ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 18 จากทั้งหมด 81 หน้า แสดงรายการที่ 341 - 360 จากข้อมูลทั้งหมด 1601 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
341 | การเร่งรัดการดำเนินการและการบูรณาการการทำงานร่วมกันของกระทรวงต่าง ๆ | นร.04 | 05/11/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอว่า สืบเนื่องจากการประชุมหัวหน้าส่วนราชการระดับกระทรวงหรือเทียบเท่า
ครั้งที่ ๔/๒๕๖๗ เมื่อวันที่ ๔ พฤศจิกายน ๒๕๖๗
มีประเด็นหารือหลายเรื่องที่กระทรวงต่าง ๆ
จะต้องบูรณาการการทำงานร่วมกันเพื่อให้บรรลุผลตามนโยบายที่ได้กำหนดไว้
จึงขอมอบหมายการดำเนินการ ดังนี้ ๑.
ให้กระทรวงการคลังเร่งรัดติดตามการเบิกจ่ายงบประมาณของทุกส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งงบลงทุน และให้สำนักงาน ก.พ.ร.
เร่งรัดติดตามผลการปฏิบัติงานตามตัวชี้วัด (KPI) ของส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐดังกล่าวในเรื่องเกี่ยวกับการเบิกจ่ายงบประมาณซึ่งจะเป็นกลไกในการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศได้ประการหนึ่ง
แล้วรายงานผลต่อนายกรัฐมนตรีโดยเร็วด้วย ๒.
ให้ทุกส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐให้ความร่วมมือในการเชื่อมโยงข้อมูลต่าง ๆ ของส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐระหว่างกันให้แล้วเสร็จ
ครบถ้วนโดยเร็ว เพื่อให้เป็นไปตามนโยบายปฏิรูประบบราชการให้ทันสมัยในระบบดิจิทัล (Digital Government) ของรัฐบาลต่อไป ๓.
ให้กระทรวงอุตสาหกรรมร่วมกับกระทรวงมหาดไทยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งศึกษาและพิจารณากำหนดมาตรการรองรับการขยายตัวของเมืองและการปรับผังเมืองของพื้นที่จังหวัดต่าง
ๆ รวมถึงพื้นที่ในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ด้วย เพื่อให้สามารถรองรับการขยายตัวของภาคอุตสาหกรรมได้อย่างเหมาะสมต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
342 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดอัตราค่าธรรมเนียมและยกเว้นค่าธรรมเนียมเกี่ยวกับการจัดการสิ่งปฏิกูลและมูลฝอย พ.ศ. .... | มท. | 05/11/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. เห็นชอบร่างกฎกระทรวงกำหนดอัตราค่าธรรมเนียมและยกเว้นค่าธรรมเนียมเกี่ยวกับการจัดการสิ่งปฏิกูลและมูลฝอย
พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดอัตราค่าธรรมเนียมและยกเว้นค่าธรรมเนียมเกี่ยวกับการจัดการสิ่งปฏิกูลและมูลฝอย
โดยจะกำหนดอัตราค่าธรรมเนียมให้แตกต่างกัน โดยคำนึงถึงปริมาณสิ่งปฏิกูลและมูลฝอย
ระยะเวลาการจัดเก็บ ลักษณะการเก็บ ขน และกำจัดสิ่งปฏิกูลและมูลฝอย
รวมทั้งต้นทุนและความคุ้มค่าในการจัดเก็บ ขน และกำจัดสิ่งปฏิกูลและมูลฝอย
เพื่อให้การจัดเก็บค่าธรรมเนียมและยกเว้นค่าธรรมเนียมเกี่ยวกับการจัดสิ่งปฏิกูลและมูลฝอยเป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด
ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ
และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วนอีกครั้งหนึ่ง โดยให้รับข้อสังเกตของนายกรัฐมนตรี
ที่เห็นควรใช้มาตรการอื่น ๆ เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนคัดแยกขยะ เช่น ค่าธรรมเนียม
สำหรับขยะที่สามารถนำมาใช้ใหม่ควรกำหนดให้มีอัตราที่ต่ำกว่า
รวมทั้งรณรงค์และสร้างจิตสำนึกให้ประชาชนมีระบบการคัดแยกขยะตามครัวเรือนและที่อยู่อาศัย
และส่งเสริมให้เอกชนที่เข้ามารับงานเก็บขยะแทนราชการส่วนท้องถิ่น
ใช้เทคโนโลยีเพื่อรักษาสิ่งแวดล้อม รวมทั้งการประหยัดพลังงานหรือการใช้พลังงานสะอาด
ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒.
ให้กระทรวงมหาดไทยกำกับดูแลการออกข้อบัญญัติของราชการส่วนท้องถิ่น
โดยคำนึงถึงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับประชาชนเป็นสำคัญซึ่งต้องไม่ซ้ำซ้อนและเป็นภาระแก่ประชาชนเกินสมควร
และมีความสอดคล้องกับกฎกระทรวงกำหนดค่าธรรมเนียมการออกใบอนุญาต
หนังสือรับรองการแจ้งและการให้บริการในการจัดการสิ่งปฏิกูลหรือมูลฝอย พ.ศ. ๒๕๕๙
ตามพระราชบัญญัติการสาธารณสุข พ.ศ. ๒๕๓๕ ทั้งนี้
ให้กระทรวงมหาดไทยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงสาธารณสุข
สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
และสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย เช่น กระทรวงสาธารณสุข เห็นควรมีแผนเตรียมการรองรับการขับเคลื่อนและสนับสนุนราชการส่วนท้องถิ่นในการดำเนินการเก็บ
ขน หรือกำจัดสิ่งปฏิกูลและมูลฝอยให้ถูกต้องด้วยสุขลักษณะตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องกำหนด
รวมถึงการสื่อสารเพื่อสร้างความเข้าใจแก่ประชาชนต่อไป |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
343 | สาธารณรัฐคาซัคสถานขอเปิดสถานกงสุลสาธารณรัฐคาซัคสถาน ณ จังหวัดภูเก็ต | กต. | 05/11/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบกรณีการเปิดสถานกงสุลสาธารณรัฐคาซัคสถาน
ณ จังหวัดภูเก็ต โดยมีเขตกงสุลครอบคลุม ๑๔ จังหวัด ได้แก่ จังหวัดภูเก็ต ชุมพร
กระบี่ นครศรีธรรมราช นราธิวาส ปัตตานี พังงา พัทลุง ระนอง สตูล สงขลา
สุราษฎร์ธานี ตรัง และยะลา ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
344 | มาตรการป้องกันการทุจริตในกระบวนการบริหารจัดการแรงงานข้ามชาติ | ปช. | 05/11/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑.
รับทราบมาตรการป้องกันการทุจริตในกระบวนการบริหารจัดการแรงงานข้ามชาติ ตามที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
345 | การรับรองร่างปฏิญญาเวียงจันทน์ของการประชุมผู้นำยุทธศาสตร์ความร่วมมือทางเศรษฐกิจอิรวดี-เจ้าพระยา-แม่โขง ครั้งที่ 10 | กต. | 05/11/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบต่อร่างปฏิญญาเวียงจันทน์ของการประชุมผู้นำยุทธศาสตร์ความร่วมมือทางเศรษฐกิจอิรวดี - เจ้าพระยา - แม่โขง ครั้งที่ ๑๐
(Vientiane Declaration of the
10th Ayeyawady - Chao Phraya - Mekong
Economic Cooperation Strategy : ACMECS) และให้นายกรัฐมนตรีหรือผู้แทนที่ได้รับมอบหมายร่วมให้การรับรองร่างปฏิญญาเวียงจันทน์ฯ
ตามที่ประเทศสมาชิกมีฉันทามติ ในการประชุมผู้นำ ACMECS ครั้งที่
๑๐ โดยร่างปฏิญญาเวียงจันทน์ฯ มีสาระสำคัญเป็นเอกสารแสดงเจตนารมณ์ทางการเมืองในระดับผู้นำของ
ACMECS ต่อพัฒนาการของกลไกภายใต้ ACMECS และเป็นเอกสารผลลัพธ์ของการประชุมผู้นำ ACMECS ครั้งที่
๑๐
โดยไม่มีถ้อยคำหรือบริบทใดที่มุ่งจะก่อให้เกิดพันธกรณีภายใต้บังคับของกฎหมายระหว่างประเทศ
รวมทั้งไม่มีการลงนามในร่างเอกสารดังกล่าว จึงไม่เป็นสนธิสัญญาตามกฎหมายระหว่างประเทศ และไม่เป็นหนังสือสัญญาตามมาตรา
๑๗๘ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างปฏิญญาเวียงจันทน์ฯ
ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้
ให้กระทรวงการต่างประเทศดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง
พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าว |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
346 | ขออนุมัติกู้เงินเพื่อเสริมสภาพคล่องทางการเงิน (กรณีรายได้ไม่พอสำหรับจ่าย) ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 ขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ | คค. | 05/11/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ
กู้เงินเพื่อเสริมสภาพคล่องทางการเงิน (กรณีรายได้ไม่พอสำหรับรายจ่าย) ประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๘ รวมจำนวน ๘,๕๔๐.๗๓ ล้านบาท
และให้กระทรวงการคลังเป็นผู้ค้ำประกันเงินกู้ กำหนดวิธีการกู้เงิน เงื่อนไข
และรายละเอียดต่าง ๆ ในการกู้เงิน ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ ให้กระทรวงคมนาคม องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงการคลัง สำนักงบประมาณ
(หนังสือสำนักงบประมาณ ที่ นร ๐๗๐๙/๖๗๑๘ ลงวันที่ ๖ มิถุนายน ๒๕๖๗)
และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (หนังสือสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ที่ นร ๑๑๒๔/๓๒๑๐ ลงวันที่ ๓๐ พฤษภาคม ๒๕๖๗) ไปดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
เช่น กระทรวงการคลัง เห็นควรมอบหมายให้องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ
(ขสมก.) เร่งดำเนินการปรับปรุงแผนขับเคลื่อนกิจการ ขสมก. โดยให้นำความเห็นของคณะอนุกรรมการกลั่นกรองแผนการแก้ไขปัญหารัฐวิสาหกิจไปดำเนินการต่อไป
ให้กระทรวงคมนาคม
และกรมการขนส่งทางบกดำเนินการตามข้อสังเกตของคณะอนุกรรมการแก้ไขปัญหาฯ
ในประเด็นการกำหนดบทบาทของ ขสมก.
ให้ชัดเจนในกรณีที่มีผู้ประกอบการเอกชนสามารถให้บริการได้ดี และกำหนดเส้นทางเดินรถของ
ขสมก. ให้สอดคล้องกับบทบาทดังกล่าว และในระหว่างการจัดทำแผนขับเคลื่อนกิจการ ขสมก.
ขอให้กระทรวงคมนาคมกำกับให้ ขสมก. เร่งดำเนินมาตรการต่าง ๆ
เพื่อลดรายจ่ายและเพิ่มรายได้ขององค์กร เช่น การนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาใช้ แผนการศึกษาพัฒนาพื้นที่เชิงธุรกิจ
ตลอดจนการปรับโครงสร้างองค์กรให้มีความกระชับ เป็นต้น
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
347 | ขอความเห็นชอบต่อแถลงการณ์ร่วมของการประชุมรัฐมนตรีสาธารณสุขอาเซียน ครั้งที่ 16 และการประชุมอื่นที่เกี่ยวข้อง | สธ. | 05/11/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบและอนุมัติตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ
ดังนี้ ๑. เห็นชอบแถลงการณ์ร่วมของการประชุมรัฐมนตรีสาธารณสุขอาเซียน
ครั้งที่ ๑๖ และการประชุมอื่นที่เกี่ยวข้อง [16th ASEAN Health Ministers
Meeting (AHMM) and Related Meetings] จำนวน ๖ ฉบับ
ซึ่งเป็นเอกสารผลลัพธ์ของการประชุมที่แสดงความมุ่งมั่นของรัฐมนตรีสาธารณสุขอาเซียนในการเพิ่มความเข้มแข็งของระบบสุขภาพของอาเซียนและไม่มีประเด็นอ่อนไหวทางการเมือง
ประกอบด้วย (๑) แถลงการณ์ร่วมการประชุม AHMM ครั้งที่ ๑๖ (๒)
แถลงการณ์ร่วมการประชุมรัฐมนตรีสาธารณสุขอาเซียนกับประเทศบวกสาม (จีน ญี่ปุ่น
เกาหลี) ครั้งที่ ๑๐ (๓) แถลงการณ์ร่วมการประชุมรัฐมนตรีสาธารณสุขอาเซียนกับสาธารณรัฐประชาชนจีน
ครั้งที่ ๙ (๔) แถลงการณ์ร่วมการประชุมรัฐมนตรีสาธารณสุขอาเซียนกับสาธารณรัฐเกาหลี
ครั้งที่ ๒ (๕)
แถลงการณ์ร่วมการประชุมรัฐมนตรีกระทรวงการคลังและกระทรวงสาธารณสุขอาเซียน ครั้งที่
๒ และ (๖) แถลงการณ์ร่วมการประชุมพิเศษรัฐมนตรีสาธารณสุขอาเซียนกับสหรัฐอเมริกา ๒.
อนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขร่วมรับรองแถลงการณ์ร่วมของการประชุมรัฐมนตรีสาธารณสุขอาเซียน
ครั้งที่ ๑๖ และการประชุมอื่นที่เกี่ยวข้อง จำนวน ๖ ฉบับ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
348 | ร่างกฎกระทรวงค่าธรรมเนียมใบอนุญาตโฆษณายาเสพติดให้โทษหรือวัตถุออกฤทธิ์ และค่าธรรมเนียมเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายหรือค่าตอบแทนตามประมวลกฎหมายยาเสพติด พ.ศ. .... | สธ. | 05/11/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. เห็นชอบร่างกฎกระทรวงค่าธรรมเนียมใบอนุญาตโฆษณายาเสพติดให้โทษหรือวัตถุออกฤทธิ์
และค่าธรรมเนียมเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายหรือค่าตอบแทนตามประมวลกฎหมายยาเสพติด พ.ศ. ....
ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว
มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดอัตราค่าธรรมเนียมและยกเว้นค่าธรรมเนียมใบอนุญาตโฆษณายาเสพติดให้โทษหรือวัตถุออกฤทธิ์
และค่าธรรมเนียมเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายหรือค่าตอบแทนตามประมวลกฎหมายยาเสพติด เช่น
ค่าธรรมเนียมการขึ้นบัญชีที่จะจัดเก็บจากผู้เชี่ยวชาญ
องค์กรผู้เชี่ยวชาญทั้งในประเทศและต่างประเทศ หรือองค์กรเอกชน ค่าธรรมเนียมการประเมินเอกสารทางวิชาการ
กรณีส่งให้ผู้เชี่ยวชาญหรือองค์กรผู้เชี่ยวชาญทั้งในประเทศและต่างประเทศ ประเมิน
ค่าธรรมเนียมการตรวจสถานประกอบการ ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ
และให้ดำเนินการต่อไปได้ |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
349 | การต่ออายุความตกลงประเทศเจ้าภาพระหว่างไทยกับสหประชาชาติในรูปแบบหนังสือแลกเปลี่ยนสำหรับการฝึกอบรมหลักสูตรกฎหมายระหว่างประเทศระดับภูมิภาคของสหประชาชาติ (United Nations Regional Course in lnternational Law) ประจำปี 2567 | กต. | 29/10/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างหนังสือแลกเปลี่ยนเพื่อต่ออายุความตกลงประเทศเจ้าภาพระหว่างไทยกับสหประชาชาติ
ปี ๒๕๖๐ ที่แก้ไขเพิ่มเติม ปี ๒๕๖๕
สำหรับการจัดการฝึกอบรมหลักสูตรกฎหมายระหว่างประเทศระดับภูมิภาคของสหประชาชาติ (United Nations Regional Course in International
Law) ประจำปี ๒๕๖๗ ระหว่างวันที่ ๑๘ พฤศจิกายน - ๑๑ ธันวาคม ๒๕๖๗ ณ
กรุงเทพมหานคร และอนุมัติให้เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ ณ นครนิวยอร์ก
สหรัฐอเมริกา หรือผู้ที่ได้รับมอบหมาย เป็นผู้ลงนามในหนังสือแลกเปลี่ยนฯ
ของฝ่ายไทยสำหรับการฝึกอบรมฯ ประจำปี ๒๕๖๗ โดยร่างหนังสือแลกเปลี่ยนฯ มีสาระสำคัญเป็นการยอมรับในการต่ออายุความตกลงประเทศเจ้าภาพระหว่างไทยกับสหประชาชาติ
สำหรับการฝึกอบรมฯ ประจำปี ๒๕๖๗ มีวัตถุประสงค์เพื่ออบรมกฎหมายระหว่างประเทศให้แก่ผู้ที่มีภูมิหลังด้านกฎหมายหรือประสบการณ์ในการทำงานด้านกฎหมายระหว่างประเทศจากภูมิภาคเอเชีย - แปซิฟิก
จำนวนไม่เกิน ๓๐ คน โดยไทยสามารถส่งผู้แทนเข้าร่วมการอบรมได้ จำนวน ๕ คน ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างหนังสือแลกเปลี่ยนฯ
ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้
ให้กระทรวงการต่างประเทศดำเนินการได้
โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวตามหลักเกณฑ์ของมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๘ (เรื่อง
การจัดทำหนังสือสัญญาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรือองค์การระหว่างประเทศ)
และให้กระทรวงการต่างประเทศรับความเห็นของสำนักงบประมาณและสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
ดังนี้ สำนักงบประมาณ เห็นควรให้กระทรวงการต่างประเทศใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๘ ที่ได้รับจัดสรรงบประมาณรองรับค่าใช้จ่ายดังกล่าวไว้แล้ว สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
เห็นควรให้กระทรวงการต่างประเทศรวบรวมผลการปรับแก้ร่างหนังสือแลกเปลี่ยนฯ และผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องรายงานต่อคณะรัฐมนตรีทราบในคราวเดียวกัน
รวมทั้งสื่อสารผลลัพธ์ให้สาธารณชนและทุกภาคส่วนได้รับรู้ถึงประโยชน์ที่ไทยจะได้รับด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
350 | ร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ .. (พ.ศ. ....) ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (การปรับปรุงมาตรการภาษีเพื่อส่งเสริมการลงทุนเพื่อความยั่งยืนของประเทศไทย) | กค. | 29/10/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ ..
(พ.ศ. ....) ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร
(การปรับปรุงมาตรการภาษีเพื่อส่งเสริมการลงทุนเพื่อความยั่งยืนของประเทศไทย)
ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญเป็นการปรับปรุงมาตรการภาษีเพื่อส่งเสริมการลงทุนเพื่อความยั่งยืนของประเทศไทยโดยกำหนดให้เงินได้ของบุคคลธรรมดาที่จ่ายเป็นค่าซื้อหน่วยลงทุนใน
“กองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืน (Thailand ESG Fund หรือ TESG)” ในอัตราไม่เกินร้อยละ ๓๐ ของเงินได้
เฉพาะส่วนที่ไม่เกิน ๓๐๐,๐๐๐ บาท สำหรับปีภาษีนั้น
(จากเดิมไม่เกิน ๑๐๐,๐๐๐ บาท)
เป็นเงินได้พึงประเมินที่ได้รับยกเว้นไม่ต้องรวมคำนวณเพื่อเสียภาษีเงินได้
สำหรับเงินได้ที่จ่ายเป็นค่าซื้อหน่วยลงทุนตั้งแต่วันที่ ๑ มกราคม พ.ศ. ๒๕๖๗
ถึงวันที่ ๓๑ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๙ และกำหนดให้ผู้มีเงินได้ไม่ต้องนำเงินหรือผลประโยชน์ใด
ๆ ที่ได้รับเนื่องจากการขายหน่วยลงทุนคืนให้แก่ TESG มารวมคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา
เฉพาะกรณีที่เงินหรือผลประโยชน์ดังกล่าวคำนวณมาจากเงินได้พึงประเมินที่ได้รับยกเว้นไม่ต้องนำมารวมคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาตามที่กล่าวมา
ทั้งนี้ ต้องถือหน่วยลงทุนดังกล่าวมาแล้วไม่น้อยกว่า ๕ ปี
นับตั้งแต่วันที่ซื้อหน่วยลงทุน (จากเดิมไม่น้อยกว่า ๘ ปี
นับตั้งแต่วันที่ซื้อหน่วยลงทุน) ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้ |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
351 | ร่างกฎกระทรวงศักยภาพทางเทคนิคของผู้ขอรับใบอนุญาตเกี่ยวกับวัสดุกัมมันตรังสี พ.ศ. .... | อว. | 29/10/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงศักยภาพทางเทคนิคของผู้ขอรับใบอนุญาตเกี่ยวกับวัสดุกัมมันตรังสี
พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดศักยภาพทางเทคนิคของผู้ขอรับใบอนุญาตเกี่ยวกับวัสดุกัมมันตรังสี
เพื่อให้ผู้ขอรับใบอนุญาตเกี่ยวกับวัสดุกัมมันตรังสีต้องมีศักยภาพทางเทคนิคเพียงพอในการดูแลความปลอดภัยของวัสดุกัมมันตรังสีที่ขออนุญาต
ตามที่กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมเสนอ
และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
352 | รัฐบาลสาธารณรัฐโปแลนด์เสนอขอแต่งตั้งเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งสาธารณรัฐโปแลนด์ประจำประเทศไทย (นายคอนรัด ปัฟลิค) | กต. | 29/10/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายคอนรัด ปัฟลิค (Mr. Konrad Pawlik) ให้ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งสาธารณรัฐโปแลนด์ประจำประเทศไทยคนใหม่
โดยมีถิ่นพำนัก ณ กรุงเทพมหานคร สืบแทน นายอาร์ตูร์ ดมอฮอฟสกี (Mr. Artur Dmochowski) ซึ่งครบวาระการดำรงตำแหน่ง
ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
353 | แนวทางการเสนอเรื่องการแต่งตั้งข้าราชการการเมือง ตามพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการการเมือง พ.ศ. 2535 มาตรา 4(8)-(20) เพิ่มเติม | นร.05 | 29/10/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่เลขาธิการคณะรัฐมนตรีรายงานว่า ได้รับแจ้งจากสำนักงานศาลยุติธรรมว่า
ในการตรวจสอบข้อมูลการดำเนินคดีของบุคคลนั้น
สำนักงานศาลยุติธรรมจะต้องมีหนังสือขอทราบข้อมูลดังกล่าวไปยังศาลทั่วราชอาณาจักรจำนวนรวมประมาณ
๑๖๐ แห่ง เพื่อให้ศาลต่าง ๆ ตรวจสอบจากฐานข้อมูลของแต่ละศาล ซึ่งไม่อาจดำเนินการให้แล้วเสร็จได้ภายในระยะเวลาที่ส่วนราชการร้องขอ
ประกอบกับทางปฏิบัติสำนักงานศาลยุติธรรมจะดำเนินการตรวจสอบข้อมูลเฉพาะกรณีบุคคลที่จะเข้าสู่ตำแหน่งในองค์กรตามรัฐธรรมนูญเท่านั้น
สำนักงานศาลยุติธรรมจึงมีความเห็นว่า กรณีนี้อาจให้บุคคลดังกล่าวรับรองว่าตนเองไม่ถูกดำเนินคดีหรืออยู่ระหว่างการพิจารณาคดีของศาลยุติธรรม
ซึ่งหากบุคคลดังกล่าวรับรองข้อมูลอันเป็นเท็จก็สามารถเพิกถอนคำสั่งแต่งตั้งแล้วดำเนินคดีกับบุคคลที่ให้ข้อมูลเท็จได้ต่อไป
ดังนั้น เพื่อให้การแต่งตั้งข้าราชการการเมืองเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ถูกต้อง ครบถ้วน
คล่องตัว
และเป็นไปตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญเกี่ยวกับความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์และมาตรฐานทางจริยธรรมของข้าราชการการเมือง
รวมทั้งสอดคล้องกับความเห็นของสำนักงานศาลยุติธรรมดังกล่าวข้างต้น
สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีจึงได้ปรับปรุงแบบข้อมูลประกอบการเสนอแต่งตั้งข้าราชการการเมืองให้เหมาะสมและเป็นประโยชน์ต่อการปฏิบัติมากยิ่งขึ้น
โดยเพิ่มข้อความในข้อ ๑๐ ว่า “ขอรับรองว่าผู้ได้รับการเสนอแต่งตั้งเป็นผู้มีคุณสมบัติถูกต้อง
ครบถ้วน และไม่มีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา ๙ แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการการเมือง
พ.ศ. ๒๕๓๕ และที่แก้ไขเพิ่มเติม”
และสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีจะได้ประสานงานกับส่วนราชการและเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินการในเรื่องนี้ตามแนวทางดังกล่าวข้างต้นให้ถูกต้อง
ชัดเจน อย่างเคร่งครัดต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
354 | การแต่งตั้งข้าราชการการเมือง (นายสราวุธ อ่อนละมัย และนายมนตรี ปาน้อยนนท์) | สธ. | 29/10/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแต่งตั้งข้าราชการการเมือง
จำนวน ๒ ราย ทั้งนี้ ให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๒๙ ตุลาคม ๒๕๖๗) เป็นต้นไป
ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเสนอ ดังนี้ ๑. นายสราวุธ อ่อนละมัย ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข
(นายเดชอิศม์ ขาวทอง) ๒. นายมนตรี ปาน้อยนนท์ ดำรงตำแหน่งผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข
[ปฏิบัติหน้าที่เลขานุการรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข (นายเดชอิศม์
ขาวทอง)]
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
355 | การเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมนานาชาติระดับรัฐมนตรี ว่าด้วยการจัดการทรัพยากรดิน และน้ำเพื่อความมั่นคงทางอาหารอย่างยั่งยืน (The International Soil and Water Forum 2024) | กษ. | 29/10/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. อนุมัติให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมนานาชาติระดับรัฐมนตรี
ว่าด้วยการจัดการทรัพยากรดิน และน้ำเพื่อความมั่นคงทางอาหารอย่างยั่งยืน (The
International Soil and Water Forum 2024 : ISWF 2024) ระหว่างวันที่
๙-๑๑ ธันวาคม ๒๕๖๗ ณ กรุงเทพมหานคร โดยมีหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
คือ สำนักงานปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กรมชลประทาน กรมพัฒนาที่ดิน
กรมฝนหลวงและการบินเกษตร และสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม
ร่วมเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมและสนับสนุนงบประมาณที่เกี่ยวข้อง
โดยเบิกจ่ายงบประมาณรายจ่าย ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๘
ของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ ๒. ค่าใช้จ่ายในการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมดังกล่าวที่จะเกิดขึ้น
เห็นควรให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์พิจารณาปรับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ
ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๘ โดยโอนงบประมาณรายจ่าย
โอนเงินจัดสรรหรือเปลี่ยนแปลงเงินจัดสรร แล้วแต่กรณี
ตามระเบียบว่าด้วยการบริหารงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๒ และที่แก้ไขเพิ่มเติม
โดยคำนึงถึงความจำเป็นและเหมาะสม ความคุ้มค่า ผลสัมฤทธิ์
หรือประโยชน์ที่จะได้รับจากการใช้จ่ายงบประมาณ ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
356 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดประเภทวัสดุกัมมันตรังสีที่บุคคลธรรมดาขอรับใบอนุญาตได้ พ.ศ. .... และร่างกฎกระทรวงกำหนดประเภทเครื่องกำเนิดรังสีที่บุคคลธรรมดาขอรับใบอนุญาตได้ พ.ศ. .... | อว. | 29/10/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงกำหนดประเภทวัสดุกัมมันตรังสีที่บุคคลธรรมดาขอรับใบอนุญาตได้
พ.ศ. ....
มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดประเภทวัสดุกัมมันตรังสีที่บุคคลธรรมดาสามารถขอรับใบอนุญาตผลิต
มีไว้ในครอบครองหรือใช้ นำเข้า ส่งออก หรือนำผ่านวัสดุกัมมันตรังสีได้ และร่างกฎกระทรวงกำหนดประเภทเครื่องกำเนิดรังสีที่บุคคลธรรมดาขอรับใบอนุญาตได้
พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดประเภทเครื่องกำเนิดรังสีที่บุคคลธรรมดาสามารถขอรับใบอนุญาตทำเครื่องกำเนิดรังสี
มีไว้ในครอบครองหรือใช้ นำเข้าหรือส่งออกเครื่องกำเนิดรังสี รวม ๒ ฉบับ ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ตรวจพิจารณาแล้ว ตามที่กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมเสนอ
และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
357 | รัฐบาลสาธารณรัฐคองโกเสนอขอแต่งตั้งเอกราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งสาธารณรัฐคองโกประจำประเทศไทย (นายฌัก ฌ็อง ลุก อึนยังกา) | กต. | 29/10/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายฌัก ฌ็อง ลุก
อึนยังกา (Mr. Jacques Jean Luc Nyanga) ให้ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งสาธารณรัฐคองโกประจำประเทศไทยคนใหม่
โดยมีถิ่นพำนัก ณ กรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน สืบแทน นายดาเนียล โอวาซา (Mr.
Daniel Owassa) ซึ่งครบวาระการดำรงตำแหน่ง
ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
358 | การแต่งตั้งคณะกรรมการสรรหากรรมการกำกับกิจการพลังงาน (1. นายณอคุณ สิทธิพงศ์ ฯลฯ จำนวน 8 คน) | พน. | 29/10/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแต่งตั้งคณะกรรมการสรรหากรรมการกำกับกิจการพลังงาน
จำนวน ๘ คน ทั้งนี้ ให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๒๙ ตุลาคม ๒๕๖๗) เป็นต้นไป
ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานเสนอ ดังนี้ ๑. นายณอคุณ สิทธิพงศ์ ผู้ที่เคยดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวงพลังงาน ๒. นายประสงค์ พูนธเนศ ผู้ที่เคยดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวงการคลัง ๓. นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ผู้ที่เคยดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวงการคลัง ๔. นายพสุ โลหารชุน ผู้ที่เคยดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ๕. นายคมสัน เหล่าศิลปเจริญ ผู้แทนสภาอุตสาหกรรมที่ไม่เป็นผู้ประกอบกิจการพลังงาน ๖. นายขวัญชัย ลีเผ่าพันธุ์ ผู้แทนสภาวิศวกร ๗. นายพงษ์รักษ์ ศรีบัณฑิตมงคล ผู้แทนของอธิการบดีของสถาบันอุดมศึกษาของรัฐ ๘. นายสมศักดิ์ สันธินาค ผู้แทนองค์กรเอกชนที่ไม่แสวงหากำไรในทางธุรกิจ ทั้งนี้ ให้กระทรวงพลังงาน
(สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน)
รับความเห็นของกระทรวงการคลังและสำนักงบประมาณไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย ดังนี้ กระทรวงการคลัง เห็นควรคำนึงถึงประเด็นความคุ้มค่า
ต้นทุน และผลประโยชน์ เสถียรภาพและความมั่นคงทางเศรษฐกิจและสังคม ตลอดจนความยั่งยืนทางการคลังของรัฐ
เพื่อให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ของบทบัญญัติมาตรา ๗ แห่งพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ
พ.ศ. ๒๕๖๑
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
359 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดค่าใช้จ่ายอื่นที่เกี่ยวข้อง และการคำนวณค่าใช้จ่ายอันเกิดจากการสกัดกั้น หรือการปฏิบัติการโดยเจ้าหน้าที่ฝ่ายทหาร เพื่อทำลายอากาศยานจากภาคพื้น พ.ศ. .... | กห. | 29/10/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดค่าใช้จ่ายอื่นที่เกี่ยวข้อง
และการคำนวณค่าใช้จ่ายอันเกิดจากการสกัดกั้น
หรือการปฏิบัติการโดยเจ้าหน้าที่ฝ่ายทหาร เพื่อทำลายอากาศยานจากภาคพื้น พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดค่าใช้จ่ายในการสืบสวนสอบสวนเบื้องต้นของผู้ควบคุมอากาศยานและบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้อง
และค่าใช้จ่ายในการเดินทางของเจ้าหน้าที่ฝ่ายทหารเพื่อปฏิบัติภารกิจการตรวจและพิสูจน์ฝ่ายการสกัดกั้น
การเคลื่อนย้ายอากาศยาน การเก็บรักษาอากาศยาน สิ่งของ และหลักฐาน
และการใช้อาวุธเพื่อปฏิบัติการทำลายอากาศยานเป็นค่าใช้จ่ายอื่นที่เกี่ยวข้องอันเกิดจากการสกัดกั้น
หรือการปฏิบัติการเพื่อทำลายอากาศยานจากภาคพื้น
และกำหนดหลักเกณฑ์วิธีการคำนวณค่าใช้จ่ายอันเกิดจากการสกัดกั้นหรือการปฏิบัติการโดยเจ้าหน้าที่ฝ่ายทหาร
เพื่อทำลายอากาศยานจากภาคพื้น ตามที่กระทรวงกลาโหมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา
แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒.
ให้กระทรวงกลาโหมรับความเห็นของกระทรวงคมนาคมและสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
ดังนี้ กระทรวงคมนาคม เห็นว่าในส่วนของค่าใช้จ่ายในการเดินทางตามข้อ
๒ (๒) และข้อ ๔ ของร่างกฎกระทรวงดังกล่าวสามารถเทียบเคียงจากหลักเกณฑ์ และอัตราตามที่กำหนดไว้ในพระราชกฤษฎีกาค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการ
พ.ศ. ๒๕๒๖ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ซึ่งเป็นหลักเกณฑ์และอัตราที่กำหนดไว้สำหรับเดินทางไปราชการของเจ้าหน้าที่ทางฝ่ายทหารด้วยแล้ว
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
360 | ขอความเห็นชอบต่อร่างความตกลงระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับองค์การอนามัยโลกต่อการจัดการประชุมสุขภาพช่องปากโลก (WHO Global Oral Health Meeting) | สธ. | 29/10/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||