ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 866 จากทั้งหมด 6199 หน้า แสดงรายการที่ 17301 - 17320 จากข้อมูลทั้งหมด 123961 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
17301 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตพื้นที่เพื่อการอนุญาตให้ตั้งสถานบริการ รวม 5 ฉบับ [ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตพื้นที่เพื่อการอนุญาตให้ตั้งสถานบริการในท้องที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา พ.ศ. ....] | มท | 11/07/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตพื้นที่เพื่อการอนุญาตให้ตั้งสถานบริการ รวม ๕ ฉบับ มีสาระสำคัญเพื่อกำหนดเขตพื้นที่ในการอนุญาตให้ตั้งสถานบริการ (Zoning) ในท้องที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จังหวัดเชียงราย จังหวัดตราด จังหวัดสุราษฎร์ธานี และจังหวัดอุบลราชธานี เพื่อให้มีความเหมาะสมกับสภาพพื้นที่และสถานการณ์บ้านเมืองในปัจจุบัน และเพื่อให้การควบคุมดูแลการรักษาความสงบเรียบร้อยของบ้านเมืองและประชาชนในท้องที่ตามที่กำหนดในร่างพระราชกฤษฎีกาดังกล่าวเป็นไปอย่างเรียบร้อยและมีประสิทธิภาพในการควบคุมดูแลมากยิ่งขึ้น ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ดังนี้ ๑.๑ ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตพื้นที่เพื่อการอนุญาตให้ตั้งสถานบริการในท้องที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา พ.ศ. .... ๑.๒ ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตพื้นที่เพื่อการอนุญาตให้ตั้งสถานบริการในท้องที่จังหวัดเชียงราย (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ๑.๓ ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตพื้นที่เพื่อการอนุญาตให้ตั้งสถานบริการในท้องที่จังหวัดตราด (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ๑.๔ ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตพื้นที่เพื่อการอนุญาตให้ตั้งสถานบริการในท้องที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ๑.๕ ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตพื้นที่เพื่อการอนุญาตให้ตั้งสถานบริการในท้องที่จังหวัดอุบลราชธานี (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ๒. ให้กระทรวงมหาดไทยรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเกี่ยวกับการตั้งสถานบริการอาจมีผลกระทบสร้างความเดือดร้อนรำคาญให้แก่ประชาชน เห็นควรกำกับดูแลให้เจ้าพนักงานของรัฐควบคุมการอนุญาตจัดตั้งสถานบริการเป็นไปตามเจตนารมณ์ของร่างพระราชกฤษฎีกาดังกล่าวอย่างเข้มงวด ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
17302 | ความคืบหน้าการดำเนินงานด้านการปฏิรูปประเทศ ระหว่างวันที่ 4 -10 กรกฎาคม 2560 | นร | 11/07/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบความคืบหน้าการดำเนินงานด้านการปฏิรูปประเทศ ระหว่างวันที่ ๔-๑๐ กรกฎาคม ๒๕๖๐ ตามที่รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายสุวิทย์ เมษินทรีย์) ประธานกรรมการประสานงาน รวม ๓ สาย (คณะรัฐมนตรี สภานิติบัญญัติแห่งชาติ และสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ) เสนอ ดังนี้
๑. สรุปผลการประชุมสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ ครั้งที่ ๒๗/๒๕๖๐ เมื่อวันอังคารที่ ๔ กรกฎาคม ๒๕๖๐ ๒. สรุปผลการประชุมสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ ครั้งที่ ๒๘/๒๕๖๐ เมื่อวันอังคารที่ ๑๑ กรกฎาคม ๒๕๖๐ รวม ๒ เรื่อง (๑) การส่งเสริมกิจการไฟฟ้าเสรีที่ใช้พลังงานทดแทนในระดับชุมชน และ (๒) การส่งเสริมวิสาหกิจเพื่อสังคมในการยกระดับคุณภาพชีวิตของชุมชนโดยภาคอุตสาหกรรมและกิจการพลังงาน ๓. สรุปสถานะข้อเสนอประเด็นปฏิรูปตามแผนการปฏิรูปของสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (ข้อมูล ณ วันที่ ๗ กรกฎาคม ๒๕๖๐) รวม ๑๖๘ เรื่อง
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
17303 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ให้เป็นเขตสำรวจการจัดรูปที่ดิน รวม 3 ฉบับ (ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในท้องที่ตำบลชุมช้าง อำเภอโพนพิสัย จังหวัดหนองคาย ให้เป็นเขตสำรวจการจัดรูปที่ดิน พ.ศ. ....) | กษ | 11/07/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ให้เป็นเขตสำรวจการจัดรูปที่ดิน รวม ๓ ฉบับ เพื่อให้สามารถนำที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินในเขตสำรวจการจัดรูปที่ดินมาใช้เพื่อการจัดรูปที่ดินได้ ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ดังนี้ ๑.๑ ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในท้องที่ตำบลดงลิง อำเภอกมลาไสย จังหวัดกาฬสินธุ์ ให้เป็นเขตสำรวจการจัดรูปที่ดิน พ.ศ. .... ๑.๒ ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในท้องที่ตำบลชุมช้าง อำเภอโพนพิสัย จังหวัดหนองคาย ให้เป็นเขตสำรวจการจัดรูปที่ดิน พ.ศ. .... ๑.๓ ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในท้องที่ตำบลกระสัง และตำบลสองชั้น อำเภอกระสัง จังหวัดบุรีรัมย์ ให้เป็นเขตสำรวจการจัดรูปที่ดิน พ.ศ. .... ๒. มอบหมายให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์รับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรสนับสนุน ส่งเสริมให้พื้นที่ที่ได้มีการจัดรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ตามพระราชบัญญัติจัดรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. ๒๕๕๘ ทำการเกษตรแผนใหม่แบบครบวงจร เพื่อช่วยให้เกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการจัดรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม มีมาตรฐานการครองชีพที่ดีขึ้น และเป็นพื้นที่เกษตรกรรมนำร่องสู่ “เกษตรกรรม ๔.๐” หรือ “Smart Farmer” ของประเทศไทย ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
17304 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ให้เป็นเขตสำรวจการจัดรูปที่ดิน รวม 3 ฉบับ (ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในท้องที่ตำบลกระสัง และตำบลสองชั้น อำเภอกระสัง จังหวัดบุรีรัมย์ ให้เป็นเขตสำรวจการจัดรูปที่ดิน พ.ศ. ....) | กษ | 11/07/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ให้เป็นเขตสำรวจการจัดรูปที่ดิน รวม ๓ ฉบับ เพื่อให้สามารถนำที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินในเขตสำรวจการจัดรูปที่ดินมาใช้เพื่อการจัดรูปที่ดินได้ ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ดังนี้ ๑.๑ ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในท้องที่ตำบลดงลิง อำเภอกมลาไสย จังหวัดกาฬสินธุ์ ให้เป็นเขตสำรวจการจัดรูปที่ดิน พ.ศ. .... ๑.๒ ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในท้องที่ตำบลชุมช้าง อำเภอโพนพิสัย จังหวัดหนองคาย ให้เป็นเขตสำรวจการจัดรูปที่ดิน พ.ศ. .... ๑.๓ ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในท้องที่ตำบลกระสัง และตำบลสองชั้น อำเภอกระสัง จังหวัดบุรีรัมย์ ให้เป็นเขตสำรวจการจัดรูปที่ดิน พ.ศ. .... ๒. มอบหมายให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์รับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรสนับสนุน ส่งเสริมให้พื้นที่ที่ได้มีการจัดรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ตามพระราชบัญญัติจัดรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. ๒๕๕๘ ทำการเกษตรแผนใหม่แบบครบวงจร เพื่อช่วยให้เกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการจัดรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม มีมาตรฐานการครองชีพที่ดีขึ้น และเป็นพื้นที่เกษตรกรรมนำร่องสู่ “เกษตรกรรม ๔.๐” หรือ “Smart Farmer” ของประเทศไทย ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
17305 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตพื้นที่เพื่อการอนุญาตให้ตั้งสถานบริการ รวม 5 ฉบับ [ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตพื้นที่เพื่อการอนุญาตให้ตั้งสถานบริการในท้องที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี (ฉบับที่..) พ.ศ. ....] | มท | 11/07/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตพื้นที่เพื่อการอนุญาตให้ตั้งสถานบริการ รวม ๕ ฉบับ มีสาระสำคัญเพื่อกำหนดเขตพื้นที่ในการอนุญาตให้ตั้งสถานบริการ (Zoning) ในท้องที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จังหวัดเชียงราย จังหวัดตราด จังหวัดสุราษฎร์ธานี และจังหวัดอุบลราชธานี เพื่อให้มีความเหมาะสมกับสภาพพื้นที่และสถานการณ์บ้านเมืองในปัจจุบัน และเพื่อให้การควบคุมดูแลการรักษาความสงบเรียบร้อยของบ้านเมืองและประชาชนในท้องที่ตามที่กำหนดในร่างพระราชกฤษฎีกาดังกล่าวเป็นไปอย่างเรียบร้อยและมีประสิทธิภาพในการควบคุมดูแลมากยิ่งขึ้น ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ดังนี้ ๑.๑ ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตพื้นที่เพื่อการอนุญาตให้ตั้งสถานบริการในท้องที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา พ.ศ. .... ๑.๒ ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตพื้นที่เพื่อการอนุญาตให้ตั้งสถานบริการในท้องที่จังหวัดเชียงราย (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ๑.๓ ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตพื้นที่เพื่อการอนุญาตให้ตั้งสถานบริการในท้องที่จังหวัดตราด (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ๑.๔ ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตพื้นที่เพื่อการอนุญาตให้ตั้งสถานบริการในท้องที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ๑.๕ ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตพื้นที่เพื่อการอนุญาตให้ตั้งสถานบริการในท้องที่จังหวัดอุบลราชธานี (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ๒. ให้กระทรวงมหาดไทยรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเกี่ยวกับการตั้งสถานบริการอาจมีผลกระทบสร้างความเดือดร้อนรำคาญให้แก่ประชาชน เห็นควรกำกับดูแลให้เจ้าพนักงานของรัฐควบคุมการอนุญาตจัดตั้งสถานบริการเป็นไปตามเจตนารมณ์ของร่างพระราชกฤษฎีกาดังกล่าวอย่างเข้มงวด ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
17306 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดบริเวณห้ามก่อสร้าง ดัดแปลง หรือเปลี่ยนการใช้อาคารบางชนิดหรือบางประเภท รวม 2 ฉบับ (ร่างกฎกระทรวงกำหนดบริเวณห้ามก่อสร้าง ดัดแปลง หรือเปลี่ยนการใช้อาคารบางชนิดหรือบางประเภท ในพื้นที่บางส่วนในท้องที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี พ.ศ. ....) | มท | 11/07/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดบริเวณห้ามก่อสร้าง ดัดแปลง หรือเปลี่ยนการใช้อาคารบางชนิดหรือบางประเภท รวม ๒ ฉบับ มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดบริเวณห้ามก่อสร้าง ดัดแปลง หรือเปลี่ยนการใช้อาคารบางชนิดหรือบางประเภท ในพื้นที่บางส่วนในท้องที่จังหวัดพะเยา และจังหวัดสุราษฎร์ธานี เพื่อประโยชน์ในด้านการป้องกันอัคคีภัย การรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม การผังเมือง การสถาปัตยกรรม และการอำนวยความสะดวกแก่การจราจร ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน แล้วดำเนินการต่อไปได้ ดังนี้ ๑.๑ ร่างกฎกระทรวงกำหนดบริเวณห้ามก่อสร้าง ดัดแปลง หรือเปลี่ยนการใช้อาคารบางชนิดหรือบางประเภท ในพื้นที่บางส่วนในท้องที่จังหวัดพะเยา พ.ศ. .... ๑.๒ ร่างกฎกระทรวงกำหนดบริเวณห้ามก่อสร้าง ดัดแปลง หรือเปลี่ยนการใช้อาคารบางชนิดหรือบางประเภท ในพื้นที่บางส่วนในท้องที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี พ.ศ. .... ๒. ให้กระทรวงมหาดไทยรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นว่า เมื่อร่างกฎกระทรวงฯ ทั้ง ๒ ฉบับ ประกาศใช้ กรมโยธาธิการและผังเมืองควรกำกับดูแลให้เจ้าพนักงานท้องถิ่นควบคุมการอนุญาตก่อสร้างอาคารพาณิชยกรรมประเภทค้าปลีกค้าส่งให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ของร่างกฎกระทรวงฯ ดังกล่าวอย่างเข้มงวด ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
17307 | ข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี | นร | 11/07/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
ในคราวประชุมคณะรัฐมนตรี นายกรัฐมนตรีมีข้อสั่งการ ดังนี้
๑. ด้านสังคม ตามที่หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติได้มีคำสั่งที่ ๓๓/๒๕๖๐ เรื่อง มาตรการชั่วคราวเพื่อแก้ไขข้อขัดข้องในการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว ลงวันที่ ๔ กรกฎาคม ๒๕๖๐ กำหนดมาตรการชั่วคราวเพื่อแก้ไขข้อขัดข้องในการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าวตามพระราชกำหนดการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ. ๒๕๖๐ ในช่วงเวลาเปลี่ยนผ่านการใช้บังคับกฎหมาย โดยตามข้อ ๒ ของคำสั่งดังกล่าวได้กำหนดให้นายจ้างและคนต่างด้าวเร่งดำเนินการให้ถูกต้องครบถ้วนตามพระราชกำหนดดังกล่าวให้แล้วเสร็จก่อนวันที่ ๑ มกราคม พ.ศ. ๒๕๖๑ และต่อมากระทรวงแรงงานได้ออกประกาศกระทรวงแรงงานเรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการขออนุญาตทำงานและการอนุญาตให้ทำงานตามพระราชกำหนดการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ. ๒๕๖๐ ลงวันที่ ๖ กรกฎาคม ๒๕๖๐ โดยข้อ ๖ ของประกาศดังกล่าวกำหนดให้จัดตั้ง “ศูนย์รับแจ้งการทำงานของคนต่างด้าว” เพื่อทำหน้าที่เกี่ยวกับการรับแจ้งการทำงานตามประกาศนี้ โดยให้กระทรวงแรงงานเป็นหน่วยงานหลัก และให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าวจัดเจ้าหน้าที่สนับสนุนการดำเนินงานร่วมกับเจ้าหน้าที่ในสังกัดกระทรวงแรงงาน นั้น ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการ โดย ๑.๑ ให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงมหาดไทย กระทรวงสาธารณสุขเร่งจัดเตรียมเจ้าหน้าที่เพื่อสนับสนุนการดำเนินงานของศูนย์รับแจ้งการทำงานของคนต่างด้าว เพื่อให้นายจ้างยื่นขอจ้างคนต่างด้าวได้ตามกำหนดเวลาในประกาศกระทรวงแรงงานดังกล่าว ๑.๒ ให้กระทรวงแรงงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำหนดแนวทางการดำเนินงานเพื่อให้นายจ้างหรือคนต่างด้าวที่ดำเนินการตามเงื่อนไขของประกาศกระทรวงแรงงานได้รับความสะดวกในเรื่องต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องให้มากที่สุด ทั้งนี้ ให้พิจารณานำระบบเทคโนโลยีสารสนเทศที่เกี่ยวข้องมาประยุกต์ใช้ในการดำเนินงานด้วย เช่น การจัดเก็บข้อมูล การตรวจสอบความถูกต้องของเอกสารหลักฐานต่าง ๆ ๒. ด้านเศรษฐกิจ ตามที่นายกรัฐมนตรีได้มีข้อสั่งการให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมร่วมกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกระทรวงมหาดไทยพิจารณากำหนดแนวทางการลดพื้นที่ปลูกยางพารา โดยในระยะแรกให้เริ่มดำเนินการในพื้นที่ซึ่งชาวสวนยางได้บุกรุกพื้นที่ป่าเพื่อทำการเพาะปลูก พร้อมทั้งพิจารณาแนวทางการช่วยเหลือชาวสวนยางกลุ่มดังกล่าวด้วย นั้น ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์พิจารณาแนวทางการดำเนินการเพื่อปรับเปลี่ยนพื้นที่เพาะปลูกยางพารา ลดการบุกรุกพื้นที่ป่า โดยส่งเสริมให้มีการทำเกษตรกรรมทางเลือกชนิดอื่นที่เหมาะสมกับสภาพพื้นที่ การเลือกเพาะปลูกพืชที่ผลผลิตมีราคาสูงและมีความสอดคล้องกับความต้องการของตลาดมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ ให้พิจารณาแนวทางการช่วยเหลือดังกล่าวให้ครอบคลุมถึงผู้รับจ้างกรีดยางด้วย ๓. ด้านการบริหารราชการแผ่นดินและอื่น ๆ ตามที่นายกรัฐมนตรีได้มีข้อสั่งการให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กระทรวงมหาดไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำชับให้เจ้าหน้าที่ในสังกัดดำเนินการกำกับดูแลและตรวจสอบผู้ประกอบการหรือสถานบริการที่มีการขายสุราหรือเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ โดยเฉพาะในบริเวณรอบสถานศึกษา ให้ปฏิบัติตามกฎหมาย ระเบียบ และใบอนุญาตต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด นั้น ให้กระทรวงมหาดไทยร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณากำหนดแนวทางการบรรเทาผลกระทบจากการใช้บังคับกฎหมายว่าด้วยสถานบริการ โดยเฉพาะการกำหนดเขตพื้นที่เพื่อการอนุญาตให้ตั้งสถานบริการ (Zoning) ที่อาจเกิดขึ้นกับผู้ประกอบสถานบริการ เช่น การส่งเสริมให้ผู้ประกอบการปรับเปลี่ยนรูปแบบการประกอบกิจการให้เหมาะสม
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
17308 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดบริเวณห้ามก่อสร้าง ดัดแปลง หรือเปลี่ยนการใช้อาคารบางชนิดหรือบางประเภท รวม 2 ฉบับ (ในท้องที่จังหวัดแพร่) | มท | 11/07/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดบริเวณห้ามก่อสร้าง ดัดแปลง หรือเปลี่ยนการใช้อาคารบางชนิดหรือบางประเภท รวม ๒ ฉบับ มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดบริเวณห้ามก่อสร้าง ดัดแปลง หรือเปลี่ยนการใช้อาคารบางชนิดหรือบางประเภท ในพื้นที่บางส่วนในท้องที่จังหวัดแพร่ และจังหวัดกำแพงเพชร เพื่อประโยชน์ในด้านการป้องกันอัคคีภัย การรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม การผังเมือง การสถาปัตยกรรม และการอำนวยความสะดวกแก่การจราจร ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน แล้วดำเนินการต่อไปได้ ดังนี้ ๑.๑ ร่างกฎกระทรวงกำหนดบริเวณห้ามก่อสร้าง ดัดแปลง หรือเปลี่ยนการใช้อาคารบางชนิดหรือบางประเภท ในพื้นที่บางส่วนในท้องที่จังหวัดแพร่ พ.ศ. .... ๑.๒ ร่างกฎกระทรวงกำหนดบริเวณห้ามก่อสร้าง ดัดแปลง หรือเปลี่ยนการใช้อาคารบางชนิดหรือบางประเภท ในพื้นที่บางส่วนในท้องที่จังหวัดกำแพงเพชร พ.ศ. .... ๒. ให้กระทรวงมหาดไทยรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นว่า เมื่อร่างกฎกระทรวงฯ ประกาศใช้ กรมโยธาธิการและผังเมืองควรกำกับดูแลให้เจ้าพนักงานท้องถิ่นควบคุมการอนุญาตก่อสร้างอาคารพาณิชยกรรมประเภทค้าปลีกค้าส่งให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ของร่างกฎกระทรวงฯ ดังกล่าวอย่างเข้มงวด ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
17309 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (กระทรวงสาธารณสุข จำนวน 4 ราย) (นายพิสิฐ อินทรวงษ์โชติ) | สธ | 11/07/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงสาธารณสุข ให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ จำนวน ๔ ราย ตั้งแต่วันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ ดังนี้
๑. นายสุนทร ชินประสาทศักดิ์ ดำรงตำแหน่งนายแพทย์ทรงคุณวุฒิ (ด้านเวชกรรม สาขาอายุรกรรม) กลุ่มงานอายุรกรรม โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมา สำนักงานปลัดกระทรวง ตั้งแต่วันที่ ๑๐ มกราคม ๒๕๖๐ ๒. นายพิสิฐ อินทรวงษ์โชติ ดำรงตำแหน่งนายแพทย์ทรงคุณวุฒิ (ด้านเวชกรรม สาขาอายุรกรรม) กลุ่มงานอายุรกรรม โรงพยาบาลหนองคาย สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดหนองคาย สำนักงานปลัดกระทรวง ตั้งแต่วันที่ ๑๘ มกราคม ๒๕๖๐ ๓. นางกุลฤดี วงศ์เบญจรัตน์ ดำรงตำแหน่งนายแพทย์ทรงคุณวุฒิ (ด้านเวชกรรม สาขากุมารเวชกรรม) กลุ่มงานกุมารเวชกรรม โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมา สำนักงานปลัดกระทรวง ตั้งแต่วันที่ ๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๐ ๔. นายวินัย ลีสมิทธิ์ ดำรงตำแหน่งนายแพทย์ทรงคุณวุฒิ (ด้านเวชกรรมป้องกัน) กลุ่มงานเวชกรรมสังคม โรงพยาบาลกำแพงเพชร สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดกำแพงเพชร สำนักงานปลัดกระทรวง ตั้งแต่วันที่ ๑๓ มีนาคม ๒๕๖๐
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
17310 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (กระทรวงสาธารณสุข จำนวน 4 ราย) (นายสุนทร ชินประสาทศักดิ์) | สธ | 11/07/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงสาธารณสุข ให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ จำนวน ๔ ราย ตั้งแต่วันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ ดังนี้
๑. นายสุนทร ชินประสาทศักดิ์ ดำรงตำแหน่งนายแพทย์ทรงคุณวุฒิ (ด้านเวชกรรม สาขาอายุรกรรม) กลุ่มงานอายุรกรรม โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมา สำนักงานปลัดกระทรวง ตั้งแต่วันที่ ๑๐ มกราคม ๒๕๖๐ ๒. นายพิสิฐ อินทรวงษ์โชติ ดำรงตำแหน่งนายแพทย์ทรงคุณวุฒิ (ด้านเวชกรรม สาขาอายุรกรรม) กลุ่มงานอายุรกรรม โรงพยาบาลหนองคาย สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดหนองคาย สำนักงานปลัดกระทรวง ตั้งแต่วันที่ ๑๘ มกราคม ๒๕๖๐ ๓. นางกุลฤดี วงศ์เบญจรัตน์ ดำรงตำแหน่งนายแพทย์ทรงคุณวุฒิ (ด้านเวชกรรม สาขากุมารเวชกรรม) กลุ่มงานกุมารเวชกรรม โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมา สำนักงานปลัดกระทรวง ตั้งแต่วันที่ ๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๐ ๔. นายวินัย ลีสมิทธิ์ ดำรงตำแหน่งนายแพทย์ทรงคุณวุฒิ (ด้านเวชกรรมป้องกัน) กลุ่มงานเวชกรรมสังคม โรงพยาบาลกำแพงเพชร สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดกำแพงเพชร สำนักงานปลัดกระทรวง ตั้งแต่วันที่ ๑๓ มีนาคม ๒๕๖๐
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
17311 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (กระทรวงสาธารณสุข จำนวน 4 ราย) (นางกุลฤดี วงศ์เบญจรัตน์) | สธ | 11/07/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงสาธารณสุข ให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ จำนวน ๔ ราย ตั้งแต่วันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ ดังนี้
๑. นายสุนทร ชินประสาทศักดิ์ ดำรงตำแหน่งนายแพทย์ทรงคุณวุฒิ (ด้านเวชกรรม สาขาอายุรกรรม) กลุ่มงานอายุรกรรม โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมา สำนักงานปลัดกระทรวง ตั้งแต่วันที่ ๑๐ มกราคม ๒๕๖๐ ๒. นายพิสิฐ อินทรวงษ์โชติ ดำรงตำแหน่งนายแพทย์ทรงคุณวุฒิ (ด้านเวชกรรม สาขาอายุรกรรม) กลุ่มงานอายุรกรรม โรงพยาบาลหนองคาย สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดหนองคาย สำนักงานปลัดกระทรวง ตั้งแต่วันที่ ๑๘ มกราคม ๒๕๖๐ ๓. นางกุลฤดี วงศ์เบญจรัตน์ ดำรงตำแหน่งนายแพทย์ทรงคุณวุฒิ (ด้านเวชกรรม สาขากุมารเวชกรรม) กลุ่มงานกุมารเวชกรรม โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมา สำนักงานปลัดกระทรวง ตั้งแต่วันที่ ๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๐ ๔. นายวินัย ลีสมิทธิ์ ดำรงตำแหน่งนายแพทย์ทรงคุณวุฒิ (ด้านเวชกรรมป้องกัน) กลุ่มงานเวชกรรมสังคม โรงพยาบาลกำแพงเพชร สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดกำแพงเพชร สำนักงานปลัดกระทรวง ตั้งแต่วันที่ ๑๓ มีนาคม ๒๕๖๐
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
17312 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตพื้นที่เพื่อการอนุญาตให้ตั้งสถานบริการ รวม 5 ฉบับ [ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตพื้นที่เพื่อการอนุญาตให้ตั้งสถานบริการในท้องที่จังหวัดอุบลราชธานี (ฉบับที่..) พ.ศ. ....] | มท | 11/07/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตพื้นที่เพื่อการอนุญาตให้ตั้งสถานบริการ รวม ๕ ฉบับ มีสาระสำคัญเพื่อกำหนดเขตพื้นที่ในการอนุญาตให้ตั้งสถานบริการ (Zoning) ในท้องที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จังหวัดเชียงราย จังหวัดตราด จังหวัดสุราษฎร์ธานี และจังหวัดอุบลราชธานี เพื่อให้มีความเหมาะสมกับสภาพพื้นที่และสถานการณ์บ้านเมืองในปัจจุบัน และเพื่อให้การควบคุมดูแลการรักษาความสงบเรียบร้อยของบ้านเมืองและประชาชนในท้องที่ตามที่กำหนดในร่างพระราชกฤษฎีกาดังกล่าวเป็นไปอย่างเรียบร้อยและมีประสิทธิภาพในการควบคุมดูแลมากยิ่งขึ้น ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ดังนี้ ๑.๑ ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตพื้นที่เพื่อการอนุญาตให้ตั้งสถานบริการในท้องที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา พ.ศ. .... ๑.๒ ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตพื้นที่เพื่อการอนุญาตให้ตั้งสถานบริการในท้องที่จังหวัดเชียงราย (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ๑.๓ ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตพื้นที่เพื่อการอนุญาตให้ตั้งสถานบริการในท้องที่จังหวัดตราด (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ๑.๔ ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตพื้นที่เพื่อการอนุญาตให้ตั้งสถานบริการในท้องที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ๑.๕ ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตพื้นที่เพื่อการอนุญาตให้ตั้งสถานบริการในท้องที่จังหวัดอุบลราชธานี (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ๒. ให้กระทรวงมหาดไทยรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเกี่ยวกับการตั้งสถานบริการอาจมีผลกระทบสร้างความเดือดร้อนรำคาญให้แก่ประชาชน เห็นควรกำกับดูแลให้เจ้าพนักงานของรัฐควบคุมการอนุญาตจัดตั้งสถานบริการเป็นไปตามเจตนารมณ์ของร่างพระราชกฤษฎีกาดังกล่าวอย่างเข้มงวด ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
17313 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดบริเวณห้ามก่อสร้าง ดัดแปลง หรือเปลี่ยนการใช้อาคารบางชนิดหรือบางประเภท รวม 3 ฉบับ (ร่างกฎกระทรวงกำหนดบริเวณห้ามก่อสร้าง ดัดแปลง หรือเปลี่ยนการใช้อาคารบางชนิดหรือบางประเภท ในพื้นที่บางส่วนในท้องที่จังหวัดระนอง พ.ศ. ....) | มท | 11/07/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดบริเวณห้ามก่อสร้าง ดัดแปลง หรือเปลี่ยนการใช้อาคารบางชนิดหรือบางประเภท รวม ๓ ฉบับ มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดบริเวณห้ามก่อสร้าง ดัดแปลง หรือเปลี่ยนการใช้อาคารบางชนิดหรือบางประเภท ในพื้นที่บางส่วนในท้องที่จังหวัดเพชรบูรณ์ จังหวัดระนอง และจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพื่อประโยชน์ในด้านการป้องกันอัคคีภัย การรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม การผังเมือง การสถาปัตยกรรม และการอำนวยความสะดวกแก่การจราจร ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน แล้วดำเนินการต่อไปได้ ดังนี้ ๑.๑ ร่างกฎกระทรวงกำหนดบริเวณห้ามก่อสร้าง ดัดแปลง หรือเปลี่ยนการใช้อาคารบางชนิดหรือบางประเภท ในพื้นที่บางส่วนในท้องที่จังหวัดเพชรบูรณ์ พ.ศ. .... ๑.๒ ร่างกฎกระทรวงกำหนดบริเวณห้ามก่อสร้าง ดัดแปลง หรือเปลี่ยนการใช้อาคารบางชนิดหรือบางประเภท ในพื้นที่บางส่วนในท้องที่จังหวัดระนอง พ.ศ. .... ๑.๓ ร่างกฎกระทรวงกำหนดบริเวณห้ามก่อสร้าง ดัดแปลง หรือเปลี่ยนการใช้อาคารบางชนิดหรือบางประเภท ในพื้นที่บางส่วนในท้องที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา พ.ศ. .... ๒. ให้กระทรวงมหาดไทยรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นว่า เมื่อร่างกฎกระทรวงฯ ทั้ง ๓ ฉบับ ประกาศใช้แล้ว กรมโยธาธิการและผังเมืองควรกำกับดูแลให้เจ้าพนักงานท้องถิ่นควบคุมการขออนุญาตและการก่อสร้างอาคารพาณิชยกรรมประเภทค้าปลีกค้าส่งให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ของร่างกฎกระทรวงฯ ดังกล่าวอย่างเข้มงวด ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
17314 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดบริเวณห้ามก่อสร้าง ดัดแปลง หรือเปลี่ยนการใช้อาคารบางชนิดหรือบางประเภท รวม 3 ฉบับ (ร่างกฎกระทรวงกำหนดบริเวณห้ามก่อสร้าง ดัดแปลง หรือเปลี่ยนการใช้อาคารบางชนิดหรือบางประเภท ในพื้นที่บางส่วนในท้องที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา พ.ศ. ....) | มท | 11/07/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดบริเวณห้ามก่อสร้าง ดัดแปลง หรือเปลี่ยนการใช้อาคารบางชนิดหรือบางประเภท รวม ๓ ฉบับ มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดบริเวณห้ามก่อสร้าง ดัดแปลง หรือเปลี่ยนการใช้อาคารบางชนิดหรือบางประเภท ในพื้นที่บางส่วนในท้องที่จังหวัดเพชรบูรณ์ จังหวัดระนอง และจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพื่อประโยชน์ในด้านการป้องกันอัคคีภัย การรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม การผังเมือง การสถาปัตยกรรม และการอำนวยความสะดวกแก่การจราจร ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน แล้วดำเนินการต่อไปได้ ดังนี้ ๑.๑ ร่างกฎกระทรวงกำหนดบริเวณห้ามก่อสร้าง ดัดแปลง หรือเปลี่ยนการใช้อาคารบางชนิดหรือบางประเภท ในพื้นที่บางส่วนในท้องที่จังหวัดเพชรบูรณ์ พ.ศ. .... ๑.๒ ร่างกฎกระทรวงกำหนดบริเวณห้ามก่อสร้าง ดัดแปลง หรือเปลี่ยนการใช้อาคารบางชนิดหรือบางประเภท ในพื้นที่บางส่วนในท้องที่จังหวัดระนอง พ.ศ. .... ๑.๓ ร่างกฎกระทรวงกำหนดบริเวณห้ามก่อสร้าง ดัดแปลง หรือเปลี่ยนการใช้อาคารบางชนิดหรือบางประเภท ในพื้นที่บางส่วนในท้องที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา พ.ศ. .... ๒. ให้กระทรวงมหาดไทยรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นว่า เมื่อร่างกฎกระทรวงฯ ทั้ง ๓ ฉบับ ประกาศใช้แล้ว กรมโยธาธิการและผังเมืองควรกำกับดูแลให้เจ้าพนักงานท้องถิ่นควบคุมการขออนุญาตและการก่อสร้างอาคารพาณิชยกรรมประเภทค้าปลีกค้าส่งให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ของร่างกฎกระทรวงฯ ดังกล่าวอย่างเข้มงวด ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
17315 | ข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี | นร | 04/07/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
ในคราวประชุมคณะรัฐมนตรี นายกรัฐมนตรีมีข้อสั่งการ ดังนี้
๑. ด้านเศรษฐกิจ ๑.๑ ตามที่นายกรัฐมนตรีได้มีข้อสั่งการให้ทุกส่วนราชการที่มีความต้องการใช้ยางพารา เช่น กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงคมนาคม กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงกลาโหม กระทรวงสาธารณสุข สำรวจปริมาณความต้องการใช้ยางพาราสำหรับแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์หรือใช้เป็นส่วนผสมต่าง ๆ ภายในหน่วยงานให้ชัดเจน เพื่อจัดทำแผนสำหรับการเสนอขอรับจัดสรรงบประมาณในการจัดซื้อยางพารา ทั้งนี้ ให้เร่งดำเนินการโดยด่วน เพื่อส่งเสริมให้เกิดการใช้ยางพาราภายในประเทศให้มากยิ่งขึ้น นั้น ขอให้ทุกส่วนราชการเร่งรัดการดำเนินการตามข้อสั่งการดังกล่าวให้แล้วเสร็จโดยเร็วและมีการนำยางพาราไปใช้ได้จริงภายในปี ๒๕๖๐ ๑.๒ ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ร่วมกับกระทรวงการคลัง กระทรวงมหาดไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณากำหนดมาตรการจูงใจภาคเอกชนในการสนับสนุนการเพาะปลูกของเกษตรกรที่ไม่มีที่ดินทำกินเป็นของตนเอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกษตรกรที่ปลูกข้าวโพด เช่น การกำหนดสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่จะตอบแทนให้แก่ภาคเอกชน การกำหนดส่วนแบ่งรายได้ที่ได้จากผลผลิตในพื้นที่ระหว่างเกษตรกรและภาคเอกชน และนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป ๑.๓ ตามที่นายกรัฐมนตรีได้มีข้อสั่งการให้กระทรวงสาธารณสุขเร่งรัดดำเนินการส่งเสริมผลิตภัณฑ์สมุนไพรไทยในปัจจุบันให้มีการพัฒนาคุณภาพให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาดทั้งในและต่างประเทศให้มากยิ่งขึ้น และให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์พิจารณาดำเนินการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการเพาะปลูกพืชของเกษตรกรให้เหมาะสมกับสภาพพื้นที่ โดยส่งเสริมให้เกษตรกรเพาะปลูกพืชสมุนไพรให้มากยิ่งขึ้นเพื่อนำมาผลิตเป็นผลิตภัณฑ์ยาสมุนไพรต่อไป นั้น ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์และกระทรวงสาธารณสุขเร่งรัดการดำเนินการตามข้อสั่งการดังกล่าว โดยให้กระทรวงสาธารณสุขเร่งพัฒนาพืชสมุนไพรให้สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้อย่างมีประสิทธิภาพเพื่อให้เป็นที่ยอมรับและสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ผลิตภัณฑ์แปรรูปจากสมุนไพรไทย รวมทั้งให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์พิจารณาแนวทางการส่งเสริมและขยายพื้นที่เพาะปลูกพืชสมุนไพรไปยังจังหวัดต่าง ๆ เพิ่มมากขึ้นอย่างเหมาะสมด้วย ๑.๔ ให้กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ) เป็นหน่วยงานหลักร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กระทรวงสาธารณสุข (สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา) กระทรวงอุตสาหกรรม (สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม) เพื่อกำหนดมาตรการหรือแนวทางการแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับการขึ้นทะเบียนผลงานวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมทั้งระบบ โดยให้เร่งดำเนินการดังกล่าวให้แล้วเสร็จภายใน ๓ เดือน ทั้งนี้ ให้ทุกหน่วยงานให้ความร่วมมือเพื่อให้สามารถขับเคลื่อนการดำเนินการให้เกิดผลเป็นรูปธรรมได้อย่างรวดเร็วต่อไป ๒. ด้านการบริหารราชการแผ่นดินและอื่น ๆ ๒.๑ ตามที่นายกรัฐมนตรีได้มีข้อสั่งการให้สำนักงาน ก.พ.ร. กำกับติดตามการดำเนินการของส่วนราชการต่าง ๆ ให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติการอำนวยความสะดวกในการพิจารณาอนุญาตของทางราชการ พ.ศ. ๒๕๕๘ โดยเฉพาะในส่วนงานบริการประชาชนทั้งในด้านการลดขั้นตอนการดำเนินงาน ลดการใช้เอกสาร การลดการใช้ทรัพยากร รวมทั้งให้นำระบบเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้แทน ทั้งนี้ ให้กำหนดตัวชี้วัดที่สามารถแสดงผลการดำเนินการของส่วนราชการตามพระราชบัญญัติดังกล่าวที่ชัดเจน และรายงานให้คณะรัฐมนตรีทราบเป็นระยะด้วย นั้น ให้รองนายกรัฐมนตรี (พลอากาศเอก ประจิน จั่นตอง) แต่งตั้งคณะทำงานขึ้น ประกอบด้วยผู้แทนกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ผู้แทนสำนักงาน ก.พ.ร. ผู้แทนกระทรวงมหาดไทย และผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อทำหน้าที่เร่งรัดการปรับปรุงประสิทธิภาพของงานให้บริการประชาชนของหน่วยงานของรัฐทุกหน่วยให้มีการเชื่อมโยงฐานข้อมูลที่เกี่ยวข้องผ่านระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ เพื่อลดภาระของประชาชนในการที่ต้องนำสำเนาเอกสารมาติดต่อราชการ และพิจารณาแก้ไขกฎหมาย ระเบียบ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องเพื่อให้รองรับการติดต่อราชการผ่านระบบออนไลน์ ทั้งนี้ ให้นำเสนอแนวทางการดำเนินการที่เป็นรูปธรรมชัดเจนต่อนายกรัฐมนตรีภายใน ๓ เดือน ๒.๒ ตามที่นายกรัฐมนตรีได้มีข้อสั่งการมอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรี (พลอากาศเอก ประจิน จั่นตอง) ร่วมกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงมหาดไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาแนวทางจัดหาพื้นที่กักเก็บน้ำ ทำทางระบายน้ำ หรือพัฒนาแหล่งน้ำสำหรับใช้ประโยชนร่วมกันในพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศ โดยให้ประสานความร่วมมือในการดำเนินการดังกล่าวกับทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐบาล ภาคเอกชน และภาคประชาชน ทั้งนี้ ให้เตรียมการเพื่อให้เริ่มดำเนินการได้ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม ๒๕๖๐ เป็นต้นไป นั้น ขอให้รองนายกรัฐมนตรี (พลอากาศเอก ประจิน จั่นตอง) เร่งหารือกับกระทรวงมหาดไทยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและจัดทำแผนการดำเนินการเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวในรูปแบบของโครงการจิตอาสาในพื้นที่ทุกจังหวัดทั่วประเทศ เพื่อส่งเสริมให้เกิดความร่วมมือและเปิดโอกาสให้ประชาชนทุกภาคส่วนเข้ามามีส่วนร่วม แล้วให้เสนอแผนดังกล่าวต่อนายกรัฐมนตรีโดยด่วนต่อไป ๒.๓ ตามที่คณะรัฐมนตรีมีมติเมื่อวันที่ ๙ พฤษภาคม ๒๕๖๐ เห็นชอบ (ร่าง) แผนยุทธศาสตร์การคุ้มครองผู้บริโภคแห่งชาติ (ฉบับที่ ๑) (พ.ศ. ๒๕๖๐-๒๕๖๔) โดยให้สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคพัฒนาระบบฐานข้อมูลผู้ประกอบการที่ถูกร้องเรียนในแต่ละประเภทกิจการให้เชื่อมต่อไปยังหน่วยงานผู้ออกใบอนุญาตเพื่อนำข้อมูลไปใช้ประกอบการพิจารณาออกใบอนุญาตประกอบกิจการได้ รวมทั้งให้นำข้อมูลการออกใบอนุญาตมาใช้เป็นฐานข้อมูลในการติดตามการคุ้มครองผู้บริโภคต่อไปด้วย นั้น ให้รองนายกรัฐมนตรี (พลเรือเอก ณรงค์ พิพัฒนาศัย) ร่วมกับรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายออมสิน ชีวะพฤกษ์) กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคพิจารณาเร่งรัดการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีดังกล่าวให้เกิดผลเป็นรูปธรรมโดยเร็ว และให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติร่วมกับกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กระทรวงพาณิชย์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งรัดปราบปรามการประกอบธุรกิจค้าขายออนไลน์ที่ไม่ได้จดทะเบียนพาณิชย์ รวมทั้งการค้าขายสินค้าผิดกฎหมายผ่านช่องทางออนไลน์ด้วย และให้รายงานผลการดำเนินการเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวต่อนายกรัฐมนตรีโดยด่วนต่อไป ๒.๔ ตามที่นายกรัฐมนตรีได้มีข้อสั่งการให้กระทรวงศึกษาธิการร่วมกับกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารจัดทำ Application การสอนภาษาอังกฤษขั้นพื้นฐานในชีวิตประจำวันตามกลุ่มเป้าหมายต่าง ๆ และต่อมากระทรวงศึกษาธิการได้จัดทำ Application การเรียนรู้ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารระดับพื้นฐานสำหรับประชาชนทั่วไปเสร็จเรียบร้อยแล้วในชื่อ “Echo English” โดยเน้นการฝึกฝนทักษะฟัง พูด อ่าน เขียนจากสถานการณ์จำลองต่าง ๆ ในชีวิตประจำวัน โดยมีวัตถุประสงค์ให้ประชาชนสามารถใช้ประโยชน์ได้ทุกที่ทุกเวลา นั้น ให้ทุกส่วนราชการประชาสัมพันธ์ให้ข้าราชการ พนักงานราชการ เจ้าหน้าที่ในสังกัดติดตั้ง (download) และใช้ประโยชน์จาก Application ดังกล่าวอย่างจริงจังและต่อเนื่อง เพื่อพัฒนาทักษะการใช้ภาษาอังกฤษของบุคลากรทุกระดับให้เกิดผลเป็นรูปธรรมต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
17316 | สรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (วันจันทร์ที่ 3 กรกฎาคม 2560) | นร | 04/07/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ วันจันทร์ที่ ๓ กรกฎาคม ๒๕๖๐ และรับทราบข้อสังเกตของคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ โดยมอบหมายให้รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายสุวิทย์ เมษินทรีย์) รับข้อสังเกตดังกล่าวไปประสานงานกับคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการสภานิติบัญญัติแห่งชาติต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
17317 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดบริเวณห้ามก่อสร้าง ดัดแปลง หรือเปลี่ยนการใช้อาคารบางชนิดหรือบางประเภท รวม 2 ฉบับ (ร่างกฎกระทรวงกำหนดบริเวณห้ามก่อสร้าง ดัดแปลง หรือเปลี่ยนการใช้อาคารบางประเภทในพื้นที่บางส่วนในท้องที่จังหวัดอ่างทอง พ.ศ. ....) | มท | 04/07/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดบริเวณห้ามก่อสร้าง ดัดแปลง หรือเปลี่ยนการใช้อาคารบางชนิดหรือบางประเภท รวม ๒ ฉบับ มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดบริเวณห้ามก่อสร้าง ดัดแปลง หรือเปลี่ยนการใช้อาคารบางชนิดหรือบางประเภท ในพื้นที่บางส่วนในท้องที่จังหวัดสงขลา และจังหวัดอ่างทอง เพื่อประโยชน์ในด้านการป้องกันอัคคีภัย การรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม การผังเมือง การสถาปัตยกรรม และการอำนวยความสะดวกแก่การจราจร ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน แล้วดำเนินการต่อไปได้ ดังนี้ ๑.๑ ร่างกฎกระทรวงกำหนดบริเวณห้ามก่อสร้าง ดัดแปลง หรือเปลี่ยนการใช้อาคารบางชนิดหรือบางประเภท ในพื้นที่บางส่วนในท้องที่จังหวัดสงขลา พ.ศ. .... ๑.๒ ร่างกฎกระทรวงกำหนดบริเวณห้ามก่อสร้าง ดัดแปลง หรือเปลี่ยนการใช้อาคารบางชนิดหรือบางประเภท ในพื้นที่บางส่วนในท้องที่จังหวัดอ่างทอง พ.ศ. .... ๒. ให้กระทรวงมหาดไทยรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่ให้กรมโยธาธิการและผังเมืองควรกำกับดูแลให้เจ้าพนักงานท้องถิ่นควบคุมการขออนุญาตและการก่อสร้างอาคารพาณิชยกรรมประเภทค้าปลีกค้าส่งให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ของร่างกฎกระทรวงฯ อย่างเข้มงวด ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
17318 | มาตรการเพิ่อเตรียมการรองรับการตรากฎหมาย | นร | 04/07/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีเห็นว่าเพื่อให้การบังคับใช้กฎหมายต่าง ๆ เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและเกิดประโยชน์แก่ประชาชนอย่างแท้จริง จึงมีมติให้ทุกส่วนราชการดำเนินการ ดังนี้
๑. ให้ทุกส่วนราชการเผยแพร่ร่างกฎหมายเพื่อสร้างการรับรู้ให้แก่ประชาชนเป็นการล่วงหน้าอย่างทั่วถึงและต่อเนื่อง เพื่อให้ทราบสาระสำคัญของร่างกฎหมาย วันที่มีผลบังคับใช้/ห้วงระยะเวลาการบังคับใช้กฎหมาย และผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นจากกฎหมาย เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมของประชาชนก่อนกฎหมายมีผลใช้บังคับและป้องกันผลกระทบอันอาจเกิดขึ้นจากการไม่ทราบข่าวสารเกี่ยวกับกฎหมายดังกล่าว รวมทั้งให้ทุกส่วนราชการซึ่งเป็นหน่วยงานเจ้าของร่างกฎหมายเตรียมดำเนินการตรากฎหมายลำดับรองหรือกำหนดมาตรการต่าง ๆ เพื่อรองรับเมื่อกฎหมายแม่บทมีผลใช้บังคับและเพื่อให้กฎหมายนั้นสามารถนำไปใช้บังคับให้เกิดผลได้อย่างมีประสิทธิภาพต่อไป ๒. ในกรณีที่หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติโดยความเห็นชอบของคณะรักษาความสงบแห่งชาติอาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๔๔ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช ๒๕๕๗ ออกคำสั่งเพื่อแก้ไขปัญหาเร่งด่วนเพื่อประโยชน์ของรัฐในเรื่องใด ๆ ให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการแก้ไขปรับปรุงกฎหมาย ตรากฎหมายลำดับรอง หรือกำหนดมาตรการต่าง ๆ ตามแต่กรณี ให้แล้วเสร็จโดยเร็ว เพื่อรองรับการแก้ไขปัญหาดังกล่าวในระยะยาวแทนการใช้คำสั่งดังกล่าว
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
17319 | ความคืบหน้าการดำเนินงานด้านการปฏิรูปประเทศระหว่างวันที่ 27 มิถุนายน - 3 กรกฎาคม 2560 | นร | 04/07/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบความคืบหน้าการดำเนินงานด้านการปฏิรูปประเทศระหว่างวันที่ ๒๗ มิถุนายน-๓ กรกฎาคม ๒๕๖๐ ตามที่รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายสุวิทย์ เมษินทรีย์) ประธานกรรมการประสานงาน รวม ๓ ฝ่าย (คณะรัฐมนตรี สภานิติบัญญัติแห่งชาติ และสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ) เสนอ ดังนี้
๑. สรุปผลการประชุมสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ ครั้งที่ ๒๕/๒๕๖๐ เมื่อวันอังคารที่ ๒๗ มิถุนายน ๒๕๖๐ [รายงานของคณะกรรมาธิการขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศด้านเศรษฐกิจ เรื่อง การปฏิรูปการมีส่วนร่วมด้านการท่องเที่ยวทั้งระบบเพื่อความยั่งยืน (Inclusive Tourism) และรายงานของคณะกรรมาธิการขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศด้านการเมือง เรื่อง การปฏิรูปการปฏิบัติงานในรัฐสภา] ๒. สรุปผลการประชุมสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ ครั้งที่ ๒๖/๒๕๖๐ เมื่อวันจันทร์ที่ ๓ กรกฎาคม ๒๕๖๐ [รายงานของคณะกรรมาธิการขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศด้านการเมือง เรื่อง การปฏิรูปการปฏิบัติงานในรัฐสภา รายงานของคณะกรรมาธิการขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศด้านการสื่อสารมวลชน เรื่อง ผลการศึกษาและข้อเสนอแนะการปฏิรูปการใช้สื่อโซเชียลมีเดีย (Social Media) และรายงานของคณะกรรมาธิการขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศด้านสังคม เรื่อง ดิจิทัล เพื่อการเฝ้าระวังทางสังคมเสริมสร้างวินัยและความเข้มแข็งของชุมชนสังคม (Digital Community Watch Dog)] ๓. สรุปสถานะข้อเสนอประเด็นปฏิรูปตามแผนการปฏิรูปของสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (ข้อมูล ณ วันที่ ๓ กรกฎาคม ๒๕๖๐) รวม ๑๖๖ เรื่อง
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
17320 | ข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการฝ่ายตุลาการศาลยุติธรรม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... พิจารณาร่างพระราชบัญญัติหลักเกณฑ์การแต่งตั้งและการดำรงตำแหน่งผู้พิพากษาอาวุโส (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | สว | 04/07/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการฝ่ายตุลาการศาลยุติธรรม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... พิจารณาร่างพระราชบัญญัติหลักเกณฑ์การแต่งตั้งและการดำรงตำแหน่งผู้พิพากษาอาวุโส (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ซึ่งคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ มีข้อสังเกตเห็นสมควรแก้ไขเพิ่มเติมเหตุผลประกอบร่างพระราชบัญญัติหลักเกณฑ์การแต่งตั้งและการดำรงตำแหน่งผู้พิพากษาอาวุโส (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... รวมทั้งควรกำหนดให้ข้าราชการตุลาการซึ่งมีอายุครบ ๖๕ ปีบริบูรณ์ต้องเข้ารับการประเมินสมรรถภาพในการปฏิบัติหน้าที่ และการประเมินสมรรถภาพควรที่จะมีการประเมินทั้งทางร่างกายซึ่งนอกจากการตรวจร่างกายโดยทั่วไปแล้ว ควรมีการตรวจความสามารถด้านการฟังและสายตา และการตรวจประเมินด้านสุขภาพจิตโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง ตามที่สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาปฏิบัติหน้าที่สำนักงานเลขาธิการสภานิติบัญญัติแห่งชาติเสนอ ๒. ให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีนำเหตุผลของร่างพระราชบัญญัติหลักเกณฑ์การแต่งตั้งและการดำรงตำแหน่งผู้พิพากษาอาวุโส (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... เป็นเหตุผลของร่างพระราชบัญญัติในเรื่องนี้ในการประกาศในราชกิจจานุเบกษาต่อไป ๓. มอบหมายให้สำนักงานศาลยุติธรรมรับข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการฝ่ายตุลาการศาลยุติธรรม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... พิจารณาร่างพระราชบัญญัติหลักเกณฑ์การแต่งตั้งและการดำรงตำแหน่งผู้พิพากษาอาวุโส (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ไปพิจารณาศึกษาแนวทางและความเหมาะสมของข้อสังเกตดังกล่าว และสรุปผลการพิจารณาหรือผลการดำเนินการในภาพรวม แล้วส่งให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีภายใน ๓๐ วัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้งคำสั่งเพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป
|
.....