คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอร่างประกาศกระทรวงพาณิชย์  เรื่อง 
การนำสินค้าข้าวโพดที่ใช้เป็นวัตถุดิบอาหารสัตว์และกากถั่วเหลืองเข้ามาในราชอาณาจักร  ภายใต้เขตการค้า
เสรีอาเซียน (AFTA) พ.ศ. ....  โดยร่างประกาศกระทรวงพาณิชย์ ฯ  มีสาระสำคัญดังนี้ (1) ให้สินค้าข้าวโพดที่
ใช้เป็นวัตถุดิบอาหารสัตว์ และกากถั่วเหลืองที่มีถิ่นกำเนิด และส่งมาจากประเทศสมาชิกภายใต้เขตการค้าเสรี
อาเซียน (AFTA) ตามความตกลงว่าด้วยการใช้อัตราภาษีศุลกากรพิเศษที่เท่ากัน เป็นสินค้าที่ต้องมีหนังสือรับ
รองแหล่งกำเนิดสินค้าแบบดี (Form D) ที่ออกโดยประเทศสมาชิกที่ส่งออก เพื่อแสดงต่อกรมศุลกากรประกอบ
การทำพิธีการนำเข้ามาในราชอาณาจักร  และ  (2)  ภายใต้บังคับของประกาศกระทรวงพาณิชย์ ว่าด้วยการ
นำสินค้าเข้ามาในราชอาณาจักร (ฉบับที่ 74) พ.ศ. 2533  และประกาศกระทรวงพาณิชย์ว่าด้วยการกำหนด
อัตราค่าธรรมเนียมพิเศษในการนำเข้าข้าวโพด  ปลาป่น  และกากถั่วเหลือง  (ฉบับที่ 19)  พ.ศ. 2540   ให้
สินค้าข้าวโพดที่ใช้เป็นวัตถุดิบอาหารสัตว์  และกากถั่วเหลือง   เป็นสินค้าที่ไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมพิเศษใน
การนำเข้า และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วให้ดำเนินการต่อไปได้

                          เห็นชอบตามความเห็นของกระทรวงการคลังเกี่ยวกับร่างพระราชบัญญัติศุลกากร
(ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (พลตำรวจโท วิโรจน์ เปาอินทร์  และนายสุรสิทธิ์  นิติวุฒิวร
รักษ์) เสนอ และร่างพระราชบัญญัติศุลกากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....  ที่คณะรัฐมนตรีเสนอ  โดยเห็นว่า ร่างพระ
ราชบัญญัติที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเสนอ  ซึ่งเดิมกระทรวงการคลังได้ให้ความเห็นไว้ว่า การเพิ่มเติมวรรค
2 ของมาตรา 5 ทวิ แห่งพระราชบัญญัติศุลกากร (ฉบับที่ 7)  พ.ศ. 2480  ตามร่างพระราชบัญญัติที่สมาชิก
สภาผู้แทนราษฎรเสนอจะเป็นการเพิ่มอุปสรรคต่อการนำเข้า  ส่งออก  หากรัฐบาลหรือกระทรวงการคลังมี
ความจำเป็นต้องกำหนดนโยบายเป็นกรณีพิเศษ ก็อาจวางนโยบายให้กรมศุลกากรและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ถือปฏิบัติได้อยู่แล้ว ประกอบกับสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาก็เคยมีความเห็นว่า  มาตรา  5  ทวิ  แห่ง
พระราชบัญญัติศุลกากร  (ฉบับที่ 7)  พ.ศ. 2480  เดิม   สามารถแก้ไขปัญหาที่อ้างในหลักการของร่างพระ
ราชบัญญัติ ฯ ของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรได้อยู่แล้ว จึงไม่มีความจำเป็นต้องตราเป็นพระราชบัญญัติอีก จึง
ยืนยันตามความเห็นเดิมว่าไม่ควรรับหลักการร่างพระราชบัญญัติดังกล่าว   สำหรับร่างพระราชบัญญัติ ฯ ที่
คณะรัฐมนตรีเสนอ เห็นว่า เหมาะสมไม่ควรแก้ไขในประเด็นใดอีก จึงขอยืนยันที่จะนำร่าง ฯ ดังกล่าวให้เข้าสู่
วาระการประชุมสภาผู้แทนราษฎรต่อไป และให้ดำเนินการร่างพระราชบัญญัติศุลกากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....
ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเสร็จแล้วต่อไปได้    นอกจากนี้   ให้กระทรวงการคลังรับ
ประเด็นปัญหาเกี่ยวกับการเปิดด่านชั่วคราว หรือทางอนุมัติเฉพาะคราวของกรมศุลกากร  ซึ่งอาจมีช่องทาง
ทำให้เกิดการทำลายทรัพยากรธรรมชาติและปัญหาเกี่ยวกับความมั่นคงตามที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร
(พลตำรวจโท วิโรจน์ เปาอินทร์  และนายสุรสิทธิ์ นิติวุฒิวรรักษ์) เสนอ ไปพิจารณา

             คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงการคลังรายงานสรุปผลการพิจารณาของหน่วยงานที่เกี่ยว
ข้องตามมติคณะรัฐมนตรี  (25 มิถุนายน 2545)  ในการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างไม่เป็นทางการนอกสถานที่
ครั้งที่ 4 (ภาคตะวันออก) ในระหว่างวันที่ 21-23 มิถุนายน 2545  เกี่ยวกับแนวทางการส่งเสริม Cargo สินค้า
ผลไม้   โดยใช้ประโยชน์จากเครื่องบินหรือเรือของกระทรวงกลาโหมช่วยในการขนส่งผลไม้ส่งออกให้กระจายไป
ต่างประเทศมากขึ้น กระทรวงกลาโหมได้ชี้แจงว่า การดำเนินการดังกล่าวยังไม่มีความเหมาะสมและไม่คุ้มค่าและ
ค่อนข้างยุ่งยาก และใช้งบประมาณในการปรับปรุงเครื่องบินและเรือค่อนข้างสูง  เนื่องจากเครื่องบินและเรือของ
กระทรวงกลาโหมได้ออกแบบมาเพื่อใช้ในภารกิจทางทหารโดยเฉพาะ  ส่วนปัญหาในการขนส่งสินค้า  โดยเฉพาะ
ปัญหาความยุ่งยากทางด้านพิธีการศุลกากร ซึ่งควรมีการปรับลดขั้นตอนเพื่อให้เกิดความสะดวกขึ้น กรมศุลกากร 
ได้ดำเนินการจัดตั้ง  "ศูนย์บริการส่งออกแบบเบ็ดเสร็จ"  ขึ้นที่กรมส่งเสริมการส่งออก  เพื่อให้บริการผู้ส่งออกให้
สามารถขออนุญาตส่งสินค้าออกได้สะดวกรวดเร็วขึ้น    สำหรับการปรับปรุงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่มีอัตราสูงให้ลด
ลงสอดคล้องกับภาวการณ์ในปัจจุบัน กระทรวงการคลังได้ชี้แจงว่า  ขณะนี้อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ยืมของสถาบันการ
เงินอยู่ในระดับค่อนข้างต่ำ  ขณะที่สภาพคล่องในระบบการเงินยังอยู่ในระดับสูง   ส่งผลให้ส่วนต่างระหว่างอัตรา
ดอกเบี้ยเงินฝากประจำ  3   เดือน   และอัตราดอกเบี้ยเงินให้กู้ยืมแก่ลูกค้าชั้นดี   (MLR)   ของธนาคารพาณิชย์
ขนาดใหญ่  4  แห่ง อยู่ที่ร้อยละ 1.6 และ 6.6 - 6.85 ต่อปี  ตามลำดับ  และหากรัฐบาลต้องการให้อัตราดอกเบี้ย
เงินกู้ปรับลดลงอีก   เพื่อให้การสนับสนุนการลงทุนโครงการที่รัฐบาลเห็นว่ามีความสำคัญในเชิงยุทธศาสตร์เป็น
การเฉพาะกรณีแล้ว    ควรดำเนินการด้วยความรอบคอบและมีเป้าหมายที่ชัดเจน   เพราะจะมีผลกระทบต่อภาระ
การคลังของรัฐบาล

           คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 5 (คกก.5) 
ที่มีมติสนับสนุนข้อเสนอของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตามโครงการนำระบบอิเล็กทรอนิกส์มาใช้ใน
การแก้ไขปัญหาในการประกอบธุรกิจอันเนื่องมาจากกฎหมายเกี่ยวกับการนำเข้าหรือส่งออกซึ่งสินค้า ในวง
เงิน  4  ล้านบาท   โดยให้จัดสรรจากค่าใช้จ่ายสำรองเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจตามแผนงานการพัฒนาขีดความ
สามารถ ซึ่งคณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบกรอบวงเงิน 1,000 ล้านบาทไว้แล้ว  ทั้งนี้ ให้รับความเห็นของ
คกก.5  (เกี่ยวกับการดำเนินโครงการนำระบบอิเล็กทรอนิกส์มาใช้ในการแก้ไขปัญหา ฯ ควรมีการทำความ
เข้าใจให้ชัดเจนว่าโครงการดังกล่าวมีขอบเขตที่กว้างขวางกว่าระบบการส่งข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์ (EDI) ที่
กรมศุลกากรใช้อยู่ในปัจจุบันซึ่งยังมีข้อจำกัดในขอบเขตการดำเนินงานทั้งในด้านความหมาย  (Technically
Obsolete) และด้านการปฏิบัติ  ส่วนข้อเสนอของโครงการศึกษาครั้งนี้  ควรมีเป้าหมายในการยกระดับการ
ให้บริการแก่ธุรกิจเอกชนของหน่วยงานภาครัฐต่าง ๆ  เพื่อลดขั้นตอนระยะเวลาและค่าใช้จ่ายเพื่อสนับสนุน
การเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของภาคเอกชน)  ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป     และเพื่อให้การใช้
จ่ายเงินสำรองเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจตามแผนงานการพัฒนาขีดความสามารถดังกล่าวเป็นไปด้วยความรอบ
คอบเห็นควรมอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติจัดทำกรอบแผน
การใช้เงินดังกล่าวเสนอในการประชุมครั้งต่อไป

             คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงการคลังเสนอแผนการปฏิรูปงานของหน่วยงานภายใต้
กระทรวงการคลัง ได้แก่ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง  กรมสรรพากร  กรมสรรพสามิต  กรมศุลกากร  กรม
บัญชีกลาง กรมธนารักษ์ สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ และสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ

             คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้กรมศุลกากรนำเงินค่าขายของกลางสินค้าพืชเกษตร  5  ชนิด  ได้แก่ 
กระเทียม หอมแดง หอมหัวใหญ่ (รวมเมล็ดพันธุ์หอมหัวใหญ่) มันฝรั่ง และเส้นไหม ส่งเป็นรายได้แผ่นดิน
ไปก่อน ในระหว่างรอการจัดตั้งกองทุนเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูก ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ

            คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบคำตอบกระทู้ถามที่ 597 ร. เรื่อง การป้องกันการทุจริตคอรัปชั่นในหน่วย
งานสังกัดกระทรวงอุตสาหกรรม  ของนายนพดล   อินนา  สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร  (บัญชีรายชื่อ)  ซึ่งถาม
ว่ากระทรวงอุตสาหกรรมได้มีการติดตามตรวจสอบหรือจัดตั้งคณะทำงานเพื่อการป้องกันและปราบปรามการ
ทุจริตคอรัปชั่นภายในกระทรวง ฯ หรือไม่ อย่างไร  ในกรณีกรมศุลกากรเข้าจับกุมเรือน้ำมันสิงคโปร์  ซึ่งเกี่ยว
พันกับบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน)  และบริษัทไทยออยล์  นั้น  รัฐบาลได้ดำเนินการสอบสวนหาข้อเท็จจริง
หรือไม่  ถ้ามีผลการสอบสวนเป็นประการใด  และมีแผนงาน หรือมาตรการในการป้องกันการทุจริตคอรัปชั่น
ในลักษณะที่คล้ายคลึงกับปัญหากรณีกรมศุลกากรเข้าจับกุมเรือน้ำมัน ฯ ไว้หรือไม่อย่างไร ตามที่สำนักเลขาธิ
การนายกรัฐมนตรีเสนอ และให้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาต่อไป

               คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบความคืบหน้าการนำแผนยุทธศาสตร์ทวิภาคีมาใช้พิจารณากำหนด
โครงสร้างของทีมประเทศไทย  ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ประธานกรรมการบริหาร
ราชการในต่างประเทศเสนอ    และเห็นชอบมติคณะกรรมการบริหารราชการในต่างประเทศในส่วนคำขอ
เปิดสำนักงาน/เพิ่มบุคลากรในต่างประเทศของหน่วยงาน 4 แห่ง ได้แก่  กระทรวงกลาโหม  กระทรวงการ
คลัง (กรมศุลกากร) กระทรวงศึกษาธิการ  และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย   สำหรับกรอบอัตรากำลัง
และงบประมาณค่าใช้จ่ายให้แต่ละหน่วยงานตกลงรายละเอียดกับ สำนักงาน ก.พ.  และสำนักงบประมาณ
แล้วดำเนินการต่อไปได้ รวมทั้งรับทราบการเปิดสำนักงาน/เพิ่มบุคลากรในต่างประเทศของหน่วยงานดัง
กล่าว   ซึ่งอาจมีการพิจารณาทบทวนอีกครั้งเมื่อได้มีการพิจารณาองค์ประกอบและโครงสร้างทีมประเทศ
ไทยในภาพรวม  โดยใช้แผนยุทธศาสตร์ทวิภาคีเป็นกรอบในการพิจารณา  และในชั้นนี้ให้หน่วยงานทั้ง 4
แห่ง ชะลอการเช่าทรัพย์สินและการจ้างบุคลากรที่มีระยะเวลายาวเกินไปเพื่อมิให้เป็นอุปสรรค ตามความ
เห็นของสำนักงบประมาณ

            คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้รองนายกรัฐมนตรี  และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง (นายสมคิด 
จาตุศรีพิทักษ์) กำชับกรมศุลกากร  และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย    กำชับกระทรวงมหาดไทยและ
สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตำรวจทางหลวง) ให้ดำเนินการตรวจสอบและจับกุมผู้ลักลอบนำเข้าสินค้าเกษตร
อย่างจริงจัง    รวมทั้งมอบให้กระทรวงสาธารณสุข  (สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา)  และกระทรวง
อุตสาหกรรม  (สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม)  รับไปดำเนินการตรวจสอบคุณภาพและมาตร
ฐานของสินค้าเกษตร และสินค้าประเภทอื่น  ๆ   ซึ่งนำเข้าจากต่างประเทศอย่างถูกต้องตามกฎหมาย  โดย
สินค้าดังกล่าวต้องเป็นไปตามมาตรฐานที่กำหนด    หรืออาจพิจารณากำหนดมาตรฐานให้สูงขึ้นเพื่อความ
ปลอดภัยของประชาชนผู้บริโภค ตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอ

             คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้กระทรวงสาธารณสุข (สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา) รับ
เรื่อง  การควบคุมสารคาเฟอีน  (Caffeine)  ไปพิจารณาหารือร่วมกับกระทรวงที่เกี่ยวข้อง  เช่น  กระทรวง
พาณิชย์ (กรมการค้าต่างประเทศ) กระทรวงการคลัง  กระทรวงมหาดไทย  กระทรวงอุตสาหกรรม  สำนัก 
งาน ป.ป.ส.  สำนักงานตำรวจแห่งชาติ  และพลตำรวจโท อินธเดช  พรพีรพาน   โดยให้เชิญบริษัทรายใหญ่
ที่ใช้สารคาเฟอีนในการผลิตเข้าร่วมประชุม เพื่อกำหนดแนวทางในการควบคุมการนำเข้าเพื่อใช้ในกิจการที่
เหมาะสม    รวมทั้งพิจารณาปรับปรุงแก้ไขกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องในการควบคุมการขนย้าย  แล้ว
เสนอคณะรัฐมนตรีโดยด่วน   และให้กระทรวงการคลัง  (กรมศุลกากร)  จัดส่งบัญชีผู้สั่งนำเข้าสารดังกล่าว
ให้สำนักงาน ป.ป.ส. เพื่อติดตามการใช้และการขนย้ายโดยด่วน ตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอ

            คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงการคลังรายงานผลการดำเนินการแก้ไขปัญหาของภาครัฐ 
เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการส่งออกของประเทศ  โดยในส่วนของการให้สินเชื่อเพื่อการส่งออก ธนาคารเพื่อ   
การส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทยได้ดำเนินมาตรการต่าง ๆ   เพื่อขจัดปัญหาอุปสรรคในการปล่อยสินเชื่อ 
พร้อมทั้งส่งเสริมและสนับสนุนแก่ผู้ส่งออกอย่างต่อเนื่อง โดยให้บริการสินเชื่อก่อนและหลังการส่งออก  รวมถึง
ให้บริการสินเชื่อเพื่อการลงทุนในสินทรัพย์ถาวร และเงินทุนหมุนเวียนอื่น  ๆ  แก่ผู้ประกอบการส่งออกทั้งทาง 
ตรงและทางอ้อม ส่วนการแก้ไขปัญหาความล่าช้าในการคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม อยู่ระหว่างดำเนินการปรับปรุงหรือ  
กำหนดหลักเกณฑ์สำคัญ ของกรมสรรพากร  เพื่อให้มีการคืนภาษีมูลค่าเพิ่มที่รวดเร็วและเป็นภาระแก่ผู้ส่งออก   
น้อยที่สุด รวมทั้งการปรับโครงสร้างภาษีนำเข้าวัตถุดิบเพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน อยู่ระหว่างเสนอขอ 
ความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีในการปรับปรุงอัตราอากรขาเข้าสินค้าในกลุ่มวัตถุดิบ  เพื่อให้เข้าสู่อัตราอากร 
ตามโครงสร้าง คือ  ร้อยละ 1  ยกเว้นสินค้าเกษตรและสินค้าอุตสาหกรรม  และได้พิจารณาปรับลดอัตราอากร
ปัจจัยการผลิตที่ไม่มีผลิตในประเทศลงเหลือร้อยละ 1 เพื่อมิให้เกิดความลักลั่นของโครงสร้างอากรขาเข้า ฯ  ซึ่ง 
จะเป็นการลดต้นทุนการผลิต ส่งเสริมขีดความสามารถของอุตสาหกรรมไทยและการแข่งขันของผู้ประกอบการ
นอกจากนี้   กระทรวงการคลังโดยกรมศุลกากร  ได้จัดทำแผนแม่บทเพื่อปรับปรุงการบริหารของกรมศุลกากร  
ในทุกด้าน   โดยส่วนที่เกี่ยวกับการบริการการส่งออกมีจำนวน  9  แผน  อยู่ระหว่างเร่งรัดดำเนินการเพื่อการ 
ปฏิบัติให้เป็นรูปธรรมโดยเร็ว

              คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแผนแม่บทพัฒนาความปลอดภัยด้านเคมีวัตถุแห่งชาติ ฉบับที่ 2 (พ.ศ. 2545
- 2549) ที่ได้ปรับปรุงแล้ว ตามความเห็นของส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง โดยในส่วนของกระทรวงกลาโหมได้เพิ่มเติม
กฎหมายที่เกี่ยวข้อง จำนวน 2 ฉบับ  ได้แก่  พระราชบัญญัติควบคุมการส่งออกไปนอกราชอาณาจักรซึ่งอาวุธยุทธ 
ภัณฑ์และสิ่งที่ใช้ในการสงคราม พ.ศ. 2490 และคำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ฉบับที่ 37  ลงวันที่ 21  
ตุลาคม 2519  ส่วนกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้ตัดคำว่า "ออร์กาโนฟอสเฟต" ออก และแก้ไขคำว่า  "สมาคมผู้  
ผลิตสารเคมีเกษตรนานาชาติ  GIFAP"  เป็น  "CropLife International"  และกระทรวงการคลังได้เพิ่มกรมศุลกากร 
เป็นหน่วยงานที่เกี่ยวกับยุทธศาสตร์ที่ 1 การพัฒนาเครือข่ายข้อมูลสารเคมีแห่งชาติ  และยุทธศาสตร์ที่ 3 การส่ง 
เสริมศักยภาพการจัดการของเสียเคมีวัตถุ ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ

               คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบและเห็นชอบตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองโครงการเร่งด่วนเพื่อกระตุ้น 
เศรษฐกิจ (ครั้งที่ 9/2544) ตามที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอ  โดยที่ 
ประชุมมีมติอนุมัติโครงการปรับปรุงและพัฒนาสิ่งอำนวยความสะดวกรองรับการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ใน
อุทยานแห่งชาติ  ของกรมป่าไม้  รวมทั้งเห็นชอบกรอบแนวทางการจัดทำโครงการพัฒนาเศรษฐกิจระดับชุมชน 
 โดยในสรุปสาระสำคัญ  ข้อ 2.1.2 ให้ตัดข้อความในวงเล็บ "(ไม่เป็นโครงการด้านก่อสร้างถนนและแหล่งน้ำ)" ออกทั้ง 
หมด   และข้อ 2.1.5  3) ให้แก้ไขเป็น "...งบประมาณการบริหารและดำเนินการโครงการพัฒนาเศรษฐกิจระดับ 
ชุมชนจะพิจารณาใช้จากงบค่าใช้จ่ายสำรองเพื่อการกระตุ้นเศรษฐกิจ ฯ..." และรับทราบเรื่องที่อยู่ระหว่างดำเนินการ 
 จำนวน 2 เรื่อง ได้แก่  กรอบแนวทางการจัดทำข้อเสนอแผนงาน (National Program) ด้านอุตสาหกรรม/  
SMEs และโครงการพัฒนาเกาะช้างและพื้นที่ใกล้เคียง  ทั้งนี้  คณะรัฐมนตรีมีข้อสังเกตว่า การจัดซื้อเครื่องเอกซ
เรย์ขนาดใหญ่เพื่อตรวจสอบสินค้า ของกรมศุลกากรจำนวน 2 เครื่อง จำนวนเงินประมาณ 500 ล้านบาท 
ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นที่ต้องจัดซื้อ  ให้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติรับไปพิจารณาร่วมกับ
สำนักงบประมาณว่า จะใช้เงินจากที่ใด  และโดยที่การส่งเสริมการท่องเที่ยวเป็นการสร้างรายได้หลักให้แก่ประเทศ 
ตลอดจนการแก้ปัญหาราคาสินค้าเกษตรตกต่ำเป็นเรื่องสำคัญในการกระตุ้นเศรษฐกิจ สำนักงานคณะกรรมการ
พัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติควรกันเงินจากค่าใช้จ่ายสำรองเพื่อการกระตุ้นเศรษฐกิจ  จำนวน  12,000  ล้านบาท  
เพื่อใช้จ่ายเฉพาะการแก้ไขราคาสินค้าเกษตรตกต่ำเพียงอย่างเดียว

             คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้กรมศุลกากรจ้างลูกจ้างชั่วคราว จำนวน 589 อัตรา ต่อเนื่องเป็นเวลา 4 ปี
ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2544 - 30 กันยายน 2548  คิดเป็นยอดเงินงบประมาณปีละ  35,795,100  บาท  รวม 
ระยะเวลา  4  ปี  เป็นเงินทั้งสิ้น 143,180,400 บาท  ตามโครงการจ้างลูกจ้างชั่วคราวเพื่อดำเนินงานตามแผน 
แม่บทกรมศุลกากร    ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ     และในกรณีที่กรมศุลกากรได้รับอัตราข้าราชการเพิ่มใน
ระยะเวลาระหว่างดำเนินการโครงการนี้ ให้กรมศุลกากรปรับลดจำนวนลูกจ้างชั่วคราวที่เสนอขอไว้ลง สำนักงบ
ประมาณได้จัดเตรียมค่าใช้จ่ายในปีงบประมาณ พ.ศ. 2545  ไว้แล้ว  เป็นเงิน 30,225,000 บาท  ยังขาดอยู่อีก 
เป็นเงิน  5,570,100  บาท    ให้กรมศุลกากรพิจารณาเจียดจ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 
พ.ศ. 2545 หรือใช้เงินนอกงบประมาณสมทบในส่วนที่ยังขาดอยู่ ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ

              คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบเรื่องการจัดเก็บภาษีศุลกากรนำเข้ารถยนต์โตโยต้าแกรนเวียในอัตราที่ไม่ 
ถูกต้อง เนื่องจากรถยนต์ดังกล่าวเป็นรถยนต์นั่งไม่เกิน 7 ที่นั่ง ต้องเสียภาษีประมาณ 300 % แต่ได้มีการตีความ 
เป็นรถยนต์นั่ง 11 ที่นั่ง  เสียภาษี 40 %  ซึ่งเกิดจากความผิดพลาดในการจัดเก็บอัตราภาษีศุลกากรรถยนต์นำ
เข้าของกรมศุลกากร ดังนั้น เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องต้องเป็นผู้รับผิดชอบ  โดยให้กระทรวงการคลังตรวจสอบอย่าง
จริงจัง และดำเนินการในเรื่องนี้ให้ชัดเจนและถูกต้อง เพื่อจะได้ชี้แจงให้สื่อมวลชนได้เข้าใจอย่างชัดเจนต่อไป ตาม
ที่นายกรัฐมนตรีเสนอ

                             อนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี  คณะที่ 5  (คกก.5) 
ในการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติศุลกากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....  ของกระทรวงการคลัง  โดยอนุมัติหลักการร่าง 
พระราชบัญญัติดังกล่าว  ซึ่งมีสาระสำคัญเกี่ยวกับการแก้ไขข้อขัดข้องของบทบัญญัติต่าง  ๆ  อันเกิดจากบังคับใช้  
กฎหมายศุลกากร  ได้แก่  การมอบอำนาจของอธิบดีกรมศุลกากร  การกำหนดอัตราโทษ   บทบัญญัติเรื่องศาล    
กงสุลต่างประเทศ เรื่องสิ่งของที่ยึดไว้ที่จะตกเป็นของแผ่นดิน เรื่องช่วยซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ฯ เรื่องการรับยาน
พาหนะ หีบห่อ หรือภาชนะใดที่ใช้ หรือมีไว้เพื่อใช้ในการย้าย ฯ เรื่องการส่งออกข้าวและรำซึ่งต้องบรรจุกระสอบ  
เรื่องการทำลายของสดของเสียซึ่งยังมิได้รับมอบไป รวมทั้งเรื่องอำนาจการเปรียบเทียบและงดการฟ้องร้องของ  
คณะกรรมการเปรียบเทียบ  การกำหนดบทบัญญัติเรื่องทางอนุมัติเฉพาะคราว   และการกำหนดให้รัฐมนตรีว่า   
การกระทรวงการคลังมีอำนาจออกกฎกระทรวง และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดย  
รับข้อพิจารณาของสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (เกี่ยวกับบทบัญญัติกรณีให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง 
มีอำนาจออกกฎกระทรวงเพื่อเปลี่ยนแปลงจำนวนเงินของโทษปรับตามบทบัญญัติของกฎหมายศุลกากรเมื่อได้   
หารือกับธนาคารแห่งประเทศไทยแล้ว จะสามารถทำได้หรือไม่ เพียงใด  เนื่องจากการแก้ไขกฎหมายที่กำหนด  
จำนวนเงินของโทษปรับจะต้องทำโดยกฎหมายที่สูงกว่าหรือมีระดับเดียวกัน  นอกจากนี้  ในการหารือดังกล่าว  
อาจไม่ชัดเจนเพียงพอ  ดังนั้น  หากจำเป็นต้องได้รับความยินยอมจากธนาคารแห่งประเทศไทย สมควรบัญญัติ 
ให้ชัดเจนยิ่งขึ้น) ไปพิจารณาด้วย  แล้วให้ส่งคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรพิจารณา ก่อนเสนอ 
สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาต่อไป

               คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้กรมศุลกากรใช้เงินกู้ SAL จำนวน 135 ล้านบาท เพื่อเพิ่มขีดความสามารถ 
ระบบคอมพิวเตอร์ Mainframe ของกรมศุลกากร ให้มีประสิทธิภาพการใช้งานมากยิ่งขึ้น ตามที่กระทรวงการคลัง 
เสนอ

              คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักเกณฑ์การจัดตั้งศูนย์รวบรวมผักและผลไม้เพื่อการส่งออก และให้หน่วย
งานราชการที่มีหน้าที่ให้บริการตามขั้นตอนการส่งออก  ได้แก่  กรมการค้าต่างประเทศ  กรมวิชาการเกษตร   กรม 
วิทยาศาสตร์การแพทย์  และกรมศุลกากรจัดส่งบุคลากรเข้าปฏิบัติการในศูนย์ ฯ โดยดำเนินการในรูปแบบเต็มคณะ 
ที่สามารถให้บริการอย่างเบ็ดเสร็จภายในศูนย์ ฯ  ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ   โดยให้รับความเห็นและข้อสังเกต  
ของส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง (เกี่ยวกับการพิจารณารายละเอียดเพื่อไม่ให้เกิดความซ้ำซ้อนและล่าช้า นอกจากนี้ ควร  
ศึกษาถึงผลการดำเนินงานของศูนย์รวบรวมผลิตผลเกษตรเพื่อส่งออกครบวงจรของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ใน  
การกำหนดหลักเกณฑ์การคัดเลือกภาคเอกชนเพื่อเป็นผู้ดำเนินการศูนย์ ฯ   และควรมีการปรับปรุงในรายละเอียด 
บางประการ  เช่น  กรณีของการร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชนควรกำหนดรายละเอียด   รวมทั้งตัวชี้วัดของโครง  
การให้ชัดเจน    ส่วนการจัดตั้งตลาดกลางในระยะเริ่มต้นให้มีมาตรการควบคุมค่าให้บริการและอำนวยความสะดวก
แก่ผู้ส่งออกและผู้มาใช้บริการให้เหมาะสมและเป็นธรรม) ไปดำเนินการด้วย

              คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ ..  (พ.ศ. ....)  ออกตามความในพระราช 
บัญญัติการทุ่มตลาดและการอุดหนุนซึ่งสินค้าจากต่างประเทศ  พ.ศ. 2542  (กำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการ  
คืนอากรหรือหลักประกันการชำระอากรให้เป็นไปตามที่กำหนดไว้ในกฎกระทรวง) ตามที่กระทรวงการคลัง  
เสนอ  และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา   โดยให้รับข้อสังเกตของสำนักเลขาธิการ  
คณะรัฐมนตรี (เกี่ยวกับการให้อำนาจพนักงานเจ้าหน้าที่นำของที่เห็นว่ามีปัญหาเกี่ยวกับจำนวนค่าอากรไป    
เก็บในศุลกสถาน  และวางเงินเพิ่มเติมเป็นประกัน    รวมทั้งการให้อำนาจอธิบดีประกาศกำหนดให้รับการ  
ค้ำประกันของกระทรวงการคลังหรือธนาคาร    แทนการวางเงินเพิ่มเติมเป็นประกันมาใช้บังคับโดยอนุโลม  
เป็นการกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการนอกเหนือจากบทบัญญัติตามพระราชบัญญัติ ฯ  หรือไม่  นอกจากนี้   
กรณีที่มีคำวินิจฉัยเบื้องต้นให้ใช้มาตรการชั่วคราว   หรือคำวินิจฉัยขั้นที่สุดให้เรียกเก็บอากรตอบโต้การทุ่ม   
ตลาดหรืออากรตอบโต้การอุดหนุน  แล้วแต่กรณี     ให้กรมศุลกากรนำมาตรา  112  แห่งพระราชบัญญัติ 
ศุลกากร  พุทธศักราช  2469    มาใช้บังคับโดยอนุโลม  นั้น   ให้แก้ไขข้อความเป็น  "มาตรา  112    แห่ง
พระราชบัญญัติศุลกากร พุทธศักราช 2469    ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยประกาศของคณะปฏิวัติ  ฉบับที่  329
ลงวันที่ 13 ธันวาคม  พุทธศักราช 2515") ไปพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้

               คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการดำเนินการตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญ  
พิจารณาร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติพิกัดอัตราศุลกากร พ.ศ. 2530 (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....
ของสภาผู้แทนราษฎร สรุปได้ว่า การแก้ไขข้อความในมาตรา 9 ของพระราชบัญญัติ ฯ ดังกล่าว  จาก  "ราคา 
ในท้องตลาดเป็นรายเฉลี่ย" เป็น "ราคาศุลกากร" เพื่อให้เป็นการสอดคล้องกับบทบัญญัติในมาตรา  3  ของ 
พระราชบัญญัติศุลกากร (ฉบับที่ 17) พ.ศ. 2543 นั้น ไม่น่าจะเป็นเหตุให้รัฐได้รับความเสียหาย  เพราะการ  
กำหนดราคาศุลกากรจะต้องนำ "ราคาศุลกากร" หรือ "ราคา" แห่งของอย่างใดตามพระราชบัญญัติศุลกากร  
มาใช้บังคับ   สำหรับในกรณีการนำของเข้า นั้น ในพระราชบัญญัติศุลกากร มาตรา 11  ทวิ, 115  ทวิ  ได้มี  
การกำหนดมาตรการรองรับในการแก้ไขปัองกันการทุจริต หรือการฉ้อฉลค่าภาษีอากรไว้แล้ว     อีกทั้งกรม  
ศุลกากรยังมีมาตรการเสริมเพื่อให้การจัดเก็บภาษีอากรของรัฐรัดกุมมากยิ่งขึ้น คือ อำนาจของกรมศุลกากร  
ในการปฏิเสธ "ราคาซื้อขาย" ในกรณีที่เห็นว่าราคาสำแดงของของที่นำเข้ามีราคาต่ำอย่างปรากฎชัดหรือไม่ 
น่าจะเป็นมูลค่าอันแท้จริง   การทบทวนหลังปล่อย  (Post  Review)  โดยมีอำนาจในการตรวจสอบความถูก  
ต้องของเอกสาร การสำแดง รวมถึงพิกัดอัตราอากรและราคาศุลกากร การตรวจสอบบัญชีหลังปล่อย (Post 
Audit)  โดยมีอำนาจเข้าไปในสถานประกอบการเพื่อตรวจสอบบันทึกหลักฐานและข้อมูลต่าง ๆ   ที่เกี่ยวกับ 
การนำเข้า  รวมทั้งอำนาจในการสืบสวน (Investigation)  มาตรการในการประชาสัมพันธ์เพื่อให้ผู้ประกอบ  
การมีความรู้เรื่อง  GATT  อย่างกว้างขวาง     และการขอความร่วมมือประสานงานกับหน่วยงานจัดเก็บภาษี 
ภายใน เช่น  กรมสรรพสามิต  เป็นต้น  ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ  และให้แจ้งสำนักงานเลขาธิการสภา
ผู้แทนราษฎรทราบต่อไป