คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการแต่งตั้งข้าราชการการเมือง จำนวน 2 ราย ได้แก่  นายสุนัย  จุลพงศธร  
เป็นที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และนายทศพร เสรีรักษ์ เป็นเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวง
พาณิชย์ ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2544 เป็นต้นไป ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ

               คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้แต่งตั้ง นายไพรัช บูรพชัยศรี เป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการ 
การแข่งขันทางการค้า แทน นายเกียรติ สิทธีอมร ที่ขอลาออก ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ โดยให้แต่งตั้งตั้งแต่ 
วันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2544

              คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีรายงานการใช้กระแสไฟฟ้า และน้ำ   
ประปา  ตามมาตรการประหยัดในภาครัฐ  ของกระทรวงพาณิชย์   สำนักงาน ก.พ.   และสำนักราชเลขาธิการ  
ประจำเดือนตุลาคม 2543  และเดือนธันวาคม 2543  โดยกระทรวงพาณิชย์ มีการใช้ไฟฟ้าและน้ำประปาเพิ่ม    
ขึ้น เนื่องจากมีพื้นที่ปฏิบัติการมากขึ้น  มีการปฏิบัติงานนอกเวลาราชการ  รวมทั้งมีการปฏิบัติภารกิจที่เกี่ยว 
ข้องในขอบข่ายงานเพิ่มขึ้น  สำหรับสำนักงาน ก.พ. และสำนักราชเลขาธิการ มีการใช้ไฟฟ้าและน้ำประปาลด 
ลง

             คณะรัฐมนตรีมีมติให้ยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2541 วันที่ 29 ธันวาคม 
2541  และวันที่  3  ตุลาคม  2543  เรื่อง มาตรการควบคุมค่าใช้จ่ายด้านบุคคลภาครัฐ  สำหรับการกำหนดส่วนราช 
การตามร่างประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี  เรื่อง  การกำหนดส่วนราชการตามพระราชกฤษฎีกาแบ่งส่วนราชการกรม  
ส่งเสริมการส่งออก กระทรวงพาณิชย์ พ.ศ. 2542 เนื่องจากร่างประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี ฯ มีหลักการเป็นการจัด  
ตั้งหน่วยงานใหม่ อาจจะทำให้เกิดผลกระทบต่ออัตรากำลังและงบประมาณตามมติคณะรัฐมนตรีดังกล่าว ตามที่สำนัก  
งานคณะกรรมการกฤษฎีกาเสนอ โดยมีเงื่อนไขว่าต้องไม่เพิ่มอัตรากำลังข้าราชการขึ้นใหม่ แล้วดำเนินการต่อไปได้ 

             คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติร่างประกาศกระทรวงพาณิชย์ ว่าด้วยการส่งไม้ยางพาราออกไปนอกราชอาณา 
จักร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (ยกเลิกการกำหนดห้ามส่งไม้ยางพาราออกไปนอกราชอาณาจักรตามพระราชกฤษฎีกา 
ควบคุมการส่งออกไปนอกราชอาณาจักรซึ่งสินค้าบางอย่าง  (ฉบับที่ 46)  พ.ศ. 2520  รวมทั้งประกาศกระทรวง
พาณิชย์ เรื่อง การผ่อนผันอนุญาตให้ส่งไม้ยางพาราออกไปนอกราชอาณาจักร ลงวันที่  23  พฤศจิกายน  2522 
โดยกำหนดให้ไม้ยางพาราทั้งไม้ซุงและไม้แปรรูปเป็นสินค้าที่ต้องขออนุญาตในการส่งออกไปนอกราชอาณาจักร  
ต้องถือปฏิบัติตามประกาศฉบับนี้  รวมถึงหลักเกณฑ์   วิธีการ   และเงื่อนไขในการอนุญาตส่งออกให้เป็นไปตาม   
ระเบียบที่กระทรวงพาณิชย์กำหนดไว้ตามความเหมาะสมของสถานการณ์) และร่างระเบียบกระทรวงพาณิชย์  ว่า
ด้วยการอนุญาตให้ส่งไม้ยางพาราออกไปนอกราชอาณาจักร (ฉบับที่ ..)  พ.ศ. ....  (กำหนดให้การขออนุญาตส่ง    
ออกไม้ยางพาราทั้งไม้ซุงและไม้แปรรูปให้ยื่นคำร้องขอรับใบอนุญาตส่งสินค้าออกไปนอกราชอาณาจักร   พร้อม  
แนบหลักฐานการซื้อขาย  ได้แก่  สำเนาใบกำกับสินค้า (Invoice)  สำเนาใบสั่งซื้อ (Order Sheet)  หรือเอกสาร 
อื่นใดที่แสดงรายละเอียดเกี่ยวกับการซื้อขาย) ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ  รวม  2  ฉบับ  และให้ส่งสำนักงาน 
คณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยรับข้อสังเกตของสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (เกี่ยวกับสาระสำคัญ 
บางประการภายในร่างประกาศและร่างระเบียบดังกล่าวในส่วนของชื่อร่างประกาศและร่างระเบียบ ตลอดจนข้อ 
กำหนดบางประการ) ไปพิจารณาด้วย   แล้วดำเนินการต่อไปได้   โดยให้ร่างระเบียบมีผลใช้บังคับพร้อมกับร่าง 
ประกาศ

              คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้แต่งตั้ง นางสาวอรจิต สิงคาลวณิช รองปลัดกระทรวงพาณิชย์ ผู้แทน
กระทรวงพาณิชย์  เป็นกรรมการในคณะกรรมการบริหารกองทุนตามพระราชบัญญัติอ้อยและน้ำตาลทราย 
พ.ศ. 2527  แทน  นางผ่องศรี  ยุทธสารประสิทธิ์  รองปลัดกระทรวงพาณิชย์  ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรม 
เสนอ โดยให้แต่งตั้งตั้งแต่วันที่ 16 มกราคม 2544 เป็นต้นไป

              คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักเกณฑ์การจัดตั้งศูนย์รวบรวมผักและผลไม้เพื่อการส่งออก และให้หน่วย
งานราชการที่มีหน้าที่ให้บริการตามขั้นตอนการส่งออก  ได้แก่  กรมการค้าต่างประเทศ  กรมวิชาการเกษตร   กรม 
วิทยาศาสตร์การแพทย์  และกรมศุลกากรจัดส่งบุคลากรเข้าปฏิบัติการในศูนย์ ฯ โดยดำเนินการในรูปแบบเต็มคณะ 
ที่สามารถให้บริการอย่างเบ็ดเสร็จภายในศูนย์ ฯ  ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ   โดยให้รับความเห็นและข้อสังเกต  
ของส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง (เกี่ยวกับการพิจารณารายละเอียดเพื่อไม่ให้เกิดความซ้ำซ้อนและล่าช้า นอกจากนี้ ควร  
ศึกษาถึงผลการดำเนินงานของศูนย์รวบรวมผลิตผลเกษตรเพื่อส่งออกครบวงจรของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ใน  
การกำหนดหลักเกณฑ์การคัดเลือกภาคเอกชนเพื่อเป็นผู้ดำเนินการศูนย์ ฯ   และควรมีการปรับปรุงในรายละเอียด 
บางประการ  เช่น  กรณีของการร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชนควรกำหนดรายละเอียด   รวมทั้งตัวชี้วัดของโครง  
การให้ชัดเจน    ส่วนการจัดตั้งตลาดกลางในระยะเริ่มต้นให้มีมาตรการควบคุมค่าให้บริการและอำนวยความสะดวก
แก่ผู้ส่งออกและผู้มาใช้บริการให้เหมาะสมและเป็นธรรม) ไปดำเนินการด้วย

              คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง การกำหนดส่วนราชการตาม  
พระราชกฤษฎีกาแบ่งส่วนราชการกรมส่งเสริมการส่งออก กระทรวงพาณิชย์ พ.ศ. 2542  (ยกเลิกประกาศ       
สำนักนายกรัฐมนตรี ฯ  ซึ่งประกาศเมื่อวันที่  6  ตุลาคม  2542   และกำหนดชื่อสำนักงานส่งเสริมการค้า  
ในต่างประเทศ สังกัดกรมส่งเสริมการส่งออกจากเดิมจำนวน 50 สำนักงาน  เป็น  53  สำนักงาน)  ตามที่  
กระทรวงพาณิชย์เสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ 

             คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายอมร จันทรสมบูรณ์ นายวัฒนา รัตนวิจิตร นายอัมมาร์ สยามวาลา
นายทวี บุตรสุนทร นายอาชว์ เตาลานนท์  นายโอฬาร ไชยประวัติ  และนายวิโรจน์ นวลแข  เป็นกรรมการผู้ทรง   
คุณวุฒิในคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์  จำนวน 7 คน  ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ  โดยให้แต่งตั้งตั้งแต่วันที่  
12 ธันวาคม 2543 เป็นต้นไป

             คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการรณรงค์เพื่อใช้สินค้าและผลไม้ไทยเป็นของขวัญในเทศกาลปีใหม่ โดยให้ 
กระทรวงพาณิชย์ร่วมกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกรมประชาสัมพันธ์รณรงค์ประชาสัมพันธ์ให้คนไทยใช้ 
สินค้าและผลไม้ไทยแทนสินค้าและผลไม้ต่างประเทศเป็นของขวัญในการอวยพร  ทั้งนี้  เพื่อเป็นการประหยัดเงิน
ตราของประเทศ โดยให้ถือเป็นนโยบายรัฐบาลให้ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจรณรงค์ให้ข้าราชการและพนักงาน
รัฐวิสาหกิจถือปฏิบัติในเรื่องนี้ด้วย และให้ดำเนินการ ตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอ

              คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติการลงนามบันทึกความเข้าใจเกี่ยวกับการเสริมสร้างความสัมพันธ์ทางการ
ค้าระหว่างไทยกับมาดากัสการ์  ระหว่างรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ (นายกรพจน์  อัศวินวิจิตร) กับ 
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์และการบริโภคของมาดากัสการ์   เมื่อวันที่  13  ตุลาคม  2543   โดยมีวัตถุ 
ประสงค์เพื่อร่วมมือกันเสริมสร้างความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจระหว่างประเทศไทยกับมาดากัสการ์ให้แน่นแฟ้น    
ยิ่งขึ้น อีกทั้งเป็นกลไกสำคัญในการส่งเสริมและเพิ่มพูนปริมาณการค้าและการลงทุนระหว่างกันอีกด้วย  ตาม
ที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ

              คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการปฏิบัติงานตามแผนปฏิบัติการของแผนพัฒนาเศรษฐกิจ
และสังคมแห่งชาติ  ฉบับที่ 8 และการรายงานผลการดำเนินการตามนโยบายรัฐบาล  ระยะที่  2  ประจำปีงบ  
ประมาณ  2543  (เมษายน - กันยายน  2543)  ของกระทรวงพาณิชย์  ประกอบด้วยส่วนที่เป็นไปตามแผน
ปฏิบัติการของแผนพัฒนา ฯ จำนวน 76 งาน/โครงการ  และที่ดำเนินการตอบสนองนโยบายรัฐบาล จำนวน  
81 งาน/โครงการ ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ โดยให้รับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการ 
เศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ  (เกี่ยวกับการเร่งรัดดำเนินการปฏิรูปกฎหมายที่จะส่งผลต่อระบบการค้าและขีด 
ความสามารถในการแข่งขันของประเทศ  การเตรียมความพร้อมของบุคลากรในหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อรอง   
รับการบังคับใช้กฎหมายใหม่  ๆ  การส่งเสริมให้ภาคเอกชนใช้มาตรการต่าง  ๆ  ที่รัฐสนับสนุนเพื่อขยายสัด 
ส่วนการส่งออกไปตลาดใหม่  รวมทั้งการดำเนินงานของศูนย์ผลักดันสินค้า ตามโครงการนำร่อง  "ผู้ผลักดัน  
สินค้า"  ในอุตสาหกรรมสิ่งทอ  อัญมณีและเครื่องประดับ  เครื่องหนังและรองเท้า  เพื่อสนับสนุนและผลักดัน 
การส่งออก ทั้งนี้ เพื่อเพิ่มสมรรถนะและขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ)  ไปพิจารณาดำเนินการ
ต่อไป

              คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ในส่วนของเขตเทศบาลนครหาด 
ใหญ่ และแนวทางแก้ไข ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ  โดยให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์รับไปศึกษาและจัด 
ทำแนวทางป้องกันน้ำท่วมและระบายน้ำในจังหวัดที่ประสบอุทกภัยภาคใต้ โดยเฉพาะอำเภอหาดใหญ่ ตามมติ  
คณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2543 เรื่อง แนวทางป้องกันน้ำท่วมจังหวัดจันทบุรีและจังหวัดใกล้เคียง และ 
มติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2543 เรื่อง โครงการศึกษาเพื่อจัดทำแผนปฏิบัติการป้องกันน้ำท่วมและ 
ระบายน้ำจังหวัดจันทบุรีและจังหวัดใกล้เคียง โดยให้ประสานกับสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจ 
และสังคมแห่งชาติ   รวมทั้งอนุมัติให้แต่งตั้งคณะกรรมการเฉพาะกิจเพื่อประสานงาน ติดตามและเร่งฟื้นฟูแก้ไข 
ปัญหาอุทกภัยภาคใต้  โดยให้กระทรวงมหาดไทยรับไปพิจารณาองค์ประกอบและอำนาจหน้าที่ต่อไป   กับให้ 
กระทรวงการคลังพิจารณาแนวทางการช่วยเหลือผู้ประกอบการและเกษตรกรที่ประสบภัยทางด้านภาษี   และ 
การขยายสินเชื่อธนาคาร ฯ  ตามความเหมาะสม   นอกจากนี้  ให้กระทรวงพาณิชย์ตรวจสอบและควบคุมมิให้  
มีการฉวยโอกาสกักตุนสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็นเพื่อการค้ากำไรเกินควร  โดยให้ประสานการดำเนินการ  
กับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ทั้งนี้ ให้จัดคาราวานจำหน่ายสินค้าราคาถูกที่จำเป็นแก่การดำรงชีพให้เพียงพอ  
ในพื้นที่ประสบภัยด้วย

               คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวง  (พ.ศ. ....)  ออกตามความในพระราชบัญญัติ
การบัญชี พ.ศ. 2543  (กำหนดให้ห้างหุ้นส่วนจดทะเบียนที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมายไทยที่มีทุนสินทรัพย์และ 
รายได้ทุนรายการไม่เกินกว่าจำนวนที่กำหนดได้รับยกเว้นไม่ต้องจัดให้งบการเงินได้รับการตรวจสอบ  และ   
แสดงความเห็น โดยผู้สอบบัญชีรับอนุญาต)  และเห็นชอบร่างประกาศกระทรวงการคลัง   เรื่อง   ให้บุคคล  
ธรรมดาหรือห้างหุ้นส่วนที่มิได้จดทะเบียนเป็นผู้มีหน้าที่จัดทำบัญชี พ.ศ. 2543 (กำหนดให้บุคคลธรรมดา  
หรือห้างหุ้นส่วนที่มิได้จดทะเบียนซึ่งประกอบธุรกิจเกี่ยวกับสินค้าประเภทเทปเพลง วีดีโอเทป และแผ่นซีดี  
เป็นผู้มีหน้าที่จัดทำบัญชี) ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ  และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจ  
พิจารณา  โดยให้รับข้อสังเกตของสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (เกี่ยวกับชื่อร่างและถ้อยคำบางประการ)  
ไปพิจารณาด้วย    แล้วดำเนินการต่อไปได้     สำหรับความเห็นของกระทรวงการคลังเกี่ยวกับร่างประกาศ   
กระทรวงพาณิชย์ดังกล่าว  เห็นควรให้บุคคลธรรมดาหรือห้างหุ้นส่วนที่มิได้จดทะเบียนซึ่งเป็นผู้มีเงินได้พึง 
ประเมินที่มีรายได้ตั้งแต่  600,000  ล้านบาทต่อปี  ยังคงต้องเป็นผู้มีหน้าที่จัดทำบัญชี  นั้น   ให้กระทรวง
พาณิชย์รับไปหารือร่วมกับกระทรวงการคลังเพื่อกำหนดแนวทางปฏิบัติที่ชัดเจนต่อไป 

                คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่ประธานคณะกรรมการพัฒนาการส่งออกรายงานผลการประชุม 
ของคณะกรรมการพัฒนาการส่งออก  เกี่ยวกับการปรับปรุงกลไกสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศที่ให้  
ความเห็นชอบกลยุทธ์การส่งออก และการปรับปรุงกลไกส่งเสริมการส่งออกในต่างประเทศเพื่อสนับสนุนการ    
ส่งออกของไทยให้ขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง  โดยการย้ายสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ จำนวน  
3 สำนักงาน ฯ และจัดตั้งสำนักงาน ฯ  เพิ่มเติมจำนวน 3 สำนักงาน ฯ  รวมทั้งข้อเสนอของกรมส่งเสริมการส่ง  
ออก กระทรวงพาณิชย์ เกี่ยวกับการปรับเปลี่ยนสำนักงาน ฯ   ในแต่ละภูมิภาคในส่วนที่เหลือเพื่อเพิ่มขีดความ 
สามารถการส่งออกบรรลุตามเป้าหมาย

             คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบนโยบายและมาตรการนำเข้าวัตถุดิบอาหารสัตว์ (กากถั่วเหลือง ข้าวโพด
เลี้ยงสัตว์ และปลาป่น) ปี 2544 โดยให้คงนโยบายและมาตรการฯ ไว้เช่นเดียวกับปี 2543 ทั้งนี้ ให้มีผลบังคับ
ใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2544 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2544  ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ  และให้ดำเนินการ
ต่อไปได้ โดยให้กระทรวงพาณิชย์รับความเห็นและข้อสังเกตของกระทรวงอุตสาหกรรม  (เกี่ยวกับนโยบายและ
มาตรการดังกล่าวยังมีข้อจำกัดอยู่บางประการ  รัฐบาลจึงควรเร่งดำเนินการปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิต/
ผลผลิตภายในประเทศให้สูงกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน  รวมทั้งต้องมีการกำหนดเป็นแนวนโยบายระยะยาวที่ชัด
เจนต่อไป)  ไปประกอบการพิจารณาดำเนินการด้วย         

              คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามมติคณะกรรมการรัฐมนตรีว่าด้วยนโยบายเศรษฐกิจ (คศก.) เกี่ยวกับ 
รายงานภาวะการค้าระหว่างประเทศของไทยในระยะ 9 เดือนแรกของปี 2543 ตามที่กระทรวงพาณิชย์รายงาน 
โดยการส่งออกในระยะ 9 เดือนแรกของปี 2543 (มกราคม - กันยายน) มีมูลค่า  51,382  ล้านเหรียญ สรอ.  
เพิ่มขึ่นจากระยะเดียวกันของปี 2542 ทั้งในส่วนของสินค้าเกษตรกรรม  สินค้าอุตสาหกรรมการเกษตร  สินค้า  
อุตสาหกรรม และสินค้าอื่น ๆ ได้แก่ น้ำมันสำเร็จรูป น้ำมันดิบ  และก๊าซปิโตรเลียมเหลว  สำหรับภาวะการส่ง  
ออกไปยังตลาดสำคัญมีแนวโน้มขยายตัวเพิ่มขึ้นในอัตราสูง โดยเฉพาะญี่ปุ่นและอาเซียน  รวมทั้งการนำเข้าใน  
ระยะ 9 เดือนแรกของปี 2543  ซึ่งเพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันของปี 2542  ตามการขยายตัวของการส่งออกและ 
การเพิ่มขึ้นของราคาน้ำมันจากต่างประเทศ ทั้งนี้ ดุลการค้ายังคงเกินดุลต่อเนื่องเป็นเดือนที่สามสิบแปด  โดย   
มีมูลค่า 6,094 ล้านเหรียญ สรอ. โดยประเทศคู่ค้าสำคัญที่ไทยมีดุลการค้าเกินดุล คือ สหรัฐอเมริกา  สหภาพ  
ยุโรป  สิงคโปร์  ฮ่องกง  แอฟริกา  ออสเตรเลีย  รวมถึงลาตินอเมริกา  และรับทราบตามที่รัฐมนตรีช่วยว่าการ 
กระทรวงพาณิชย์ (นายกรพจน์  อัศวินวิจิตร) ชี้แจงเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวเลขการส่งออกในช่วงไตรมาสที่  4  และ  
สาเหตุที่ดุลการค้าในระยะ  9  เดือนแรกของปี 2543  เกินดุลลดลง  พร้อมทั้งการเร่งดำเนินมาตรการเพื่อให้ 
การส่งออกของไทยเพิ่มขึ้น ได้แก่  การปรับปรุงการทำงานของสำนักงานในต่างประเทศ  การปรับปรุงตัวเลข  
การส่งออก และข้อมูลตัวเลขให้มีความชัดเจน   การสนับสนุนให้ผู้ส่งออกใช้พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์เพื่อส่งเสริม  
การส่งออก ตลอดจนปรับปรุงกรมส่งเสริมการส่งออกในด้านต่าง ๆ และชื่อกรมด้วย

              คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการรัฐมนตรีว่าด้วยนโยบายเศรษฐกิจ (คศก.) โดยรับทราบ 
สถานภาพการดำเนินงาน e - Thailand  ในส่วนของการพัฒนาการส่งเสริมและพัฒนาสังคม (e - Society) การ
สร้างรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์  (e - Government)  นโยบายเศรษฐกิจระหว่างประเทศ การเปิดเสรีทางด้านการค้า  
บริการ  และการลงทุน (Liberalization : e - Trade, e - Service, e - Inrestment) การอำนวยความสะดวกด้าน  
พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์  (e - Commerce Facilitation)  และโครงสร้างพื้นฐานสารสนเทศ (ASEAN  Information 
Infrastructure) ตามที่กระทรวงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อมรายงาน โดยให้กระทรวงวิทยาศาสตร์ ฯ  
รับความเห็นของรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์  (นายกรพจน์   อัศวินวิจิตร)  (เกี่ยวกับการรวบรวมเชื่อม  
โยงข้อมูลของส่วนราชการต่าง ๆ ให้สามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ  และให้มีบริการการใช้ซอฟต์แวร์โดย  
คิดค่าใช้จ่ายตามช่วงเวลาการใช้และให้กรมทะเบียนการค้าเริ่มดำเนินการเกี่ยวกับการรับรองลายมือชื่อธุรกรรม
อิเล็กทรอนิกส์)  ไปดำเนินการ

               คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแต่งตั้ง นายสิทธิ์เสรี  งามภากร   เป็นผู้อำนวยการองค์การคลังสินค้า
ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 7 พฤศจิกายน 2543 เป็นต้นไป  ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ โดยให้นายนิพนธ์ วงษ์ตระห่าน
พ้นจากตำแหน่งผู้อำนวยการองค์การคลังสินค้า   ตั้งแต่วันที่ 7  พฤศจิกายน  2543  และให้กระทรวงพาณิชย์
ปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีวันที่ 13 มิถุนายน 2543    เรื่องหลักเกณฑ์และแนวทางการจ่ายผลตอบแทนของ
ผู้บริหารสูงสุดตามสัญญาจ้าง และมติวันที่ 14 สิงหาคม 2542 เรื่อง การแต่งตั้งผู้บริหารสูงสุดของรัฐวิสาหกิจ
ด้วย

             คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการนโยบายเศรษฐกิจระหว่างประเทศ (กนศ.) เกี่ยวกับกรอบ
ความตกลงด้านอิเล็กทรอนิกส์ของอาเซียน  และพิธีสารว่าด้วยการดำเนินการเพื่อให้เป็นไปตามระบบการใช้อัตรา  
ภาษีพิเศษที่เท่ากันสำหรับบัญชียกเว้นลดภาษีชั่วคราว ในช่วงการประชุมสุดยอดอาเซียนอย่างไม่เป็นทางการ และ 
การประชุมอื่นที่เกี่ยวข้อง ระหว่างวันที่ 22-25 พฤศจิกายน 2543 ครั้งที่ 4 ณ ประเทศสิงคโปร์  โดยมีสาระสำคัญ  
เกี่ยวกับการอนุมัติกรอบความตกลง ฯ โดยให้นายกรัฐมนตรีเป็นผู้ลงนาม  ในส่วนของพิธีสาร ฯ  ให้หัวหน้าคณะผู้ 
แทนไทยในการประชุมรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียนเป็นผู้ลงนาม  ทั้งนี้ หากมีการแก้ไขถ้อยคำที่มิใช่สาระสำคัญให้ผู้  
ลงนามใช้ดุลยพินิจแทนคณะรัฐมนตรีได้    รวมทั้งอนุมัติกรอบท่าทีไทยในการเจรจาสองฝ่ายภายใต้พิธีสาร ฯ  กับ
มาเลเซีย และประเทศอื่น ๆ (หากมี) และมอบอำนาจให้  กนศ.  เป็นผู้พิจารณา  เว้นแต่กรณีที่ต้องการตัดสินใจใน
ระดับรัฐบาล ให้ กนศ. พิจารณาเสนอขออนุมัติคณะกรรมการรัฐมนตรีว่าด้วยนโยบายเศรษฐกิจหรือคณะรัฐมนตรี
ตามความเหมาะสม ตามที่รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ (นายศุภชัย พานิชภักดิ์) เสนอ