ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 591 จากทั้งหมด 6199 หน้า แสดงรายการที่ 11801 - 11820 จากข้อมูลทั้งหมด 123961 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
11801 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทาน เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน รวม 12 ฉบับ (ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทานอ่างเก็บน้ำห้วยสำนักไม้เต็ง เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน พ.ศ. ....) | กษ | 29/10/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทาน เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน รวม ๑๒ ฉบับ โดยเรียกเก็บจากผู้ใช้น้ำที่นำน้ำไปใช้เพื่อกิจการโรงงาน การประปา หรือกิจการอื่นที่มิใช่กิจการภาคการเกษตร เพื่อควบคุมดูแลปริมาณของน้ำ ตลอดจนเพื่อให้การใช้น้ำเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ดังนี้
๑. ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทานอ่างเก็บน้ำห้วยสำนักไม้เต็ง เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้ทางน้ำชลประทานอ่างเก็บน้ำห้วยสำนักไม้เต็ง ในท้องที่ตำบลน้ำพุ อำเภอเมืองราชบุรี ตำบลอ่างหิน ตำบลปากท่อ และตำบลรางบัว อำเภอจอมบึง จังหวัดราชบุรี เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน ๒. ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทานคลองท่าดี เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้ทางน้ำชลประทานคลองท่าดี จากศูนย์กลางประตูระบายน้ำฝายคลองท่าดี กิโลเมตรที่ ๐.๐๐๐ ในท้องที่ตำบลกำแพงเซา อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช จังหวัดนครศรีธรรมราช ไปทางเหนือน้ำ ถึง กิโลเมตรที่ ๒๒.๙๓๘ ในท้องที่ตำบลกำโลน อำเภอลานสกา และไปทางท้ายน้ำ กิโลเมตรที่ ๑๕.๓๘๕ ในท้องที่ตำบลมะม่วงสอนต้น อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช จังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน ๓. ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทานคลองซอย ๖ ซ้าย ของคลองส่งน้ำสายใหญ่ ๒ ซ้าย เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้ทางน้ำชลประทานคลองซอย ๖ ซ้าย ของคลองส่งน้ำสายใหญ่ ๒ ซ้าย จากกิโลเมตรที่ ๐.๐๐๐ ในท้องที่ตำบลบ่อสุพรรณ อำเภอสองพี่น้อง จังหวัดสุพรรณบุรี ถึง กิโลเมตรที่ ๑๕.๗๘๙ ในท้องที่ตำบลทุ่งคอก อำเภอสองพี่น้อง จังหวัดสุพรรณบุรี เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน ๔. ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทานแม่น้ำวัง เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้ทางน้ำชลประทานแม่น้ำวัง จากกิโลเมตรที่ ๐.๐๐๐ ในท้องที่ตำบลปงดอน อำเภอแจ้ห่ม จังหวัดลำปาง ถึง กิโลเมตรที่ ๓๖.๐๐๐ ลงมาตามแม่น้ำวัง ตำบลบ้านสา อำเภอแจ้ห่ม จังหวัดลำปาง จังหวัดลำปาง เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน ๕. ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทานอ่างเก็บน้ำคลองพระสะทึง เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้ทางน้ำชลประทานอ่างเก็บน้ำคลองพระสะทึง ในท้องที่ตำบลวังใหม่และตำบลวังทอง อำเภอวังสมบูรณ์ จังหวัดสระแก้ว เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน ๖. ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทานคลองแยกซอย ๑ ซ้าย ของคลองซอย ๒ ซ้าย ของคลองส่งน้ำสายใหญ่ ๓ เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้ทางน้ำชลประทานคลองแยกซอย ๑ ซ้าย ของคลองซอย ๒ ซ้าย ของคลองส่งน้ำสายใหญ่ ๓ จากกิโลเมตรที่ ๕.๐๐๐ ในท้องที่ตำบลหนองพลับ อำเภอเมืองเพชรบุรี จังหวัดเพชรบุรี เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน ๗. ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทานคลองหลวง เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้ทางน้ำชลประทานคลองหลวง จากกิโลเมตรที่ ๐.๐๐๐ ในท้องที่ตำบลเกาะจันทร์ อำเภอเกาะจันทร์ จังหวัดชลบุรี ถึง กิโลเมตรที่ ๔๐.๐๐๐ ในท้องที่ตำบลวัดหลวง อำเภอพนัสนิคม จังหวัดลพบุรี เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน ๘. ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทานคลองม่วง เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้ทางน้ำชลประทานคลองม่วง จากกิโลเมตรที่ ๐.๐๐๐ แยกตรง กิโลเมตรที่ ๓.๑๕๐ ของคลองหลวง ในท้องที่ตำบลเกาะจันทร์ อำเภอเกาะจันทร์ จังหวัดชลบุรี ถึง กิโลเมตรที่ ๒๘.๑๕๐ ในท้องที่ตำบลบ้านช้าง อำเภอพนัสนิคม จังหวัดชลบุรี เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน ๙. ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทานอ่างเก็บน้ำแควน้อยบำรุงแดน เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้ทางน้ำชลประทานอ่างเก็บน้ำแควน้อยบำรุงแดน ในท้องที่ตำบลคันโช้ง และตำบลบ้นายาง อำเภอวัดโบสถ์ และตำบลบ้านกลาง อำเภอวังทอง จังหวัดพิษณุโลก เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน ๑๐. ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทานคลองผันน้ำ เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้ทางน้ำชลประทานคลองผันน้ำ จากกิโลเมตรที่ ๐.๐๐๐ ในท้องที่ตำบลผาจุก อำเภอเมืองอุตรดิตถ์ จังหวัดอุตรดิตถ์ ถึง กิโลเมตรที่ ๐.๙๑๘ ในท้องที่ตำบลผาจุก อำเภอเมืองอุตรดิตถ์ จังหวัดอุตรดิตถ์ เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน ๑๑. ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทานคลองส่งน้ำสายใหญ่ ๑ ขวา เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้ทางน้ำชลประทานคลองส่งน้ำสายใหญ่ ๑ ขวา จากกิโลเมตรที่ ๐.๒๐๐ ในท้องที่ตำบลเขาน้อย อำเภอท่าม่วง จังหวัดกาญจนบุรี ถึง กิโลเมตรที่ ๗๐.๐๐๐ ในท้องที่ตำบลดอนแร่ อำเภอเมืองราชบุรี จังหวัดราชบุรี เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน ๑๒. ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทานคลองส่งน้ำสายใหญ่ ๒ ขวา เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้ทางน้ำชลประทานคลองส่งน้ำสายใหญ่ ๒ ขวา จากกิโลเมตรที่ ๐.๐๐๐ ในท้องที่ตำบลม่วงชุม อำเภอท่าม่วง จังหวัดกาญจนบุรี ถึง กิโลเมตรที่ ๖๗.๗๗๒ ในท้องที่ตำบลหนองกลางนา อำเภอเมืองราชบุรี จังหวัดราชบุรี เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
11802 | ผลการประชุมคณะกรรมการร่วมทางการค้า (JTC) ไทย - ภูฏาน ครั้งที่ 3 | พณ | 29/10/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบผลการประชุมคณะกรรมการร่วมทางการค้า (Joint Trade Committee : JTC) ไทย-ภูฏาน ครั้งที่ ๓ ระหว่างวันที่ ๒๖-๒๗ กันยายน ๒๕๖๒ ณ กรุงทิมพู ราชอาณาจักรภูฏาน โดยมีรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ (นายวีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล) และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเศรษฐการของภูฏาน (นายล็อกนัท ชาร์มา) เป็นประธานร่วมการประชุมฯ โดยสาระสำคัญของการประชุมฯ ภาพรวมความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจ การค้าระหว่างไทยและภูฏานมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง จาก ๔ ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี ๒๕๕๗ เป็น ๓๙.๗๕ ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี ๒๕๖๑ เพิ่มขึ้นร้อยละ ๘.๗๗ โดยผู้นำทั้งสองฝ่ายได้ตั้งเป้าหมายการค้าระหว่างกันไว้ที่ ๕๐ ล้านดอลลาร์สหรัฐ ภายในปี ๒๕๖๔ และไทยยินดีสนับสนุนภูฏานในด้านต่าง ๆ ได้แก่ (๑) การส่งเสริมการค้าและการลงทุน โดยไทยยินดีให้การสนับสนุนภูฏานในการส่งเสริมการส่งออกสินค้ามายังไทย ซึ่งภูฏานสามารถใช้สิทธิพิเศษทางภาษีภายใต้โครงการการให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีแก่ประเทศพัฒนาน้อยที่สุด (Duty Free Quota Free : DFQF) ซึ่งครอบคลุมทั้งสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมกว่า ๖,๙๙๘ รายการ (๒) ความร่วมมือทางเศรษฐกิจ ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องที่กระชับความร่วมมือด้านการท่องเที่ยว การแจ้งกฎระเบียบกานำเข้าสินค้าเกษตรของภูฏานมายังไทย และการสนับสนุนด้านหัตถกรรมแก่ภูฏาน โดยศูนย์ส่งเสริมศิลปชีพระหว่างประเทศ (องค์การมหาชน) ของไทย กับกรมอุตสาหกรรมครัวเรือนของภูฏาน และ (๓) ประเด็นอื่น ๆ โดยไทยยินดีสนับสนุนความช่วยเหลือทางวิชาการแก่ภูฏานในการนำเทคโนโลยีสารสนเทศมาพัฒนาระบบต่าง ๆ เช่น การขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (Geographical Indication : GI) เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้า การประชาสัมพันธ์กฎระเบียบด้านการลงทุนและโครงการส่งเสริมการลงทุนจากต่างประเทศของภูฏานให้กับนักลงทุนไทยที่สนใจ เป็นต้น และมอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามผลการประชุมฯ เพื่อให้ความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างไทยกับภูฏานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ ๒. ให้กระทรวงพาณิชย์และสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) รับความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรให้ สสว. กำหนดนโยบายและประสานการขับเคลื่อนการพัฒนาความร่วมมือด้านการส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลาง ขนาดย่อมและรายย่อย (MSMEs) ของไทย เข้ามามีส่วนร่วม เพื่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารการพัฒนาและเชื่อมโยงเครือข่ายธุรกิจ และเห็นควรให้กระทรวงพาณิชย์กำหนดหน่วยงานหลักรับผิดชอบในแต่ละประเด็นความร่วมมือ เพื่อให้เกิดความชัดเจนในการทำงานร่วมกัน รวมทั้งควรมีการติดตามความคืบหน้าและปัญหาอุปสรรคการดำเนินงาน และรายงานคณะรัฐมนตรีรับทราบอย่างต่อเนื่องเป็นระยะ ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
11803 | รายงานผลการประเมินองค์การมหาชนและผู้อำนวยการองค์การมหาชน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2561 | นร12 | 29/10/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่สำนักงาน ก.พ.ร. เสนอ
๑. รับทราบรายงานผลการประเมินองค์การมหาชนและผู้อำนวยการองค์การมหาชน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ สรุปได้ ดังนี้ ๑.๑ ผลการประเมินองค์กรในระดับคุณภาพ จำนวน ๔๖ แห่ง เช่น ศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศ (องค์การมหาชน) โรงพยาบาลบ้านแพ้ว (องค์การมหาชน) และคุรุสภา และระดับมาตรฐาน จำนวน ๘ แห่ง เช่น สถาบันบริหารจัดการธนาคารที่ดิน (องค์การมหาชน) สำนักงานพัฒนาพิงคนคร (องค์การมหาชน) และสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา ไม่มีองค์การมหาชนใดได้รับการประเมินอยู่ในระดับต้องปรับปรุง และไม่มีการประเมินองค์การมหาชน จำนวน ๑ แห่ง คือ สำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (องค์การมหาชน) เนื่องจากระบบการประเมินคุณภาพการศึกษายังไม่เป็นที่ยุติ จึงไม่สามารถประเมินผลงานที่เป็นภารกิจหลักได้ ๑.๒ ผลการประเมินผู้อำนวยการองค์การมหาชน มีผลการประเมินในระดับคุณภาพ จำนวน ๔๕ แห่ง เช่น สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) โรงพยาบาลบ้านแพ้ว (องค์การมหาชน) และสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ ระดับมาตรฐาน จำนวน ๓ แห่ง ได้แก่ สถาบันบริหารกองทุนพลังงาน (องค์การมหาชน) สถาบันรับรองคุรภาพสถานพยาบาล (องค์การมหาชน) และศูนย์คุณธรรม (องค์การมหาชน) ต้องปรับปรุง จำนวน ๒ แห่ง ได้แก่ สำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (องค์การมหาชน) และสถาบันวัคซีนแห่งชาติ (องค์การมหาชน) และไม่มีการประมิน จำนวน ๕ แห่ง เหตุผลส่วนใหญ่เนื่องจากการเปลี่ยนผ่านของผู้อำนวยการที่ได้รับการแต่งตั้งในช่วงใกล้สิ้นปีงประมาณ เช่น สำนักงานความร่วมมือพัฒนาเศรษฐกิจกับประเทศเพื่อนบ้าน (องค์การมหาชน) สถาบันบริหารจัดการธนาคารที่ดิน (องค์การมหาชน) และสถาบันส่งเสริมความปลอดภัยอาชีวอนามัยและสภาพแวดล้อมในการทำงาน (องค์การมหาชน) ๑.๓ ผลการประเมินตัวชี้วัดบังคับและตัวชี้วัดของสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ มีตัวชี้วัด ๕ ตัวชี้วัด โดยในภาพตัวชี้วัด (๑) ระดับความพึงพอใจและพัฒนาการให้บริการ (๒) ร้อยละของการเบิกจ่ายตามแผนการใช้จ่ายเงิน (๓) ระดับการพัฒนากำกับดูแลกิจการของคณะกรรมการองค์การมหาชน) (๔) ผลคะแนนการประเมินคุณธรรมและความโปร่งใสในการดำเนินงาน (ITA) ขององค์การมหาชนที่จัดตั้งตามพระราชบัญญัติองค์การมหาชน พ.ศ. ๒๕๔๒ และที่แก้ไขเพิ่มเติม มีค่าคะแนนตัวชี้วัด (๔ ตัวชี้วัด) มากกว่าองค์การมหาชนที่จัดตั้งตามพระราชบัญญัติเฉพาะ ๒. มอบหมายให้กระทรวงศึกษาธิการ (สำนักงานเลขาธิการคุรุสภาและสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา) ดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๘ พฤศจิกายน ๒๕๖๑ (เรื่อง ขอทบทวนมติคณะรัฐมนตรีเกี่ยวกับการบริหารองค์การมหาชน และขอจัดกลุ่มองค์การมหาชน) อย่างเคร่งครัด
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
11804 | คำชี้แจงในคดีหมายเลขดำที่ อ.228/2559 ระหว่าง บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) ผู้ฟ้องคดี กระทรวงการคลัง ผู้ถูกฟ้องคดี | นร05 | 29/10/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบคำชี้แจงพร้อมทั้งพยานหลักฐานเกี่ยวกับมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๘ มกราคม ๒๕๔๖ เรื่อง การจัดเก็บภาษีสรรพสามิตจากบริการ และมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๖ เรื่อง การจัดเก็บภาษีสรรพสามิตจากบริการโทรคมนาคมของกระทรวงการคลัง ที่จัดทำร่วมกับกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และให้ถือว่าคำชี้แจงดังกล่าวเป็นคำชี้แจงของคณะรัฐมนตรีที่จะยื่นต่อศาลปกครองสูงสุดในคดีหมายเลขดำที่ อ.๒๒๘/๒๕๕๙ ระหว่าง บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) ผู้ฟ้องคดี กระทรวงการคลัง ผู้ถูกฟ้องคดีต่อไป ๒. มอบอำนาจให้เลขาธิการคณะรัฐมนตรีจัดทำคำชี้แจงพร้อมแสดงพยานหลักฐานในนามคณะรัฐมนตรี เพื่อยื่นต่อศาลปกครองสูงสุด ในคดีหมายเลขดำที่ อ.๒๒๘/๒๕๕๙ และให้มีอำนาจทำคำชี้แจงเพิ่มเติม (ถ้ามี) รวมทั้งการให้ถ้อยคำต่อศาล ตลอดจนให้มีอำนาจมอบอำนาจช่วงให้นิติกรไปดำเนินการใด ๆ ด้วย ทั้งนี้ หากกรณีต้องทำคำชี้แจงเพิ่มเติมหรือต้องไปให้ถ้อยคำต่อศาล ให้ประสานกับสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อรวบรวมให้ได้มาซึ่งข้อเท็จจริงในการไปให้ถ้อยคำหรือยกร่างคำชี้แจงยื่นต่อศาลปกครองจนกว่าคดีจะถึงที่สุด
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
11805 | คณะกรรมการที่แต่งตั้งโดยมติคณะรัฐมนตรี (สำนักงานตำรวจแห่งชาติ) | ตช | 29/10/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งคณะกรรมการกำกับดูแลฝ่ายไทย สถาบันฝึกอบรมระหว่างประเทศว่าด้วยการดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมายขึ้นใหม่ โดยเปลี่ยนชื่อคณะกรรมการจากเดิม เป็น “คณะกรรมการกำกับดูแลฝ่ายไทย โครงการความร่วมมือฝึกอบรมระหว่างประเทศว่าด้วยการดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมาย” และเปลี่ยนชื่อตำแหน่งของคณะกรรมการ จำนวน ๒ ตำแหน่ง คือ “ผู้อำนวยการสำนักงานความร่วมมือเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศ” เป็น “อธิบดีกรมความร่วมมือระหว่างประเทศ” และ “ผู้อำนวยการบริหาร สถาบันฝึกอบรมระหว่างประเทศว่าด้วยการดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมาย” เป็น “ผู้อำนวยการบริหาร โครงการความร่วมมือฝึกอบรมระหว่างประเทศว่าด้วยการดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมาย” ตามที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
11806 | การรับรองร่างปฏิญญาความร่วมมือด้านการป่าไม้เพื่อความผาสุกและความเจริญมั่งคั่ง | ทส | 29/10/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. เห็นชอบตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ ดังนี้ ๑.๑ เห็นชอบร่างปฏิญญาความร่วมมือด้านการป่าไม้เพื่อความผาสุกและความเจริญมั่งคั่ง (Declaration on Forest Cooperation for Peace and Prosperity) มีสาระสำคัญเป็นการเน้นย้ำและให้คำมั่นระหว่างกันว่าจะร่วมมือกันในการดำเนินการด้านการป่าไม้ของอาเซียนและสาธารณรัฐเกาหลี เช่น (๑) เสริมสร้างความเข้มแข็งด้านการบริหารจัดการป่าไม้อย่างยั่งยืน (๒) สนับสนุนการป้องกันพิบัติภัยที่อาจจะเกิดขึ้นกับป่าไม้ และ (๓) สนับสนุนโครงการความร่วมมือด้านการป่าไม้สำหรับแนวชายแดนพื้นที่รอยต่อ เป็นต้น โดยร่างปฏิญญาฯ จะต้องได้รับการรับรองในการประชุม The ASEAN-Republic of Korea (ROK) High-Level Meeting on Forestry 2019 ในวันที่ ๓๑ ตุลาคม ๒๕๖๒ ณ กรุงโซล สาธารณรัฐเกาหลี ๑.๒ มอบหมายให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมหรือผู้แทนร่วมรับรองร่างปฏิญญาฯ ๒. หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างปฏิญญาฯ ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้ ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
11807 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (นางสาวกัญญารักษ์ ศรีทองรุ่ง) | นร11 | 29/10/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นางสาวกัญญารักษ์ ศรีทองรุ่ง ข้าราชการพลเรือนสามัญ ให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาด้านนโยบายและแผนงาน (นักวิเคราะห์นโยบายและแผนทรงคุณวุฒิ) สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สำนักนายกรัฐมนตรี ตั้งแต่วันที่ ๑๓ สิงหาคม ๒๕๖๒ ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
11808 | ขออนุมัติใช้งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายไปพลางก่อน ของสำนักงานสภาเกษตรกรแห่งชาติ ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 | กษ | 29/10/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติใช้งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายไปพลางก่อนของสำนักงานสภาเกษตรกรแห่งชาติ ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓ จำนวน ๑๘๐.๘๐๗ ล้านบาท [ช่วง ๖ เดือนแรก (ตุลาคม ๒๕๖๒-มีนาคม ๒๕๖๓)] ประกอบด้วย ค่าใช้จ่ายบุคลากร (เงินเดือนพนักงานและลูกจ้าง) และค่าใช้จ่ายดำเนินงาน ตามที่สำนักงานสภาเกษตรกรแห่งชาติเสนอ ๒. ในการดำเนินการตามภารกิจของสำนักงานสภาเกษตรกรแห่งชาติเกี่ยวกับการส่งเสริมและพัฒนาการเกษตร ให้สำนักงานสภาเกษตรกรแห่งชาติประสานการดำเนินการร่วมกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อขับเคลื่อนการดำเนินงานให้บรรลุตามเป้าหมายต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
11809 | กำหนดวันหยุดราชการเพื่มเป็นกรณีพิเศษ ในปี 2562 (30 ธันวาคม 2562) | นร05 | 29/10/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีเห็นว่า เพื่อให้มีวันหยุดราชการอย่างต่อเนื่องในช่วงเทศกาลปีใหม่ อันจะเป็นผลดีต่อการเดินทางกลับภูมิลำเนาและการท่องเที่ยวของประชาชน จึงมีมติ ดังนี้
๑. กำหนดให้วันจันทร์ที่ ๓๐ ธันวาคม ๒๕๖๒ เป็นวันหยุดราชการเพิ่มเป็นกรณีพิเศษอีก ๑ วัน ในปี ๒๕๖๒ ๒. ในกรณีที่หน่วยงานใดมีภารกิจในการให้บริการประชาชน หรือมีความจำเป็นหรือราชการสำคัญในวันหยุดดังกล่าวโดยได้กำหนดหรือนัดหมายไว้ก่อนแล้ว ซึ่งหากยกเลิกหรือเลื่อนไปจะเกิดความเสียหายหรือกระทบต่อการให้บริการประชาชน ให้หัวหน้าหน่วยงานนั้นพิจารณาดำเนินการตามที่เห็นสมควร โดยมิให้เกิดความเสียหายแก่ทางราชการและกระทบต่อการให้บริการประชาชน ๓. ในส่วนของรัฐวิสาหกิจ สถาบันการเงิน และภาคเอกชน ให้รัฐวิสาหกิจแต่ละแห่ง ธนาคารแห่งประเทศไทย และกระทรวงแรงงาน พิจารณาความเหมาะสมของการกำหนดเป็นวันหยุดให้สอดคล้องกับข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องในแต่ละกรณีต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
11810 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ (นายกัลยาณะ วิภัติภูมิประเทศ และ นายสุริยา จินดาวงษฺ์) | กต | 29/10/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงการต่างประเทศ ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน ๒ ราย ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไป เพื่อทดแทนผู้ที่เกษียณอายุราชการ ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเสนอ ดังนี้
๑. นายกัลยาณะ วิภัติภูมิประเทศ ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูต สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงออตตาวา ประเทศแคนาดา ๒. นายสุริยา จินดาวงษ์ ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูต สถานเอกอัครราชทูต ณ สิงคโปร์ สาธารณรัฐสิงคโปร์
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
11811 | การแต่งตั้งข้าราชการให้ดำรงตำแหน่งรองเลขาธิการ ก.พ. (นางศรีสมร กสิศิลป์) | นร10 | 29/10/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นางศรีสมร กสิศิลป์ ข้าราชการพลเรือนสามัญ ให้ดำรงตำแหน่งรองเลขาธิการ ก.พ. สำนักงาน ก.พ. สำนักนายกรัฐมนตรี ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไป เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่าง ตามที่สำนักงาน ก.พ. เสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
11812 | การแต่งตั้งข้าราชการดำรงตำแหน่งรองเลขาธิการ กปร. (นางสาวอุศนีย์ ธูปทอง) | กร | 29/10/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นางสาวอุศนีย์ ธูปทอง ข้าราชการพลเรือนสามัญ ให้ดำรงตำแหน่งรองเลขาธิการ กปร. สำนักงาน กปร. ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไป เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่าง ตามที่สำนักงาน กปร. เสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
11813 | แต่งตั้งกรรมการ (ผู้แทนกองทัพอากาศและผู้ทรงคุณวุฒิ) ในคณะกรรมการกำกับ สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (จำนวน 5 คน 1. นาวาอากาศเอก ศักรินทร์ ไชยวาน ฯลฯ) | คค | 29/10/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งกรรมการ (ผู้แทนกองทัพอากาศและผู้ทรงคุณวุฒิ) ในคณะกรรมการกำกับสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย จำนวน ๕ คน โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๒๙ ตุลาคม ๒๕๖๒) เป็นต้นไป ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ ดังนี้
๑. นาวาอากาศเอก ศักรินทร์ ไชยวาน ผู้แทนกองทัพอากาศ ๒. นางสาริณี อังศุสิงห์ ผู้ทรงคุณวุฒิด้านบริหารกิจการการบินพาณิชย์ ๓. นายชนินทร์ แก่นหิรัญ ผู้ทรงคุณวุฒิด้านกฎหมาย ๔. นางอินทิรา โภคปุณยารักษ์ ผู้ทรงคุณวุฒิด้านการเงินหรือการคลัง ๕. นางสาวเยาวนุช วิยาภรณ์ ผู้ทรงคุณวุฒิด้านบริหารจัดการ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
11814 | การแต่งตั้งกรรมการในคณะกรรมการการบินพลเรือน (จำนวน 7 คน 1. นายชัยศักดิ์ อังค์สุวรรณ ฯลฯ) | คค | 29/10/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติการแต่งตั้งกรรมการในคณะกรรมการการบินพลเรือน จำนวน ๗ คน แทนกรรมการเดิมที่ขอลาออกจากตำแหน่ง โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๒๙ ตุลาคม ๒๕๖๒) เป็นต้นไป ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ ดังนี้
๑. นายชัยศักดิ์ อังค์สุวรรณ ๒. นายกฤชเทพ สิมลี ๓. นายเกษมสิทธิ์ ปฐมศักดิ์ ๔. นางสาริณี อังศุสิงห์ ๕. นายชยธรรม์ พรหมศร ๖. นายปฐม เฉลยวาเรศ ๗. ผู้ช่วยศาสตราจารย์สัญลักข์ ปัญวัฒนลิขิต
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
11815 | การแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านการบริหารธุรกิจในคณะกรรมการองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก | ทส | 29/10/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายสมชาย หวังวัฒนาพาณิช เป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านการบริหารธุรกิจในคณะกรรมการองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก แทนผู้ที่ลาออก โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๒๙ ตุลาคม ๒๕๖๒) เป็นต้นไป ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
11816 | การแต่งตั้งกรรมการในคณะกรรมการมาตรฐานสินค้า (จำนวน 5 คน 1. นายอิทธิพล ช้างหลำ ฯลฯ) | พณ | 29/10/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งกรรมการในคณะกรรมการมาตรฐานสินค้า จำนวน ๕ คน แทนกรรมการเดิมที่ดำรงตำแหน่งครบวาระสองปี ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรี (๒๙ ตุลาคม ๒๕๖๒) เป็นต้นไป ดังนี้
๑. นายอิทธิพล ช้างหลำ ผู้ทรงคุณวุฒิด้านมาตรฐานสินค้า ๒. นายอภิชาติ วรรณวิจิตร ผู้ทรงคุณวุฒิด้านห้องปฏิบัติการ ๓. นางลัดดาวัลย์ กรรณนุช ผู้ทรงคุณวุฒิด้านพัฒนาผลิตภัณฑ์ข้าว ๔. นางภาณุมาศ สิทธิเวคิน ผู้ทรงคุณวุฒิด้านกฎหมาย ๕. นางสาวเกื้อกูล ปิยะจอมขวัญ ผู้ทรงคุณวุฒิด้านมันสำปะหลัง
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
11817 | การแต่งตั้งข้าราชการการเมือง (นายอนุชา บูรพชัยศรี) | ศธ | 29/10/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการแต่งตั้ง นายอนุชา บูรพชัยศรี ให้ดำรงตำแหน่งเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๒๙ ตุลาคม ๒๕๖๒) เป็นต้นไป ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
11818 | รายงานความคืบหน้าผลการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 3 และ 10 กันยายน 2562 | นร | 29/10/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบรายงานความคืบหน้าผลการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๓ และ ๑๐ กันยายน ๒๕๖๒ และการคาดการณ์พื้นที่เสี่ยงภัยแล้งและอุทกภัยภาคใต้ รวมทั้งเห็นชอบต่อมาตรการพื้นที่เสี่ยงภัยอุทกภัยแล้ง ปี ๒๕๖๒/๖๓ และพื้นที่เสี่ยงภาคใต้ ปี ๒๕๖๒ โดยให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับไปดำเนินการเพื่อลดผลกระทบความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้น ตามที่สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติเสนอ และให้สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของสำนักงบประมาณที่ให้นำมาตรการดังกล่าวไปประกอบการพิจารณาวางแผน เพื่อรองรับกับสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม และหากมีความจำเป็นที่จะต้องดำเนินการโครงการตามมาตรการดังกล่าว เห็นควรให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตรวจสอบภารกิจและความซ้ำซ้อนของแผนงาน โครงการและกิจกรรมต่าง ๆ จากแผนงาน โครงการ และมาตรการต่าง ๆ ที่เคยได้รับการอนุมัติจากคณะรัฐมนตรีหรือที่ได้รับการจัดสรรงบประมาณที่ผ่านมาให้ครบถ้วน โดยคำนึงถึงแผนการจัดสรรน้ำอย่างมีประสิทธิภาพ การจัดหาแหล่งน้ำสำรอง การขุดเจาะบ่อบาดาล รวมถึงการส่งเสริมให้เกษตรกรปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการเพาะปลูกให้เหมาะสมกับสภาพการณ์ และหากยังมีโครงการที่มีความจำเป็นต้องดำเนินการเพิ่มเติมภายหลังจากการตรวจสอบความซ้ำซ้อนแล้ว เห็นควรให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องขอเพิ่มงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓ หรือจัดทำแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ เพื่อเสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีตามขั้นตอนต่อไป ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย ทั้งนี้ ในการรายงานข้อมูลเกี่ยวกับการบริหารจัดการน้ำของสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติในครั้งต่อ ๆ ไป ให้สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อรายงานข้อมูลในภาพรวมในลักษณะของการจัดการข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) ด้วย ๒. ให้สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติร่วมกับกระทรวงมหาดไทย (กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องบูรณาการการทำงานร่วมกันในการบริหารจัดการน้ำให้เหมาะสมและเพียงพอในแต่ละพื้นที่ โดยไม่กระทบกับการจัดสรรน้ำเพื่อการอุปโภคและบริโภคเพื่อรองรับสถานการณ์ภัยแล้งและสถานการณ์อุทกภัยภาคใต้ รวมทั้งสามารถลดผลกระทบจากความเสียหายที่จะเกิดขึ้นกับประชาชนด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
11819 | ขอถอนร่างพระราชบัญญัติ จำนวน 4 ฉบับ ออกจากการพิจารณาของรัฐสภา [ร่างพระราชบัญญัติให้ใช้ประมวลกฎหมายยาเสพติด พ.ศ. .... ร่างประมวลกฎหมายยาเสพติด ร่างพระราชบัญญัติวิธีพิจารณาคดียาเสพติด (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... และร่างพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมานและการทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. ....] [ขอถอนร่างพระราชบัญญัติให้ใช้ประมวลกฎหมายยาเสพติด พ.ศ. .... ร่างประมวลกฎหมายยาเสพติด ร่างพระราชบัญญัติวิธีพิจารณาคดียาเสพติด (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ] | ยธ | 29/10/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. เห็นชอบให้ถอนร่างพระราชบัญญัติที่ร้องขอต่อรัฐสภาเพื่อให้พิจารณาร่างพระราชบัญญัติที่รัฐสภายังมิได้ให้ความเห็นชอบ ตามมาตรา ๑๔๗ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย จำนวน ๔ ฉบับ ออกจากการพิจารณาของรัฐสภา ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ และให้เร่งดำเนินการเพื่อเสนอร่างกฎหมายฉบับใหม่ตามขั้นตอนต่อไป ดังนี้ ๑.๑ ร่างพระราชบัญญัติให้ใช้ประมวลกฎหมายยาเสพติด พ.ศ. .... ๑.๒ ร่างประมวลกฎหมายยาเสพติด ๑.๓ ร่างพระราชบัญญัติวิธีพิจารณาคดียาเสพติด (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ๑.๔ ร่างพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมานและการทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. .... ๒. ให้กระทรวงยุติธรรมได้รับการยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๒ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในเรื่องนี้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
11820 | ขอต่อเวลาการดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (พันตำรวจเอก ไพสิฐ วงศ์เมือง) | ยธ | 29/10/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้ต่อเวลาการดำรงตำแหน่งของ พันตำรวจเอก ไพสิฐ วงศ์เมือง ข้าราชการพลเรือนสามัญ ตำแหน่งอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ต่อไปอีก ๑ ปี (ครั้งที่ ๑) ตั้งแต่วันที่ ๕ พฤศจิกายน ๒๕๖๒ ถึงวันที่ ๔ พฤศจิกายน ๒๕๖๓ ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมเสนอ
|
.....