ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 11 จากทั้งหมด 81 หน้า แสดงรายการที่ 201 - 220 จากข้อมูลทั้งหมด 1601 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
201 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (1. นายสุรินทร์ วรกิจธำรง ฯลฯ จำนวน 3 ราย) | ทส. | 03/12/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ
สังกัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับดับสูง จำนวน ๓ ราย เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่าง ทั้งนี้
ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไป ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ
ดังนี้ ๑. นายสุรินทร์ วรกิจธำรง ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ๒. นายยงยุทธ นาควิโรจน์ ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
202 | ข้อเสนอโครงการของจังหวัดเชียงใหม่และจังหวัดเชียงรายเพื่อฟื้นฟูพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย | นร.11 สศช | 29/11/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการโครงการเร่งด่วนของจังหวัดเชียงใหม่และจังหวัดเชียงรายเพื่อฟื้นฟูพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย
ที่เห็นควรสนับสนุน จำนวน ๓๙ โครงการ กรอบวงเงินรวม ๖๔๑,๑๒๗,๓๐๐ บาท โดยให้จังหวัดเชียงใหม่และจังหวัดเชียงรายขอรับการจัดสรรจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๘ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นตามขั้นตอนของกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด
รวมทั้งให้สำนักงบประมาณตรวจสอบความซ้ำซ้อนของโครงการและงบประมาณต่อไป และรับทราบข้อเสนอโครงการพัฒนาในระยะยาวเพื่อขอรับการสนับสนุนงบประมาณจากส่วนราชการของจังหวัดเชียงใหม่และเชียงราย
จำนวน ๓๘๑ โครงการ กรอบวงเงินรวม ๑๙,๒๘๒,๕๔๖,๙๗๖ บาท
และมอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับไปพิจารณาบรรจุไว้ในแผนปฏิบัติราชการประจำปีของหน่วยงาน
เพื่อขอรับการจัดสรรงบประมาณตามขั้นตอนต่อไป ตามที่สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอ ให้สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
กระทรวงมหาดไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมและสำนักงบประมาณไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
ดังนี้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เห็นว่ากรณีโครงการ
หรือกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการปรับปรุง ซ่อมแซม ฟื้นฟูถนน หากไม่มีลักษณะเป็นการก่อสร้าง
และ/หรือขยายเขตทางหรือช่องจราจร และไม่มีลักษณะเป็นโครงการ กิจการ หรือการดำเนินการตามประกาศฯ
และมติคณะรัฐมนตรีฯ ข้างต้น
จะไม่เข้าข่ายต้องจัดทำรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม สำนักงบประมาณ เห็นควรให้เตรียมความพร้อมในการขออนุญาตจากกรมธนารักษ์
และเตรียมค่าใช้จ่ายในการดำเนินการเพิ่มเติม
สำหรับค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นให้ใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.
๒๕๖๘ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น
โดยขอให้จังหวัดเชียงใหม่และจังหวัดเชียงรายจัดทำรายละเอียดโครงการและประมาณการค่าใช้จ่ายเพื่อขอทำความตกลงกับสำนักงบประมาณตามระเบียบที่เกี่ยวข้อง
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
203 | รายงานผลการดำเนินการตามมาตรา 17 แห่งพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. 2548 และที่แก้ไขที่เพิ่มเติม ประจำปีงบประมาณ 2567 | กค. | 29/11/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการดำเนินการตามมาตรา
๑๗ แห่งพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. ๒๕๔๘ และที่แก้ไขเพิ่มเติม
ประจำปีงบประมาณ ๒๕๖๗ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้เสนอรัฐสภาทราบต่อไป ทั้งนี้
รายงานดังกล่าวประกอบด้วย ๒ ส่วน ดังนี้ ๑. ผลการดำเนินการตามแผนการบริหารหนี้สาธารณะ
ประจำปีงบประมาณ ๒๕๖๗ ณ สิ้นเดือนกันยายน ๒๕๖๗ ได้แก่ (๑) ผลการก่อหนี้ใหม่ วงเงิน
๗๘๘,๖๓๐.๑๓ ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ ๖๙.๐๒ ของแผนการก่อหนี้ใหม่ วงเงินประมาณ ๑,๑๔๒,๕๘๐.๗๑
ล้านบาท (๒) ผลการบริหารหนี้เดิม วงเงิน ๑,๗๖๑,๒๔๑.๑๑ ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ ๘๖.๗๗
ของแผนการบริหารหนี้เดิม วงเงิน ๒,๐๒๙,๗๑๐.๑๙ ล้านบาท และผลการชำระหนี้ วงเงิน
๔๙๑,๗๑๗.๘๓ ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ ๑๐๘.๒๗ ของแผนการชำระหนี้ วงเงิน ๔๕๔,๑๖๘.๘๗
ล้านบาท ทั้งนี้ ระดับหนี้สาธารณะคงค้าง ณ สิ้นปีงบประมาณ ๒๕๖๗ มีจำนวน ๑๑,๖๒๗,๘๕๓.๕๔
ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีงบประมาณ ๒๕๖๖ จำนวน ๔๙๖,๒๑๙.๓๔ ล้านบาท
โดยหนี้ที่เพิ่มขึ้นมาจากการกู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณของรัฐบาล
และรัฐบาลกู้เงินเพื่อให้กู้ต่อเพื่อลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ
อย่างไรก็ตาม หนี้สาธารณะของประเทศยังคงอยู่ภายใต้กรอบการบริหารหนี้สาธารณะที่คณะกรรมการนโยบายการเงินการคลังของรัฐกำหนด
คือไม่เกินร้อยละ ๗๐ ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ณ สิ้นปีงบประมาณ ๒๕๖๗ อยู่ที่ร้อยละ ๖๓.๓๒ ๒. รายงานการประเมินผลโครงการพัฒนาและโครงการประจำปีงบประมาณ
๒๕๖๗ กระทรวงการคลังได้ดำเนินการติดตามและประเมินผลสัมฤทธิ์โครงการพัฒนา
โครงการและแผนงานของรัฐวิสาหกิจที่ดำเนินการแล้วเสร็จ
ตามหลักเกณฑ์การประเมินผลโครงการในด้านความสอดคล้องของวัตถุประสงค์ ประสิทธิภาพ
ประสิทธิผล ผลกระทบ และความยั่งยืนของโครงการ เช่น (๑) โครงการโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วมพระนครใต้
ชุดที่ ๓ (๒) โครงการพัฒนาระบบส่งไฟฟ้าบริเวณจังหวัดอุบลราชธานี ยโสธร
และอำนาจเจริญ เพื่อรับซื้อไฟฟ้าจากโครงการในประเทศลาว (๓)
โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ และ (๔)
โครงการพัฒนาสิ่งอำนวยความสะดวก
เพื่อเชื่อมต่อการเดินทางบริเวณสถานีสะพานพระนั่งเกล้าของโครงการรถไฟฟ้า สายสีม่วง
ช่วงบางใหญ่-บางซื่อ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
204 | การแต่งตั้งข้าราชการการเมือง (1.นายพลนชชา จักรเพ็ชร ฯลฯ จำนวน 4 ราย) | กค. | 29/11/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแต่งตั้งข้าราชการการเมือง จำนวน ๔ ราย ทั้งนี้
ให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๒๙ พฤศจิกายน ๒๕๖๗) เป็นต้นไป ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเสนอ
ดังนี้ ๑. นายพลนชชา จักรเพ็ชร ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง
(นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์) ๒. นายยงยุทธ มั่นบุปผชาติ ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง
(นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล) ๓. นายสุรชาติ เทียนทอง ดำรงตำแหน่งผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
[ปฏิบัติหน้าที่เลขานุการรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง (นายจุลพันธ์
อมรวิวัฒน์)]
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
205 | รายงานผลการดำเนินงานโครงการอาหารเสริม (นม) โรงเรียน | กษ. | 29/11/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ๑.
รับทราบรายงานผลการดำเนินงานโครงการอาหารเสริม (นม) โรงเรียน
ซึ่งเป็นการรายงานถึงสภาพปัญหาจากการดำเนินโครงการที่ผ่านมา ได้แก่ (๑)
ปัญหาข้อมูลจำนวนปริมาณน้ำนมโคภายในประเทศถูกโต้แย้งว่าไม่มีความน่าเชื่อถือ (๒)
ปัญหาสัดส่วนสิทธิการจำหน่ายนมโรงเรียนระหว่างสถาบันเกษตรกรกับภาคเอกชนยังไม่มีความเหมาะสม
(๓) ปัญหาเกณฑ์คุณภาพน้ำนมในโครงการ กำหนดปริมาณเนื้อนมรวม (Total Solid) มีมาตรฐานสูงเกินความจำเป็น (๔)
ปัญหาผู้ประกอบการผลิตภัณฑ์นมซึ่งเป็นสหกรณ์ที่เข้าร่วมโครงการฯ
บางส่วนไม่มีโคนมเป็นของตนเอง และแนวทางการแก้ปัญหาสำหรับโครงการอาหารเสริม (นม)
โรงเรียน ปีการศึกษา ๒๕๖๗ รวมทั้งคณะกรรมการ ป.ป.ช. มีข้อเสนอแนะว่า
ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์รวบรวมและจัดทำรายงานผลการดำเนินงาน
โดยมีการประเมินผลด้วยตัวชี้วัดอย่างเป็นรูปธรรม
พร้อมทั้งแสดงรายละเอียดข้อมูลสถิติ
ตลอดจนรายงานปัญหาและอุปสรรคและข้อเสนอแนะในการแก้ปัญหาเบื้องต้นเสนอคณะรัฐมนตรีอย่างน้อยปีละ
๑ ครั้ง ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ ๒. ในคราวต่อไปให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์รายงานผลการดำเนินงานโครงการอาหารเสริม
(นม) โรงเรียนให้มีข้อมูลครบถ้วนและเสนอคณะรัฐมนตรีอย่างน้อยปีละ ๑ ครั้ง
ตามข้อเสนอแนะของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
206 | ร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ .. (พ.ศ. ....) ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (มาตรการภาษีช่วยค่าซ่อมบ้านและมาตรการภาษีช่วยค่าซ่อมรถ) | กค. | 29/11/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
207 | การขอความเห็นชอบต่อร่างถ้อยแถลงร่วมของการประชุมรัฐมนตรีอาเซียนด้านเยาวชน ครั้งที่ 13 และร่างถ้อยแถลงร่วมของการประชุมรัฐมนตรีอาเซียนด้านเยาวชน+3 ครั้งที่ 9 | พม. | 29/11/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
208 | กรอบท่าทีการเจรจา และองค์ประกอบคณะผู้แทนของประเทศไทยเพื่อเข้าร่วมการประชุมรัฐภาคีอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการต่อต้านการแปรสภาพเป็นทะเลทราย สมัยที่ 16 | กษ. | 29/11/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
209 | มาตรการอัตราค่าโดยสารสูงสุด 20 บาท ตลอดสาย ตามนโยบายรัฐบาล สำหรับรถไฟชานเมืองสายสีแดง สายนครวิถี (กรุงเทพอภิวัฒน์-ตลิ่งชัน) และสายธานีรัถยา (กรุงเทพอภิวัฒน์-รังสิต) ของการรถไฟแห่งประเทศไทย และรถไฟฟ้ามหานคร สายฉลองรัชธรรม (สายสีม่วง) ของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย | คค. | 29/11/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. อนุมัติมาตรการอัตราค่าโดยสารสูงสุด ๒๐ บาท
ตลอดสาย ตามนโยบายรัฐบาลสำหรับรถไฟชานเมืองสายสีแดง สายนครวิถี (กรุงเทพอภิวัฒน์ -
ตลิ่งชัน) และสายธานีรัถยา (กรุงเทพอภิวัฒน์ - รังสิต) ตั้งแต่วันที่ ๑ ธันวาคม
๒๕๖๗ จนถึงวันที่ ๓๐ พฤศจิกายน ๒๕๖๘
โดยให้การรถไฟแห่งประเทศไทยขอรับการจัดสรรงบประมาณแผ่นดินเพื่อชดเชยการขาดรายได้ส่วนต่างค่าโดยสารตามจริง
ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ ๒. รับทราบมาตรการอัตราค่าโดยสารสูงสุด ๒๐ บาท
ตลอดสาย ตามนโยบายรัฐบาลสำหรับรถไฟฟ้ามหานคร สายฉลองรัชธรรม (สายสีม่วง)
ตั้งแต่วันที่ ๑ ธันวาคม ๒๕๖๗ จนถึงวันที่ ๓๐ พฤศจิกายน ๒๕๖๘
ตามความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ๓.
ให้กระทรวงคมนาคมประเมินผลการดำเนินมาตรการตามข้อ ๑ และ ๒
เมื่อสิ้นปีงบประมาณโดยพิจารณาปัจจัยต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องให้ครบถ้วน
เพื่อใช้ประกอบการพิจารณาการดำเนินมาตรการดังกล่าวในปีถัดไป ๔. ให้กระทรวงคมนาคม
การรถไฟแห่งประเทศไทย และการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทยร่วมกันพิจารณาปรับปรุงวิธีการเก็บค่าโดยสารของผู้โดยสารที่เดินทางข้ามระหว่างรถไฟชานเมืองสายสีแดงสายนครวิถี (กรุงเทพอภิวัฒน์ - ตลิ่งชัน)
และรถไฟฟ้ามหานคร สายฉลองรัชธรรม (สายสีม่วง) ให้งดการจ่ายค่าโดยสารซ้ำซ้อนกันในทุกกรณีสำหรับทุกประเภทบัตรโดยสาร
รวมทั้งให้เร่งเตรียมการจัดทำกฎหมายลำดับรองที่ออกตามความในพระราชบัญญัติการบริหารจัดการระบบตั๋วร่วม
พ.ศ. ....
และการดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องเพื่อลดการเก็บค่าแรกเข้าซ้ำซ้อนในกรณีที่มีการเดินทางข้ามระหว่างสายรถไฟต่าง
ๆ และลดภาระประชาชนที่ต้องใช้บัตรโดยสารหลายประเภทต่อไป ๕. ให้กระทรวงคมนาคม
การรถไฟแห่งประเทศไทย และการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทยรับความเห็นของกระทรวงการคลัง
สำนักงบประมาณ
และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
เช่น สำนักงบประมาณ เห็นว่าการขอรับการจัดสรรงบประมาณเพื่อชดเชยการขาดรายได้ส่วนต่างค่าโดยสารตามจริงของการรถไฟฟ้าแห่งประเทศไทยนั้น
ควรให้การรถไฟฟ้าแห่งประเทศไทยพิจารณาจัดทำรายละเอียดให้ถูกต้องครบถ้วนตามส่วนต่างรายได้ค่าโดยสารที่เกิดขึ้นจริง
เพื่อเสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีตามขั้นตอนต่อไป |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
210 | การอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ (พระเขี้ยวแก้ว) มาประดิษฐานในประเทศไทยเป็นการชั่วคราว เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 และในโอกาสครบรอบ 50 ปี ของการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตไทย - จีน ในปี 2568 | นร. | 29/11/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอว่า การอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ
(พระเขียวแก้ว) มาประดิษฐานในไทยเป็นการชั่วคราว ในระหว่างวันที่ ๕ ธันวาคม ๒๕๖๗
ถึงวันที่ ๑๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๘ ถือเป็นกิจกรรมที่สำคัญและเป็นสิริมงคลยิ่ง
ซึ่งรัฐบาลได้จัดขึ้นเนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๖ รอบ ๒๘
กรกฎาคม ๒๕๖๗ และเนื่องในโอกาสครบรอบ ๕๐ ปี ของการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตไทย
- จีน ในปี ๒๕๖๘ ด้วย และเป็นโอกาสอันดีที่หน่วยงานต่าง ๆ
ตลอดจนประชาชนชาวไทยจะได้ร่วมกันต้อนรับคณะผู้แทนจากจีน
และร่วมกันสร้างสรรค์โครงการกิจกรรมที่ดีเพื่อส่งเสริมภาพลักษณ์และเอกลักษณ์ของชาติ
รวมทั้งส่งเสริมการท่องเที่ยวระหว่างสองประเทศให้มากยิ่งขึ้น จึงขอมอบหมายการดำเนินการ
ดังนี้ ๑. เชิญชวนให้ทุกหน่วยงานเข้ามามีส่วนร่วมในการจัดกิจกรรมครั้งนี้ในทุกมิติ ๒. ให้กระทรวงมหาดไทยร่วมกับกระทรวงคมนาคม
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณามาตรการอำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนในการเดินทางของประชาชนเพื่อเข้าสักการะพระเขียวแก้วในระหว่างวันที่
๕ ธันวาคม ๒๕๖๗ ถึงวันที่ ๑๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๘ ๓. ให้หน่วยงานด้านความมั่นคง
สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินมาตรการรักษาความปลอดภัยขั้นสูงสุดในการดูแลพระเขี้ยวแก้วตลอดระยะเวลาที่ประดิษฐานในไทย ๔. ให้โฆษกรัฐบาล กรมประชาสัมพันธ์
และทุกส่วนราชการ เร่งดำเนินการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารในเรื่องนี้
โดยเฉพาะความสำคัญและความเป็นมาของพระเขี้ยวแก้วให้กับประชาชนได้ทราบอย่างถูกต้องและทั่วถึงรวมถึงเชิญชวนผู้สนใจเข้าร่วมชมริ้วขบวนอัญเชิญพระเขี้ยวแก้ว
ในวันที่ ๔ ธันวาคม ๒๕๖๗ ตลอดเส้นทางการอัญเชิญด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
211 | ขออนุมัติงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพื่อใช้เป็นค่าใช้จ่ายโครงการพัฒนาแหล่งน้ำ บริหารจัดการน้ำ และเตรียมความพร้อมโครงการ และฟื้นฟูโครงการที่ได้รับความเสียหายจากอุทกภัย | กษ. | 29/11/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
212 | การแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการตรวจสอบและประเมินผลภาคราชการ (นายธีระพงษ์ วงศ์ศิวะวิลาส) | นร.12 | 29/11/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแต่งตั้ง นายธีระพงษ์ วงศ์ศิวะวิลาส
เป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ (ด้านการบริหารและการจัดการ การวางแผน) ในคณะกรรมการตรวจสอบและประเมินผลภาคราชการ
แทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิเดิมที่พ้นจากตำแหน่งเนื่องจากขอลาออก
ตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ)
ประธานกรรมการตรวจสอบและประเมินผลภาคราชการเสนอ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ
(๒๙ พฤศจิกายน ๒๕๖๗) เป็นต้นไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
213 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (นางอารยา บุญยะลีพรรณ ฯลฯ จำนวน 8 ราย) | สธ. | 29/11/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงสาธารณสุข
ให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ
โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ จำนวน ๖ ราย
และตั้งแต่วันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์และมีคำสั่งให้รักษาการในตำแหน่ง จำนวน
๒ ราย รวม ๘ ราย ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเสนอ ดังนี้ ๑. นางอารยา บุญยะลีพรรณ ดำรงตำแหน่งนายแพทย์ทรงคุณวุฒิ (ด้านเวชกรรม
สาขารังสีวิทยา) โรงพยาบาลราชวิถี กรมการแพทย์ ตั้งแต่วันที่ ๗ ธันวาคม ๒๕๖๖
ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ๒. นายอรรถพล รัตนสุภา ดำรงตำแหน่งนายแพทย์ทรงคุณวุฒิ (ด้านเวชกรรม.
สาขาอายุรกรรม) กลุ่มงานอายุรกรรม โรงพยาบาลหาดใหญ่ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสงขลา สำนักงานปลัดกระทรวง ตั้งแต่วันที่
๑๒ ธันวาคม ๒๕๖๖ ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ๓. นายวสันต์ เศรษฐวงศ์ ดำรงตำแหน่งนายแพทย์ทรงคุณวุฒิ (ด้านเวชกรรม
สาขาศัลยกรรม) โรงพยาบาลเลิดสิน กรมการแพทย์ ตั้งแต่วันที่ ๒๕ มกราคม ๒๕๖๗
ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ๔. นางสาวอรศิริ เสรีรัตน ดำรงตำแหน่งนายแพทย์ทรงคุณวุฒิ (ด้านเวชกรรม
สาขาอายุรกรรม) โรงพยาบาลราชวิถี กรมการแพทย์ ตั้งแต่วันที่ ๒๙ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๗ ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ๕. นายธรณินทร์ กองสุข ดำรงตำแหน่งนายแพทย์ทรงคุณวุฒิ (ด้านเวชกรรม
สาขาเวชศาสตร์ป้องกัน แขนงสุขภาพจิตชุมชน) สถาบันกัลยาณ์ราชนครินทร์ กรมสุขภาพจิต
ตั้งแต่วันที่ ๒๘ มีนาคม ๒๕๖๗ ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์และมีคำสั่งให้รักษาการในตำแหน่ง ๖. นายประกาส อุครานันท์ ดำรงตำแหน่งนายแพทย์ทรงคุณวุฒิ (ด้านเวชกรรม สาขาจิตเวช) โรงพยาบาลพระศรีมหาโพธิ์
กรมสุขภาพจิต ตั้งแต่วันที่ ๒๘ มีนาคม ๒๕๖๗ ซึ่งเป็นที่มีคุณสมสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์และมีคำสั่งให้รักษาการในตำแหน่ง ๗. นางสาวสมจิตต์ วงศ์สุวรรณสิริ ดำรงตำแหน่งพยาบาบาลวิชาชีพทรงคุณวุฒิ (ด้านการพยาบาล)
กลุ่มที่ปรึกษาระดับกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง
ตั้งแต่วันที่ ๒๘ มีนาคม ๒๕๖๗ ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
214 | ขอความเห็นชอบต่อการเข้าร่วมการเจรจาเพื่อเข้าเป็นภาคีความตกลงหุ้นส่วนด้านเศรษฐกิจดิจิทัล (Digital Economy Partnership Agreement: DEPA) | ดศ. | 29/11/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
215 | ข้อเสนอการแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) ในภาคเกษตรกรรมและภาคป่าไม้ ในพื้นที่ปฏิบัติการนวัตกรรมภาครัฐ จังหวัดเชียงใหม่ | นร.12 | 29/11/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
216 | ขอทบทวนมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2562 (เรื่อง ขอทบทวนมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2552 เรื่อง การทบทวนระบบบริหารจัดการนมโรงเรียน) | กษ. | 29/11/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
217 | มาตรการรักษาเสถียรภาพราคาและส่งเสริมการผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ปี 2567/68 | พณ. | 29/11/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
218 | โครงการชดเชยดอกเบี้ยให้ผู้ประกอบการค้าข้าวในการเก็บสต็อก ปีการผลิต 2567/68 | พณ. | 29/11/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบโครงการชดเชยดอกเบี้ยให้ผู้ประกอบการค้าข้าวในการเก็บสต็อก
ปีการผลิต ๒๕๖๗/๖๘ และอนุมัติกรอบวงเงิน จำนวน ๕๘๕ ล้านบาท
โดยให้ใช้จ่ายจากกองทุนรวมเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรในโอกาสแรกก่อน
หากไม่เพียงพอให้กรมการค้าภายในเสนอขอรับการจัดสรรงบประมาณตามความจำเป็นและเหมาะสมต่อไป
ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ ให้กระทรวงพาณิชย์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงการคลัง
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ สำนักงบประมาณ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
และธนาคารแห่งประเทศไทยไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย เช่น กระทรวงการคลัง เห็นว่าการใช้จ่ายเงินเพื่อดำเนินโครงการฯ
ให้ถือปฏิบัติตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด และเป็นไปตามมติคณะกรรมการบริหารกองทุนรวมเพื่อช่วยเหลือเกษตรกร
ภายใต้กรอบหลักเกณฑ์ เงื่อนไข ที่คณะกรรมการนโยบายและมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรกำหนด
หากไม่เพียงพอให้กรมการค้าภายในเสนอขอรับการจัดสรรงบประมาณต่อไป ทั้งนี้ ในระยะยาวกระทรวงพาณิชย์และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
ควรมุ่งเน้นการส่งเสริมและสนับสนุนเกษตรกรในด้านการตลาด เช่น
การสร้างมูลค่าเพิ่มผลิตภัณฑ์จากข้าว การบริหารจัดการพื้นที่เพาะปลูกและปริมาณผลผลิตข้าวให้สมดุลกับอุปสงค์ของตลาด
การพัฒนาสายพันธุ์ข้าว ให้มีความหลากหลายเพื่อสร้างความต้องการของตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ
เป็นต้น
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
219 | ข้อเสนอ "การพัฒนาหลักประกันบริการทางสังคมแก่กลุ่มเป้าหมายที่สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน" | พม. | 29/11/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
220 | การแต่งตั้งกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี (1. นางสาวณมาณิตา กลับบ้านเกาะ ฯลฯ จำนวน 3 ราย) | นร.04 | 29/11/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการแต่งตั้งกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี
จำนวน ๓ ราย โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่นายกรัฐมนตรีลงนามในประกาศแต่งตั้ง ตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ
ดังนี้ ๑. นางสาวณมาณิตา กลับบ้านเกาะ ๒. นายยู่สิน จินตภากร
|