้าหมายที่ ๖ (SDG 6) ตามมติคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ
ในคราวประชุมครั้งที่ ๔/๒๕๖๕ เมื่อวันที่ ๒๘ ธันวาคม ๒๕๖๕ ซึ่งมีผลการดำเนินงาน
ได้แก่ (๑) ผลการดำเนินงานภายใต้แผนแม่บทฯ น้ำ ช่วงปี ๒๕๖๑-๒๕๖๕ (๒)
ผลการประเมินดัชนีตัวชี้วัดแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ ประเด็นที่ ๑๙ การบริหารจัดการน้ำทั้งระบบ
และ (๓) ผลการประเมินตัวชี้วัดเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน เป้าหมายที่ ๖ (SDG
6) : การบริหารน้ำและสุขาภิบาล โดยมีปัญหาอุปสรรคในการขับเคลื่อนและแนวทางแก้ไข
เช่น งบประมาณเรื่องการพัฒนาระบบประปาให้ได้มาตรฐานมีจำนวนจำกัด หน่วยงานกำหนดเป้าหมายตัวชี้วัดเกินความเป็นจริง
และการปลูกพืชที่มีมูลค่าต่ำส่งผลให้ผลิตภาพจากการใช้น้ำต่ำ ตามที่สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติเสนอ ๒. ให้สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงคมนาคม
กระทรวงสาธารณสุข และสำนักงบประมาณ ที่เห็นควรให้หน่วยงานดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย
ระเบียบ หลักเกณฑ์ มติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง และหลักธรรมาภิบาลอย่างเคร่งครัด
เร่งรัดการดำเนินการภายใต้กลยุทธ์/แผนงานดังกล่าวตามแนวทางขับเคลื่อนที่กำหนด
และขอให้แก้ไขข้อเท็จจริง/สาระสำคัญ ในส่วนผลสัมฤทธิ์ของการดำเนินงานตามแผนแม่บทฯ
น้ำ ด้านที่ ๑ การจัดการน้ำอุปโภคบริโภค จากเดิม “พบว่ามีร้อยละ ๓๘.๔๘
ของระบบประปาที่ผ่านมาตรฐานประปาดื่มได้” เป็น “พบว่ามีร้อยละ ๓๘.๔
ผ่านเกณฑ์คุณภาพน้ำประปาดื่มได้” ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป |
|||||||||||||||||||||||||||||||||
764 | การประชุมคณะกรรมการเจรจาระหว่างรัฐบาลในการจัดทำมาตรการที่มีผลผูกพันทางกฎหมายระหว่างประเทศด้านมลพิษจากพลาสติก รวมทั้งสิ่งแวดล้อมทางทะเล ครั้งที่ 2 ณ สาธารณรัฐฝรั่งเศส | ทส. | 23/05/2566 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. รับทราบองค์ประกอบคณะผู้แทนไทย
กรอบการเจรจาและท่าทีของประเทศไทย
สำหรับการประชุมคณะกรรมการเจรจาระหว่างรัฐบาลไทยในการจัดมาตรการที่มีผลผูกพันทางกฎหมายระหว่างประเทศด้านมลพิษจากพลาสติก
รวมทั้งสิ่งแวดล้อมทางทะเล ครั้งที่ ๒ ณ สาธารณรัฐฝรั่งเศส ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
เสนอ ทั้งนี้ หากมีการประชุมคณะกรรมการเจรจาฯ มีการจัดทำความตกลงระหว่างประเทศระหว่างประเทศที่เข้าร่วมการเจรจา
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจะต้องดำเนินการให้ถูกต้องเป็นไปตามขั้นตอนของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยและกฎหมายที่เกี่ยวข้องด้วย
ตามความความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
765 | การเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมประจำปีสภาผู้ว่าการธนาคารโลกและกองทุนการเงินระหว่างประเทศ ปี 2569 | กค. | 23/05/2566 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการลงทุนมติของที่ประชุมสภาผู้ว่าการธนาคารโลกและกองทุนการเงินระหว่างประเทศที่เห็นชอบให้ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมประจำปีสภาผู้ว่าการธนาคารโลกและกองทุนการเงินระหว่างประเทศ
ปี ๒๕๖๙ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้กระทรวงการคลังและธนาคารแห่งประเทศไทยดำเนินการต่อไปให้ถูกต้อง
เป็นไปตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย กฎหมาย ระเบียบ หลักเกณฑ์
และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
766 | การรับรองร่างปฏิญญาทางการเมืองสำหรับการประชุมระดับสูงว่าด้วยการทบทวนครึ่งวาระของกรอบการดำเนินงานเซนไดเพื่อการลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติ ค.ศ. 2015-2030 | มท. | 16/05/2566 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. เห็นชอบต่อร่างปฏิญญาทางการเมืองสำหรับการประชุมระดับสูงว่าด้วยการทบทวนครึ่งวาระของกรอบการดำเนินงานเซนไดเพื่อการลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติ
ค.ศ. ๒๐๑๕-๒๐๓๐ และอนุมัติให้ นายสุริยา
จินดาวงษ์ เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ ณ นครนิวยอร์ก หรือผู้แทน
ซึ่งได้รับมอบหมายเป็นหัวหน้าคณะผู้แทนไทยเป็นผู้รับรองร่างปฏิญญาดังกล่าว
โดยร่างปฏิญญาฯ มีสาระสำคัญเพื่อตอกย้ำความมุ่งมั่นและการเร่งรัดการดำเนินการตามพันธกิจ
๔ ประการ (Priorities for Action) ของกรอเซนได ประกอบด้วย พันธกิจที่ ๑ เข้าใจความเสี่ยงจากภัยพิบัติ
พันธกิจที่ ๒ เสริมสร้างศักยภาพในการบริหารและจัดการความเสี่ยงจากภัยพิบัติ
พันธกิจที่ ๓ ลงทุนในด้านการลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติ
เพื่อให้พร้อมรับมือและฟื้นคืนกลับได้ในระยะเวลาที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ และพันธกิจที่
๔ พัฒนาศักยภาพในการเตรียมความพร้อมเผชิญเหตุภัยพิบัติที่มีประสิทธิภาพ
ตลอดจนการฟื้นสภาพและซ่อมสร้างที่ดีกว่าเดิมในช่วงของการบูรณาการฟื้นฟูภายหลังเหตุภัยพิบัติ
ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ ทั้งนี้
หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างปฏิญญาทางการเมืองสำหรับการประชุมระดับสูงว่าด้วยการทบทวนครึ่งวาระของกรอบการดำเนินงานเซนไดเพื่อการลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติ
ค.ศ. ๒๐๑๕-๒๐๓๐ ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้
ให้กระทรวงมหาดไทยและกระทรวงการต่างประเทศดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง
พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวด้วย ๒.
ให้กระทรวงมหาดไทยได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔
พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
767 | การพิจารณารับรองวัดคาทอลิก ตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยแนวทางพิจารณาในการจัดตั้งวัดบาทหลวงโรมันคาทอลิก พ.ศ. 2564 | วธ. | 16/05/2566 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการพิจารณารับรองวัดคาทอลิก
ตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี
ว่าด้วยแนวทางพิจารณาในการจัดตั้งวัดบาทหลวงโรมันคาทอลิก พ.ศ. ๒๕๖๔ จำนวน ๗๙ วัด ตามที่กระทรวงวัฒนธรรมเสนอ
และให้กระทรวงวัฒนธรรมรับความเห็นของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมและกระทรวงศึกษาธิการ
โดยขอให้ดำเนินการตามกฎหมาย ระเบียบ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด
และเห็นควรให้มีรั้วแสดงขอบเขตของวัดคาทอลิก
และโรงเรียนในระบบออกจากกันอย่างชัดเจน โดยขนาดที่ดินที่เป็นที่ตั้งโรงเรียนที่เหลืออยู่จะต้องเป็นไปตามกฎกระทรวง
การขอรับใบอนุญาตให้จัดตั้งโรงเรียนในระบบฯ
พร้อมทั้งให้โรงเรียนในระบบดำเนินการขอเปลี่ยนแปลงรายการในตราสารจัดตั้งและการขอเปลี่ยนแปลงที่ดินที่ใช้เป็นที่ตั้งของโรงเรียนในระบบต่อผู้อนุญาตที่กำกับดูแล
แล้วแต่กรณี หรือดำเนินการอย่างอื่นตามที่กฎหมายว่าด้วยโรงเรียนเอกชนกำหนด ไปพิจารณาดำเนินการอย่างเคร่งครัดด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||||||||
768 | จังหวัดเจ้าภาพในการจัดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 พ.ศ. 2568 (ค.ศ. 2025) และกีฬาอาเซียนพาราเกมส์ ครั้งที่ 13 พ.ศ. 2568 (ค.ศ. 2025) | กก. | 16/05/2566 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบจังหวัดเจ้าภาพในการจัดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์
ครั้งที่ ๓๓ พ.ศ. ๒๕๖๘ (ค.ศ. ๒๐๒๕) และกีฬาอาเซียนพาราเกมส์
ครั้งที่ ๑๓ พ.ศ. ๒๕๖๘ (ค.ศ. ๒๐๒๕)
ดังนี้ (๑) จังหวัดเจ้าภาพในการจัดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ ๓๓ พ.ศ. ๒๕๖๘
(ค.ศ. ๒๐๒๕) ระหว่างวันที่ ๙-๒๐ ธันวาคม ๒๕๖๘
ได้แก่ กรุงเทพมหานคร จังหวัดชลบุรี และสงขลา และ (๒) จังหวัดเจ้าภาพในการจัดการแข่งขันกีฬาอาเซียนพาราเกมส์
ครั้งที่ ๑๓ พ.ศ. ๒๕๖๘ (ค.ศ. ๒๐๒๕)
ระหว่างวันที่ ๒๐-๒๖ มกราคม ๒๕๖๙ ได้แก่ จังหวัดนครราชสีมา ตามที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเสนอ
และให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงมหาดไทย
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี
สำนักงบประมาณ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
และสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ
ที่เห็นควรปฏิบัติตามกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ
และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด
สำหรับค่าใช้จ่ายในการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬา ให้พิจารณาความพร้อมในด้านต่าง
ๆ และแนวทางการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพ โดยคำนึงถึงความประหยัด
การมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องเป็นสำคัญ และจัดทำแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณโดยให้ครอบคลุมทุกแหล่งเงินที่ต้องใช้ในการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน
และเพื่อให้เกิดภาระต่องบประมาณในสัดส่วนที่เหมาะสม
รวมทั้งจัดทำแผนบริหารจัดการความเสี่ยงสำหรับรองรับปัญหาที่อาจเกิดขึ้น
ควรประสานการดำเนินงานร่วมกับจังหวัดเจ้าภาพอย่างใกล้ชิด
เพื่อสร้างการรับรู้และเตรียมความพร้อมในการจัดการแข่งขัน
ให้เผยแพร่แบบถ่ายทอดสดได้เฉพาะในบริการโทรทัศน์ที่เป็นการทั่วไป และกำหนดให้ผู้ให้บริการโทรทัศน์ที่เป็นการทั่วไปจะต้องให้บริการโทรทัศน์ตามผังรายการโดยมีเนื้อหาเดียวกันทุกช่องทางทั้งในระบบภาคพื้นดิน
ระบบดาวเทียม ระบบเคเบิลทีวี และระบบไอพีทีวี อย่างต่อเนื่อง
ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||||||||
769 | ผลการพิจารณาของคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ ภายใต้พระราชกำหนดฯ เพิ่มเติม พ.ศ. 2564 ในคราวประชุมครั้งที่ 5/2566 | นร.11 สศช | 16/05/2566 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติและเห็นชอบตามผลการพิจารณาของคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้
ตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ ภายใต้พระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและสังคม
จากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ เพิ่มเติม พ.ศ. ๒๕๖๔ ในคราวประชุมครั้งที่
๕/๒๕๖๖ เมื่อวันที่ ๒๙ มีนาคม ๒๕๖๖ โดยอนุมัติให้จังหวัดเปลี่ยนแปลงรายละเอียดที่เป็นสาระสำคัญของโครงการ
๕๘ โครงการ กรอบวงเงิน ๒๑๙.๓๐๕๐ ล้านบาท มอบหมายให้กระทรวงมหาดไทย
เร่งดำเนินการประสานจังหวัดในการตรวจสอบการดำเนินโครงการใช้จ่ายเงินกู้ตามพระราชกำหนดฯ
เพิ่มเติม พ.ศ. ๒๕๖๔
ในกรณีที่จังหวัดไม่สามารถดำเนินโครงการให้แล้วเสร็จภายในระยะเวลาที่ได้รับอนุมัติตามมติคณะรัฐมนตรีให้จังหวัดเร่งดำเนินการขอเปลี่ยนแปลงรายละเอียดที่เป็นสาระสำคัญของโครงการ
และ/หรือเสนอขอยกเลิกการดำเนินโครงการตามขั้นตอนระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีฯ
เพิ่มเติม พ.ศ. ๒๕๖๔
และให้หน่วยงานรับผิดชอบโครงการเร่งปรับปรุงรายละเอียดของโครงการในระบบ eMENSCR
ให้เป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรีโดยเร็ว
พร้อมทั้งเร่งดำเนินโครงการให้แล้วเสร็จตามกรอบระยะเวลาที่ได้รับอนุมัติจากคณะรัฐมนตรี
รายงานผลสัมฤทธิ์และคืนเงินกู้เหลือจ่าย (ถ้ามี)
ตามระเบียบที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด ตามที่เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ประธานกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้เสนอ และให้หน่วยงานเจ้าของโครงการและกระทรวงต้นสังกัดรับความเห็นของกระทรวงการคลัง
สำนักงบประมาณ และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่ชาติ เช่น ควรกำกับติดตามหน่วยงานในสังกัดให้ดำเนินการตามแผนงาน/โครงการที่ได้รับอนุมัติให้ใช้จ่ายเงินกู้ตามพระราชกำหนดฯ
เพิ่มเติม ๒๕๖๔ เป็นไปตามเป้าหมาย และกรอบระยะเวลาที่ได้รับอนุมัติจากคณะรัฐมนตรีอย่างเคร่งครัด
และปฏิบัติตามขั้นตอนของกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ
และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องให้ถูกต้องครบถ้วน เป็นไปตามหลักเกณฑ์
อัตราค่าใช้จ่าย และมาตรฐานของทางราชการอย่างประหยัด รวมทั้งเร่งรัดการใช้จ่ายให้เป็นไปตามแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่าย
ตลอดจนให้ความสำคัญกับการติดตามและประเมินผลโครงการ
ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
770 | ผลการพิจารณาของคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ ภายใต้พระราชกำหนดฯ เพิ่มเติม พ.ศ. 2564 ในคราวประชุมครั้งที่ 6/2566 | นร.11 สศช | 16/05/2566 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติและเห็นชอบผลการพิจารณาของคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้
ตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้
ภายใต้พระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและสังคม
จากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ เพิ่มเติม พ.ศ. ๒๕๖๔
ในคราวประชุมครั้งที่ ๖/๒๕๖๖ เมื่อวันที่ ๑๑ เมษายน ๒๕๖๖ ประกอบด้วย (๑) อนุมัติให้สถาบันวัคซีน เปลี่ยนแปลงรายละเอียดที่เป็นสาระสำคัญของโครงการจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการวิจัยและทดสอบวัคซีน
และเภสัชภัณฑ์ในลิงมาร์โมเส็ท และโครงการศึกษาความปลอดภัย (Safety) ความสามารถในการกระตุ้นภูมิคุ้มกัน (Immunogenicity) และประสิทธิภาพ (Vaccine Efficacy) ของแคนดิเดตซับยูนิตวัคซีน
สำหรับป้องกันโรคโควิด-๑๙
ที่ใช้พืชเป็นแหล่งผลิตในมนุษย์ระยะที่ ๒a โดยขยายระยะเวลาดำเนินโครงการทั้งสอง
เป็นสิ้นสุดภายในวันที่ ๒๙ ธันวาคม ๒๕๖๖ (๒) มอบหมายให้สถาบันวัคซีนแห่งชาติ ร่วมกับหน่วยงานดำเนินโครงการจัดทำรายงานความก้าวหน้าของโครงการและแผนการดำเนินงานที่ได้มีการปรับแผนพร้อมการบริหารความเสี่ยง
เพื่อให้เกิดความมั่นใจว่าการดำเนินโครงการฯ จะสามารถแล้วเสร็จตามเป้าหมายที่กำหนด
(๓) อนุมัติให้จังหวัดเปลี่ยนแปลงรายละเอียดที่เป็นสาระสำคัญของโครงการ
๔๑ โครงการกรอบวงเงิน ๒๐๓.๒๔๗๖ ล้านบาท (๔) มอบหมายให้กระทรวงมหาดไทย เร่งดำเนินการประสานจังหวัดในการตรวจสอบการดำเนินโครงการของหน่วยงานที่ได้รับอนุมัติให้ดำเนินโครงการโดยใช้เงินกู้ตามพระราชกำหนดฯ
เพิ่มเติม พ.ศ. ๒๕๖๔ โดยกรณีที่จังหวัดไม่สามารถดำเนินโครงการให้แล้วเสร็จภายในระยะเวลาที่ได้รับอนุมัติตามมติคณะรัฐมนตรี
ให้เร่งรัดจังหวัดดำเนินการขอเปลี่ยนแปลงรายละเอียดที่เป็นสาระสำคัญของโครงการและ/หรือเสนอขอยกเลิกการดำเนินโครงการตามขั้นตอนของระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีฯ
เพิ่มเติม พ.ศ. ๒๕๖๔ ต่อไป และ (๕) มอบหมายให้หน่วยงานผู้รับผิดชอบโครงการ
เร่งปรับปรุงรายละเอียดของโครงการในระบบ eMENSCR ให้เป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรีโดยเร็ว
พร้อมทั้งเร่งดำเนินโครงการให้แล้วเสร็จตามกรอบระยะเวลาที่ได้รับอนุมัติจากคณะรัฐมนตรีอย่างเคร่งครัด
ตามที่เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ประธานกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้เสนอ
และให้หน่วยงานเจ้าของโครงการและกระทรวงต้นสังกัดรับความเห็นของกระทรวงการคลัง
สำนักงบประมาณ และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เช่น
ให้กระทรวงต้นสังกัดติดตามหน่วยงานเจ้าของโครงการในการดำเนินโครงการอย่างใกล้ชิด
และกำกับดูแลหน่วยงานเจ้าของโครงการดำเนินโครงการให้แล้วเสร็จตามแผนงานที่กำหนด
เพื่อให้การใช้จ่ายเงินกู้เป็นไปอย่างคุ้มค่า มีประสิทธิภาพ และบรรลุผลสัมฤทธิ์ของโครงการตามที่กำหนดไว้
หน่วยงานรับผิดชอบโครงการจะต้องปฏิบัติตามขั้นตอนของกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ
และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง ให้ถูกต้องครบถ้วน เป็นไปตามหลักเกณฑ์
อัตราค่าใช้จ่าย และมาตรฐานของทางราชการอย่างประหยัด
ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป |
|||||||||||||||||||||||||||||||||
771 | การขออนุมัติในหลักการสำหรับการให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่เมียนมากรณีพายุไซโคลนโมคา | กต. | 16/05/2566 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. รับทราบตามที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาชี้แจงว่า โดยที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่
๑๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๓ (เรื่อง ขอปรับหลักเกณฑ์การดำเนินงานให้ความช่วยเหลือแก่มิตรประเทศที่ประสบภัยพิบัติ)
เห็นชอบกรอบวงเงินงบประมาณสำหรับการให้ความช่วยเหลือประเทศเพื่อนบ้านที่ประสบภัยพิบัติของกระทรวงการต่างประเทศ
และกระทรวงการต่างประเทศได้รับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณรองรับการดำเนินการดังกล่าวอยู่แล้วเป็นประจำทุกปี
ดังนั้น การให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่เมียนมาพายุไซโคลนโมคาจึงเป็นเรื่องที่กระทรวงการต่างประเทศสามารถพิจารณาดำเนินการได้ตามอำนาจหน้าที่และไม่เข้าลักษณะเป็นการสร้างความผูกพันต่อคณะรัฐมนตรีชุดต่อไปตามนัยมาตรา
๑๖๙ (๑) ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
คณะรัฐมนตรีจึงสามารถพิจารณาได้ตามที่เห็นสมควร ๒. เห็นชอบให้กระทรวงการต่างประเทศเร่งประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
เช่น กระทรวงกลาโหม กระทรวงสาธารณสุข และภาคเอกชนที่เกี่ยวข้องดำเนินการให้ความช่วยเหลือตามอำนาจหน้าที่ให้ถูกต้อง
เป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องโดยด่วนต่อไป ๓.
ให้กระทรวงการต่างประเทศได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔
พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
772 | รายงานผลการดำเนินการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในช่วงฤดูฝน ปี 2565 ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน 2565 วันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2566 และวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2566 | มท. | 16/05/2566 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการดำเนินการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในช่วงฤดูฝน
ปี ๒๕๖๕ ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๙ พฤศจิกายน ๒๕๖๕ วันที่ ๒๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๖
และวันที่ ๒๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๖ ซึ่งได้ดำเนินการแล้วเสร็จ โดยสามารถเบิกจ่ายงบประมาณช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้อย่างทั่วถึง
เป็นธรรม และการดำเนินการเป็นไปตามนโยบายรัฐบาล ทั้งนี้
กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้ส่งคืนงบประมาณเหลือจ่ายจากการดำเนินงาน จำนวนเงิน
๑,๐๓๒,๗๑๑,๐๐๐ บาท คืนสำนักงบประมาณ เพื่อดำเนินงานในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
773 | รายงานความคืบหน้าการดำเนินงานของคณะกรรมการติดตามการดำเนินการแก้ไขปัญหา บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ในคราวประชุมครั้งที่ 1/2566 | กค. | 16/05/2566 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. รับทราบรายงานความคืบหน้าการดำเนินงานของคณะกรรมการติดตามการดำเนินการแก้ไขปัญหา
บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ในคราวประชุมครั้งที่ ๑/๒๕๖๖ เพื่อติดตามความคืบหน้าการดำเนินการตามแผนฟื้นฟูกิจการ
ตามที่คณะกรรมการติดตามการดำเนินการแก้ไขปัญหา
บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เสนอ
และให้กระทรวงคมนาคมเร่งแก้ปัญหาอุปสรรคในการจัดหาอากาศยานให้เป็นไปตามแผนการจัดหาอากาศยานในปี
๒๕๖๗-๒๕๖๘ ด้วย ๒. ให้คณะกรรมการติดตามการดำเนินการแก้ไขปัญหา
บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี)
ในการเสนอเรื่องนี้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
774 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดลักษณะของเหรียญกษาปณ์ที่ระลึก 90 ปี กรมธนารักษ์ พ.ศ. .... | กค. | 09/05/2566 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. เห็นชอบร่างกฎกระทรวงกำหนดลักษณะของเหรียญกษาปณ์ที่ระลึก ๙๐
ปี กรมธนารักษ์ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเพื่อเฉลิมพระเกียรติสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ
และเผยแพร่พระเกียรติคุณพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ
พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ให้แผ่ไพศาลไปทั้งภายในประเทศและนานาประเทศ
และเป็นที่ระลึก
รวมทั้งเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ภารกิจของกรมธนารักษ์ให้เป็นที่รู้จักแพร่หลายทั่วไป ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว และให้ดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงการคลังได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี)
ในการเสนอเรื่องนี้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
775 | ร่างปฏิญญาผู้นำอาเซียนว่าด้วยการผลักดันการเชื่อมโยงระบบการชำระเงินในภูมิภาคและการส่งเสริมธุรกรรมสกุลเงินท้องถิ่น | กค. | 09/05/2566 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. เห็นชอบร่างปฏิญญาผู้นำอาเซียนว่าด้วยการผลักดันการเชื่อมโยงระบบการชำระเงินในภูมิภาคและการส่งเสริมธุรกรรมสกุลเงินท้องถิ่น
และอนุมัติให้นายกรัฐมนตรีหรือผู้ที่ได้รับมอบหมายรับรองร่างปฏิญญาผู้นำอาเซียนว่าด้วยการผลักดันการเชื่อมโยงระบบการชำระเงินในภูมิภาคและการส่งเสริมธุรกรรมสกุลเงินท้องถิ่น
โดยร่างปฏิญญาฯ มีสาระสำคัญเป็นการแสดงเจตนารมณ์ทางการเมืองระดับผู้นำทางอาเซียนในการส่งเสริมการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์และส่งเสริมความร่วมมือในการเชื่อมโยงระบบการชำระเงินในภูมิภาคโดยใช้เทคโนโลยี
รวมทั้งการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนการสนับสนุนการจัดตั้งLocal Currency Transaction Task Force เพื่อสนับสนุนการใช้สกุลเงินท้องถิ่นในการทำธุรกรรม
ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างปฏิญญาผู้นำอาเซียนว่าด้วยการผลักดันการเชื่อมโยงระบบการชำระเงินในภูมิภาคและการส่งเสริมธุรกรรมสกุลเงินท้องถิ่น
ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้
ให้กระทรวงการคลังดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง
พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวด้วย ๒. ให้กระทรวงการคลังได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี)
ในการเสนอเรื่องนี้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
776 | การประชุมระดับผู้นำ ครั้งที่ 15 แผนงานการพัฒนาเขตเศรษฐกิจสามฝ่าย อินโดนีเซีย-มาเลเซีย-ไทย (IMT-GT) | นร.11 สศช | 09/05/2566 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. เห็นชอบการประชุมระดับผู้นำ ครั้งที่ ๑๕ แผนงานการพัฒนาเขตเศรษฐกิจสามฝ่าย
อินโดนีเซีย-มาเลเซีย-ไทย (IMT-GT)
กำหนดจัดขึ้นในวันที่ ๑๑ พฤษภาคม ๒๕๖๖ ณ โรงแรมเมอรุโอราห์ โคโมโด ลาบวน บาโจ
เมืองลาบวน บาโจ สาธารณรัฐอินโดนีเซีย
และเห็นชอบให้นายกรัฐมนตรีหรือผู้แทนที่ได้รับมอบหมาย ได้ร่วมกับผู้นำประเทศแผนงาน
IMT-GT ให้การรับรองร่างแถลงการณ์ร่วมการประชุมระดับผู้นำ
ครั้งที่ ๑๕ แผนงาน IMT-GT ในวันที่ ๑๑ พฤษภาคม ๒๕๖๖ โดยร่างแถลงการณ์ร่วมฯ
มีสาระสำคัญกล่าวถึงความร่วมมือในการพัฒนาเศรษฐกิจภายใต้กรอบความร่วมมือ IMT-GT โดยเฉพาะการเฉลิมฉลองครบรอบ ๓๐ ปี นับตั้งแต่การก่อตั้ง IMT-GT และความคืบหน้าการดำเนินงานด้านต่าง ๆ ของ IMT-GT
เน้นย้ำความมุ่งมั่นในการส่งเสริมความร่วมมือภายใต้แผนงาน IMT-GT
และการขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมควบคู่กับการรับมือความท้าทายใหม่ ๆ
ในอนุภูมิภาค รวมทั้งรับรองโครงการ IMT-GT Visit Year
ค.ศ. 2023-2025 ตามที่สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอ
ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างแถลงการณ์ร่วมการประชุมการประชุมระดับผู้นำ
ครั้งที่ ๑๕ แผนงานการพัฒนาเขตเศรษฐกิจสามฝ่าย อินโดนีเซีย-มาเลเซีย-ไทย (IMT-GT) ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้
ให้สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง
พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวด้วย ๒. ให้สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี)
ในการเสนอเรื่องนี้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
777 | การขอความเห็นชอบต่อร่างเอกสารที่จะมีการรับรองในการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 42 | กต. | 09/05/2566 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างเอกสารที่จะมีการรับรองในการประชุมสุดยอดอาเซียน
ครั้งที่ ๔๒ จำนวน ๘ ฉบับ เช่น แถลงการณ์ผู้นำอาเซียนต่อวิสัยทัศน์ประชาคมอาเซียนภายหลังปี
ค.ศ. ๒๐๒๕ ร่างแผนการดำเนินงานสำหรับการเข้าเป็นสมาชิกอาเซียนของติมอร์-เลสเต
ร่างปฏิญญาอาเซียนว่าด้วยการบรรจุงานและการคุ้มครองแรงงานข้ามชาติในภาคประมง
เป็นต้น และมอบหมายให้นายกรัฐมนตรี หรือผู้แทนที่ได้รับมอบหมายร่วมรับรองร่างเอกสารฯ
ในการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ ๔๒ ที่จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ ๑๐-๑๑ พฤษภาคม
๒๕๖๖ ณ เมืองลาบวน บาโจ สาธารณรัฐอินโดนีเซีย ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ และหากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างเอกสารผลลัพธ์ของการประชุมสุดยอดอาเซียน
ครั้งที่ ๔๒ ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้
ให้สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวด้วย
ทั้งนี้
ให้กระทรวงการต่างประเทศและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
สำนักงบประมาณ และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ โดยให้ดำเนินการตามกฎหมาย
ระเบียบ ข้อบังคับที่มีอยู่ในปัจจุบันและมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องโดยเคร่งครัด
หากมีค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาปรับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ
โอนงบประมาณรายจ่าย โอนเงินจัดสรรหรือเปลี่ยนแปลงเงินจัดสรร แล้วแต่กรณี ตามระเบียบว่าด้วยการบริหารงบบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๒ ตามขั้นตอนของกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับและมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง
และกระทรวงการต่างประเทศจำเป็นต้องวิเคราะห์ ประเมินผล
และติดตามการดำเนินงานที่สืบเนื่องจากการรับรองร่างเอกสารดังกล่าว
ตลอดจนสื่อสารผลลัพธ์และความคืบหน้าให้สาธารณชนและทุกภาคส่วนรับรู้
ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||||||||
778 | มาตรการรับมือฤดูฝน ปี 2566 | นร.14 | 09/05/2566 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบและเห็นชอบมาตรการรับมือฤดูฝน ปี ๒๕๖๖
เพื่อเป็นการป้องกันและลดผลกระทบที่จะเกิดจากปัญหาอุทกภัยที่อาจส่งผลให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อนให้กับสถานการณ์
รวมทั้งเพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องสามารถนำ ๑๒ มาตรการรับมือฤดูฝน
มาใช้ในการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำในช่วงฤดูฝน ปี ๒๕๖๖ ได้ทันตามปฏิทิน ซึ่งจะเริ่มเข้าสู่ฤดูฝนในวันที่
๑ พฤษภาคม ๒๕๖๖ ตามที่คณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติเสนอ
และให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
กระทรวงพลังงาน กระทรวงมหาดไทย สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งรัดดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปให้ถูกต้อง
เป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบ หลักเกณฑ์ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
779 | ร่างพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยปริญญาในสาขาวิชา อักษรย่อสำหรับสาขาวิชา ครุยวิทยฐานะ เข็มวิทยฐานะ และครุยประจำตำแหน่งของมหาวิทยาลัยราชภัฏเลย (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | อว. | 02/05/2566 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยปริญญาในสาขาวิชา
อักษรย่อสำหรับสาขาวิชา ครุยวิทยฐานะ เข็มวิทยฐานะ
และครุยประจำตำแหน่งของมหาวิทยาลัยราชภัฏเลย (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดปริญญาและอักษรย่อสำหรับสาขาวิชาการบัญชีและเพิ่มระดับชั้นปริญญาตรีในสาขาวิชาสาธารณสุขศาสตร์
รวมทั้งกำหนดสีประจำสาขาวิชาการบัญชีและแก้ไขเข็มวิทยฐานะของมหาวิทยาลัยราชภัฏเลย ตามที่กระทรวงการอุดมศึกษา
วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา
แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
780 | ขอรับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น | พน. | 02/05/2566 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. อนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๖ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ภายในกรอบวงเงิน
๑๐,๔๖๔ ล้านบาท โดยขอเบิกจ่ายจากงบเงินอุดหนุน
ประเภทเงินอุดหนุนทั่วไป สำหรับดำเนินมาตรการในช่วงเดือนพฤษภาคม ๒๕๖๖
ถึงเดือนสิงหาคม ๒๕๖๖ โดยกระทรวงพลังงานไม่ได้ขอรับจัดสรรงบประมาณปี พ.ศ. ๒๕๖๖
สำหรับเป็นค่าใช้จ่ายมาตรการเพื่อบรรเทาผลกระทบต่อประชาชนจากสถานการณ์ราคาพลังงาน
โดยให้ส่วนลดค่าไฟฟ้าแบบขั้นบันใดแก่ผู้ใช้ไฟฟ้าบ้านอยู่อาศัยที่ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน
๓๐๐ หน่วยต่อเดือน และส่วนลดค่าไฟฟ้าสำหรับงวดเดือนพฤษภาคม ๒๕๖๖ จำนวน ๑๕๐
บาทต่อรายซึ่งเป็นผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทบ้านอยู่อาศัยที่ใช้ไฟฟ้า ไม่เกิน ๕๐๐
หน่วยต่อเดือน เพื่อเป็นการลดภาระค่าครองชีพของประชาชน
โดยแบ่งสัดส่วนการขอจัดสรรงบประมาณสำหรับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยและกิจการไฟฟ้าสวัสดิการสัมปทานกองทัพเรือ
จำนวน ๓๕.๗๐ ล้านบาท และการไฟฟ้านครหลวงและการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค จำนวน ๑๐,๔๒๘.๓๐ ล้านบาท ตามที่กระทรวงพลังงานเสนอ
และให้ดำเนินการต่อไปได้เมื่อได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการการเลือกตั้งตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
มาตรา ๑๖๙ (๓) แล้ว ทั้งนี้
ให้กระทรวงพลังงานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของสำนักงบประมาณ
(หนังสือสำนักงบประมาณ ด่วนที่สุด ที่ นร ๐๗๐๘/๘๖๕๓ ลงวันที่ ๒ พฤษภาคม ๒๕๖๖)
และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ที่เห็นควรดำเนินมาตรการเร่งด่วนด้านพลังงานเพื่อบรรเทาผลกระทบต่อประชาชนจากสถานการณ์ราคาพลังงาน
โดยให้ความสำคัญในเรื่องการเตรียมความพร้อมของโครงการ วิธีดำเนินงาน
เพื่อให้ได้ผลสัมฤทธิ์ รวมถึงปฏิบัติให้เป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย ระเบียบ
ข้อบังคับ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องให้ถูกต้องในทุกขั้นตอน และให้ความสำคัญในการติดตามและปรับสมมติฐานที่ใช้ในการคำนวณอัตราค่าไฟฟ้าตามสูตรการปรับอัตราค่าไฟฟ้าโดยอัตโนมัติ
(Ft)
ให้สะท้อนสภาวการณ์ปัจจุบันอย่างใกล้ชิดควบคู่กับการสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการกำหนดอัตราค่าไฟฟ้าแก่ทุกภาคส่วน
ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
|