คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการปรับปรุงโครงสร้างกระทรวง  ทบวง  กรม  โดยให้รัฐมนตรีทุกคนใช้ 
ช่วงระยะเวลา 2 เดือน  ที่รัฐสภาปิดสมัยประชุมพิจารณาและเสนอความเห็นเกี่ยวกับการปรับบทบาท  ภารกิจ
และโครงสร้างของกระทรวง ทบวง กรม ในภาพรวม โดยมองให้ลึกและมีวิสัยทัศน์ที่กว้างไกลไม่ยึดกับกระทรวง 
ที่รับผิดชอบ  รวมทั้งในการปรับเปลี่ยนให้สามารถโอนบุคลากรไปกระทรวงอื่นได้ ทั้งนี้ ไม่มีการเพิ่มอัตราและ 
งบประมาณ ตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอ

               คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงการคลังรายงานการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขการปรับปรุง  
โครงสร้างหนี้บริษัทบางกอกแลนด์ จำกัด  (มหาชน)  กับธนาคารออมสิน  โดยการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขการ  
ปรับปรุงโครงสร้างหนี้ดังกล่าว  ซึ่งได้มีการลงนามร่วมกันในสัญญาปรับปรุงโครงสร้างหนี้และบันทึกต่อท้าย
สัญญา ฯ และกระทรวงการคลังได้ให้สัตยาบันการลงนามไปแล้วเมื่อวันที่ 29 ธันวาคม 2543 นั้น  ตามเงื่อน   
ไขการปรับปรุงโครงสร้างหนี้แก้ไขเพิ่มเติม  และได้ขยายระยะเวลาการชำระหนี้ออกไปจากกำหนดเดิม  1  ปี  
ทำให้มูลค่าปัจจุบันของเงินต้นและดอกเบี้ยที่ธนาคารได้รับเปลี่ยนแปลงลดลง แต่ก็มิได้ทำให้เกิดส่วนสูญเสีย   
แก่ธนาคาร ดังนั้น การดำเนินการหาข้อยุติในการปรับปรุงโครงสร้างหนี้จึงเป็นแนวทางที่เหมาะสมกว่าการ 
ฟ้องร้องดำเนินคดีซึ่งต้องใช้เวลานานกว่าการดำเนินการจะสิ้นสุด 

           คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติบรรษัทบริหารสินทรัพย์ไทย พ.ศ. ....  (ให้มีกฎหมาย 
เพื่อรองรับการจัดตั้งบรรษัทบริหารสินทรัพย์แห่งชาติขึ้นเป็นหน่วยงานของรัฐทำหน้าที่แก้ไขปัญหาการค้างชำระหนี้  
ของลูกหนี้ของสถาบันการเงินของรัฐและเอกชนให้เป็นไปอย่างรวดเร็ว)  ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ      และให้ส่ง 
สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน โดยให้แก้ไขเพิ่มเติมร่างมาตรา 58 วรรคสอง จากเดิม 
"... เหลือไม่ถึงครึ่งหนึ่งของหนี้ภายหลังการปรับโครงสร้างหนี้ ..."  แก้ไขเป็น  "...  เหลือไม่ถึงหนึ่งในสามของหนี้ภาย   
หลังการปรับโครงสร้างหนี้ ..."  และร่างมาตรา 58 วรรคสาม  "...  ส่วนที่เหลือไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่ง ..."  แก้ไขเป็น  "...   
ส่วนที่เหลือไม่น้อยกว่าสองในสาม ..."  และให้รับข้อสังเกตของคณะรัฐมนตรี  (เกี่ยวกับการสนับสนุนผู้มีสัญชาติไทย 
หรือนิติบุคคลสัญชาติไทยเป็นผู้เชี่ยวชาญและที่ปรึกษาทางการเงินกับประเด็นปัญหาต่าง  ๆ   ไปหารือกับประธาน  
คณะกรรมการปรับปรุงกฎหมายเพื่อการพัฒนาประเทศ (นายมีชัย ฤชุพันธุ์) และนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาอีก 
ครั้งในการประชุมคราวต่อไป) ไปพิจารณาด้วย

              คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการปรับปรุงองค์ประกอบและอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการเพื่อสนับสนุน
การค้าชายแดน   โดยให้รองนายกรัฐมนตรี  (นายปองพล  อดิเรกสาร)  เป็นประธานกรรมการ  รัฐมนตรีว่าการ  
กระทรวงพาณิชย์ เป็นรองประธานกรรมการ ปลัดกระทรวงการคลัง ปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นกรรมการ  และ 
เพิ่มผู้แทนการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ผู้แทนสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน เป็นกรรมการ รวมทั้ง 
ให้ปรับปรุงอำนาจหน้าที่ในข้อ  3  จากเดิม  เป็น "พิจารณาสนับสนุน  ส่งเสริม  และพัฒนาการค้าชายแดน  การ
ลงทุนและการท่องเที่ยวในประเทศเพื่อนบ้าน ทั้งนี้ โดยเน้นเหตุผลทางด้านเศรษฐกิจ" เพื่อให้สอดคล้องกับหน้าที่ 
ความรับผิดชอบของผู้ที่ได้รับแต่งตั้ง  และสอดคล้องกับนโยบายของกระทรวงพาณิชย์ เรื่อง การค้าชายแดนที่ให้มี 
การประสานงานด้านการลงทุนและการท่องเที่ยวด้วย ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ

             คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้การปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย (ปตท.) ให้เงินกู้แก่ บริษัทปุ๋ยแห่งชาติ  
จำกัด (มหาชน) ในวงเงิน 600 ล้านบาท เป็นการชั่วคราว เพื่อใช้เป็นเงินหมุนเวียนในการจัดซื้อวัตถุดิบ โดย  
ให้บริษัทปุ๋ยแห่งชาติ ฯ นำสต๊อกปุ๋ย/บัญชีลูกหนี้การค้าพร้อมการโอนสิทธิการรับเงินมูลค่าไม่ต่ำกว่า 600   
ล้านบาท เป็นหลักประกันต่อ ปตท. และให้บริษัท ปุ๋ยแห่งชาติ ฯ เจรจากับกลุ่มสถาบันการเงินผู้ให้กู้ยินยอม  
ให้  ปตท.  ได้รับสิทธิเรียกร้องในการได้รับชำระหนี้ได้อันเป็นอันดับแรก   ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ 
โดยให้รับข้อสังเกตของคณะรัฐมนตรี  (เกี่ยวกับการผลิตแม่ปุ๋ยเคมีซึ่งมีปริมาณธาตุอาหารในสูตรเข้มข้นเพื่อ   
จำหน่ายให้เกษตรกรผสมใช้เอง เพื่อเป็นการลดต้นทุนค่าปุ๋ยเคมีอย่างถูกต้องและถูกหลักเศรษฐกิจที่สุด  ซึ่ง  
เกษตรกรจะได้รับผลดีโดยตรง รวมทั้งประเทศชาติจะประหยัดเงินตราต่างประเทศ นอกจากนี้ ควรเร่งรัดวาง  
แผนเพื่อฟื้นฟูกิจการของบริษัท ปุ๋ยแห่งชาติ ฯ โดยการลดภาระหนี้  ลดต้นทุนการผลิต  และการปรับปรุงผู้ 
บริหาร โดยการวางแผนให้มองถึงความอยู่รอดทางธุรกิจเป็นหลักและเป็นบริษัทที่ช่วยเหลือเกษตรกรอย่าง   
แท้จริง)  ไปพิจารณาดำเนินการด้วย  แล้วให้เสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาโดยด่วน  ทั้งนี้  ในการดำเนินการ 
เพื่อแก้ไขปัญหาของบริษัท ปุ๋ยแห่งชาติ ฯ ต้องระมัดระวังไม่ทำให้ ปตท. ได้รับความเสียหายด้วย 
  

                            ให้ถอนร่างพระราชบัญญัติฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติด (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....  ที่ค้าง 
การพิจารณาที่รัฐสภา  ออกจากญัตติเรื่อง  การให้ความเห็นชอบให้พิจารณาร่างพระราชบัญญัติต่อไป  ตามมาตรา  
178  ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยที่บรรจุในระเบียบวาระการประชุมร่วมกันของรัฐสภา ครั้งที่  7  (สมัย 
สามัญทั่วไป) วันพุธที่ 23 พฤษภาคม 2544 (4) เรื่องที่ค้างการพิจารณา ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ  เนื่องจาก 
ยังมีสาระสำคัญบางประการของร่างพระราชบัญญัติ ฯ ไม่สอดคล้องกับแนวทางในการปรับปรุงแก้ไขกฎหมายเกี่ยว
กับการป้องกันปราบปรามยาเสพติดและฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติด ตามนโยบายของรัฐบาล

             คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้รองนายกรัฐมนตรี (นายเดช บุญ-หลง) รับไปตรวจสอบเกี่ยวกับการ 
พิจารณาให้ความเห็นชอบรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมที่จัดทำตามพระราชบัญญัติส่งเสริมและ  
รักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ. 2535 และประกาศกระทรวงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อม   
เรื่อง กำหนดหลักเกณฑ์  วิธีการ  ระเบียบปฏิบัติและแนวทางในการจัดทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบ ฯ  
ของคณะกรรมการผู้ชำนาญการพิจารณารายงานการวิเคราะห์ผลกระทบ ฯ  ซึ่งค่อนข้างล่าช้าและมีเรื่องค้าง     
อยู่จำนวนมาก  ก่อให้เกิดผลเสียต่อธุรกิจภาคเอกชน  ดังนั้น  หากมีปัญหาในขั้นตอนใดให้ปรับปรุงแก้ไขเพื่อ
ให้รวดเร็วขึ้น ตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอ

             คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการปรับปรุงรายละเอียดงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2545 
ของกระทรวง ทบวง กรม องค์กรอิสระ ฯลฯ ตามที่สำนักงบประมาณเสนอ โดยให้สำนักงบประมาณรับข้อเสนอเพิ่ม   
เติมของรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุขในการตัดหมายเหตุการจัดสรรงบประมาณ ในข้อ  2   ตารางที่  1 
ของกระทรวงสาธารณสุขออก  เนื่องจากงบประมาณดังกล่าวต้องจัดสรรให้กระทรวงที่เกี่ยวข้องและภาคเอกชนด้วย
รวมทั้งให้รับความเห็นของคณะรัฐมนตรี (เกี่ยวกับวงเงินงบประมาณรายจ่าย ฯ ที่คณะรัฐมนตรีได้กำหนดไว้จำนวน  
973,000 ล้านบาท นั้น ให้เพิ่มวงเงินดังกล่าวอีกจำนวน 50,000 ล้านบาท  รวมเป็นวงเงิน 1,023,000 ล้านบาท  
โดยวงเงินที่เพิ่มขึ้นให้ไปกำหนดไว้ในงบกลาง เป็นค่าใช้จ่ายสำรองเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ  ส่วนค่าใช้จ่ายในการชำระ   
หนี้กองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติจำนวน  11,650  ล้านบาท ให้ปรับปรุงไปอยู่ในงบประมาณรายจ่ายลง 
ทุน   โดยมีสัดส่วนงบลงทุนต่องบประมาณ  80 : 20  และให้สำนักงบประมาณปรับปรุงตารางที่  3  โครงสร้างงบ 
ประมาณรายจ่าย ฯ ให้สอดคล้องด้วย)  ไปพิจารณาดำเนินการ  กับอนุมัติให้สำนักงบประมาณดำเนินการจัดพิมพ์ 
เป็นร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ  พ.ศ. 2545   เพื่อเสนอสภาผู้แทนราษฎร   ตาม
ปฏิทินงบประมาณรายจ่าย ฯ ต่อไป

               คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ .. (พ.ศ. ....) ออกตามความในพระราชบัญญัติ
โรงงาน พ.ศ. 2535 (ปรับปรุงให้โรงงานขุดหรือลอก กรวด ทราย  หรือดิน  เป็นโรงงานจำพวกที่ 3  รวมไปถึงการ  
กำหนดประเภทหรือชนิดของโรงงานที่ประกอบกิจการผลิตผลิตภัณฑ์ซีดี แผ่นเสียง  แถบภาพ  และโรงงานทำหรือ  
ผสมสุราแช่ เป็นโรงงานตามบัญชีท้ายกฎกระทรวง (พ.ศ. 2535) ฯ เพื่อให้สามารถกำกับดูแลการประกอบกิจการ 
โรงงานดังกล่าวได้ตามกฎหมายว่าด้วยโรงงาน) ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ  และให้ส่งสำนักงานคณะกรรม 
การกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้รับข้อสังเกตของสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (เกี่ยวกับชื่อร่างกฎกระทรวง ฯ  
ที่เสนอมานั้นมิได้แสดงเนื้อหาสาระของร่างตามหนังสือสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ที่  นร 0204/ว 144  ลงวัน   
ที่ 12 ตุลาคม 2543 นอกจากนี้ การกำหนดประเภท ชนิด ของโรงงาน และการขออนุญาตในการประกอบกิจการ  
น่าจะมีบทเฉพาะกาลกำหนดให้กิจการโรงงานจำพวกที่ 2  สามารถประกอบกิจการได้ต่อไปโดยไม่ต้องขออนุญาต   
อีกภายหลังที่กฎกระทรวงฉบับนี้มีผลใช้บังคับแล้ว จนกว่าใบอนุญาตเดิมหมดอายุ ส่วนการกำหนดให้โรงงานผลิต
ผลิตภัณฑ์ซีดี แผ่นเสียง แถบภาพ เป็นประเภท  หรือชนิดของโรงงานลำดับที่ 107  อาจจะเกิดความซ้ำซ้อนกันกับ 
ประเภทหรือชนิดของโรงงานที่กำหนดไว้เดิมและส่วนที่เพิ่มเติมใหม่นี้ได้) ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนิน 
การต่อไปได้

             คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงคมนาคม โดยการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) รายงานผล
การดำเนินงานปรับโครงสร้าง รฟท. ครั้งที่ 8  (ณ  เดือนมีนาคม  2544  ซึ่งเป็นการรวมการรายงานผลประจำปี 
งวด ณ เดือนธันวาคม 2543 กับประจำงวด ณ เดือนมีนาคม 2544)  โดยขณะนี้การปรับโครงสร้างของ รฟท. อยู่
ในขั้นตอนการดำเนินการของคณะกรรมการเตรียมการจัดตั้งบริษัทของ  รฟท.  ซึ่งมีปลัดกระทรวงคมนาคม  เป็น 
ประธาน   ตลอดจนการพิจารณาคัดเลือกบุคคลเพื่อแต่งตั้งเป็นอนุกรรมการบริหารเปลี่ยนผ่านเพื่อสนับสนุนและ
ช่วยเหลือการปฏิบัติงานของคณะกรรมการเตรียมการจัดตั้งบริษัท ฯ  และได้รายงานผลการดำเนินงานตามความ  
เห็นและข้อสังเกตของกระทรวงการคลัง    สำนักงบประมาณ    สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและ  
สังคมแห่งชาติ คณะกรรมการกำกับนโยบายด้านรัฐวิสาหกิจ รวมทั้งคณะรัฐมนตรี ในส่วนของการว่าจ้างที่ปรึกษา  
การจัดทำแผนปฏิรูปเพื่อปรับปรุงและพัฒนาบุคลากร การทำความเข้าใจกับพนักงานในเรื่อง การปรับโครงสร้าง 
รฟท. การให้บริการขนส่งสินค้า การปรับปรุงด้านบริการ  การปรับปรุงด้านความสะอาด  และการปรับปรุงด้าน  
ความปลอดภัย

             คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน ในท้องที่ตำบลทุ่ง  
สุขลา อำเภอศรีราชา  และตำบลบางละมุง อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี พ.ศ. .... (กำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะ  
เวนคืนในท้องที่ดังกล่าว เพื่อขยายห้วยบ้านนาและสร้างถนนเลียบห้วย ตามโครงการปรับปรุงชุมชนเมืองใหม่แหลม 
ฉบัง เพื่อประโยชน์ในการป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำท่วมอันเป็นกิจการสาธารณูปโภค) ที่สำนักงานคณะกรรมการ 
กฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว   ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ   และให้นำขึ้นทูลเกล้า ฯ  ถวายเพื่อประกาศใช้บังคับ
เป็นกฎหมายต่อไป

               คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการปรับปรุงแผนการก่อหนี้จากต่างประเทศประจำปีงบประมาณ  
พ.ศ. 2544 (ปรับปรุงครั้งที่ 1) ประกอบด้วย โครงการรัฐบาลกู้ตรง 7 โครงการ  วงเงินเทียบเท่า  625.66
ล้านเหรียญสหรัฐ ฯ และโครงการรัฐบาลค้ำประกัน จากเดิม 5 โครงการ เพิ่มเป็น 7 โครงการ  วงเงินเทียบ  
เท่า 1,467.65 ล้านเหรียญสหรัฐ ฯ ซึ่งโครงการที่เพิ่มเติมจำนวน 2 โครงการ ได้แก่  โครงการจัดซื้อเครื่อง  
บินพิสัยไกล ลำที่ 1  และลำที่ 2  ของบริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน) โดยวงเงินกู้ต่างประเทศทั้งสิ้นยัง 
อยู่ในกรอบเพดานเงินกู้  2,300  ล้านเหรียญสหรัฐ ฯ  ตามที่คณะกรรมการนโยบายหนี้ของประเทศเสนอ
และให้กระทรวงคมนาคม (บริษัทการบินไทย  ฯ) รายงานผลการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
17 ตุลาคม 2543 ที่ให้บริษัทการบินไทย ฯ รับความเห็นของคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคม  
แห่งชาติและคณะกรรมการกำกับนโยบายด้านรัฐวิสาหกิจ  (เกี่ยวกับการจัดหาเงินลงทุนสำหรับการจัดซื้อ  
เครื่องบิน  รวมทั้งประเด็นที่บริษัทการบินไทย ฯ จำเป็นต้องให้ความสำคัญเพื่อให้สามารถบรรลุเป้าหมาย  
ในการเป็นสายการบินชั้นนำของโลก  ทั้งในด้านคุณภาพ  และประสิทธิภาพการบริการ  ตลอดจนเพิ่มขีด  
ความสามารถในการแข่งขันในระยะยาวได้อย่างแท้จริง)  ไปพิจารณาดำเนินการให้คณะรัฐมนตรีทราบต่อ 
ไป

            คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงมหาดไทย (กรมการพัฒนาชุมชน) รายงานผลการดำเนิน 
งานโครงการแก้ไขปัญหาความยากจน  (กข.คจ.)  ในช่วงระยะเวลาเดือนตุลาคม 2543 - มกราคม 2544 งวด
ที่  1/2544   โดยผลการดำเนินโครงการ  กข.คจ.  ในช่วงระยะเวลาดังกล่าวสามารถตอบสนองความต้องการ
ของประชาชนในการพัฒนารายได้ให้แก่ครัวเรือนอย่างแท้จริง ประชาชนมีความสามารถและมีศักยภาพในการ
พัฒนาตนเอง  ครอบครัว  ชุมชน  และมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น  สามารถพึ่งตนเองได้ในชุมชนท่ามกลางวิกฤตด้าน 
เศรษฐกิจปัจจุบัน  โดยกิจกรรมสนับสนุนและเพิ่มประสิทธิภาพโครงการ  กข.คจ.  นั้น  ได้ดำเนินการปรับปรุง   
แก้ไขร่างระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการบริหารและการใช้จ่ายเงินโครงการซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนิน 
การ รวมทั้งขอรับการสนับสนุนงบประมาณจากองค์กรส่วนท้องถิ่น ทบทวนและเน้นแนวปฏิบัติของพัฒนาการ
อำเภอ  "สมุดบันทึกสถานะหมู่บ้าน กข.คจ. ระดับอำเภอ"  เพื่อใช้เป็นเครื่องมือในการบริหารและปฏิบัติอย่าง  
แท้จริงแต่งตั้งพัฒนากร (รายบุคคล) เพื่อรับผิดชอบหมู่บ้าน  กข.คจ.  ให้ทุกหมู่บ้าน   ตลอดจนการสับเปลี่ยน 
ตำแหน่งหน้าที่/พื้นที่รับผิดชอบให้เป็นปัจจุบัน    และให้จังหวัดปรับปรุงและจัดทำฐานข้อมูลโครงการ  กข.คจ.
ระดับหมู่บ้าน ตามแนวทางที่กำหนด

                คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามความเห็นของสำนักงบประมาณ โดยเห็นชอบให้กรมพลศึกษาเปลี่ยนแปลง  
รายการงบประมาณปี พ.ศ. 2544 จากรายการปรับปรุงอาคารสถานที่ ไฟฟ้า ประปา ถนนภายในวิทยาลัย จำนวน 
5,270,000 บาท เพื่อสมทบค่าก่อสร้างอาคารเรียนแบบพิเศษ 10 ชั้น  พร้อมครุภัณฑ์  1  หลัง  วิทยาลัยพลศึกษา  
จังหวัดสุพรรณบุรี จากวงเงินเดิม  85,000,000  บาท  เป็นวงเงิน  90,270,000  บาท  โดยจ่ายจากงบประมาณปี 
พ.ศ. 2541 - 2543 จำนวน 73,528,000 บาท  และจ่ายจากเงินงบประมาณปี พ.ศ. 2544  จำนวน 16,742,000   
บาท

              คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างประกาศทบวงมหาวิทยาลัย เรื่อง การแบ่งส่วนราชการในมหาวิทยาลัย  
เชียงใหม่  (ฉบับที่ ..)  พ.ศ. .... (เปลี่ยนชื่อภาควิชาในคณะแพทยศาสตร์  มหาวิทยาลัยเชียงใหม่  จาก  "ภาควิชา  
โสตนาสิก  ลาริงซ์วิทยา"  เป็น  "ภาควิชาโสต  ศอ  นาสิกวิทยา"  และยุบรวมภาควิชา  6  ภาควิชาในคณะเภสัช   
ศาสตร์  เพื่อจัดตั้งเป็นสายวิชาใหม่มีฐานะเทียบเท่าภาควิชาจำนวน 2 สายวิชา  คือ  ภาควิชาเภสัชเวท  ภาควิชา   
เภสัชเคมี   และภาควิชาชีวเภสัชกรรม  ภาควิชาเภสัชชุมชน  และภาควิชาบริหารเภสัชกิจ  เพื่อจัดตั้งเป็นสายวิชา  
วิทยาศาสตร์เภสัชกรรม และสายวิชาบริบาลเภสัชกรรม) ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว  
ตามที่ทบวงมหาวิทยาลัยเสนอ    และให้ส่งไปยังสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเพื่อประกาศในราชกิจจานุเบกษา 
ต่อไป

              คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 5 (คกก. 5)
เกี่ยวกับการลดค่าธรรมเนียมจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมกรณีการปรับปรุงโครงสร้างหนี้และกรณีการดำเนิน 
การตามกฎหมายว่าด้วยล้มละลาย ของกระทรวงการคลัง  โดยอนุมัติหลักการ เป้าหมาย และการออกประกาศ 
กระทรวงมหาดไทย  รวม 4 ฉบับ  ได้แก่  ประกาศกระทรวงมหาดไทย  เรื่อง  การลดค่าธรรมเนียมจดทะเบียน 
สิทธิและนิติกรรมกรณีการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ตามหลักเกณฑ์ที่คณะรัฐมนตรีกำหนด (ออกตามประมวลกฎ 
หมายที่ดินและอาคารชุด) และร่างประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การลดค่าธรรมเนียมจดทะเบียนสิทธิและ 
นิติกรรมกรณีการดำเนินการตามกฎหมายว่าด้วยล้มละลายตามหลักเกณฑ์ที่คณะรัฐมนตรีกำหนด  (ออกตาม  
ประมวลกฎหมายที่ดินและอาคารชุด)  โดยร่างประกาศกระทรวงมหาดไทย ทั้ง  4  ฉบับ  ให้ส่งคณะกรรมการ
กฤษฎีกาตรวจพิจารณาโดยด่วน  และดำเนินการต่อไปได้  ทั้งนี้  ให้กระทรวงการคลังรับความเห็นของ คกก. 5  
(เกี่ยวกับการพิจารณากำหนดมาตรการทางกฎหมายเพื่อรองรับปัญหาจากการปรับปรุงโครงสร้างหนี้   กรณี
ที่ลูกหนี้ของสถาบันการเงินโอนอสังหาริมทรัพย์หรือห้องชุดเพื่อชำระหนี้ให้กับสถาบันการเงินหรือลูกหนี้ของ  
เจ้าหนี้อื่นโอนอสังหาริมทรัพย์หรือห้องชุดเพื่อชำระหนี้ให้กับเจ้าหนี้อื่น ซึ่งมักจะมีกำหนดระยะเวลา  3 - 5  ปี  
แต่ร่างประกาศกระทรวงมหาดไทย ฯ  กำหนดให้มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษา  
และสิ้นสุดในวันที่  31  ธันวาคม  2544  ดังนั้น  อาจก่อให้เกิดปัญหาในทางปฏิบัติในกรณีที่มีการโอนอสังหา
ริมทรัพย์ระหว่างลูกหนี้กับเจ้าหนี้เมื่อพ้นระยะเวลาสิ้นสุดการบังคับใช้) ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป

คณะรัฐมนตรีมีมติเกี่ยวกับเรื่อง วันหยุดชดเชยของทางราชการ ตามความเห็นของคณะทำงานพิจารณา  
เรื่องวันหยุดชดเชยของทางราชการ โดยวันหยุดราชการประจำปี  ซึ่งเป็นวันสำคัญของชาติ ศาสนา และพระมหา 
กษัตริย์  ให้คงความสำคัญไว้โดยไม่มีการเปลี่ยนแปลง   ส่วนวันหยุดชดเชยของทางราชการตามมติคณะรัฐมนตรี
เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2538  นั้น  ให้ยกเลิกหลักการวันหยุดชดเชยดังกล่าว  และให้ถือเป็นหลักการว่า  กรณีวัน 
หยุดราชการประจำปีวันใด ตรงกับวันหยุดราชการประจำสัปดาห์ให้เลื่อนวันหยุดราชการประจำปีวันนั้นไปหยุด  
ในวันทำการถัดไป โดยให้หยุดชดเชยได้ไม่เกิน 1 วัน  ทั้งนี้  ให้ถือเป็นหลักปฏิบัติตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2544 
เป็นต้นไป รวมทั้งให้กำหนดเป็นมาตรการเพิ่มเติมให้ส่วนราชการ  รัฐวิสาหกิจ  และหน่วยงานอื่นของรัฐถือเป็น 
นโยบายในการเข้มงวดกรณีการลาก่อน-หลังวันหยุดราชการประจำสัปดาห์   วันหยุดชดเชย    และวันหยุดราช  
การประจำปี หากไม่มีเหตุอันสมควรไม่ให้มีการอนุญาตการลา และให้ถือว่าข้าราชการ  พนักงาน  ตลอดจนเจ้า 
หน้าที่อื่นของรัฐที่ประสงค์จะใช้สิทธิการลาโดยไม่มีเหตุอันควร  เป็นผู้ไม่ตั้งใจปฏิบัติหน้าที่ราชการ   นอกจากนี้  
ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องหรือองค์กรที่กำกับดูแลรับไปดำเนินการปรับปรุงแก้ไขกฎ   ระเบียบ   ข้อบังคับ    หรือ 
ประกาศที่เกี่ยวข้องตามหลักการดังกล่าวต่อไป เพื่อให้สอดคล้องและเป็นมาตรฐานเดียวกัน

                 คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการปฏิบัติงานตามแผนปฏิบัติการของแผนพัฒนาเศรษฐกิจและ 
สังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 8 ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2543 ระยะที่  2 (เดือนเมษายน - กันยายน 2543) ของสำนัก  
นายกรัฐมนตรี ในส่วนของภาพรวมงาน/โครงการสำคัญที่ดำเนินการตามแผนปฏิบัติการของแผนพัฒนา ฯ  ฉบับที่ 
8 ระยะที่ 2 จำนวน 228 งาน/โครงการ ประกอบด้วย  การพัฒนาศักยภาพของคนไทย  การพัฒนาสภาพแวดล้อม   
ของสังคมให้ส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนาคน   การเสริมสร้างศักยภาพการพัฒนาของภูมิภาคและชนบทเพื่อยก   
ระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนอย่างทั่วถึง  รวมทั้งการพัฒนาสมรรถนะทางเศรษฐกิจเพื่อสนับสนุนการพัฒนาคน 
และคุณภาพชีวิต   การจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม   การพัฒนาประชารัฐ    และการบริหารจัดการ 
เพื่อการแปลงแผนไปสู่การปฏิบัติ   ตามที่สำนักนายกรัฐมนตรีเสนอ   โดยให้รับข้อสังเกตของสำนักงานคณะกรรม  
การพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (เกี่ยวกับการรายงานผลการปฏิบัติงานของส่วนราชการในสังกัดสำนัก  
สำนักนายกรัฐมนตรี   ส่วนใหญ่เป็นการรายงานผลการปฏิบัติงานเฉพาะที่เป็นผลผลิต   (Output)   ของโครงการ 
แต่ยังขาดส่วนที่เป็นผลลัพธ์  (Outcome)  ของโครงการ  ซึ่งจะเป็นประโยชน์ในการปรับปรุงการปฏิบัติงานและผล
กระทบที่เกิดขึ้นจากการปฏิบัติงานนั้น ๆ) ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป 

                คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติการปรับปรุงองค์ประกอบและอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการพิจารณาปรับ 
ปรุงประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง  วิธีพิจารณาความอาญา    และกฎหมายอาญา    รวมทั้งกฎหมายที่  
เกี่ยวกับห้างหุ้นส่วน บริษัท และองค์กรทางธุรกิจ รวม 4 คณะ  โดยองค์ประกอบของคณะกรรมการดังกล่าวให้ใช้   
แนวทางพิจารณาแต่งตั้งจากตัวบุคคลซึ่งเป็นผู้ทรงคุณวุฒิ   มีความรู้ความเชี่ยวชาญ   และมีประสบการณ์เกี่ยวกับ
กฎหมายที่จะมีการพิจารณาปรับปรุงนั้น ๆ   เป็นหลัก   สำหรับอำนาจหน้าที่ให้คณะกรรมการดังกล่าวสามารถ  
จัดให้มีการศึกษาวิจัยหรือกลั่นกรองเรื่องที่อยู่ในการพิจารณา และขอให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาจัดให้ 
มีการสัมมนาหรือรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนได้ เพื่อนำผลการศึกษาวิจัย   ผลการสัมมนา   และการรับฟัง  
ความคิดเห็นจากประชาชนมาพิจารณาประกอบการปรับปรุงประมวลกฎหมายทั้ง 4 คณะต่อไป ตามที่สำนักงาน
คณะกรรมการกฤษฎีกาเสนอ

              คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบการหารือข้อกฎหมายเกี่ยวกับสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ตาม 
ความเห็นของคณะกรรมการกฤษฎีกา (คณะที่ 1) รวมทั้งข้อสังเกตกรณี นายสุชัย ยอดโพธิ์ทอง ได้ยื่นหนังสือร้อง
เรียนต่อผู้ตรวจราชการแผ่นดินของรัฐสภาเกี่ยวกับฐานะของสำนักงานทรัพย์สิน ฯ   ตามพระราชบัญญัติประกอบ 
รัฐธรรมนูญว่าด้วยผู้ตรวจราชการแผ่นดินของรัฐสภา พ.ศ. 2542 มาตรา 16 นั้น  คณะกรรมการ ฯ พิจารณาแล้ว   
เห็นว่า  สำนักงานทรัพย์สิน ฯ  แม้จะจัดตั้งขึ้นโดยพระราชบัญญัติจัดระเบียบทรัพย์สินฝ่ายพระมหากษัตริย์  พุทธ  
ศักราช 2479 และเป็นนิติบุคคลตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา 4 ทวิ แห่งพระราชบัญญัติดังกล่าว ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดย
พระราชบัญญัติ ฯ (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2491  ก็ตาม  แต่ก็มิได้มีการจัดให้เป็น "หน่วยราชการ" ตามกฎหมายว่าด้วย 
ระเบียบบริหารราชการแผ่นดินหรือกฎหมายว่าด้วยการปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม  หรือกฎหมายอื่น  ฉะนั้น 
สำนักงานทรัพย์สิน ฯ จึงมิใช่หน่วยราชการ ตามที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอ