ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 28 จากทั้งหมด 81 หน้า แสดงรายการที่ 541 - 560 จากข้อมูลทั้งหมด 1601 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
541 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง | นร.52 | 24/09/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติรับโอน ร้อยตำรวจเอก ปิยะ รักสกุล
ข้าราชการพลเรือนสามัญ ตำแหน่งรองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ กระทรวงยุติธรรม และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรองเลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้
ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่าง
ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไป ตามที่ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้เสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
542 | การเสนอมาตรการหรือแนวทางในการช่วยเหลือเยียวยาผู้ประสบอุทกภัย | นร. | 24/09/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอว่า ตามที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติ (๑๗
กันยายน ๒๕๖๗) ให้ทุกส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องเร่งพิจารณากำหนดมาตรการช่วยเหลือเยียวยาประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยเพิ่มเติมจากการดำเนินการตามระเบียบ
หลักเกณฑ์ และมติคณะรัฐมนตรีที่ได้ดำเนินการอยู่แล้วตามปกติในปัจจุบัน
โดยหากการดำเนินการเพิ่มเติมดังกล่าวในเรื่องใดมีความจำเป็นต้องเสนอคณะรัฐมนตรี
ก็ขอให้เร่งดำเนินการเสนอคณะรัฐมนตรีโดยด่วน นั้น เพื่อให้การดำเนินการช่วยเหลือเยียวยาประชาชนผู้ประสบอุทกภัยดังกล่าวเป็นไปอย่างรวดเร็ว
ทั่วถึง เป็นเอกภาพ ไม่ซ้ำซ้อน และครอบคลุมทุกมิติ
ขอให้ทุกส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐส่งเรื่องเกี่ยวกับมาตรการหรือแนวทางในการช่วยเหลือเยียวยาประชาชนผู้ประสบอุทกภัยดังกล่าวข้างต้น
ไปที่ศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม
(ศปช.) เพื่อพิจารณาในภาพรวมโดยด่วน ก่อนนำเสนอต่อคณะรัฐมนตรีต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
543 | ขออนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพื่อใช้จ่ายสำหรับงบกลาง รายการค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลข้าราชการ ลูกจ้าง และพนักงานของรัฐ | กค. | 24/09/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๗ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น จำนวน ๒,๘๕๐.๐๐
ล้านบาท เพื่อใช้จ่ายสำหรับงบกลาง รายการค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลข้าราชการ
ลูกจ้าง และพนักงานของรัฐ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
544 | การต่อเวลาการดำรงตำแหน่งประเภทบริหาร (นักบริหารการทูตระดับสูง) | กต. | 24/09/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติการต่อเวลาการดำรงตำแหน่งของ นางสาวพรรณนภา
จันทรารมย์ ข้าราชการพลเรือนสามัญ ตำแหน่งเอกอัครราชทูต สถานเอกอัครราชทูต ณ
กรุงเทลอาวีฟ รัฐอิสราเอล ซึ่งจะดำรงตำแหน่งดังกล่าวครบการต่อเวลา
๑ ปี (ครั้งที่ ๑) ในวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๖๗ ต่อไปอีก ๑ ปี (ครั้งที่ ๒) ตั้งแต่วันที่
๑ ตุลาคม ๒๕๖๗ ถึงวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๖๘
ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
545 | ขอรับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพื่อดำเนินมาตรการลดภาระค่าใช้จ่ายด้านไฟฟ้าแก่ประชาชน สำหรับค่าไฟฟ้าประจำเดือนพฤษภาคม 2567 ถึงเดือนสิงหาคม 2567 | มท. | 24/09/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้การไฟฟ้านครหลวงและการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ใช้จ่ายงบประมาณในวงเงิน
๑,๗๙๐,๗๐๐,๐๐๐ บาท โดยใช้แหล่งเงินจากรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๗ งบกลาง
รายการเงินสำรองจ่าย เพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น สำหรับค่าไฟฟ้าประจำเดือนพฤษภาคม
๒๕๖๗ ถึงเดือนสิงหาคม ๒๕๖๗ เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินการลดภาระค่าใช้จ่ายด้านไฟฟ้าให้แก่ประชาชน
โดยเป็นกรอบวงเงินของการไฟฟ้านครหลวง จำนวน ๓๐๒,๔๙๐,๐๐๐ บาท และเป็นกรอบวงเงินของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค จำนวน ๑,๔๘๘,๒๑๐,๐๐๐ บาท โดยให้การไฟฟ้านครหลวงและการใฟฟ้าส่วนภูมิภาคเบิกจ่ายเงินจากสำนักงบประมาณต่อไป
ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ ให้กระทรวงมหาดไทย (การไฟฟ้านครหลวงและการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค)
รับความเห็นของกระทรวงการคลังและกระทรวงพลังงานไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
ดังนี้ กระทรวงการคลัง เห็นควรให้ความสำคัญกับการควบคุมและกำกับดูแลการใช้จ่ายเงินดังกล่าวให้เป็นไปตามกฎหมาย
ระเบียบ ข้อบังคับ และหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณให้ทันภายในปีงบประมาณ
เพื่อให้การใช้จ่ายงบประมาณมีความคุ้มค่าและเกิดประโยชน์สูงสุด
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
546 | ร่างเอกสารสำหรับการประชุมรัฐมนตรีอาเซียนด้านพลังงาน ครั้งที่ 42 และการประชุมอื่นที่เกี่ยวข้อง | พน. | 24/09/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบต่อร่างเอกสารสำหรับการประชุมรัฐมนตรีอาเซียนด้านพลังงาน
ครั้งที่ ๔๒ และการประชุมอื่นที่เกี่ยวข้อง จำนวน ๕ ฉบับ
ได้แก่ ๑) ร่างถ้อยแถลงร่วมสำหรับการประชุมรัฐมนตรีอาเซียนด้านพลังงาน ครั้งที่ ๔๒
๒)
ร่างถ้อยแถลงเพื่อการพิจารณาสำหรับการประชุมรัฐมนตรีอาเซียน-สหรัฐอเมริกาด้านพลังงาน
๓) ร่างถ้อยแถลงร่วมสำหรับการประชุมรัฐมนตรีอาเซียนบวกสามด้านพลังงาน (จีน ญี่ปุ่น
และเกาหลีใต้) ครั้งที่ ๒๑ ๔)
ร่างถ้อยแถลงร่วมสำหรับการประชุมสุดยอดรัฐมนตรีพลังงานแห่งเอเชียตะวันออก ครั้งที่
๑๘ และ ๕) ร่างถ้อยแถลงร่วมโครงการบูรณาการด้านไฟฟ้าระหว่าง สปป.ลาว ไทย มาเลเซีย
และสิงคโปร์ ฉบับที่ ๕ และอนุมัติให้รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานหรือผู้ที่ได้รับมอบหมายจากรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน
เป็นผู้ให้การรับรองเอกสารสำหรับการประชุมดังกล่าวในช่วงการประชุมรัฐมนตรีอาเซียนด้านพลังงาน
ครั้งที่ ๔๒ และการประชุมอื่นที่เกี่ยวข้อง ในระหว่างวันที่ ๒๔ - ๒๗ กันยายน ๒๕๖๗
ณ กรุงเวียงจันทน์ สปป.ลาว โดยร่างถ้อยแถลงร่วมฯ มีสาระสำคัญเป็นการแสดงเจตนารมณ์ร่วมกันในการส่งเสริมความร่วมมือด้านพลังงานระหว่างประเทศสมาชิกอาเซียน
ประเทศคู่เจรจา และองค์การระหว่างประเทศ เพื่อสนับสนุนการใช้และการพัฒนาพลังงานอย่างยั่งยืนในช่วงของการเปลี่ยนผ่านทางพลังงาน
โดยให้ความสำคัญกับการเสริมสร้างความมั่นคงทางพลังงานในภูมิภาคควบคู่กันไปด้วย
ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาด้านพลังงานและสอดคล้องกับสถานการณ์และศักยภาพของไทย
เพื่อนำไปสู่การเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ตามที่กระทรวงพลังงานเสนอ
ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างเอกสารฯ ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้
ให้กระทรวงพลังงานดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
547 | การบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ. 2567 | รง. | 24/09/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. เห็นชอบการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าวที่มีสถานะไม่ถูกต้องตามกฎหมาย
ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ ๒. อนุมัติในหลักการ ๒.๑
ร่างประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง
การอนุญาตให้คนต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรเป็นกรณีพิเศษ
สำหรับคนต่างด้าวสัญชาติกัมพูชา ลาว เมียนมา และเวียดนาม
ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ... ๒.๒
ร่างประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การอนุญาตให้คนต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรเป็นการเฉพาะ
สำหรับคนต่างด้าวสัญชาติกัมพูชา ลาว เมียนมา และเวียดนาม
ซึ่งได้รับอนุญาตให้ทำงานถึงวันที่ ๑๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๘
ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ... รวม ๒ ฉบับ ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ
และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๓. เห็นชอบในหลักการ ๓.๑
ร่างประกาศกระทรวงแรงงาน เรื่อง
การอนุญาตให้คนต่างด้าวทำงานในราชอาณาจักรเป็นกรณีพิเศษ
สำหรับคนต่างด้าวสัญชาติกัมพูชา ลาว เมียนมา และเวียดนาม
ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ... ๓.๒
ร่างประกาศกระทรวงแรงงาน เรื่อง การอนุญาตให้คนต่างด้าวทำงานในราชอาณาจักรเป็นการเฉพาะ
สำหรับคนต่างด้าวสัญชาติกัมพูชา ลาว เมียนมา และเวียดนาม
ซึ่งได้รับอนุญาตให้ทำงานถึงวันที่ ๑๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๘
ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ... ๓.๓
ร่างประกาศกระทรวงแรงงาน เรื่อง การขยายระยะเวลาการเปลี่ยนนายจ้างและระยะเวลาการทำงานกับนายจ้างรายใหม่
สำหรับคนต่างด้าวซึ่งได้รับอนุญาตให้เข้ามาทำงานในราชอาณาจักรตามกฎหมายว่าด้วยคนเข้าเมือง
ภายใต้บันทึกความตกลงหรือบันทึกความเข้าใจที่รัฐบาลไทยทำไว้กับรัฐบาลต่างประเทศ ๓.๔
ร่างประกาศกระทรวงแรงงาน เรื่อง
การยกเว้นการแจ้งข้อมูลการทำงานของคนต่างด้าวตามมาตรา ๖๔/๒ รวม
๔ ฉบับ ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ
และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน โดยให้รับความเห็นของกระทรวงสาธารณสุข
ที่เห็นว่าการทำประกันสุขภาพกับบริษัทประกันภัยจะต้องมีสิทธิประโยชน์ไม่น้อยกว่าการทำประกันสุขภาพตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข
และอายุความคุ้มครองต้องไม่น้อยกว่าระยะเวลาที่ได้รับอนุญาตทำงาน
รวมทั้งในกรณีที่นายจ้างได้รับการยกเว้นไม่ต้องเข้าประกันสังคม
คนต่างด้าวต้องทำประกันสุขภาพตามประกาศกระทรวงสาธารณสุขเท่านั้น ไปประกอบการพิจารณาด้วย
แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๔.
ให้กระทรวงแรงงานรับความเห็นของกระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงสาธารณสุข สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง) ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
เช่น กระทรวงการต่างประเทศ เห็นควรสนับสนุนการบริหารจัดการให้แรงงานต่างด้าวในไทยมีสถานะที่ถูกต้องตามกฎหมาย
เพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อยและเป็นประโยชน์สูงสุดต่อประเทศ
และเพื่อให้แรงงานต่างด้าวได้รับการคุ้มครองและเข้าถึงสิทธิที่พึงได้ตามกฎหมาย และอาจพิจารณาแจ้งแนวทางดังกล่าวให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของราชอาณาจักรกัมพูชา
สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา และสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามทราบและปฏิบัติให้สอดคล้องกันด้วย |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
548 | การศึกษาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการทะเบียนประวัติอาชญากร | ปช. | 24/09/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑.
รับทราบข้อเสนอแนะเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการทะเบียนประวัติอาชญากร ตามที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
549 | มาตรการพักชำระหนี้ให้กับลูกหนี้รายย่อยตามนโยบายรัฐบาล ระยะที่ 2 และระยะที่ 3 | กค. | 24/09/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบมาตรการพักชำระหนี้ให้กับลูกหนี้รายย่อยตามนโยบายรัฐบาล
ระยะที่ ๒ และระยะที่ ๓ รวมทั้งการพัฒนาศักยภาพเพื่อฟื้นฟูลูกหนี้ของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรของกระทรวงการคลัง
ในกรอบวงเงินงบประมาณรวมทั้งสิ้น ๒๒,๙๗๒ ล้านบาท ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ และให้กระทรวงการคลัง (ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร)
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของสำนักงบประมาณ เกี่ยวกับการจัดทำแผนการใช้จ่ายงบประมาณเพื่อเสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปี
และการพิจารณากำหนดมาตรการ/โครงการในการฟื้นฟูศักยภาพกลุ่มเกษตรกร รวมทั้งความเห็นของกระทรวงมหาดไทย
สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
และธนาคารแห่งประเทศไทยไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย เช่น กระทรวงมหาดไทย เห็นควรพิจารณาใช้กลไกในระดับพื้นที่ประชาสัมพันธ์
สร้างการรับรู้
และชี้แจงทำความเข้าใจให้แก่ลูกหนี้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรที่เป็นกลุ่มเป้าหมายในการได้รับการพักชำระหนี้ได้ทราบและเข้าใจเงื่อนไข
หลักเกณฑ์ ข้อกำหนด และวัตถุประสงค์ของมาตรการพักชำระหนี้ฯ ระยะที่ ๒ และระยะที่ ๓
รวมถึงการพัฒนาศักยภาพเพื่อฟื้นฟูลูกหนี้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรได้อย่างถูกต้องและทั่วถึง
และให้กำหนดมาตรการป้องกันการหลอกลวงโดยมิจฉาชีพในทุกรูปแบบเพื่อแสวงหาผลประโยชน์กับลูกหนี้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรที่เป็นกลุ่มเป้าหมายด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
550 | แนวทางการเสนอเรื่องการแต่งตั้งข้าราชการการเมือง ตามพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการการเมือง พ.ศ. 2535 มาตรา 4(8)-(20) | นร. | 24/09/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอว่า สืบเนื่องจากที่ศาลรัฐธรรมนูญได้มีคำวินิจฉัยเกี่ยวกับความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์และมาตรฐานทางจริยธรรมของข้าราชการการเมือง
ประกอบกับประมวลจริยธรรมของข้าราชการการเมือง พ.ศ. ๒๕๖๔
กำหนดให้ข้าราชการการเมืองต้องปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริตและต้องดำรงตนเป็นแบบอย่างที่ดีอยู่ในกรอบจริยธรรม
รวมทั้งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการการเมือง พ.ศ. ๒๕๓๕ และที่แก้ไขเพิ่มเติม
ได้บัญญัติเกี่ยวกับคุณสมบัติของข้าราชการการเมืองไว้ ดังนั้น
เพื่อให้การแต่งตั้งข้าราชการการเมืองมีความถูกต้อง และเป็นไปตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
จึงขอให้ทุกส่วนราชการที่จะเสนอแต่งตั้งข้าราชการการเมืองดำเนินการตรวจสอบคุณสมบัติของผู้ที่จะเสนอแต่งตั้ง
โดยจะต้องดำเนินการรับรองคุณสมบัติตามแบบรับรองประวัติบุคคลประกอบการพิจารณาแต่งตั้งข้าราชการการเมือง
ตามพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการการเมือง พ.ศ. ๒๕๓๕ มาตรา ๔ (๘) - (๒๐) จำนวน ๑๔
ข้อ รวมทั้งให้ดำเนินการตรวจสอบคุณสมบัติจากหน่วยงาน ๗ หน่วยงาน ได้แก่ (๑)
สำนักงานศาลยุติธรรม (๒) กรมบังคับคดี (๓)
สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (๔)
สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (๕) สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด
(๖) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และ (๗)
สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์
แล้วให้เสนอเรื่องการแต่งตั้งข้าราชการการเมืองไปยังสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีพร้อมทั้งแนบเอกสารการตรวจสอบและรับรองคุณสมบัติไปให้ถูกต้องครบถ้วนด้วย
เพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
551 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง | อก. | 24/09/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ
สังกัดกระทรวงอุตสาหกรรม ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน ๕ ราย
เพื่อทดแทนผู้ดำรงตำแหน่งที่จะเกษียณอายุราชการ และสับเปลี่ยนหมุนเวียน ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ
ดังนี้ ๑. นายภาสกร ชัยรัตน์ ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม ๒. นางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ๓. นายศุภกิจ บุญศิริ ดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ๔. นายใบน้อย สุวรรณชาตรี ดำรงตำแหน่งเลขาธิการคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย
สำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย ๕. นายวิฤทธิ์ วิเศษสินธุ์ ดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
552 | ขอรับจัดสรรงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น สำหรับการจ่ายเงินชดเชยดอกเบี้ยและความเสียหายรอบแรก ครั้งที่ 1 และเงินชดเชยความเสียหายรอบแรก ครั้งที่ 2 ตามพระราชกำหนดการให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ผู้ประกอบวิสาหกิจที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 พ.ศ. 2563 | กค. | 24/09/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๗ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น จำนวน ๑,๔๕๓,๑๑๓,๕๕๙.๘๒ บาท สำหรับการจ่ายเงินชดเชยดอกเบี้ยตามมาตรา
๙ และเงินชดเชยความเสียหายตามมาตรา ๑๑ แห่ง พ.ร.ก. Soft Loan รอบแรก ครั้งที่ ๑ และรอบแรก ครั้งที่ ๒
ตามที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติในคราวการประชุมเมื่อวันที่ ๒๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๗ ที่ได้เห็นชอบกรอบวงเงินดังกล่าวแล้ว
ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
553 | ขอรับการสนับสนุนงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับการควบคุม ดูแลผู้ต้องขัง | ยธ. | 24/09/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๗ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น
เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับการควบคุม ดูแลผู้ต้องขัง จำนวน ๙๙๙,๕๐๓,๙๐๐ บาท ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ และให้กระทรวงยุติธรรมรับความเห็นของกระทรวงการคลัง
ที่เห็นควรให้ความสำคัญกับการควบคุม
และกำกับดูแลการใช้จ่ายเงินดังกล่าวให้เป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ
และหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณให้ทันภายในปีงบประมาณ
เพื่อให้การใช้จ่ายงบประมาณมีความคุ้มค่าและเกิดประโยชน์สูงสุด สำหรับแผนการใช้จ่ายงบประมาณและการจัดสรรงบประมาณให้เป็นไปตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
ไปดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
554 | ร่างพิธีสารแก้ไขและขยายระยะเวลาบันทึกความเข้าใจว่าด้วยโครงการเชื่อมโยงโครงข่ายท่อส่งก๊าซธรรมชาติอาเซียน (Protocol to Amend and Extend the ASEAN Memorandum of Understanding on the Trans-ASEAN Gas Pipeline Project) | พน. | 24/09/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างพิธีสารแก้ไขและขยายระยะเวลาบันทึกความเข้าใจว่าด้วยโครงการเชื่อมโยงโครงข่ายท่อส่งก๊าซธรรมชาติอาเซียน
(Protocol to Amend and Extend the ASEAN Memorandum of Understanding on the Trans -
ASEAN Gas Pipeline Project) และอนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานหรือผู้ที่ได้รับมอบหมายจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน
เป็นผู้ลงนามในพิธีสารฯ โดยร่างพิธีสารฯ มีสาระสำคัญเพิ่มเติมประเด็นเกี่ยวกับก๊าซธรรมชาติเหลว
สาธารณูปโภคด้านก๊าซธรรมชาติ ซึ่งรวมถึงระบบท่อก๊าซธรรมชาติดั้งเดิมและสาธารณูปโภคที่เกี่ยวข้อง
การจัดเก็บก๊าซธรรมชาติและสถานีแปรสภาพก๊าซ และระบบท่อส่งก๊าซธรรมชาติเหลวเสมือน (Virtual
pipeline system) และ ใช้คำว่า “รัฐสมาชิก” แทนคำว่า “ประเทศสมาชิก”
และเพิ่มความเชื่อมโยงระหว่างกัน ความยั่งยืนในอาเซียน การอำนวยความสะดวก ในการพัฒนาตลาดก๊าซเสรีในภูมิภาคอาเซียน
รวมทั้งการพัฒนาข้ามพรมแดนและการเชื่อมโยงระหว่างกันสำหรับธุรกิจก๊าซธรรมชาติ ตามที่กระทรวงพลังงานเสนอ
ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างพิธีสารฯ ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้
ให้กระพรวงพลังงานดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง
พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวตามหลักเกณฑ์ของมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การจัดทำหนังสือสัญญาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรือองค์การระหว่างประเทศ)
และให้กระทรวงพลังงานรับความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ที่เห็นว่าการใช้ประโยชน์จากสาธารณูปโภคด้านก๊าซธรรมชาติต้องอยู่บนหลักการที่ได้คำนึงถึงความสามารถในการรองรับความต้องการใช้ก๊าซธรรมชาติภายในประเทศเป็นลำดับแรก
เพื่อไม่ให้กระทบต่อความมั่นคงทางพลังงานของประเทศและส่งเสริมศักยภาพการแข่งขันในตลาดก๊าซธรรมชาติเหลวของประเทศ
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
555 | ขอรับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น วงเงิน 799.90 ล้านบาท เพื่อจ่ายเงินชดเชยค่างานก่อสร้างตามสัญญาแบบปรับราคาได้ (ค่า K) ของกรมทางหลวง | คค. | 24/09/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๗ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น วงเงิน ๗๙๙.๙๐
ล้านบาท เพื่อจ่ายเงินชดเชยค่างานก่อสร้างตามสัญญาแบบปรับราคาได้ (ค่า K) ของกรมทางหลวง ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ ให้กระทรวงคมนาคมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงการคลังและสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
ดังนี้ กระทรวงการคลัง เห็นควรให้ความสำคัญกับการควบคุม
และกำกับดูแลการใช้จ่ายเงินดังกล่าวให้เป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ
และหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งควรเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณให้ทันภายในปีงบประมาณเพื่อให้การใช้จ่ายงบประมาณมีความคุ้มค่าและเกิดประโยชน์สูงสุด
สำหรับแผนการใช้จ่ายงบประมาณและการจัดสรรงบประมาณให้เป็นไปตามความเห็นของสำนักงบประมาณ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
เห็นควรให้กระทรวงคมนาคมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย
ระเบียบ ข้อบังคับ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด
สำหรับความเหมาะสมของกรอบวงเงินและแหล่งเงินให้ดำเนินการตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
556 | การให้ความเห็นชอบแต่งตั้งบุคคลเพื่อเข้าดำรงตำแหน่งหัวหน้าเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหาร (Chief Executive Officer, CEO) ขององค์กรร่วมไทย-มาเลเซีย (นายพิพัฒน์ จิรพงศ์พิพัฒน์) | พน. | 24/09/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแต่งตั้ง นายพิพัฒน์
จิรพงศ์พิพัฒน์ วิศวกรปิโตรเลียมชำนาญการพิเศษ ปฏิบัติหน้าที่ผู้อำนวยการ
กองสัญญาแบ่งปันผลผลิต สังกัดกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ
ให้ดำรงตำแหน่งหัวหน้าเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหาร (Chief
Executive Officer, CEO) ขององค์กรร่วมไทย - มาเลเซีย โดยมีวาระการดำรงตำแหน่ง ๔ ปี ตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๖๗ - ๓๐ กันยายน
๒๕๗๑ และในระหว่างการปฏิบัติหน้าที่ที่องค์กรร่วมไทย
- มาเลเซีย ให้ นายพิพัฒน์ ฯ ได้รับการพิจารณาความดีความชอบจากทางราชการต้นสังกัดด้วย
และในกรณีที่จำเป็นกระทรวงพลังงานอาจให้กลับมาปฏิบัติงานในหน่วยงานต้นสังกัดก่อนระยะเวลาที่สั่งให้ไปสิ้นสุดลงเพื่อประโยชน์แก่ราชการได้
ทั้งนี้ ในระหว่างที่ไปปฏิบัติงานให้ได้รับเงินเดือน ค่าตอบแทน
และสวัสดิการจากองค์กรร่วมไทย - มาเลเซีย โดยไม่รับเงินเดือนจากทางราชการ ให้กระทรวงพลังงานรับความเห็นของกระทรวงการคลังและสำนักงาน
ก.พ. ไปดำเนินการต่อไป ดังนี้ กระทรวงการคลัง เห็นว่าการสั่งให้ข้าราชการไปทำการที่มีระยะเวลาเกิน
๑ ปี นั้น มาตรา ๔ วรรค ๒
แห่งพระราชกฤษฎีกากำหนดหลักเกณฑ์การสั่งให้ข้าราชการไปทำการ
ซึ่งให้นับเวลาระหว่างนั้นเหมือนเต็มเวลาราชการ พ.ศ. ๒๕๕๐
กำหนดให้ผู้มีอำนาจสั่งบรรจุตามกฎหมายต้องสั่งให้ข้าราชการผู้นั้นออกจากราชการและให้ถือเป็นการออกจากราชการเพื่อไปฏิบัติงานตามติคณะรัฐมนตรี
ดังนั้น กระทรวงพลังงานจึงต้องดำเนินการให้เป็นไปตามบทบัญญัติของกฎหมายดังกล่าว สำนักงาน ก.พ. เห็นว่าการพิจารณาความดีความชอบให้ นายพิพัฒน์
จิรพงศ์พิพัฒน์ เมื่อข้าราชการรายดังกล่าวกลับมาปฏิบัติราชการแล้ว
ให้ส่วนราชการต้นสังกัดดำเนินการให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ และวิธีการที่ ก.พ. กำหนด
สำหรับผู้ไปปฏิบัติงานในองค์การระหว่างประเทศต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
557 | กำหนดวันและเวลาประชุมวุฒิสภา | สว. | 24/09/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบมติที่ประชุมวุฒิสภาในคราวประชุมวุฒิสภา
ครั้งที่ ๒ (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่หนึ่ง) วันจันทร์ที่ ๕ สิงหาคม ๒๕๖๗
ที่ประชุมได้มีมติกำหนดวันและเวลาประชุมวุฒิสภา โดยให้มีการประชุมสัปดาห์ละ ๒ วัน
คือ ทุกวันจันทร์และวันอังคารตั้งแต่เวลา ๑๙.๓๐ นาฬิกา เป็นต้นไป ตามที่สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
558 | การแต่งตั้งผู้ทรงคุณวุฒิเป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีเพื่อทำหน้าที่ผู้แทนการค้าไทย | นร.04 | 24/09/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบการแต่งตั้ง นางนลินี ทวีสิน และนายชัย
วัชรงค์ เป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีเพื่อทำหน้าที่ผู้แทนการค้าไทย ตามคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี
ที่ ๓๑๘/๒๕๖๗ เรื่อง แต่งตั้งผู้ทรงคุณวุฒิเป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี เพื่อทำหน้าที่ผู้แทนการค้าไทย
ลงวันที่ ๑๖ กันยายน ๒๕๖๗ ตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
559 | หลักเกณฑ์และวิธีการจัดทำงบประมาณรายจ่ายบูรณาการ การจัดทำงบประมาณรายจ่ายบูรณาการ และมอบหมายผู้มีอำนาจกำกับแผนงานบูรณาการ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 | นร.07 | 24/09/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติและรับทราบตามที่สำนักงบประมาณเสนอ ดังนี้ ๑.
อนุมัติหลักเกณฑ์และวิธีการจัดทำงบประมาณรายจ่ายบูรณาการ ยืนยันตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๑๔ ธันวาคม ๒๕๖๔ (เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการจัดทำงบประมาณรายจ่ายบูรณาการ
การจัดทำงบประมาณรายจ่ายบูรณาการ และมอบหมายผู้มีอำนาจกำกับแผนงานบูรณาการ ประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๖) ๒. อนุมัติให้ยกเลิกมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๙
ธันวาคม ๒๕๖๖ (เรื่อง การจัดทำงประมาณรายจ่ายบูรณาการ และมอบหมายผู้มีอำนาจกำกับแผนงานบูรณาการ
ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๘) และมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๖ กรกฎาคม ๒๕๖๗ (เรื่อง
ปรับปรุงการมอบหมายผู้มีอำนาจกำกับแผนงานบูรณาการ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๘) ๓. อนุมัติการจัดทำงบประมาณรายจ่ายบูรณาการ
ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๘ จำนวน ๑๐ แผนงานบูรณาการ ซึ่งเป็นแผนงานต่อเนื่องจากปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๗ ๔. อนุมัติให้รองนายกรัฐมนตรีเป็นประธานกรรมการจัดทำงบประมาณรายจ่ายบูรณาการ
ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๘ โดยให้มีคณะกรรมการ จำนวนทั้งสิ้น ๖ คณะ
โดยนายกรัฐมนตรีมีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการดังกล่าวต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
560 | ขออนุมัติต่อเวลาการดำรงตำแหน่งของข้าราชการพลเรือนสามัญผู้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง | นร.11 สศช | 24/09/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติการต่อเวลาการดำรงตำแหน่งของ
นายดนุชา พิชยนันท์ ข้าราชการพลเรือนสามัญ ตำแหน่งเลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
สำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งจะดำรงตำแหน่งดังกล่าวครบ ๔ ปี ในวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๖๗
ต่อไปอีก ๑ ปี (ครั้งที่ ๑) ตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๖๗ ถึงวันที่ ๓๐ กันยายน
๒๕๖๘ ตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายพิชัย ชุณหวชิร) เสนอ
|