คณะรัฐมนตรีมีมติเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาระยะยาวกรณีปัญหากลุ่มเขื่อนและปัญหากลุ่มป่าไม้ - ที่ดิน ตามข้อเสนอของคณะกรรมการกลางเพื่อแก้ไขปัญหาของสมัชชาคนจน โดยกลุ่มปัญหาเขื่อน เห็นชอบ ในการศึกษาผลกระทบ โดยให้ความสำคัญกับการประเมินผลกระทบด้านสังคมมากกว่าเดิม และให้หน่วย งานเจ้าของโครงการเป็นผู้ว่าจ้างและได้รับงบประมาณสนับสนุนจากรัฐบาลอย่างเพียงพอ การประเมินและ การชดเชยผลกระทบต้องครอบคลุมความเสียหายที่เกิดขึ้นจริง สำหรับการชดเชยผลกระทบความสูญเสีย ทางเศรษฐกิจ รายได้ และทรัพยากรที่เป็นฐานชีวิตของชุมชนที่เกิดขึ้นในขณะนั้น และในอนาคตให้เป็นไป ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ พ.ศ. 2530 ซึ่งหากราษฎรไม่เห็นด้วยกับการจ่าย ค่าชดเชยดังกล่าวก็สามารถดำเนินการร้องเรียนได้ โดยใช้กระบวนการของศาลปกครอง การแก้ไขพระราช บัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม พ.ศ. 2535 การจัดตั้งคณะกรรมการลุ่มน้ำในลักษณะพหุภาคี รวมทั้งข้อเสนอให้มีการวางแผนการจัดการลุ่มน้ำ สำหรับกลุ่มปัญหาป่าไม้ - ที่ดินไม่เห็นชอบกับการขอ ทบทวนมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2541 และข้อเสนออื่น ๆ เพราะการดำเนินการตาม มติคณะรัฐมนตรีดังกล่าว จะอำนวยประโยชน์ในการแก้ไขปัญหาป่าไม้และปัญหาที่ดินทั้งในส่วนกลางของ ประเทศชาติและราษฎรได้อย่างกว้างขวางเท่าเทียมกันทั่วประเทศ และถูกต้องเหมาะสมตามหลักการจัด การป่าไม้และที่ดินในเชิงอนุรักษ์ และเห็นชอบให้ทบทวนแก้ไขการปรับปรุงกฎหมายเกี่ยวกับป่าไม้ให้สอด คล้องกับบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญในเรื่อง การรับรองสิทธิชุมชน การให้ชุมชนเข้ามีส่วนร่วมในการดูแล รักษา และการใช้ประโยชน์ ทั้งนี้ ให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องไปพิจารณาดำเนินการ หากมีปัญหาและ อุปสรรคใด ให้รายงานคณะรัฐมนตรีทราบต่อไป
สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ต้องขออภัยมา ณ โอกาสนี้ด้วย