คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบคำตอบกระทู้ถามที่  258  ร. เรื่อง  การสนับสนุนให้เลี้ยงนกกระจอกเทศ 
ของนายนิยม  วรปัญญา  สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดลพบุรี  ซึ่งถามว่า  ขอให้นายกรัฐมนตรีสั่งการไปยัง  
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงการคลัง  และกระทรวงมหาด 
ไทย เพื่อร่วมช่วยเหลือและให้การสนับสนุนการเลี้ยงนกกระจอกเทศได้หรือไม่ อย่างไร  และกระทรวงการคลัง 
มีแผนและนโยบายที่จะช่วยเหลือให้ผู้เลี้ยงนกกระจอกเทศกู้เงินในอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 3 ต่อปี หรือไม่  อย่าง 
ไร มีกระทรวงใดบ้างที่จัดเงินทุนให้กู้ยืมในอัตราดังกล่าว เพื่อให้ผู้เลี้ยงนกกระจอกเทศกู้ในกรณีดังกล่าว  นอก 
จากนี้  กรมปศุสัตว์มีมาตรการที่จะช่วยเหลือให้คำแนะนำในการเลี้ยง  การบำรุงรักษา  การป้องกันโรคที่อาจ 
เกิดกับนกกระจอกเทศไว้อย่างไร และแหล่งพันธุ์นกกระจอกเทศ ตลาด เนื้อ หนัง ขน  ที่รับซื้อมีที่ใดบ้าง  ส่วน
ในด้านการตลาดนายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้หน่วยงานใดเป็นผู้รับผิดชอบเนื่องจากนกกระจอกเทศทำราย
ได้เข้าประเทศเพราะชาวต่างประเทศนิยมบริโภคกันมาก  ตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ  และให้
ประกาศในราชกิจจานุเบกษาต่อไป

              คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบคำตอบกระทู้ถามที่ 337 ร. เรื่อง มาตรการรองรับปัญหาการส่งออก 
เครื่องใช้ไฟฟ้าของไทยจากการออกกฎหมายรีไซเคิลเครื่องใช้ไฟฟ้า 4 ประเภทของประเทศญี่ปุ่น  ของนาย
นพดล อินนา  สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร  (บัญชีรายชื่อ)  ซึ่งถามว่า  กระทรวงพาณิชย์ได้มีการประเมินผล 
กระทบจากการออกกฎหมายรีไซเคิลเครื่องใช้ไฟฟ้า 4  ประเภทของประเทศญี่ปุ่น  ได้แก่  ตู้เย็น  โทรทัศน์
เครื่องซักผ้า  และเครื่องปรับอากาศ ว่า มีผลกระทบต่อผู้ผลิตและผู้ส่งออกของไทยอย่างไรบ้าง  และมีแผน   
งานตลอดจนมาตรการในการรองรับปัญหาดังกล่าวไว้อย่างไร  และได้ดำเนินการไปแล้วเพียงใด และอย่าง
ไร กระทรวงอุตสาหกรรมได้มีมาตรการในการรองรับปัญหาดังกล่าว โดยการเพิ่มประสิทธิภาพ   คุณภาพ   
ในการผลิต และอายุการใช้งานของเครื่องใช้ไฟฟ้าให้มากขึ้น รวมถึงการศึกษาหาแนวทางลดต้นทุนในการ 
ผลิตสินค้าดังกล่าวไว้อย่างไรบ้าง ตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ  และให้ประกาศในราชกิจจา
นุเบกษาต่อไป

              คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติร่างประกาศกระทรวงพาณิชย์ ว่าด้วยการส่งสินค้าออกไปนอกราชอาณา 
จักร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. 2544  (ยกเลิกประกาศกระทรวงพาณิชย์ ฯ เกี่ยวกับมาตรการคว่ำบาตรทางอาวุธต่อ 
สหพันธ์สาธารณรัฐยูโกสลาเวียและมณฑลโคโซโว)  ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ  และให้ส่งสำนักงานคณะ
กรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้

             คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการการดำเนินงานในระยะต่อไป เกี่ยวกับการจัดตั้งสำนักงานผู้แทน
การค้าไทย โดยแบ่งงานเป็น 2 ระยะ  ได้แก่  ระยะเฉพาะหน้า  (ภายในตุลาคม 2544)  จัดตั้งสำนักงาน ฯ  โดย 
อาศัยอำนาจตามมาตรา 11 (8)  และ (9) แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534  ตัด  
โอนงาน  และยืมเจ้าหน้าที่ในส่วนที่เกี่ยวข้องที่มีอยู่ในกระทรวงพาณิชย์มาปฏิบัติงานที่สำนักงาน  ฯ     และระยะ 
ที่สอง (พฤศจิกายน 2544) จัดอัตรากำลัง คัดเลือกบุคคลากรที่มีคุณสมบัติเหมาะสมกับงาน ตั้งงบประมาณและ  
ดำเนินการออกพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งสำนักงาน ฯ เป็นการถาวร โดยดำเนินการในโอกาสแรกที่ทำได้ หลังจาก  
รัฐบาลตกลงเรื่องการปรับโครงสร้างระบบราชการแล้ว ในต้นพฤศจิกายน 2544  สำหรับงบประมาณ ในขั้นต้น  
ใช้งบประมาณที่ตั้งไว้ในต้นสังกัดเดิม  โดยจัดให้มีการตัดแบ่งงบประมาณด้านเจรจาธุรกิจระหว่างประเทศและจัด  
สรรงบประมาณก้อนหนึ่งเป็นรายปีจากกองทุนส่งเสริมการส่งออก เพื่อใช้ในการปฏิบัติหน้าที่ของสำนักงาน  ฯ    
ตามภาระกิจ  ตามที่ประธานคณะทำงานจัดตั้งสำนักงานผู้แทนการค้า (นายประจวบ ไชยสาส์น) เสนอ  โดยใน 
ชั้นนี้ให้เน้นภารกิจหลักในการเจาะตลาดการค้าตามวัตถุประสงค์การแต่งตั้งผู้แทนการค้าไทย  ทั้ง  3  คน  เป็น 
เหตุผลหลักในการตั้งหน่วยงานเบื้องต้นตามมาตรา 11 (8) และ (9) ฯ  ก่อน  ส่วนรายละเอียดเกี่ยวกับอำนาจ  
หน้าที่  โครงสร้าง  ตลอดจนการดำเนินงานขั้นต่อไปให้รอผลการประชุมปรับโครงสร้างระบบราชการ  ในวันที่  
2  พฤศจิกายน  2544  ทั้งนี้  มอบให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีการับไปพิจารณาร่วมกับสำนักเลขาธิการ 
นายกรัฐมนตรี  สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี  และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อพิจารณาออกระเบียบ และดำเนิน
การอื่น ๆ เกี่ยวกับการจัดตั้งสำนักงาน ฯ ตามหลักการดังกล่าวในเบื้องต้นต่อไป

             คณะรัฐมนตรีมีมติมอบให้กระทรวงมหาดไทยรับไปพิจารณาร่วมกับกระทรวงการคลัง กระทรวงพาณิชย์
และกรุงเทพมหานคร เพื่อกำหนดมาตรการในการช่วยเหลือธุรกิจค้าปลีกค้าส่งขนาดเล็กและขนาดกลาง โดยวาง
มาตรการในการช่วยเหลือให้มีความเข้มแข็งและมีกำลังเงิน เช่น การลดอัตราดอกเบี้ย  ทั้งนี้ ในกรณีจำเป็นต้องมี  
กฎหมายว่าด้วยการประกอบธุรกิจค้าปลีกค้าส่ง  จะต้องมีบทบัญญัติในเชิงสร้างสรรค์  และเป็นกฎหมายที่นานา
ประเทศใช้บังคับ โดยต้องไม่ส่งสัญญาณให้ระบบตลาดหรือการค้าเสรีเสียหาย

             คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบและเห็นชอบการเชิญชวนประชาชนซื้อสินค้าไทยเป็นของขวัญเนื่องในวัน  
ขึ้นปีใหม่ 2545 ตามที่รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายจาตุรนต์ ฉายแสง) เสนอ  ซึ่งคณะรัฐมนตรี  
เห็นว่า ในการเชิญชวนให้ประชาชนซื้อสินค้าไทยเพื่อเป็นของขวัญเนื่องในโอกาสวันขึ้นปีใหม่ 2545 นั้น  ควร 
เน้นสินค้าไทยชนิดต่าง ๆ จากโครงการหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ ทั่วประเทศ  โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง  เช่น 
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงพาณิชย์  กระทรวงมหาดไทย  กระทรวงอุตสาหกรรม  ควรเร่งส่งเสริม
และสนับสนุนด้านการออกแบบผลิตภัณฑ์  (Desing)  และการจัดการด้านการตลาด  (Marketing)  ที่เหมาะ
สม ทั้งนี้ ให้สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี (กรมประชาสัมพันธ์และองค์การสื่อสารมวลชนแห่งประเทศ
ไทย) ดำเนินการรณรงค์และประชาสัมพันธ์เรื่องนี้ด้วย

               คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบคำตอบกระทู้ถามที่  159  เรื่อง  แนวทางแก้ไขปัญหากฎหมายค้าปลีก 
ของนายวิทยา ภูมิเหล่าแจ้ง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดกาฬสินธุ์ ซึ่งถามว่า กระทรวงพาณิชย์มีนโยบาย 
ในการแก้ไขกฎหมายค้าปลีกเพื่อคุ้มครองกิจการของคนไทยไม่ให้เสียเปรียบชาวต่างประเทศอย่างไร    และมี 
มาตรการที่จะส่งเสริมธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมอย่างไรบ้าง เพื่อที่จะสร้างความเป็นธรรมและคุ้มครอง  
ผู้บริโภค  ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ   และมอบให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ตอบในที่ประชุมสภาผู้
แทนราษฎรต่อไป

             คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายการุณ กิตติสถาพร ให้ดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวงพาณิชย์  
(นักบริหาร 11)  ทั้งนี้  ให้มีผลตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ  แต่งตั้งเป็นต้นไป  ตามที่กระทรวง 
พาณิชย์เสนอ

            คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงพาณิชย์รายงานความคืบหน้าในการจัดตั้งตลาดสินค้าเกษตร  
ล่วงหน้าแห่งประเทศไทยตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ  ดังนี้   คณะกรรมการกำกับการซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้า
(คณะกรรมการ   ก.ส.ล.)  ได้พิจารณากำหนดเป้าหมายการจัดตั้งตลาด ฯ และจะเปิดดำเนินการซื้อขายในเดือน
ตุลาคม 2545  ทั้งนี้  ได้จัดตั้งสำนักงานคณะกรรมการ ก.ส.ล. เป็นการชั่วคราวในบริเวณกระทรวงพาณิชย์
ณ อาคาร 1 ชั้น 2  กรมการค้าภายใน ถนนมหาราช กรุงเทพมหานคร มีโครงสร้างและอัตรากำลังเล็กกะทัดรัด  
ขณะนี้มอบหมายให้ข้าราชการกรมการค้าภายในช่วยปฏิบัติงานไปพลางก่อน ขณะเดียวกันได้จัดจ้างบริษัทที่
ปรึกษาทำหน้าที่ศึกษาและแนะนำการวางระบบและโครงสร้างองค์กร ซึ่งได้ลงนามจ้างไปแล้วเมื่อเดือน
กรกฎาคม  2544  และงานสิ้นสุดเมื่อตลาดเปิดดำเนินการซื้อขายไปแล้ว 6 เดือน (ประมาณเดือนเมษายน 2546) 
นอกจากนี้ ได้ดำเนินการกำหนดหลักเกณฑ์วิธีการ และเงื่อนไขในการขออนุญาต และการอนุญาตให้ประกอบธุรกิจ
การซื้อขายล่วงหน้า : และได้แต่งตั้งคณะกรรมการตลาดและผู้จัดการตลาดแล้ว เมื่อวันที่ 20 กันยายน 2544  
ปัญหาและอุปสรรคในขณะนี้คือ  การเบิกจ่ายและโอนเงินจากกองทุนรวมเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรซึ่งได้รับอนุมัติแล้ว
ไปใช้ในการดำเนินงานจัดตั้งตลาด  ฯซึ่งจะต้องแก้ไขโดยเร่งด่วน

            คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบและเห็นชอบผลการเดินทางไปเยือนประเทศฟิลิปปินส์อย่างเป็นทางการ 
ของนายกรัฐมนตรี  ระหว่างวันที่ 12 - 13 กันยายน 2544  โดยได้มีการหารือเรื่องต่าง  ๆ  กับนางกลอเรีย  
มาคาปากัล อาร์โรโย ประธานาธิบดีฟิลิปปินส์  ได้แก่  ทั้งสองประเทศตกลงที่จะเพิ่มพูนการค้าทวิภาคีในรูป 
แบบการค้าแบบหักบัญชี (Account Trade) มากขึ้น และเห็นชอบให้เจ้าหน้าที่ของทั้งสองฝ่ายเจรจาหารือกัน 
ในรายละเอียดต่อไป   ประเทศฟิลิปปินส์ยินดีที่จะซื้อน้ำตาลทรายจากไทยเป็นลำดับแรกในจำนวนที่ขาดอยู่ 
ประมาณ 6 แสนตัน  และซื้อข้าวสารจากไทยในกรณีที่มีความขาดแคลนหรือมีภัยพิบัติเกิดขึ้นและจำเป็นต้อง  
ซื้อข้าวสารจากต่างประเทศ นอกจากนี้ ได้ตกลงที่จะร่วมมือด้านการท่องเที่ยวโดยการรณรงค์ประชาสัมพันธ์
ร่วมกัน (Joint  Advertising) เพื่อดึงดูดให้นักท่องเที่ยว โดยเฉพาะจากทวีปยุโรปและอเมริกามาท่องเที่ยวและ 
พำนักในประเทศทั้งสองระยะยาว (Long Haul) โดยจัดให้เป็นการเดินทางครั้งเดียวท่องเที่ยวทั้ง  2  ประเทศ 
(Single Packaging Destination)  ทั้งนี้  ให้กระทรวงการคลัง  กระทรวงการต่างประเทศ   กระทรวงพาณิชย์ 
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับไปประสานและดำเนินการต่อไป ตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอ

               คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างประกาศกระทรวงพาณิชย์  เรื่อง  การนำสารซัลบิวตามอล     
(Salbutamol)  เข้ามาในราชอาณาจักร พ.ศ. 2544  (ควบคุมการนำสารซัลบิวตามอล   (Salbutamol)   ที่ 
ใช้ผสมกับอาหารเลี้ยงสุกรเพื่อลดไขมันและเพิ่มปริมาณเนื้อแดงในสุกร  เข้ามาในราชอาณาจักรโดยต้องขอ  
อนุญาต   และจะอนุญาตให้นำเข้าได้เฉพาะกรณีที่มีหนังสือรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและ  
ยา กระทรวงสาธารณสุข)  ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจ 
พิจารณา  แล้วดำเนินการต่อไปได้   โดยให้กระทรวงพาณิชย์   กระทรวงสาธารณสุข   กระทรวงเกษตรและ  
สหกรณ์  และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องควบคุมดูแล   และดำเนินการตามกฎหมายกับผู้ที่ไม่ปฏิบัติตามประกาศ 
กระทรวงพาณิชย์ดังกล่าวอย่างจริงจัง  รวมทั้งให้กระทรวงพาณิชย์และกระทรวงสาธารณสุขประชาสัมพันธ์
เพื่อให้ประชาชนทราบ   โดยเฉพาะผู้ผลิตหรือผู้ประกอบการได้ตระหนักถึงภัยอันตราย   และปรับทิศทาง 
การผลิตและการประกอบการให้สอดคล้องกับนโยบายในเรื่องนี้   และมาตรการต่าง  ๆ   ที่ทางราชการจะ 
ดำเนินการควบคุมดูแลอย่างจริงจังและเข้มงวด

             คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการประชุมคณะกรรมการพัฒนาการส่งออก ครั้งที่ 3/2544 เกี่ยวกับ 
การปรับเปลี่ยนสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ตามนโยบายการขยายการส่งออกไปตลาดใหม่ โดย 
มีมติเห็นชอบให้ย้ายสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศเพิ่มเติม  จากประเทศบรูไน  ไปยังประเทศอียิปต์ 
ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ

              คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงพาณิชย์รายงานผลการประชุมระดับรัฐมนตรีกลุ่มเคร์นส์ 
ครั้งที่ 22 ณ เมือง Punta del Este  ประเทศอุรุกวัย  เมื่อวันที่ 3 - 5 กันยายน 2544  โดยรัฐมนตรีช่วยว่าการ  
กระทรวงพาณิชย์ (นายสุวรรณ วลัยเสถียร) ได้นำคณะผู้แทนไทย ซึ่งประกอบด้วย ผู้แทนจากกระทรวงเกษตร 
และสหกรณ์  กระทรวงพาณิชย์  และกระทรวงการต่างประเทศ  เข้าร่วมการประชุม   โดยสาระสำคัญของการ 
ประชุม ฯ  ดังกล่าว  ประเทศสมาชิกได้พร้อมใจกันประกาศจุดยืนของกลุ่มในเรื่องการเจรจา  WTO  รอบใหม่ที่
กรุงโดฮา ประเทศกาต้าร์ และออกแถลงการณ์เรียกร้องให้ที่ประชุม WTO ที่โดฮา กาต้าร์ ตกลงในเรื่องเกษตร
โดยให้ยุติการเลือกปฏิบัติกับสินค้าเกษตร  ปฏิรูปการค้าสินค้าเกษตรอย่างจริงจัง โดยยกเลิกการอุดหนุนส่ง 
ออก (export subsidies) ทุกชนิด ลดการอุดหนุนภายในลงให้มาก  และเปิดตลาดสินค้าเกษตรให้กว้างขึ้นอีก 
ส่วนเรื่องที่ไม่เกี่ยวกับการค้า  (non - trade concerns)  จะต้องเป็นเรื่องรอง และต้องไม่มีผลกระทบบิดเบือน
การค้า รวมทั้งไม่เป็นข้ออ้างให้นำมาตรการกีดกันใหม่ ๆ มาใช้ด้วย กับมีการให้แต้มต่อสำหรับประเทศกำลัง  
พัฒนาที่ชัดเจน จริงจังและขยายเพิ่มขึ้นจากเดิม  และมีความชัดเจนในเรื่องกำหนดเวลา  กำหนดเป้าหมายใน 
แต่ละขั้นตอน และรูปแบบโครงสร้างการเจรจาการค้าสินค้าเกษตร โดยประเทศไทยได้ผลักดันประเด็นที่เป็น
ปัญหาของไทยไว้ในแถลงการณ์ด้วย  เช่น  ปัญหาการกีดกันการนำเข้าโดยการใช้มาตรการสุขอนามัยและสุข 
อนามัยพืช  และปัญหาที่ประเทศพัฒนาแล้วให้การอุดหนุนจำนวนมากจนประเทศที่มีศักยภาพในการผลิตไม่
สามารถแข่งขันได้  นอกจากนี้  ยังได้มีการหารือสองฝ่ายระหว่างอาเซียนกับสหรัฐ ฯ ระหว่างรัฐมนตรีช่วยว่า
การกระทรวงพาณิชย์และรองผู้แทนการค้าสหรัฐ ฯ และระหว่างไทย-นิวซีแลนด์

               คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่ทบวงมหาวิทยาลัยรายงานผลงานในรอบ 6 เดือน  ของรัฐมนตรี 
ว่าการทบวงมหาวิทยาลัย ตั้งแต่วันที่ 20 กุมภาพันธ์ ถึง  30  สิงหาคม  2544 ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ  
ดังนี้  แบ่งเป็น  ส่วนที่  1  ผลงานที่ตอบสนองนโยบายเร่งด่วนของคณะรัฐมนตรี ได้แก่ ผลการดำเนินงานตาม
กรอบอำนาจหน้าที่ที่สอดคล้องกับนโยบายเร่งด่วน รวม 3 ด้าน ได้แก่ จัดให้มีโครงการหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ 
การสร้างหลักประกันสาธารณสุขถ้วนหน้า  และการปราบปรามและป้องกันยาเสพติด  ส่วนที่  2  ผลการดำเนิน
งานตามนโยบายของทบวงมหาวิทยาลัยที่สอดคล้องกับนโยบายหลักของทบวงมหาวิทยาลัย รวม 6 ด้าน ได้แก่  
ด้านคุณภาพมาตรฐานการศึกษาและความเป็นเลิศ ด้านความเท่าเทียมและโอกาสอุดมศึกษา ด้านประสิทธิภาพ
การบริหารและการตรวจสอบ ด้านความสอดคล้องกับความต้องการของสังคมและชุมชน  ด้านความเป็นสากล
ของอุดมศึกษาไทยและด้านบทบาทของภาคเอกชน  และส่วนที่ 3 มาตรการการดำเนินการในระยะต่อไป ซึ่งเป็น
มาตรการหลักที่ต้องดำเนินการต่อเนื่องจากผลการดำเนินงานในปัจจุบัน ได้แก่  การเร่งรัดดำเนินการและ
ประสานงานกับมหาวิทยาลัย/สถาบัน  เพื่อแก้ไขปัญหาการเข้าร่วมโครงการการสร้างหลักประกันสาธารณสุข
ถ้วนหน้าของโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยทุกแห่ง   ติดตามโครงการฝึกอบรมและถ่ายทอดเทคโนโลยีสู่ชุมชนและ
เกษตรกรการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดของนักศึกษา  และการท่องเที่ยว   การกำหนดยุทธศาสตร์อุดม
ศึกษาเพื่อประกอบการจัดโครงสร้างการบริหารสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา  การจัดโครงสร้างนำร่อง  
เพื่อการพัฒนาคุณภาพสถาบันอุดมศึกษาระดับปริญญา ก่อนการรวมในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการ  
อุดมศึกษา   การปฏิรูปการเรียนรู้    การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนการสอน    รวมทั้งการแต่งตั้งคณะ 
กรรมการอำนวยโครงการส่งเสริมให้มหาวิทยาลัย/สถาบันของรัฐ   ปรับเปลี่ยนเป็นมหาวิทยาลัย/สถาบัน  
ในกำกับ   กำหนดมาตรการแก้ไขปัญหาร่วมกับที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย   และหน่วยงานที่เกี่ยว 
ข้อง   ตลอดจนเร่งรัดติดตามประเมินผลโครงการวิจัยและถ่ายทอดเทคโนโลยี   และตรวจสอบดัชนีประสิทธิ
ผลการจัดการศึกษาก่อนนำไปใช้จริงในปีการศึกษา 2546

                คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานสถานการณ์สินค้าเกษตรที่ออกสู่ตลาดมากในเดือนตุลาคม  2544 
ดังนี้  มันสำปะหลัง คาดว่าไม่มีปัญหาราคาเนื่องจากผลผลิตมีปริมาณน้อยกว่าความต้องการทั้งในและต่างประเทศ 
ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์รุ่น 1 (ฤดูฝน) ราคามีแนวโน้มต่ำลงเนื่องจากมีผลผลิตออกสู่ตลาดมากในช่วงต้นฤดู น้ำมันปาล์ม 
ราคาลดลงมากเนื่องจากความต้องการตลาดโลกลดลง ทำให้มาเลเซียและอินโดนีเซียส่งออกได้ลดลง  กาแฟ  คาด 
ว่าราคาจะลดลงอีกเนืองจากผลผลิตโลกมีมากเกินความต้องการ ส่งผลให้ราคาตลาดโลกต่ำลง  กุ้งกุลาดำ  คาดว่า  
ราคาจะโน้มต่ำลงเนื่องจากตลาดสหรัฐ  ฯ   ชะลอการสั่งซื้อ   ประกอบกับในช่วงฤดูฝนเกษตรกรจะรีบจับกุ้งออกสู่  
ตลาดเพื่อหนี้ปัญหาน้ำท่วม  ทำให้มีผลผลิตกุ้งกุลาดำออกสู่ตลาดมากกว่าปกติ  สำหรับถั่วเหลืองรุ่น  1  (ฤดูฝน)   
และถั่วลิสงรุ่น  1  คาดว่าไม่มีปัญหาราคา  ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ  โดยคณะรัฐมนตรีมีข้อสังเกต
ว่า การแก้ไขปัญหาด้านราคาสินค้าเกษตรทุกชนิดควรจัดทำเป็นยุทธศาสตร์ และดำเนินการแก้ไขปัญหาล่วงหน้า  
โดยกระทรวงพาณิชย์และกระทรวงเกษตร ฯ  ควรทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด และเมื่อมีข้อเสนอในการแก้ไขปัญหา 
ด้านราคาของสินค้าเกษตรแต่ละชนิดซึ่งจะต้องนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณา ให้นำเสนอคณะกรรมการนโยบาย  
และมาตรการช่วยเหลือเกษตรกร  (คชก.)  พิจารณาก่อน   แล้วจึงเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณา ทั้งนี้ ให้ คชก.    
พิจารณาด้วยความรอบคอบให้ตรงต่อวัตถุประสงค์ในการช่วยเหลือ  โดยต้องถึงมือเกษตรกรอย่างแท้จริง และต้อง 
มีวิธีการคิดใหม่ทำใหม่

              คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้แก้ไขระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยคณะกรรมการกองทุนหมู่บ้าน  
และชุมชนเมืองแห่งชาติ  พ.ศ. 2544  โดยให้ยกเลิกความในข้อ  6  วรรคแรกของระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ฯ  
ดังกล่าวเกี่ยวกับการกำหนดองค์ประกอบของคณะกรรมการกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติจากเดิม เป็น
"ให้มีคณะกรรมการคณะหนึ่ง   เรียกว่า  "คณะกรรมการกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ"  โดยมีชื่อย่อว่า  
กทบ. ประกอบด้วย  รองนายกรัฐมนตรี  หรือ  รัฐมนตรี  ที่นายกรัฐมนตรีมอบหมายเป็นประธาน  รัฐมนตรีว่า
การกระทรวงมหาดไทยเป็นรองประธานคนที่หนึ่ง  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเป็นรองประธานคนที่สอง 
รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่นายกรัฐมนตรีมอบหมายเป็นรองประธานคนที่สาม ผู้อำนวยการสำนัก  
งบประมาณ  เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ  ปลัดกระทรวงมหาดไทย   ปลัด 
กระทรวงการคลัง ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์  ปลัดกระทรวงพาณิชย์  ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม  ปลัด  
กระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคม    เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย    ผู้อำนวยการธนาคาร 
ออมสิน   ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร   และผู้ทรงคุณวุฒิ    ซึ่งคณะรัฐมนตรีแต่งตั้ง 
จำนวนไม่เกิน  10  คน  เป็นกรรมการ  เลขาธิการนายกรัฐมนตรีเป็นกรรมการ และเลขานุการ"  ตามที่สำนัก 
เลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ แล้วให้ดำเนินการต่อไปได้

              คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบมาตรการแก้ไขปัญหาข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ปี 2544/45 ซึ่งคณะกรรมการ
นโยบายและมาตรการช่วยเหลือเกษตรกร (คชก.) ได้มีมติให้ อคส. และ  อ.ต.ก.  เป็นผู้รับฝากเก็บและออกใบ 
ประทวนสินค้า  และให้ ธ.ก.ส. เป็นผู้รับจำนำข้าวโพดชนิดฝักและข้าวโพดชนิดเมล็ด จำนวน 650,000 ตันฝัก  
หรือ 500,000 ตันเมล็ด ความชื้นไม่เกิน 30% จากเกษตรกรโดยตรง  โดยกำหนดราคารับจำนำเป็นช่วง  ซึ่ง   
ผลการดำเนินการในส่วนของ อคส. ขณะนี้ได้ดำเนินการเปิดจุดรับจำนำแล้ว รวม 109 จุด  ใน  25  จังหวัดที่   
เป็นแหล่งผลิต และได้ส่งเจ้าหน้าที่ไปประจำจุดต่าง ๆ เพื่อรับจำนำข้าวโพดจากเกษตรกรแล้ว  ปรากฏว่า  ณ  
วันที่ 7 ตุลาคม 2544  มีการรับจำนำที่จังหวัดนครสวรรค์ รวม 435.844 ตัน  ส่วนจังหวัดอื่นอยู่ระหว่างการ 
ดำเนินการในขั้นตอนการออกหนังสือรับรองความเป็นเกษตรกร  สำหรับ อ.ต.ก. อยู่ระหว่างดำเนินการเปิด  
รับจำนำที่ไซโลของ อ.ต.ก. ณ อำเภอตากฟ้า  จังหวัดนครสวรรค์  และอำเภอกันทรลักษณ์  จังหวัดศรีสะเกษ  
คาดว่า จะเริ่มดำเนินการได้กลางเดือนตุลาคม 2544  ภายหลังจากได้มีมาตรการรับจำนำดังกล่าวแล้วราคา
ซื้อขายข้าวโพดได้ขยับตัวสูงขึ้น โดยผลผลิตข้าวโพดรุ่น 1 ได้ทยอยออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ มาตรการ 
ที่จะต้องดำเนินการต่อไป    ได้แก่    การจัดระบบการนำเข้า    ซึ่งจะนำเสนอคณะกรรมการนโยบายอาหาร 
พิจารณากำหนดนโยบายและมาตรการนำเข้าข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ปี 2545 (มกราคม-ธันวาคม) ให้เหมาะสม
และสอดคล้องกับสถานการณ์     ตลอดจนการดำเนินการตามแผนยุทธศาสตร์ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ที่กระทรวง
เกษตรและสหกรณ์ กระทรวงพาณิชย์  และกระทรวงอุตสาหกรรม  ได้ร่วมกันจัดทำขึ้นซึ่งเป็นการบูรณาการ 
การดำเนินการของทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการผลิต   การแปรรูป   และการตลาด  เพื่อวางทิศทางก่อน
กำหนดนโยบายและมาตรการในการช่วยเหลือและแก้ไขปัญหาสินค้าเกษตรในเชิงกลยุทธ์ต่อไป

               คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้รับโอน  นายเกริกไกร  จีระแพทย์  ตำแหน่งปลัดกระทรวงพาณิชย์   
(นักบริหาร  11)  ให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี  ฝ่ายข้าราชการประจำ  ด้านการค้าระหว่าง 
ประเทศ  (นักบริหาร 11)  สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี  ตั้งแต่วันที่  9  ตุลาคม  2544  ตามที่สำนัก
เลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ

               คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์และกระทรวงพาณิชย์ร่วมกันพิจารณาแก้ไข 
ปัญหาราคาสินค้าเกษตรเป็นรายชนิด โดยให้ทยอยเสนอคณะรัฐมนตรีมาก่อน และควรมีการวางแผนไว้ล่วงหน้า 
เช่น ในช่วงเวลานี้ซึ่งอยู่ในเดือนตุลาคมต้องมองล่วงหน้าว่า เดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม จะมีผลผลิตอะไรออกมา 
บ้าง สำหรับนโยบายสินค้าเกษตร ให้กระทรวงเกษตร ฯ ร่วมกับกระทรวงพาณิชย์จัดทำแผนระยะสั้น ระยะกลาง 
และระยะยาว โดยมองภาพรวม  (MACRO)  ทั้งระบบ  และให้กระทรวงเกษตร ฯ  จัดทำข้อมูลสารสนเทศทางภูมิ 
ศาสตร์ (GIS) ให้แล้วเสร็จ แล้วจัดประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อแก้ไขปัญหาราคาสินค้าเกษตร โดยให้นำแนวคิดของ 
โครงการหลวง และโครงการอื่น ๆ ที่ดำเนินการแล้วประสบความสำเร็จ รวมทั้งโครงการที่ประสบความล้มเหลว 
ก็ให้นำปัญหามาพิจารณากำหนดแนวทางดังกล่าวด้วย ตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอ

             คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 5 (คกก.5) 
ในการพิจารณาแผนยุทธศาสตร์สินค้าเกษตรหลัก  โดยให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงพาณิชย์ และ
กระทรวงอุตสาหกรรมไปดำเนินการปรับแผนฯ  ดังกล่าว ตามความเห็นของ คกก.5 (ในส่วนของนโยบาย แผน  
ยุทธศาสตร์  และมาตรการเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาสินค้าเกษตรใดที่ผ่านการพิจารณาจากคณะกรรมการของ  
แต่ละสินค้าเกษตรแล้ว  ให้เสนอต่อคณะรัฐมนตรีโดยผ่านกลไกของคณะกรรมการกลั่นกรองฯ  หากคณะกรรม
การกลั่นกรองฯ  เห็นควรให้ไปศึกษาเพิ่มเติมในบางประเด็นตามข้อคิดเห็นและข้อสังเกตต่างๆ  ก็ให้คณะกรรม 
การของแต่ละสินค้าเกษตรไปดำเนินการต่อแล้วนำกลับมาเสนอคณะกรรมการกลั่นกรองฯ  อีกครั้ง   หากเห็น  
ชอบก็สามารถนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไปได้   นอกจากนี้   ควรกำหนดกรอบเวลาในการดำเนินงานที่ชัดเจน 
และพิจารณาหามาตรการจูงใจเกษตรกรควบคู่ไปด้วย เพื่อให้แผนยุทธศาสตร์สามารถบังเกิดผลในทางปฏิบัติ 
ได้จริง)  รวมทั้งข้อสังเกตของเลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ   (เกี่ยวกับการ 
กำหนดแผนยุทธศาสตร์สินค้าเกษตรหลัก จะต้องสามารถตอบคำถามให้ได้ว่า  เกษตรกรจะมีคุณภาพชีวิตที่ดี  
ขึ้นหรือไม่ คุณภาพของผลผลิตผ่านเกณฑ์มาตรฐานหรือไม่ โดยเฉพาะเรื่องสารพิษตกค้าง สินค้าสามารถเพิ่ม 
มูลค่าได้อย่างไร และการจัดการเชื่อมโยงกระบวนการผลิตและการตลาดระหว่างภาครัฐและภาคเอกชนจะทำ  
ได้อย่างไร)  แล้วนำกลับมาเสนอ  คกก.5  อีกครั้งเพื่อให้ความเห็นชอบก่อนจะส่งไปยังคณะกรรมการที่มีหน้า
ที่กำกับดูแลโดยตรงของแต่ละสินค้าเกษตรเพื่อพิจารณากำหนดมาตรการดำเนินงานในรายละเอียดต่อไป