ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 66 จากทั้งหมด 199 หน้า แสดงรายการที่ 1301 - 1320 จากข้อมูลทั้งหมด 3975 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
1301 | ร่างพระราชบัญญัติส่งเสริมการบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง พ.ศ. .... | นร09 | 01/10/2557 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบร่างพระราชบัญญัติส่งเสริมการบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ กำหนดหลักเกณฑ์ในการบริหารจัดการ การบำรุงรักษา การอนุรักษ์ การฟื้นฟูทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง และการป้องกันการกัดเซาะชายฝั่ง รวมทั้งให้ประชาชนและชุมชนในท้องถิ่นได้มีส่วนร่วมในการบริหารจัดการดังกล่าว ที่ตรวจพิจารณาแล้ว ตามที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเสนอ และให้เสนอคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณา ก่อนเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติเป็นเรื่องด่วนต่อไป ทั้งนี้ ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมรับประเด็นเกี่ยวกับความเหมาะสมของกำหนดระยะเวลาการให้ร่างพระราชบัญญัตินี้มีผลใช้บังคับตามร่างมาตรา ๒ ไปพิจารณาในชั้นคณะกรรมาธิการของสภานิติบัญญัติแห่งชาติด้วย ๒. ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมไปดำเนินการ ๒.๑ เตรียมความพร้อมให้มีการออกกฎกระทรวงและประกาศเกี่ยวกับการกำหนดมาตรการคุ้มครองทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง เพื่อมีผลให้ใช้บังคับโดยเร็วเมื่อร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้ได้ประกาศใช้บังคับเป็นกฎหมายแล้ว ตลอดจนดำเนินการประชาสัมพันธ์ให้กับประชาชนและชุมชนชายฝั่งเพื่อให้เกิดความรู้และสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการมีส่วนร่วมของภาคประชาชนต่อไป ๒.๒ กำหนดแนวทางปฏิบัติให้มีความชัดเจนเกี่ยวกับการกำหนดเขตพื้นที่คุ้มครองทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง เช่น แนวปะการังเทียมเพื่อป้องกันการทำประมงจากเรือประมงที่ใช้อุปกรณ์ประมงผิดกฎหมายประเภทเรืออวนรุนและอวนลาก การทำประมงชายฝั่ง และการแบ่งปันการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ๒.๓ ให้เร่งดำเนินการฟื้นฟูป่าชายเลนด้วยการปลูกป่าทดแทน โดยเน้นการปลูกป่าชายเลนชนิดที่เหมาะสมสำหรับพื้นที่นั้นให้มีความยั่งยืน รวมทั้งการใช้ทรัพยากรและงบประมาณที่เหมาะสม ตลอดจนอาจทำแนวป้องกันกล้าไม้โดยการปักไม้ไผ่ชะลอคลื่น ซึ่งจะช่วยป้องกันการกัดเซาะชายฝั่งหรือบรรเทาการกัดเซาะชายฝั่งอีกทางหนึ่ง และยังเป็นวิธีการที่ทำให้ภาคประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการปลูกป่าชายเลนอีกด้วย |
||||||||||||||||||
1302 | รายงานผลการปฏิบัติงานของคณะกรรมการวิธีการปฏิบัติราชการทางปกครองตามพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ. 2539 ประจำปี 2556 | นร09 | 23/09/2557 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. รับทราบรายงานผลการปฏิบัติงานของคณะกรรมการวิธีปฏิบัติราชการทางปกครองตามพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ. ๒๕๓๙ ประจำปี ๒๕๕๖ ตามที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเสนอ โดยมีผลงานในรอบปีสรุปได้ ดังนี้ ๑.๑ ให้คำแนะนำปรึกษาแก่เจ้าหน้าที่เกี่ยวกับการปฏิบัติตามพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ. ๒๕๓๙ โดยคณะกรรมการวิธีปฏิบัติราชการทางปกครองได้ให้คำปรึกษาแก่เจ้าหน้าที่เกี่ยวกับการปฏิบัติตามพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ. ๒๕๓๙ โดยตอบข้อหารือแก่หน่วยงานของรัฐ ๑.๒ การเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ความรู้เกี่ยวกับกฎหมายว่าด้วยวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง โดยสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาซึ่งทำหน้าที่เป็นสำนักงานเลขานุการของคณะกรรมการวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง ได้จัดฝึกอบรมข้าราชการของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา เพื่อเป็นวิทยากรออกไปเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับกฎหมายว่าด้วยวิธีปฏิบัติราชการทางปกครองตามที่หน่วยงานของรัฐต่าง ๆ ร้องขอ ทั้งในส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค และส่วนท้องถิ่น นอกจากนี้ ได้จัดเจ้าหน้าที่ไว้ให้คำปรึกษาทางโทรศัพท์แก่เจ้าหน้าที่ในหน่วยงานต่าง ๆ ของรัฐ และประชาชนที่ต้องการปรึกษาปัญหาเกี่ยวกับกฎหมายว่าด้วยวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง อีกทั้งได้เผยแพร่เอกสารที่จัดพิมพ์ขึ้นเพื่อเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับกฎหมายว่าด้วยวิธีปฏิบัติราชการทางปกครองให้แก่หน่วยงานต่าง ๆ ของรัฐ และประชาชนที่สนใจ ๒. ให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาและหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องดำเนินการจัดกิจกรรมต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง เช่น การจัดอบรม สัมมนา เป็นต้น เพื่อเผยแพร่ความรู้ความเข้าใจในสาระสำคัญและการปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยวิธีปฏิบัติราชการทางปกครองให้เจ้าหน้าที่ของรัฐและประชาชนผู้สนใจทราบโดยทั่วกันด้วย
|
||||||||||||||||||
1303 | การจัดสรรเงินอุดหนุนทั่วไปให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ปีงบประมาณ พ.ศ. 2557 จำนวน 8,500 ล้านบาท | สลธ.คสช. | 26/08/2557 | |||||||||||||||
คณะรักษาความสงบแห่งชาติลงมติ
๑. เห็นชอบหลักเกณฑ์และแนวทางการจัดสรรเงินอุดหนุนทั่วไปเพื่อสนับสนุนการบริหารจัดการขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ตามยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศ ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๗ จำนวน ๘,๕๐๐ ล้านบาท ตามที่รองหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หัวหน้าฝ่ายกิจการพิเศษ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ ในฐานะประธานกรรมการการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเสนอ ดังนี้ ๑.๑ ส่วนที่ ๑ จัดสรรให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทุกแห่ง แห่งละ ๑ ล้านบาท และส่วนที่ ๒ ซึ่งเป็นส่วนที่เหลือจัดสรรให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นตามสัดส่วนที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นแต่ละแห่งได้รับการจัดสรรเงินอุดหนุนทั่วไปเพื่อดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๗ ๑.๒ เงินอุดหนุนที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นได้รับการจัดสรรตามข้อ ๑.๑ ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นนำไปใช้จ่ายเพื่อดำเนินโครงการที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่มีความมั่นคงถาวร การพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน การส่งเสริมอาชีพของประชาชน และการส่งเสริมการท่องเที่ยว ซึ่งจะส่งผลให้เศรษฐกิจของท้องถิ่นมีความเจริญเติบโต โดยมิให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นนำไปใช้จ่ายในการศึกษาดูงานของบุคลากรท้องถิ่น ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ๒ ให้กระทรวงมหาดไทยรับความเห็นของคณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐเกี่ยวกับการจัดสรรงบประมาณ การกำกับดูแล และการรายงานผลการดำเนินงานขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นไปดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องด้วย ทั้งนี้ ให้กระทรวงมหาดไทย โดยผู้ว่าราชการจังหวัดกำกับดูแลการดำเนินงานขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นต่าง ๆ ให้มีความสอดคล้องเชื่อมโยงกับแผนพัฒนาจังหวัดและนโยบายของคณะรักษาความสงบแห่งชาติที่คำนึงถึงประโยชน์สูงสุดของประชาชน มุ่งสร้างความเข้มแข็ง และลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม ให้ความสำคัญกับการดำเนินโครงสร้างพื้นฐาน รวมทั้งให้พิจารณาการบูรณาการเชื่อมโยงดำเนินการกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ข้างเคียงและการดำเนินการของส่วนกลางด้วย |
||||||||||||||||||
1304 | ข้อสั่งการของหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ | สลธ.คสช. | 26/08/2557 | |||||||||||||||
ในคราวประชุมคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติมีข้อสั่งการ ดังนี้
๑. เร่งรัดการดำเนินการตามมติคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ๑.๑ ตามที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติได้มีมติเมื่อวันที่ ๑๓ สิงหาคม ๒๕๕๗ ให้ทุกฝ่ายสรุปผลการดำเนินการในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมาและจัดทำแผนการดำเนินการระยะ ๑ ปีเพื่อใช้เป็นแนวทางในการดำเนินการของรัฐบาลต่อไป รวมทั้งให้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติร่วมกับสำนักงบประมาณนำข้อมูลจากแผนข้างต้นไปใช้ประกอบในการจัดทำคำแถลงนโยบายรัฐบาลและคำชี้แจงงบประมาณประจำปี ๒๕๕๘ ด้วยนั้น ให้ทุกฝ่ายเร่งดำเนินการตามมติดังกล่าว และส่งข้อมูลไปยังสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และให้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเร่งจัดทำสรุปผลการดำเนินงานในห้วง ๓ เดือนที่ผ่านมา และแนวนโยบายของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ทั้งทางด้านเศรษฐกิจ สังคม และความมั่นคงของประเทศ โดยให้ความสำคัญกับโครงการเร่งด่วนเพื่อแก้ไขปัญหาของประชาชน ฟื้นฟูเศรษฐกิจในระยะเฉพาะหน้า และการวางยุทธศาสตร์เพื่อการพัฒนาประเทศ เช่น การพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษ การกำจัดขยะอย่างเป็นระบบ โดยให้พร้อมส่งมอบรัฐบาลเพื่อความต่อเนื่องในการบริหารประเทศ ๑.๒ ตามที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติได้มีมติเมื่อวันที่ ๑๓ สิงหาคม ๒๕๕๗ ให้ฝ่ายสังคมจิตวิทยา โดยกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ฝ่ายความมั่นคง โดยกระทรวงมหาดไทย (กรุงเทพมหานคร) และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติดำเนินการกำหนดมาตรการจัดระเบียบและแก้ไขปัญหาชุมชนแออัด นั้น ให้ฝ่ายสังคมจิตวิทยาและฝ่ายความมั่นคงเร่งดำเนินการตามมติดังกล่าวโดยเร็ว โดยในระยะแรกให้พิจารณาดำเนินการในพื้นที่ว่างเปล่าชานเมือง เช่น ที่ราชพัสดุ เพื่อจัดเป็นที่พักอาศัยให้แก่ผู้มีรายได้น้อยอย่างเป็นระเบียบ ทั้งนี้ ในการดำเนินการให้คำนึงถึงความสอดคล้องกับการจัดผังเมืองด้วย ๑.๓ ตามที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติได้มีมติเมื่อวันที่ ๑๐ มิถุนายน ๒๕๕๗ และวันที่ ๑๗ มิถุนายน ๒๕๕๗ ให้สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลเร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาการขายสลากกินแบ่งรัฐบาลเกินราคา นั้น เพื่อให้การดำเนินการในเรื่องดังกล่าวมีความชัดเจน เป็นรูปธรรม จึงให้ฝ่ายเศรษฐกิจ โดยสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลเร่งทำความเข้าใจเกี่ยวกับการจัดสรรโควตาและการทำสัญญาสำหรับตัวแทนจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาลทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาค ทั้งนี้ เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมและครอบคลุมทุกพื้นที่และทุกกลุ่ม รวมทั้งประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทราบถึงสถานที่จำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาลในราคา ๘๐ บาท ด้วย ๑.๔ ตามที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติได้มีมติเมื่อวันที่ ๑๙ สิงหาคม ๒๕๕๗ ให้ฝ่ายสังคมจิตวิทยา โดยกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และกระทรวงวัฒนธรรมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการผลิตภาพยนตร์เพื่อส่งเสริมและเผยแพร่ภาพลักษณ์ วัฒนธรรม และแหล่งท่องเที่ยวของประเทศ โดยอาจเปิดให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการเสนอแนวคิดสำหรับภาพยนตร์ นั้น เพื่อให้การดำเนินการในเรื่องนี้เกิดผลเป็นรูปธรรมและส่งเสริมการท่องเที่ยวของไทย ให้ฝ่ายสังคมจิตวิทยา โดยกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และกระทรวงวัฒนธรรม ประชาสัมพันธ์เชิญชวนให้ประชาชนร่วมประกวดบทภาพยนตร์สั้น โดยให้เน้นเกี่ยวกับการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ธรรมชาติ แหล่งท่องเที่ยวมรดกโลกและโบราณสถาน รวมทั้งให้มีการถ่ายทำภาพยนตร์ในแหล่งท่องเที่ยวต่าง ๆ ที่สวยงามของประเทศไทย ทั้งนี้ ให้เร่งดำเนินการเรื่องดังกล่าวเพื่อให้มีภาพยนตร์ที่จะได้นำไปเผยแพร่สู่สายตาชาวต่างชาติภายในเดือนธันวาคม ๒๕๕๗ ๑.๕ ตามที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติได้มีมติเมื่อวันที่ ๑๗ มิถุนายน ๒๕๕๗ ให้กระทรวงคมนาคมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาหาแนวทางการดำเนินการเพื่อลดอุบัติเหตุทางถนน โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ขับขี่รถยนต์สาธารณะจะต้องมีระบบติดตามมิให้ขับขี่เกินระยะเวลาที่กำหนด และมีระบบตรวจสอบว่าผู้ขับขี่มีความพร้อม ไม่เมาสุรา ไม่เสพยาเสพติด และมีการพักผ่อนที่เพียงพอ และมติคณะรักษาความสงบแห่งชาติเมื่อวันที่ ๑๓ สิงหาคม ๒๕๕๗ ให้กระทรวงคมนาคม (กรมการขนส่งทางบก) เร่งรัดการดำเนินการเกี่ยวกับการนำระบบ GPS และระบบการติดตามผู้ขับขี่มาใช้ในรถยนต์โดยสารสาธารณะมิให้ขับขี่เกินระยะเวลาที่กำหนดเพื่อเพิ่มความปลอดภัยในการใช้รถโดยสารสาธารณะให้แล้วเสร็จและมีผลเป็นรูปธรรม นั้น ให้กระทรวงคมนาคมเร่งดำเนินการตามมติดังกล่าวให้แล้วเสร็จเป็นรูปธรรมโดยเร็ว และให้พิจารณาหามาตรการลดมลภาวะจากท่อไอเสียของรถโดยสารสาธารณะด้วย ๑.๖ ตามที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติได้มีมติเมื่อวันที่ ๒๔ มิถุนายน ๒๕๕๗ และวันที่ ๒๒ กรกฎาคม ๒๕๕๗ ให้ชะลอการจัดการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นและผู้บริหารท้องถิ่นออกไปก่อน และให้กระทรวงมหาดไทยชี้แจงให้ประชาชนเข้าใจเกี่ยวกับประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ ๘๕/๒๕๕๗ เรื่อง การได้มาซึ่งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่นเป็นการชั่วคราว นั้น ให้ฝ่ายความมั่นคง โดยกระทรวงมหาดไทยตรวจสอบและกำกับดูแลการคัดเลือกบุคคลเพื่อดำรงตำแหน่งสมาชิกสภาท้องถิ่นตามประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติดังกล่าวให้มีความถูกต้องและโปร่งใส หากตรวจสอบพบความผิดปกติให้มีการดำเนินการให้ถูกต้องต่อไป ๑.๗ ตามที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติได้มีมติเมื่อวันที่ ๑๙ สิงหาคม ๒๕๕๗ ให้ฝ่ายสังคมจิตวิทยา โดยกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาพิจารณากำหนดรูปแบบการประกันภัยให้แก่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติผ่านกองทุนช่วยเหลือเยียวยานักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ เพื่อให้นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติได้รับความคุ้มครองในทุกกรณี นั้น เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่นักท่องเที่ยวและส่งเสริมการท่องเที่ยว โดยเฉพาะในฤดูกาลท่องเที่ยว (High season) ที่ใกล้จะถึง ให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเร่งรัดการดำเนินการในเรื่องดังกล่าวให้แล้วเสร็จภายในเดือนกันยายน ๒๕๕๗ ๒. ด้านสังคม ๒.๑ ให้ฝ่ายกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม โดยกระทรวงยุติธรรม (กรมคุมประพฤติ) ฝ่ายความมั่นคง โดยกระทรวงมหาดไทย ฝ่ายสังคมจิตวิทยา โดยกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พิจารณาหาแนวทางการแก้ปัญหาสังคมต่าง ๆ เช่น ยาเสพติด การแข่งมอเตอร์ไซค์ตามถนน (เด็กแว้น) โดยพิจารณาหาแนวทางการแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืนนอกเหนือจากการจับกุมและบังคับใช้กฎหมาย เช่น การให้ผู้ที่ถูกดำเนินคดีทำกิจกรรมบริการสาธารณะในงานที่ถนัด การควบคุมความประพฤติและฝึกอาชีพเพื่อให้สามารถมีอาชีพเมื่อได้รับการปล่อยตัว ๒.๒ ให้ฝ่ายสังคมจิตวิทยา โดยกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงศึกษาธิการ และกระทรวงสาธารณสุขร่วมกันพิจารณาหาแนวทางการส่งเสริมพัฒนาการของเยาวชนไทยให้มีความเหมาะสมในแต่ละช่วงวัย ทั้งด้านร่างกาย ด้านสติปัญญา ด้านอารมณ์ และด้านสังคม โดยเฉพาะการส่งเสริมด้านโภชนาการให้เยาวชนบริโภคอาหารที่มีคุณค่าและเป็นประโยชน์ต่อการเจริญเติบโตและลดความเสี่ยงจากการเป็นโรคอ้วน ๒.๓ ให้ฝ่ายสังคมจิตวิทยา โดยกระทรวงศึกษาธิการพิจารณาปรับโครงสร้างทางการศึกษา วิธีการจัดการศึกษาให้มีมาตรฐานและให้เด็กไทยสามารถแข่งขันกับนานาประเทศได้ รวมทั้งพัฒนาหลักสูตรการเรียนการสอนให้มีประสิทธิภาพ เน้นการศึกษาในห้องเรียน ปรับหลักสูตรให้ครอบคลุมวิชาพื้นฐาน เช่น ประวัติศาสตร์ชาติไทย หน้าที่พลเมือง สิทธิและหน้าที่ เพื่อส่งเสริมให้เยาวชนไทยมีความภาคภูมิใจในความเป็นชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ไทย ทั้งนี้ ให้ปรับปรุงเนื้อหาของหนังสือชุด “พระมหากษัตริย์ไทย ๙ รัชกาล” จาก ๙ เล่มให้เหลือเพียงเล่มเดียวเพื่อให้มีเนื้อหาที่กระชับและน่าสนใจสำหรับใช้เป็นหนังสือพื้นฐานในการศึกษาของเยาวชนด้วย ๓. ด้านเศรษฐกิจ ให้คณะกรรมการนโยบายและกำกับดูแลรัฐวิสาหกิจ (คนร.) พิจารณาทบทวนผลการดำเนินงานและการบริหารจัดการรายได้ของรัฐวิสาหกิจ และจัดทำแนวทางการบริหารจัดการรัฐวิสาหกิจในภาพรวม โดยพิจารณาถึงการบริหารรายรับและรายจ่ายเพื่อลดภาระการอุดหนุนงบประมาณจากภาครัฐด้วย แล้วให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาต่อไป ๔. ด้านอื่น ๆ ให้ฝ่ายความมั่นคง โดยกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารพิจารณาความเหมาะสมและความเพียงพอของหมายเลขโทรศัพท์พิเศษ ๔ หลักที่มีในปัจจุบัน โดยคำนึงถึงการบูรณาการงานร่วมกันของหน่วยงานที่มีภารกิจใกล้เคียงกัน เพื่อให้ประชาชนมีช่องทางในการขอรับบริการได้อย่างสะดวกและเหมาะสมเพียงพอยิ่งขึ้น
|
||||||||||||||||||
1305 | การจัดการขยะมูลฝอยและของเสียอันตราย และการแก้ไขปัญหากำจัดขยะมูลฝอยไม่ถูกต้องและตกค้างสะสมในพื้นที่วิกฤต | ทส | 26/08/2557 | |||||||||||||||
คณะรักษาความสงบแห่งชาติลงมติ
๑. เห็นชอบ Roadmap การจัดการขยะมูลฝอยและของเสียอันตราย และแผนปฏิบัติการการแก้ไขปัญหาในพื้นที่วิกฤตที่ต้องเร่งแก้ไขปัญหากำจัดขยะมูลฝอยไม่ถูกต้องและตกค้างสะสม (ระยะเร่งด่วน ๖ เดือน) ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ ดังนี้ ๑.๑ Roadmap การจัดการขยะมูลฝอยและของเสียอันตราย ประกอบด้วย ๔ ขั้นตอน คือ การกำจัดขยะมูลฝอยตกค้างสะสมในสถานที่กำจัดขยะมูลฝอยในพื้นที่วิกฤติ (ขยะมูลฝอยเก่า) การสร้างรูปแบบการจัดการขยะมูลฝอยและของเสียอันตรายที่เหมาะสม (ขยะมูลฝอยใหม่) การวางระเบียบมาตรการการบริหารจัดการขยะมูลฝอยและของเสียอันตราย และการสร้างวินัยของคนในชาติมุ่งสู่การจัดการที่ยั่งยืน มีแนวทางการขับเคลื่อนในระยะเร่งด่วน (๖ เดือน) ระยะปานกลาง (๑ ปี) และระยะยาว (๑ ปีขึ้นไป) พื้นที่เป้าหมายระยะเร่งด่วน ๑๑ จังหวัด ระยะปานกลาง ๒๐ จังหวัด และระยะยาว ๔๖ จังหวัด ๑.๒ แผนปฏิบัติการแก้ไขปัญหาในพื้นที่วิกฤตที่ต้องเร่งแก้ไขปัญหากำจัดขยะมูลฝอยไม่ถูกต้องและตกค้างสะสม มีค่าใช้จ่ายรวม ๕๒๖.๙๔ ล้านบาท แบ่งออกเป็น ๒ ส่วน คือ ๑.๑.๑ ดำเนินการใน ๔ จังหวัด ได้แก่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ลพบุรี นครปฐม และสระบุรี เพื่อกำจัดขยะมูลฝอยตกค้างสะสมในสถานที่กำจัดขยะมูลฝอยขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ๑.๑.๒ ดำเนินการใน ๒ จังหวัด ได้แก่ จังหวัดปทุมธานี และสมุทรปราการ เนื่องจากสถานที่กำจัดขยะมูลฝอยเป็นของเอกชน ในเบื้องต้นจะให้ราชการส่วนท้องถิ่นบังคับใช้กฎหมายให้เอกชนรับผิดชอบดำเนินการกำจัดขยะมูลฝอยที่ตกค้างสะสมด้วยวิธีการต่าง ๆ ที่ถูกต้อง ในกรณีที่ไม่เป็นผลจะได้ร่วมกับหน่วยงานอื่น ๆ เสนอแนะแนวทางปฏิบัติต่อไป ๒. สำหรับค่าใช้จ่ายที่ใช้ในการดำเนินการตามแผนปฏิบัติการฯ ในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ลพบุรี นครปฐม และสระบุรี เนื่องจากไม่ได้เสนอตั้งงบประมาณและเพื่อให้จังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสามารถดำเนินการแก้ไขปัญหาได้อย่างรวดเร็วและทันต่อสถานการณ์ เห็นควรอนุมัติในหลักการให้ใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๗ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ภายในกรอบวงเงิน ๕๒๖.๙๔ ล้านบาท โดยให้จังหวัดที่เกี่ยวข้องเป็นหน่วยงานดำเนินการ รวมทั้งปฏิบัติตามขั้นตอนของกฎหมาย ประกาศหรือคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ระเบียบ ข้อบังคับ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องให้ถูกต้องครบถ้วนด้วย โดยคำนึงถึงความจำเป็นเร่งด่วนและประโยชน์สูงสุดของทางราชการเป็นสำคัญ และขอทำความตกลงในรายละเอียดกับสำนักงบประมาณตามขั้นตอนต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ๓. ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติและคณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐเกี่ยวกับการกำหนดให้มีการจัดตั้งคณะกรรมการเพื่อทำหน้าที่จัดทำแผนแม่บทและบริหารจัดการขยะมูลฝอยและของเสียอันตรายในภาพรวมของจังหวัด ควรให้มีผู้แทนจากภาคประชาสังคมอยู่ในองค์ประกอบของคณะกรรมการดังกล่าว การกำหนดมาตรการควบคุมในเชิงปริมาณให้มีความถูกต้องและตรวจสอบได้ รวมทั้งการกำจัดขยะมูลฝอยในกรณีที่ก่อให้เกิดมูลค่าจากการใช้เทคโนโลยีแปลงขยะมูลฝอยเป็นเชื้อเพลิง (Refuse Derived Fuel : RDF) ให้ระมัดระวังในเรื่องประโยชน์ต่างตอบแทนหรือประโยชน์ทับซ้อนเพื่อให้การดำเนินงานมีความโปร่งใสตรวจสอบได้ ไปพิจารณาดำเนินการด้วย |
||||||||||||||||||
1306 | ขออนุมัติก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ กรณีการเช่าสถานที่ทำการหน่วยงานในต่างประเทศ | กษ | 26/08/2557 | |||||||||||||||
คณะรักษาความสงบแห่งชาติลงมติ ดังนี้
๑. อนุมัติก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณรายจ่ายประจำปี ๒๕๕๗-๒๕๕๘ รายการเช่าสถานที่ทำการของฝ่ายการเกษตร ประจำสถานกงสุลใหญ่ ณ นครเซี่ยงไฮ้ สาธารณรัฐประชาชนจีน ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ ๒. ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยสำนักงานปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เช่าสถานที่ทำการของฝ่ายการเกษตร ประจำสถานกงสุลใหญ่ ณ นครเซี่ยงไฮ้ สาธารณรัฐประชาชนจีน ในวงเงิน ๗๘,๘๖๑.๘๗ หยวน หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ ๔๒๒,๗๐๐ บาท เมื่อคิดอัตราแลกเปลี่ยน ณ วันที่ ๒๑ สิงหาคม ๒๕๕๗ ๑ หยวน เท่ากับ ๕.๓๖ บาท ในลักษณะก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๗-พ.ศ. ๒๕๕๘ ได้เป็นกรณีพิเศษเฉพาะราย ตามนัยมาตรา ๒๓ วรรคสี่ แห่งพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๐๒ และที่แก้ไขเพิ่มเติม หรือไม่เกินวงเงินผูกพันตลอดระยะเวลาเช่าตามสกุลเงินท้องถิ่นกรณีที่มีการเปลี่ยนแปลงอัตราแลกเปลี่ยน โดยเบิกจ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๗ รายการค่าเช่าทรัพย์สิน จำนวน ๔๗,๐๐๐ บาท ที่ได้รับจัดสรรงบประมาณไว้แล้ว และขอทำความตกลงในรายละเอียดกับสำนักงบประมาณตามขั้นตอนต่อไป ส่วนที่เหลืออีก จำนวน ๓๗๕,๗๐๐ บาท ได้เสนอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๘ รองรับไว้แล้ว ทั้งนี้ การเช่าสถานที่ทำการหน่วยงานในต่างประเทศดังกล่าว สำนักงานปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์จะต้องดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องให้ถูกต้องครบถ้วนด้วย ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ |
||||||||||||||||||
1307 | ผลการประชุมคณะกรรมการระดับสูง (กรส.) ไทย - เมียนมา ครั้งที่ 2 | สลธ.คสช. | 26/08/2557 | |||||||||||||||
คณะรักษาความสงบแห่งชาติลงมติ
๑. รับทราบผลการประชุมคณะกรรมการระดับสูง (กรส.) ไทย-เมียนมา ครั้งที่ ๒ ระหว่างวันที่ ๒๐-๒๒ สิงหาคม ๒๕๕๗ ณ สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา โดยมีผู้บัญชาการทหารสูงสุดของฝ่ายไทยและผู้บัญชาการทหารสูงสุดของฝ่ายเมียนมา เป็นประธานร่วม ตามที่ฝ่ายความมั่นคง คณะรักษาความสงบแห่งชาติเสนอ สรุปได้ ดังนี้ ๑.๑ การแลกเปลี่ยนการเยือน จะเพิ่มการเยือนของนายทหาร รวมทั้งกำลังพลและครอบครัว การแข่งขันกีฬาทหาร การฝึกศึกษาและการจัดประชุมสัมมนาของทุกเหล่าทัพในทุกระดับ โดยในห้วง ๓๑ สิงหาคม-๗ กันยายน ๒๕๕๗ จะมีกำลังพลเมียนมา จำนวน ๔๐ นาย มาอบรมเกี่ยวกับการเกษตรและปศุสัตว์ในไทย ๑.๒ ด้านความมั่นคง จะเพิ่มความร่วมมือในการฝึกทางทหาร การประชุม Navy to Navy Talks และการเยี่ยมเมืองท่าของกองทัพเรือ การประชุม Air Working Group Bilateral Meeting การฝึกบรรเทาสาธารณภัย การต่อต้านการก่อการร้าย การแลกเปลี่ยนข่าวกรองทางทหารในทุกระดับ รวมทั้งคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค ไทย-เมียนมา (Regional Border Committee : RBC) และคณะกรรมการชายแดนส่วนท้องถิ่น ไทย-เมียนมา (Township Border Committee : TBC) ได้มีการประสานงานกันอย่างแน่นแฟ้น ๑.๓ ฝ่ายเมียนมาได้ชื่นชมผลสำเร็จของการจัดตั้งคณะกรรมการระดับสูง (High Level Committee : HLC) ซึ่งจะได้นำหลักการไปใช้กับประเทศเพื่อนบ้านอื่น ๆ ต่อไป ๒. ตามที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ ๙ ตุลาคม ๒๕๕๕ (เรื่อง ขออนุมัติการจัดทำหนังสือแลกเปลี่ยนเกี่ยวกับการจัดตั้งกลไกคณะกรรมการร่วมไทย-เมียนมา เพื่อการพัฒนาที่ครอบคลุมในเขตเศรษฐกิจพิเศษทวายและพื้นที่โครงการที่เกี่ยวข้อง) เห็นชอบการจัดตั้งกลไกคณะกรรมการร่วมไทย-เมียนมา ว่าด้วยการพัฒนาที่ครอบคลุมในเขตเศรษฐกิจพิเศษทวายและพื้นที่โครงการที่เกี่ยวข้องเป็น ๓ ระดับ คือ (๑) คณะกรรมการร่วมระดับสูงไทย-เมียนมา (๒) คณะกรรมการประสานงานระหว่างไทย-เมียนมา และ (๓) คณะอนุกรรมการร่วมไทย-เมียนมา ใน ๖ สาขา นั้น กลไกที่จัดตั้งดังกล่าวข้างต้นประสบปัญหาหยุดชะงักไม่สามารถดำเนินการต่อไปได้ จึงมอบหมายให้ฝ่ายเศรษฐกิจ คณะรักษาความสงบแห่งชาติรับไปพิจารณาทบทวนการแต่งตั้งคณะกรรมการดังกล่าว โดยกำหนดให้ลดคณะกรรมการเหลือ ๒ ระดับ คือ ให้มีระดับนโยบายและระดับปฏิบัติการ และให้นำเรื่องนี้เสนอคณะรักษาความสงบแห่งชาติต่อไป |
||||||||||||||||||
1308 | การดำเนินการแก้ไขปัญหาการจัดการขยะมูลฝอยของจังหวัดพระนครศรีอยุธยา | มท | 19/08/2557 | |||||||||||||||
คณะรักษาความสงบแห่งชาติลงมติ ดังนี้
๑. โดยที่การแก้ไขปัญหาขยะมูลฝอยของประเทศเป็นนโยบายสำคัญเร่งด่วนของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ จึงมีมติอนุมัติให้กระทรวงมหาดไทยดำเนินการโครงการกำจัดขยะในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ในลักษณะโครงการนำร่องเพื่อเป็นรูปแบบของการดำเนินการกำจัดขยะที่รักษาสิ่งแวดล้อมของชุมชน โดยให้ใช้ที่ราชพัสดุ จำนวน ๓๗๒ ไร่ ๒ งาน ๒๙ ตารางวา ที่ตำบลมหาพราหมณ์ อำเภอบางบาล จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งอยู่ในความครอบครองขององค์การสุรา กรมสรรพสามิต สำหรับดำเนินโครงการดังกล่าว และให้ดำเนินการขอใช้ที่ราชพัสดุตามขั้นตอนของกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องต่อไป ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ ในส่วนของงบประมาณสำหรับการดำเนินโครงการฯ ให้ใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๗ แผนงานพัฒนาประสิทธิภาพการบริหารราชการแผ่นดิน ผลผลิตส่วนราชการมีการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพ งบรายจ่ายอื่น รายการค่าใช้จ่ายในการจัดทำยุทธศาสตร์การพัฒนาพื้นที่ ภายในกรอบวงเงิน ๓๗๕,๐๐๐,๐๐๐ บาท โดยให้สำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทยปรับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๗ รายการดังกล่าวข้างต้นตามมาตรการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๗ เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินการโครงการฯ ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ๒. ให้กระทรวงมหาดไทยรับความเห็นของกระทรวงสาธารณสุข สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เกี่ยวกับการศึกษาความเหมาะสมและออกแบบเบื้องต้นก่อนดำเนินการก่อสร้าง การควบคุมการกำกับการดำเนินงานกำจัดขยะมูลฝอยให้เป็นไปตามสุขลักษณะการจัดการขยะมูลฝอยทั่วไป การควบคุมกำกับการขนส่งเพื่อป้องกันการลักลอบทิ้งและปัญหาขยะมูลฝอยตกหล่นระหว่างทาง การติดตามตรวจสอบ กำกับดูแลการดำเนินการจัดการขยะมูลฝอยทั้งระบบตั้งแต่การเก็บ ขน กำจัด และการเฝ้าระวังติดตามตรวจสอบเป็นระยะ การจัดเวทีประชาคม ชี้แจงประชาสัมพันธ์ข้อมูลข่าวสาร ข้อเท็จจริง เกี่ยวกับการดูแลและควบคุมมลพิษในพื้นที่โครงการ ปัญหาอุปสรรค และแนวทางการลดปริมาณขยะและแก้ไขปัญหาขยะอย่างถูกวิธี การจัดตั้งคณะกรรมการในการติดตาม ตรวจสอบ เฝ้าระวังการดำเนินงาน ที่มีองค์ประกอบจากทุกภาคส่วน การพิจารณาความจำเป็นในการขอยกเว้นมิให้นำบทบัญญัติของกฎหมายที่เกี่ยวข้องมาใช้บังคับในการแก้ไขปัญหาขยะมูลฝอยในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพื่ออาศัยอำนาจคณะรักษาความสงบแห่งชาติออกประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ตามความจำเป็นต่อไป การควบคุม กำกับ ดูแลและตรวจสอบการดำเนินงานในการขนย้ายขยะเก่าและก่อสร้างสถานที่กำจัดขยะแห่งใหม่ให้ถูกต้องตามหลักวิชาการ การพิจารณาออกกฎระเบียบรองรับเกี่ยวกับหลักเกณฑ์และมาตรฐานการคัดแยก การเก็บรวบรวม ขนส่ง และวิธีการกำจัดที่ถูกต้อง ทั้งขยะมูลฝอยของชุมชน ขยะอันตราย และขยะติดเชื้อ รวมทั้งมาตรฐานสัญญาจ้างเอกชนในการดำเนินการกำจัดขยะมูลฝอย เพื่อให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นใช้เป็นแนวทางการดำเนินงานให้ถูกต้องเหมาะสม ไปพิจารณาประกอบการดำเนินการด้วย ๓. ให้กระทรวงมหาดไทยรับไปพิจารณาร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อจัดทำแผนการจัดตั้งโรงกำจัดขยะมูลฝอยในภาพรวมของประเทศเพื่อให้มีโรงกำจัดขยะมูลฝอยเพียงพอที่จะรองรับปริมาณขยะมูลฝอยของทุกจังหวัด และให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป ทั้งนี้ อาจพิจารณาแบ่งประเภทและขนาดของโรงกำจัดขยะมูลฝอยตามความจำเป็นและเหมาะสมในแต่ละพื้นที่ด้วย ๔. ให้ฝ่ายความมั่นคง คณะรักษาความสงบแห่งชาติรับไปพิจารณาร่วมกับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงมหาดไทย กระทรวงอุตสาหกรรม องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อพิจารณาแนวทางการบูรณาการการบริหารจัดการเกี่ยวกับขยะมูลฝอยอย่างครบวงจรให้มีประสิทธิภาพ ประสิทธิผล รวมตลอดถึงการแก้ไขปรับปรุงกฎหมายและระเบียบหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำเสนอต่อสภาปฏิรูปแห่งชาติต่อไป |
||||||||||||||||||
1309 | ร่างพระราชบัญญัติที่ควรเร่งรัดให้มีผลใชับังคับตามนโยบายคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (ครั้งที่ 5) รวม 14 ฉบับ | สลธ.คสช. | 13/08/2557 | |||||||||||||||
คณะรักษาความสงบแห่งชาติลงมติ
๑. เห็นชอบร่างพระราชบัญญัติที่ควรเร่งรัดให้มีผลใช้บังคับตามนโยบายคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (ครั้งที่ ๕) รวม ๑๔ ฉบับ ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา ตามที่ฝ่ายกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม คณะรักษาความสงบแห่งชาติเสนอ และให้เสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณาต่อไป ดังนี้ ๑.๑ ร่างพระราชบัญญัติการขนส่งทางบก (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (ปรับปรุงประเภทของหน่วยงานราชการที่ได้รับยกเว้นภาษีประจำปีและนิรโทษกรรมภาษีประจำปีที่ค้างชำระของหน่วยงานราชการ) ๑.๒ ร่างพระราชบัญญัติการประมง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (ปรับปรุงพระราชบัญญัติการประมง พ.ศ. ๒๔๙๖ ในเรื่องการบริหารจัดการ การบำรุงรักษา และการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรสัตว์น้ำ โดยให้ประชาชนหรือชุมชนประมงท้องถิ่นเข้ามามีส่วนร่วมในการจัดการด้วย พร้อมทั้งกำหนดมาตรการส่งเสริมให้สัตว์น้ำและผลิตภัณฑ์สัตว์น้ำได้คุณภาพมาตรฐาน และปลอดภัยเพื่อประโยชน์ในการคุ้มครองผู้บริโภค) ๑.๓ ร่างพระราชบัญญัติกำหนดวิทยฐานะผู้สำเร็จวิชาการทหาร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ของกระทรวงกลาโหม (ขยายหลักสูตรการสอนของสถาบันการศึกษาวิชาการทหารจากระดับปริญญาโทเป็นระดับปริญญาเอก และให้สภาการศึกษาวิชาการทหารมีอำนาจให้ประกาศนียบัตรบัณฑิตชั้นสูงและประกาศนียบัตรบัณฑิตแก่นักเรียนวิชาการทหาร) ๑.๔ ร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (แก้ไขความผิดเกี่ยวกับเพศและความผิดต่อเสรีภาพที่มีอายุเด็กเป็นองค์ประกอบ ความผิดโดยกำหนดไม่ให้ผู้กระทำความผิดอ้างความไม่รู้ของอายุของเด็กเพื่อให้พ้นความรับผิดทางอาญาได้) ๑.๕ ร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (กำหนดนิยามคำว่า “เจ้าพนักงาน” ให้รวมถึงบุคคลซึ่งกฎหมายบัญญัติว่าเป็นเจ้าพนักงานหรือได้รับแต่งตั้งตามกฎหมาย ไม่ว่าจะประจำหรือชั่วคราว เพื่อให้มีความชัดแจ้งและลดข้อโต้แย้ง พร้อมทั้งเพิ่มลักษณะความผิดเกี่ยวกับศพ ความผิดเกี่ยวกับการคุกคาม และปรับปรุงอัตราโทษปรับสำหรับความผิดลหุโทษ) ๑.๖ ร่างพระราชบัญญัติความรับผิดทางแพ่งเพื่อความเสียหายจากมลพิษน้ำมัน พ.ศ. .... (อนุวัติการตามอนุสัญญาระหว่างประเทศว่าด้วยความรับผิดทางแพ่งสำหรับความเสียหายจากมลพิษน้ำมัน ค.ศ. ๑๙๙๒ โดยกำหนดให้เจ้าของเรือต้องรับผิดชดใช้ความเสียหายจากมลพิษน้ำมัน และต้องมีการเอาประกันภัยหรือจัดหาหลักประกันความเสียหาย) ๑.๗ ร่างพระราชบัญญัติความลับทางการค้า (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (ปรับปรุงองค์ประกอบ คุณสมบัติ ลักษณะต้องห้าม วาระการดำรงตำแหน่ง การพ้นจากตำแหน่ง และวิธีการประชุมของคณะกรรมการความลับทางการค้า รวมทั้งปรับปรุงบทกำหนดโทษ) ๑.๘ ร่างพระราชบัญญัติปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (แก้ไขปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรมฯ เพื่อแบ่งส่วนราชการในกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์) ๑.๙ ร่างพระราชบัญญัติปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (จัดตั้งสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้าเป็นส่วนราชการระดับกรมในกระทรวงพาณิชย์) ๑.๑๐ ร่างพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (กำหนดให้มีการคุ้มครองข้อมูลการบริหารสิทธิและมาตรการทางเทคโนโลยี รวมทั้งกำหนดข้อยกเว้นการกระทำละเมิดลิขสิทธิ์ของนักแสดง) ๑.๑๑ ร่างพระราชบัญญัติเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ เพื่อสร้างทางพิเศษสายเชื่อมระหว่างถนนวงแหวนอุตสาหกรรมกับทางพิเศษสายบางพลี-สุขสวัสดิ์ ในท้องที่อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ พ.ศ. .... (เวนคืนอสังหาริมทรัพย์ เพื่อสร้างทางพิเศษสายเชื่อมระหว่างถนนวงแหวนอุตสาหกรรมกับทางพิเศษสายบางพลี-สุขสวัสดิ์ ในท้องที่อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ) ๑.๑๒ ร่างพระราชบัญญัติศุลกากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (กำหนดหลักเกณฑ์ทางศุลกากรที่ใช้กับพื้นที่ควบคุมร่วมกันตามความตกลงว่าด้วยการอำนวยความสะดวกในการขนส่งข้ามพรมแดนภายในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขงตอนบน) ๑.๑๓ ร่างพระราชบัญญัติสถานพยาบาลสัตว์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (ปรับปรุงกฎหมายสถานพยาบาลสัตว์ให้ครอบคลุมทั้งเอกชนและของรัฐเพื่อให้มีมาตรฐานเดียวกันและสอดคล้องกับกฎหมายว่าด้วยวิชาชีพสัตวแพทย์) ๑.๑๔ ร่างพระราชบัญญัติสถาบันวิทยาลัยชุมชน พ.ศ. .... (จัดตั้งสถาบันวิทยาลัยชุมชนเป็นสถานศึกษาที่มีฐานะเป็นนิติบุคคลและเป็นส่วนราชการในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา โดยโอนกิจการและทรัพย์สินของสำนักงานบริหารงานวิทยาลัยชุมชน คณะกรรมการการอุดมศึกษา ไปเป็นของสถาบันฯ เพื่อขยายโอกาสและการเข้าถึงการศึกษาระดับอุดมศึกษาที่ต่ำกว่าปริญญาของประชาชน) ๒. ให้ฝ่ายกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม คณะรักษาความสงบแห่งชาติ และสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีการับไปพิจารณาแนวทางในการปรับปรุงกฎหมายว่าด้วยการเวนคืนกรณีที่นำที่ดินมาใช้ประโยชน์ตามวัตถุประสงค์ของการเวนคืนครบถ้วนแล้ว ให้สามารถนำที่ดินส่วนที่เหลือไปใช้ประโยชน์ในเชิงพาณิชย์ได้ เช่น พื้นที่ใต้แนวเขตทางด่วน พื้นที่บริเวณสถานีรถไฟฟ้า เป็นต้น แล้วให้เสนอคณะรักษาความสงบแห่งชาติต่อไป ๓. ให้กระทรวงกลาโหมรับข้อสังเกตของคณะรักษาความสงบแห่งชาติเกี่ยวกับการดำเนินการตามร่างพระราชบัญญัติกำหนดวิทยฐานะผู้สำเร็จวิชาการทหาร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ว่าเมื่อร่างพระราชบัญญัติฉบับดังกล่าวมีผลใช้บังคับแล้ว กระทรวงกลาโหมควรพิจารณาจัดทำร่วมมือกับสถาบันการศึกษาหลักต่าง ๆ ในการพัฒนาหลักสูตรและการเรียนการสอนให้มีประสิทธิภาพและเป็นมาตรฐานเดียวกันกับสถาบันการศึกษาหลักดังกล่าว และควรเปิดสอนเฉพาะสาขาวิชาที่จำเป็นต่อเหล่าทัพเป็นหลัก ไปพิจารณาดำเนินการด้วย ๔. ให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาไปศึกษาปรับปรุงกฎหมายเกี่ยวกับโทษทางอาญาสำหรับความผิดที่กระทำผิดต่อเด็กซึ่งเป็นผู้ไร้เดียงสาและไม่สามารถป้องกันตนเองได้ โดยควรกำหนดอัตราโทษขั้นสูงสุดและไม่ควรมีการลดโทษในความผิดนั้น แล้วให้เสนอคณะรักษาความสงบแห่งชาติพิจารณาต่อไป |
||||||||||||||||||
1310 | การลงนามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือทวิภาคีระหว่างกรมทรัพย์สินทางปัญญาและสำนักงานสิทธิบัตรยุโรป | พณ | 29/07/2557 | |||||||||||||||
คณะรักษาความสงบแห่งชาติลงมติ
๑. เห็นชอบตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ ดังนี้ ๑.๑ เห็นชอบการลงนามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือทวิภาคีระหว่างกรมทรัพย์สินทางปัญญาและสำนักงานสิทธิบัตรยุโรป (MOU : Memorandum of Understanding on Bilateral Co-operation between the Department of Intellectual Property of Thailand and the European Patent Office) ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมความร่วมมือด้านสิทธิบัตรระหว่างกัน ครอบคลุมความร่วมมือด้านต่างๆ เช่น การพัฒนาศักยภาพการตรวจสอบสิทธิบัตรและการบริหารสำนักงาน การจัดสัมมนาฝึกอบรมบุคลากรกรมทรัพย์สินทางปัญญา การพัฒนาระบบอัตโนมัติและระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ การแลกเปลี่ยนฐานข้อมูลสิทธิบัตรและมาตรการความร่วมมือทั่วไป ๑.๒ มอบอธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญาเป็นผู้ลงนาม ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นต้องแก้ไขบันทึกความเข้าใจฯ ที่มิใช่สาระสำคัญก่อนลงนาม ให้อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญาเป็นผู้ใช้ดุลยพินิจดำเนินการได้ ๒. ให้กระทรวงพาณิชย์รับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรมีการติดตามประเมินผลความร่วมมือดังกล่าวและรายงานต่อคณะรักษาความสงบแห่งชาติเป็นระยะอย่างต่อเนื่อง เพื่อประโยชน์ในการนำไปสู่ความร่วมมือด้านอื่น ๆ ต่อไป ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย ๓. ให้กระทรวงพาณิชย์ (กรมทรัพย์สินทางปัญญา) เร่งตรวจสอบและดำเนินการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาในเรื่องต่าง ๆ ของไทยให้ครอบคลุมครบถ้วนทุกด้าน โดยเฉพาะด้านศิลปวัฒนธรรม การเกษตร ผลงานวิจัย รวมทั้งภูมิปัญญาของปราชญ์ท้องถิ่นที่ได้คิดค้นขึ้นด้วย โดยให้เร่งดำเนินการให้รวดเร็วเพื่อปกป้องคุ้มครองทรัพย์สินอันเป็นมรดกของชาติมิให้ถูกลอกเลียนและนำไปจดทะเบียนก่อน แล้วกำหนดแนวทางคุ้มครองสิทธิในงานทรัพย์สินทางปัญญาให้ชัดเจน เพื่อนำไปปฏิบัติได้อย่างมีประสิทธิภาพ ๔. ให้กระทรวงพาณิชย์ (กรมทรัพย์สินทางปัญญา) กระทรวงอุตสาหกรรม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งรณรงค์และชี้แจงทำความเข้าใจกับผู้ประกอบการเพื่อแก้ไขปัญหาการผลิตและจำหน่ายสินค้าเลียนแบบตราสินค้าที่มีชื่อเสียง (Brand) ซึ่งก่อให้เกิดปัญหาการละเมิดลิขสิทธิ์ และส่งเสริมให้ผู้ประกอบการปรับปรุงพัฒนาสินค้าภายใต้ตราสินค้าของตนเองให้ได้คุณภาพมาตรฐานเป็นที่ยอมรับของผู้บริโภค โดยควรส่งเสริมให้สินค้าหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ (OTOP) ได้รับการปรับปรุงพัฒนาให้เป็นตราสินค้าที่ได้รับความนิยมทัดเทียมกับสินค้าของต่างประเทศต่อไปด้วย |
||||||||||||||||||
1311 | การบูรณาการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน (กรณีถนนชำรุดเสียหายในหมู่บ้าน/ชุมชน) | นร52 | 29/07/2557 | |||||||||||||||
คณะรักษาความสงบแห่งชาติลงมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบการบูรณาการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน (กรณีถนนชำรุดเสียหายในหมู่บ้าน/ชุมชน) ตามที่ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้เสนอ และอนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๗ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ในกรอบวงเงิน ๘๓๕,๙๓๓,๐๒๒ บาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินโครงการก่อสร้างและปรับปรุงถนนที่ชำรุดในพื้นที่ ๓ จังหวัดชายแดนภาคใต้ และ ๔ อำเภอของจังหวัดสงขลา (อำเภอเทพา อำเภอสะบ้าย้อย อำเภอนาทวี และอำเภอจะนะ) และให้ถือเป็นนโยบายเร่งด่วนด้านความมั่นคงที่เกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาความไม่สงบในพื้นที่ ๓ จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยให้เร่งรัดการดำเนินโครงการดังกล่าวให้แล้วเสร็จโดยเร็วด้วย ๒. ให้ทุกส่วนราชการ โดยเฉพาะกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงคมนาคม กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงอุตสาหกรรม คณะกรรมการนโยบายยางธรรมชาติ คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) รวมตลอดถึงองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องเพื่อให้มีการใช้ประโยชน์ในทุกมิติจากยางพาราในประเทศ หรือผลิตภัณฑ์จากยางพาราชนิดต่าง ๆ ที่ผลิตในประเทศให้มากที่สุด เพื่อลดปริมาณยางพาราในสต็อกที่มีอยู่ รวมทั้งให้ขอความร่วมมือจากภาคเอกชนให้ร่วมดำเนินการในเรื่องดังกล่าวด้วย |
||||||||||||||||||
1312 | การขออนุมัติก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ รายการเช่าทำเนียบเอกอัครราชทูต ณ กรุงนิวเดลี | กต | 29/07/2557 | |||||||||||||||
คณะรักษาความสงบแห่งชาติลงมติอนุมัติให้กระทรวงการต่างประเทศก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๗-๒๕๕๘ รายการค่าเช่าทำเนียบเอกอัครราชทูต ณ กรุงนิวเดลี สาธารณรัฐอินเดีย เป็นกรณีเฉพาะราย ตามนัยมาตรา ๒๓ วรรคสี่ แห่งพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๐๒ และที่แก้ไขเพิ่มเติม โดยมีวงเงินผูกพันตลอดระยะเวลาสัญญาเช่าทั้งสิ้น ๒๑,๘๔๐,๐๐๐ รูปี หรือเท่ากับ ๑๓,๑๐๔,๐๐๐ บาท คิดอัตราแลกเปลี่ยน ๑ รูปี เท่ากับ ๐.๖๐ บาท หรือไม่เกินวงเงินตามสกุลเงินท้องถิ่นกรณีที่มีการเปลี่ยนแปลงอัตราแลกเปลี่ยน โดยใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๗ งบดำเนินงาน รายการค่าเช่าสถานทูตสถานกงสุล จำนวน ๖,๕๕๒,๐๐๐ บาท และงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๘ จำนวน ๖,๕๕๒,๐๐๐ บาท ทั้งนี้ เป็นไปตามเงื่อนไขในร่างสัญญาเช่าระยะเวลา ๒ ปี ที่ระบุให้ผู้เช่าจะต้องจ่ายค่าเช่า ๒ ปี โดยจะจ่ายค่าเช่าสำหรับปีที่ ๒ ภายใน ๑๐ วัน เมื่อสิ้นสุดระยะเวลาเช่าของปีที่ ๑ ซึ่งจะต้องใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๘ ที่สำนักงบประมาณได้เสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายรองรับไว้แล้ว ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ และให้กระทรวงการต่างประเทศเร่งรัดการดำเนินการปรับปรุงซ่อมแซมทำเนียบเอกอัครราชทูตถาวร ณ กรุงนิวเดลี ให้แล้วเสร็จโดยเร็วด้วย
|
||||||||||||||||||
1313 | ยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของไทย พ.ศ. 2558 - 2565 | คค | 29/07/2557 | |||||||||||||||
คณะรักษาความสงบแห่งชาติลงมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบในหลักการกรอบยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของไทย (พ.ศ. ๒๕๕๘-๒๕๖๕) ซึ่งประกอบด้วย ๕ แผนงาน ได้แก่ แผนงานการพัฒนาโครงข่ายรถไฟระหว่างเมือง แผนงานการพัฒนาโครงข่ายขนส่งสาธารณะเพื่อแก้ไขปัญหาจราจรในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล แผนงานการเพิ่มขีดความสามารถทางหลวงเพื่อเชื่อมโยงฐานการผลิตที่สำคัญของประเทศและเชื่อมโยงกับประเทศเพื่อนบ้าน แผนงานการพัฒนาโครงข่ายการขนส่งทางน้ำ และแผนงานการเพิ่มขีดความสามารถในการให้บริการขนส่งทางอากาศ เพื่อให้หน่วยงานส่วนราชการที่เกี่ยวข้องใช้เป็นแนวทางประกอบการพิจารณาในการจัดทำรายละเอียดแผนงาน/โครงการในระยะต่อไป ๒. เห็นชอบแนวทางการพัฒนาในระยะเร่งด่วนที่จะเร่งดำเนินการในปี พ.ศ. ๒๕๕๗ และปี พ.ศ. ๒๕๕๘ ประกอบด้วย ๒.๑ การเชื่อมโยงโครงข่ายคมนาคมกับประตูการค้า เมืองหลักในภูมิภาค และกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ๒.๒ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งทางราง ๒.๒.๑ ปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานรถไฟทางคู่ในเส้นทางรถไฟเดิม ในช่วงที่มีปัญหาความคับคั่งของการเดินรถ เพื่อใช้ในการขนส่งสินค้า และสำหรับขบวนรถไฟท้องถิ่น ๖ เส้นทาง รวมระยะทาง ๘๘๗ กิโลเมตร ๒.๒.๒ วางมาตรฐานใหม่สำหรับอนาคต โดยการสร้างทางรถไฟทางคู่ขนาดมาตรฐาน ๑.๔๓๕ เมตร (Standard Gauge) จำนวน ๒ เส้นทาง ได้แก่ เส้นทางหนองคาย-นครราชสีมา-ท่าเรือแหลมฉบัง ระยะทาง ๗๓๗ กิโลเมตร และเส้นทางเชียงของ-เด่นชัย-บ้านภาชี ระยะทาง ๖๕๕ กิโลเมตร ทั้งนี้ ในการดำเนินการแผนงาน/โครงการตามกรอบยุทธศาสตร์และแผนพัฒนาในระยะเร่งด่วน ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการให้เป็นไปตามกฎ ระเบียบราชการที่เกี่ยวข้องด้วย ๓. ให้กระทรวงคมนาคมเร่งจัดทำข้อมูลสรุปในเรื่องนี้ให้เข้าใจได้ง่ายและน่าสนใจ โดยให้ครอบคลุมประเด็นความเป็นมา แผนงาน/โครงการที่จะดำเนินการในแต่ละปี แหล่งที่มาของเงินงบประมาณ และการดำเนินงานร่วมกันของกระทรวงคมนาคมกับหน่วยงานต่าง ๆ เพื่อเผยแพร่ให้ประชาชนผู้สนใจได้ทราบอย่างถูกต้อง ทั่วถึง ตรงกัน ผ่านสื่อโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทยต่อไป ๔. ให้ฝ่ายเศรษฐกิจรับไปดำเนินการแต่งตั้งคณะกรรมการที่ปรึกษาของคณะรักษาความสงบแห่งชาติด้านโครงสร้างพื้นฐานการคมนาคมเพื่อทำหน้าที่ให้ความเห็นและข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการกำหนดยุทธศาสตร์และแนวทางการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมของประเทศ ทั้งทางบก น้ำ และอากาศ โดยให้มีหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติเป็นประธานกรรมการ รองหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติและหัวหน้าฝ่ายเศรษฐกิจ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ หัวหน้าส่วนราชการ และผู้เกี่ยวข้องร่วมเป็นกรรมการ โดยให้เร่งดำเนินการออกเป็นคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติต่อไป
|
||||||||||||||||||
1314 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดการขยายระยะเวลาการใช้บังคับผังเมืองรวม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (ขยายระยะเวลาการใช้บังคับผังเมืองรวมจำนวน 6 ฉบับ ต่อไปอีกหนึ่งปี) | มท | 29/07/2557 | |||||||||||||||
คณะรักษาความสงบแห่งชาติลงมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดการขยายระยะเวลาการใช้บังคับผังเมืองรวม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ แก้ไขเพิ่มเติมกฎกระทรวงกำหนดการขยายระยะเวลาการใช้บังคับผังเมืองรวม พ.ศ. ๒๕๔๙ เพื่อขยายระยะเวลาการใช้บังคับกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมต่อไปอีกหนึ่งปีเพิ่มขึ้น จำนวน ๖ ฉบับ ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ โดยยกเว้นในส่วนของการขยายระยะเวลาการใช้บังคับกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมเมืองพระนครศรีอยุธยา พ.ศ. ๒๕๕๒ เนื่องจากสิ้นสุดการใช้บังคับแล้ว จึงไม่อาจขยายระยะเวลาบังคับใช้ได้ ตามความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน โดยให้กระทรวงมหาดไทยรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรให้กรมโยธาธิการและผังเมือง ติดตาม เร่งรัด สนับสนุนท้องถิ่นในการวางและจัดทำผังเมืองรวมให้แล้วเสร็จ ก่อนที่ผังจะหมดอายุการบังคับใช้ลง เพื่อให้ผังเมืองรวม จำนวน ๖ ฉบับดังกล่าว มีการใช้บังคับอย่างต่อเนื่อง ไม่เกิดช่องว่างให้มีการอนุญาตใช้ประโยชน์ที่ดินที่ไม่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของการจัดทำผังเมืองรวมได้ ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้ฝ่ายกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม คณะรักษาความสงบแห่งชาติร่วมกับกระทรวงมหาดไทย สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาแนวทางการดำเนินการกรณีการขอขยายระยะเวลาการใช้บังคับผังเมืองรวมไม่ทันภายในกำหนดเวลา (รวมถึงกรณีกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมเมืองพระนครศรีอยุธยา พ.ศ. ๒๕๕๒) ให้สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช ๒๕๕๗ กฎหมาย ระเบียบ ประกาศ และคำสั่งที่เกี่ยวข้องเพื่อแก้ไขปัญหาในระหว่างที่ยังไม่มีกฎกระทรวงใช้บังคับ แล้วเสนอคณะรักษาความสงบแห่งชาติพิจารณาต่อไป ๓. ให้กระทรวงมหาดไทยรับไปพิจารณาร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อกำหนดมาตรการในการช่วยเหลือเยียวยาแก่ประชาชนผู้ได้รับผลกระทบกรณีที่ดินหรือที่อยู่อาศัยของประชาชนที่ถูกใช้บังคับผังเมืองรวมและการปรับปรุงแก้ไขผังเมืองรวม ทำให้ไม่สามารถใช้ประโยชน์ในที่ดินที่มีอยู่เพื่อการอยู่อาศัย ทำมาหากิน หรือประกอบธุรกิจต่อไปได้ และให้ชี้แจงให้ประชาชนได้ทราบโดยทั่วกันด้วย |
||||||||||||||||||
1315 | การขออนุมัติเพิ่มวงเงินก่อหนี้ผูกพันเกินกว่าวงเงินที่คณะรัฐมนตรีอนุมัติ | พณ | 22/07/2557 | |||||||||||||||
คณะรักษาความสงบแห่งชาติลงมติอนุมัติตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ให้กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศเพิ่มวงเงินค่าเช่าอาคารสำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ณ เมืองฟูกูโอกะ ประเทศญี่ปุ่น จากเดิมปีละ ๑๕,๙๗๔,๙๐๔ เยน หรือเท่ากับ ๕,๑๑๒,๐๐๐ บาท เป็นปีละ ๑๖,๕๐๐,๐๐๐ เยน หรือเท่ากับ ๕,๒๘๐,๐๐๐ บาท คิดอัตราแลกเปลี่ยน ๑ เยน เท่ากับ ๐.๓๒ บาท หรือไม่เกินวงเงินตามสกุลเงินท้องถิ่นกรณีที่มีการเปลี่ยนแปลงอัตราแลกเปลี่ยน โดยค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น ให้พิจารณาใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๗ งบดำเนินงาน รายการค่าเช่าสำนักงานในต่างประเทศ ของกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศต่อไป ทั้งนี้ ให้กระทรวงพาณิชย์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำแนวทางตามมติคณะรักษาความสงบแห่งชาติเมื่อวันที่ ๘ กรกฎาคม ๒๕๕๗ (เรื่อง โครงการบูรณาการงานบริการภาครัฐให้มีประสิทธิภาพ) ที่ให้ดำเนินการบูรณาการงานบริหารภาครัฐให้มีประสิทธิภาพ และสามารถให้บริการประชาชนได้อย่างเบ็ดเสร็จ ณ จุดเดียว รวมทั้งนโยบายการใช้พื้นที่ร่วมกัน (One Roof Policy) ตามนัยมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๗ สิงหาคม ๒๕๕๖ (เรื่อง ขออนุมัติก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ กรณีเช่าอาคารที่ทำการสำนักงานเศรษฐกิจการลงทุน ณ นครนิวยอร์ก) ไปพิจารณาดำเนินการในโอกาสต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||
1316 | ร่างพระราชบัญญัติที่ควรเร่งรัดให้มีผลใช้บังคับตามนโยบายคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (เพิ่มเติม) รวม 12 ฉบับ | สลธ.คสช. | 22/07/2557 | |||||||||||||||
คณะรักษาความสงบแห่งชาติลงมติ
๑. เห็นชอบร่างพระราชบัญญัติที่ควรเร่งรัดให้มีผลใช้บังคับตามนโยบายคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (เพิ่มเติม) รวม ๑๒ ฉบับ ตามที่ฝ่ายกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม คณะรักษาความสงบแห่งชาติเสนอ และเมื่อมีสภานิติบัญญัติแห่งชาติแล้วให้เสนอให้สภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณาต่อไป ดังนี้ ๑.๑ ร่างพระราชบัญญัติกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ พ.ศ. .... (กำหนดให้มีการจัดตั้งกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ขึ้นเพื่อเป็นแหล่งเงินทุนในการดำเนินการผลิตการพัฒนาและการเผยแพร่สื่อที่มีคุณภาพ เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้และพฤติกรรมที่ดีของเด็กและเยาวชน ส่งเสริมความสัมพันธ์อันดีในครอบครัวและส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชนในการพัฒนาสื่อ) ๑.๒ ร่างพระราชบัญญัติการถวายความปลอดภัย พ.ศ. .... (ปรับปรุงกฎหมายว่าด้วยการรักษาความปลอดภัยสำหรับองค์พระมหากษัตริย์ พระราชินี พระรัชทายาท ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ พระบรมวงศานุวงศ์ ผู้แทนพระองค์ และพระราชอาคันตุกะ เพื่อบูรณาการการถวายความปลอดภัยของหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง เช่น กองทัพไทย กองทัพบก กองทัพอากาศ กองทัพเรือ และกำลังตำรวจจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เป็นต้น ให้มีความเป็นเอกภาพและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น) ๑.๓ ร่างพระราชบัญญัติการรับขนทางอากาศระหว่างประเทศ พ.ศ. .... (กำหนดหลักเกณฑ์การรับขนทางอากาศระหว่างประเทศ การรับขนทางอากาศภายในประเทศ การรับขนร่วมกัน การรับขนทางอากาศโดยบุคคลอื่นที่ไม่ใช้คู่สัญญา และการฟ้องเรียกค่าเสียหาย เพื่อให้สอดคล้องกับอนุสัญญาว่าด้วยการรวบรวมกฎเกณฑ์บางประการเกี่ยวกับการรับขนทางอากาศระหว่างประเทศ ค.ศ. ๑๙๙๙) ๑.๔ ร่างพระราชบัญญัติควบคุมคุณภาพอาหารสัตว์ พ.ศ. .... (ปรับปรุงพระราชบัญญัติควบคุมคุณภาพอาหารสัตว์ พ.ศ. ๒๕๒๕ โดยเพิ่มเติมบทบัญญัติเกี่ยวกับการออกใบรับรองระบบการประกันคุณภาพอาหารสัตว์ และใบรับรองอื่นที่เกี่ยวข้องกับอาหารสัตว์ การเลิกกิจการและการโอนกิจการ รวมทั้งแก้ไขเพิ่มเติมในเรื่องการขออนุญาต การออกใบอนุญาต การออกใบรับรอง และการขึ้นทะเบียนอาหารสัตว์เพื่อประโยชน์ด้านคุณภาพอาหารสัตว์และคุ้มครองผู้บริโภค) ๑.๕ ร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. .... (กำหนดมาตรการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล โดยห้ามผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลเปิดเผยข้อมูลที่อยู่ในความครอบครองหรือความดูแลของตน เว้นแต่จะได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลก่อน เพื่อป้องกันการแสวงหาผลประโยชน์โดยมิชอบจากข้อมูลส่วนบุคคล) ๑.๖ ร่างพระราชบัญญัติจัดรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. .... (ปรับปรุงกฎหมายว่าด้วยการจัดรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม โดยลดขั้นตอนการจัดรูปที่ดินให้สามารถดำเนินการได้เร็ว และส่งเสริมให้ท้องถิ่นมีส่วนร่วมในการดำเนินการ รวมทั้งนำหลักการของกฎหมายว่าด้วยคันและคูน้ำมากำหนดไว้ในร่างพระราชบัญญัตินี้และยกเลิกกฎหมายดังกล่าว) ๑.๗ ร่างพระราชบัญญัติประกันชีวิต (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (แก้ไขโครงสร้างผู้ถือหุ้นเพื่อแก้ไขปัญหากรณีบริษัทประกันชีวิตให้สามารถหาผู้ถือหุ้นที่เป็นนิติบุคคลและมีลักษณะตามที่กฎหมายกำหนดได้ และกำหนดให้กองทุนชำระหนี้ให้แก่เจ้าหนี้ผู้เอาประกันภัยแทนบริษัทประกันชีวิตที่ถูกเพิกถอนใบอนุญาตประกอบธุรกิจประกันภัย) ๑.๘ ร่างพระราชบัญญัติประกันวินาศภัย (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... [สาระสำคัญทำนองเดียวกับร่างพระราชบัญญัติประกันชีวิต (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....] ๑.๙ ร่างพระราชบัญญัติปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (ยกฐานะสำนักงานความร่วมมือเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศ กระทรวงการต่างประเทศ ขึ้นเป็นกรมความร่วมมือระหว่างประเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โดยให้เป็นหน่วยงานหลักในการดูแลรับผิดชอบงานความร่วมมือเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศ) ๑.๑๐ ร่างพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามสิ่งยั่วยุพฤติกรรมอันตราย พ.ศ. .... (กำหนดมาตรการในการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับวัตถุลามก เพื่อให้สอดคล้องกับอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก) ๑.๑๑ ร่างพระราชบัญญัติมาตราชั่งตวงวัด (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (แก้ไขกฎหมายเกี่ยวกับมาตราชั่งตวงวัด ให้เหมาะสมและปรับปรุงให้ทันสมัย เหมาะสมกับสภาวการณ์และความจำเป็นทางเศรษฐกิจและสังคม รวมทั้งปรับปรุงอัตราค่าธรรมเนียมให้เหมาะสมยิ่งขึ้น) ๑.๑๒ ร่างพระราชบัญญัติสัตว์เพื่องานทางวิทยาศาสตร์ พ.ศ. .... (กำหนดการกำกับดูแลและส่งเสริมการดำเนินการต่อสัตว์เพื่องานทางวิทยาศาสตร์ของประเทศไทย ให้สอดคล้องกับหลักจรรยาบรรณและมาตรฐานของสากล เพื่อคุ้มครองชีวิตและสวัสดิภาพของสัตว์ ส่งเสริมความก้าวหน้าทางวิชาการของประเทศ ตลอดจนส่งเสริมนักวิจัยให้มีผลงานอันเป็นที่ยอมรับของนานาประเทศต่อไป) ๒. ให้กระทรวงการคลัง กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกระทรวงพาณิชย์รับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเกี่ยวกับร่างพระราชบัญญัติกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ พ.ศ. .... ควรระบุสถานะกองทุนเป็นทุนหมุนเวียนและใช้จ่ายในการสนับสนุนการผลิตสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ ร่างพระราชบัญญัติจัดรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. .... ควรเน้นกระบวนการมีส่วนร่วมของประชาชนเพื่อให้เกิดการยอมรับและเกิดความยั่งยืนในการปฏิบัติงาน ร่างพระราชบัญญัติประกันวินาศภัย (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... เนื่องจากธุรกิจประกันภัย อยู่ในบัญชีสาม ท้ายพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ. ๒๕๔๒ กระทรวงการคลังควรประสานกระทรวงพาณิชย์ให้ทราบเพื่อให้การปฏิบัติเป็นไปในทางเดียวกัน ร่างพระราชบัญญัติปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ควรบูรณาการความร่วมมือระหว่างประเทศของหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนของประเทศไทย โดยเฉพาะการให้ความช่วยเหลือการพัฒนาระหว่างประเทศทั้งในระดับทวิภาคี พหุภาคี และกรอบความร่วมมือระหว่างประเทศต่าง ๆ เพื่อมุ่งเน้นบทบาทของประเทศไทยในการเป็นประเทศผู้ร่วมพัฒนา (Development Partner) ในการให้ความช่วยเหลือเพื่อการพัฒนาและจะต้องสอดคล้องกับผลประโยชน์ที่ประเทศไทยจะได้รับด้วย และร่างพระราชบัญญัติมาตราชั่งตวงวัด (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ควรให้ความสำคัญกับเรื่องประสิทธิภาพและมาตรฐานของเครื่องชั่งตวงวัดเพื่อให้เกิดความโปร่งใสและเป็นธรรม และเร่งประชาสัมพันธ์ให้ผู้ประกอบการทราบถึงการแก้ไขปรับปรุงกฎหมายในประเด็นที่เกี่ยวเนื่องกับหน่วยงานและผู้ประกอบการทั้งในเรื่องหลักเกณฑ์ ค่าธรรมเนียม การกำกับดูแลการประกอบธุรกิจชั่งตวงวัด การควบคุมเครื่องชั่งตวงวัด และสินค้าหีบห่อ เพื่อให้ผู้ที่เกี่ยวข้องต่าง ๆ มีระยะเวลาในการเตรียมการ รวมถึงการสร้างความตระหนักรู้ถึงโทษทางการปกครองและอาญาเพื่อให้การบังคับใช้กฎหมายมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องด้วย |
||||||||||||||||||
1317 | ข้อสั่งการของหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ | สลธ.คสช. | 22/07/2557 | |||||||||||||||
ในคราวประชุมคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติมีข้อสั่งการ ดังนี้
๑. ด้านเศรษฐกิจ ให้ฝ่ายเศรษฐกิจ โดยกระทรวงพาณิชย์และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ดำเนินมาตรการดูแลราคาผลิตผลทางการเกษตรที่จะทยอยออกตามฤดูกาล เช่น ลำไย อ้อย ยางพารา ปาล์มน้ำมัน รวมทั้งชี้แจงทำความเข้าใจให้ประชาชนทราบว่า คณะรักษาความสงบแห่งชาติได้ให้ความสำคัญในการดูแลราคาผลิตผลทางการเกษตรทุกชนิดอย่างทั่วถึง มิใช่ดูแลเฉพาะข้าวเท่านั้น ๒. ด้านสังคม ๒.๑ ให้ฝ่ายสังคมจิตวิทยาแต่งตั้งคณะกรรมการประสานงานระบบประกันสุขภาพ ซึ่งประกอบด้วยผู้เชี่ยวชาญที่มีความรู้เกี่ยวกับระบบสวัสดิการข้าราชการ ระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ และระบบประกันสังคม เพื่อพิจารณาหาแนวทางบูรณาการทั้ง ๓ ระบบให้เกิดประสิทธิภาพและสามารถให้บริการสุขภาพแก่ข้าราชการและประชาชนทุกกลุ่มอย่างเหมาะสม ทั่วถึง และเป็นธรรม ทั้งนี้ ให้กระทรวงมหาดไทยประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการแต่งตั้งคณะกรรมการข้างต้น รวมทั้งชี้แจงทำความเข้าใจให้ประชาชนทราบเกี่ยวกับการบริการสาธารณสุขของรัฐภายใต้นโยบายหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าว่าประชาชนทุกคนสามารถได้รับบริการตามปกติเช่นเดิม และไม่มีการปรับลดเงินงบประมาณหรือปรับเปลี่ยนหลักเกณฑ์การเข้ารับบริการใด ๆ ตามแนวทางของมติคณะรักษาความสงบแห่งชาติเมื่อวันที่ ๑๕ กรกฎาคม ๒๕๕๗ ๒.๒ ให้ฝ่ายสังคมจิตวิทยารับไปพิจารณาความเหมาะสม ผลดี ผลเสียในกรณีที่มหาวิทยาลัยออกนอกระบบราชการโดยปรับเปลี่ยนสถานภาพจากมหาวิทยาลัยของรัฐไปเป็นมหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มความคล่องตัวในการดำเนินการและความเป็นเลิศทางวิชาการ แต่ในทางปฏิบัติที่ผ่านมาได้เกิดปัญหา เช่น เพิ่มภาระงบประมาณแผ่นดิน ค่าธรรมเนียมทางการศึกษาที่สูงขึ้น เป็นต้น ๓. ด้านแรงงาน ตามที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติได้มีนโยบายให้เปิดศูนย์การบริการจดทะเบียนแรงงานต่างด้าวแบบเบ็ดเสร็จตามจังหวัดต่าง ๆ นั้น พบว่าการดำเนินการดังกล่าวได้ช่วยบรรเทาผลกระทบทั้งต่อนายจ้างและแรงงานต่างด้าวเป็นอย่างมาก อย่างไรก็ตาม เนื่องจากการดำเนินการขอใบอนุญาตทำงานมีขั้นตอนดำเนินการต่าง ๆ ที่ใช้ระยะเวลามาก เช่น การขอหนังสือเดินทางจากประเทศต้นทางเพื่อนำมาขอใบอนุญาตทำงาน จึงให้ฝ่ายความมั่นคงร่วมกับกระทรวงแรงงานพิจารณาแนวทางการผ่อนปรนเพื่อให้ขั้นตอนการออกใบอนุญาตทำงานแก่แรงงานต่างด้าวมีระยะเวลาที่เหมาะสมสามารถตอบสนองความต้องการใช้แรงงานในประเทศได้ ๔. ด้านอื่น ๆ ๔.๑ ให้กระทรวงมหาดไทย (กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย) กระทรวงกลาโหม สำนักงานตำรวจแห่งชาติประสานทุกภาคส่วนในการเตรียมความพร้อมมาตรการดูแลและให้ความช่วยเหลือประชาชนกรณีเกิดภัยธรรมชาติต่าง ๆ ในแต่ละพื้นที่ซึ่งอาจประสบภัยธรรมชาติที่แตกต่างกันในแต่ละช่วงเวลา เช่น ในช่วงเดือนสิงหาคม-ตุลาคมมีรายงานว่าจะมีพายุหลายลูกพัดผ่านประเทศไทย ซึ่งอาจนำไปสู่การเกิดอุทกภัย และในขณะนี้มีข้อมูลว่าปริมาณน้ำในเขื่อนสำคัญ เช่น เขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ อยู่ในระดับต่ำ อาจนำไปสู่ปัญหาการขาดแคลนน้ำเพื่อการเกษตรและภัยแล้งในระยะต่อไป จึงขอให้ติดตามสถานการณ์การเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศอย่างต่อเนื่องเพื่อสามารถดำเนินมาตรการต่าง ๆ ได้ทันการณ์ นอกจากนี้ ให้ทุกหน่วยงานที่มีแผนงาน/โครงการที่เกี่ยวกับมาตรการรองรับแก้ไขปัญหาภัยธรรมชาติเร่งรัดการดำเนินการให้เป็นไปตามแผนโดยเร็วด้วย ๔.๒ ให้หัวหน้าฝ่ายความมั่นคงพิจารณาปรับปรุงพื้นที่ควบคุมผู้ลี้ภัยให้มีความเหมาะสม และให้สำนักงบประมาณประสานสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง) เพื่อจัดสรรงบประมาณให้เพียงพอกับการดูแลผู้ลี้ภัยในประเทศด้วย ๔.๓ ให้ฝ่ายความมั่นคงพิจารณาถึงความจำเป็นและความเหมาะสมในการแต่งตั้งคณะกรรมการด้านสิทธิมนุษยชนภายใต้คณะรักษาความสงบแห่งชาติ เพื่อดูแลการคุ้มครองสิทธิมนุษยชนเป็นการเฉพาะด้วย ๔.๔ ให้กระทรวงมหาดไทยชี้แจงให้ประชาชนเข้าใจเกี่ยวกับประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ ๘๕/๒๕๕๗ เรื่อง การได้มาซึ่งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่นเป็นการชั่วคราว ซึ่งเป็นแนวทางชั่วคราวที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติดำเนินการเพื่อแก้ไขปัญหาการได้มาซึ่งสมาชิกสภาท้องถิ่นเพื่อให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นสามารถบริหารงานและให้บริการสาธารณะแก่ประชาชนในพื้นที่ได้อย่างต่อเนื่อง ๔.๕ ให้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติร่วมกับสำนักงบประมาณเตรียมจัดทำคำชี้แจงงบประมาณประจำปี ๒๕๕๘ ต่อรัฐสภา โดยให้เน้นในเรื่องการจัดสรรงบประมาณให้แต่ละภูมิภาคตามยุทธศาสตร์การพัฒนาภูมิภาค รวมทั้งการจัดสรรงบประมาณแบบบูรณาการตามยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศด้วย ๔.๖ ให้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติจัดทำร่างนโยบายรัฐบาล โดยประสานงานคณะกรรมการต่าง ๆ ที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติแต่งตั้ง เพื่อนำยุทธศาสตร์ของคณะกรรมการมาประกอบในร่างนโยบายรัฐบาล โดยให้มีสาระครอบคลุมการดำเนินการในทุกด้าน เช่น เศรษฐกิจ (โดยเฉพาะการส่งเสริมการค้าการลงทุน การปรับปรุงและพัฒนารัฐวิสาหกิจ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน) แรงงาน การศึกษา สาธารณสุข พลังงาน โดยให้ครอบคลุมมิติของส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค และส่วนท้องถิ่นด้วย ๔.๗ ให้ฝ่ายความมั่นคงโดยกระทรวงการต่างประเทศจัดทำสรุปผลการดำเนินงานของประเทศไทยตามแผนการจัดตั้งประชาคมอาเซียนว่าได้ดำเนินการเรื่องใดไปแล้วทั้งในด้านโครงสร้างพื้นฐานและการปรับปรุงกฎระเบียบต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง และจะต้องดำเนินการในเรื่องใดต่อไปเพื่อให้เป็นไปตามกรอบเวลาของการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน และรายงานให้คณะรักษาความสงบแห่งชาติทราบด้วย
|
||||||||||||||||||
1318 | การจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2558 | นร07 | 15/07/2557 | |||||||||||||||
คณะรักษาความสงบแห่งชาติลงมติ ดังนี้
๑. รับทราบและเห็นชอบในหลักการเกี่ยวกับการจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๘ จำนวน ๒,๕๗๕,๐๐๐ ล้านบาท โดยเป็นนโยบายขาดดุล จำนวน ๒๕๐,๐๐๐ ล้านบาท รายได้สุทธิ จำนวน ๒,๓๒๕,๐๐๐ ล้านบาท ตามข้อเสนอของสำนักงบประมาณ โดยมีรายละเอียดระบุวงเงินและโครงสร้างงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๘ งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๘ จำแนกตามยุทธศาสตร์การจัดสรรงบประมาณ และจำแนกตามกระทรวง การจัดสรรงบประมาณรายจ่ายให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น การจัดสรรงบประมาณรายจ่ายให้แก่จังหวัดและกลุ่มจังหวัด การจัดสรรงบประมาณรายจ่ายให้รัฐสภา ศาล และองค์กรตามรัฐธรรมนูญ และการขอยกเว้นการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีกรณีงบประมาณรายจ่ายลงทุน รายการผูกพันข้ามปีงบประมาณที่เริ่มดำเนินการในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๘ ๒. ให้ปรับลดงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๘ งบกลาง วงเงินรวมทั้งสิ้นประมาณ ๗,๗๐๐ ล้านบาท เพื่อนำไปปรับใช้ในโครงการที่มีความสำคัญเร่งด่วน เช่น โครงการที่เกี่ยวกับโครงสร้างพื้นฐาน และโครงการก่อสร้าง ปรับปรุง และบำรุงรักษาเส้นทางคมนาคมต่าง ๆ ทั่วประเทศที่มีสภาพชำรุดทรุดโทรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งเส้นทางคมนาคมสู่ภาคใต้ รวมทั้งใช้สำหรับโครงการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดซึ่งเป็นโครงการที่มีความจำเป็นเร่งด่วนต้องดำเนินการในระยะแรก ทั้งนี้ หากมีงบประมาณ (งบกลาง) เหลือจ่ายในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๗ ก็ให้นำมาปรับใช้ในการดำเนินโครงการดังกล่าวข้างต้นด้วย ๓. รับทราบการปรับปรุงวงเงินงบประมาณในลักษณะบูรณาการประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๘ จากเดิม ๕๒๗,๑๓๒.๕ ล้านบาท เป็น ๔๙๒,๑๖๔.๘ ล้านบาท และให้จัดทำงบประมาณในลักษณะบูรณาการเกี่ยวกับการจัดการขยะและสิ่งแวดล้อมเพิ่มอีก ๑ เรื่อง ทั้งนี้ ให้หัวหน้าฝ่ายสังคมจิตวิทยาเป็นผู้กำกับดูแลการดำเนินการเกี่ยวกับการกำจัดขยะและสิ่งแวดล้อมดังกล่าว โดยให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเป็นผู้รับผิดชอบหลักในการดำเนินการเรื่องนี้ ๔. อนุมัติให้คำของบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๘ ถือเป็นส่วนหนึ่งของแผนปฏิบัติราชการประจำปีของหน่วยงาน ๕. ให้สำนักงบประมาณนำรายละเอียดงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๘ จัดทำเป็นร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๘ ให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาพิจารณาเป็นเรื่องด่วน และแจ้งผลการพิจารณาให้สำนักงบประมาณโดยตรง
|
||||||||||||||||||
1319 | มาตรการฟื้นฟูความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจ | กค | 02/07/2557 | |||||||||||||||
คณะรักษาความสงบแห่งชาติลงมติ
๑. อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกา รวม ๓ ฉบับ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ แล้วส่งให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา ดังนี้ ๑.๑ ร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการลดอัตรารัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ ขยายเวลาการปรับขั้นอัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ออกไปอีก ๑ ปี สำหรับเงินได้สุทธิที่ได้รับตั้งแต่วันที่ ๑ มกราคม ๒๕๕๘ ถึงวันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๘ ๑.๒ ร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการลดอัตรารัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ ขยายเวลาการปรับลดอัตราภาษีเงินได้นิติบุคคลในอัตราร้อยละ ๒๐ ออกไปอีก ๑ ปี สำหรับรอบบัญชีที่เริ่มในหรือหลังวันที่ ๑ มกราคม ๒๕๕๘ แต่ไม่เกินวันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๘ ๑.๓ ร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการลดอัตราภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ ขยายเวลาการลดอัตราภาษีมูลค่าเพิ่มเป็นร้อยละ ๗ (รวมภาษีท้องถิ่น) ออกไปอีก ๑ ปี ตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๕๗ แต่ไม่เกินวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๕๘ และให้จัดเก็บอัตราภาษีมูลค่าเพิ่มในอัตราร้อยละ ๙ ตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๕๘ เป็นต้นไป ๒. ให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาไปพิจารณาด้วยว่าร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการลดอัตราภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ซึ่งมีความจำเป็นเร่งด่วนที่จะใช้บังคับตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๕๗ เพื่อช่วยกระตุ้นการบริโภคของประชาชนและลดภาระค่าครองชีพสมควรจะออกเป็นประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติแทนหรือไม่ เนื่องจากขณะนี้ยังไม่มีรัฐธรรมนูญและการตราพระราชกฤษฎีกาจะต้องอาศัยอำนาจตามรัฐธรรมนูญ แล้วให้ดำเนินการต่อไปได้ ๓. ให้กระทรวงการคลังรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเกี่ยวกับการเร่งปฏิรูปโครงสร้างและระบบภาษีอากรทั้งระบบ เพื่อให้ภาษีอากรเป็นเครื่องมือในการดำเนินนโยบายทางการคลังที่มีประสิทธิภาพในการสนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ โดยมีหลักการสำคัญคือ การลดความเหลื่อมล้ำ การสร้างความเป็นธรรม การส่งเสริมพฤติกรรมการผลิตการบริโภคที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และการเพิ่มแรงจูงใจเพื่อการวิจัยและพัฒนาที่นำไปสู่นวัตกรรมและเพิ่มผลิตภาพในภาคการผลิตและบริการให้สามารถแข่งขันในตลาดโลกได้ การเพิ่มประสิทธิภาพและประสิทธิผลของการจัดเก็บภาษีอากรแต่ละประเภทเพื่อขยายฐานภาษีและรายได้ของรัฐอย่างยั่งยืนในระยะยาว และข้อสังเกตของสำนักงบประมาณเกี่ยวกับการจัดทำประมาณการมูลค่าการขาดรายได้ในแต่ละกรณีให้ชัดเจน เพื่อประกอบการพิจารณาวางแผนการจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปี ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย |
||||||||||||||||||
1320 | รายงานผลการศึกษาวิเคราะห์ภาพรวมความต้องการอัตรากำลังภาครัฐต่อคณะรัฐมนตรีกรณีกระทรวงกลาโหมขออนุมัติการเปิดบรรจุกองร้อยทหารพรานและกรณีสำนักงานตำรวจแห่งชาติขอรับการสนับสนุนอัตรากำลัง | นร10 | 02/07/2557 | |||||||||||||||
คณะรักษาความสงบแห่งชาติลงมติ ดังนี้
๑. อนุมัติการเปิดบรรจุกองร้อยทหารพราน จำนวน ๑ กองร้อยทหารพราน ให้แก่กรมทหารพรานที่ ๑๒ จังหวัดสระแก้ว ตามที่สำนักงาน ก.พ. เสนอ สำหรับงบประมาณค่าใช้จ่ายในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๗ ให้ดำเนินการในกรอบวงเงิน ๒๖,๘๔๕,๓๐๐ บาท โดยให้กองทัพบกพิจารณาปรับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณภายใต้มาตรการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๗ เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการปฏิบัติภารกิจดังกล่าวก่อน หากยังไม่เพียงพอให้ขอรับการสนับสนุนงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๗ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น โดยขอทำความตกลงในรายละเอียดกับสำนักงบประมาณ สำหรับค่าใช้จ่ายในการดำรงสภาพปีถัดไป ให้กองทัพบกเสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีตามความจำเป็นและเหมาะสมต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ๒. อนุมัติอัตราข้าราชการตำรวจชั้นประทวนเพิ่มใหม่ให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จำนวน ๕,๐๐๐ อัตรา ในปีแรกก่อน สำหรับงบประมาณค่าใช้จ่ายในการดำเนินการเนื่องจากต้องใช้เวลาในการเตรียมความพร้อมในการสอบคัดเลือกและการฝึกอบรมก่อนบรรจุ ดังนั้น หากมีค่าใช้จ่ายเกิดขึ้น ให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติพิจารณาปรับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณภายใต้มาตรการเพิ่มประสิทธิภาพ การใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๗ มาดำเนินการก่อน และหรือเสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๘ ตามความจำเป็นและเหมาะสมต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ สำหรับกรอบอัตรากำลังที่เหลือ จำนวน ๙,๐๐๐ อัตรา ให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติทบทวนบทบาทภารกิจและปรับปรุงการดำเนินงานของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานตามภารกิจและการใช้กำลังคนอย่างเหมาะสมและคุ้มค่า พร้อมทั้งจัดทำแผนการกระจายอัตรากำลังตำรวจชั้นประทวนตามพื้นที่รับผิดชอบให้สอดคล้องกับปริมาณงานและความจำเป็นของภารกิจเสนอให้คณะกรรมการกำหนดเป้าหมายและนโยบายกำลังคนภาครัฐ (คปร.) พิจารณาอีกครั้งหนึ่ง ตามความเห็นของสำนักงาน ก.พ.ร. และให้รับความเห็นของฝ่ายเลขานุการร่วม คปร. เกี่ยวกับการปรับบทบาทภารกิจ การบริหารจัดการงาน และการใช้อัตรากำลัง ในส่วนที่เป็นงานอำนวยการ งานสนับสนุน หรืองานที่สามารถถ่ายโอนให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นรับไปดำเนินการ แยกออกจากงานภารกิจหลักด้านการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมประเภทต่าง ๆ ให้ชัดเจน ไปพิจารณาดำเนินการด้วย ทั้งนี้ การดำเนินการข้างต้นอยู่ภายใต้กรอบอัตรากำลังของสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่ คปร. ยุบเลิก จำนวน ๑๔,๐๐๐ อัตรา ๓. คณะรักษาความสงบแห่งชาติมีความเห็นเพิ่มเติมว่า ปัญหาการขาดแคลนอัตรากำลังชั้นประทวนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติมีสาเหตุประการหนึ่งเกิดจากการเลื่อนและแต่งตั้งข้าราชการตำรวจชั้นประทวนไปเป็นข้าราชการชั้นสัญญาบัตรจำนวนมาก ดังนั้น การดำเนินการดังกล่าวควรจะต้องพิจารณาถึงความจำเป็นเหมาะสม ภารกิจและหน้าที่ความรับผิดชอบของตำแหน่งที่เลื่อนขึ้น โดยจะต้องพิจารณาถึงการปรับปรุงโครงสร้างและอำนาจหน้าที่ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติให้เหมาะสมและสอดคล้องกับสภาพการณ์ปัจจุบันด้วย |
.....