ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 148 จากทั้งหมด 200 หน้า แสดงรายการที่ 2941 - 2960 จากข้อมูลทั้งหมด 3982 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
2941 | รายงานความก้าวหน้าการดำเนินงานต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติดของกระทรวงมหาดไทย รอบสัปดาห์ (ถึงวันที่ 20 กรกฎาคม 2546) | มท | 22/07/2546 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงมหาดไทย โดยศูนย์ปฏิบัติการต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติด
กระทรวงมหาดไทย (ศตส.มท.) รายงานผลความก้าวหน้าการดำเนินงานต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติดในภาพรวม ของศูนย์ปฏิบัติการต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติดจังหวัด (ศตส.จ.) ทั้ง 75 จังหวัด ในรอบสัปดาห์ (ถึงวันที่ 20 กรกฎาคม 2546) สรุปได้ดังนี้ (1) การปราบปรามจับกุมผู้ผลิต/ผู้ค้ายาเสพติดของ ศตส.จ. ศตส.อ./กิ่ง อ. มี ยอดการจับกุมรวมทั้งสิ้น 47,713 คน การแสดงตน มีผู้ผลิต/ผู้ค้า และผู้เสพ เข้าแสดงตนต่อทางราชการตั้งแต่ วันที่ 12 - 20 กรกฎาคม 2546 โดยมีผู้ผลิต/ผู้ค้า มาแสดงตนเพิ่มขึ้น 80 คน ส่วนผู้เสพแสดงตนเพิ่มขึ้น 151 คน ด้านการบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้เสพ มีผลการบำบัดรักษา รวมทั้งสิ้น 283,551 คน การเสริมสร้าง ความเข้มแข็งของหมู่บ้าน/ชุมชน ได้ดำเนินการตามกระบวนการดังกล่าวครบ 4 ขั้นตอนใน 6 ขั้นตอน จำนวน 81,021 หมู่บ้าน/ชุมชน ดำเนินการครบ 5 ขั้นตอน จำนวน 22,787 หมู่บ้าน/ชุมชน และดำเนินการครบ 6 ขั้นตอน จำนวน 39,825 หมู่บ้าน/ชุมชน (2) การปราบปรามจับกุมผู้ผลิต/ผู้ค้ารายสำคัญ และการยึดทรัพย์ สิน มีผลการปราบปรามจับกุมผู้ผลิต/ผู้ค้ารายสำคัญ ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ - 20 กรกฎาคม 2546 รวม 1,990 คน การตรวจยึดทรัพย์สินได้มูลค่า 6,667.584 ล้านบาท สำหรับผลการปฏิบัติงานยึดทรัพย์สินของ ป.ป.ส. และ ปปง. ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์-20 กรกฎาคม 2546 สามารถดำเนินการยึดทรัพย์สินผู้ผลิต/ผู้ค้า จำนวน 2,085.193 ล้านบาท (3) การดำเนินการกับเจ้าหน้าที่ของรัฐที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด จากการตรวจ สอบเพิ่มเติมปรากฏว่า มีเจ้าหน้าที่ของรัฐที่มีพฤติการณ์เกี่ยวข้องกับยาเสพติด รวม 1,353 ราย และจากราย งานของกรมการปกครอง มีกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ฯลฯ มีพฤติการณ์เกี่ยวข้องกับยาเสพติด รวมทั้งสิ้น 359 ราย และกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น มีบุคลากรขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเกี่ยวข้องกับยาเสพติด รวม ทั้งสิ้น 201 ราย นอกจากนี้ ยังมีผลการปฏิบัติงานการติดตามผลการดำเนินคดีกับผู้ค้า/ผู้ผลิต ยาเสพติดใน ส่วนของการมอบนโยบายและแนวทางการปราบปรามผู้มีอิทธิพล และการดำเนินการต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพ ติด การกำหนดเป้าหมาย ตัวชี้วัด และประเมินผลการปราบปรามผู้มีอิทธิพลการดำเนินคดีกับผู้มีพฤติการณ์ หลอกลวงคนงานเพื่อไปทำงานต่างประเทศ และการปรับหลักเกณฑ์จังหวัดเข้มแข็งเพื่อเอาชนะยาเสพติด |
||||||||||||||||||
2942 | กระทู้ถามที่ 883 ร. เรื่อง ขอทราบความคืบหน้ากรณีกรมโยธาธิการ กรมการเร่งรัดพัฒนาชนบท กรมทางหลวงชนบทสำรวจออกแบบ เข้าแผนโครงการลาดยางถนนในอำเภอโคกเจริญ อำเภอหนองม่วง อำเภอสระโบสถ์ อำเภอโคกสำโรง อำเภอชัยบาดาล จังหวัดลพบุรี เพื่อแก้ปัญหาความเดือดร้อนให้กับราษฎร | สผ | 08/07/2546 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอคำตอบกระทู้ถามที่ 883 ร. เรื่อง
ขอทราบความคืบหน้ากรณีกรมโยธาธิการ กรมการเร่งรัดพัฒนาชนบท กรมทางหลวงชนบทสำรวจออกแบบ เข้า แผนโครงการลาดยางถนนในอำเภอโคกเจริญ อำเภอหนองม่วง อำเภอสระโบสถ์ อำเภอโคกสำโรง อำเภอชัย บาดาล จังหวัดลพบุรี เพื่อแก้ปัญหาความเดือดร้อนให้กับราษฎร ของนายนิยม วรปัญญา สมาชิกสภาผู้แทน ราษฎรจังหวัดลพบุรี และให้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาต่อไป โดยสาระสำคัญของคำตอบสรุปได้ว่า (1) การ ดำเนินการสำรวจออกแบบเข้าแผนโครงการลาดยางถนนสายจากกุดตะเข้-กุดหว้า เป็นเส้นทางที่ไม่มีแนวถนน เดิม และไม่ได้เชื่อมกับเส้นทางหลัก จึงไม่สามารถดำเนินการได้ ถนนสายห้วยเขว้า-เชื่อมต่อกับถนนของกรมทาง หลวงในพื้นที่บ้านวังไผ่ได้รับการจัดสรรงบประมาณก่อสร้างในปีงบประมาณ พ.ศ. 2546 ระยะทาง 1.500 กิโล เมตร คงเหลือระยะทางยังไม่ก่อสร้าง 1.000 กิโลเมตร กรมทางหลวง ฯ จะได้ดำเนินการจัดเข้าแผนการก่อสร้าง เพื่อสนับสนุนงบประมาณก่อสร้างให้แล้วเสร็จต่อไป ถนนสายบ้านคลองมะเกลือ-โรงเรียนคลองมะเกลือ-บ้าน ทุ่งท่าช้าง ยังไม่ได้ทำการสำรวจออกแบบ เนื่องจากอยู่ในพื้นที่รับผิดชอบขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ดังนั้น ท้องถิ่นจะเป็นหน่วยในการสำรวจออกแบบและจัดเข้าแผนการก่อสร้างต่อไป ถนนสายวัดกุ่มสูงคลองมะเกลือได้ ทำการสำรวจออกแบบ พร้อมทั้งจัดเข้าแผนเพื่อขอรับการสนับสนุนงบประมาณต่อไปแล้ว ถนนสายวังมโนราห์- วังวัด-วังตาอินทร์ ช่วงวังมโนราห์-วังวัด ยังไม่ได้สำรวจออกแบบ กรมทางหลวง ฯ จะทยอยดำเนินการสำรวจ ออกแบบสายทางที่อยู่ในความรับผิดชอบตามลำดับต่อไป และช่วงวังวัด-วังตาอินทร์ ได้ทำการสำรวจออกแบบ แล้วและจะจัดเข้าแผนเพื่อขอรับการสนับสนุนงบประมาณต่อไป ถนนสายยางราก-เขาราบ-โคกเจริญ ระยะทาง ตลอดสาย 15.410 กิโลเมตร จะจัดเข้าแผนเพื่อขอรับการสนับสนุนงบประมาณก่อสร้างในระยะ 7.300 กิโล เมตรก่อน เมื่อได้รับการสนับสนุนงบประมาณก่อสร้างแล้วจะสำรวจออกแบบในส่วนที่เหลือต่อไป ถนนสายชอน สมบูรณ์-คุ้งลาน-หนองอีเก้ง ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2546 ได้รับเงินจัดสรรให้ก่อสร้างทางลาดยาง 1.500 กิโล เมตร คงเหลือระยะทางที่ยังไม่ได้ก่อสร้าง 3.950 กิโลเมตร กรมทางหลวง ฯ จะดำเนินการจัดเข้าแผนการ ก่อสร้าง เพื่อสนับสนุนงบประมาณก่อสร้างให้แล้วเสร็จต่อไป ถนนสายหนองบุ-หนองตาปัง-ห้วยเขว้า-หนอง สำราญ จากบ้านหนองบุ-บ้านหนองตาปัง อยู่ในพื้นที่รับผิดชอบขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ซึ่งท้องถิ่นจะ เป็นหน่วยในการสำรวจออกแบบและจัดเข้าแผนการก่อสร้างต่อไป จากบ้านหนองปัง-บ้านป่าเขว้า ยังไม่ได้ทำ การสำรวจออกแบบเป็นถนนลาดยาง จะทำการสำรวจความเหมาะสมด้านวิศวกรรมในเบื้องต้นก่อน และจาก บ้านป่าเขว้า-บ้านหนองสำราญ ยังไม่ได้สำรวจออกแบบเป็นทางลาดยาง กรมทางหลวง ฯ จะทยอยดำเนิน การสายทางที่อยู่ในความรับผิดชอบตามลำดับต่อไป และถนนสายทุ่งท่าช้าง-ห้วยใหญ่-ชอนสารเดช จากบ้าน ทุ่งท่าช้าง-บ้านห้วยใหญ่ อยู่ในพื้นที่รับผิดชอบขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ซึ่งท้องถิ่นจะเป็นหน่วยในการ สำรวจออกแบบและจัดเข้าแผนการก่อสร้างต่อไป จากบ้านห้วยใหญ่-บ้านวังทอง และจากบ้านสามแยกมาเจริญ -บ้านชอนสารเดช ได้ดำเนินการลาดยางแล้วตลอดทั้งสองสาย และ (2) การดำเนินการสำรวจออกแบบถนน ทั้ง 9 สายดังกล่าว เพื่อเข้าแผนโครงการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ในระดับจังหวัด ผู้ว่าราชการจังหวัด สามารถดำเนินการสั่งการได้ในทันที พร้อมทั้งทำการศึกษา โดยครอบคลุมถึงประโยชน์ที่แท้จริงที่ประชาชนใน พื้นที่จะได้รับเทียบกับวงเงินลงทุนที่รัฐบาลจะต้องให้การสนับสนุนด้วย |
||||||||||||||||||
2943 | รายงานผลการพิจารณาศึกษาเรื่อง การสอบสวนโครงการจัดซื้อปุ๋ยอินทรีย์ (ปุ๋ยหมัก) เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรผู้ประสบภัยธรรมชาติ ของกรมส่งเสริมการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ | สว | 08/07/2546 | |||||||||||||||
รับทราบตามที่สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภารายงานผลการพิจารณาศึกษาเรื่อง การสอบสวนโครงการ
จัดซื้อปุ๋ยอินทรีย์ (ปุ๋ยหมัก) เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรผู้ประสบภัยธรรมชาติ ของกรมส่งเสริมการเกษตร กระทรวง เกษตรและสหกรณ์ ของคณะกรรมาธิการการเกษตรและสหกรณ์ วุฒิสภา และมอบให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง รับไปพิจารณาดำเนินการ แล้วแจ้งให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีทราบ เพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป ซึ่ง ผลการพิจารณาศึกษา ฯ ของคณะกรรมาธิการ ฯ เห็นว่า การดำเนินการจัดซื้อปุ๋ยอินทรีย์ (ปุ๋ยหมัก) มีความไม่ เหมาะสมหลายประการ เช่น การอนุมัติโครงการและการดำเนินการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยธรรมชาติ การ กำหนดเงื่อนไขการประกวดราคา เป็นต้น ซึ่งสามารถแยกผู้กระทำได้เป็น 3 ฝ่าย ได้แก่ ฝ่ายข้าราชการ เห็นว่า มีเหตุอันควรเชื่อได้ว่า การปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ผู้มีส่วนในการกำหนดเงื่อนไขการประกวดราคา คณะทำงาน ตรวจสต๊อกปุ๋ยอินทรีย์ของชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย จำกัด และคณะกรรมการพิจารณาผลการ ประกวดราคา ตลอดจนเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องจนถึงอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตรผู้อนุมัติจัดซื้อครั้งนี้เป็นการใช้ อำนาจในตำแหน่งโดยมิชอบอันเป็นเหตุให้รัฐได้รับความเสียหาย และเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติ หน้าที่โดยทุจริตเพื่อเป็นการเอื้อประโยชน์ให้กับชุมนุมสหกรณ์ ฯ ฝ่ายการเมือง เห็นว่า มีเหตุอันควรสงสัยว่า มีการ สมคบกันอันเป็นการสนับสนุนเจ้าหน้าที่กระทำความผิด ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่เพื่อให้บุคคลใดบุคคล หนึ่งได้รับประโยชน์ที่ไม่ควรได้รับโดยชอบด้วยกฎหมาย และฝ่ายเอกชน เห็นว่า มีข้อพิรุธอันควรสงสัยว่ามีการ สมคบกันอันเป็นการสนับสนุนเจ้าหน้าที่กระทำความผิดเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ ทั้งนี้ คณะกรรมาธิการ ฯ มีข้อเสนอแนะ ดังนี้ (1) กรณีการทุจริตการจัดซื้อปุ๋ยอินทรีย์ (ปุ๋ยหมัก) รัฐบาลต้องดำเนินการส่งเรื่องให้สำนัก งานตำรวจแห่งชาติ และคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินซึ่งอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของรัฐบาล เพื่อดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องและดำเนินการแต่งตั้งคณะกรรมการ เพื่อดำเนินการสอบสวนทางวินัยเจ้า น้าที่ที่เกี่ยวข้อง และ (2) กรณีการช่วยเหลือผู้ประสบภัยธรรมชาติของกรมส่งเสริมการเกษตรและกระทรวงเกษตร และสหกรณ์ โดยมอบภารกิจในการให้ความช่วยเหลือ ฯ แก่องค์กรบริหารส่วนท้องถิ่น จัดให้มีกองทุนเพื่อประกัน ภัยความเสี่ยงของพืชผล (Crop Insurance) รวมทั้งให้มีโครงการระยะยาวในการพัฒนาพื้นที่เสียหายซ้ำซาก และ ปรับปรุงขั้นตอนและวิธีการในการให้ความช่วยเหลือ |
||||||||||||||||||
2944 | ร่างกฎกระทรวงว่าด้วยการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานโดยครอบครัว พ.ศ. .... | ศธ | 08/07/2546 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 4 (คกก.4) ที่
มีมติอนุมัติหลักการตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอร่างกฎกระทรวงว่าด้วยการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานโดยครอบ ครัว พ.ศ. .... (กำหนดหลักเกณฑ์การจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานโดยครอบครัว ตามมาตรา 12 แห่งพระราชบัญญัติ การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 ที่บัญญัติว่า นอกจากรัฐ เอกชน และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ให้ครอบ ครัวมีสิทธิจัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน) และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาปรับปรุงในประเด็น ต่าง ๆ ตามมติ คกก.4 แล้วดำเนินการต่อไปได้ เกี่ยวกับเจตนารมณ์ในหลักการของร่างกฎกระทรวง ฯ ในการ จัดการศึกษาขั้นพื้นฐานโดยครอบครัว สิทธิโดยพื้นฐานของการจัดการศึกษาโดยครอบครัว (สิทธิโดยพื้นฐานตาม ธรรมชาติและวัฒนธรรม) วุฒิทางการศึกษา และหรือประสบการณ์ของบิดา มารดา หรือผู้ปกครอง บุคคลที่มี อำนาจหน้าที่รับหรือไม่รับการจดทะเบียนและเพิกถอนการจดทะเบียนการศึกษา รวมทั้งการเพิ่มเติมกรณีให้บิดา มารดา หรือผู้ปกครองที่จัดการศึกษาโดยครอบครัวได้สิทธิประโยชน์ การสนับสนุนทางด้านวิชาการ ความรู้ ความสามารถในการจัดกระบวนการศึกษาเรียนรู้ให้กับบุตร เงินอุดหนุนจากรัฐและการลดหย่อนหรือยกเว้นภาษี สำหรับค่าใช้จ่ายการศึกษา ทั้งนี้ ตามที่กฎหมายกำหนด โดยคำว่า "ตามที่กฎหมายกำหนด" ที่เพิ่มเติม ให้ใช้ถ้อย คำที่แสดงลำดับของกฎหมายที่เหมาะสมเพื่อให้เกิดความชัดเจนในการปฏิบัติ กับให้สลับหมวด 4 ที่ว่าด้วยการ ส่งเสริม สนับสนุน ติดตาม และรายงาน ไปเป็นหมวด 2 ที่ว่าด้วยการจดทะเบียนการจัดการศึกษาโดยครอบครัว และหมวด 2 ไปเป็นหมวด 4 และให้บัญญัติความให้ร่างกฎกระทรวงฉบับนี้มีผลใช้บังคับตั้งแต่ปีการศึกษา 2546 เป็นต้นไป |
||||||||||||||||||
2945 | รายงานความก้าวหน้าการดำเนินงานต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติด ของกระทรวงมหาดไทย รอบสัปดาห์ (ถึงวันที่ 6 กรกฎาคม 2546) | มท | 08/07/2546 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงมหาดไทย โดยศูนย์ปฏิบัติการต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติด
กระทรวงมหาดไทย (ศตส.มท.) รายงานผลความก้าวหน้าการดำเนินงานต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติดในภาพรวม ของศูนย์ปฏิบัติการต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติดจังหวัด (ศตส.จ.) ทั้ง 75 จังหวัด ในรอบสัปดาห์ (ถึงวันที่ 6 กรกฎาคม 2546) สรุปได้ดังนี้ (1) การปราบปรามจับกุมผู้ผลิต/ผู้ค้ายาเสพติดของ ศตส.จ. ศตส.อ./กิ่งอ. มี ยอดการจับกุมรวมทั้งสิ้น 47,193 คน การแสดงตน มีผู้ผลิต/ผู้ค้า และผู้เสพ เข้าแสดงตนต่อทางราชการตั้งแต่ วันที่ 29 มิถุนายน - 6 กรกฎาคม 2546 โดยผู้ผลิต/ผู้ค้า ไม่มีผู้มาแสดงตน ส่วนผู้เสพเข้าแสดงตน จำนวน 4,486 คน ด้านการบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้เสพ มีผลการบำบัดรักษาทั้งสิ้น 283,551 คน การเสริมสร้าง ความเข้มแข็งของหมู่บ้าน/ชุมชน ได้ดำเนินการตามกระบวนการดังกล่าวครบ 4 ขั้นตอนใน 6 ขั้นตอน จำนวน 81,021 หมู่บ้าน/ชุมชน ดำเนินการครบ 5 ขั้นตอน จำนวน22,787 หมู่บ้าน/ชุมชน และดำเนินการครบ 6 ขั้นตอน จำนวน 39,825 หมู่บ้าน/ชุมชน (2) การปราบปรามจับกุมผู้ผลิต/ผู้ค้ารายสำคัญ และการยึดทรัพย์ สิน มีผลการปราบปรามจับกุมผู้ผลิต/ผู้ค้ารายสำคัญ ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ - 6 กรกฎาคม 2546 รวม 2,008 คน การตรวจยึดทรัพย์สินได้มูลค่า 6,570.678 ล้านบาท สำหรับผลการปฏิบัติงานยึดทรัพย์สินของ ป.ป.ส. และ ปปง. ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ - 6 กรกฎาคม 2546 สามารถดำเนินการยึดทรัพย์สินผู้ผลิต/ผู้ค้า จำนวน 1,956.983 ล้านบาท (3) การดำเนินการกับเจ้าหน้าที่ของรัฐที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด จากการตรวจ สอบเพิ่มเติมปรากฏว่า มีเจ้าหน้าที่ของรัฐที่มีพฤติการณ์เกี่ยวข้องกับยาเสพติด รวม 1,353 ราย และจากราย งานของกรมการปกครอง มีกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ฯลฯ มีพฤติการณ์เกี่ยวข้องกับยาเสพติด รวมทั้งสิ้น 359 ราย และกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น มีบุคลากรขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเกี่ยวข้องกับยาเสพติด รวม ทั้งสิ้น 201 ราย นอกจากนี้ ยังมีผลการปฏิบัติงานการติดตามผลการดำเนินคดีกับผู้ค้า/ผู้ผลิต ยาเสพติดใน ส่วนของการมอบนโยบายและแนวทางการปราบปรามผู้มีอิทธิพล และการดำเนินงานต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพ ติดในภาคใต้ การปฏิบัติงานด้าน Potential Demand และการดำเนินการกับเจ้าหน้าที่ของรัฐที่เกี่ยวข้องกับ ยาเสพติด |
||||||||||||||||||
2946 | รายงานความก้าวหน้าในการปรับปรุงระบบการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม | ทส | 08/07/2546 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมรายงานความก้าวหน้าใน
การปรับปรุงระบบการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม ทั้งนี้ คณะรัฐมนตรีมีข้อสังเกตว่า การปรับปรุงระบบการ วิเคราะห์ดังกล่าว นอกจากจะมุ่งเน้นความโปร่งใสและการมีส่วนร่วมของประชาชนแล้ว ให้คำนึงถึงความรวดเร็ว และความถูกต้องของการวิเคราะห์ด้วย สำหรับรายงานความก้าวหน้าในการปรับปรุงระบบการวิเคราะห์ผลกระทบ สิ่งแวดล้อม สรุปได้ว่า คณะอนุกรรมการที่คณะกรรมการปรับปรุงระบบการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมได้แต่ง ตั้งขึ้นจำนวน 4 คณะ ประกอบด้วย คณะอนุกรรมการโครงสร้างองค์กรและพัฒนาระบบการวิเคราะห์ผลกระทบ สิ่งแวดล้อม คณะอนุกรรมการด้านกระบวนการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม คณะอนุกรรมการด้านเทคนิคและ แนวทางการจัดทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม และคณะอนุกรรมการการมีส่วนร่วมของประชาชน ได้มีการประชุมร่วมกับคณะทำงานภายใต้คณะอนุกรรมการ ฯ เกี่ยวกับการปรับปรุงระบบการวิเคราะห์ ฯ ดังนี้ (1) รูปแบบการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม ได้ปรับปรุงให้มีการจัดทำ 4 รูปแบบ คือ รายงานการวิเคราะห์ผล กระทบสิ่งแวดล้อมเบื้องต้น (Initial Environmental Evaluation, IEE) การรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวด ล้อม (Environmental Impact Assessment, EIA) กรณีโครงการขนาดใหญ่ และมีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม รายงาน การวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมหลังการดำเนินงาน (post EIA) และการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมเชิงกล ยุทธ์หรือการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมระดับการจัดทำแผนหรือนโยบาย(Strategic Environmental Assess ment, SEA) (2) การกำหนดประเภทและขนาดโครงการ ได้ปรับปรุงการกำหนดประเภทและขนาดของโครง การให้ครอบคลุมโครงการที่มีผลกระทบสิ่งแวดล้อมมากขึ้น (3) การพิจารณารายงาน ได้มีการพิจารณาแนวทาง การปรับปรุงกลไกการพิจารณารายงานโดยคณะผู้ชำนาญการ โดยมีองค์การอิสระด้านสิ่งแวดล้อมเข้ามาร่วมใน การพิจารณารายงาน รวมทั้งการมอบอำนาจให้หน่วยงานระดับภูมิภาคหรือท้องถิ่นเป็นผู้พิจารณารายงานและ การพิจารณาเกี่ยวกับการมีใบอนุญาตสำหรับรายงานดังกล่าว (4) การติดตามตรวจสอบผลกระทบสิ่งแวดล้อม มีการเปิดเผยผลการติดตามตรวจสอบการดำเนินงานให้สาธารณชนทราบ พร้อมทั้งพัฒนาระบบติดตามตรวจสอบ ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น (5) กลไกการสนับสนุน ได้พิจารณาความจำเป็นในการจัดทำคู่มือหรือหลักเกณฑ์ ต่าง ๆ รองรับการปฏิบัติงาน และกลไกการสนับสนุนกระบวนการวิเคราะห์ และ (6) การมีส่วนร่วมของประชา ชน โดยการให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมตั้งแต่ขั้นต้นของกระบวนการ |
||||||||||||||||||
2947 | แนวทางการบริหารจัดการโครงการอาหารเสริม (นม) โรงเรียน | ศธ | 01/07/2546 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอแนวทางการบริหารจัดการโครงการอาหาร
เสริม (นม) โรงเรียน ซึ่งแนวทางการบริหารจัดการโครงการ ฯ มีวัตถุประสงค์เพื่อกำหนดเขตพื้นที่การผลิต การ จำหน่าย และการกระจายนม โดยจัดทำข้อมูลแหล่งผลิตน้ำนมดิบ แหล่งแปรรูปนม และโรงเรียนที่มีนักเรียนเป็น ผู้บริโภค ให้ทราบสถานที่ตั้งของทั้ง 3 องค์ประกอบที่อยู่ในรัศมี 100 กิโลเมตร เพื่อเป็นการลดปัญหาการขนส่ง น้ำนมดิบและนมพร้อมดื่มไปให้ผู้บริโภคในระยะทางไกล ทำให้นมพร้อมดื่มจัดส่งให้เด็กนักเรียนดื่มมีความสดใหม่ สามารถควบคุมดูแลได้อย่างใกล้ชิด และประหยัดงบประมาณ โดยกระทรวงศึกษาธิการได้รวบรวมข้อมูลรายชื่อที่ ตั้งแหล่งผลิตนมพร้อมดื่ม จำนวน 85 แห่ง และรายชื่อโรงเรียน จำนวน 28,729 โรงเรียน ที่อยู่ในรัศมีห่างไม่เกิน 100 กิโลเมตร ของแต่ละแหล่งผลิต ตลอดจนรายชื่อโรงเรียนที่อยู่ห่างเกินรัศมี 100 กิโลเมตร รวมทั้งจำนวน นักเรียน จำนวนนมที่นักเรียนดื่มและจำนวนงบประมาณที่จะใช้ในโครงการเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้ ให้กระทรวง มหาดไทยรับแนวทางดังกล่าวไปประกอบการพิจารณาร่วมกับกระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และหน่วยงานอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นต่าง ๆ เพื่อกำหนดแนวทางการดำเนินการเพื่อให้โครงการ ฯ เหมาะสมและเป็นประโยชน์แก่เด็กนักเรียนและเกษตรกร ผู้เลี้ยงโคนมให้มากที่สุด โดยยึดเป้าหมายว่า นมที่จะแจกให้แก่เด็กนักเรียนตามโครงการ ฯ นี้ จะต้องเป็นนมที่มี คุณภาพ เกิดจากผลผลิตของเกษตรกรหรือสหกรณ์โคนม จากแหล่งผลิตในพื้นที่หรือมีที่ตั้งอยู่ใกล้โรงเรียนมาก ที่สุด และจัดส่งให้แก่เด็กนักเรียนเป็นประจำทุกวัน นอกจากนี้ ให้กระทรวงวิทยาศาสตร์เร่งรัดการผลิตเครื่อง พาสเจอร์ไรซ์นมสด เพื่อสนับสนุนการดำเนินการเรื่องนี้ให้เพียงพอแก่ความต้องการของสหกรณ์และเกษตรกรผู้ ผลิตนมด้วย
|
||||||||||||||||||
2948 | รายงานผลการจัดสัมมนาโครงการ "รัฐบาลสื่อสารสู่สื่อท้องถิ่น" ครั้งที่ 2 | นร | 01/07/2546 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอผลการจัดสัมมนาโครงการ "รัฐบาล
สื่อสารสู่สื่อท้องถิ่น" ครั้งที่ 2 เมื่อวันเสาร์ที่ 14 มิถุนายน 2546 ณ จังหวัดกาญจนบุรี โดยมีรองนายกรัฐมนตรี (นาย วิษณุ เครืองาม) เป็นประธาน ซึ่งการจัดสัมมนาในครั้งนี้ ได้มีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเพื่อหาแนวทางการทำงาน ร่วมกันระหว่างโฆษกกระทรวงกับสื่อมวลชนท้องถิ่นอย่างกว้างขวาง และสื่อมวลชนได้เสนอประเด็นที่เป็นปัญหาและ อุปสรรคในการทำงาน ในส่วนของรองนายกรัฐมนตรีได้ชี้แจงการบริหารงานของรัฐบาลและได้ร่วมกับโฆษกกระทรวง และผู้ตรวจราชการกระทรวงตอบข้อซักถามของสื่อมวลชนในประเด็นปัญหาต่าง ๆ ได้แก่ (1) ประเด็นปัญหาสินค้า หนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ (2) ประเด็นปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม ที่ก่อให้เกิดปัญหาความขัดแย้งระหว่างกลุ่มนายทุนกับ ประชาชนในพื้นที่ (3) ประเด็นปัญหาด้านเส้นทางคมนาคม (4) ประเด็นปัญหาการใช้น้ำบาดาล (5) ประเด็นปัญหา ของแรงงานต่างด้าวและปัญหาการจ้างแรงงาน (6) ประเด็นปัญหาเรื่องที่ดินของราษฎรที่มักเกิดข้อพิพาทกับส่วนราช การ และปัญหาการบุกรุกที่สาธารณะ (7) ประเด็นปัญหาเรื่องช้างกุยบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ (8) ประเด็นปัญหา ด้านการท่องเที่ยว (9) ประเด็นปัญหาด้านการศึกษา (10) ประเด็นปัญหาการก่อสร้างโรงไฟฟ้าหินกรูด-บ่อนอก และ (11) ประเด็นปัญหาด้านสังคม ทั้งนี้ รัฐมนตรีกระทรวงต่าง ๆ ควรกำชับให้โฆษกกระทรวงและผู้ตรวจราชการ กระทรวงเข้าร่วมการสัมมนาที่จะจัดขึ้นในครั้งต่อไปอย่างพร้อมเพรียง เพื่อประโยชน์ในการตอบข้อซักถามและชี้แจงข้อ เท็จจริงแก่สื่อมวลชน ซึ่งจะทำให้ประชาชนเกิดความเข้าใจในนโยบายและการบริหารงานของรัฐบาลได้ดียิ่งขึ้น
|
||||||||||||||||||
2949 | รายงานความก้าวหน้าการดำเนินงานต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติด ของกระทรวงมหาดไทยรอบสัปดาห์ (ถึงวันที่ 29 มิถุนายน 2546) | มท | 01/07/2546 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงมหาดไทย โดยศูนย์ปฏิบัติการต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติด
กระทรวงมหาดไทย (ศตส.มท) รายงานผลความก้าวหน้าการดำเนินงานต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติดในภาพรวม ของศูนย์ปฏิบัติการต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติดจังหวัด (ศตส.จ.) ทั้ง 75 จังหวัด ในรอบสัปดาห์ (ถึงวันที่ 29 มิถุนายน 2546) สรุปได้ดังนี้ (1) การปราบปรามจับกุมผู้ผลิต/ผู้ค้ายาเสพติดของ ศตส.จ. ศตส.อ./กิ่ง อ. มียอด การจับกุมรวมทั้งสิ้น 46,912 คน การแสดงตน มีผู้ผลิต/ผู้ค้า และผู้เสพ เข้าแสดงตนต่อทางราชการ ตั้งแต่วัน ที่ 23 มิถุนายน - 29 มิถุนายน 2546 ไม่มีผู้ผลิต/ผู้ค้า มาแสดงตน ส่วนผู้เสพแสดงตนเพิ่มขึ้น จำนวน 1,957 คน ด้านการบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้เสพ มีผลการบำบัดรักษาทั้งสิ้น 274,910 คน การเสริมสร้างความเข้ม แข็งของหมู่บ้าน/ชุมชน ได้ดำเนินการตามกระบวนการดังกล่าวครบ 4 ขั้นตอนใน 6 ขั้นตอน จำนวน 80,025 หมู่บ้าน/ชุมชน ดำเนินการครบ 5 ขั้นตอน จำนวน 33,608 หมู่บ้าน/ชุมชน และดำเนินการครบ 6 ขั้นตอน จำนวน 28,900 หมู่บ้าน/ชุมชน (2) การปราบปรามจับกุมผู้ผลิต/ผู้ค้ารายสำคัญ และการยึดทรัพย์สิน มีผล การปราบปรามจับกุมผู้ผลิต/ผู้ค้ารายสำคัญ ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ - 29 มิถุนายน 2546 รวม 2,008 คน การตรวจยึดทรัพย์สินได้มูลค่า 6,570.678 ล้านบาท สำหรับผลการปฏิบัติงานยึดทรัพย์สินของ ป.ป.ส. ปปง. ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ - 29 มิถุนายน 2546 สามารถดำเนินการยึดทรัพย์สินผู้ผลิต/ผู้ค้า จำนวน 1,804.183 ล้านบาท (3) การดำเนินการกับเจ้าหน้าที่ของรัฐที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด จากการตรวจสอบเพิ่ม เติมปรากฏว่า มีเจ้าหน้าที่ของรัฐที่มีพฤติการณ์เกี่ยวข้องกับยาเสพติด รวม 1,341 ราย และจากรายงานของ กรมการปกครอง มีกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ฯลฯ มีพฤติการณ์เกี่ยวข้องกับยาเสพติด รวม 347 ราย และกรม ส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น มีบุคลากรขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเกี่ยวข้องกับยาเสพติด รวม 201 ราย นอกจากนี้ ยังมีผลการปฏิบัติงานการติดตามผลการดำเนินคดีกับผู้ค้า/ผู้ผลิต ได้แก่ การจัดตั้งและอำนาจ หน้าที่ของศูนย์ปฏิบัติการต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติดกระทรวงมหาดไทย การให้ผู้เสพ/ผู้ติดยาเสพติดออกมา แสดงตนกับทางราชการ การกำหนดขั้นตอน แนวทาง การประกาศเป็นจังหวัดเข้มแข็งเพื่อเอาชนะยาเสพ ติดแนวทางการจ่ายเงินช่วยเหลือแก่เจ้าหน้าที่ของรัฐ ซึ่งเสียชีวิตและบาดเจ็บจากการปฏิบัติหน้าที่ในการป้อง กันและปราบปรามยาเสพติด รวมทั้งมาตรการในการปราบปรามผู้มีอิทธิพลระยะ 3 เดือนแรก (วันที่ 21 พฤษภาคม - 20 สิงหาคม 2546) |
||||||||||||||||||
2950 | กระทู้ถามที่ 844 ร. เรื่อง การต่อเติมอาคารที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมายควบคุมอาคาร | สผ | 01/07/2546 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอคำตอบกระทู้ถามที่ 844 ร. เรื่อง การต่อเติม
อาคารที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมายควบคุมอาคาร ของนายวิชาญ มีนชัยนันท์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรกรุงเทพ มหานคร และให้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาต่อไป โดยสาระสำคัญของคำตอบสรุปได้ว่า (1) พระราชบัญญัติ ควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 กำหนดให้การดัดแปลงอาคารต้องขออนุญาตต่อเจ้าพนักงานท้องถิ่น เว้นแต่เป็น การกระทำที่กำหนดเป็นข้อยกเว้นไว้ในกฎกระทรวง การดัดแปลงอาคารโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน ท้องถิ่นเป็นความผิดฐานดัดแปลงอาคารโดยไม่ได้รับอนุญาต เจ้าของผู้ดัดแปลงอาจถูกสั่งให้แก้ไขเปลี่ยนแปลง ให้ถูกต้องหรือสั่งรื้อถอนอาคารนั้นทั้งหมดหรือบางส่วนได้ (2) กรุงเทพมหานครได้ดำเนินคดีกับเจ้าของอาคาร ที่ต่อเติมอาคารโดยผิดกฎหมาย ตามพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจ สอบเอกสารและดำเนินการรื้อถอน จำนวนทั้งสิ้น 3,111 คดี และ (3) กระทรวงมหาดไทยไม่มีนโยบาย ช่วยเหลือและลดโทษให้แก่ผู้ที่ถูกดำเนินคดีในความผิดฐานดัดแปลงอาคารโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย แต่จะมีการ พิจารณาโทษตามพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 โดยคณะกรรมการเปรียบเทียบคดี และกระบวน การเปรียบเทียบคดี |
||||||||||||||||||
2951 | กระทู้ถามที่ 921 ร. เรื่อง วิธีการบริหารจัดการงบประมาณขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น | สผ | 01/07/2546 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอคำตอบกระทู้ถามที่ 921 ร. เรื่อง วิธีการ
บริหารจัดการงบประมาณขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ของนายภิญโญ นิโรจน์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดนครสวรรค์ และให้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาต่อไป โดยสาระสำคัญของคำตอบสรุปได้ว่า กระทรวง มหาดไทย ได้กำหนดแนวทางการตั้งงบประมาณหมวดเงินอุดหนุนให้องค์การบริหารส่วนจังหวัด และเทศบาล ถือปฏิบัติเกี่ยวกับเงินอุดหนุนว่า จะต้องเป็นกิจการที่อยู่ในอำนาจหน้าที่ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่เป็น ประโยชน์ต่อท้องถิ่นหรือประชาชนในพื้นที่เท่านั้น รวมทั้งการจัดตั้งสำนักงานเลขานุการคณะกรรมการพนัก งานเทศบาลและพนักงานส่วนตำบลระดับจังหวัดให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติระเบียบบริหารงานบุคคลส่วน ท้องถิ่น พ.ศ. 2542 ส่วนการขอรับสนับสนุนงบประมาณจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นให้เป็นไปตามแนว ทางที่กระทรวงมหาดไทยกำหนด ทั้งนี้ หากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นปฏิบัติหน้าที่ไม่ถูกต้องตามแนวทาง ดังกล่าว ผู้ว่าราชการจังหวัด หรือนายอำเภอ จะพิจารณาดำเนินการตามระเบียบแบบแผนของทางราชการ |
||||||||||||||||||
2952 | กระทู้ถามที่ 1095 ร. เรื่อง การปลูกฝังศีลธรรมและจริยธรรมที่ดีงามให้เยาวชน | สผ | 01/07/2546 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอคำตอบกระทู้ถามที่ 1095 ร. เรื่อง การปลูก
ฝังศีลธรรมและจริยธรรมที่ดีงามให้เยาวชน ของนายศิริ หวังบุญเกิด สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรกรุงเทพมหานคร และให้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาต่อไป โดยสาระสำคัญของคำตอบสรุปได้ว่า (1) กระทรวงศึกษาธิการได้ มอบให้กรมวิชาการดำเนินการปรับปรุงหลักสูตรการศึกษาทุกระดับ และให้โรงเรียนร่วมพัฒนาการใช้หลักสูตร ทั้งระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษา โดยมุ่งเน้นการปลูกฝังศีลธรรมและจริยธรรมที่ดีงามต่อเยาวชนไว้ในหลัก สูตรและกำหนดเป็นเนื้อหาสาระ ตลอดจนแนวทางการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนทั้งศาสนาพุทธและศาสนา ที่ตนนับถือ ซึ่งต่อมาได้ประกาศใช้หลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2544 แต่เนื่องจากมีปัญหาในทาง ปฏิบัติ คือ ครูผู้สอนส่วนใหญ่มักจะละเลยกิจกรรมภาคปฏิบัติ ดังนั้น กระทรวงศึกษาธิการจะได้เน้นกิจกรรมการ เรียนการสอนโดยฝึกปฏิบัติการใช้สื่อรอบตัวเด็กเป็นบทเรียนเพื่อให้เด็กเรียนรู้ถึงหลักธรรมได้ในที่สุด (2) หลัก สูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2544 สถานศึกษาต้องจัดการเรียนรู้ตามสภาพของชุมชนท้องถิ่นของตน และจะต้องประสานสัมพันธ์ และร่วมมือกับบิดามารดา ผู้ปกครอง และบุคคลในชุมชน ให้การพัฒนาคุณภาพการ ศึกษาให้เป็นไปอย่างต่อเนื่องและสนับสนุนส่งเสริมด้านการพัฒนาแหล่งเรียนรู้ทั้งในสถานศึกษาและนอกสถาน ศึกษาด้วย และ (3) หลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2544 จะเป็นแกนกลางของการจัดการศึกษา ของประเทศ มีจุดประสงค์ที่จะพัฒนาคุณภาพของผู้เรียนให้เป็นคนดีมีปัญญา มีชีวิตคุณภาพที่ดี มีขีดความ สามารถในการแข่งขัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเพิ่มศักยภาพของผู้เรียนให้สูงขึ้น สามารถดำรงชีวิตอย่างมีความ สุขได้บนพื้นฐานของความเป็นไทยและความเป็นสากล โดยได้กำหนดสาระการเรียนรู้หลักสูตร ประกอบด้วย องค์ความรู้ ทักษะหรือกระบวนการเรียนรู้ คุณลักษณะและค่านิยมคุณธรรมและจริยธรรมของผู้เรียน เป็น 8 กลุ่ม |
||||||||||||||||||
2953 | กระทู้ถามที่ 930 ร. เรื่อง การจัดสรรงบประมาณการก่อสร้างถนนสายบ้านน้ำริน - แก่งเจ็ดแคว กระทู้ถามที่ 931 ร. เรื่อง การจัดสรรงบประมาณซ่อมแซมถนนสายบ้านทรัพย์ไพรวัลย์ - บ้านม่วงหอม กระทู้ถามที่ 932 ร. เรื่อง การจัดสรรงบประมาณในการปรับผิวการจราจรถนนสายน้ำกุ่ม - นครชุม กระทู้ถามที่ 933 ร. เรื่อง การก่อสร้างถนนลาดยางสายบ้านน้ำริน - นาพราน ตำบลบ้านกลาง อำเภอวังทอง จังหวัดพิษณุโลกและกระทู้ถามที่ 935 ร. เรื่อง การจัดสรรงบประมาณลาดยางถนนสายบ้านโคกคล้าย - บ้านนาตาดี ตำบลบ่อโพธิ์ อำเภอนครไทย จังหวัดพิษณุโลก | สผ | 24/06/2546 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอคำตอบกระทู้ถามที่ 930 ร. เรื่อง การจัดสรรงบ
ประมาณการก่อสร้างถนนสายบ้านน้ำริน-แก่งเจ็ดแคว กระทู้ถามที่ 931 ร. เรื่อง การจัดสรรงบประมาณซ่อมแซม ถนนสายบ้านทรัพย์ไพรวัลย์-บ้านม่วงหอม กระทู้ถามที่ 932 ร. เรื่อง การจัดสรรงบประมาณในการปรับผิวการ จราจรถนนสายน้ำกุ่ม-นครชุม กระทู้ถามที่ 933 ร. เรื่อง การก่อสร้างถนนลาดยางสายบ้านน้ำริน-นาพราน ตำบลบ้านกลาง อำเภอวังทอง จังหวัดพิษณุโลก และกระทู้ถามที่ 935 ร. เรื่อง การจัดสรรงบประมาณลาดยาง ถนนสายบ้านโคกคล้าย-บ้านนาตาดี ตำบลบ่อโพธิ์ อำเภอนครไทย งหวัดพิษณุโลก ของนายนคร มาฉิม สมาชิก สภาผู้แทนราษฎรจังหวัดพิษณุโลก และให้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาต่อไป โดยสาระสำคัญของคำตอบกระทู้ ถามที่ 930 ร. สรุปได้ว่า ถนนสายบ้านน้ำริน-แก่งเจ็ดแควตำบลบ้านกลาง อำเภอวังทอง จังหวัดพิษณุโลก ไม่ได้ รับการจัดสรรงบประมาณในปี พ.ศ. 2546 จากกรมทางหลวงชนบท กระทรวงคมนาคม เนื่องจากถนนดังกล่าว อยู่ในความรับผิดชอบขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ดังนั้น องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจะต้องพิจารณานำเงิน งบประมาณที่ได้รับในปี พ.ศ. 2546 ไปก่อสร้างถนนสายดังกล่าว ถ้าไม่เพียงพอสามารถร้องขอไปยังกรมทาง หลวง ฯ เพื่อสนับสนุนงบประมาณต่อไปได้ กระทู้ถามที่ 931 ร. สรุปได้ว่า ถนนสาย พล. 4005 บ้านทรัพย์ไพร วัลย์-บ้านน้ำริน กรมทางหลวง ฯ โดยสำนักงานทางหลวงชนบทพิษณุโลก ได้จัดส่งเครื่องมือ เครื่องจักร วัสดุ อุปกรณ์ เข้าทำการซ่อมแซมเพื่อให้สามารถสัญจรไปมาได้เป็นการชั่วคราวก่อน แล้วจะดำเนินการบูรณะปรับปรุง ให้สู่สภาพปกติภายในปีงบประมาณ พ.ศ. 2546 กระทู้ถามที่ 932 ร. สรุปได้ว่า ถนนสายน้ำกุ่ม-นครชุม ตำบล น้ำกุ่ม - ตำบลนครชุม อำเภอนครไทย จังหวัดพิษณุโลก อยู่ในความรับผิดชอบขององค์การบริหารส่วนจังหวัด พิษณุโลก หากขาดงบประมาณในการซ่อมบำรุงสามารถประสานไปยังสำนักงานทางหลวงชนบทพิษณุโลก เพื่อ ขอความช่วยเหลือซ่อมแซมให้สามารถใช้งานเป็นการชั่วคราวก่อนได้ กระทู้ถามที่ 933 ร. สรุปได้ว่า ถนนสายบ้าน น้ำริน-บ้านนาพราน ตำบลบ้านกลาง อำเภอวังทอง จังหวัดพิษณุโลก อยู่ในความรับผิดชอบของกรมทางหลวง ฯ ยังไม่ได้ลาดยาง 3.00 กิโลเมตร เนื่องจากไม่ได้รับงบประมาณก่อสร้างถนนสายดังกล่าวในปีงบประมาณ พ.ศ. 2546 หากกรมทางหลวง ฯ ได้รับงบประมาณปี พ.ศ. 2547 เพียงพอก็อาจดำเนินการก่อสร้างถนนสายดังกล่าว ได้ และกระทู้ถามที่ 935 ร. สรุปได้ว่า ถนนสายบ้านโคกคล้าย- บ้านนาตาดี ตำบลบ่อโพธิ์ อำเภอนครไทย จังหวัดพิษณุโลกอยู่ในความรับผิดชอบขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่จะพิจารณาเห็นถึงความจำเป็นของการ ก่อสร้างเป็นถนนลาดยาง แต่ถ้าหากขาดงบประมาณที่จะดำเนินการก็สามารถที่จะร้องขอไปยังกรมทางหลวง ฯ เพื่อสนับสนุนงบประมาณต่อไปได้ |
||||||||||||||||||
2954 | กระทู้ถามที่ 1073 ร. เรื่อง ปัญหาการคมนาคมบนถนนสายบ้านห้วยน้ำเย็น หมู่ 12 ตำบลบ้านดง อำเภอชาติตระการ จังหวัดพิษณุโลก และกระทู้ถามที่ 1074 ร. เรื่อง ปัญหาการคมนาคมบนถนนสายบ้านเนินพยอม - ห้วยน้ำอุ่น จังหวัดพิษณุโลก | สผ | 24/06/2546 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอคำตอบกระทู้ถามที่ 1073 ร. เรื่อง ปัญหาการ
คมนาคมบนถนนสายบ้านห้วยน้ำเย็น หมู่ 12 ตำบลบ้านดง อำเภอชาติตระการ จังหวัดพิษณุโลก และกระทู้ถามที่ 1074 ร. เรื่อง ปัญหาการคมนาคมบนถนนสายบ้านเนินพยอม-ห้วยน้ำอุ่น จังหวัดพิษณุโลก ของนายนคร มาฉิม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดพิษณุโลก และให้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาต่อไป โดยสาระสำคัญของคำตอบ กระทู้ถามที่ 1073 ร. สรุปได้ว่า ถนนสายบ้านห้วยน้ำเย็น หมู่ 12 ตำบลบ้านดง อำเภอชาติตระการ จังหวัดพิษณุ โลก อยู่ในความรับผิดชอบขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นซึ่งได้รับจัดสรรงบประมาณในปี พ.ศ. 2546 ด้วย ดังนั้น องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นสามารถนำเงินงบประมาณที่ได้รับไปปรับปรุงซ่อมแซมถนนสายดังกล่าวได้ หากขาด งบประมาณที่จะดำเนินการ ก็สามารถที่จะร้องขอไปยังกรมทางหลวงชนบทเพื่อสนับสนุนงบประมาณต่อไปได้ และ กระทู้ถามที่ 1074 ร. สรุปได้ว่า ถนนสายบ้านเนินพยอม-ห้วยน้ำอุ่น ตำบลบ้านดง อำเภอชาติตระการ จังหวัด พิษณุโลก อยู่ในความรับผิดชอบของกรมทางหลวงชนบท ในปัจจุบันกรมทางหลวง ฯ ได้ดำเนินการสำรวจออก แบบเป็นถนนลาดยางแล้วเสร็จตลอดสาย และได้ดำเนินการจัดเข้าแผนการก่อสร้างเพื่อขอรับการสนับสนุนงบ ประมาณแล้ว หากกรมทางหลวง ฯ ได้รับงบประมาณปี พ.ศ. 2547 อย่างเพียงพอก็จะสามารถดำเนินการก่อสร้าง ได้ |
||||||||||||||||||
2955 | ร่างแผนปฏิบัติการเพื่อกำหนดขั้นตอนการกระจายอำนาจทางการเงิน การคลัง และงบประมาณให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และร่างแผนปฏิบัติการถ่ายโอนบุคลากรให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น | นร | 24/06/2546 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเกี่ยวกับร่างแผนปฏิบัติการเพื่อกำหนดขั้นตอนการกระจายอำนาจทางการเงิน การคลัง
และงบประมาณให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และร่างแผนปฏิบัติการถ่ายโอนบุคลากรให้แก่องค์กรปกครองส่วน ท้องถิ่น ตามที่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเสนอ โดยเห็นว่า เพื่อให้ร่างแผน ฯ ดังกล่าวมีความเหมาะสม ถูก ต้อง และปฏิบัติได้โดยสอดคล้องตามนัยพระราชบัญญัติกำหนดแผนและขั้นตอนการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปก ครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2542 รวมทั้งสอดคล้องกับศักยภาพความพร้อมด้านบุคลากร งบประมาณ ตลอดจนแนวทาง การพัฒนา (ปฏิรูป) ระบบราชการของรัฐบาลที่กำลังดำเนินการอยู่ จึงมอบให้รองนายกรัฐมนตรี (นายจาตุรนต์ ฉายแสง) รับไปพิจารณาปรับปรุงร่างแผน ฯ ดังกล่าว ร่วมกับรองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม) โดยให้นำ เอาข้อมูลความคิดเห็นที่ได้จากการระดมความคิดที่กำลังจะจัดขึ้นในวันที่ 28 - 29 มิถุนายน 2546 นี้ มาประกอบ การพิจารณา แล้วให้รายงานข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ทั้งหมดให้นายกรัฐมนตรีทราบ ก่อนเสนอคณะรัฐมนตรีอีก ครั้งหนึ่ง
|
||||||||||||||||||
2956 | รายงานความก้าวหน้าการดำเนินงานต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติดของกระทรวงมหาดไทยรอบสัปดาห์ (ถึงวันที่ 22 มิถุนายน 2546) | มท | 24/06/2546 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงมหาดไทย โดยศูนย์ปฏิบัติการต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติด
กระทรวงมหาดไทย (ศตส.มท.) รายงานความก้าวหน้าการดำเนินงานต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติด ในภาพรวม ของทุกจังหวัด (ศตส.จ.) ทั้ง 75 จังหวัด ในรอบสัปดาห์ (ถึงวันที่ 22 มิถุนายน 2546) สรุปได้ดังนี้ (1) การ ปราบปรามจับกุมผู้ผลิต/ผู้ค้ายาเสพติดของ ศตส.จ. ศตส.อ./กิ่ง อ. มียอดการจับกุม รวมทั้งสิ้น 46,613 คน การแสดงตนของผู้ผลิต/ผู้ค้า และผู้เสพ มีผู้แสดงตนต่อทางราชการที่เป็นผู้ผลิต/ผู้ค้า 256 คน และผู้เสพเพิ่ม ขึ้น 11,102 คน ด้านการบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้เสพมีผลการบำบัดรักษา รวมทั้งสิ้น 273,361 คน การเสริม สร้างความเข้มแข็งของหมู่บ้าน/ชุมชน ตามกระบวนการเสริมสร้างหมู่บ้าน/ชุมชนเข้มแข็งเพื่อเอาชนะยาเสพติด ครบ 4 ขั้นตอนใน 6 ขั้นตอน จำนวน 79,485 หมู่บ้าน/ชุมชน ดำเนินการครบ 5 ขั้นตอน จำนวน 37,872 หมู่บ้าน/ชุมชน และดำเนินการครบ 6 ขั้นตอน จำนวน 24,406 หมู่บ้าน/ชุมชน (2) การปราบปรามจับกุมผู้ ผลิต/ผู้ค้ารายสำคัญและการยึดทรัพย์สิน มีผลการปราบปรามจับกุม รวม 1,996 คน ยึดทรัพย์สินได้มูลค่า 6,539.046 ล้านบาท สำหรับผลการปฏิบัติงานยึดทรัพย์สินของ ป.ป.ส. และ ปปง. สามารถยึดทรัพย์สินได้ รวม 1,770.933 ล้านบาท (3) การดำเนินการกับเจ้าหน้าที่ของรัฐที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดจากการตรวจสอบ เพิ่มเติม ปรากฏว่า มีจำนวนเจ้าหน้าที่ของรัฐที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด รวม 1,350 ราย และรายงานของกรม การปกครอง มีกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ฯลฯ มีพฤติการณ์เกี่ยวข้องกับยาเสพติด รวมทั้งสิ้น 347 ราย และกรมส่ง เสริมการปกครองท้องถิ่น มีบุคลากรขององค์กร ฯ เกี่ยวข้องกับยาเสพติด รวมทั้งสิ้น 195 ราย นอกจากนี้ ยังมี ผลการปฏิบัติงานอื่น ๆ ได้แก่ โครงการประสานพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติด การดำเนินการตามมาตรการ เร่งด่วนเพื่อคุ้มครองผู้ให้ความร่วมมือต่อทางราชการในการปราบปรามยาเสพติด และการให้ความช่วยเหลือ และสนับสนุนการดำเนินงานปราบปรามผู้มีอิทธิพล การปรับบทบาท ภารกิจ ของ ศตส.จ./อ./กิ่ง อ. เพื่อ ดำเนินการปราบปรามผู้มีอิทธิพล |
||||||||||||||||||
2957 | รายงานการติดตามความก้าวหน้าการดำเนินงานตามมติคณะรัฐมนตรีเกี่ยวกับผลการประชุมประจำปี 2545 ของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ | นร | 17/06/2546 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.)
รายงานการติดตามความก้าวหน้าการดำเนินงานตามผลการประชุมประจำปี 2545 ของ สศช. เรื่อง ความอยู่ดีมี สุขของคนไทย : 5 ปีหลังวิกฤตเศรษฐกิจ เมื่อวันที่ 21 มิถุนายน 2545 ซึ่งคณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบและมอบ หมายให้ สศช. เป็นหน่วยงานกลางประสานการดำเนินงานกับส่วนราชการและภาคเอกชนที่เกี่ยวข้อง โดยผลการ ดำเนินงานตามผลการประชุม ฯ มีดังนี้ (1) การแก้ไขปัญหาความยากจน ได้แก่ การปรับปรุงแนวทางการดำเนิน งานของภาครัฐเพื่อแก้ไขปัญหาความยากจน การส่งเสริมบทบาทชุมชนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และภาคีการ พัฒนาในการแก้ไขปัญหาความยากจนในระดับครัวเรือน และจัดทำแผนชุมชนในพื้นที่ที่มีความยากจนหนาแน่นให้ ครบทุกตำบล รวมทั้งปรับปรุงและสนับสนุนมาตรการต่าง ๆ ที่มีความสำคัญในการแก้ไขปัญหาความยากจน (2) การพัฒนาศักยภาพคนไทย และระบบการคุ้มครองทางสังคม ได้แก่ การจัดทำมาตรฐานคุณวุฒิวิชาชีพ การแปล หนังสือ ตำรา การเร่งรัดการดำเนินโครงการออมเพื่อเกษียณอายุแบบบังคับและแบบสมัครใจ (3) การพัฒนา ความเข้มแข็งของเศรษฐกิจไทย ได้แก่ การกำหนดอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจให้เป็นไปตามศักยภาพของ ประเทศ การเร่งรัดจัดตั้งระบบประกันเงินฝาก เพื่อหลีกเลี่ยงภาระที่จะเกิดขึ้นกับภาครัฐในกรณีที่เกิดวิกฤตด้าน การเงิน การพัฒนาการค้าและความร่วมมือระหว่างประเทศ การพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขันในระดับ วิสาหกิจและระดับสาขาการปรับปรุงกระบวนการจัดเตรียมโครงการลงทุนขนาดใหญ่ และการปฏิรูปภาครัฐที่ทำ หน้าที่จัดหาบริการพื้นฐานทางเศรษฐกิจของประเทศ และ (4) การบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวด ล้อม ได้แก่ การเร่งรัดจัดทำร่างพระราชบัญญัติทรัพยากรน้ำแห่งชาติ เพื่อลดปัญหาขัดแย้งในการใช้น้ำ และการ เร่งรัดการจัดทำร่างพระราชบัญญัติทรัพยากรน้ำแห่งชาติ |
||||||||||||||||||
2958 | รายงานผลการปฏิบัติงานของคณะกรรมการวิธีปฏิบัติราชการทางปกครองตามพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ. 2539 ประจำปี พ.ศ. 2544 | นร | 17/06/2546 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีการายงานผลการปฏิบัติงานของคณะ
กรรมการวิธีปฏิบัติราชการทางปกครองตามพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ. 2539 ประจำปี พ.ศ. 2544 โดยผลการปฏิบัติงานของคณะกรรมการ ฯ ได้แก่ (1) การให้คำแนะนำปรึกษาแก่เจ้าหน้าที่เกี่ยวกับ การปฏิบัติตามพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ. 2539 (2) การจัดสัมมนาเรื่อง ปัญหาการ กำกับดูแลและการพิจารณาอุทธรณ์คำสั่งทางปกครองของรัฐวิสาหกิจและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และ (3) การเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับกฎหมายว่าด้วยวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง ทั้งนี้ จากผลการปฏิบัติงานของคณะ กรรมการ ฯ ได้มีข้อเสนอแนะเกี่ยวกับเรื่องมาตรการบังคับทางปกครอง โดยเห็นว่า ในระยะแรก ควรจัดให้มีการ ฝึกอบรมเกี่ยวกับการใช้มาตรการบังคับทางปกครองแก่หน่วยงานของรัฐต่าง ๆ เพื่อที่เจ้าหน้าที่จะได้ดำเนินการ ได้อย่างถูกต้องเหมาะสม กับแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ. 2539 ในส่วนที่ เกี่ยวข้อง รวมทั้งควรเพิ่มการประชาสัมพันธ์ เพื่อให้ประชาชนได้รู้ถึงสิทธิและหน้าที่ของตนตามกฎหมายว่าด้วย วิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง สำหรับกรณีที่ยังมีเจ้าหน้าที่ ตลอดจนหน่วยงานของรัฐบางส่วนยังไม่มีความเข้า ใจกฎหมายว่าด้วยวิธีปฏิบัติราชการทางปกครองดีพอนั้น คณะกรรมการ ฯ ได้เคยเสนอวิธีการแก้ไขไว้แล้วในราย งานประจำปี พ.ศ. 2543 นอกจากนี้ ควรพัฒนาคุณภาพและเพิ่มจำนวนของวิทยากรประจำหน่วยงานต่าง ๆ ที่ จะให้ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการปฏิบัติตามพระราชบัญญัติ ฯ แก่เจ้าหน้าที่ในหน่วยงานของตน และให้สำนัก งานคณะกรรมการกฤษฎีกาศึกษาข้อมูลและเสนอคณะกรรมการ ฯ เพื่อพิจารณาปรับปรุงบทบัญญัติแห่งพระ ราชบัญญัติ ฯ ที่ยังไม่เหมาะสมหรือมีปัญหาในทางปฏิบัติต่อไป |
||||||||||||||||||
2959 | รายงานความก้าวหน้าการดำเนินงานต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติด ของกระทรวงมหาดไทยรอบสัปดาห์ (ถึงวันที่ 15 มิถุนายน 2546) | มท | 17/06/2546 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงมหาดไทย โดยศูนย์ปฏิบัติการต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติด
กระทรวงมหาดไทย (ศตส.มท.) รายงานความก้าวหน้าการดำเนินงานต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติด ในภาพรวม ของทุกจังหวัด (ศตส.จ.) ทั้ง 75 จังหวัด ในรอบสัปดาห์ (ถึงวันที่ 15 มิถุนายน 2546) สรุปได้ดังนี้ (1) การ ปราบปรามจับกุมผู้ผลิต/ผู้ค้ายาเสพติดของ ศตส.จ. ศตส.อ/กิ่ง อ. มียอดการจับกุม รวมทั้งสิ้น 46,247 คน การแสดงตนของผู้ผลิต/ผู้ค้า และผู้เสพ มีผู้แสดงตนต่อทางราชการที่เป็นผู้ผลิต/ผู้ค้า เพิ่มขึ้น 256 คน และผู้ เสพเพิ่มขึ้น 9,326 คน ด้านการบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้เสพมีผลการบำบัดรักษา รวมทั้งสิ้น 270,616 คน การเสริมสร้างความเข้มแข็งของหมู่บ้าน/ชุมชน ตามกระบวนการเสริมสร้างหมู่บ้าน/ชุมชนเข้มแข็งเพื่อเอาชนะ ยาเสพติด ครบ 4 ขั้นตอนใน 6 ขั้นตอน จำนวน 79,910 หมู่บ้าน/ชุมชน ดำเนินการครบ 5 ขั้นตอน จำนวน 41,546 หมู่บ้าน/ชุมชน และดำเนินการครบ 6 ขั้นตอน จำนวน 20,738 หมู่บ้าน/ชุมชน (2) การปราบปราม จับกุมผู้ผลิต/ผู้ค้ารายสำคัญและการยึดทรัพย์สิน มีผลการปราบปรามจับกุม รวม 1,978 คน ยึดทรัพย์สินได้ มูลค่า 6,530.272 ล้านบาท สำหรับผลการปฏิบัติงานยึดทรัพย์สินของ ป.ป.ส. ปปง. สามารถยึดทรัพย์สินได้ รวม 1,770.933 ล้านบาท (3) การดำเนินการกับเจ้าหน้าที่ของรัฐที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดจากการตรวจสอบ เพิ่มเติม ปรากฏว่า มีจำนวนเจ้าหน้าที่ของรัฐที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด รวม 1,337 ราย และรายงานของกรม การปกครอง มีกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ฯลฯ มีพฤติการณ์เกี่ยวข้องกับยาเสพติด รวมทั้งสิ้น 345 ราย และกรมส่ง เสริมการปกครองท้องถิ่น มีบุคลากรขององค์กร ฯ เกี่ยวข้องกับยาเสพติด รวมทั้งสิ้น 184 ราย นอกจากนี้ ยังมีผลการปฏิบัติงานในส่วนผลของการประเมินประสิทธิผล ความพึงพอใจ และความเชื่อมั่นของประชาชน การรณรงค์ป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดเนื่องในวันต่อต้านยาเสพติดโลก (26 มิถุนายน 2546) การ ประชุมสัมมนา เพื่อมอบนโยบายการดำเนินการปราบปรามผู้มีอิทธิพลและการดำเนินงานต่อสู้เพื่อเอาชนะยา เสพติด และการกำหนดมาตรการและแนวทางการดำเนินการต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติดและการปราบปราม ผู้มีอิทธิพล |
||||||||||||||||||
2960 | กระทู้ถามของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเพื่อตอบในราชกิจจานุเบกษา (กระทู้ถามที่ 821 ร. เรื่อง การก่อสร้างถนนลาดยางสายบ้านน้ำริน หมู่ที่ 3 - หมู่ที่ 16 และสายบ้านกลางหมู่ที่ 2 - หมู่ที่ 13 ตำบลบ้านกลาง อำเภอวังทอง จังหวัดพิษณุโลก) | สผ | 10/06/2546 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอคำตอบกระทู้ถามที่ 821 ร. เรื่อง
การก่อสร้างถนนลาดยางสายบ้านน้ำริน หมู่ที่ 3 - หมู่ที่ 16 และสายบ้านกลาง หมู่ที่ 2 - หมู่ที่ 13 ตำบลบ้าน กลาง อำเภอวังทอง จังหวัดพิษณุโลก ของนายนคร มาฉิม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดพิษณุโลก และให้ ประกาศในราชกิจจานุเบกษาต่อไป โดยสาระสำคัญของคำตอบสรุปได้ว่า (1) ปัจจุบันพระราชบัญญัติงบประมาณ ประจำปี พ.ศ. 2546 ได้ประกาศใช้เรียบร้อยแล้ว จึงไม่สามารถบรรจุโครงการก่อสร้างถนนลาดยางสายบ้านน้ำ ริน หมู่ที่ 3 - หมู่ที่ 16 และสายบ้านกลาง หมู่ที่ 2-หมู่ที่ 13 ตำบลบ้านกลาง อำเภอวังทอง จังหวัดพิษณุโลก ไว้ ในแผนงานปีงบประมาณ พ.ศ. 2546 ได้ อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันในเขตจังหวัดพิษณุโลก ได้ทำการสำรวจขึ้นบัญชี หรือขึ้นทะเบียนเพื่อจัดเข้ากระบวนการจัดทำแผน จำนวน 140 สาย สำรวจแล้วเสร็จ 31 สาย และทำการออก แบบแล้วเสร็จ 31 สาย และได้รับงบประมาณก่อสร้างถนน จำนวน 31 สาย เป็นเงิน 48,200,000 บาท และ (2) รัฐบาล โดยกระทรวงคมนาคม ได้มอบให้กรมทางหลวงชนบท ปรับปรุงระบบโครงข่ายสายทางหลักโครงข่ายทาง รอง และถนนในท้องถิ่น โดยจะจัดเข้าแผนงานที่จะของบประมาณดำเนินการในปี พ.ศ. 2547 และปีต่อไปตามกรอบ งบประมาณที่จะได้รับ |
.....