ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 25 จากทั้งหมด 81 หน้า แสดงรายการที่ 481 - 500 จากข้อมูลทั้งหมด 1601 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
481 | การแต่งตั้งกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี (นายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม) | นร.04 | 08/10/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแต่งตั้ง นายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม
เป็นกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่นายกรัฐมนตรีลงนามในประกาศแต่งตั้ง ตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
482 | รัฐบาลราชอาณาจักรฮัชไมต์จอร์แดนเสนอขอแต่งตั้งเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งราชอาณาจักรฮัชไมต์จอร์แดนประจำประเทศไทย (นายอิสมาอีล มัดดัลละฮ์ สุลัยมาน มายตะฮ์) | กต. | 08/10/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายอิสมาอีล
มัดดัลละฮ์ สุลัยมาน มายตะฮ์ (Mr. Ismael Maddallah Suliman Maaytah) ให้ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งราชอาณาจักรฮัชไมต์จอร์แดนประจำประเทศไทยคนใหม่
โดยมีถิ่นพำนัก ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ มาเลเซีย สืบแทน นายษามิร อัลอัดวาน (Mr.
Thamer Al-Adwan) ซึ่งครบวาระการดำรงตำแหน่ง ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
483 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (นายฉัตรชัย บางชวด) | นร.08 | 08/10/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายฉัตรชัย บางชวด ข้าราชการพลเรือนสามัญ ตำแหน่งรองเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ
ให้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ
สำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่าง
ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไป ตามที่สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
484 | ขอทบทวนหลักเกณฑ์ เงื่อนไขและวิธีการจ่ายเงินช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในช่วงฤดูฝน ปี 2567 ตามที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบ เมื่อวันที่ 17 กันยายน 2567 | มท. | 08/10/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบหลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการจ่ายเงินช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในช่วงฤดูฝน
ปี ๒๕๖๗ และให้ใช้แทนหลักเกณฑ์เดิมที่คณะรัฐมนตรีเคยมีมติเห็นชอบ เมื่อวันที่ ๑๗
กันยายน ๒๕๖๗ ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ ให้กระทรวงมหาดไทย (กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย)
รับความเห็นของกระทรวงการคลัง สำนักงบประมาณ
และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย เช่น สำนักงบประมาณ
เห็นควรเร่งดำเนินการตรวจสอบกลุ่มเป้าหมายผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัยอย่างชัดเจน
ครอบคลุมในทุกพื้นที่ และปฏิบัติตามกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ มติคณะรัฐมนตรี
และหนังสือเวียนที่เกี่ยวข้องให้ถูกต้องครบถ้วนในทุกขั้นตอน
โดยคำนึงถึงประโยชน์สูงสุดของทางราชการและประโยชน์ที่ประชาชนจะได้รับเป็นสำคัญ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
485 | การขอขยายระยะเวลาตามมาตรา 167 แห่งพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. 2565 | ตช. | 08/10/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. เห็นชอบให้ขยายระยะเวลาตามมาตรา ๑๖๗
แห่งพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๖๕ ออกไปอีก ๑ ปี ตั้งแต่วันที่ ๑๗ ตุลาคม
๒๕๖๗ ตามที่คณะกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติเสนอ ๒.
ให้คณะกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติรับความเห็นของสำนักงาน ก.พ.ร. และสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
ดังนี้ สำนักงาน ก.พ.ร. เห็นควรเร่งรัดการดำเนินการปรับโครงสร้างและอัตรากำลังของกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
(บก.ปทส.) และยกร่างพระราชกฤษฎีกาเพื่อยุบหรือเปลี่ยนแปลง บก.ปทส. ให้สอดคล้องกับภารกิจที่ลดลง
ให้แล้วเสร็จโดยเร็ว เพื่อให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ตามมาตรา ๑๖๕ แห่งพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ
พ.ศ. ๒๕๖๕ สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา เห็นควรที่คณะรัฐมนตรีจะได้กำชับให้มีการดำเนินการตามมาตรา
๑๖๕ แห่งพระราชบัญญัติดังกล่าวโดยเร็วด้วย เพื่อให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ของกฎหมายที่มุ่งหมายให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติถ่ายโอนภารกิจที่หน่วยงานอื่นรับผิดชอบอยู่แล้วไปให้หน่วยงานนั้นดำเนินการ
อันจะทำให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติปฏิบัติภารกิจหลักได้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
486 | การแต่งตั้งข้าราชการการเมือง (1. นายชัยเกษม นิติสิริ ฯลฯ จำนวน 12 ราย) | นร.04 | 08/10/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแต่งตั้งข้าราชการการเมือง
จำนวน ๑๒ ราย โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๘ ตุลาคม ๒๕๖๗) เป็นต้นไป ตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ ๑. นายชัยเกษม นิติสิริ ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ๒. นายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ๓ นายเทวัญ ลิปตพัลลภ ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ๔. นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ๕. นายจักรพงษ์ แสงมณี ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ๖. นายฉัตริน จันทร์หอม ดำรงตำแหน่งรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง
(รองนายกรัฐมนตรี นายประเสริฐ จันทร รวงทอง) ๗. นายศรัณยสัณฑ์ วีรกุลสุนทร ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี
(นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ) ๘. นายสุรพงษ์ อึ้งอัมพรวิไล ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี (นายประเสริฐ
จันทรรวงทอง) ๙. นายวัฒนา เตียงกูล ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษารัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายชูศักดิ์
ศิรินิล) ๑๐. นายกฤช เอื้อวงศ์ ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษารัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นางสาวจิราพร
สินธุไพร) ๑๑. นายธเนศ กิตติธเนศวร ดำรงตำแหน่งเลขานุการรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
(นายชูศักดิ์ ศิรินิล) ๑๒. นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ดำรงตำแหน่งโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
487 | ร่างเอกสารถ้อยแถลงในการประชุมรัฐมนตรีอาเซียนว่าด้วยวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม ด้านปัญญาประดิษฐ์ [ASEAN Ministerial Meeting on Science, Technology and Innovation (AMMSTI) Statement on Artificial Intelligence (AI)] | อว. | 08/10/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
488 | ร่างกฎกระทรวงการอนุญาตผลิต นำเข้า ส่งออก จำหน่าย หรือมีไว้ในครอบครองวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 1 พ.ศ. .... | สธ. | 08/10/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. เห็นชอบร่างกฎกระทรวงการอนุญาตผลิต นำเข้า
ส่งออก จำหน่าย หรือมีไว้ในครอบครองวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท ๑ พ.ศ. ....
ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์
วิธีการ และเงื่อนไขเกี่ยวกับการขออนุญาตผลิต นำเข้า ส่งออก จำหน่าย
หรือมีไว้ในครอบครองซึ่งวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท ๑ และกำหนดอัตราค่าธรรมเนียมเกี่ยวกับการดำเนินการดังกล่าว
ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ และดำเนินการต่อไปได้
๒. ให้กระทรวงสาธารณสุขรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ที่เห็นว่าเมื่อร่างกฎกระทรวงนี้อยู่ภายใต้บังคับมาตรา ๒๒ แห่งพระราชบัญญัติหลักเกณฑ์การจัดทำร่างกฎหมายและการประเมินผลสัมฤทธิ์ของกฎหมาย
พ.ศ. ๒๕๖๒ ดังนั้น เพื่อมิให้บทบัญญัติของกฎหมายแม่บทสิ้นผลใช้บังคับ
จึงจำเป็นต้องเร่งรัดดำเนินการให้ร่างกฎกระทรวงนี้ใช้บังคับให้ทันวันที่ ๘ ธันวาคม
๒๕๖๗ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
489 | โครงการปรับปรุงระบบส่งไฟฟ้าบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางและกรุงเทพมหานคร เพื่อเสริมความมั่นคงระบบไฟฟ้า (โครงการ TIEC) ระยะที่ 3.1 (ภายใต้โครงการ TIEC ระยะที่ 3) | พน. | 08/10/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. เห็นชอบให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย
ดำเนินโครงการปรับปรุงระบบส่งไฟฟ้าบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคเหนือตอนล่าง
ภาคกลาง และกรุงเทพมหานคร เพื่อเสริมความมั่นคงระบบไฟฟ้า ระยะที่ ๓.๑ วงเงินลงทุน
๓๘,๕๐๐ ล้านบาท ตามที่กระทรวงพลังงานเสนอ ให้กระทรวงพลังงาน (การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย)
รับความเห็นของกระทรวงการคลัง กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงมหาดไทย
สำนักงบประมาณ ธนาคารแห่งประเทศไทย และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
(หนังสือสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ด่วนที่สุด ที่ นร ๑๑๐๖/๒๑๔๔
ลงวันที่ ๒ เมษายน ๒๕๖๗) ไปพิจารณาประกอบการดำเนินการต่อไปด้วย เช่น กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เห็นว่าหากมีการดำเนินการใด
ๆ ในเขตพื้นที่ป่า ขอให้ปฏิบัติให้เป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด สำนักงบประมาณ เห็นควรให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยบริหารจัดการเรื่องการเงินและการลงทุนให้เหมาะสม
มีมาตรการรองรับในกรณีที่อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศมีความผันผวน โดยพิจารณาจัดทำแผนบริหารความเสี่ยงในกรณีที่การดำเนินงานไม่เป็นไปตามแผน
เพื่อมิให้ส่งผลกระทบต่อฐานะทางการเงินในอนาคต รวมทั้งปฏิบัติตามกฎหมาย ระเบียบ
ข้อบังคับ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด
ตลอดจนดำเนินการก่อหนี้และบริหารหนี้ในทุกมิติ ให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ
พ.ศ. ๒๕๖๑
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
490 | ขออนุมัติขยายระยะเวลาดำเนินโครงการชลประทานขนาดใหญ่ จำนวน 2 โครงการ [โครงการบรรเทาอุทกภัยเมืองชัยภูมิ จังหวัดชัยภูมิ (ระยะที่ 1) และโครงการอ่างเก็บน้ำลำสะพุงอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดชัยภูมิ] | กษ. | 08/10/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติขยายระยะเวลาดำเนินโครงการชลประทานขนาดใหญ่
จำนวน ๒ โครงการ ประกอบด้วย ๑) โครงการบรรเทาอุทกภัยเมืองชัยภูมิ จังหวัดชัยภูมิ
(ระยะที่ ๑) จากเดิม ๖ ปี (ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๒ - พ.ศ. ๒๕๖๗) เป็น ๙ ปี
(ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๒ - พ.ศ. ๒๕๗๐)
ภายใต้กรอบวงเงินโครงการที่ได้รับอนุมัติไว้เดิม ๓,๔๔๐ ล้านบาท และ ๒) โครงการอ่างเก็บน้ำลำสะพุงอันเนื่องมาจากพระราชดำริ
จังหวัดชัยภูมิ จากเดิม ๖ ปี (ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๒ - พ.ศ. ๒๕๖๗) เป็น ๘ ปี (ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๒ - พ.ศ. ๒๕๖๙)
ภายใต้กรอบวงเงินโครงการที่ได้รับอนุมัติไว้เดิม ๓,๑๐๐ ล้านบาท ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (กรมชลประทาน)
รับความเห็นของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงมหาดไทย
สำนักงบประมาณ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ
และสำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
เช่น กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เห็นควรให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
โดยกรมชลประทาน ควบคุม กำกับ ดูแล และเร่งรัดดำเนินงานโครงการให้เป็นไปตามแผนงานก่อสร้างที่ได้ปรับปรุงใหม่ตามข้อเท็จจริงและสอดคล้องกับระยะเวลาดำเนินการก่อสร้างที่เปลี่ยนแปลงไป
เพื่อช่วยบรรเทาปัญหาอุทกภัยและลดผลกระทบในการสร้างความเสียหายแก่ชีวิตและทรัพย์สินของราษฎร
รวมทั้งเพื่อบรรเทาปัญหาการขาดแคลนน้ำในการอุปโภคบริโภคและเกษตรกรรมของราษฎรในพื้นที่รวมถึงพื้นที่ใกล้เคียง |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
491 | ร่างกฎกระทรวงว่าด้วยหลักเกณฑ์การแจ้งให้หัวหน้าสถานีตำรวจแห่งท้องที่ทราบ ในกรณีที่จะแต่งเครื่องแบบตำรวจ หรือแต่งกายโดยใช้เครื่องแต่งกายคล้ายเครื่องแบบตำรวจเพื่อการแสดง พ.ศ. .... | ตช. | 08/10/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงว่าด้วยหลักเกณฑ์การแจ้งให้หัวหน้าสถานีตำรวจแห่งท้องที่ทราบ
ในกรณีที่จะแต่งเครื่องแบบตำรวจ
หรือแต่งกายโดยใช้เครื่องแต่งกายคล้ายเครื่องแบบตำรวจเพื่อการแสดง พ.ศ. ....
มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดการแจ้งต่อหัวหน้าสถานีตำรวจแห่งท้องที่ที่จะทำการแสดงทราบ
เมื่อมีผู้แสดงที่แต่งเครื่องแบบตำรวจโดยไม่มีสิทธิหรือแต่งกายโดยใช้เครื่องแต่งกายคล้ายเครื่องแบบตำรวจ
เพื่อให้ผู้ที่เกี่ยวข้องกับการแสดงได้ดำเนินการให้ถูกต้องตามบทบัญญัติแห่งกฎหมายที่กำหนดไว้สำหรับเรื่องการแต่งกายคล้ายเครื่องแบบตำรวจ
เพิ่มเอกสารหลักฐานที่ใช้ยืนยันตัวตนในการแจ้งต่อหัวหน้าสถานีตำรวจ เช่น
สำเนาหนังสือเดินทาง หรือเอกสารใช้แทนหนังสือเดินทาง
และกำหนดบทเฉพาะกาลเพื่อให้การแจ้งที่ได้ยื่นไว้ก่อนวันที่กฎกระทรวงนี้ใช้บังคับและยังอยู่ในระหว่างการพิจารณา
เป็นการแจ้งที่สมบูรณ์ตามกฎกระทรวงนี้ ตามที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้รับประเด็นการแจ้งโดยใช้วิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ตามข้อสังเกตของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ความเห็นของสำนักงานศาลยุติธรรม และสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีไปประกอบการพิจารณาด้วย
แล้วดำเนินการต่อไปไปได้ เช่น สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา เห็นว่าควรกำหนดวิธีการแจ้งให้ชัดเจนว่าสามารถใช้วิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ได้
เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนและลดภาระ รวมทั้งต้นทุนของประชาชนในการติดต่อกับภาครัฐ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
492 | การสิ้นสุดหน้าที่ของกงสุลกิตติมศักดิ์สาธารณรัฐเซเชลล์ประจำประเทศไทย (นายชาญชัย กรรณสูต) | กต. | 08/10/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบการสิ้นสุดหน้าที่ของ
นายชาญชัย กรรณสูต กงสุลกิตติมศักดิ์สาธารณรัฐเซเชลส์ประจำประเทศไทย ตั้งแต่วันที่
๙ มีนาคม ๒๕๖๔ ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
493 | รายงานประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ของศาลปกครองและสำนักงานศาลปกครอง | ศป. | 01/10/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานประจำปีงบประมาณ พ.ศ.
๒๕๖๖ ของศาลปกครองและสำนักงานศาลปกครอง ตามมาตรา ๙๓
แห่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. ๒๕๔๒ ประกอบด้วย
การพิจารณาพิพากษาคดีด้วยความถูกต้อง รวดเร็ว และเป็นธรรม
การวิเคราะห์เหตุแห่งการฟ้องคดีปกครอง การวางหลักกฎหมาย และแนวทางปฏิบัติราชการทางปกครอง
ผลสัมฤทธิ์หรือประโยชน์ที่ได้รับจากการใช้งบประมาณประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๖
ผลสัมฤทธิ์จากการประชุมที่ประชุมใหญ่ตุลาการในศาลปกครองสูงสุด ประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๖ ตามที่สำนักงานศาลปกครองเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
494 | การขอเช่ารถยนต์ประจำตำแหน่งสำหรับข้าราชการตุลาการแทนการเบิกจ่ายค่าตอบแทนเหมาจ่ายแทนการจัดหารถประจำตำแหน่ง (โครงการ 2) | ศย. | 01/10/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้สำนักงานศาลยุติธรรมก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ
ตามนัยมาตรา ๔๒ แห่งพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ เพื่อเช่ารถยนต์ประจำตำแหน่งสำหรับข้าราชการตุลาการแทนการเบิกจ่ายค่าตอบแทนเหมาจ่ายแทนการจัดหารถประจำตำแหน่ง
(โครงการ ๒) จำนวน ๓๔ คัน ระยะเวลาสัญญาเช่า ๕
ปี ปีละ ๑๕,๙๕๕,๒๐๐ บาท ระยะเวลาเช่า ๕ ปี ตั้งแต่ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๘ - พ.ศ. ๒๕๗๒ รวมเป็นเงินทั้งสิ้น ๗๙,๗๗๖,๐๐๐ บาท ตามที่สำนักงานศาลยุติธรรมเสนอ
โดยค่าเช่าในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๘ ให้ใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๘ ที่ได้รับจัดสรรภายใต้แผนงานพื้นฐานด้านการปรับสมดุลและพัฒนาระบบการบริหารจัดการภาครัฐ
ผลผลิตการอำนวยความยุติธรรมและคุ้มครองสิทธิเสรีภาพตามที่กฎหมายบัญญัติงบเงินอุดหนุน
เงินอุดหนุนทั่วไป รายการค่าใช้จ่ายดำเนินงาน
ที่ได้จัดสรรเป็นค่าตอบแทนเหมาจ่ายแทนการจัดหารถประจำตำแหน่งสำหรับผู้มีสิทธิ์ได้รับรถประจำตำแหน่ง
ในวงเงิน ๑,๗๐๐,๑๖๐,๐๐๐ บาท
โดยในการทำสัญญาก่อหนี้ผูกพันขอให้สำนักงานศาลยุติธรรมคำนึงถึงวงเงินงบประมาณและระยะเวลาที่คงเหลือในปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๘ ด้วย สำหรับค่าใช้จ่ายในปีต่อ ๆ ไป ให้สำนักงานศาลยุติธรรมเสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีตามความจำเป็นตามขั้นตอนต่อไป
ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
495 | การขอต่ออายุเงินกู้ระยะสั้นแบบ Credit Line ของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย | พน. | 01/10/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการต่ออายุเงินกู้ระยะสั้นแบบ
Credit Line ของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย
วงเงินปีละ ๓๐,๐๐๐ ล้านบาท ระยะเวลา ๓ ปี นับตั้งแต่วันที่
๑๑ กันยายน ๒๕๖๗ เป็นต้นไป ภายใต้เงื่อนไขเดิม ประกอบด้วย กู้เบิกเกินบัญชี
ตั๋วสัญญาใช้เงิน การทำ Trust Receipt (T/R) และการทำสัญญากู้เงินเมื่อทวงถาม
(Call Loan) โดยให้พิจารณาทำสัญญาเงินกู้กับสถาบันการเงินที่เสนอรูปแบบที่มีต้นทุนต่ำที่สุดตามอัตราดอกเบี้ยตลาด
โดยกระทรวงการคลังไม่ค้ำประกันเงินต้นและดอกเบี้ยจากการกู้เงิน ตามที่กระทรวงพลังงานเสนอ ทั้งนี้
ให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยรับความเห็นของกระทรวงการคลัง สำนักงบประมาณ
สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
เช่น สำนักงบประมาณ เห็นควรบริหารจัดการสภาพคล่องทางการเงินให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
และพิจารณาเบิกเงินกู้เท่าที่จำเป็นเพื่อไม่ให้เกิดภาระดอกเบี้ยต่อองค์กรในระยะยาว
โดยการดำเนินการกู้เงินดังกล่าวจะต้องเป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย
ภายใต้วัตถุประสงค์และอำนาจหน้าที่ของหน่วยงานอย่างถูกต้องครบถ้วน
และคำนึงถึงความเสี่ยงและความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นในทุกมิติ ตลอดจนความสามารถในการชำระหนี้และการกระจายภาระการชำระหนี้อย่างเหมาะสม
ตามนัยมาตรา ๔๙ ของพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. ๒๕๖๑ อย่างเคร่งครัดด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
496 | การแต่งตั้งข้าราชการการเมือง (นายธนัสถ์ ทวีเกื้อกูลกิจ และนายอารี ไกรนรา) | รง. | 01/10/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแต่งตั้งข้าราชการการเมือง จำนวน ๒ ราย โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๑ ตุลาคม ๒๕๖๗) เป็นต้นไป ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานเสนอ ดังนี้ ๑. นายธนัสถ์ ทวีเกื้อกูลกิจ ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
497 | ขอผ่อนผันยกเว้นมติคณะรัฐมนตรี เพื่อใช้ประโยชน์ในพื้นที่ป่าชายเลนตามมติคณะรัฐมนตรี สำหรับโครงการก่อสร้างทางหลวงหมายเลข 4027 สายท่าเรือ - เมืองใหม่ ตอน บ้านเมืองใหม่ - ทางแยกเข้าสนามบินภูเก็ต ตำบลเทพกระษัตรี อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต | คค. | 01/10/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้ยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรี
ดังนี้ ๑) มติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๕
ธันวาคม ๒๕๓๐ (เรื่อง
การจำแนกเขตการใช้ประโยชน์ที่ดินในพื้นที่ป่าชายเลนประเทศไทย) ๒) มติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๒๓ กรกฎาคม ๒๕๓๔ (เรื่อง รายงานการศึกษาสถานภาพปัจจุบันของป่าไม้ชายเลนและปะการังของประเทศ)
๓) มติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๒ สิงหาคม ๒๕๔๓ (เรื่อง มติคณะกรรมการนโยบายป่าไม้แห่งชาติ
เรื่อง การแก้ไขปัญหาการจัดการพื้นที่ป่าชายเลน) และ ๔) มติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๑๗ ตุลาคม ๒๕๔๓ (เรื่อง มติคณะกรรมการนโยบายป่าไม้แห่งชาติ ครั้งที่ ๓/๒๕๔๓ เรื่อง
การแก้ไขปัญหาการจัดการพื้นที่ป่าชายเลน) เพื่อใช้ประโยชน์ในพื้นที่ป่าชายเลน
เนื้อที่ ๐-๒-๑๗ ไร่ สำหรับโครงการก่อสร้างทางหลวงหมายเลข ๔๐๒๗ สายท่าเรือ - เมืองใหม่
ตอน บ้านเมืองใหม่ - ทางแยกเข้าสนามบินภูเก็ต ตำบลเทพกระษัตรี อำเภอถลาง
จังหวัดภูเก็ต ของกรมทางหลวง (โครงการก่อสร้างทางหลวงหมายเลข ๔๐๒๗)
เพื่อให้สามารถดำเนินการในขั้นตอนการขออนุญาตเข้าทำประโยชน์ในพื้นที่ป่าชายเลนตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องและดำเนินงานโครงการก่อสร้างตามกรอบระยะเวลาที่กำหนดไว้
ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ ให้กระทรวงคมนาคม (กรมทางหลวง) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงมหาดไทย
สำนักงบประมาณ และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
เช่น สำนักงบประมาณ เห็นว่าค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นสำหรับการดำเนินการปลูกป่าทดแทนและบำรุงป่า
เห็นควรให้กระทรวงคมนาคม โดยกรมทางหลวงร่วมกับกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง
ตามนัยมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๙ สิงหาคม ๒๕๖๕ เรื่อง
ขอทบทวนมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๙ มกราคม ๒๕๕๖ เรื่อง การดำเนินการโครงการใด ๆ
ของหน่วยงานของรัฐที่มีความจำเป็นจะต้องเข้าใช้ประโยชน์ในพื้นที่ป่า
ให้ได้ข้อยุติก่อน หากมีความจำเป็นที่จะต้องดำเนินการปลูกป่าทดแทนและบำรุงรักษาป่าดังกล่าว
ให้หน่วยงานจัดทำแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณตามผลการสำรวจและคัดเลือกพื้นที่ดำเนินการตามระเบียบฯ
ก่อนเสนอขอรับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีตามความจำเป็นและเหมาะสมตามขั้นตอนต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
498 | ขออนุมัติใช้เงินบำรุงเพื่อก่อสร้างอาคารพักเจ้าหน้าที่ 160 ยูนิต 11 ชั้น พื้นที่ใช้สอย 10 ,149 ตารางเมตร (โครงสร้างต้านแผ่นดินไหว) โรงพยาบาลปทุมธานี จังหวัดปทุมธานี จำนวน 1 หลัง | สธ. | 01/10/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติใช้เงินบำรุงโรงพยาบาลปทุมธานี จังหวัดปทุมธานี
ก่อสร้างอาคารพักเจ้าหน้าที่ ๑๖๐ ยูนิต ๑๑ ชั้น พื้นที่ใช้สอย ๑๐,๑๔๙ ตารางเมตร
(โครงสร้างต้านแผ่นดินไหว) โรงพยาบาลปทุมธานี จังหวัดปทุมธานี จำนวน ๑ หลัง วงเงิน
๒๑๐,๒๑๐,๗๐๐ บาท ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ
และให้กระทรวงสาธารณสุข (สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข)
รับความเห็นของสำนักงบประมาณ ที่เห็นควรให้สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุขดำเนินการตามนัยมาตรา
๓๗ แห่งพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. ๒๕๖๑ และปฏิบัติตามกฎหมาย
ระเบียบ ข้อบังคับ มติคณะรัฐมนตรี และหนังสือเวียนที่เกี่ยวข้อง
ตลอดจนมาตรฐานของทางราชการให้ถูกต้องครบถ้วน
โดยคำนึงถึงประโยชน์สูงสุดของทางราชการเป็นสำคัญ ไปดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
499 | ข้อเสนอแนะเพื่อป้องกันการทุจริตเกี่ยวกับการพนันออนไลน์ | ปช. | 01/10/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. รับทราบข้อเสนอแนะเพื่อป้องกันการทุจริตเกี่ยวกับการพนันออนไลน์
ตามที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติเสนอ ๒.
มอบหมายให้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมเป็นหน่วยงานหลักรับเรื่องนี้ไปพิจารณาร่วมกับกระทรวงยุติธรรรม
(กรมสอบสวนคดีพิเศษ) สำนักงานอัยการสูงสุด สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ
สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ธนาคารแห่งประเทศไทย
สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ สำนักงานคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ได้ข้อยุติ โดยให้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมสรุปผลการพิจารณา/ผลการดำเนินการ/ความเห็นในภาพรวม
แล้วส่งให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีภายใน ๓๐ วัน นับจากวันที่ได้รับแจ้งจากสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
500 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (นายอนันต์ แก้วกำเนิด) | นร.07 | 01/10/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายอนันต์
แก้วกำเนิด ข้าราชการพลเรือนสามัญ ตำแหน่งรองผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ ให้ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ
สำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อทดแทนผู้ดำรงตำแหน่งที่เกษียณอายุราชการ ตั้งแต่วันที่ ๑
ตุลาคม ๒๕๖๗ เป็นต้นไป ตามที่สำนักงบประมาณเสนอ
|