ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 4 จากทั้งหมด 74 หน้า แสดงรายการที่ 61 - 80 จากข้อมูลทั้งหมด 1478 รายการ
| ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
| 61 | ขอผ่อนผันมติคณะรัฐมนตรี (เรื่อง การออกเลขที่บ้านชั่วคราวให้กับผู้บุกรุกในเขตที่ดินของการรถไฟแห่งประเทศไทย) | นร.09 | 12/03/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการการขอผ่อนผันมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๘
เมษายน ๒๕๔๖ (เรื่อง
การออกเลขที่บ้านชั่วคราวให้กับผู้บุกรุกในเขตที่ดินของการรถไฟแห่งประเทศไทย)
ในข้อ ๒.๒ ที่กำหนดว่า “...
กรณีประชาชนผู้ได้รับทะเบียนบ้านชั่วคราวมาขออนุญาตใช้บริการด้านสาธารณูปโภคต่าง ๆ
จะอนุญาตได้ต่อเมื่อได้รับคำยินยอมเป็นลายลักษณ์อักษรจากส่วนราชการ
รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานของรัฐที่ถือกรรมสิทธิ์ในที่ดินที่บ้านในทะเบียนบ้านชั่วคราวนั้น
ๆ ตั้งอยู่ ...”
เพื่อให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในที่ดินที่อยู่ระหว่างการพิสูจน์สิทธิในที่ดินว่าเป็นของรัฐหรือเอกชน
โดยอยู่มาก่อนวันที่ ๙ มกราคม ๒๕๖๗ ให้สามารถขอใช้สาธารณูปโภคทั้งไฟฟ้าและน้ำประปาได้เป็นการชั่วคราวตามหลักสิทธิมนุษยชน
โดยให้ดำเนินการนำร่องในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรีและแม่ฮ่องสอน
แล้วขยายไปในพื้นที่อื่นที่มีปัญหาเดียวกัน ตามที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเสนอ
ทั้งนี้ ให้สำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติร่วมกับกระทรวงกลาโหม
กระทรวงการคลัง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงคมนาคม
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงมหาดไทย
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งพิจารณากำหนดแนวทางการดำเนินการเพื่อให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในที่ดินของรัฐโดยไม่ได้รับอนุญาต
รวมถึงผู้ที่อยู่ระหว่างการพิสูจน์สิทธิสามารถเข้าถึงไฟฟ้าและน้ำประปาได้เป็นการชั่วคราวตามนัยมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๙ มกราคม ๒๕๖๗ (เรื่อง
การเร่งรัดการดำเนินการพิสูจน์สิทธิการครอบครองที่ดินของบุคคลในเขตที่ดินของรัฐ)
ให้แล้วเสร็จโดยด่วน และนำเสนอคณะรัฐนตรีต่อไป โดยให้รับความเห็นของกระทรวงกลาโหม
กระทรวงการคลัง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงคมนาคม
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เช่น ควรพิจารณาถึงการปฏิบัติให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์
วิธีการ และเงื่อนไขตามที่กฎหมายกำหนด
เพื่อให้การบริหารจัดการที่ดินของรัฐเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืนต่อไป กรณีประชาชนผู้ได้รับทะเบียนบ้านชั่วคราวในเขตที่ดินของการรถไฟแห่งประเทศไทย
มาขออนุญาตใช้บริการต่าง ๆ
จะอนุญาตได้ต่อเมื่อได้รับความยินยอมเป็นลายลักษณ์อักษรจากคณะกรรมการรถไฟแห่งประเทศไทย
ตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องของการรถไฟแห่งประเทศไทย และคำนึงถึงความสอดคล้องตามแผนวิสาหกิจการรถไฟแห่งประเทศไทย
พ.ศ. ๒๕๖๖-๒๕๗o เพื่อป้องกันไม่ให้การดำเนินโครงการมีความล่าช้าและสามารถดำเนินการได้สำเร็จตามเป้าหมายที่กำหนด
ควรมีมาตรการในการให้การสนับสนุน กรณีหน่วยงานของรัฐมีความจำเป็นต้องผลักดันผู้บุกรุกออกจากพื้นที่ของหน่วยงานของรัฐด้วย
กรณีมีพื้นที่ดำเนินการเกี่ยวกับการอำนวยความสะดวกในการจัดบริการสาธารณูปโภคอยู่ในเขตพื้นที่ป่า
ขอให้ประสานกับหน่วยงานเจ้าของพื้นที่เพื่อตรวจสอบและดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมาย
ระเบียบ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องก่อน เป็นต้น ไปประกอบการพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 62 | ขอความเห็นชอบปฏิญญาว่าด้วยการเร่งรัดและเสริมสร้างความเข้มแข็งในการรับมือระดับโลกต่อภัยคุกคามยาเสพติดสังเคราะห์ และขอความเห็นชอบการเข้าร่วมเป็นสมาชิกแนวร่วมในการรับมือภัยคุกคามจากยาเสพติดสังเคราะห์ระดับโลก | ยธ. | 12/03/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบและอนุมัติในสารัตถะของปฏิญญาว่าด้วยการเร่งรัดและเสริมสร้างความเข้มแข็งในการรับมือระดับโลกต่อภัยคุกคามยาเสพติดสังเคราะห์
(Ministerial Declaration
on Accelerating and Strengthening the Global Response to
Synthetic Drugs) และให้ประเทศไทยโดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมร่วมรับรองปฏิญญาดังกล่าว
รวมทั้งเห็นชอบต่อการเข้าร่วมเป็นสมาชิกแนวร่วมในการรับมือภัยคุกคามจากยาเสพติดสังเคราะห์ระดับโลก
(Global Coalition to Address Synthetic Drug Threats) ของกระทรวงยุติธรรมในนามของประเทศไทย
โดยมีสำนักงาน ป.ป.ส. เป็นหน่วยดำเนินการ และมอบหมายให้กระทรวงการต่างประเทศ
แจ้งผลการพิจารณาการร่วมรับรองปฏิญญาฯ และการเข้าร่วมเป็นเป็นสมาชิกแนวร่วมฯ
ของประเทศไทย ต่อกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐอเมริกา ทั้งนี้ อนุมัติให้กระทรวงยุติธรรมยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๖ กันยายน ๒๕๖๖ (เรื่อง แนวทางปฏิบัติของหน่วยงานของรัฐในการเสนอเรื่องต่อคณะรัฐมนตรี)
ในประเด็นการเสนอเรื่องไปยังสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีล่วงหน้าก่อนถึงกำหนดระยะเวลาของเรื่องนั้น
ๆ อย่างน้อย ๑๕ วัน โดยเรื่องนี้เป็นกรณีเร่งด่วน
จึงขอส่งเรื่องให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีอย่างน้อย ๗ วัน
ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ
และให้กระทรวงยุติธรรมรับความเห็นของสำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ ที่เห็นว่าควรพิจารณาขยายการขับเคลื่อนเพิ่มเติมตามความเหมาะสมในมิติของการบูรณาการด้านเทคโนโลยีเพื่อเชื่อมโยงระบบฐานข้อมูลสากลที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด
ประกอบกับการบูรณาการด้านงบประมาณที่จะสนับสนุนการดำเนินการร่วมกับประเทศสมาชิกแนวร่วมฯ
ให้มีประสิทธิภาพ เพื่อเพิ่มพูนศักยภาพการบริหารและพัฒนาภายในประเทศ
ตลอดจนเสริมสร้างความมั่นคงของชาติยิ่งขึ้นต่อไปในอนาคต ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 63 | ร่างพระราชบัญญัติของคณะรัฐมนตรีที่ต้องเร่งรัดติดตามโดยเร่งด่วน | นร.04 | 03/03/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายสมศักดิ์
เทพสุทิน)
ในฐานะประธานกรรมการเร่งรัดการเสนอร่างพระราชบัญญัติเพื่อขับเคลื่อนการดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาล
รายงานว่า ในคราวประชุมคณะกรรมการเร่งรัดการเสนอร่างพระราชบัญญัติเพื่อขับเคลื่อนการดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาล
ครั้งที่ ๕/๒๕๖๗ เมื่อวันที่ ๒๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๗ ที่ประชุมได้มีมติเห็นควรให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเร่งรัดเสนอความเห็นเกี่ยวกับร่างพระราชบัญญัติดังต่อไปนี้ จำนวน
๗ ฉบับ เพื่อประกอบการพิจารณาของคณะรัฐมนตรีโดยเร็วต่อไป ๑.
ร่างพระราชบัญญัติยกเลิกกฎหมายบางฉบับที่หมดความจำเป็นหรือซ้ำซ้อนกับกฎหมายอื่น พ.ศ.
.... ๒. ร่างพระราชบัญญัติสถาบันอุดมศึกษาเอกชน พ.ศ. .... ๓. ร่างพระราชบัญญัติอาหาร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ๔. ร่างพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน
(ฉบับที่ ..) ศ. .... ๕.
ร่างพระราชบัญญัติยกเลิกบทบัญญัติแห่งกฎหมายที่กำหนดความผิดมูลฐานตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน
พ.ศ. .... ๖. ร่างพระราชบัญญัติค่าตอบแทนผู้เสียหาย
และค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 64 | การเร่งรัดกระบวนการอนุมัติ อนุญาตเพื่อส่งเสริมการลงทุนในประเทศไทย | นร. | 03/03/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอว่า ตามที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่
๒๓ มกราคม ๒๕๖๗ (เรื่อง
การปรับปรุงกฎหมายและกฎระเบียบที่เป็นอุปสรรคในการประกอบธุรกิจ) มอบหมายให้คณะกรรมการปรับปรุงกฎหมายเพื่อความสะดวกในการประกอบธุรกิจรับเรื่องนี้ไปพิจารณาร่วมกับกระทรวงการคลัง
(กรมศุลกากรและกรมสรรพสามิต) กระทรวงสาธารณสุข (สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา)
สำนักงาน ก.พ.ร. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อแก้ไขปรับปรุงข้อกฎหมายและกฎระเบียบ
รวมทั้งกระบวนการขอใบอนุญาตต่าง ๆ
ที่เป็นอุปสรรคต่อการประกอบธุรกิจให้แล้วเสร็จและเกิดผลเป็นรูปธรรมโดยเร็ว นั้น
โดยที่ได้รับการร้องขอให้เร่งรัดการดำเนินการในเรื่องนี้จากทูตานุทูตหลายประเทศ
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กรณีเอกชนของต่างประเทศจะเข้ามาร่วมลงทุนประกอบการอุตสาหกรรมยาและเวชภัณฑ์ในประเทศไทย
จึงขอให้กระทรวงสาธารณสุข (สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา) กระทรวงอุตสาหกรรม
สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งรัดกระบวนการพิจารณาอนุมัติ
อนุญาตต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ให้แล้วเสร็จโดยเร็วตามนัยมติคณะรัฐมนตรีดังกล่าวข้างต้น
เพื่อส่งเสริมการลงทุนจากต่างประเทศให้มากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ ให้ดำเนินการให้ถูกต้อง
เป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย ระเบียบ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 65 | การพิจารณาทบทวนความจำเป็น เหมาะสมของประกาศและคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติหรือของหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ | นร. | 27/02/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. รับทราบตามที่รองนายกรัฐมนตรี
(นายสมศักดิ์ เทพสุทิน) ในฐานะประธานกรรมการเร่งรัดการเสนอร่างพระราชบัญญัติเพื่อขับเคลื่อนการดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาล
รายงานว่า ในคราวประชุมคณะกรรมการเร่งรัดการเสนอร่างพระราชบัญญัติเพื่อขับเคลื่อนการดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาล
ครั้งที่ ๔/๒๕๖๗ เมื่อวันที่ ๒๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๗ ที่ประชุมได้มีมติให้ส่วนราชการพิจารณาทบทวนความจำเป็น
เหมาะสมของประกาศและคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติหรือของหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติที่สามารถยกเลิกได้โดยการตราพระราชบัญญัติกลางยกเลิก
จำนวน ๗๑ ฉบับ ตามบัญชีแนบท้ายนี้ โดยให้เสนอความเห็นไปยังสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ภายใน ๑๔ วัน และให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาแจ้งผลการพิจารณาดังกล่าวไปยังคณะกรรมการเร่งรัดการเสนอร่างพระราชบัญญัติเพื่อขับเคลื่อนการดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาล
เพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 66 | มาตรการเร่งรัดการเบิกจ่ายงบลงทุนของทุกส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐ | นร. | 27/02/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอว่า สืบเนื่องจากการรายงานภาพรวมการใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๖ ไปพลางก่อน ณ เดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๖๗ ของสำนักงบประมาณ พบว่า ผลการเบิกจ่ายงบลงทุนในภาพรวมมีจำนวนต่ำกว่าที่วางแผนไว้เกือบหนึ่งหมื่นล้านบาท
ซึ่งการลงทุนของภาครัฐเป็นมาตรการสำคัญประการหนึ่งที่จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศได้โดยตรง
ดังนั้น
จึงขอให้ทุกส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐเร่งรัดการดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างและการเบิกจ่ายเงินทั้งในส่วนของเงินงบประมาณและเงินลงทุนของรัฐวิสาหกิจให้แล้วเสร็จโดยเร็ว
ทั้งนี้ ให้ดำเนินการให้ถูกต้อง โปร่งใส เป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย ระเบียบ
หลักเกณฑ์ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 67 | ร่างพระราชบัญญัติของคณะรัฐมนตรีที่ต้องเร่งรัดติดตามโดยเร่งด่วน | นร.04 | 20/02/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. รับทราบตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายสมศักดิ์
เทพสุทิน) ในฐานะประธานกรรมการเร่งรัดการเสนอร่างพระราชบัญญัติเพื่อขับเคลื่อนการดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาล
รายงานว่า ในคราวประชุมคณะกรรมการเร่งรัดการเสนอร่างพระราชบัญญัติเพื่อขับเคลื่อนการดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาล
ครั้งที่ ๓/๒๕๖๗ เมื่อวันที่ ๑๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๗ ๒. ให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเร่งรัดเสนอความเห็นเกี่ยวกับร่างพระราชบัญญัติ
จำนวน ๔ ฉบับ ดังกล่าว เพื่อประกอบการพิจารณาของคณะรัฐมนตรีโดยเร็วต่อไป ได้แก่ ๒.๑
ร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ๒.๒
ร่างพระราชบัญญัติการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ๒.๓
ร่างพระราชบัญญัติเงินเดือนและเงินประจำตำแหน่งของข้าราชการพลเรือนกลาโหม พ.ศ.
.... ๒.๔
ร่างพระราชบัญญัติการอำนวยความสะดวกในการพิจารณาอนุญาตและการให้บริการแก่ประชาชน
พ.ศ. ....
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 68 | รายงานผลการใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ไปพลางก่อน และมาตรการเร่งรัดการใช้จ่ายงบประมาณ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ไปพลางก่อน | นร.07 | 13/02/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๖ ไปพลางก่อน และมาตรการเร่งรัดการใช้จ่ายงบประมาณ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.
๒๕๖๖ ไปพลางก่อน ตามที่สำนักงบประมาณเสนอ สรุปได้ ดังนี้ ๑.
สำนักงบประมาณดำเนินการติดตามและประเมินผลการปฏิบัติงานและการใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๖ ไปพลางก่อน
ตามแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๖
ไปพลางก่อน ตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๖๖-๒๙ ธันวาคม ๒๕๖๖ (ไตรมาสที่ ๑)
โดยงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๖ ไปพลางก่อน มีวงเงินงบฯ จัดสรร จำนวน
๑,๘๐๖,๙๑๓.๔๔ ล้านบาท โดยมีแผนการใช้จ่ายฯ ไตรมาสที่ ๑ จำนวน ๘๘๔,๒๓๐.๙๘ ล้านบาท
คิดเป็นร้อยละ ๔๘.๙๔ จากวงเงินทั้งหมด
และจากการติดตามและประเมินผลการปฏิบัติงานและการใช้จ่ายงบฯ พบว่า มีผลการใช้จ่าย
(ก่อหนี้) จำนวน ๙๔๖,๐๗๖.๙๕ ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ ๕๒.๓๖ จากวงเงินทั้งหมด
ซึ่งสูงกว่าเป้าหมายตามแผนการใช้จ่ายงบฯ ไตรมาสที่ ๑ ร้อยละ ๓.๔๒ ๒.
สำนักงบประมาณได้กำหนดมาตรการเร่งรัดการใช้จ่ายงบฯ ปี ๒๕๖๖ ไปพลางก่อน
เพื่อให้หน่วยรับงบประมาณใช้เป็นแนวทางในการเร่งรัดการเบิกจ่ายเงินกันตามระเบียบเกี่ยวกับการเบิกจ่ายเงินจากคลังไว้เบิกเหลื่อมปี
เงินงบฯ ปี ๒๕๖๖ ไปพลางก่อน และเงินลงทุนของรัฐวิสาหกิจ โดยมาตรการดังกล่าวมีสาระสำคัญ
เช่น (๑) ให้เร่งรัดการเบิกจ่ายเงินกันไว้เบิกเหลื่อมปีของปีงบฯ ๒๕๖๖
ให้สามารถเบิกจ่ายเงินกันไว้เบิกเหลื่อมปีของปีงบฯ ๒๕๖๖ ให้สามารถเบิกจ่ายอย่างมีนัยสำคัญได้ภายในไตรมาสที่
๒ (มกราคม-มีนาคม ๒๕๖๗) โดยเฉพาะในส่วนของรายจ่ายที่ก่อหนี้ผูกพันแล้ว
สำหรับเงินกันไว้เบิกเหลื่อมปีที่อยู่ระหว่างดำเนินกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างแล้วให้เร่งรัดการก่อหนี้และเบิกจ่ายโดยเร็ว
(๒) กำหนดเป้าหมายการใช้จ่ายงบฯ เพื่อให้หน่วยรับงบฯ
ดำเนินการให้สอดคล้องกับเป้าหมายภาพรวมของประเทศ
และใช้เป็นแนวทางในการใช้จ่ายเมื่อพระราชบัญญัติงบฯ ปี ๒๕๖๗ ประกาศใช้บังคับ และ
(๓) ให้หน่วยรับงบประมาณเร่งรัดการจัดฝึกอบรม ประชุม สัมมนา ประจำปีงบฯ ๒๕๖๖
ไปพลางก่อน โดยเร่งรัดหรือปรับแผนการดำเนินงานและใช้จ่ายภายในไตรมาสที่ ๒
เพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศ เป็นต้น
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 69 | ขอความเห็นชอบการกู้เงินเพื่อรักษาสภาพคล่องทางการเงินขององค์การเภสัชกรรม | สธ. | 13/02/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ
ดังนี้ ๑. เห็นชอบให้องค์การเภสัชกรรมกู้เงินเพื่อรักษาสภาพคล่องทางการเงินในลักษณะ
Roll-Over ครอบคลุมระยะเวลาการกู้
๕ ปี วงเงินกู้จำนวน ๓,๐๐๐ ล้านบาท ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ
และให้กระทรวงสาธารณสุข (องค์การเภสัชกรรม) รับความเห็นของกระทรวงการคลัง ที่เห็นควรวางแผนการบริหารสภาพคล่องทางการเงิน
โดยการเร่งรัดติดตามการชำระหนี้ให้ทันตามกำหนดและสมดุลกับการใช้จ่ายเงิน
เพื่อไม่ให้กระทบต่อการดำเนินงานในอนาคต
การกู้เงินดังกล่าวจะต้องเป็นไปตามกฎหมายและอยู่ภายใต้ขอบวัตถุประสงค์และอำนาจหน้าที่ของหน่วยงานของรัฐผู้กู้
เพื่อประโยชน์ของประเทศและของหน่วยงานของรัฐ โดยต้องกระทำด้วยความรอบคอบ
และคำนึงถึงความคุ้มค่า ความสามารถในการชำระหนี้ การกระจายภาระการชำระหนี้
เสถียรภาพและความยั่งยืนทางการเงินการการคลัง ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 70 | ร่างพระราชบัญญัติของคณะรัฐมนตรีที่ต้องเร่งรัดติดตามโดยเร่งด่วน | นร. | 13/02/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. รับทราบตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายสมศักดิ์
เทพสุทิน)
ในฐานะประธานกรรมการเร่งรัดการเสนอร่างพระราชบัญญัติเพื่อขับเคลื่อนการดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาล
รายงานว่า
ในคราวประชุมคณะกรรมการเร่งรัดการเสนอร่างพระราชบัญญัติเพื่อขับเคลื่อนการดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาล
ครั้งที่ ๒/๒๕๖๗ เมื่อวันที่ ๙ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๗
ที่ประชุมได้มีมติเห็นควรให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเร่งรัดเสนอความเห็นเกี่ยวกับร่างพระราชบัญญัติดังต่อไปนี้
จำนวน ๙ ฉบับ เพื่อประกอบการพิจารณาของคณะรัฐมนตรีโดยเร็วต่อไป ๑.๑ ร่างพระราชบัญญัติเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ เพื่อสร้างกิจการรถไฟฟ้า
โครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว-สำโรง ในท้องที่เขตวังทองหลาง
เขตบางกะปิ เขตสวนหลวง เขตประเวศ เขตบางนา กรุงเทพมหานคร และอำเภอบางพลี
อำเภอเมืองสมุทรปราการ จังหวัดสมุทรปราการ พ.ศ. .... ๑.๒
ร่างพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ (ฉบับที่..) พ ศ. .... ๑.๓ ร่างพระราชบัญญัติสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย
(ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ๑.๔ ร่างพระราชบัญญัติลักษณะปกครองท้องที่
(ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ๑.๕
ร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยการเวนคืนและการได้มาซึ่งอสังหาริมทรัพย์ (ฉบับที่ ..)
พ.ศ. .... ๑.๖ ร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต
(ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ๑.๗
ร่างพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลภาษีอากรและวิธีพิจารณาคดีภาษีอากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ.
.... ๑.๘
ร่างพระราชบัญญัติวิธีพิจารณาคดีสิ่งแวดล้อม พ.ศ. .... ๑.๙
ร่างพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....
และร่างพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานจังหวัดสมุทรปราการและศาลแรงงานจังหวัดระยอง
พ.ศ. ....
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 71 | ร่างพระราชบัญญัติของคณะรัฐมนตรีที่ต้องเร่งรัดติดตามโดยเร่งด่วน | นร. | 06/02/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. รับทราบตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายสมศักดิ์
เทพสุทิน)
ในฐานะประธานกรรมการเร่งรัดการเสนอร่างพระราชบัญญัติเพื่อขับเคลื่อนการดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาล
รายงานว่า ในคราวประชุมคณะกรรมการเร่งรัดการเสนอร่างพระราชบัญญัติเพื่อขับเคลื่อนการดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาล
ครั้งที่ ๑/๒๕๖๗ เมื่อวันที่ ๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๗ ที่ประชุมได้มีมติ ๑.๑
เห็นควรให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเร่งรัดการดำเนินการเสนอร่างพระราชบัญญัติของคณะรัฐมนตรีต่อคณะรัฐมนตรีโดยเร็วตามรายชื่อร่างพระราชบัญญัติ
ดังต่อไปนี้
๑.๑.๑
ร่างพระราชบัญญัติซึ่งเสนอโดยสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและบรรจุในระเบียบวาระของสภาผู้แทนราษฎรแล้ว
จำนวน ๒ ฉบับ ได้แก่
๑.๑.๑.๑ ร่างพระราชบัญญัติล้มละลาย (ฉบับที่ .. ) พ.ศ .... (แก้ไขเพิ่มเติมกระบวนพิจารณาเกี่ยวกับการฟื้นฟูกิจการของลูกหนี้) ๑.๑.๑.๒ ร่างพระราชบัญญัติการรับรองเพศ
พ.ศ. .... ๑.๒.๑
ร่างพระราชบัญญัติที่เกี่ยวด้วยการเงินซึ่งเสนอโดยสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและอยู่ระหว่างนายกรัฐมนตรีพิจารณารับรอง
จำนวน ๒ ฉบับ ดังนี้
๑.๒.๑.๑ ร่างพระราชบัญญัติกัญชากัญชง พ.ศ. ....
๑.๒.๑.๒ ร่างพระราชบัญญัติปาล์มน้ำมันและผลิตภัณฑ์จากปาล์มน้ำมัน พ.ศ. .... ๑.๓
๑ ร่างพระราชบัญญัติที่เกี่ยวข้องกับการขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาล จำนวน ๒ ฉบับ
ดังนี้
๑.๓.๑.๑ ร่างพระราชบัญญัติการบริหารจัดการระบบตั๋วร่วม พ.ศ. ....
๑.๓.๑.๒ ร่างพระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ๑.๒.
ขอความร่วมมือให้หัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลกำชับให้กรรมาธิการในสัดส่วนของพรรคเข้าร่วมประชุมในที่ประชุมคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติยกเลิกพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค
พ.ศ. ๒๕๓๔ พ.ศ. .... และร่างพระราชบัญญัติมาตรการของฝ่ายบริหารในการป้องกันและปราบปรามการทุจริต
(ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... อย่างสม่ำเสมอ
เพื่อผลักดันและขับเคลื่อนให้ร่างพระราชบัญญัติทั้งสองฉบับดังกล่าวซึ่งเป็นร่างกฎหมายสำคัญของคณะรัฐมนตรีมีผลใช้บังคับโดยเร็ว
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 72 | การเร่งรัดการเสนอร่างกฎหมายเพื่อขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาล | นร. | 30/01/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอว่า ตามที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่
๓๑ ตุลาคม ๒๕๖๖ (เรื่อง
การเร่งรัดการเสนอร่างพระราชบัญญัติเพื่อขับเคลื่อนการดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาล)
มอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรี (นายสมศักดิ์ เทพสุทิน) กำกับและติดตามให้ทุกส่วนราชการเร่งรัดการเสนอร่างพระราชบัญญัติที่อยู่ในความรับผิดชอบต่อคณะรัฐมนตรีโดยเร็ว
เพื่อให้การพิจารณาร่างกฎหมายต่าง ๆ
ของคณะรัฐมนตรีเป็นไปอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลที่ได้แถลงไว้ต่อรัฐสภา นั้น
ขณะนี้การเสนอร่างกฎหมายของส่วนราชการต่าง ๆ ยังมีความล่าช้าอยู่มาก จึงขอให้รัฐมนตรีทุกท่านเร่งรัดติดตามให้ส่วนราชการในความรับผิดชอบดำเนินการเสนอร่างกฎหมายต่าง
ๆ ที่มีความสำคัญต่อการขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาลเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรีโดยด่วน
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 73 | การเร่งรัดการดำเนินการพิสูจน์สิทธิการครอบครองที่ดินของบุคคลในเขตที่ดินของรัฐ | นร. | 09/01/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอว่า
ที่ผ่านมากระทรวงมหาดไทย โดยการไฟฟ้านครหลวง การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การประปานครหลวง
และการประปาส่วนภูมิภาค ได้ผ่อนปรนให้ประชาชนผู้ได้รับทะเบียนบ้านชั่วคราวซึ่งออกให้กับที่อยู่อาศัยที่ปลูกสร้างขึ้นในที่ดินของรัฐโดยไม่ได้รับอนุญาต
รวมถึงผู้ที่อยู่ระหว่างการพิสูจน์สิทธิการครอบครองที่ดินของบุคคลในเขตที่ดินของรัฐสามารถขอใช้ไฟฟ้าและน้ำประปาได้ในอัตราค่าบริการที่เหมาะสม
อย่างไรก็ตาม เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาให้แก่ประชาชนกลุ่มดังกล่าวในระยะยาว
ซึ่งบางส่วนไม่มีสาธารณูปโภคทั้งไฟฟ้าและน้ำประปาใช้มาเป็นเวลานานมากแล้ว จึงขอให้สำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ
(สคทช.) ดำเนินการ ดังนี้ ๑.
เร่งรัดการดำเนินการขอผ่อนผันการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๘ เมษายน
๒๕๔๖ (เรื่อง
การออกเลขที่บ้านชั่วคราวให้กับผู้บุกรุกในเขตที่ดินของการรถไฟแห่งประเทศไทย)
รวมทั้งเร่งประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในที่ดินที่อยู่ระหว่างการพิสูจน์สิทธิการครอบครองที่ดินของบุคคลในเขตที่ดินของรัฐมาก่อนวันที่คณะรัฐมนตรีมีมติในวันนี้สามารถเข้าถึงสาธารณูปโภคทั้งไฟฟ้าและน้ำประปาได้เป็นการชั่วคราวตามหลักสิทธิมนุษยชน
โดยให้ดำเนินการเรื่องนี้เป็นการนำร่องก่อนเฉพาะในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรีและแม่ฮ่องสอน
และให้ สคทช. รายงานผลการดำเนินการให้คณะรัฐมนตรีทราบภายใน ๑ เดือน ทั้งนี้
ให้กระทรวงมหาดไทยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ความร่วมมือกับ สคทช. ในการดำเนินการดังกล่าวข้างต้นตามหน้าที่และอำนาจด้วย ๒.
เร่งรัดการดำเนินการพิสูจน์สิทธิการครอบครองที่ดินของบุคคลในเขตที่ดินของรัฐที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ให้แล้วเสร็จโดยเร็ว
ภายใน ๑ ปี ทั้งนี้ ให้ สคทช.
รายงานความคืบหน้าการดำเนินการให้คณะรัฐมนตรีทราบเป็นระยะ ๆ ด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 74 | ผลการประชุมระดับรัฐมนตรี ครั้งที่ 29 แผนงานการพัฒนาเขตเศรษฐกิจสามฝ่าย อินโดนีเซีย-มาเลเซีย-ไทย (IMT-GT) | นร.11 สศช | 02/01/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. รับทราบผลการประชุมระดับรัฐมนตรี
ครั้งที่ ๒๙ แผนงานการพัฒนาเขตเศรษฐกิจสามฝ่าย อินโดนีเซีย-มาเลเซีย-ไทย
หรือแผนงาน IMT-GT (Joint Statement of the 29th
IMT-GT Ministerial Meeting) และเห็นชอบการมอบหมายภารกิจหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของไทยตามแผนการดำเนินงานในระยะต่อไป
และมอบหมายให้หน่วยงานดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง โดยการประชุมระดับรัฐมนตรี
ครั้งที่ ๒๙ แผนงาน IMT-GT จัดขึ้นเมื่อวันที่ ๒๙ กันยายน
๒๕๖๖ ณ เมืองบาตัม จังหวัดหมู่เกาะเรียว สาธารณรัฐอินโดนีเซีย โดยมีผลการหารือและผลการประชุมที่สำคัญ
ได้แก่ (๑) ผลการประชุมระดับรัฐมนตรี ครั้งที่ ๒๙ แผนงาน IMT-GT โดยที่ประชุมได้รับรองแถลงการณ์ร่วมฯ แผนงาน IMT-GT ซี่งได้มีการปรับปรุงรายละเอียดเพิ่มเติมซึ่งไม่ใช่สาระสำคัญจากร่างแถลงการณ์ร่วมฯ
ที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบไว้ (๒๖ กันยายน ๒๕๖๖) อาทิ
ปรับแก้ถ้อยคำกล่าวแสดงความขอบคุณสำนักเลขาธิการอาเซียนสำหรับการสนับสนุนการดำเนินงานของแผนงาน
IMT-GT อย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งแสดงถึงความมุ่งมั่นในการดำเนินโครงการต่าง
ๆ ตามกรอบและความริเริ่มของอาเซียน (๒) ผลการประชุมอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง
โดยที่ประชุมได้รับทราบรายงานความคืบหน้าการขับเคลื่อนความร่วมมือแผนงาน IMT-GT
ในช่วงที่ผ่านมาในการประชุมระดับเจ้าหน้าที่อาวุโส ครั้งที่ ๒๙
แผนงาน IMT-GT และการประชุมเวทีหารือระดับมุขมนตรีและผู้ว่าราชการจังหวัด
(Chief Ministers and Governors Forum : CMGF) ครั้งที่ ๒๐
แผนงาน IMT-GT โดยมีผลการหารือและข้อคิดเห็นจากผู้เข้าร่วมประชุม
อาทิ การเร่งรัดการศึกษา พัฒนา
บูรณาการความร่วมมือระหว่างระเบียงเศรษฐกิจและเขตเศรษฐกิจพิเศษ
เพื่อการเติบโตที่ยืดหยุ่น ยั่งยืน และครอบคลุม
ผ่านการวิเคราะห์ประเด็นและกลยุทธ์ที่สำคัญ และ (๓) แผนการดำเนินงานในระยะต่อไป
เพื่อสนับสนุนการดำเนินงานตามแผนงาน IMT-GT อาทิ
เร่งสร้างรายได้การท่องเที่ยวใน IMT-GT โดยดำเนินโครงการส่งเสริมการตลาดร่วม
และการเสริมสร้างความเชื่อมโยงระหว่างพื้นที่ยุทธศาสตร์ในอนุภูมิภาคต่อไป ตามที่สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอ ๒.
ให้สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็น
ข้อสังเกต และข้อเสนอแนะของกระทรวงการคลัง กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์
วิจัยและนวัตกรรม กระทรวงคมนาคม และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม อาทิ (๑)
แผนการดำเนินงานในระยะต่อไปของแผนงาน IMT-GT
ข้อย่อยที่ ๑.๕ ประเด็นเครือข่ายมหาวิทยาลัย IMT-GT (UNINET)
นั้น เป็นการดำเนินงานที่ไม่ได้อยู่ภายใต้ความรับผิดชอบของกระทรวงการคลังโดยตรง
แต่หากมีการดำเนินการที่เกี่ยวข้อง เห็นควรให้การสนับสนุนได้ (๒)
ทุกภาคส่วนควรพิจารณาสนับสนุนการพัฒนาแผนงานโครงการเชื่อมต่อทางกายภาพ (Priority
Connectivity Projects : PCPs) ของทั้งสามประเทศสมาชิกแผนงาน IMT-GT
ต่อไปด้วย และ (๓)
การสนับสนุนดำเนินงานตามแผนการดำเนินงานในระยะต่อไปของแผนงาน IMT-GT ควรปฏิบัติให้เป็นไปตามกฎ ระเบียบ และข้อบังคับของแต่ละประเทศควบคู่ไปด้วย |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 75 | การเร่งรัดการกำกับดูแล ควบคุมการใช้อาวุธปืนเพื่อความปลอดภัยของประชาชน | มท. | 14/11/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีพิจารณาเห็นว่า ตามที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ ๑๐ ตุลาคม
๒๕๖๖ (เรื่อง มาตรการในการกำกับดูแล
ควบคุมการใช้อาวุธปืนเพื่อความปลอดภัยของประชาชน)
รับทราบรายงานผลการดำเนินการตามมาตรการในการกำกับดูแล
ควบคุมการใช้อาวุธปืนเพื่อความปลอดภัยของประชาชน ซึ่งเป็นการดำเนินการกำกับดูแล
ควบคุมการออกใบอนุญาตของนายทะเบียนท้องที่ตามพระราชบัญญัติอาวุธปืน
เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ. ๒๔๙๐
และที่แก้ไขเพิ่มเติม ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ นั้น
โดยที่ปัจจุบันเหตุการณ์รุนแรงที่เกิดจากการใช้อาวุธปืนหรือสิ่งเทียมอาวุธปืนยังคงเกิดขึ้นอยู่เนือง
ๆ และส่งผลกระทบโดยตรงต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนผู้บริสุทธิ์ ดังนั้น
เพื่อให้การกำกับดูแลควบคุมการใช้อาวุธปืนหรือสิ่งเทียมอาวุธปืนเกิดผลเป็นรูปธรรมโดยเร็ว
รวมทั้งเพื่อสร้างความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินแก่ประชาชนให้มากยิ่งขึ้น
คณะรัฐมนตรีจึงมีมติมอบหมายให้กระทรวงมหาดไทยเป็นหน่วยงานหลักร่วมกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งรัดดำเนินการตามหน้าที่และอำนาจอย่างเคร่งครัดและต่อเนื่อง
เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาการนำอาวุธปืนหรือสิ่งเทียมอาวุธปืนมาใช้ก่อเหตุ
และบรรเทาหรือระงับเหตุที่อาจเกิดขึ้นให้เท่าทันสถานการณ์ ตามแต่กรณี
รวมทั้งให้เร่งศึกษามาตรการหรือแนวทางการกำกับดูแล ควบคุมการใช้อาวุธปืนหรือสิ่งเทียมอาวุธปืน
เพิ่มเติมให้เหมาะสมและชัดเจนมากยิ่งขึ้น แล้วรายงานให้คณะรัฐมนตรีทราบต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 76 | ผลการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศกรอบความร่วมมือลุ่มน้ำโขง-คงคา ครั้งที่ 12 | กต. | 07/11/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบและเห็นชอบผลการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศกรอบความร่วมมือลุ่มน้ำโขง-คงคา
ครั้งที่ ๑๒ (12th Mekong-Ganga Cooperation
Foreign Ministers’ Meeting: 12th MGC FMM) ซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันที่ ๑๖ กรกฎาคม ๒๕๖๖ ที่โรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล
กรุงเทพฯ โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสาธารณรัฐอินเดีย
และรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว
เป็นประธานร่วมในรูปแบบการประชุมผสมผสาน (hybrid) และมีนายดอน
ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศขณะนั้น
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา และที่ปรึกษาอาวุโสของรัฐบาลในฐานะผู้แทนรองนายกรัฐมนตรี
และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศราชอาณาจักรกัมพูชา (เทียบเท่ารัฐมนตรี)
เข้าร่วมด้วยตนเองและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามเข้าร่วมผ่านระบบการประชุมทางไกล
โดยผลการประชุมฯ มีสาระสำคัญเป็นการแสดงเจตนารมณ์ทางการเมืองร่วมกันระหว่างรัฐมนตรีของประเทศสมาชิกกรอบความร่วมมือฯ
ในการติดตามความคืบหน้าความร่วมมือ
และกำหนดแนวทางการดำเนินความร่วมมือร่วมกันในอนาคตอย่างเป็นรูปธรรม
ซึ่งเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ และมอบหมายส่วนราชการดำเนินการและติดตามความคืบหน้าในส่วนของภารกิจที่เกี่ยวข้อง
ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
และให้กระทรวงการต่างประเทศรับความเห็นของกระทรวงคมนาคมและสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ที่เห็นว่าประเด็นการเร่งรัดขยายเส้นทางต่อไปยังกัมพูชา สปป.ลาว และเวียดนาม
ภายใต้โครงการพัฒนาถนนสามฝ่าย อินเดีย-เมียนมา-ไทย นั้น
กระทรวงคมนาคมขอเรียนว่าที่ประชุมคณะทำงานย่อยด้านทางหลวงอาเซียน (ASEAN
Highways Sub-Working Group : AHSWG) มีมติให้รอความชัดเจนอย่างเป็นทางการจากอินเดีย
ก่อนนำประเด็นดังกล่าวหารือแนวทางการดำเนินการต่อไป และควรวิเคราะห์และติดตามประเมินผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้อง
รวมถึงสื่อสารผลลัพธ์ให้สาธารณชนและทุกภาคส่วนได้รับทราบถึงประโยชน์ที่ประเทศไทยพึงจะได้รับ
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 77 | การเร่งรัดจัดทำกฎหมายว่าด้วยการกำหนดปริมาณยาเสพติดให้โทษ (ยาบ้า) | นร. | 07/11/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอว่า ตามที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติ
(๓ และ ๑๖ ตุลาคม ๒๕๖๖) มอบหมายให้กระทรวงยุติธรรมร่วมกับกระทรวงมหาดไทย
กระทรวงสาธารณสุข สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งรัดการทบทวนกฎหมายและอนุบัญญัติต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดทั้งหมดที่อาจเป็นอุปสรรคและส่งผลต่อความสำเร็จในการดำเนินการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด
และให้พิจารณาการกำหนดปริมาณยาเสพติดในครอบครองของบุคคลที่เข้าข่ายเป็นผู้เสพยาเสพติดที่ต้องรับโทษตามกฎหมายให้ชัดเจน
ครบถ้วน
รวมทั้งให้สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดเป็นหน่วยงานหลักร่วมกับหน่วยงานต่าง
ๆ ที่เกี่ยวข้องบูรณาการแผนงาน ประสานงานขับเคลื่อน
และติดตามการดำเนินการแก้ไขปัญหายาเสพติดในภาพรวม นั้น
โดยที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้หารือกัน เพื่อกำหนดปริมาณยาเสพติด (ยาบ้า)
ในครอบครองของบุคคลที่เข้าข่ายเป็นผู้เสพยาเสพติดหรือเป็นผู้จำหน่ายยาเสพติดเสร็จเรียบร้อยแล้ว
รวมทั้งให้มีการสืบสวนขยายผลไปสู่ต้นตอของผู้ที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย ดังนั้น จึงขอให้กระทรวงสาธารณสุขและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งรัดการดำเนินการจัดทำกฎหมายว่าด้วยการกำหนดปริมาณยาเสพติดให้โทษ
(ยาบ้า) และที่เกี่ยวข้องให้แล้วเสร็จและเสนอคณะรัฐมนตรีโดยด่วน
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 78 | การเร่งรัดการลงทุนในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก | นร. | 07/11/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอว่า ตามที่ได้เดินทางไปตรวจราชการในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออกและได้รับทราบความก้าวหน้าในการดำเนินการในหลายด้าน
แต่พบว่ายังมีปัญหาอุปสรรคหลายประการที่มีผลต่อการตัดสินใจเข้ามาลงทุนของภาคเอกชน
เช่น การรับรู้เกี่ยวกับความพร้อมของโครงสร้างพื้นฐานต่าง ๆ ในพื้นที่
สิทธิประโยชน์ การอำนวยความสะดวกในด้านต่าง ๆ ให้กับภาคเอกชนที่เข้ามาลงทุน
จึงได้มีคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีแต่งตั้งคณะกรรมการเร่งรัดการลงทุนในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก
(รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานกรรมการ)
มีหน้าที่และอำนาจในการเร่งรัดติดตาม กำกับดูแล
และบูรณาการการทำงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อเร่งรัดการลงทุนในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก
และเสนอแนะนโยบาย มาตรการ และแนวทางปฏิบัติ
พร้อมทั้งอำนวยความสะดวกในการลงทุนเพื่อดึงดูดนักลงทุนต่างชาติต่อนายกรัฐมนตรี
ดังนั้น จึงขอให้คณะกรรมการเร่งรัดการลงทุนในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออกดำเนินการตามหน้าที่และอำนาจดังกล่าวข้างต้น
รวมถึงบูรณาการการทำงานกับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องกับการอำนวยความสะดวกให้แก่ภาคเอกชนในทุกมิติด้วย
เช่น สาธารณูปโภค โครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมขนส่ง การอนุมัติ อนุญาต
และการให้สิทธิประโยชน์ต่าง ๆ
เพื่อให้เกิดการลงทุนที่เป็นรูปธรรมของภาคเอกชนในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออกให้เพิ่มมากยิ่งขึ้น
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 79 | การเร่งรัดโครงการเหมืองแร่โพแทช | นร. | 07/11/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอว่า แร่โพแทชเป็นทรัพยากรธรรมชาติที่มีความสำคัญต่อภาคอุตสาหกรรมและภาคเกษตรกรรม
เนื่องจากเป็นแร่หลักที่ใช้ในการผลิตปุ๋ยเคมีชนิดต่าง ๆ และปัจจุบันประเทศไทยมีปริมาณแร่โพแทชสำรองมากเป็นอันดับ
๒ ของโลกรองจากประเทศแคนาดา ซึ่งในช่วง ๑๐ ปีที่ผ่านมา
ได้มีการออกประทานบัตรเหมืองแร่โพแทชให้แก่ผู้ประกอบการไปแล้ว ๓ ราย แต่พบว่าจนถึงปัจจุบันยังไม่มีผู้ประกอบการรายใดที่ได้ดำเนินการผลิตแร่โพแทชออกมาได้จริง
ดังนั้น
จึงขอมอบหมายให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงมหาดไทย ติดตามความคืบหน้าและเร่งรัดให้ผู้ประกอบการที่ได้รับประทานบัตรดังกล่าวดำเนินการผลิตแร่โพแทชให้เกิดผลเป็นรูปธรรมโดยเร็ว
เพื่อให้สามารถนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดทั้งในภาคอุตสาหกรรม เกษตรกรรม
และการส่งออกไปยังต่างประเทศตามความเหมาะสมต่อไป และในกรณีที่ผู้ประกอบการไม่สามารถดำเนินการตามที่ได้รับประทานบัตรได้
ให้กระทรวงอุตสาหกรรมพิจารณาความเป็นไปได้ในการเพิกถอนประทานบัตรดังกล่าวและพิจารณาอนุญาตออกประทานบัตรให้แก่ผู้ประกอบการรายอื่นที่เสนอขอประทานบัตรเพื่อดำเนินโครงการเหมืองแร่โพแทชในพื้นที่นั้น
ๆ แทนต่อไป ทั้งนี้ ให้กระทรวงอุตสาหกรรมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการให้ถูกต้องตามขั้นตอนของกฎหมาย
ระเบียบ หลักเกณฑ์ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 80 | การเร่งรัดการให้ความช่วยเหลือแรงงานไทยที่เดินทางกับจากรัฐอิสราเอล | นร. | 07/11/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอว่า
ตามที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ ๒๔ ตุลาคม ๒๕๖๖ มอบหมายให้กระทรวงแรงงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณากำหนดสิทธิประโยชน์และเงินช่วยเหลือชดเชยให้แก่แรงงานไทยที่เดินทางกลับจากรัฐอิสราเอลให้เหมาะสมเป็นกรณีพิเศษ
นั้น ขอให้กระทรวงแรงงานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งรัดการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีดังกล่าวข้างต้นให้แล้วเสร็จครบถ้วน
รวมทั้งให้เร่งรัด กำกับ ติดตามการดำเนินการให้ความช่วยเหลือ เยียวยา และชดเชยต่าง
ๆ ให้ถึงมือแรงงานไทยให้ถูกต้อง ทั่วถึงโดยด่วนด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
