คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบคำตอบกระทู้ถามที่  371  ร. เรื่อง  มาตรการส่งเสริมธุรกิจค้าปลีกราย 
ย่อยให้สามารถแข่งขันได้ในตลาดเสรี ของนายนพดล อินนา  สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร  (บัญชีรายชื่อ)  ซึ่ง
ถามว่า   กระทรวงพาณิชย์ได้มีการกำหนดแผนงานตลอดจนมาตรการในการร่างกฎหมายธุรกิจค้าปลีกโดย
ตรงหรือไม่ อย่างไร เพื่อเป็นการช่วยเหลือผู้ประกอบการค้าปลีกรายย่อยที่ได้รับผลกระทบจากการขยายตัว
ของธุรกิจกลุ่มดิสเคานท์สโตร์   รวมทั้งได้มีการประชาสัมพันธ์และให้คำแนะนำแก่ผู้ประกอบการรายย่อยใน
การพัฒนากิจการทั้งในส่วนของความหลากหลายของสินค้า ราคาสินค้า บริการเสริมต่าง ๆ ตลอดจนระบบ
การบริหารจัดการภายในกิจการอย่างไรบ้างเพื่อให้สามารถแข่งขันกับผู้ประกอบการรายใหญ่ภายใต้สภาพ
เศรษฐกิจยุคปัจจุบันนี้ และได้ดำเนินการไปแล้วมากน้อยเพียงใด  และอย่างไร  ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ  
และให้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาต่อไป

             คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบคำตอบกระทู้ถามที่ 413 ร. เรื่อง ปัญหาราคาข้าวเปลือกหอมมะลิ 105  
ตกต่ำ ของนายเสกสรรค์ แสนภูมิ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดสุรินทร์  ซึ่งถามว่า  รัฐบาลจะดำเนินการ 
ประกันราคาข้าวเปลือกหอมมะลิ 105 หรือไม่ หากจะประกัน ราคาเกวียนละเท่าใด ตามที่กระทรวงพาณิชย์
เสนอ และให้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาต่อไป

            คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบคำตอบกระทู้ถามที่ 257 ร. เรื่อง การสนับสนุนให้ปลูกยางพารา ของนาย 
นิยม วรปัญญา  สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดลพบุรี  ซึ่งถามว่า  ขอให้นายกรัฐมนตรีสั่งการไปยังกระทรวง  
เกษตรและสหกรณ์ กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงอุตสาหกรรม  กระทรวงการคลัง  และกระทรวงมหาดไทย  เพื่อ 
ร่วมช่วยเหลือและให้การสนับสนุนการปลูกยางพาราได้หรือไม่ อย่างไร กระทรวงการคลังมีแผนและนโยบายที่ 
จะให้เกษตรกรผู้ปลูกยางพารากู้เงินในอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 3 ต่อปีหรือไม่ อย่างไร มีกระทรวงใดบ้างที่จัดเงิน 
ทุนให้กู้ยืมในอัตราดอกเบี้ยร้อยละ  3  ต่อปี  เพื่อให้เกษตรกรกู้ในกรณีดังกล่าว กระทรวงเกษตรและสหกรณ์มี  
มาตรการช่วยเหลือเกษตรกรในด้านการให้คำแนะนำ   การบำรุงรักษา    การป้องกันโรคที่อาจเกิดขึ้นกับยาง  
พาราไว้อย่างไรบ้าง  และมีนโยบายในการที่จะกำหนดพื้นที่ปลูก  ระยะเวลาการปลูกยางพาราไว้อย่างไร  รวม 
ทั้งขอทราบผลผลิตที่ใช้ยางพาราในประเทศ  และส่งออกต่างประเทศตั้งแต่ปี  2542 - 2545  มีจำนวนเท่าใด  
และผลผลิตดังกล่าวย้อนหลัง 3 ปี   และในด้านการตลาดนายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้หน่วยงานใดเป็นผู้รับ
ผิดชอบเพราะยางพาราทำรายได้เข้าประเทศปี ๆ  หนึ่งเป็นจำนวนมาก ตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี
เสนอ และให้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาต่อไป

              คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงพาณิชย์รายงานสรุปผลการประชุมรัฐมนตรีองค์การการค้า 
โลก (WTO) ครั้งที่ 4 ที่กรุงโดฮา  ประเทศกาตาร์  ระหว่างวันที่ 9 - 14 พฤศจิกายน 2544  ซึ่งมีรัฐมนตรีว่าการ 
กระทรวงพาณิชย์ เป็นหัวหน้าคณะผู้แทนไทยเข้าร่วมประชุม   โดยผลการประชุมครั้งนี้ถือว่าประสบผลสำเร็จและ 
เป็นไปตามท่าทีของไทย    โดยการเจรจาการค้าพหุภาคีรอบใหม่มีเรื่องเจรจาที่เป็นประโยชน์ต่อไทยบรรจุอยู่ใน
ปฏิญญารัฐมนตรี  ครั้งที่ 4  ได้แก่  การผลักดันให้มีการเปิดตลาดสินค้าเกษตรมากขึ้น  การลดการอุดหนุนการ 
ผลิตภายในที่บิดเบือนตลาด  และลดการอุดหนุนส่งออก  การเพิ่มผลิตภัณฑ์ที่จะให้ความคุ้มครองขึ้นจากเดิมที่มี
อยู่ 2 ชนิด ได้แก่ สุราและไวน์  โดยไทยขอให้เพิ่ม "ข้าวหอมมะลิไทยและไหมไทย" เป็นผลิตภัณฑ์ที่จะให้ความคุ้ม
ครอง  รวมทั้งการแก้ไขความตกลงเรื่องการทุ่มตลาดและการอุดหนุน  นอกจากนี้  ที่ประชุมรัฐมนตรียังเห็นชอบ
ในเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างความตกลง WTO กับความตกลงระหว่างประเทศด้านสิ่งแวดล้อม ตลอดจนเรื่องการ 
ลงทุนและเรื่องนโยบายการแข่งขัน    และการลดภาษีสินค้าอุตสาหกรรมพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์     กับเห็นชอบ
ให้มีการให้แต้มต่อแก่ประเทศกำลังพัฒนา และการให้ความช่วยเหลือด้านวิชาการให้แก่ประเทศกำลังพัฒนาและ 
ประเทศพัฒนาน้อยที่สุดในทุกเรื่องภายใต้  WTO   สำหรับปฏิญญารัฐมนตรีเรื่องทรัพย์สินทางปัญญาที่เกี่ยวกับ
การค้าและการสาธารณสุข ไทยได้ร่วมกับประเทศกำลังพัฒนาอื่น ๆ  ผลักดันให้ WTO ตีความในข้อตกลงทรัพย์
สินทางปัญญาเพื่อให้ประเทศเหล่านี้สามารถใช้มาตรการต่าง  ๆ   เพื่อเป็นหลักประกันว่า  ประชาชนโดยทั่วไป
สามารถซื้อยาที่จำเป็นได้โดยสะดวกและในราคาที่พอควร     พร้อมกันนี้ได้มีการประชุมทวิภาคีระหว่างไทยกับ
ประเทศคู่ค้าอื่น ๆ และเรื่องที่สหภาพยุโรป หรือ EU ให้สิทธิพิเศษทางการค้ากับประเทศที่เคยเป็นเมืองขึ้น

             คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปการดำเนินการเกี่ยวกับการกำหนดปริมาณสาร 3-MCPD ในซอส  
ปรุงรส โดยผลการประชุมเพื่อรับฟังข้อคิดเห็นจากผู้ประกอบการผลิต นักวิชาการ  และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง 
เห็นสมควรกำหนดปริมาณสาร 3-MCPD  ในซอสปรุงรส  1  มิลลิกรัม/กิโลกรัม  (ppm.)  โดยมีผลบังคับใช้ 
180  วันนับจากวันที่ประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป  ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ  ทั้งนี้  คณะ 
รัฐมนตรีมีข้อสังเกตว่า   ประกาศกระทรวงสาธารณสุขที่กำหนดปริมาณสารดังกล่าวให้ไม่เกิน  1  มิลลิกรัม/  
กิโลกรัม (ppm.) ยังไม่สอดคล้องกับเกณฑ์มาตรฐานของหลายประเทศ  โดยเฉพาะประเทศในกลุ่มประชาคม 
ยุโรป (EU) ที่กำหนดให้อาหารนำเข้าจะต้องมีสารดังกล่าวปนเปื้อนไม่เกิน 0.02 มิลลิกรัม/กิโลกรัม (ppm.)     
ควรจะได้มีการพัฒนากระบวนการผลิตให้ได้มาตรฐานยิ่งขึ้นไปอีก     โดยมอบให้กระทรวงสาธารณสุขรับไป 
ประสานกับกระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงพาณิชย์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อพิจารณาดำเนินการตรวจ 
สอบคุณภาพสินค้าและผลิตภัณฑ์อาหารทุกประเภทให้ได้มาตรฐาน รวมทั้งไม่เป็นอุปสรรคต่อการส่งออกไป
ต่างประเทศ  และพิจารณาแนวทางการให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ประกอบการด้านอาหารในการแก้ไขปรับปรุง  
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต  และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้สามารถลดปริมาณสาร  3-MCPD  ปนเปื้อนใน
อาหารให้ตรงตามมาตรฐานของ EU และนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาต่อไป

              คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบและเห็นชอบการแปลงสภาพการจำหน่ายหุ้นของบริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน)    
(บมจ.ปตท.) โดยมอบให้รัฐมนตรีที่รับผิดชอบกำกับดูแลรัฐวิสาหกิจรับไปศึกษารายละเอียดและแนวทางการดำเนิน   
การของ บมจ.ปตท. เพื่อเป็นกรณีตัวอย่างในการดำเนินการที่เกี่ยวข้องต่อไป  และให้กระทรวงอุตสาหกรรมประสาน  
กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อพิจารณาการจัดตั้งสำนักงานลงทุนสัมพันธ์  (Invester Relations Office)  ขึ้นเป็นหน่วย  
งานถาวร  และให้ดำเนินงานในลักษณะมืออาชีพและมีความโปร่งใส  รวมทั้งให้รองนายกรัฐมนตรี (นายปองพล  อดิ  
เรกสาร) รองนายกรัฐมนตรี  (นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์)  รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์  (นายสุวรรณ วลัย
เสถียร)  กระทรวงการคลัง  และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติร่วมกันพิจารณาจัด
กลุ่มรัฐวิสาหกิจ (Grouping) ว่า รัฐวิสาหกิจใดจัดอยู่ในกลุ่มที่มีความพร้อมที่จะแปรรูปในระยะเวลาอันใกล้ รัฐวิสาห  
กิจใดอยู่ในกลุ่มที่จะแปรรูปได้ในระยะต่อไป และรัฐวิสาหกิจใดไม่อยู่ในฐานะที่จะแปรรูปได้ โดยจัดลำดับความสำคัญ  
ของการดำเนินการแปรรูป  กำหนดเวลาและแนวทางดำเนินการของรัฐวิสาหกิจนั้นในแต่ละกลุ่มให้ชัดเจน   และนำ 
เสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป  ตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอ

               คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบคำตอบกระทู้ถามที่ 167 เรื่อง  ปัญหาราคาผลไม้ตกต่ำอย่างรุนแรง  ของ  
นายไพศาล  ยิ่งสมาน  สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดยะลา  ซึ่งถามว่า  รัฐบาลมีนโยบายที่จะช่วยเหลือเกษตร  
กรชาวสวนผลไม้เพิ่มเติมจากการรับซื้อผลผลิตตามราคาที่กระทรวงพาณิชย์กำหนดเป้าหมายนำหรือไม่ อย่างไร  
รวมทั้งมีนโยบายที่แก้ไขปัญหาการส่งออกผลผลิตที่มีคุณภาพไม่ได้มาตรฐานหรือไม่   อย่างไร   และมีนโยบายที่
จะแก้ไขปัญหาราคาผลไม้เศรษฐกิจตกต่ำอย่างเป็นระบบแทนการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าในทุกปี  ๆ    มาเป็นการ
แก้ปัญหาอย่างถาวรหรือไม่ อย่างไร ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ  และมอบให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์
ตอบในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรต่อไป

             คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบคำตอบกระทู้ถามที่ 336 ร. เรื่อง มาตรการแก้ไขปัญหาการกักกันสินค้า 
เกษตรของไทยในประเทศญี่ปุ่น  ของนายนพดล   อินนา   สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร  (บัญชีรายชื่อ)  ซึ่งถาม
ว่ากระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้มีการประสานงานไปยังหน่วยงานในสังกัดเพื่อดำเนินการควบคุมมาตรฐาน
สินค้าเกษตรที่ส่งออกของไทยให้เป็นไปตามมาตรฐาน MRL (Maximum Residue Limits) ตามกฎหมาย  The
Food Sanitation Law ของญี่ปุ่นอย่างไรบ้าง  เพื่อเป็นการรักษาความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างประเทศไทย   
กับประเทศญี่ปุ่น ตลอดจนได้มีการประชาสัมพันธ์ให้เกษตรกรและผู้ประกอบการที่จะส่งออกสินค้าเกษตรได้  
มีความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับปริมาณและวิธีการใช้สารเคมี   รวมทั้งระยะเวลาทิ้งช่วงในการเก็บเกี่ยวผลผลิต  
เพื่อป้องกันสารเคมีตกค้างในผลิตภัณฑ์ส่งออกอย่างไรบ้าง   และได้ประสานไปยังกระทรวงพาณิชย์ซึ่งมีหน้า 
ที่เกี่ยวข้องโดยตรงในการติดตามและดำเนินการแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับมาตรการ หรือข้อกีดกันทางการค้าของ
ต่างประเทศ เพื่อปกป้องและรักษาผลประโยชน์ทางการค้าของไทยหรือไม่ อย่างไร

             คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานเรื่อง ภาคเอกชนสหรัฐ ฯ ยื่นคำร้องเรียนต่อ USTR ขอให้ตัด GSP
สินค้าไทย ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ  ทั้งนี้ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ (นายสุวรรณ วลัยเสถียร)  
เสนอเพิ่มเติมว่า   กระทรวงพาณิชย์ขอยกเลิกหนังสือกระทรวงพาณิชย์   ที่   พณ   0703/8886   ลงวันที่  20 
พฤศจิกายน  2544  ขอใช้หนังสือฉบับแก้ไขใหม่   ซึ่งกระทรวงพาณิชย์ได้ประสานและชี้แจงให้รัฐบาลสหรัฐ  ฯ 
ทราบแล้ว คณะกรรมาธิการ House Ways & Means ของรัฐสภาสหรัฐ ฯ ได้ผ่านร่างกฎหมายต่ออายุโครงการ  
GSP  ใหม่  ให้แก่ประเทศกำลังพัฒนา  รวมทั้งประเทศไทยออกไปเป็นเวลา  1  ปี  3  เดือน  เริ่มตั้งแต่วันที่  1
ตุลาคม 2544 - 31 ธันวาคม 2545 คาดว่าร่างกฎหมายดังกล่าวจะได้รับการพิจารณาตามขั้นตอน และเสนอ
ให้ประธานาธิบดีสหรัฐ ฯ ลงนามต่อไป

             คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบคำตอบกระทู้ถามที่ 389 ร. เรื่อง น้ำมันพืชขึ้นราคา ของนายอำนวย  
คลังผา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดลพบุรี  ซึ่งถามว่า  รัฐบาลมีนโยบายส่งเสริมการส่งออกน้ำมันพืช 
ของไทยอย่างไร และมีมาตรการป้องกันการขึ้นราคาน้ำมันพืชอย่างไร ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ  และ
ให้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาต่อไป

              คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการพิจารณาผลกระทบและ
ความเสียหายของการทุ่มตลาดหรือการอุดหนุนที่มีผลต่ออุตสาหกรรมภายในประเทศ  พ.ศ.  2544   (ปรับปรุง
กฎกระทรวง ฉบับที่ 2  (พ.ศ. 2543)  ออกตามความในพระราชบัญญัติการตอบโต้การทุ่มตลาดและการอุดหนุน
ซึ่งสินค้าจากต่างประเทศ  พ.ศ.  2542  เพื่อปรับปรุงแก้ไขเพิ่มเติมปัจจัยและดัชนีทางเศรษฐกิจที่ใช้ในการพิจารณา
เกี่ยวกับผลกระทบของการทุ่มตลาดที่มีต่ออุตสาหกรรมภายใน) และร่างกฎกระทรวงว่าด้วยการกำหนดหลักเกณฑ์
ขั้นต่ำในการยุติการพิจารณาตอบโต้การทุ่มตลาดหรือการตอบโต้การอุดหนุน พ.ศ. 2544  (ปรับปรุงกฎกระทรวง
ฉบับที่ 5  (พ.ศ. 2543)  ออกตามความในพระราชบัญญัติการตอบโต้การทุ่มตลาดและการอุดหนุน  ซึ่งสินค้าจาก
ต่างประเทศ พ.ศ. 2542 เพื่อปรับปรุงแก้ไขเพิ่มเติมเกณฑ์ขั้นต่ำของส่วนเหลื่อมการทุ่มตลาด  ประโยชน์ที่ได้รับจาก
การอุดหนุน ปริมาณนำเข้าสินค้าทุ่มตลาดและปริมาณการนำเข้าสินค้าที่ได้รับการอุดหนุน) ตามที่กระทรวงพาณิชย์
เสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้

              คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงพาณิชย์รายงานเรื่อง  การพัฒนาพันธุ์ข้าวหอมมะลิของ 
นักวิจัยอเมริกัน   ซึ่งกระทรวงพาณิชย์ได้กำหนดแนวทางดำเนินการ  โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ได้ 
มีหนังสือถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรของสหรัฐ  ฯ  และเอกอัครราช 
ทูตสหรัฐ  ฯ  ประจำประเทศไทย เพื่อชี้แจงกรณีการทำการวิจัยพันธุ์ข้าวหอมมะลิดังกล่าว  นอกจากเป็นการ  
กระทำที่ไม่ถูกต้องแล้ว  ยังเป็นการปฏิบัติทางการค้าที่ไม่เป็นธรรม  เพราะจะก่อให้เกิดความเสียหายต่อการ
ผลิตและการส่งออกข้าวของไทยโดยตรง   และได้มอบหมายให้สำนักงานพาณิชย์ในต่างประเทศ ณ กรุงวอชิง
ตัน ดี.ซี. ติดตามความคืบหน้าของผลการวิจัยและกระบวนการในการจดทะเบียนพันธุ์พืชของนักวิจัยดังกล่าว   
อย่างใกล้ชิดและต่อเนื่อง  ซึ่งหากเจ้าของงานวิจัยยื่นคำร้องขอจดทะเบียน   ณ   ที่ใด   สำนักงาน  ฯ  จะต้อง 
รีบยื่นเรื่องคัดค้านในทุกโอกาสโดยเร็วที่สุด    ทั้งนี้   กรมการค้าต่างประเทศจะเร่งรัดการจดทะเบียนเครื่อง   
หมายรับรองข้าวหอมมะลิไทย   โดยเฉพาะในสหรัฐอเมริกาเพื่อให้เสร็จสิ้นโดยเร็วที่สุด   และเผยแพร่ประชา  
สัมพันธ์เครื่องหมายรับรองข้าวหอมมะลิไทยให้เป็นที่รู้จักกว้างขวางยิ่งขึ้น   และเป็นไปอย่างต่อเนื่อง    ในปี 
2545  ได้กำหนดกิจกรรมเผยแพร่ในรัฐฟลอริดาไว้ด้วยแล้ว  ขณะนี้กระทรวงพาณิชย์ได้ลงนามในสัญญาจ้าง 
จดทะเบียนเครื่องหมายรับรองข้าวหอมมะลิไทยในต่างประเทศ กับบริษัทที่ปรึกษากฎหมายในประเทศไทย
เพื่อจดทะเบียนเครื่องหมายรับรองข้าวหอมมะลิไทยใน  6  ประเทศ ได้แก่ สหรัฐอเมริกา แคนาดา  ออสเตร  
เลีย ฮ่องกง สิงคโปร์ และมาเลเซีย  และมีโครงการที่จะจดทะเบียนในภูมิภาคต่าง ๆ  ทั่วโลกอีกประมาณ 47 
ประเทศ ในปี 2545

               คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบการกำหนดนโยบายและมาตรการเพื่อรองรับสถานการณ์มันสำปะหลัง  ปี   
2544/45 โดยในส่วนของนโยบาย ได้แก่ การสร้างเสถียรภาพราคามันสำปะหลังให้มั่นคงตลอดปี และสร้างกำไร  
ให้ผู้ที่เกี่ยวข้องอย่างทั่วถึง รักษาส่วนแบ่งตลาดเดิม เร่งหาตลาดใหม่  และดำเนินนโยบายตลาดในเชิงรุกเพื่อแก้ไข 
ปัญหาการกีดกันทางการค้า ตลอดจนปรับปรุงคุณภาพผลิตภัณฑ์ให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาดทั้งภาย
ในประเทศและต่างประเทศ และพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ เพื่อเพิ่มมูลค่าเชิงพาณิชย์  สำหรับมาตรการ  ได้แก่  การ 
สนับสนุนและส่งเสริมการขยายตลาดในต่างประเทศ การจัดตั้งศูนย์ประสานงานดำเนินการโครงการเชื่อมการซื้อ 
ขายระหว่างผู้ผลิตและผู้ใช้มันเส้นคุณภาพดี และศูนย์ตรวจสอบและรับรองคุณภาพมันเส้น/มันอัดเม็ด และแป้งมัน  
เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาด สนับสนุนการผลิตผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ  จัดหาสิ่งอำนวยความสะดวกให้    
แก่ลานมันเพื่อพัฒนาคุณภาพผลิตภัณฑ์   รวมทั้งจัดหาแหล่งเงินทุนดอกเบี้ยต่ำจากสถาบันการเงิน   การประชา  
สัมพันธ์จุดเด่นของผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังทั้งตลาดในประเทศและต่างประเทศ รักษาระดับราคาหัวมันสำปะหลัง 
สดให้สูงกว่าต้นทุนการผลิตของเกษตรกร  และกวดขันให้มีการใช้เครื่องวัดเชื้อแป้งในการซื้อขายหัวมันสำปะหลัง
สด ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ

                คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงสาธารณสุขรายงานผลการประชุมสัมมนาเรื่อง "ระบบ   
ความปลอดภัยด้านอาหารแห่งชาติ" เมื่อวันที่ 17 กันยายน 2544  โดยมีผู้เข้าร่วมประชุมจาก  21  หน่วยงาน 
ใน 5 กระทรวงหลัก  ได้แก่  กระทรวงสาธารณสุข  กระทรวงเกษตรและสหกรณ์  กระทรวงพาณิชย์  กระทรวง 
อุตสาหกรรม  และกระทรวงมหาดไทย  รวมทั้งผู้แทนของกรุงเทพมหานครและเทศบาลนครนนทบุรี  ซึ่งสาระ  
สำคัญของการประชุม  ฯ  ที่ประชุมได้เน้นในเรื่องมาตรฐานอาหารที่คนไทยบริโภคต้องเป็นมาตรฐานเดียวกับ 
ที่นานาชาติใช้  และวิธีการทำงานที่มุ่งป้องกันและแก้ไขปัญหาความไม่ปลอดภัยของอาหารที่เกิดขึ้นในทุก  ๆ  
ช่วงให้ครบวงจรตลอดทั้งห่วงโซ่อาหาร  (food  chain)  โดยการดูแลตลอดทั้งห่วงโซ่อาหารมากกว่าที่จะตรวจ 
สอบเพียงผลิตภัณฑ์ที่สำเร็จที่ปลายทาง    กับเห็นชอบให้ทุกหน่วยงานประสานงานกันตั้งแต่หารือเรื่องแก้ไข
กฎหมายใด ๆ ที่ซ้ำซ้อนเป็นอุปสรรค  ทำงานร่วมกันอย่างสอดคล้องเป็นระบบ  และรับผิดชอบดูแลปัญหาที่  
เกิดขึ้นในช่วงใดของห่วงโซ่อาหารอย่างเต็มที่  โดยมีความร่วมมือจากหน่วยงานอื่น ๆ  เข้ามาร่วมให้ครบวงจร 
และร่วมมือกันทำโครงการที่เป็นปัญหาเร่งด่วน  โดยมอบหมายหน่วยงานหนึ่งเป็นผู้รับผิดชอบหลัก (Project    
Manager) ของแต่ละโครงการ ทำหน้าที่เป็นผู้ประสานงานหลักในการทำงาน งบประมาณ รวบรวมผล  ราย  
งานเป็นภาพรวมของประเทศ แล้วนำเสนอคณะอนุกรรมการความปลอดภัยด้านอาหารแห่งชาติเพื่อนำเสนอ  
คณะกรรมการด้านอาหารแห่งชาติต่อไป  นอกจากนี้  เมื่อวันที่ 8 ตุลาคม และ 26 ตุลาคม 2544  ได้ประชุม
ผู้รับผิดชอบหลักโครงการร่วมความปลอดภัยของอาหาร   ครั้งที่  1/2544    และครั้งที่  2/2544   ที่สำนัก
งานคณะกรรมการอาหารและยาเพื่อหารือเรื่องโครงร่างของโครงการและการนำเสนอในการประชุมสัมมนา 
เรื่อง  ระบบความปลอดภัยด้านอาหารแห่งชาติ   ครั้งที่  2    และในวันที่  5  พฤศจิกายน  2544   ได้มีการ
จัดประชุมสัมมนาเรื่อง ระบบความปลอดภัยด้านอาหารแห่งชาติ  ครั้งที่   2   โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวง 
สาธารณสุขเป็นประธาน ณ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา

                คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้กระทรวงพาณิชย์ดำเนินการขอหารือกับสหภาพยุโรปภายใต้   WTO   
ตามมติคณะอนุกรรมการเพื่อติดตามและแก้ไขปัญหาการใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษีศุลกากร  (GSP)  เมื่อวันที่  
21 กันยายน 2544  กรณีที่สหภาพยุโรปเลือกปฏิบัติให้สิทธิ GSP ยกเว้นภาษีนำเข้าภายใต้ drug regime แก่  
ประเทศที่ดำเนินการปราบปรามยาเสพติด    ซึ่งในการหารือควรเสนอขอให้สหภาพยุโรปเลือกปฏิบัติในการ 
ให้สิทธิพิเศษดังกล่าวแก่ประเทศไทยด้วย  เนื่องจากเป็นประเทศที่ดำเนินการปราบปรามการผลิตและการค้า 
ยาเสพติดอย่างจริงจัง   และมีผลงานเป็นรูปธรรม   รวมทั้งมีมาตรการเกี่ยวกับการก่อการร้ายตามกรอบของ 
มติสหประชาชาติ  สำหรับค่าใช้จ่ายเพื่อการนี้ ให้พิจารณาเจียดจ่ายจากเงินงบประมาณประจำปี พ.ศ. 2545  
ของกระทรวงพาณิชย์ต่อไป  และให้กระทรวงการต่างประเทศประสานกับผู้แทนสหภาพยุโรปในเรื่องนี้ด้วย ทั้งนี้ 
คณะรัฐมนตรีเห็นว่า ปัจจุบันประเทศต่าง ๆ  ได้มีการรวมตัวกันเพื่อสร้างอำนาจต่อรองทางการค้า  ตลอดจน 
กำหนดมาตรการและหลักเกณฑ์ต่าง ๆ  ในลักษณะเลือกปฏิบัติหรือกีดกันทางการค้า  ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อ 
ตลาดของไทย  เห็นควรที่กระทรวงพาณิชย์และกระทรวงที่เกี่ยวข้องต้องมองปัญหาต่าง ๆ  ในภาพรวม   แล้ว
ดำเนินการในเชิงรุก   โดยกำหนดหลักเกณฑ์และกติกาใหม่เพื่อต่อสู้และตอบโต้   รวมไปถึงทีมไทยแลนด์ต้อง 
รีบดำเนินการกำหนดยุทธศาสตร์และแนวทางต่าง ๆ  ในทางการค้าอย่างจริงจัง  โดยมองยุทธศาสตร์ทั้ง  2  
ทั้งในประเทศและต่างประเทศ   นอกจากนี้   กระทรวงการต่างประเทศควรจัดสรรงบประมาณเพื่อสนับสนุน
ให้เอกอัครราชทูตไทยในกลุ่มประเทศที่อยู่ใกล้เคียงกันได้มีโอกาสพบปะหารือร่วมกันเพื่อกำหนดแนวทางใน
การประสานและการเจรจาทางการค้าให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน และมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

                           มอบให้รองนายกรัฐมนตรี (นายปองพล อดิเรกสาร) รับร่างพระราชบัญญัติหลัก
ประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. ....  ไปพิจารณาร่วมกับกระทรวงพาณิชย์  กระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคม 
กระทรวงสาธารณสุข  และสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา อีกครั้งหนึ่ง   โดยให้รับข้อสังเกตของรัฐมนตรี 
ช่วยว่าการกระทรวงแรงงาน  ฯ  (นางลดาวัลลิ์   วงศ์ศรีวงศ์)  ที่เห็นควรให้ตัดเนื้อหาบางประการภายในร่าง 
พระราชบัญญัติ ฯ ออก และนำความในมาตรา 5/2 ตามร่างพระราชบัญญัติฉบับเดิมมากำหนดไว้ในร่างพระ 
ราชบัญญัตินี้ แล้วให้ส่งคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรพิจารณา ก่อนเสนอสภาผู้แทนราษฎร  
พิจารณาต่อไปให้ทันสมัยประชุมนี้ เนื่องจากเป็นการดำเนินการสำคัญตามนโยบายของรัฐบาล และได้มีการ 
ดำเนินการบางส่วนอยู่แล้ว

              คณะรัฐมนตรีมีมติมอบให้กระทรวงพาณิชย์รับความเห็นของคณะรัฐมนตรีเกี่ยวกับการรับจำนำข้าว   
เปลือกนาปี  ฤดูการผลิต 2544/2545  ไปพิจารณาร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อกำหนดราคารับจำนำให้มี   
ความชัดเจนและเหมาะสม โดยกำหนดราคาเริ่มต้นเป็นราคาคงที่ (Fixed Price) เพียงราคาเดียว และความชื้น 
แล้วดำเนินการต่อไปได้

              คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการกำหนดให้จังหวัดสุรินทร์เป็นจังหวัดต้นแบบนำร่องในการพัฒนาการ 
เกษตรอินทรีย์ โดยให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์จัดทำแผนการดำเนินงานในเรื่องนี้  และให้กระทรวง  ทบวง  
กรมต่าง ๆ  ได้ให้การส่งเสริมและสนับสนุน  โดยเฉพาะกระทรวงพาณิชย์  กระทรวงศึกษาธิการ  และกระทรวง
อุตสาหกรรมต้องช่วยดูแลอย่างใกล้ชิดเพื่อให้จังหวัดสุรินทร์สามารถดำเนินการตามโครงการไปสู่จุดเป้าหมาย
และหากประสบผลสำเร็จก็ให้ขยายผลไปจังหวัดต่าง ๆ  ซึ่งจะเป็นการแก้ไขปัญหาความยากจนและฟื้นฟูสภาพ 
ความเป็นอยู่ของเกษตรกรภาคตะวันออกเฉียงเหนืออย่างเบ็ดเสร็จ ตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอ

               คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้ข้าราชการพลเรือนสามัญพ้นจากตำแหน่ง  และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง 
ระดับ 10 จำนวน 6 ราย ได้แก่ นายธรรมนูญ เชี่ยวสกุล ให้ดำรงตำแหน่งอธิบดี (นักบริหาร 10) กรมการค้า 
ต่างประเทศ  นางสาวสุมิตรา วรกุลเฉลิม  ดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวง  (นักบริหาร 10)  สำนักงานปลัด 
กระทรวงพาณิชย์  นายคณิสสร  นาวานุเคราะห์  ดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวง (นักบริหาร 10) นายวิทูร  
ตุลยานนท์  ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง  (ผู้ตรวจราชการ 10)  นายราเชนทร์  พจนสุนทร  ดำรง  
ตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง (ผู้ตรวจราชการ 10) และนางจันทรา บูรณฤกษ์  ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราช 
การกระทรวง (ผู้ตรวจราชการ 10)  สำนักงานปลัดกระทรวงพาณิชย์ ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ  โดยให้มี 
ผลตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ แต่งตั้งเป็นต้นไป

              คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอให้ผู้นำชุมชนที่เข้มแข็งและมีส่วนเกี่ยวข้องกับการ 
ดำเนินการโครงการหนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ ในภูมิภาคต่าง ๆ ของไทย และผู้แทนกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ 
กระทรวงมหาดไทย   กระทรวงพาณิชย์   และกระทรวงอุตสาหกรรม  ร่วมเดินทางไปเยี่ยมชมโครงการหนึ่งตำบล 
หนึ่งผลิตภัณฑ์ ในจังหวัดโออิตะ (Oita)  ประเทศญี่ปุ่น  ในระหว่างวันที่ 18 - 21 พฤศจิกายน 2544  เพื่อให้เห็น 
ภาพที่ชัดเจนและเรียนรู้ประสบการณ์จริง  ทั้งนี้  มอบให้เลขาธิการนายกรัฐมนตรีรับไปดำเนินการต่อไป