ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 149 จากทั้งหมด 200 หน้า แสดงรายการที่ 2961 - 2980 จากข้อมูลทั้งหมด 3982 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
2961 | ผลการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนเกี่ยวกับการทุจริตคอรัปชั่น พ.ศ. 2546 | ทก | 10/06/2546 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารรายงานผลการสำรวจ
ความคิดเห็นของประชาชนเกี่ยวกับการทุจริตคอรัปชั่น พ.ศ. 2546 ของสำนักงานสถิติแห่งชาติ สรุปได้ดังนี้ (1) การทุจริตคอรัปชั่นในวงราชการ ประชาชนร้อยละ 40.4 ระบุว่ามีการทุจริตมาก ร้อยละ 32.1 ระบุว่ามีปานกลาง และร้อยละ 8.4 ระบุว่าน้อย (2) การทุจริตคอรัปชั่นของเจ้าหน้าที่ของรัฐและนักการเมืองในท้องถิ่น ร้อยละ 51.7 ระบุว่ามีเจ้าหน้าที่ของรัฐบางคนทุจริต ฯ ร้อยละ 47.8 เห็นว่ามีนักการเมืองบางคนทุจริต ฯ และผู้ที่เห็นว่า เจ้าหน้าที่ของรัฐและนักการเมืองส่วนใหญ่ทุจริต ฯ มีร้อยละ 10.2 และ 12.7 ตามลำดับ และร้อยละ 12.2 และ 11.9 ระบุว่าแทบจะไม่มีใครทุจริต ฯ (3) ผู้มีอิทธิพลในท้องถิ่นที่ก่อให้เกิดการทุจริต ฯ ร้อยละ 34.1 ระบุว่ามี ร้อยละ 29.0 ระบุว่าไม่มี และร้อยละ 36.9 ไม่แน่ใจ/ไม่ทราบ (4) การทุจริต ฯ ในการประมูลงานของรัฐในท้อง ถิ่น ร้อยละ 32.1 และร้อยละ 15.4 ระบุว่ามีการทุจริต ฯ ปานกลาง และมาก ตามลำดับ ร้อยละ14.3 ระบุว่า มีน้อย และร้อยละ 38.2 ไม่แน่ใจ/ไม่ทราบ (5) การจัดซื้อจัดจ้างทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์ (e-Auction) ร้อยละ 80.5 ยังไม่ทราบว่ารัฐได้เริ่มให้หน่วยราชการ จัดซื้อจัดจ้างผ่านระบบดังกล่าว และมีผู้ทราบเพียงร้อยละ 19.5 (6) ความเชื่อมั่นต่อรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาการทุจริต ฯ ร้อยละ 80.4 ระบุว่ามีความเชื่อมั่น และร้อยละ 19.6 ไม่เชื่อมั่น (7) ความพอใจของประชาชนต่อการดำเนินงานการป้องกันปราบปรามการทุจริต ฯ ร้อยละ 66.9 ระบุว่ามีความพอใจ ร้อยละ 28.4 ระบุว่าไม่พอใจ และร้อยละ 4.7 ไม่แน่ใจ/ไม่ทราบ (8) ความพร้อมของ ประชาชนที่จะเข้าร่วมตรวจสอบการทุจริต ฯ ร้อยละ 76.9 ระบุว่ามีความพร้อม ร้อยละ 23.1 ระบุว่าไม่พร้อม และให้เหตุผลว่า กลัวจะได้รับความเดือดร้อน/กลัวผู้มีอิทธิพล ไม่มีเวลาต้องทำงาน และไม่มีหลักฐาน (9) ความ เพียงพอของข่าวสารการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ฯ ร้อยละ 54.2 ระบุว่าในรอบปีที่ผ่านมามีข่าวสาร การรณรงค์ไม่เพียงพอ ร้อยละ 26.8 ระบุว่ามีเพียงพอ และร้อยละ 19.0 ไม่แน่ใจ/ไม่ทราบ และ (10) เรื่อง สำคัญที่ประชาชนต้องการให้รัฐบาลดำเนินการเกี่ยวกับการทุจริต ฯ คือ ตรวจสอบการทุจริต ฯ ของข้าราชการ ร้อยละ 28.4 รองลงมา คือ ตรวจสอบงบประมาณ และการทำงานด้านสาธารณูปโภค ร้อยละ 21.9 และตรวจ สอบการประมูลงาน/การจัดซื้อจัดจ้าง/การสัมปทานต่าง ๆ ของภาครัฐ ร้อยละ 19.7 |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
2962 | รายงานผลการศึกษาการดำเนินการแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมภายใต้แผนปฏิบัติการเพื่อการจัดการคุณภาพสิ่งแวดล้อมในระดับจังหวัด | นร | 10/06/2546 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 3 (คกก.3) ที่มี
มติรับทราบตามที่สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินเสนอผลการศึกษาการดำเนินการแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมภายใต้ แผนปฏิบัติการเพื่อการจัดการคุณภาพสิ่งแวดล้อมในระดับจังหวัด และข้อเสนอแนะของสำนักงาน ฯ ที่เห็นควรให้ มีการตรวจสอบ ติดตาม ประเมินผล ทั้งในระดับนโยบาย แผนงานโครงการก่อสร้างระบบบำบัดน้ำเสียและระบบ กำจัดขยะมูลฝอยอย่างจริงจังและต่อเนื่อง และให้นำผลการประเมินมากำหนดแนวทางมาตรการควบคุมการปฏิบัติ งานให้เป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนด ในกรณีที่ก่อสร้างระบบบำบัดน้ำเสียดังกล่าวแล้วเสร็จแต่ไม่สามารถเปิดเดิน ระบบได้ ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันหาแนวทางหรือมาตรการในการแก้ไขปัญหาเพื่อให้สามารถเปิดเดินระบบ ได้รวมทั้งให้มีระบบติดตามประเมินผลการบรรลุวัตถุประสงค์ของโครงการ เช่น การตรวจวัดคุณภาพน้ำที่ผ่านการ บำบัด และผลการดำเนินงานของระบบกำจัดขยะมูลฝอยที่ก่อให้เกิดผลที่พึงปรารถนา เป็นต้น โดยนำข้อมูลที่ได้ เสนอต่อผู้บริหารท้องถิ่น เพื่อดำเนินการแก้ไขปรับปรุงการบริหารจัดการระบบให้สามารถแก้ไขปัญหาคุณภาพสิ่ง แวดล้อมได้อย่างยั่งยืน ทั้งนี้ ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมรับข้อเสนอแนะดังกล่าว ความเห็น ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และความเห็นของ คกก.3 ซึ่งมีความเห็นดังนี้ (1) การจัดเก็บค่าธรรมเนียมบำบัดน้ำเสีย ควรให้หน่วยงานที่ผลิตน้ำประปาหรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเป็นผู้จัดเก็บ (2) การออกแบบระบบบำบัดน้ำ เสีย หน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรพิจารณาถึงการศึกษาการออกแบบระบบทางด้านวิชาการ และเทคนิคให้มีความยืด หยุ่น (Flexibility) เหมาะสมกับการใช้งาน โดยคำนึงถึงสภาพพื้นที่ ความพร้อมทางด้านต่าง ๆ และงบประมาณค่า ใช้จ่าย (3) ควรส่งเสริมในเรื่องการสร้างจิตสำนึก หรือจิตวิทยาในชุมชน หรือท้องถิ่นในเรื่องการดูแลรักษาสภาพ แวดล้อม และการมีส่วนร่วมในการบำบัดและกำจัดของเสียภายในท้องถิ่นนั้น ๆ และ (4) ควรมีการติดตามควบคุม ตรวจสอบการบริหารจัดการระบบกำจัดขยะและน้ำเสีย และตรวจสอบควบคุมบริษัทที่ปรึกษาที่จะมารับงานออก แบบและลงทุนในระบบบำบัดน้ำเสีย ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป และให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ ฯ เป็น เจ้าภาพเร่งดำเนินการเพื่อกำหนดมาตรการจัดเก็บค่าธรรมเนียมบำบัดน้ำเสียให้เป็นรูปธรรม โดยจัดประชุมหา รือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ การประปานครหลวง การประปาส่วนภูมิภาค และการประปาส่วนท้องถิ่น (จังหวัดนครราชสีมา) ตามข้อเสนอแนะของสำนักงาน ฯ และความเห็นของ คกก.3 โดยด่วน แล้วรายงานให้ คกก.3 ทราบภายใน 30 วัน |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
2963 | รายงานผลความก้าวหน้าการดำเนินงานต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติด ของกระทรวงมหาดไทยรอบสัปดาห์ (ถึงวันที่ 8 มิถุนายน 2546) | มท | 10/06/2546 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงมหาดไทย โดยศูนย์ปฏิบัติการต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติด
กระทรวงมหาดไทย (ศตส.มท.) รายงานสรุปผลการปฏิบัติงานต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติด ในภาพรวมของทุก จังหวัด (ศตส.จ.) ทั้ง 75 จังหวัด ในรอบสัปดาห์ (ถึงวันที่ 8 มิถุนายน 2546) สรุปได้ดังนี้ (1) การปราบ ปรามจับกุมผู้ผลิต/ผู้ค้ายาเสพติดของ ศตส.จ. ศตส.อ./กิ่ง อ. มียอดการจับกุมรวมทั้งสิ้น 45,881 คน โดย จังหวัด ที่สามารถจับกุมผู้ผลิต/ผู้ค้าได้ 100% ได้แก่ จังหวัดกำแพงเพชร ขอนแก่น ชุมพร เชียงใหม่ ตาก นครราชสีมา นครศรีธรรมราช น่าน พังงา พิจิตร เพชรบูรณ์ มหาสารคาม ลำพูน เลย ศรีสะเกษ สกล นคร สุราษฎร์ธานี และหนองบัวลำภู ส่วนการแสดงตน มีผู้ผลิต/ผู้ค้า เข้าแสดงตนเพิ่มขึ้น 221 คน และผู้เสพ เพิ่มขึ้น 8,977 คน ด้านการบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้เสพ มีผลการบำบัดรักษารวมทั้งสิ้น 264,496 คน การ เสริมสร้างความเข้มแข็งของหมู่บ้าน/ชุมชน ตามกระบวนการเสริมสร้างหมู่บ้าน/ชุมชนเข้มแข็งเพื่อเอาชนะยา เสพติด ครบ 4 ขั้นตอนใน 6 ขั้นตอน จากเป้าหมาย 82,130 หมู่บ้าน/ชุมชน ดำเนินการได้ จำนวน 77,197 หมู่บ้าน/ชุมชนดำเนินการครบ 5 ขั้นตอน จำนวน 29,898 หมู่บ้าน/ชุมชน ดำเนินการครบ 6 ขั้นตอน จำนวน 15,969 หมู่บ้าน/ชุมชน (2) การปราบปรามจับกุมผู้ผลิต/ผู้ค้ารายสำคัญและการยึดทรัพย์ สิน จากรายงานของ ศตส. 75 จังหวัด จับกุมผู้ผลิต/ผู้ค้ารายสำคัญ รวม 1,974 คน ตรวจยึดทรัพย์สินได้มูล ค่า 6,524.379 ล้านบาท ส่วนการปฏิบัติงานยึดทรัพย์สินของ ป.ป.ส. และ ปปง. ดำเนินการยึดทรัพย์สินผู้ ผลิต/ผู้ค้า รวม 1,730.366 ล้านบาท (3) การดำเนินการกับเจ้าหน้าที่ของรัฐที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด มีเจ้า หน้าที่ของรัฐที่มีพฤติการณ์เกี่ยวข้องกับยาเสพติด จำนวน 926 ราย แต่จากการตรวจสอบเพิ่มเติมปรากฏ ว่า มีจำนวนเจ้าหน้าที่ของรัฐที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด รวม 1,337 ราย ได้ดำเนินการทางอาญา 80 ราย ดำเนินการทางวินัย ทางการปกครอง และให้พ้นจากหน้าที่ไปแล้ว 657 ราย อยู่ระหว่างดำเนินการ 331 ราย เสียชีวิต 21 ราย และไม่มีพฤติการณ์ 248 ราย และจากรายงานของกรมการปกครอง มีกำนัน ผู้ใหญ่ บ้าน ฯลฯ มีพฤติการณ์เกี่ยวข้องกับยาเสพติด รวมทั้งสิ้น 345 ราย กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น มี บุคลากรขององค์กร ฯ เกี่ยวข้องกับยาเสพติด รวมทั้งสิ้น 184 ราย นอกจากนี้ ยังมีผลการปฏิบัติงานในส่วน ของแนวทางการปฏิบัติของหน่วยงานในการดำเนินโครงการประสานพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติด ผลการ ปฏิบัติงานด้านการแก้ไขปัญหาในกลุ่มผู้มีโอกาสไปใช้ยาเสพติด (Potential Demand) และการกำหนดแนว ทางการดำเนินการปราบปรามผู้มีอิทธิพลขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
2964 | ร่างพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยปริญญาในสาขาวิชา อักษรย่อสำหรับสาขาวิชา ครุยวิทยฐานะ เข็มวิทยฐานะ และครุยประจำตำแหน่งของสถาบันราชภัฏ (ฉบับที่ .. ) พ.ศ. .... | ศธ | 03/06/2546 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอร่างพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยปริญญา
ในสาขาวิชา อักษรย่อสำหรับสาขาวิชา ครุยวิทยฐานะ เข็มวิทยฐานะ และครุยประจำตำแหน่งของสถาบันราชภัฏ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยสาระสำคัญของร่างพระราช กฤษฎีกาฉบับนี้เป็นการกำหนดปริญญาในสาขาวิชาและอักษรย่อสำหรับสาขาวิชา ได้แก่ สาขาวิชาการบัญชี และ กำหนดให้สีฟ้าเทา เป็นสีประจำสาขาวิชา สาขาวิชาการจัดการเทคโนโลยี และกำหนดให้สีม่วงเม็ดมะปราง เป็น สีประจำสาขาวิชา สาขาวิชาการศึกษาเพื่อการพัฒนาท้องถิ่น และกำหนดให้สีฟ้า เป็นสีประจำสาขาวิชา และสาขา วิชารัฐประศาสนศาสตร์ และกำหนดให้สีน้ำตาล เป็นสีประจำสาขาวิชา ทั้งนี้ ให้รับความเห็นของทบวงมหาวิทยา ลัยไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วให้ดำเนินการต่อไปได้ |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
2965 | ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการพัฒนาพื้นที่เพื่อเสริมความมั่นคงของชาติ พ.ศ. 2546 | นร | 03/06/2546 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบหลักการตามที่สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) เสนอระเบียบสำนัก
นายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการพัฒนาพื้นที่เพื่อเสริมความมั่นคงของชาติ พ.ศ. 2546 และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการ กฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ โดยสาระสำคัญของระเบียบดังกล่าว มีดังนี้ (1) ให้ยกเลิกคำสั่ง สภาความมั่นคงแห่งชาติ คำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี และคำสั่งกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในที่เกี่ยวข้อง ในเรื่องนี้ (2) ให้มีคณะกรรมการนโยบายและอำนวยการพัฒนาพื้นที่เพื่อเสริมความมั่นคงของชาติ (นพช.) โดย มีนายกรัฐมนตรีหรือรองนายกรัฐมนตรีที่นายกรัฐมนตรีมอบหมายเป็นประธาน เป็นองค์กรบริหารระดับนโยบาย และมีอนุกรรมการ ฯ รวม 4 คณะ ได้แก่ คณะอนุกรรมการอำนวยการและประสานการพัฒนาพื้นที่เพื่อเสริมความ มั่นคงของชาติ คณะอนุกรรมการประสานการจัดระบบป้องกันเพื่อจัดระเบียบพื้นที่ชายแดน คณะอนุกรรมการ เฉพาะกิจแปลงแผนพัฒนาเพื่อเสริมความมั่นคงของชาติ และคณะอนุกรรมการเฉพาะกิจเพื่อแก้ไขปัญหาความมั่นคง เกี่ยวกับชุมชนพื้นที่สูง (3) ให้มีคณะกรรมการพัฒนาเพื่อความมั่นคงในระดับพื้นที่ในเขตกองทัพภาคที่ 1-4 และ คณะกรรมการพัฒนาเพื่อความมั่นคงในระดับพื้นที่ในเขตกองเรือภาคที่ 1-3 กองเรือยุทธการ เป็นองค์กรการ บริหารระดับภาค (4) ให้คณะกรรมการพัฒนาจังหวัด (กพจ.) ที่จัดตั้งขึ้นตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วย การบริหารการพัฒนาเพื่อกระจายความเจริญไปสู่ภูมิภาคและท้องถิ่น พ.ศ. 2539 และกองอำนวยการรักษาความ มั่นคงภายในจังหวัด เป็นองค์กรบริหารจัดการในระดับจังหวัด (5) ให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องทั้งในส่วนกลาง ส่วน ภูมิภาค ส่วนท้องถิ่น และรัฐวิสาหกิจให้การสนับสนุนการดำเนินงานของคณะกรรมการและองค์กรตามระเบียบนี้ และ (6) ให้มีสำนักงานเลขานุการคณะกรรมการนโยบายและอำนวยการพัฒนาพื้นที่เพื่อเสริมความมั่นคงของชาติ เรียกชื่อย่อว่า "สล.นพช." เป็นหน่วยงานภายใน สมช. |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
2966 | การถ่ายโอนภารกิจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น | นร | 03/06/2546 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเสนอเรื่อง การถ่ายโอน
ภารกิจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กรณีการถ่ายโอนภารกิจการดำเนินงานที่อ่านหนังสือประจำหมู่ บ้าน การดำเนินงานห้องสมุดประชาชนตำบล และห้องสมุดประจำอำเภอ/จังหวัด ของกรมการศึกษานอก โรงเรียน กระทรวงศึกษาธิการ ให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นไม่เป็นไปตามแผนปฏิบัติการกำหนดขั้น ตอนการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ที่กำหนดให้ถ่ายโอนภารกิจดังกล่าวให้แล้วเสร็จ ในปี พ.ศ. 2545 ทั้งนี้ คณะรัฐมนตรีเห็นว่า เพื่อให้การถ่ายโอนอำนาจภารกิจต่าง ๆ ตามแผนปฏิบัติการ กำหนดขั้นตอนการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นขับเคลื่อนต่อไปได้อย่างเป็นรูปธรรม สอดคล้องกับศักยภาพและความพร้อมของแต่ละจังหวัด จึงขอให้กระทรวงมหาดไทยรับไปประสานกับผู้ ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด เพื่อตรวจสอบข้อมูลข้อเท็จจริงว่ามีภารกิจใดบ้างที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ในจังหวัดของตนมีศักยภาพและความพร้อมที่จะรับโอนภารกิจจากส่วนกลางไปดำเนินการ หรือมีภารกิจใด ที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในจังหวัดยังไม่พร้อมที่จะดำเนินการในขณะนี้ ตลอดจนปัญหาอุปสรรคและ ข้อเสนอแนะอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง (ถ้ามี) แล้วให้รวบรวมข้อมูลทั้งหมดส่งให้คณะกรรมการการกระจายอำนาจ ให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นพิจารณา ก่อนเสนอคณะรัฐมนตรีโดยด่วนต่อไป |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
2967 | การเร่งรัดขยายบริการไฟฟ้าโดยระบบผลิตกระแสไฟฟ้าด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ | มท | 03/06/2546 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติในหลักการตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอโครงการเร่งรัดขยายบริการไฟฟ้าโดย
ระบบผลิตกระแสไฟฟ้าด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ (Solar Home System) รวมทั้งการนำเข้าอุปกรณ์ส่วนประกอบของ ระบบผลิตกระแสไฟฟ้าด้วยพลังงานแสงอาทิตย์บางส่วนที่ไม่สามารถผลิตได้ในประเทศ และให้ดำเนินการต่อไปได้ โดยให้กระทรวงมหาดไทยประสานกับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) อย่างใกล้ชิด เพื่อให้การดำเนินการตามโครง การนี้เป็นไปเฉพาะครัวเรือนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ห่างไกล ไม่สามารถติดตั้งระบบไฟฟ้าตามปกติและไม่ซ้ำซ้อนกับครัว เรือนตามแผนการขยายพื้นที่การใช้ไฟฟ้าของ กฟภ. ที่กำลังดำเนินการอยู่ด้วย สำหรับค่าใช้จ่ายเพื่อการนี้ในปีงบ ประมาณ พ.ศ. 2547 จำนวน 4,016,250,000 บาท ให้กระทรวงการคลังรับไปพิจารณาร่วมกับกระทรวงมหาด ไทยเพื่อจัดหาเงินกู้จากสถาบันการเงินในประเทศ โดยรัฐรับผิดชอบค่าดอกเบี้ย และให้สำนักงบประมาณรับไปตั้ง งบประมาณ ปีงบประมาณ พ.ศ. 2548 เพื่อชดใช้คืนเงินกู้ดังกล่าว รวมไปถึงงบประมาณของโครงการที่จะใช้ในปีงบ ประมาณ พ.ศ. 2548 อีกจำนวน 3,615,045,000 บาท เพิ่มเติมไว้ในเงินอุดหนุนที่จะจัดสรรให้แก่องค์กรปกครอง ส่วนท้องถิ่นต่อไป ทั้งนี้ ให้คำนึงถึงความประหยัดงบประมาณและประสิทธิภาพของการจัดการด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
2968 | แนวทางการรณรงค์ป้องกันเนื่องในวันต่อต้านยาเสพติด (26 มิถุนายน 2546) | ยธ | 03/06/2546 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบและเห็นชอบตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอแนวทางการรณรงค์ป้องกันเนื่องใน
วันต่อต้านยาเสพติด วันที่ 26 มิถุนายน 2546 โดยรับทราบมติการประชุมคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยา เสพติด (ป.ป.ส.) ครั้งที่ 2/2546 และให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามมติการประชุมดังกล่าว โดยเน้นการขอ ความร่วมมือให้ผู้บริหารประเทศ ข้าราชการ บุคลากร เจ้าหน้าที่/พนักงานของหน่วยงาน/องค์กรภาครัฐ รัฐวิสาห กิจ องค์กรส่วนท้องถิ่น และประชาชน สวมเสื้อสีขาวในวันต่อต้านยาเสพติด วันที่ 26 มิถุนายน 2546 เพื่อแสดง ความมุ่งมั่นในการเอาชนะยาเสพติด และเชิญชวนให้ประชาชนแจ้งเบาะแสข้อมูลเกี่ยวกับผู้ค้ายาและผู้เสพ/ผู้ติดยาที่ ยังไม่เข้ารับการบำบัดรักษา ตลอดจนให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินกิจกรรมอย่างพร้อมเพรียงกันตามแนวทางการ รณรงค์ป้องกันเนื่องในวันต่อต้านยาเสพติด |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
2969 | รายงานผลความก้าวหน้าการดำเนินงานต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติด ของกระทรวงมหาดไทย รอบ 4 เดือน | มท | 03/06/2546 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงมหาดไทย โดยศูนย์ปฏิบัติการต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติด
กระทรวงมหาดไทย (ศตส.มท.) รายงานผลความก้าวหน้าการดำเนินงานต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติดในภาพรวม ของศูนย์ปฏิบัติการต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติดจังหวัด (ศตส.จ.) ทั้ง 75 จังหวัด ในรอบ 4 เดือน (ถึงวันที่ 30 พฤษภาคม 2546) สรุปได้ดังนี้ (1) การปราบปรามจับกุมผู้ผลิต/ผู้ค้ายาเสพติดของ ศตส.จ. ศตส.อ/กิ่ง อ. มี ยอดการจับกุมรวมทั้งสิ้น 45,343 คน ส่วนการแสดงตน ในช่วงวันที่ 1 - 30 พฤษภาคม 2546 มีผู้ผลิต/ผู้ค้า เข้าแสดงตนต่อทางราชการเพิ่มขึ้น 117 คน และผู้เสพเพิ่มขึ้น 7,539 คน ด้านการบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้เสพ มีผลการบำบัดรักษาทั้งสิ้น 264,496 คน การเสริมสร้างความเข้มแข็งของหมู่บ้าน/ชุมชน ได้ดำเนินการตาม กระบวนการดังกล่าวครบ 4 ขั้นตอนใน 6 ขั้นตอน จำนวน 77,197 หมู่บ้าน/ชุมชน ดำเนินการครบ 5 ขั้น ตอน จำนวน 29,898 หมู่บ้าน/ชุมชน และดำเนินการครบ 6 ขั้นตอน จำนวน 15,969 หมู่บ้าน/ชุมชน (2) การปราบปรามจับกุมผู้ผลิต/ผู้ค้ารายสำคัญ และการยึดทรัพย์สิน มีผลการปราบปรามจับกุมผู้ผลิต/ผู้ค้าราย สำคัญรวม 1,938 คน ยึดทรัพย์สินได้คิดเป็นมูลค่า 6,498.956 ล้านบาท รวมทั้งผลการปฏิบัติงานยึดทรัพย์ สินของ ป.ส.ส. ปปง. ศตส.กทม. และจังหวัดต่าง ๆ (3) การดำเนินการกับเจ้าหน้าที่ของรัฐที่เกี่ยวข้องกับยาเสพ ติด จากการตรวจสอบเพิ่มเติมปรากฏว่า มีเจ้าหน้าที่ของรัฐที่มีพฤติการณ์เกี่ยวข้องกับยาเสพติด รวม 1,310 ราย ได้ดำเนินการทางวินัย ทางอาญา ทางปกครอง และพ้นจากหน้าที่ไปแล้ว จำนวน 709 ราย อยู่ระหว่าง ดำเนินการ 326 ราย เสียชีวิต 21 ราย และยุติเรื่อง 254 ราย ในส่วนของกรมการปกครอง มีกำนัน ผู้ใหญ่ บ้าน ฯลฯ มีพฤติการณ์เกี่ยวข้องกับยาเสพติด รวมทั้งสิ้น 345 ราย และกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น มี บุคลากรขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเกี่ยวข้องกับยาเสพติด รวมทั้งสิ้น 184 ราย นอกจากนี้ ยังมีผลการ ปฏิบัติงานการติดตามผลการดำเนินคดีกับผู้ค้า/ผู้ผลิต ยาเสพติด การประกาศเจตนารมณ์เป็นจังหวัดเข้มแข็ง เอาชนะยาเสพติด มาตรการและแนวทางในการดำเนินงานต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติด ในห้วงเดือนมิถุนายน - พฤศจิกายน 2546 โครงการประสานพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติด และการตรวจติดตามผลการดำเนินงาน ต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติด และการปราบปรามผู้มีอิทธิพล |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
2970 | ข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติสภาตำบลและองค์การบริหารส่วนตำบล (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | สผ | 26/05/2546 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
รับทราบตามที่สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรเสนอข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญ
พิจารณาร่างพระราชบัญญัติสภาตำบลและองค์การบริหารส่วนตำบล (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ของสภาผู้แทนราษฎร และมอบให้กระทรวงการคลัง กระทรวงมหาดไทย สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี สำนักงบประมาณ และสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา รับไปพิจารณาดำเนินการ แล้วแจ้งให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีทราบ เพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป โดยข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญ ฯ สรุปได้ว่า พระราชบัญญัติสภาตำบล และองค์การบริหารส่วนตำบล พ.ศ. 2537 ได้มีการปรับปรุงแก้ไขหลายครั้งเพื่อให้สอดคล้องกับบทบัญญัติของ รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน และสอดคล้องกับกฎหมายเกี่ยวกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นฉบับอื่น ๆ รวมทั้ง เพื่อให้การบริหารงานขององค์การบริหารส่วนตำบลเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ แต่อย่างไรก็ตาม ยังคงมีบทบัญญัติที่ควรพิจารณาปรับปรุงแก้ไข เช่น เกณฑ์การยุบรวมองค์การบริหารส่วนตำบล และที่มาของ สมาชิกองค์การบริหารส่วนตำบล เป็นต้น ที่จะได้มีการทำการศึกษาวิเคราะห์ต่อไป นอกจากนี้ กฎหมายเกี่ยว กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีอยู่หลายฉบับ โครงสร้างขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและการบริหารท้อง ถิ่นได้กำหนดไว้แตกต่างกันออกไป จึงควรให้มีการศึกษาในรายละเอียด และข้อบกพร่องต่าง ๆ ของกฎหมายที่ เกี่ยวกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั้งหมด ซึ่งอาจจะศึกษาในลักษณะของรูปแบบประมวลกฎหมายองค์กรปก ครองส่วนท้องถิ่น และสรุปหาข้อยุติรูปแบบองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่เหมาะสม โดยให้ประสานงานกันใน ระหว่างผู้แทนพรรคการเมือง นักวิชาการ และองค์กรอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
2971 | รายงานผลการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีเรื่องแผนปฏิบัติการสร้างราชการใสสะอาดประจำปี พ.ศ. 2545 | นร | 26/05/2546 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่สำนักงาน ก.พ. รายงานผลการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีเรื่องแผน
ปฏิบัติการสร้างราชการใสสะอาด ประจำปี พ.ศ. 2545 สรุปได้ว่า ตามที่สำนักงาน ก.พ. ได้มีหนังสือแจ้งให้ส่วนราช การจัดส่งรายงานผลการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีดังกล่าว มีส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐส่งรายงานผล การดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี รวมทั้งสิ้น 123 แห่ง ประกอบด้วย กระทรวง ทบวง กรม 105 แห่ง ในจำนวนนี้ มี 15 แห่งที่ปรับปรุงแผนกลยุทธ์หน่วยงานใสสะอาดของตนใหม่ รัฐวิสาหกิจ 8 แห่ง มหาวิทยาลัย 9 แห่ง และองค์ กรปกครองส่วนท้องถิ่น 1 แห่ง โดยรายงานผลการดำเนินการของส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐส่วนใหญ่ครอบ คลุมเนื้อหา 3 ด้าน คือ การส่งเสริมจิตสำนึกราชการใสสะอาด การป้องกันเหตุการณ์และพฤติกรรมที่อาจเป็นภัย ต่อการก้าวไปสู่ประเทศไทยใสสะอาด ในประเด็นการปรับกระบวนการให้บริการ การปรับกระบวนการบริหารงาน ภายใน การปรับปรุงสภาพแวดล้อมทางกายภาพ และการจัดให้มีกลไกพร้อมรับการตรวจสอบ และการจัดการกรณี ทุจริตคอร์รัปชั่นที่เกิดขึ้นแล้วหรือกำลังเกิดขึ้น สำหรับแนวการดำเนินการต่อไป สำนักงาน ก.พ. จะเผยแพร่ผลการ พิจารณาของคณะรัฐมนตรีเกี่ยวกับรายงานผลการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีแก่สาธารณะ ส่วนราชการ และ หน่วยงานของรัฐ และให้ถือว่าการดำเนินการเรื่องนี้เป็นส่วนหนึ่งของแผนงาน โครงการ กิจกรรมประจำของส่วน ราชการและหน่วยงานของรัฐ โดยจะผนวกการดำเนินการเรื่องนี้เป็นส่วนหนึ่งของมิติการประเมินผลงานเพื่อขอรับ เงินรางวัลประจำปี รวมทั้งให้เป็นเงื่อนไขประการหนึ่งในการพิจารณาจัดสรรงบประมาณแก่ส่วนราชการ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
2972 | รายงานผลการตรวจติดตามโครงการหนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ ปีงบประมาณ พ.ศ. 2545 งวดที่ 3 ของผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี | นร | 26/05/2546 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบและเห็นชอบตามที่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเสนอ ดังนี้ (1) รับทราบ
รายงานผลการตรวจติดตามโครงการหนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ ปีงบประมาณ พ.ศ. 2545 งวดที่ 3 ของผู้ตรวจราช การสำนักนายกรัฐมนตรี ในส่วนของผลการดำเนินงานตามโครงการหนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ และผลการดำเนิน งานตามโครงการอินเทอร์เน็ตตำบล และ (2) รับทราบคำสั่งนายกรัฐมนตรีที่ให้ความเห็นชอบมอบหมายให้หน่วย งานที่รับผิดชอบโครงการ ฯ คือ คณะกรรมการอำนวยการ หนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ แห่งชาติ (กอ.นตผ.) และ กระทรวงมหาดไทย และโครงการอินเทอร์เน็ตตำบล คือ กรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น กระทรวงมหาด ไทยรับข้อสังเกตและข้อเสนอแนะของผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรีในรายงานผลการตรวจติดตามโครงการดัง กล่าว ปีงบประมาณ พ.ศ. 2545 งวดที่ 3 ไปประกอบการพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป ดังนี้ โครงการ หนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ ควรจัดหาตลาดที่แน่นอน มีความมั่นคง ถาวร เพื่อเป็นหลักประกันในการรองรับสินค้า ของกลุ่มผู้ผลิตทั่วประเทศ ประสานกับภาคเอกชนในการให้ความรู้ด้านเทคนิคการผลิตต่าง ๆ แก่กลุ่มผู้ผลิตให้มีการ ฝึกอบรมแก่กลุ่มผู้ผลิตเพื่อเพิ่มพูนความรู้ในเรื่องการบริหารจัดการ การตลาด การพัฒนาคุณภาพผลิตภัณฑ์ ควบคู่ ไปกับการบรรจุภัณฑ์ ตลอดจนประสานกับภาคเอกชนในการให้ความรู้และทำความเข้าใจกับกลุ่มผู้ผลิตในเรื่องของ ค่าใช้จ่ายและต้นทุนการผลิต อาทิ ภาษี ค่าเช่าสถานที่จำหน่าย ค่าขนส่ง ฯลฯ รวมทั้งชี้แจงทำความเข้าใจกับผู้ผลิต ถึงยุทธศาสตร์ในการดำเนินงานตามโครงการ ฯ ให้ความสำคัญกับการพัฒนาและส่งเสริมผลิตภัณฑ์ที่เกิดจากภูมิ ปัญญาท้องถิ่น และใช้ทรัพยากรในพื้นที่เป็นปัจจัยสำคัญให้มากขึ้น ส่วนการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ผ่านเว็บไซต์ไทย ตำบลดอทคอม ควรปรับปรุงในเรื่องของสีสัน ความคมชัด และรูปแบบการจัดวางให้เป็นที่ดึงดูดใจมากขึ้น สำหรับ โครงการอินเทอร์เน็ตตำบล ควรพิจารณาจัดสรรเครื่องคอมพิวเตอร์ให้กับที่ทำการปกครองจังหวัด อำเภอฝ่ายท้อง ถิ่น และองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ให้มีการเชื่อมโยงกันทุกระบบและครบวงจร ปรับปรุงแก้ไขปัญหากรณี เครื่องคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์เพื่อให้บริการมีความสะดวกรวดเร็ว จัดให้มีการฝึกอบรมให้ความรู้กับเจ้าหน้าที่ อบต. เกี่ยวกับการใช้คอมพิวเตอร์และอินเทอร์เน็ต ให้มีการรณรงค์ให้ประชาชนได้รับทราบถึงประโยชน์ของโครงการและ การให้บริการประชาชนด้านอินเทอร์เน็ตให้กว้างขวางยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ให้ผู้บริหารในระดับท้องถิ่นให้ความสำคัญ ในการกำกับดูแล กำชับ และปลูกจิตสำนึกให้ อบต. ทุกแห่งใช้คอมพิวเตอร์ตามโครงการ ฯ และเห็นความสำคัญของ การนำเอาเทคโนโลยีการติดต่อสื่อสารผ่านระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ตมาสนับสนุนการปฏิบัติงาน
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
2973 | ผลการประชุมระดับรัฐมนตรีในการประชุมเรื่องน้ำโลก ครั้งที่ 3 | ทส | 26/05/2546 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมรายงานผลการประชุมระดับ
รัฐมนตรีในการประชุมเรื่องน้ำโลก ครั้งที่ 3 ณ นครเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น ระหว่างวันที่ 16-23 มีนาคม 2546 โดย สาระสำคัญของการประชุม ฯ ประกอบด้วย (1) สรุปแถลงการณ์รัฐมนตรี ที่เห็นควรให้มีการส่งเสริมการบริหาร จัดการทรัพยากรน้ำแบบผสมผสาน โดยเน้นความเป็นธรรมในการแบ่งปันประโยชน์ ส่งเสริมการมีส่วนร่วมโดยต้อง ให้มีความโปร่งใสและเชื่อถือได้ ตลอดจนส่งเสริมการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ความรู้ต่าง ๆ โดยเฉพาะจากท้องถิ่น เพื่อเสริมสร้างขีดความสามารถของประชาชนและสถาบันต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง และการจัดตั้งกองทุนเพื่อสนับสนุนทาง การเงิน (2) การประชุมกลุ่มย่อย ได้มีการแลกเปลี่ยนความเห็นในการนำการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำแบบผสม ผสานไปสู่การปฏิบัติ ซึ่งพิจารณาจากหลักการสำคัญ คือ การรับฟังและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับผู้มีส่วนได้ส่วน เสีย และหลักการบริหารจัดการที่ดีหรือธรรมาภิบาล โดยสร้างความชัดเจนให้คนจนได้รับประโยชน์จากน้ำเท่าเทียม กับคนรวย ความชัดเจนในเรื่องราคาค่าน้ำโดยคำนึงถึงผู้ยากไร้ และการคิดค้นเทคโนโลยีใหม่ที่สามารถจะนำมาใช้ ประโยชน์อย่างกว้างขวาง และได้พิจารณาในเรื่องการมุ่งจัดหาน้ำดื่มที่สะอาดและบริการสุขอนามัยให้แก่ประชาชนที่ ยังเข้าไม่ถึง การหาทางลดการทำการเกษตร การทำประมงชายฝั่ง และประมงน้ำจืดอย่างไม่ยั่งยืน รวมทั้งการให้ ความสำคัญและการรักษาระบบนิเวศ การติดตามผลการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศต่อการเกิดอุทกภัยและความ แห้งแล้ง และการใช้เทคโนโลยีใหม่ ๆ ในการประเมินและพยากรณ์ และ (3) วาระอื่น ๆ ในการประชุม ฯ ได้แก่ การ ประกาศรับรองแผนปฏิบัติการเรื่องน้ำ (Portfolio of Water Actions) การประชุมร่วมระหว่างผู้เข้าประชุม ฯ เพื่อ แลกเปลี่ยนข้อคิดเห็น ข้อมูลต่าง ๆ และแนวทางการแก้ไขปัญหาเรื่องน้ำ และการนำเสนอรายงานของคณะผู้เชี่ยว ชาญโลกเรื่องการจัดหาเงินทุนสำหรับโครงสร้างพื้นฐานด้านน้ำ (World Panel on Financing Infrastructure) ทั้งนี้ จากผลการประชุม ฯ การดำเนินงานส่งเสริมการจัดการทรัพยากรน้ำ ในส่วนของประเทศไทยได้มีการพัฒนาองค์ กร เพื่อเป็นหน่วยงานกลางในการบริหารจัดการน้ำ โดยแบ่งการดำเนินงานออกเป็นระดับชาติ ระดับลุ่มน้ำ และ ระดับท้องถิ่น และเพื่อสะท้อนให้เห็นถึงผลการดำเนินงานของประเทศไทยตามนัยสำคัญของแถลงการณ์รัฐมนตรี ประเทศไทยจะพิจารณาคัดเลือกลุ่มน้ำที่จะใช้เป็นกรณีศึกษาในการติดตาม ซึ่งได้คัดเลือกลุ่มน้ำปิงเป็นลุ่มน้ำที่จะใช้ เป็นกรณีศึกษา
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
2974 | โครงการพัฒนาบุคลากรเพื่อการปฏิรูปการศึกษาของสถาบันราชภัฏ | ศธ | 26/05/2546 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 4 ที่มีมติเห็น
ชอบตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอโครงการพัฒนาบุคลากรเพื่อการปฏิรูปการศึกษาของสถาบันราชภัฏประจำ ปีงบประมาณ พ.ศ. 2547 ในวงเงินงบประมาณ 179.5 ล้านบาท ซึ่งวัตถุประสงค์ของโครงการ ฯ ได้แก่ (1) เพื่อ พัฒนา ยกระดับคุณวุฒิ ตำแหน่งทางวิชาการ และศักยภาพความสามารถทางวิชาการของคณาจารย์สถาบันราช ภัฏให้เข้าสู่มาตรฐานของสถาบันอุดมศึกษามากขึ้น (2) เพื่อพัฒนากระบวนการพัฒนาบุคลากรของสถาบันราช ภัฏให้เป็นกระบวนการพัฒนาองค์ความรู้ของท้องถิ่น พัฒนาคุณภาพ ประสิทธิภาพ การดำเนินภารกิจของสถาบัน รวมทั้งพัฒนาสถาบันราชภัฏและท้องถิ่นให้เป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้ ด้วยการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกัน ทั้งนี้ ให้ สำนักงบประมาณพิจารณาจัดสรรงบประมาณตามกรอบของโครงการดังกล่าวและความเหมาะสมต่อไป ส่วนโครง การพัฒนาบุคลากรเพื่อการปฏิรูปการศึกษาของสถาบันราชภัฏที่จะขอรับการสนับสนุนงบประมาณต่อไปในปีงบ ประมาณ พ.ศ. 2548 - พ.ศ. 2553 ให้นำไปพิจารณารวมกับการพัฒนาบุคลากรทางการศึกษาของสถาบันอุดม ศึกษาอื่น ๆ ด้วยทั้งระบบให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน โดยมอบให้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาแห่งชาติรับไป ดำเนินการร่วมกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง แล้วเสนอให้คณะกรรมการการศึกษาแห่งชาติพิจารณา ก่อนนำเสนอ คณะรัฐมนตรีพิจารณาต่อไป |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
2975 | การดำเนินการเกี่ยวกับการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น | นร | 26/05/2546 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 7 (คกก.7) ที่มีมติ เห็นชอบตามที่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเสนอแนวทางและมาตรการในการดำเนินการเกี่ยวกับการกระจาย อำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) และให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องรับไปดำเนินการต่อไปได้ ทั้งนี้ ให้ สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีรับความเห็นของ คกก.7 รวมทั้งข้อสังเกตของส่วนราชการที่เกี่ยวข้องไปพิจารณา ดำเนินการต่อไปด้วย โดยในส่วนของ คกก.7 มีความเห็นเกี่ยวกับประสิทธิภาพการใช้เงินและการตรวจสอบการใช้เงิน ของ อปท. ควรนำเอาระบบการบริหารงบประมาณในรูปแบบใหม่ที่กำหนดให้มีสัญญาการให้บริการและการใช้จ่าย งบประมาณมาใช้กับการจัดสรรงบประมาณให้กับ อปท. โดยกำหนดให้มีสัญญาระหว่างราชการส่วนกลางกับราชการ ส่วนท้องถิ่น ในการให้บริการและการจัดสรรงบประมาณที่ราชการส่วนกลางสนับสนุน อปท. และควรให้ อปท. เบิก จ่ายเงินงบประมาณที่ได้รับจัดสรรให้ได้โดยสะดวกและรวดเร็วขึ้นซึ่งหากสามารถดำเนินการได้ ก็จะทำให้การกระจาย อำนาจเกิดประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
2976 | การกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น | นร | 26/05/2546 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอว่า ในการดำเนินการกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่นต้อง
คำนึงถึงประโยชน์สูงสุดของประชาชน ศักยภาพความพร้อมขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น การประสานและเชื่อม โยงอย่างเป็นระบบกับการบริหารราชการส่วนกลางและส่วนภูมิภาค แต่ในระยะที่ผ่านมาปรากฏว่า การกระจาย อำนาจสู่ท้องถิ่นมีปัญหาในทางปฏิบัติอยู่พอสมควร เนื่องจากกฎหมายต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องหลายฉบับตราออกมา ในลักษณะแยกส่วนกัน (piecemeal) ขาดการมองภาพรวมทั้งหมดอย่างเป็นระบบ จึงเกิดปัญหาหลายประการ เช่น ความไม่ชัดเจนและทับซ้อนกันของพื้นที่ ขอบเขต อำนาจหน้าที่ และภารกิจที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นใน ระดับต่าง ๆ จะต้องปฏิบัติ รวมทั้งการประสานและเชื่อมโยงกับการบริหารส่วนกลางและส่วนภูมิภาค ตลอดจน การถ่ายโอนภารกิจไปสู่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นควบคู่ไปกับงบประมาณที่จัดสรรให้ เป็นต้น จึงขอมอบให้รอง นายกรัฐมนตรี (นายจาตุรนต์ ฉายแสง) และรองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม) รับเรื่องนี้ไปพิจารณาใน ภาพรวมทั้งระบบร่วมกับผู้ที่เกี่ยวข้อง เพื่อพิจารณาแนวทางการดำเนินการ เพื่อให้การกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น สามารถขับเคลื่อนไปได้อย่างรวดเร็ว และมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยหากเห็นสมควรปรับปรุงแก้ไขเรื่องใด ให้ รายงานให้นายกรัฐมนตรีทราบโดยด่วน |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
2977 | การแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ของจังหวัดภูเก็ต | นร | 26/05/2546 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอว่า จากการที่ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตได้รายงานข้อ
มูลข้อเท็จจริง ตลอดจนประเด็นปัญหาต่าง ๆ ที่ต้องการได้รับการสนับสนุนให้ทราบเมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม 2546 นั้น มีเรื่องที่สมควรจะดำเนินการได้ จึงขอมอบหมาย ดังนี้ (1) การเพิ่มศักยภาพความเป็นเมืองท่องเที่ยวของจังหวัด ภูเก็ต มอบให้รองนายกรัฐมนตรี (นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์) พิจารณาร่วมกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่อง เที่ยวและกีฬา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และ หน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง กำหนดแนวทางการพัฒนาจังหวัดภูเก็ตอย่างเป็นระบบ ให้เป็นเมืองท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน เชื่อมโยงกับแหล่งท่องเที่ยวต่าง ๆ ในจังหวัดใกล้เคียงอย่างมีบูรณาการ ทั้งนี้ เพื่อสร้างเสริมศักยภาพในด้านการ ท่องเที่ยวที่เข้มแข็ง และแข่งขันได้กับแหล่งท่องเที่ยวของประเทศเพื่อนบ้าน แล้วให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณา ต่อไป (2) ปัญหาการขาดแคลนน้ำจืด มอบให้รองนายกรัฐมนตรี (นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์) พิจารณาร่วมกับ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ ฯ การประปาส่วนภูมิภาคและหน่วยงานอื่นเพื่อกำหนด แนวทางการแก้ไขปัญหาดังกล่าวของจังหวัดภูเก็ตอย่างยั่งยืน โดยพิจารณาความเหมาะสม คุ้มค่า และความเป็นไป ได้ในการนำน้ำจากเขื่อนรัชประภา จังหวัดสุราษฎร์ธานี ส่งผ่านจังหวัดพังงา โดยระบบท่อมากักเก็บไว้ใช้ประโยชน์ ที่จังหวัดภูเก็ตด้วย แล้วให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาต่อไป (3) ปัญหาเกี่ยวกับที่ดินในจังหวัดภูเก็ต มอบให้ สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีรับไปจัดทำคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อจัดตั้งคณะทำงานขึ้นมาคณะหนึ่ง โดยใน หลักการให้ประกอบด้วยพลตำรวจตรี ปานศิริ ประภาวัต รองผู้บัญชาการกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เป็น ประธาน เจ้าหน้าที่จากกรมที่ดิน เจ้าหน้าที่จากสำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม เจ้าหน้าที่จากกรมธนารักษ์ และเจ้าหน้าที่อื่นที่เกี่ยวข้องในจังหวัดภูเก็ต แห่งละ 1 คน เป็นคณะทำงาน ทำหน้าที่สืบสวนสอบสวนและตรวจ สอบเอกสารสิทธิ์และการเข้าครอบครองที่ดินในจังหวัดภูเก็ตทั้งหมดให้ถูกต้องตามกฎหมาย โดยให้สำนักงานที่ดิน จังหวัดภูเก็ตให้ความร่วมมือให้ข้อมูลและอำนวยความสะดวกในการเข้าไปตรวจสอบเอกสาร และเฝ้าระวังรักษาเอก สารหลักฐานต่าง ๆ ที่เก็บอยู่ ณ สำนักงานที่ดิน และให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติเร่งรัดติดตามการสอบสวนจับกุม ผู้กระทำผิดในคดีฆาตรกรรมเจ้าหน้าที่ของสำนักงานที่ดินจังหวัดภูเก็ตให้ได้โดยเร็ว และ (4) ปัญหาขยะและน้ำเสีย ในจังหวัดภูเก็ต มอบให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ ฯ เร่งรัดการจัดทำแผนปฏิบัติการกำจัดขยะ และระบบบำบัดน้ำเสียของจังหวัดภูเก็ตให้แล้วเสร็จ และเป็นรูปธรรมโดยเร็ว โดยหากภารกิจใดเป็นอำนาจหน้าที่ ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่จะต้องดำเนินการ แต่หากยังไม่พร้อมที่จะดำเนินการในช่วงระยะเปลี่ยนผ่าน ให้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ ฯ หาแนวทางที่จะช่วยสนับสนุนการดำเนินการในเรื่องนั้น ๆ ด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
2978 | รายงานผลการปฏิบัติงานการต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติด (เดือนเมษายน 2546) | ศธ | 26/05/2546 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงศึกษาธิการรายงานผลการปฏิบัติงานการต่อสู้เพื่อเอาชนะ
ยาเสพติด (เดือนเมษายน 2546) สรุปได้ดังนี้ (1) การดำเนินงานด้านนโยบายและแนวทางการกำกับ ติดตาม ได้จัดประชุมผู้บริหารสถานศึกษา ผู้บริหารการศึกษา ครู-อาจารย์และเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบในการป้องกันและ แก้ไขปัญหายาเสพติด ให้มีการตรวจสอบระบบข้อมูล และการติดตามการปฏิบัติงานให้บรรลุผลอย่างจริงจังของ หน่วยงานในสังกัดทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค ในส่วนของผู้ตรวจราชการกระทรวงศึกษาธิการ ทุกเขตการ ศึกษา และผู้ตรวจราชการ กรมทุกกรม ได้ดำเนินการติดตามการดำเนินงานตามนโยบายของรัฐบาล และของ กระทรวงศึกษาธิการ เพื่อรับทราบปัญหา อุปสรรค และให้ข้อเสนอแนะในการดำเนินงานของสถานศึกษาทุก เขตการศึกษาทั่วประเทศ (2) การดำเนินงานในการสร้างภูมิคุ้มกันและการเฝ้าระวัง สถานศึกษาทุกแห่งได้เปิด สถานศึกษาในช่วงปิดภาคเรียน เพื่อเปิดโอกาสให้นักเรียนและเยาวชนได้ร่วมกิจกรรม เช่น การเล่นกีฬา บรรพ ชาสามเณร ส่งเสริมการอ่าน การเล่นดนตรี ค่ายวิชาการ ค่ายคุณธรรม ศิลปวัฒนธรรมในท้องถิ่น กิจกรรมวัน สงกรานต์ เป็นต้น รวมทั้งการดำเนินการจัดกิจกรรมของกลุ่มเสพ/ติด (3 ) การดำเนินงานกับเจ้าหน้าที่ของ รัฐที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด ได้เร่งรัดให้กรมต้นสังกัดของเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด ดำเนินการตรวจสอบ ข้อเท็จจริงและสอบสวนให้แล้วเสร็จ ภายในวันที่ 30 เมษายน 2546 จำนวน 2 กรม ได้แก่ สำนักงานคณะกรรม การการประถมศึกษาแห่งชาติ มีผู้เกี่ยวข้องกับยาเสพติด 141 ราย และสังกัดกรมสามัญศึกษา มีผู้เกี่ยวข้องกับ ยาเสพติด 29 ราย (4) การดำเนินงานในการจัดกิจกรรมหลักที่ต้องดำเนินการต่อเนื่อง ได้แก่ การเปิดโครง การรณรงค์ป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด ร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข โดยจัดตั้งชมรม To Be Number One ในสถานศึกษาทุกแห่งทั่วประเทศ กำหนดเปิดโครงการในวันที่ 9 มิถุนายน 2546 การตรวจปัสสาวะเพื่อตรวจ สารเสพติด ของสถานศึกษาในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการประถมศึกษาแห่งชาติ การจัดพิมพ์โปสเตอร์ และแผ่น ซี ดี มอบให้สถานศึกษาทุกแห่งทั่วประเทศ เพื่อให้เกิดความเข้าใจในแนวทางการดำเนินงานป้องกัน และแก้ไขปัญหายาเสพติดในสถานศึกษา และการตรวจเยี่ยมโรงเรียนในกลุ่มเสี่ยงในเขตกรุงเทพ ฯ และจังหวัด ที่เป็นพื้นที่ระบาดยาเสพติดรุนแรงของผู้บริหารระดับสูง รวมทั้ง (5) การจัดกิจกรรมภาคฤดูร้อนต่าง ๆ |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
2979 | กระทู้ถามของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเพื่อตอบในราชกิจจานุเบกษา (กระทู้ถามที่ 656 ร. เรื่อง การปรับปรุงอ่างเก็บน้ำห้วยทราย บ้านศิลา - นาโพธิ์ ตำบลในเมือง อำเภอบ้านไผ่ จังหวัดขอนแก่น) | สผ | 19/05/2546 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอคำตอบกระทู้ถามที่ 656 ร. เรื่อง
การปรับปรุงอ่างเก็บน้ำห้วยทราย บ้านศิลา-นาโพธิ์ ตำบลในเมือง อำเภอบ้านไผ่ จังหวัดขอนแก่น ของนายเปรม ศักดิ์ เพียยุระ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดขอนแก่น และให้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาต่อไป โดยสาระสำคัญ ของคำตอบสรุปได้ว่า (1) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรมชลประทาน มีแผนงานที่จะดำเนินการขุดลอกอ่าง เก็บน้ำขนาดใหญ่และขนาดกลาง เพื่อแก้ไขปัญหาตื้นเขินของอ่างเก็บน้ำ สำหรับกรณีอ่างเก็บน้ำห้วยทราย บ้าน ศิลา-นาโพธิ์ ตำบลในเมือง อำเภอบ้านไผ่ จังหวัดขอนแก่น จะได้พิจารณาดำเนินการขุดลอกตามความเหมาะสม ของงบประมาณที่ได้ต่อไป (2) อ่างเก็บน้ำห้วยทราย มีถนนลาดยางบนหลังคันทำนบดิน ยาวรวม 1.120 กิโล เมตร และถนนลูกรังทางระบายน้ำฉุกเฉิน (Emergency Spilway) ความยาว 0.215 กิโลเมตร ซึ่งได้รับงบประมาณ เพื่อบำรุงรักษาตามสภาพการใช้งานเป็นประจำทุกปี ส่วนถนนบนคันคลองส่งน้ำเป็นถนนขนาดเล็กกว้างประมาณ 2.00 เมตร ผิวจราจรเป็นลูกรัง ปริมาณจราจรน้อย จึงไม่มีนโยบายลาดยางถนนบนคันคลองดังกล่าว และ (3) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรมชลประทาน มีแผนการถ่ายโอนภารกิจตามการกระจายอำนาจให้แก่องค์กร ปกครองส่วนท้องถิ่นดูแลบำรุงรักษาและปรับปรุงโครงการชลประทานขนาดเล็ก รวมทั้งการดูแลทางน้ำประเภทที่ 2 ที่มีการคมนาคมร่วมด้วย ในส่วนของอ่างเก็บน้ำห้วยทราย เป็นโครงการชลประทานขนาดกลาง มีระบบส่งน้ำที่ ทางการเกษตรด้านท้ายอ่าง จำนวน 1,100 ไร่ และมีอาคารที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยของตัวเขื่อน จำเป็นที่จะ ต้องมีเจ้าหน้าที่ดูแลและควบคุมอย่างเหมาะสม ซึ่งในอนาคตเมื่อกลุ่มเกษตรกรผู้ใช้น้ำ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น มีความพร้อม ก็จะมีการพิจารณาถ่ายโอนภารกิจให้ต่อไป |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
2980 | กระทู้ถามของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเพื่อตอบในราชกิจจานุเบกษา (กระทู้ถามที่ 757 ร. เรื่อง การเกิดอุบัติเหตุจากเครื่องเล่นในห้างสรรพสินค้า) | สผ | 19/05/2546 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอคำตอบกระทู้ถามที่ 757 ร. เรื่อง
การเกิดอุบัติเหตุจากเครื่องเล่นในห้างสรรพสินค้า ของนายเปรมศักดิ์ เพียยุระ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัด ขอนแก่น และให้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาต่อไป โดยสาระสำคัญของคำตอบสรุปได้ว่า (1) สาเหตุการเกิด อุบัติเหตุไฟไหม้เครื่องเล่นโบกี้รถไฟลอยฟ้าบนห้างสรรพสินค้าแฟชั่น ไอส์แลนด์ จนเป็นเหตุให้เด็กหญิงเสียชีวิต 2 ราย จากการตรวจสอบของกองพิสูจน์หลักฐาน สำนักงานตำรวจแห่งชาติระบุว่า สาเหตุเพลิงไหม้เกิดจากมอเตอร์ ไฟฟ้าพัดลมดูดอากาศ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเครื่องเล่นลัดวงจร ทั้งนี้ ในส่วนของการดำเนินการกับผู้ประกอบการ กรรมการผู้จัดการบริษัท เมจิก เวิลด์ จำกัด รวมทั้งผู้ควบคุมดูแลเครื่องเล่นรถไฟลอยฟ้าได้ถูกดำเนินคดีอาญาที่ สถานีตำรวจนครบาลบางชัน ส่วนคดีแพ่งคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคเป็นผู้ประสานงานในเรื่องเรียกร้องค่า เสียหายแล้ว นอกจากนี้ กระทรวงมหาดไทย โดยกรุงเทพมหานคร ได้ออกคำสั่งให้ระงับการประกอบกิจการ ประเภทสวนสนุก ณ อาคารดังกล่าวแล้ว และ (2) รัฐบาล โดยกระทรวงมหาดไทย ได้มีหนังสือแจ้งเวียน ถึงผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัดสั่งการให้เจ้าพนักงานท้องถิ่นดำเนินการตรวจสอบอาคารที่มีการติดตั้งเครื่องเล่น และอยู่ระหว่างการพิจารณาดำเนินการออกกฎกระทรวงกำหนดมาตรการเพื่อความปลอดภัยในการใช้อาคารและ เครื่องเล่นเพิ่มเติมจากกฎหมายว่าด้วยการควบคุมอาคารที่ใช้บังคับอยู่ในปัจจุบัน |