ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 287 จากทั้งหมด 568 หน้า แสดงรายการที่ 5721 - 5740 จากข้อมูลทั้งหมด 11341 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
5721 | การมอบหมายเกี่ยวกับการให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ประสบอุทกภัย และการเตรียมความพร้อมในการดำเนินงานเรื่องเร่งด่วนต่าง ๆ | นร | 20/09/2554 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการมอบหมายเกี่ยวกับการให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ประสบอุทกภัย และการเตรียมความพร้อมในการดำเนินงานเรื่องเร่งด่วนต่าง ๆ ตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอ ดังนี้
๑. การให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ประสบอุทกภัย ให้รัฐมนตรีทุกท่านประสานงานการลงพื้นที่กับกระทรวงมหาดไทยและสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี รวมทั้งให้รายงานผลการดำเนินงาน และให้รองนายกรัฐมนตรี (นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ) พิจารณากำหนดแนวทางการดำเนินงาน การประสานงาน และรายงานผลให้ชัดเจน มีเอกภาพ และไม่เกิดความซ้ำซ้อนกันด้วย ๒. การบูรณะ ซ่อมแซมเส้นทางคมนาคม ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมประสานงานกับกระทรวงกลาโหมเพื่อเร่งรัดดำเนินการบูรณะ ซ่อมแซมเส้นทางคมนาคมที่เกิดความชำรุดเสียหายจากสถานการณ์อุทกภัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งทางหลวงสายต่าง ๆ จำนวน ๒๑ สายทาง ใน ๑๐ จังหวัด ทั้งนี้ ให้จัดลำดับความสำคัญเร่งด่วนของสายทางที่จะต้องดำเนินการด้วย ๓. การเร่งอัตราความเร็วการไหลของกระแสน้ำเพื่อระบายน้ำลงสู่ทะเล ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีประสานงานกับผู้ว่าราชการจังหวัดในพื้นที่ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อบูรณาการการกำกับ ดูแล และดำเนินการเพื่อเร่งความเร็วการไหลของน้ำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ที่มีปริมาณน้ำท่วมสูงเพื่อให้ระบายน้ำลงสู่ทะเลได้อย่างรวดเร็ว ๔. การจัดงานหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ (OTOP) ให้รองนายกรัฐมนตรี (นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง) รับไปพิจารณาดำเนินการเตรียมความพร้อมในการจัดงาน OTOP ทั้งในด้านสถานที่จัดงาน การประสานงานกับผู้ผลิตสินค้า ระยะเวลาดำเนินการ และด้านอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ให้สามารถจัดงาน OTOP รองรับช่วงเทศกาลปีใหม่ต่อไป ๕. การจัดซื้อจัดจ้างของส่วนราชการ ให้รัฐมนตรีและผู้บริหารที่เกี่ยวข้องทุกท่านกำกับ ดูแล การดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างในส่วนราชการ และหน่วยงานของรัฐในความรับผิดชอบให้เป็นไปตามกฎหมายและระเบียบโดยถูกต้อง โปร่งใส เป็นประโยชน์สูงสุดแก่ราชการ และมิให้เกิดปัญหาการทุจริตและประพฤติมิชอบขึ้น ๖. การแต่งตั้งโฆษกประจำกระทรวง ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทุกท่านพิจารณาแต่งตั้งโฆษกประจำกระทรวงแล้วแจ้งชื่อผู้ที่ได้รับการแต่งตั้งไปยังโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีโดยด่วน เพื่อจะได้ปฏิบัติหน้าที่ประชาสัมพันธ์เผยแพร่ผลงานการดำเนินงานของกระทรวง รวมทั้งประสานงานการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีต่อไป ทั้งนี้ ให้นำเรื่องดังกล่าวเสนอคณะรัฐมนตรีทราบด้วย ๗. การจัดตั้งกรมฝนหลวงและการบินเกษตร ให้รองนายกรัฐมนตรี (นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ) รับไปเร่งรัดการดำเนินการจัดตั้งกรมฝนหลวงและการบินเกษตรขึ้นในกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๓ พฤษภาคม ๒๕๕๔ (เรื่อง การจัดตั้งกรมฝนหลวงและการบินเกษตร) ให้แล้วเสร็จโดยเร็ว เพื่อให้ทันกับการจัดงานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๗ รอบ ๕ ธันวาคม ๒๕๕๔
|
|||||||||||||||||||||
5722 | มาตรการการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2554 | นร | 13/09/2554 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบสถานภาพงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ และเห็นชอบมาตรการการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ และให้รัฐมนตรี ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานอื่นของรัฐถือปฏิบัติต่อไป ตามที่สำนักงบประมาณเสนอ ดังนี้ ๑.๑ ปรับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ โครงการ/รายการ ที่คาดว่าไม่สามารถดำเนินการได้ทันในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ ไปดำเนินการโครงการ/รายการที่พร้อมดำเนินการ ได้แก่ ๑.๑.๑ ดำเนินการโครงการ/รายการ ในการแก้ไขปัญหาที่ได้รับผลกระทบอันเนื่องมาจากอุทกภัย พิบัติภัยต่าง ๆ ๑.๑.๒ ดำเนินโครงการ/รายการ ในการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนและยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน ๑.๑.๓ เตรียมการหรือดำเนินการโครงการ/รายการ ตามนโยบายเร่งด่วนที่จะเริ่มดำเนินการในปีแรกของรัฐบาล และ/หรือ สอดคล้องกับแผนการบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. ๒๕๕๕ - ๒๕๕๘ ๑.๒ กรณีที่ไม่สามารถดำเนินการได้ตามข้อ ๑.๑ แต่มีความสอดคล้องกับนโยบายและแผนการบริหารราชการแผ่นดิน ในเบื้องต้น ให้ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานอื่นของรัฐ ดำเนินการเสนอขอกันเงินไว้เบิกจ่ายเหลื่อมปีตามวงเงินที่ยังไม่สามารถใช้จ่ายในทุกงบรายจ่ายต่อกระทรวงการคลัง ๑.๓ สำหรับโครงการ/รายการที่ได้รับอนุมัติจากคณะรัฐมนตรี ให้ดำเนินการโดยใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ไปแล้ว หากส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานอื่นของรัฐได้มีการทบทวนถึงความจำเป็นว่าสมควรนำไปเพื่อไปดำเนินการในกรณีที่ ๑.๑.๑ - ๑.๑.๒ ก็ให้นำเสนอให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาในโอกาสแรก โดยให้ปฏิบัติตามกฎหมาย ระเบียบฯ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องโดยเคร่งครัด ๒. ให้ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานอื่นของรัฐแจ้งข้อมูลเกี่ยวกับงบประมาณในความรับผิดชอบไปยังสำนักงบประมาณโดยด่วน ภายในวันพฤหัสบดีที่ ๑๕ กันยายน ๒๕๕๔ เพื่อให้สำนักงบประมาณรวบรวมและนำเสนอนายกรัฐมนตรีต่อไปภายในวันจันทร์ที่ ๑๙ กันยายน ๒๕๕๔ ได้แก่ ๒.๑ จำนวนงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ ในความรับผิดชอบที่ยังคงเหลือสุทธิ ณ วันที่ ๒๔ สิงหาคม ๒๕๕๔ (ไม่รวมงบประมาณที่จะต้องจ่ายตามข้อผูกพันตามมติคณะรัฐมนตรี หรือก่อหนี้ผูกพันไว้ตามมาตรา ๒๓ แห่งพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๐๒ และที่แก้ไขเพิ่มเติม) ๒.๒ จำนวนงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ ในความรับผิดชอบที่จะต้องจ่ายตามข้อผูกพันตามมติคณะรัฐมนตรี หรือก่อหนี้ผูกพันไว้ตามมาตรา ๒๓ แห่งพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๐๒ และที่แก้ไขเพิ่มเติม
|
|||||||||||||||||||||
5723 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งหัวหน้าส่วนราชการระดับกระทรวงหรือเทียบเท่า | นร | 13/09/2554 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๖ สิงหาคม ๒๕๕๔ เกี่ยวกับเรื่องการแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งหัวหน้าส่วนราชการระดับกระทรวงหรือเทียบเท่า ตามมติที่ประชุม ก.พ. ครั้งที่ ๑๐/๒๕๕๔ เมื่อวันที่ ๖ กันยายน ๒๕๕๔ ตามที่สำนักงาน ก.พ. เสนอ โดยที่ประชุม ก.พ. มีมติ ดังนี้
๑. ให้ชะลอการดำเนินการตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กำหนดในการคัดเลือกข้าราชการพลเรือนสามัญเพื่อแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งหัวหน้าส่วนราชการระดับกระทรวงหรือเทียบเท่า ที่กำหนดให้มีการเลือกสรรโดยคณะกรรมการและเป็นการรับสมัครตามหนังสือสำนักงาน ก.พ. ที่ นร ๑๐๐๓/ว ๑๕ ลงวันที่ ๒๘ มิถุนายน ๒๕๕๔ เป็นให้ใช้หลักเกณฑ์และวิธีการคัดเลือกข้าราชการพลเรือนสามัญเพื่อแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งหัวหน้าส่วนราชการระดับกระทรวงหรือเทียบเท่า ตามหนังสือสำนักงาน ก.พ. ที่ นร ๐๗๐๘.๑/ว ๒๒ ลงวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๔๐ และหนังสือสำนักงาน ก.พ. ที่ นร ๑๐๐๓/ว ๒๒ ลงวันที่ ๑๘ มิถุนายน ๒๕๕๓ ที่ให้รัฐมนตรีเจ้าสังกัดพิจารณาบุคคลที่เหมาะสมที่จะได้รับการเลื่อนขึ้นและแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งหัวหน้าส่วนราชการระดับกระทรวงหรือเทียบเท่า โดยปลัดกระทรวงเป็นผู้เสนอรายชื่อที่เหมาะสมเมื่อรัฐมนตรีเจ้าสังกัดพิจารณาได้ผู้ที่เหมาะสมแล้วจึงดำเนินการตามขั้นตอนการแต่งตั้งต่อไป ๒. ให้ชะลอการเร่งรัดการแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารและประเภทอำนวยการ ตามกรอบเวลาที่ ก.พ. กำหนดไว้ตามหนังสือสำนักงาน ก.พ. ที่ นร ๑๐๐๓/ว ๘ ลงวันที่ ๙ มีนาคม ๒๕๕๓ และให้ส่วนราชการเร่งรัดการดำเนินการเรื่องดังกล่าวให้แล้วเสร็จโดยเร็ว และรายงานผลการดำเนินการให้ ก.พ. ทราบต่อไป
|
|||||||||||||||||||||
5724 | คณะกรรมการต่าง ๆ ที่แต่งตั้งโดยมติคณะรัฐมนตรี | กก | 13/09/2554 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเสนอ ดังนี้
๑. แต่งตั้งคณะกรรมการตามเดิม จำนวน ๔ คณะ ได้แก่ ๑.๑ คณะกรรมการบริหารโครงการเงินสนับสนุนจากการออกสลากกินแบ่งรัฐบาลเพื่อการพัฒนากีฬาของชาติ ๑.๒ คณะกรรมการจัดการแข่งขันกีฬาเอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ ๑๓ ๑.๓ คณะกรรมการจัดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ ๒๔ พ.ศ. ๒๕๕๐ และกีฬาอาเซียนพาราเกมส์ ครั้งที่ ๔ พ.ศ. ๒๕๕๐ ๑.๔ คณะกรรมการอำนวยการแข่งขันกีฬาเอเชี่ยนอินดอร์เกมส์ ครั้งที่ ๑ ๒. ปรับปรุงองค์ประกอบคณะกรรมการอำนวยการแก้ไขปัญหานักท่องเที่ยวถูกหลอกลวงในประเทศไทยในส่วนของประธานกรรมการ กรรมการและเลขานุการ และกรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ
|
|||||||||||||||||||||
5725 | การต่อเวลาการดำรงตำแหน่งและปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งของเลขาธิการ กปร. | กร | 13/09/2554 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบการต่อเวลาการดำรงตำแหน่งและการปฏิบัติหน้าที่ของ นายเฉลิมเกียรติ แสนวิเศษ ข้าราชการพลเรือนสามัญ ตำแหน่งเลขาธิการคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ สำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ซึ่งจะดำรงตำแหน่งติดต่อกันครบ ๔ ปี ในวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๕๔ ออกไปอีก ๑ ปี จนถึงวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๕๕ ซึ่งรองนายกรัฐมนตรี (พลตำรวจเอก โกวิท วัฒนะ) ได้เห็นชอบให้ต่อเวลาการดำรงตำแหน่งดังกล่าวด้วยแล้ว ตามที่สำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริเสนอ ๒. เห็นชอบให้ทบทวนมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ ๑๓ มกราคม ๒๕๔๑ จากเดิมที่กำหนดให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีส่งเรื่องให้ ก.พ. กลั่นกรองให้ข้อมูลและเสนอความเห็นเพื่อประกอบการพิจารณาของคณะรัฐมนตรีก่อนนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณา เป็นให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีตรวจสอบข้อมูลและประวัติการดำรงตำแหน่งร่วมกับสำนักงาน ก.พ. ก่อนนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณา ตามที่สำนักงาน ก.พ. เสนอ
|
|||||||||||||||||||||
5726 | คณะกรรมการต่าง ๆ ที่แต่งตั้งโดยมติคณะรัฐมนตรี (ขยายเวลาจนถึงวันที่ 20 กันยายน 2554) | นร | 13/09/2554 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้ขยายเวลาให้คณะกรรมการต่าง ๆ ที่คณะรัฐมนตรีชุดเดิม (นายกรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ) มีมติแต่งตั้งไว้ (ไม่รวมถึงคณะกรรมการที่คณะรัฐมนตรีแต่งตั้งโดยอาศัยอำนาจตามระเบียบหรือตามกฎหมายหนึ่งกฎหมายใด หรือคณะกรรมการที่มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งไว้) ยังคงปฏิบัติหน้าที่ต่อไปได้จนถึงวันที่ ๒๐ กันยายน ๒๕๕๔ และให้กระทรวงดังกล่าวเร่งเสนอเรื่องเกี่ยวกับคณะกรรมการต่าง ๆ ที่แต่งตั้งโดยคณะรัฐมนตรีไปยังสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีภายในวันพุธที่ ๑๔ กันยายน ๒๕๕๔ เพื่อรวบรวมและนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป ทั้งนี้ หากพ้นระยะเวลาวันที่ ๒๐ กันยายน ๒๕๕๔ ให้คณะกรรมการที่คณะรัฐมนตรีแต่งตั้งและไม่ได้ดำเนินการภายในกำหนดเป็นอันสิ้นสุดลงตามนัยมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๕ สิงหาคม ๒๕๕๔ ตามที่เลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอ
|
|||||||||||||||||||||
5727 | ขออนุมัติขยายระยะเวลาดำเนินงานโครงการระบายน้ำบริเวณสนามบินสุวรรณภูมิและขออนุมัติขยายระยะเวลาก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ พร้อมทั้งเพิ่มวงเงินก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณรายการค่าจ้างบริษัทที่ปรึกษาควบคุมงาน | กษ | 13/09/2554 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ ดังนี้ ๑.๑ ขยายระยะเวลาดำเนินโครงการระบายน้ำบริเวณสนามบินสุวรรณภูมิ จังหวัดสมุทรปราการ จากเดิม ๖ ปี (ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๔๘ - ๒๕๕๓) เป็น ๗ ปี (ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๔๘ - ๒๕๕๔) เพื่อให้สอดคล้องกับระยะเวลาก่อหนี้ผูกพันฯ รายการค่าจ้างที่ปรึกษาควบคุมงานก่อสร้างโครงการระบายน้ำบริเวณสนามบินสุวรรณภูมิ จังหวัดสมุทรปราการ ๑.๒ ขยายระยะเวลาก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ รายการค่าจ้างที่ปรึกษาควบคุมงานก่อสร้างโครงการระบายน้ำบริเวณสนามบินสุวรรณภูมิ จังหวัดสมุทรปราการ จากเดิมปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๔๘ - ๒๕๕๓ เป็นปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๔๘ - ๒๕๕๔ พร้อมทั้งเพิ่มวงเงินก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณจากวงเงินตามสัญญาเดิม ๑๘๑,๑๗๙,๑๑๙.๖๐ บาท เป็นวงเงิน ๒๑๓,๐๐๑,๘๑๙.๖๐ บาท ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ๒. ให้ยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๐ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๒ (เรื่อง การปรับปรุงแก้ไขมติคณะรัฐมนตรีเกี่ยวกับหลักเกณฑ์การก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณและมาตรการอื่นที่เกี่ยวข้อง) เป็นกรณีพิเศษเฉพาะรายด้วย
|
|||||||||||||||||||||
5728 | คณะกรรมการต่าง ๆ ที่แต่งตั้งโดยมติคณะรัฐมนตรี (สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ) | นร | 13/09/2554 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้คงคณะกรรมการ ๒ คณะ เพื่อปฏิบัติงานต่อไป ตามที่สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติเสนอ ดังนี้
๑. คณะกรรมการพิจารณาปัญหาเขตแดนของประเทศไทย โดยปรับปรุงองค์ประกอบของคณะกรรมการฯ จาก “ผู้อำนวยการสำนักความมั่นคงกิจการชายแดนและการป้องกันประเทศ สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ กรรมการและเลขานุการ” เป็น “ผู้อำนวยการสำนักยุทธศาสตร์ความมั่นคงกิจการชายแดนและประเทศรอบบ้าน สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ กรรมการและเลขานุการ” ๒. คณะกรรมการนโยบายและอำนวยการแก้ไขปัญหาการก่อการร้าย โดยปรับปรุงองค์ประกอบของคณะกรรมการฯ ดังนี้ ๒.๑ เพิ่ม รองนายกรัฐมนตรี (ฝ่ายความมั่นคง) เป็นรองประธานกรรมการ ๒.๒ ปรับปรุงจาก “ผู้อำนวยการสำนักความมั่นคงกิจการภายนอกประเทศ สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ กรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ (๒)” เป็น “ผู้อำนวยการสำนักยุทธศาสตร์ความมั่นคงเกี่ยวกับภัยคุกคามข้ามชาติ สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ กรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ (๒)”
|
|||||||||||||||||||||
5729 | คณะกรรมการต่าง ๆ ที่แต่งตั้งโดยมติคณะรัฐมนตรี (สำนักงบประมาณ) | นร | 13/09/2554 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการแต่งตั้งคณะกรรมการประสานงานระหว่างหน่วยราชการทางการเงินขึ้นใหม่ ประกอบด้วย ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ เป็นประธานกรรมการ รองผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน (ตามที่ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดินมอบหมาย) รองผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ (ตามที่ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณมอบหมาย) รองอธิบดีกรมบัญชีกลาง (ตามที่อธิบดีกรมบัญชีกลางมอบหมาย) และผู้อำนวยการสำนักกฎหมาย กรมบัญชีกลาง เป็นกรรมการ โดยมีผู้อำนวยการสำนักกฎหมายและระเบียบ สำนักงบประมาณ เป็นเลขานุการ มีอำนาจหน้าที่ในการวินิจฉัยและแก้ไขปัญหาในทางปฏิบัติต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับการเงินและการงบประมาณแผ่นดิน กำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการในการแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับการเงินและการงบประมาณแผ่นดิน รวมทั้งเสนอแนะเกี่ยวกับการแก้ไขปรับปรุงระเบียบและข้อบังคับเกี่ยวกับการเงินและการงบประมาณแก่หน่วยงานเจ้าของเรื่องหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตามที่สำนักงบประมาณเสนอ
|
|||||||||||||||||||||
5730 | คณะกรรมการต่าง ๆ ที่แต่งตั้งโดยมติคณะรัฐมนตรี | กต | 13/09/2554 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ ดังนี้
๑. แต่งตั้งคณะกรรมการ จำนวน ๕๒ คณะ ซึ่งเป็นคณะกรรมการที่คณะรัฐมนตรีชุดเดิมมีมติแต่งตั้งไว้แล้ว ๒. ยกเลิกคณะกรรมการ จำนวน ๔ คณะได้แก่ ๒.๑ คณะกรรมการให้ความเห็นชอบการให้ความคุ้มครองการลงทุนภายใต้ความตกลงเพื่อการส่งเสริมและคุ้มครองการลงทุนระหว่างประเทศไทยกับประเทศต่าง ๆ ๒.๒ คณะกรรมการว่าด้วยความร่วมมือทางเศรษฐกิจในเอเชีย - แปซิฟิก (เอเปค) ๒.๓ คณะกรรมการนโยบายของไทยต่อองค์การว่าด้วยความมั่นคงและความร่วมมือในยุโรป (OSCE) ๒.๔ คณะกรรมการเตรียมการประชุม WIPO Intergovernmental Committee on Intellectual Property and Genetic Resources, Traditional Knowledge and Folklore (IGC) ๓. ปรับรายละเอียดองค์ประกอบคณะกรรมการ จำนวน ๖ คณะ คือ ๓.๑ คณะกรรมการกฎหมายทะเลเขตทางทะเลของประเทศไทย ๓.๒ คณะกรรมการความร่วมมือไทย - ประชาคมยุโรป ๓.๓ คณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย - กัมพูชา (ฝ่ายไทย) ๓.๔ คณะกรรมการร่วมด้านเทคนิคไทย - กัมพูชา (ฝ่ายไทย) ๓.๕ คณะกรรมการอาเซียนแห่งชาติ ๓.๖ คณะกรรมการจัดทำหลักเขตแดนร่วมระหว่างไทย - มาเลเซีย ๔. โอนคณะกรรมการกำกับดูแลฝ่ายไทยของสถาบันฝึกอบรมระหว่างประเทศว่าด้วยการดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมาย (ILEA) ที่คณะรัฐมนตรีมีมติเมื่อวันที่ ๒๕ พฤศจิกายน ๒๕๔๑ ให้จัดขึ้นตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ ให้อยู่ภายใต้ความรับผิดชอบของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
|
|||||||||||||||||||||
5731 | การดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีในการประชุมเมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2554 | นร | 13/09/2554 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบแนวทางในการจัดทำแผนปฏิบัติราชการตามมาตรา ๑๖ โดยให้ถือว่าคำของบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ. ๒๕๕๕ เป็นแผนปฏิบัติราชการประจำปี พ.ศ. ๒๕๕๕ และให้นำไปประกอบการจัดทำเป็นแผนปฏิบัติราชการสี่ปีต่อไป ตามที่สำนักงาน ก.พ.ร. เสนอ ๒. ให้ส่วนราชการนำเป้าหมายและตัวชี้วัดในแผนการบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. ๒๕๕๕ - ๒๕๕๘ ไปประกอบการจัดทำแผนปฏิบัติราชการประจำปี ช่วง พ.ศ. ๒๕๕๖ - ๒๕๕๘ และแผนปฏิบัติราชการสี่ปีของส่วนราชการ เพื่อให้การบริหารราชการแผ่นดินสามารถบรรลุเป้าหมายนโยบายของรัฐบาลและแผนการบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. ๒๕๕๕ - ๒๕๕๘ ตามความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติด้วย
|
|||||||||||||||||||||
5732 | แผนการบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2555 - 2558 (รัฐบาล นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี) | นร | 06/09/2554 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ) ประธานคณะกรรมการจัดทำแผนการบริหารราชการแผ่นดินเสนอ ดังนี้ ๑.๑ เห็นชอบแผนการบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. ๒๕๕๕ - ๒๕๕๘ มีสาระสำคัญสรุปได้ ดังนี้ ๑.๑.๑ องค์ประกอบของแผนการบริหารราชการแผ่นดิน ประกอบด้วย ๔ ส่วน คือ ๑.๑.๑.๑ แนวคิดและทิศทางการบริหารประเทศ เป็นการสรุปวิสัยทัศน์ สถานการณ์ของประเทศ และกรอบการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาล ๑.๑.๑.๒ แนวทางการบริหารราชการแผ่นดินตามนโยบายรัฐบาล ๘ นโยบาย เป็นการแสดงเป้าหมายเชิงนโยบาย ตัวชี้วัด และกลยุทธ์หรือวิธีดำเนินการเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ของนโยบายรัฐบาล ๑.๑.๑.๓ กลไกการนำแผนการบริหารราชการแผ่นดินไปสู่การปฏิบัติ ระบุหน่วยงานรับผิดชอบ งบประมาณสนับสนุน ตามนโยบาย และแนวทางการติดตามประเมินผล ๑.๑.๑.๔ แผนงาน/โครงการที่มีลำดับความสำคัญตามนโยบายรัฐบาล ซึ่งคัดเลือกจากแผนงาน/โครงการรายนโยบาย ๘ นโยบาย ๑.๑.๒ ประมาณการความต้องการใช้เงินตามนโยบายรัฐบาล ประมาณการการลงทุน วงเงินงบประมาณสนับสนุนตามนโยบาย เป็นประมาณการความต้องการใช้เงินเบื้องต้นซึ่งเป็นข้อเสนอตามความต้องการของส่วนราชการเพื่อดำเนินการตามนโยบายรัฐบาลสี่ปี เท่ากับ ๑๑.๒๙๙ ล้านล้านบาท และค่าใช้จ่ายดำเนินการภาครัฐสี่ปี รวม ๓.๘๗๘ ล้านล้านบาท รวมเป็นประมาณการความต้องการใช้เงินเบื้องต้นทั้งสิ้น ๑๕.๑๗๘ ล้านล้านบาท และประมาณการรายได้สุทธิของรัฐบาลเท่ากับ ๘.๙๐๑ ล้านล้านบาท โดยมีแหล่งเงินในการดำเนินโครงการตามนโยบาย ประกอบด้วย เงินในงบประมาณ ๑๐.๔๔๐ ล้านล้านบาท และเงินนอกงบประมาณ ๐.๘๕๙ ล้านล้านบาท ทั้งนี้ ประมาณการความต้องการใช้เงินที่ปรากฏในแผนการบริหารราชการแผ่นดินจะใช้เป็นกรอบแนวทางการจัดทำแผนปฏิบัติราชการสี่ปีและแผนปฏิบัติราชการประจำปีของส่วนราชการเพื่อประกอบการจัดทำคำของบประมาณประจำปีต่อไป ๑.๑.๓ การติดตามประเมินผล แผนการบริหารราชการแผ่นดินได้กำหนดให้มีกลไกการติดตามประเมินผลการดำเนินงานของส่วนราชการ โดยกำหนดขั้นตอนการติดตามประเมินผลความก้าวหน้าการปฏิบัติงานตามแผนการบริหารราชการแผ่นดิน เป็น ๓ ระยะ ได้แก่ การติดตามประเมินผลความก้าวหน้าประจำปี การประเมินผลในระยะครึ่งแผน และการประเมินผลเมื่อสิ้นสุดแผน ๑.๒ ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำความเห็นของคณะกรรมการจัดทำแผนการบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. ๒๕๕๕ - ๒๕๕๘ เกี่ยวกับขั้นตอนของการจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๕ รวมทั้งการบูรณาการแผนงาน/โครงการ ตามแผนปฏิบัติราชการสี่ปีและแผนปฏิบัติราชการประจำปี ไปประกอบการพิจารณาดำเนินการ ๑.๓ ให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีดำเนินการเพื่อประกาศในราชกิจจานุเบกษาตามพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี พ.ศ. ๒๕๔๖ ตามขั้นตอนต่อไป ๑.๔ ให้ส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐนำแผนการบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. ๒๕๕๕ - ๒๕๕๘ ไปประกอบการจัดทำแผนปฏิบัติราชการสี่ปีให้แล้วเสร็จภายใน ๖๐ วัน หลังจากที่แผนการบริหารราชการแผ่นดินประกาศใช้ในราชกิจจานุเบกษา ตามพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี พ.ศ. ๒๕๔๖ และแผนปฏิบัติราชการประจำปี ๑.๕ ให้กระทรวงการคลังและสำนักงบประมาณรับไปพิจารณาแหล่งเงินที่เหมาะสมสำหรับแผนงาน/โครงการ ตามแผนการบริหารราชการแผ่นดิน โดยคำนึงถึงข้อจำกัดด้านงบประมาณและรักษาวินัยการคลัง ๑.๖ ให้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการเป็นหน่วยงานรับผิดชอบหลักประสานกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้องในการติดตามและประเมินผลการดำเนินงานตามแผนการบริหารราชการแผ่นดิน และรายงานให้คณะกรรมการจัดทำแผนการบริหารราชการแผ่นดินและคณะรัฐมนตรีทราบ ๑.๗ เห็นชอบหลักการกรณีคณะรัฐมนตรีอนุมัติแผนงาน/โครงการเพิ่มเติม ให้คณะกรรมการจัดทำแผนการบริหารราชการแผ่นดินปรับปรุงแผนการบริหารราชการแผ่นดินให้สอดคล้องกับมติคณะรัฐมนตรี ๒ ให้ฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการจัดทำแผนการบริหารราชการแผ่นดิน (สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ) รับความเห็นของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาที่ขอเพิ่มเติมโครงการเกี่ยวกับการจัดการศึกษาระดับอุดมศึกษาด้านศึกษาศาสตร์ ศิลปศาสตร์ วิทยาศาสตร์การกีฬาและสุขภาพทุนการศึกษาต่อระดับปริญญาในวิทยาเขต และโครงการส่งเสริมการศึกษาต่อของนักเรียนที่มีความสามารถด้านกีฬา ณ ประเทศออสเตรเลีย ไปปรับปรุงแผนการบริหารราชการแผ่นดินอีกครั้งหนึ่ง โดยยังคงประมาณการรายได้และรายจ่ายไว้ตามเดิม แล้วให้ดำเนินการต่อไปได้ ๓. ให้ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานอื่น ส่งคำของบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๕ และดำเนินการต่าง ๆ ในส่วนที่เกี่ยวข้องให้เป็นไปตามกำหนดเวลาตามปฏิทินงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๕ ซึ่งคณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ ๒๕ สิงหาคม ๒๕๕๔ (เรื่อง การกำหนดปฏิทินงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๕) อย่างเคร่งครัด ๔. คณะรัฐมนตรีมีความเห็นเพิ่มเติมว่า เพื่อให้การดำเนินการตามนโยบายด้านต่าง ๆ ของรัฐบาลเป็นไปตามแผนการบริหารราชการแผ่นดินและมีการบูรณาการกันระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างเหมาะสมและมีประสิทธิภาพ เช่น การแก้ไขปัญหาเรื่องน้ำ การดำเนินการในกรอบความร่วมมืออาเซียน โลจิสติกส์ การแก้ไขปัญหาสังคม และการจัดตั้งกองทุนต่าง ๆ เป็นต้น สมควรกำหนดหน่วยงานเจ้าภาพหลัก/รอง เพื่อรับผิดชอบเรื่องต่าง ๆ ให้ชัดเจน โดยให้รองนายกรัฐมนตรี (นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง) รับไปพิจารณาดำเนินการในรายละเอียด โดยให้สำนักงบประมาณและสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาตินำเสนอข้อมูลที่เกี่ยวข้องเพื่อประกอบการพิจารณาดำเนินการโดยด่วน แล้วให้นำเสนอนายกรัฐมนตรีต่อไป
|
|||||||||||||||||||||
5733 | การช่วยเหลือเกษตรกรผู้ประสบอุทกภัยปี 2554 กรณีพิเศษ เพิ่มเติม | กษ | 06/09/2554 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ ดังนี้ ๑.๑ การช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกอ้อยที่ได้รับความเสียหายจากอุทกภัยกรณีที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนด้านพืชกับกรมส่งเสริมการเกษตร แต่ขึ้นทะเบียนชาวไร่อ้อยตามพระราชบัญญัติอ้อยและน้ำตาลทราย พ.ศ. ๒๕๒๗ กับสำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย กระทรวงอุตสาหกรรม ให้สามารถขอรับการช่วยเหลือตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๕ สิงหาคม ๒๕๕๔ (เรื่อง การช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยด้านการเกษตรปี ๒๕๕๔ กรณีพิเศษ) ได้ ๑.๒ ให้แก้ไขขั้นตอนการดำเนินการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยด้านการเกษตร ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๕ สิงหาคม ๒๕๕๔ จากเดิม ข้อ (๗) “กรมส่งเสริมการเกษตร กรมประมง กรมปศุสัตว์ ตรวจสอบเอกสารหลักฐาน และรวบรวมส่งธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) สำนักงานใหญ่ ข้อ (๘) ธ.ก.ส. สำนักงานใหญ่ ขออนุมัติเงินประจำงวดจากสำนักงบประมาณ” เป็น ข้อ (๗) “กรมส่งเสริมการเกษตร กรมประมง กรมปศุสัตว์ ตรวจสอบเอกสารหลักฐาน และรวบรวมส่งสำนักงบประมาณ พร้อมทั้งจัดทำคำขออนุมัติจัดสรรงบประมาณในคราวเดียวกัน และให้ถือว่าคำขอดังกล่าว เป็นคำขออนุมัติจัดสรรงบประมาณของ ธ.ก.ส.” ๒. ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ประสานงานและเร่งรัดการดำเนินงานร่วมกับสำนักงบประมาณและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อให้การช่วยเหลือถึงมือเกษตรกรผู้ประสบอุทกภัยโดยเร็วด้วย
|
|||||||||||||||||||||
5734 | การจัดระเบียบวาระการประชุมและการเสนอเรื่องต่อคณะรัฐมนตรีเป็นวาระจร | นร | 06/09/2554 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอว่า ในกรณีที่มีเรื่องจำเป็นเร่งด่วนต้องเสนอคณะรัฐมนตรีเป็นวาระจร ขอให้รัฐมนตรีเจ้าของเรื่องแจ้งข้อมูลให้นายกรัฐมนตรีทราบเป็นการภายในล่วงหน้าโดยด่วนก่อนวันประชุมคณะรัฐมนตรี เพื่อจะได้มีเวลาในการพิจารณาหรือตรวจสอบข้อมูลที่เกี่ยวข้องในเบื้องต้น ส่วนการเสนอเรื่องอย่างเป็นทางการให้ส่งเรื่องให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีภายในเวลา ๐๙.๐๐ น. ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๕ สิงหาคม ๒๕๕๔
|
|||||||||||||||||||||
5735 | การแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนและการดำเนินงานตามนโยบายสำคัญของรัฐบาล | นร | 06/09/2554 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนและการดำเนินงานตามนโยบายสำคัญของรัฐบาล ตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอ ดังนี้
๑. ปัญหาอุทกภัย ๑.๑ ให้รัฐมนตรีทุกท่านลงไปตรวจเยี่ยมและให้การช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ที่ประสบอุทกภัยอย่างทั่วถึงทุกจังหวัด โดยเฉพาะควรต้องเน้นให้มีการดำเนินการแก้ไขปัญหาเยียวยาให้ถึงมือประชาชนอย่างรวดเร็วและทั่วถึงทันต่อเหตุการณ์ รวมทั้งติดตามผลการดำเนินการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยตามมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องด้วย โดยให้สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีประสานกับกระทรวงมหาดไทยและสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี (ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี) เพื่อให้การสนับสนุนการจัดทำตารางวัน เวลาการตรวจเยี่ยมผู้ประสบอุทกภัยของรัฐมนตรี และพื้นที่การตรวจเยี่ยมเพื่อไม่ให้ซ้ำซ้อนกัน แล้วแจ้งให้รัฐมนตรีทุกท่านทราบโดยด่วนต่อไป ทั้งนี้ ให้ผู้ตรวจราชการทุกกระทรวงประสานและให้การสนับสนุนข้อมูลกับรัฐมนตรีที่ลงไปตรวจเยี่ยมในพื้นที่รับผิดชอบด้วย ๑.๒ ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมดำเนินการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อศึกษาเส้นทางของน้ำที่เกิดอุทกภัยจากภาพถ่ายทางอากาศและหาแนวทางป้องกันปัญหาอุทกภัยที่จะเกิดขึ้นในเขตกรุงเทพมหานครและพื้นที่โดยรอบซึ่งอาจได้รับผลกระทบจากสถานการณ์น้ำเหนือไหลบ่าโดยด่วน ทั้งนี้ ให้พิจารณาจัดหาพื้นที่ที่จะรองรับน้ำหรือระบายน้ำของแต่ละจังหวัดไว้ล่วงหน้า ซึ่งอาจใช้วิธีการเช่าพื้นที่ปล่อยน้ำเพื่อบรรเทาปัญหาน้ำท่วมบ้านเรือนประชาชนด้วย ๒. ปัญหาสินค้าอุปโภคบริโภคราคาแพง ให้รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ (นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง) รับไปพิจารณาร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและดำเนินการจัดประชุม (work shop) เพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหาสินค้าอุปโภคบริโภคราคาแพงอย่างต่อเนื่องและเป็นระบบโดยเร็วต่อไป โดยเฉพาะเรื่องราคาน้ำมัน ต้องกำหนดนโยบาย หลักการที่ชัดเจน และชี้แจงทำความเข้าใจให้ผู้ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายรับทราบโดยทั่วกันด้วย ๓. ปัญหายาเสพติด ให้รองนายกรัฐมนตรี (ร้อยตำรวจเอก เฉลิม อยู่บำรุง) รับไปพิจารณาร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อกำหนดแนวทางการดำเนินงานแก้ไขปัญหายาเสพติดในภาพรวมทั้งระบบ และดำเนินการจัดประชุม (work shop) ร่วมกับส่วนราชการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป ๔. ปัญหาการทุจริตประพฤติมิชอบ ให้รองนายกรัฐมนตรี (พลตำรวจเอก โกวิท วัฒนะ) รับไปพิจารณาร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อกำหนดนโยบายและแนวทางการแก้ไขปัญหาการทุจริตประพฤติมิชอบในระบบราชการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องการแต่งตั้ง โยกย้ายข้าราชการโดยไม่เป็นธรรม การซื้อขายตำแหน่ง รวมทั้งกระบวนการตรวจสอบความโปร่งใสในการบริหารโครงการต่าง ๆ ของภาครัฐ เพื่อดำเนินการต่อไป ๕. การประชาสัมพันธ์ผลการดำเนินงาน ให้รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นางสาวกฤษณา สีหลักษณ์) เร่งรัดการดำเนินการประชาสัมพันธ์ข้อมูลข่าวสารการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยและการดำเนินงานตามนโยบายสำคัญของรัฐบาลเพื่อสร้างความเข้าใจที่ถูกต้อง ตรงกัน แก่ประชาชนด้วย
|
|||||||||||||||||||||
5736 | การมอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรีหรือรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเป็นผู้ตรวจพิจารณาร่างมติคณะรัฐมนตรี (ยกเลิกโดยมติ 1905/55) | นร | 25/08/2554 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติให้รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นางสาวกฤษณา สีหลักษณ์) เป็นผู้ตรวจพิจารณาร่างมติคณะรัฐมนตรี ที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอ
|
|||||||||||||||||||||
5737 | แนวทางปฏิบัติในการชี้แจงต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (มติคณะรัฐมนตรี วันที่ 16 มิถุนายน 2552) | นร | 25/08/2554 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้ถือปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๖ มิถุนายน ๒๕๕๒ (เรื่อง การปรับปรุงมติคณะรัฐมนตรีเกี่ยวกับแนวทางปฏิบัติในการชี้แจงต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี) ต่อไป ตามที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอ
|
|||||||||||||||||||||
5738 | ขอความเห็นชอบให้ถือปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 26 มกราคม 2553 (เรื่อง การปรับปรุงแนวทางการนำหนังสือตอบความเห็นของหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องเสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี) ต่อไป | นร | 25/08/2554 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานอื่นของรัฐถือปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๖ มกราคม ๒๕๕๓ (เรื่อง การปรับปรุงแนวทางการนำหนังสือตอบความเห็นของหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องเสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี) โดยให้ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานอื่นของรัฐส่งหนังสือเสนอความเห็นของสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีอย่างช้าก่อนเวลาเริ่มการประชุมคณะรัฐมนตรี (ปกติกำหนดเวลา ๙.๐๐ น.) เพื่อสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีจะได้จัดทำสำเนาแจกที่ประชุมคณะรัฐมนตรี หากเลยกำหนดเวลาดังกล่าวให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีจัดทำสำเนาแจกที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เฉพาะกรณีที่รัฐมนตรีหรือหัวหน้าหน่วยงานของรัฐที่มีข้อเสนอแนะหรือความเห็นได้นำเสนอข้อเสนอแนะหรือความเห็นนั้นในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ตามที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอ
|
|||||||||||||||||||||
5739 | คณะกรรมการต่าง ๆ ที่แต่งตั้งโดยมติคณะรัฐมนตรี (รวม 282 คณะ) | นร | 25/08/2554 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบให้คณะกรรมการต่าง ๆ ที่คณะรัฐมนตรีชุดเดิมมีมติแต่งตั้งไว้ (ไม่รวมถึงคณะกรรมการที่คณะรัฐมนตรีแต่งตั้งโดยอาศัยอำนาจตามระเบียบหรือตามกฎหมายหนึ่งกฎหมายใด หรือคณะกรรมการที่มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งไว้) ยังคงปฏิบัติหน้าที่ต่อไป จนถึงวันที่ ๑๓ กันยายน ๒๕๕๔ และภายหลังจากนั้นให้คณะกรรมการที่คณะรัฐมนตรีแต่งตั้งทุกคณะเป็นอันสิ้นสุดลง ๒. หากกระทรวง กรมเห็นว่า คณะกรรมการชุดใดมีความสำคัญและจำเป็นต้องมีอยู่ ให้เสนอแต่งตั้งคณะกรรมการดังกล่าวขึ้นใหม่ โดยให้ตรวจสอบองค์ประกอบและอำนาจหน้าที่ให้สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ตลอดจนกฎหมายที่เกี่ยวข้องแล้วส่งไปยังสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีโดยด่วน และให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีรวบรวมเรื่องเกี่ยวกับคณะกรรมการต่าง ๆ ที่แต่งตั้งโดยมติคณะรัฐมนตรีของทุกกระทรวง กรม เสนอคณะรัฐมนตรีคราวเดียวกันภายในวันที่ ๑๓ กันยายน ๒๕๕๔ ทั้งนี้ คณะกรรมการใดที่กระทรวง กรม จะเสนอให้คณะรัฐมนตรีเห็นชอบแต่งตั้งดังกล่าว หากสามารถกำหนดระยะเวลาการดำเนินงานและภารกิจสิ้นสุดที่ชัดเจนได้ ให้ระบุวันสิ้นสุดของคณะกรรมการนั้น ๆ ไว้ด้วย ๓. คณะรัฐมนตรีมีข้อสังเกตเพิ่มเติมว่า บางกระทรวงได้มีการตั้งคณะกรรมการขึ้นเพื่อทำหน้าที่พิจารณากลั่นกรองงาน/โครงการต่าง ๆ ของหน่วยงานก่อนเสนอรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทำให้มีขั้นตอนการเสนอเรื่องเพิ่มขึ้นและเกิดความล่าช้าโดยไม่จำเป็น จึงขอให้กระทรวงต่าง ๆ รับไปตรวจสอบข้อเท็จจริงเพื่อพิจารณายกเลิกกลไกดังกล่าว
|
|||||||||||||||||||||
5740 | การจัดระเบียบวาระการประชุมและการเสนอเรื่องต่อคณะรัฐมนตรีเป็นวาระจร | นร | 25/08/2554 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเกี่ยวกับการจัดระเบียบวาระการประชุมและการเสนอเรื่องต่อคณะรัฐมนตรีเป็นวาระจร ดังนี้
๑. ให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีดำเนินการจัดระเบียบวาระการประชุมคณะรัฐมนตรีแต่ละครั้งให้มีจำนวนเรื่องที่เหมาะสม เป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบและมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวกับหลักเกณฑ์ วิธีการของการจัดทำเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี โดยให้มีเรื่องที่เสนอคณะรัฐมนตรีเป็นวาระจรได้เท่าที่จำเป็น ตามนัยพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการเสนอเรื่องและการประชุมคณะรัฐมนตรี พ.ศ. ๒๕๔๘ และระเบียบว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการเสนอเรื่องต่อคณะรัฐมนตรี พ.ศ. ๒๕๔๘ ทั้งนี้ หากมีเรื่องจำเป็นเร่งด่วนต้องเสนอคณะรัฐมนตรีเป็นวาระจร ให้หน่วยงานของรัฐเจ้าของเรื่องส่งเรื่องให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีภายในเวลา ๐๙.๐๐ น. ๒. กรณีเรื่องที่จะเสนอคณะรัฐมนตรีเป็นเรื่องสำคัญ มีผลกระทบสูงหรือเกี่ยวข้องกับหลายหน่วยงาน ให้หน่วยงานของรัฐเจ้าของเรื่องเสนอเรื่องไปยังสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีล่วงหน้าแต่เนิ่น ๆ เพื่อให้มีเวลาเพียงพอที่จะให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะหน่วยงานกลาง เช่น สำนักงบประมาณ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา เป็นต้น สามารถให้ความเห็นได้ทันทีและสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีสามารถส่งเรื่องให้รัฐมนตรีได้ศึกษาข้อมูลรายละเอียดได้ทันก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี เพื่อให้การพิจารณาตัดสินใจของคณะรัฐมนตรีเป็นไปด้วยความรอบคอบ ถูกต้อง และเกิดประโยชน์สูงสุดต่อประเทศชาติและประชาชน ทั้งนี้ ให้ถือปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑ กันยายน ๒๕๕๒ (เรื่อง แนวทางการลดเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี) อย่างเคร่งครัดด้วย
|
.....