ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 576 จากทั้งหมด 6199 หน้า แสดงรายการที่ 11501 - 11520 จากข้อมูลทั้งหมด 123977 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
11501 | คณะกรรมการที่แต่งตั้งโดยมติคณะรัฐมนตรี (สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ) | พศ | 11/12/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการปรับปรุงองค์ประกอบของคณะกรรมการอนุรักษ์และพัฒนาพุทธมณฑล ซึ่งคณะรัฐมนตรีได้มีมติแต่งตั้งเมื่อวันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๖๒ จำนวน ๒ คณะ ตามที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติเสนอ ดังนี้
๑. คณะกรรมการอำนวยการอนุรักษ์และพัฒนาพุทธมณฑล ฝ่ายสงฆ์ ๒. คณะกรรมการอำนวยการอนุรักษ์และพัฒนาพุทธมณฑล ฝ่ายฆราวาส
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
11502 | ร่างกฎกระทรวงยกเว้นค่าธรรมเนียมการใช้ยานยนตร์บนทางหลวงพิเศษหมายเลข 7 และทางหลวงพิเศษหมายเลข 9 ภายในระยะเวลาที่กำหนด (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | คค | 11/12/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบร่างกฎกระทรวงยกเว้นค่าธรรมเนียมการใช้ยานยนตร์บนทางหลวงพิเศษหมายเลข ๗ และทางหลวงพิเศษหมายเลข ๙ ภายในระยะเวลาที่กำหนด (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการยกเว้นค่าธรรมเนียมการใช้ยานยนตร์บนทางหลวงพิเศษหมายเลข ๗ และทางหลวงพิเศษหมายเลข ๙ ในช่วงเทศกาลปีใหม่ ตั้งแต่เวลา ๐๐.๐๑ นาฬิกา ของวันที่ ๒๗ ธันวาคม ๒๕๖๒ ถึงเวลา ๒๔.๐๐ นาฬิกา ของวันที่ ๓ มกราคม ๒๕๖๓ เพื่อแก้ไขปัญหาการจราจรบนทางหลวงพิเศษหมายเลข ๗ และทางหลวงพิเศษหมายเลข ๙ ในช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ. ๒๕๖๓ ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว และให้ดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงคมนาคมรับความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรให้กรมทางหลวงบูรณาการทำงานร่วมกับศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน เพื่อป้องกันและลดอัตราการเกิดอุบัติเหตุทางถนน ตามแผนบูรณาการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน ช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ. ๒๕๖๓ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
11503 | การจัดทำความตกลงระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ว่าด้วยการยกเว้นการตรวจลงตราสำหรับผู้ถือหนังสือเดินทางทูตและหนังสือเดินทางราชการ/พิเศษ | กต | 11/12/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. เห็นชอบตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ ดังนี้ ๑.๑ การจัดทำความตกลงระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (The Government of the United Arab Emirates : UAE) ว่าด้วยการยกเว้นการตรวจลงตราสำหรับผู้ถือหนังสือเดินทางทูตและหนังสือเดินทางราชการ/พิเศษ ซึ่งทั้งสองฝ่ายได้เห็นชอบร่างความตกลงฯ แล้ว โดยมีสาระสำคัญเกี่ยวกับการอนุญาตให้ผู้ถือหนังสือเดินทางทูตและหนังสือเดินทางราชการ (กรณีคนชาติไทย) และผู้ถือหนังสือเดินทางทูตและหนังสือเดินทางพิเศษ (กรณีคนชาติสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์) เดินทางเข้า ออก และแวะผ่านดินแดนของแต่ละฝ่าย โดยไม่ต้องมีการตรวจลงตราและค่าธรรมเนียม โดยให้พำนักอยู่ในดินแดนของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์หรือราชอาณาจักรไทยเป็นระยะเวลาไม่เกินกว่า ๙๐ วันนับจากวันที่เดินทางเข้ามาในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์หรือราชอาณาจักรไทย ๑.๒ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศหรือผู้แทนเป็นผู้ลงนามร่างความตกลงฯ ทั้งนี้ ในกรณีมอบหมายผู้แทนให้คณะรัฐมนตรีเห็นชอบให้กระทรวงการต่างประเทศจัดทำหนังสือมอบอำนาจเต็ม (Full Powers) ให้ผู้ลงนามดังกล่าว ๑.๓ ให้กระทรวงการต่างประเทศดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการมีผลใช้บังคับของความตกลงฯ ๒. หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างความตกลงฯ ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้ ให้กระทรวงการต่างประเทศดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวตามหลักเกณฑ์ของมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การจัดทำหนังสือสัญญาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรือองค์การระหว่างประเทศ) ด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
11504 | ร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการปฏิบัติงานที่เกี่ยวข้องกับงานโครงการหลวง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | สวพส. | 11/12/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการปฏิบัติงานที่เกี่ยวกับงานโครงการหลวง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการปฏิบัติงานที่เกี่ยวข้องกับงานโครงการหลวง พ.ศ. ๒๕๕๐ เพื่อปรับปรุงองค์ประกอบของคณะกรรมการประสานงานและสนับสนุนงานโครงการหลวง (กปส.) ให้สอดคล้องกับการปรับเปลี่ยนระบบการบริหารงานและการดำเนินงานของมูลนิธิโครงการหลวงและการบูรณาการงานร่วมกับหน่วยงานสนับสนุนต่าง ๆ ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
11505 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์และคุณสมบัติของผู้มีสิทธิได้รับการยกเว้นหรือลดค่าธรรมเนียมตามกฎหมายว่าด้วยแร่ พ.ศ. .... | อก | 11/12/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์และคุณสมบัติของผู้มีสิทธิได้รับการยกเว้นหรือลดค่าธรรมเนียมตามกฎหมายว่าด้วยแร่ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดยกเว้นหรือลดค่าธรรมเนียม หรือค่าธรรมเนียมการต่ออายุใบอนุญาตให้แก่ผู้ถือประทานบัตร ผู้รับใบอนุญาตแต่งแร่ หรือผู้รับใบอนุญาตประกอบโลหกรรม ที่ประกอบกิจการที่รับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมสูงกว่ามาตรฐานที่กฎหมายกำหนด และสถานประกอบกิจการที่ประสบเหตุภัยพิบัติตามธรรมชาติหรืออุบัติภัย ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. รับทราบรายงานเหตุผลที่ไม่อาจดำเนินการจัดทำกฎหมายลำดับรองได้ภายในกำหนดสองปีนับแต่พระราชบัญญัติแร่ พ.ศ. ๒๕๖๐ ใช้บังคับ เนื่องจากอนุบัญญัติที่ออกตามความในพระราชบัญญัติแร่ พ.ศ. ๒๕๖๐ มีจำนวนทั้งสิ้น ๘๔ ฉบับ และมีผลใช้บังคับแล้ว จำนวน ๖๘ ฉบับ ซึ่งอนุบัญญัติทั้ง ๖๘ ฉบับดังกล่าวเป็นเรื่องที่มีความจำเป็นเร่งด่วนต่อการบริหารจัดการแร่ การพิจารณาอนุมัติอนุญาต การควบคุมตรวจสอบ และกำกับดูแลการประกอบกิจการตามพระราชบัญญัติแร่ พ.ศ. ๒๕๖๐ ประกอบกับคณะกรรมการแร่มีอำนาจและหน้าที่หลักในการให้ความเห็นชอบในการอนุญาตหรือไม่อนุญาต การโอน การต่ออายุ การเพิกถอน และการกำหนดเงื่อนไขใด ๆ เกี่ยวกับอาชญาบัตรพิเศษและประทานบัตรสำหรับการทำเหมืองแร่ประเภทที่ ๒ และที่ ๓ ซึ่งในช่วงรอยต่อของการบังคับใช้พระราชบัญญัติแร่ พ.ศ. ๒๕๖๐ คำขอดังกล่าวค้างการพิจารณาจำนวนมาก ด้วยเหตุมีบทเฉพาะกาลตามมาตรา ๑๘๘ และมาตรา ๑๘๙ แห่งพระราชบัญญัติแร่ พ.ศ. ๒๕๖๐ ซึ่งกำหนดให้คำขอที่ได้ยื่นไว้ตามพระราชบัญญัติแร่ พ.ศ. ๒๕๑๐ ให้ถือเป็นคำขอตามพระราชบัญญัติแร่ พ.ศ. ๒๕๖๐ ดังนั้น ในวาระแรกที่มีการประชุมคณะกรรมการแร่จึงต้องเร่งพิจารณาให้ความเห็นชอบเกี่ยวกับการอนุญาตหรือไม่อนุญาตคำขออาชญาบัตรพิเศษหรือคำขอประทานบัตร การต่ออายุ รวมถึงการโอนประทานบัตรให้แล้วเสร็จ เนื่องจากเป็นภารกิจที่จำเป็นและเร่งด่วนเพื่อประโยชน์แห่งรัฐและเพื่อมิให้ผู้ประกอบการต้องได้รับความเสียหายจากการพิจารณาอนุญาตที่ล่าช้าของภาครัฐ ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
11506 | ขออนุมัติร่างบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือในโครงการภายใต้กองทุนพิเศษแม่โขง-ล้านช้าง ประจำปี 2561 ระหว่างกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย และร่างบันทึกความเข้าใจระหว่างกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และสถาบันความร่วมมือเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจลุ่มน้ำโขง | กษ | 11/12/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. เห็นชอบและอนุมัติตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ ดังนี้ ๑.๑ เห็นชอบร่างบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือในโครงการภายใต้กองทุนพิเศษแม่โขง-ล้านช้าง ประจำปี ๒๕๖๑ ระหว่างกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย [Memorandum of Understanding (MOU) on the Cooperation on Projects of the Mekong-Lancang Cooperation (MLC) Special Fund 2018] มีวัตถุประสงค์เพื่อกำหนดแนวทางในการบริหารจัดการงบประมาณของโครงการที่ได้รับการอนุมัติจากฝ่ายจีนให้เกิดประสิทธิภาพในการใช้กองทุนอย่างสูงสุด และอนุมัติให้ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์หรือผู้ที่ได้รับมอบหมายเป็นผู้ลงนามในร่างบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือในโครงการภายใต้กองทุนฯ ๑.๒ เห็นชอบร่างบันทึกความเข้าใจระหว่างกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และสถาบันความร่วมมือเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจลุ่มน้ำโขง [MOU between Ministry of Agriculture and Cooperative and Mekong Institute (MI)] มีวัตถุประสงค์เพื่อดำเนินความร่วมมือในการสนับสนุนเวทีการผลิตข้าว การพัฒนาเทคโนโลยี และศักยภาพองค์กรและบุคลากรที่เกี่ยวข้องในประเทศอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง และอนุมัติให้อธิบดีกรมการข้าว กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ หรือผู้ที่ได้รับมอบหมายเป็นผู้ลงนามในร่างบันทึกความเข้าใจระหว่างกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และสถาบันฯ ๒. หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือในโครงการภายใต้กองทุนฯ และร่างบันทึกความเข้าใจระหว่างกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และสถาบันฯ ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้ ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์สามารถดำเนินการได้โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวตามหลักเกณฑ์ของมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การจัดทำหนังสือสัญญาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรือองค์การระหว่างประเทศ) ด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
11507 | ขออนุมัติร่างบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือในโครงการภายใต้กองทุนพิเศษแม่โขง - ล้านช้าง ระหว่างสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ กับสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีน ประจำประเทศไทย | นร14 | 11/12/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. เห็นชอบและอนุมัติตามที่สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติเสนอ ดังนี้ ๑.๑ เห็นชอบร่างบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือในโครงการภายใต้กองทุนพิเศษแม่โขง-ล้านช้าง ระหว่างสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ กับสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีน ประจำประเทศไทย มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดแนวทางในการบริหารจัดการกองทุนพิเศษล้านช้าง-แม่โขง ในโครงการวิจัยร่วมเพื่อการบริหารจัดการน้ำข้ามพรมแดนด้านอุทกภัยและภัยแล้งในพื้นที่ลุ่มน้ำสาย-น้ำรวก ระหว่างประเทศไทยและสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา ที่สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติเป็นผู้เสนอโครงการฯ และสาธารณรัฐประชาชนจีนได้อนุมัติและจัดสรรงบประมาณเพื่อดำเนินโครงการฯ จำนวน ๒,๔๕๐,๐๐๐ หยวน โดยสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติได้มอบหมายให้มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวงเป็นผู้ดำเนินโครงการ ๑.๒ อนุมัติให้เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติหรือผู้ที่ได้รับมอบหมายเป็นผู้ลงนามในร่างบันทึกความเข้าใจฯ ๒. หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างบันทึกความเข้าใจฯ ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้ ให้สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ประเทศไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวตามหลักเกณฑ์ของมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การจัดทำหนังสือสัญญาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรือองค์การระหว่างประเทศ) ด้วย ๓. ให้สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติรับความเห็นของสำนักงบประมาณที่เห็นควรปฏิบัติตามขั้นตอนของกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องให้ถูกต้องครบถ้วนในทุกขั้นตอน รวมทั้งทำให้มีระบบการติดตามและประเมินผล และรายงานผลการดำเนินโครงการฯ ต่อคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติเพื่อทราบ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
11508 | การให้ความเห็นชอบร่างถ้อยแถลงการณ์ร่วม (Joint Statement) สำหรับการประชุมหารือโต๊ะกลมระดับรัฐมนตรีด้านการจัดการทรัพยากรน้ำ ครั้งที่ 1 ภายใต้กรอบความร่วมมือแม่โขง - ล้านช้าง | นร | 11/12/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. เห็นชอบและอนุมัติตามที่สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติเสนอ ดังนี้ ๑.๑ เห็นชอบร่างถ้อยแถลงการณ์ร่วม (Joint Statement) สำหรับการประชุมหารือโต๊ะกลมระดับรัฐมนตรีด้านการจัดการทรัพยากรน้ำ ครั้งที่ ๑ ภายใต้กรอบความร่วมมือแม่โขง-ล้านช้าง ซึ่งเป็นเอกสารผลลัพธ์ของการประชุมหารือโต๊ะกลมระดับรัฐมนตรีด้านการจัดการทรัพยากรน้ำ ครั้งที่ ๑ ภายใต้กรอบความร่วมมือแม่โขง-ล้านช้าง ที่จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ ๑๗-๑๘ ธันวาคม ๒๕๖๒ ณ กรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน มีสาระสำคัญเป็นการแสดงเจตนารมณ์ร่วมกันระดับนโยบายเพื่อสนับสนุนกรอบความร่วมมือแม่โขง-ล้านช้าง และได้แสดงถึงความคืบหน้าของความร่วมมือด้านการจัดการทรัพยากรน้ำและกำหนดแนวทางการพัฒนาความร่วมมือด้านทรัพยากรน้ำภายใต้ความร่วมมือระหว่างประเทศในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง ๑.๒ อนุมัติให้รองนายกรัฐมนตรี (พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ) หรือผู้ที่ได้รับมอบหมายเป็นผู้ลงนามในถ้อยแถลงการณ์ร่วมฯ ๒. หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างถ้อยแถลงการณ์ร่วมฯ ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้ ให้สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวตามหลักเกณฑ์ของมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การจัดทำหนังสือสัญญาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรือองค์การระหว่างประเทศ) ด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
11509 | ขอความเห็นชอบการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬานักเรียนในระดับนานาชาติและการประชุมที่เกี่ยวข้อง จำนวน 4 รายการ ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 | กก | 11/12/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬานักเรียนในระดับนานาชาติและการประชุมที่เกี่ยวข้อง จำนวน ๔ รายการ ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓ ประกอบด้วย (๑) การประชุมคณะกรรมการบริหารสหพันธ์กีฬาโรงเรียนแห่งเอเชีย (Asian School Sport Federation : ASSF) การประชุมคณะกรรมการด้านเทคนิคของ ASSF และ ASSF Forum ครั้งที่ ๘ ระหว่างวันที่ ๑๖-๒๐ ธันวาคม ๒๕๖๒ ณ เมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี (๒) การประชุมสมัชชาใหญ่ของสหพันธ์ฟุตบอลนักเรียนแห่งเอเชีย (Asian Schools Football Federation : ASFF) และการประชุมคณะกรรมการด้านเทคนิคของ ASFF ในเดือนมีนาคม ๒๕๖๓ ณ จังหวัดภูเก็ต (๓) การแข่งขันฟุตบอลนักเรียนอายุไม่เกิน ๑๘ ปี ชิงชนะเลิศแห่งเอเชีย ครั้งที่ ๔๘ ระหว่างวันที่ ๑-๙ เมษายน ๒๕๖๓ ณ จังหวัดสงขลา และ (๔) การแข่งขันฮอกกี้นักเรียนชิงชนะเลิศแห่งเอเชีย ครั้งที่ ๖ ในเดือนกรกฎาคม ๒๕๖๓ ณ จังหวัดปทุมธานี ในวงเงินงบประมาณ ๑๕,๐๐๐,๐๐๐ บาท โดยใช้งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓ ของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดยกรมพลศึกษา และประมาณการรายรับจากการเก็บค่าธรรมเนียมเข้าร่วมการแข่งขัน จำนวน ๔๖,๘๖๐ ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ ๑,๔๐๕,๘๐๐ บาท ตามที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเสนอ ๒. สำหรับค่าใช้จ่ายในการดำเนินการในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓ สำนักงบประมาณได้เสนอตั้งงบประมาณในขั้นร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓ รองรับการดำเนินการดังกล่าวไว้แล้ว หากไม่เพียงพอและมีความจำเป็นต้องดำเนินการ เห็นควรให้กรมพลศึกษาปรับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณตามระเบียบว่าด้วยการบริหารงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๒ เมื่อพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓ ประกาศใช้บังคับแล้ว ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
11510 | ขออนุมัติเปิดตลาดนำเข้านมผงขาดมันเนย ปี 2562 เพิ่มเติม | กษ | 11/12/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. เห็นชอบตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ ดังนี้ ๑.๑ เห็นชอบในการอนุมัติเปิดตลาดนำเข้านมผงขาดมันเนย ปี ๒๕๖๒ เพิ่มเติม ปริมาณ ๒,๙๙๓.๐๒ ตัน ในอัตราภาษีร้อยละ ๕ ตามมติคณะกรรมการโคนมและผลิตภัณฑ์นม ในการประชุมครั้งที่ ๒/๒๕๖๒ เมื่อวันที่ ๑๒ กันยายน ๒๕๖๒ และขอยกเว้นการจัดสรรโควตาตามสัดส่วนผู้ประกอบการ ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๙ พฤศจิกายน ๒๕๔๘ เรื่อง การบริหารจัดการนมทั้งระบบ เนื่องจากเป็นการพิจารณาจัดสรรให้แก่ผู้ประกอบการตามความจำเป็นและเดือดร้อนจากการขาดแคลนวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิต ๑.๒ มอบหมายให้คณะกรรมการโคนมและผลิตภัณฑ์นมเป็นผู้บริหารการจัดสรรโควตาในข้อ ๑.๑ ให้กับผู้ประกอบการตามความจำเป็นและเดือดร้อนจากการขาดแคลนวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิต โดยต้องนำเข้าให้แล้วเสร็จภายในวันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๖๒ และต้องไม่กระทบต่อมาตรการและปริมาณการรับซื้อน้ำนมโคจากเกษตรกร ๒. ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์และคณะกรรมการโคนมและผลิตภัณฑ์นมรับความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติและข้อสังเกตของกระทรวงสาธารณสุขที่เห็นควรให้ความสำคัญกับการรณรงค์ส่งเสริมการบริโภคนมพร้อมดื่มและผลิตภัณฑ์นมที่ใช้น้ำนมโคในประเทศอย่างต่อเนื่อง ควบคู่กับการพัฒนาศักยภาพทั้งด้านการผลิตและการตลาดให้กับผู้ประกอบการผลิตภัณฑ์นมโดยเฉพาะสหกรณ์ให้สามารถแข่งขันได้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้น้ำนมโคในประเทศในระยะยาว นอกจากนี้ นมผงขาดมันเนยเข้าข่ายเป็นอาหารตามพระราชบัญญัติอาหาร พ.ศ. ๒๕๒๒ ดังนั้น ผู้นำเข้าต้องขอรับใบอนุญาตนำเข้าอาหาร และควบคุมคุณภาพของผลิตภัณฑ์นมผงขาดมันเนยให้มีคุณภาพมาตรฐานสอดคล้องตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข (ฉบับที่ ๓๕๐) พ.ศ. ๒๕๕๖ เรื่อง นมโค เพื่อให้เกิดความปลอดภัยต่อผู้บริโภค ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
11511 | ร่างประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่อง ขยายระยะเวลาการใช้บังคับประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่อง กำหนดเขตพื้นที่และมาตรการคุ้มครองสิ่งแวดล้อม ในท้องที่ตำบลวัดเกต ตำบลหนองหอย อำเภอเมืองเชียงใหม่ ตำบลหนองผึ้ง ตำบลยางเนิ้ง และตำบลสารภี อำเภอสารภี จังหวัดเชียงใหม่ และในท้องที่ตำบลอุโมงค์ อำเภอเมืองลำพูน จังหวัดลำพูน พ.ศ. 2558 | ทส | 11/12/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติในหลักการร่างประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่อง ขยายระยะเวลาการใช้บังคับประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่อง กำหนดเขตพื้นที่และมาตรการคุ้มครองสิ่งแวดล้อม ในท้องที่ตำบลวัดเกต ตำบลหนองหอย อำเภอเมืองเชียงใหม่ ตำบลหนองผึ้ง ตำบลยางเนิ้ง และตำบลสารภี อำเภอสารภี จังหวัดเชียงใหม่ และในท้องที่ตำบลอุโมงค์ อำเภอเมืองลำพูน จังหวัดลำพูน พ.ศ. ๒๕๕๘ มีสาระสำคัญเป็นการขยายระยะเวลาการใช้บังคับประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่อง กำหนดเขตพื้นที่และมาตรการคุ้มครองสิ่งแวดล้อม ในท้องที่ตำบลวัดเกต ตำบลหนองหอย อำเภอเมืองเชียงใหม่ ตำบลหนองผึ้ง ตำบลยางเนิ้ง และตำบลสารภี อำเภอสารภี จังหวัดเชียงใหม่ และในท้องที่ตำบลอุโมงค์ อำเภอเมืองลำพูน จังหวัดลำพูน พ.ศ. ๒๕๕๘ ออกไปอีก ๒ ปี นับแต่วันที่ ๑๗ มีนาคม ๒๕๖๓ เป็นต้นไป ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
11512 | รายงานสรุปผลการพิจารณาต่อข้อเสนอแนะในการแก้ไขปรับปรุงกฎหมาย กฎ ระเบียบ หรือคำสั่ง [กรณีการออกหนังสือสำคัญสำหรับที่หลวง (น.ส.ล.) ทับที่อยู่อาศัยและที่ดินทำกินของประชาชน] | สม | 11/12/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานสรุปผลการพิจารณาต่อข้อเสนอแนะในการแก้ไขปรับปรุงกฎหมาย กฎ ระเบียบ หรือคำสั่ง [กรณีการออกหนังสือสำคัญสำหรับหลวง (น.ส.ล.) ทับที่อยู่อาศัยและที่ดินทำกินของประชาชน] ของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ซึ่งมีประเด็นสำคัญเกี่ยวกับการแก้ไขเพิ่มเติมกฎกระทรวงออกตามความในพระราชบัญญัติให้ใช้ประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ. ๒๔๗๙ และระเบียบกรมที่ดินว่าด้วยการออกหนังสือสำคัญสำหรับที่หลวง พ.ศ. ๒๕๑๗ ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และแจ้งให้คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติทราบต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
11513 | รายงานผลการพิจารณาต่อข้อเสนอแนะในการแก้ไข ปรับปรุงกฎหมาย กฎ ระเบียบ หรือคำสั่งใด ๆ เพื่อให้สอดคล้องกับหลักสิทธิมนุษยชน (เรื่อง สิทธิพลเมืองอันเกี่ยวเนื่องกับสิทธิสตรี กรณีขอให้ตรวจสอบการดำเนินการของเจ้าหน้าที่ของรัฐตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ พ.ศ. 2551 และพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการค้าประเวณี พ.ศ. 2539) | สม | 11/12/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการพิจารณาต่อข้อเสนอแนะในการแก้ไข ปรับปรุงกฎหมาย กฎ ระเบียบ หรือคำสั่งใด ๆ เพื่อให้สอดคล้องกับหลักสิทธิมนุษยชน (เรื่อง สิทธิพลเมืองอันเกี่ยวเนื่องกับสิทธิสตรี กรณ๊ขอให้ตรวจสอบการดำเนินการของเจ้าหน้าที่ของรัฐตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ พ.ศ. ๒๕๕๑ และพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการค้าประเวณี พ.ศ. ๒๕๓๙) ของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ซึ่งกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ได้ประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงยุติธรรม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และกรมสอบสวนคดีพิเศษ เมื่อวันที่ ๓ กันยายน ๒๕๖๒ แล้ว ตามที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เสนอ และแจ้งให้คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติทราบต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
11514 | ร่างกฎกระทรวงที่ออกตามพระราชบัญญัติการทะเบียนราษฎร (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2562 จำนวน 4 ฉบับ | มท | 11/12/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงที่ออกตามพระราชบัญญัติการทะเบียนราษฎร (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๖๒ จำนวน ๔ ฉบับ ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้ ดังนี้
๑. ร่างกฎกระทรวงกำหนดค่าธรรมเนียมและยกเว้นค่าธรรมเนียมเกี่ยวกับการทะเบียนราษฎร พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการปรับปรุงค่าธรรมเนียมและยกเว้นค่าธรรมเนียมเกี่ยวกับการทะเบียนราษฎร ๒. ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้คนซึ่งไม่มีสัญชาติไทยต้องปฏิบัติเกี่ยวกับการทะเบียนราษฎร พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการปรับปรุงการกำหนดให้คนซึ่งไม่มีสัญชาติไทยปฏิบัติเกี่ยวกับการทะเบียนราษฎร ๓. ร่างกฎกระทรวงกำหนดค่าธรรมเนียมและยกเว้นค่าธรรมเนียมการแจ้งหรือขอเมื่อพ้นกำหนดเวลา พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดค่าธรรมเนียมและยกเว้นค่าธรรมเนียมการแจ้งหรือขอดำเนินการเกี่ยวกับการทะเบียนราษฎรเมื่อพ้นกำหนดเวลาตามกฎหมาย ๔. ร่างกฎกระทรวงกำหนดอาคารที่สร้างขึ้นเพื่อประโยชน์อย่างอื่นอันมิใช่เพื่อเป็นที่อยู่อาศัย พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดอาคารที่สร้างขึ้นเพื่อประโยชน์อย่างอื่นอันมิใช่เพื่อเป็นที่อยู่อาศัยที่ต้องกำหนดเลขประจำอาคารและจัดทำทะเบียนอาคาร
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
11515 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดลักษณะของเครื่องหมาย การใช้เครื่องหมาย และการแสดงเครื่องหมายรับรองมาตรฐานสำหรับสินค้าเกษตร พ.ศ. .... | กษ | 11/12/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดลักษณะของเครื่องหมาย การใช้เครื่องหมาย และการแสดงเครื่องหมายรับรองมาตรฐานสำหรับสินค้าเกษตร พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการปรับปรุงลักษณะของเครื่องหมาย การใช้เครื่องหมาย และการแสดงเครื่องหมายรับรองมาตรฐานสำหรับสินค้าเกษตร โดยกำหนดเครื่องหมายรับรองมาตรฐานเพื่อการรับรองเฉพาะด้าน (Organic Thailand) เพื่อให้สอดคล้องกับการแสดงเครื่องหมายรับรองมาตรฐานตามมาตรฐานสากล ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้รับความเห็นของกระทรวงอุตสาหกรรมที่เห็นควรเพิ่มเติมข้อความ “ให้ยกเลิกกฎกระทรวงกำหนดลักษณะของเครื่องหมาย การใช้เครื่องหมาย และการแสดงเครื่องหมายรับรองมาตรฐานกับสินค้าเกษตร พ.ศ. ๒๕๕๓” ในร่างกฎกระทรวงนี้ เพื่อเป็นการป้องกันความคลาดเคลื่อนและสับสนแก่ผู้ที่เกี่ยวข้องที่ถือปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการกำหนดลักษณะของเครื่องหมาย การใช้เครื่องหมาย และการแสดงเครื่องหมายรับรองมาตรฐานสำหรับสินค้าเกษตร ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์รับความเห็นของกระทรวงพาณิชย์ สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรประชาสัมพันธ์และสร้างความรู้ความเข้าใจในเรื่องลักษณะของเครื่องหมาย การใช้เครื่องหมายและการแสดงเครื่องหมายรับรองมาตรฐานสำหรับสินค้าเกษตร เพื่อให้เกษตรกรและผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้องสามารถนำไปใช้ได้อย่างถูกต้อง ควรกำชับผู้ได้รับใบรับรองมาตรฐานพึงระมัดระวังในการนำเครื่องหมายรับรองที่มีแถบสีธงชาติไปแสดงหรือใช้ตามร่างกฎกระทรวงนี้ไม่ให้มีลักษณะเป็นการเหยียดหยามต่อธงชาติประเทศไทยหรือชาติไทย และเป็นการกระทำไปโดยสมควร เพื่อให้เป็นไปตามข้อ ๖ และข้อ ๑๕ ทวิ ของระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการใช้ การชัก หรือการแสดงธงชาติ และธงของต่างประเทศในราชอาณาจักร พ.ศ. ๒๕๒๙ และที่แก้ไขเพิ่มเติม และควรให้ความรู้ความเข้าใจในการขอรับใบรับรองมาตรฐานสินค้าเกษตรแต่ละชนิด รวมถึงการใช้และการแสดงเครื่องหมายรับรองมาตรฐานสำหรับสินค้าเกษตรในแต่ละรูปแบบโดยเฉพาะสินค้าเกษตรอินทรีย์ เพื่อให้ผู้ผลิตสามารถขอรับรองมาตรฐานสินค้าเกษตรและนำเครื่องหมายรับรองมาตรฐานสำหรับสินค้าเกษตรไปใช้ได้อย่างถูกต้องและเหมาะสม และสอดคล้องกับนโยบายรัฐบาลที่ส่งเสริมให้มีการทำเกษตรอินทรีย์เพิ่มขึ้นในทุก ๆ ปี ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
11516 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดบริเวณห้ามก่อสร้าง ดัดแปลง หรือเปลี่ยนการใช้อาคารบางชนิดหรือบางประเภท ในพื้นที่บางส่วนในท้องที่ตำบลแม่นาเติง ตำบลเวียงเหนือ ตำบลเวียงใต้ ตำบลแม่ฮี้ และตำบลทุ่งยาว อำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน พ.ศ. .... | มท | 11/12/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงกำหนดบริเวณห้ามก่อสร้าง ดัดแปลง หรือเปลี่ยนการใช้อาคารบางชนิดหรือบางประเภท ในพื้นที่บางส่วนในท้องที่ตำบลแม่นาเติง ตำบลเวียงเหนือ ตำบลเวียงใต้ ตำบลแม่ฮี้ และตำบลทุ่งยาว อำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดบริเวณห้ามก่อสร้าง ดัดแปลง หรือเปลี่ยนการใช้อาคารบางชนิด หรือบางประเภท ในพื้นที่บางส่วนในท้องที่ตำบลแม่นาเติง ตำบลเวียงเหนือ ตำบลเวียงใต้ ตำบลแม่ฮี้ และตำบลทุ่งยาว อำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน เพื่อประโยชน์ในด้านการผังเมือง และการสถาปัตยกรรม ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
11517 | ผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานร่วมระหว่างไทย-เมียนมา (JCC) เพื่อการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษทวายและพื้นที่โครงการที่เกี่ยวข้อง ครั้งที่ 9 | นร11 | 11/12/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานร่วมระหว่างไทย-เมียนมา เพื่อการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษทวายและพื้นที่โครงการที่เกี่ยวข้อง (Joint Coordinating Committee for the Comprehensive Development of the Dawei Special Economic Zone and Its Related Projects Areas : JCC) ครั้งที่ ๙ ซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันที่ ๓ ตุลาคม ๒๕๖๒ ณ กรุงเนปยีดอ สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา โดยที่ประชุมฯ มีมติรับทราบ ๕ ประเด็นที่สำคัญ ได้แก่ (๑) ผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานร่วมระหว่างไทย-เมียนมา (JCC) ครั้งที่ ๘ (๒) ความคืบหน้าในการขับเคลื่อนโครงการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษทวายระยะแรก (๓) ความคืบหน้าโครงการถนนสองช่องทางเชื่อมพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษทวายสู่ชายแดนไทย-เมียนมา (๔) แผนการเริ่มพัฒนาโครงการเขตเศรษฐกิจพิเศษทวายระยะสมบูรณ์ควบคู่ไปกับโครงการทวายระยะแรกฯ และ (๕) แผนการจ่ายไฟฟ้าในเขตเศรษฐกิจพิเศษทวายของเมียนมา รวมถึงเห็นชอบให้ศึกษาบทบาทและโครงสร้างปัจจุบันของนิติบุคคลเฉพาะกิจ (Special Purpose Vehicle : SPV) นอกจากนี้ ที่ประชุมฯ เห็นชอบให้มีการจัดประชุมคณะกรรมการประสานงานร่วมระหว่างไทย-เมียนมา (JCC) ครั้งที่ ๑๐ ในปี ๒๕๖๓ ที่ประเทศไทย และหารือการจัดการประชุมคณะกรรมการร่วมระดับสูงระหว่างไทย-เมียนมา เพื่อการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษทวายและพื้นที่โครงการที่เกี่ยวข้อง ฝ่ายไทย (Myanmar-Thailand Joint High Level Committee for the Comprehensive Development in the Dawei SEZ and Its Related Project Areas : JHC) และมอบหมายให้สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติติดตามการขับเคลื่อนโครงการ และหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อเตรียมการจัดการประชุมคณะกรรมการประสานงานร่วมระหว่างไทย-เมียนมา (JCC) และการประชุมคณะกรรมการร่วมระดับสูง (JHC) ในโอกาสต่อไปตามที่สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอ ๒. ให้สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงการต่างประเทศที่เห็นควรเร่งผลักดันโครงการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษทวายและพื้นที่โครงการที่เกี่ยวข้องเกิดผลเป็นรูปธรรมโดยเร็ว รวมทั้งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรหารือกันเพื่อเตรียมการก่อนการประชุมคณะกรรมการร่วมระดับสูง (JHC) และคณะกรรมการประสานงานร่วมระหว่างไทย-เมียนมา (JCC) เพื่อการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษทวายและพื้นที่โครงการที่เกี่ยวข้องในอนาคต เพื่อกำหนดบทบาท ท่าที และนโยบายที่ชัดเจนของไทยต่อเรื่องดังกล่าวต่อไป โดยเฉพาะกรณีที่มีการเปลี่ยนแปลงรูปแบบความร่วมมือระหว่างเมียนมากับบริษัทอิตาเลียนไทย ดีเวล็อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) และการเข้ามามีส่วนร่วมที่ใกล้ชิดมากขึ้นของญี่ปุ่น ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
11518 | ผลการประกาศคำมั่นของไทยในการประชุมระดับสูงว่าด้วยความไร้รัฐ | กต | 11/12/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการประกาศคำมั่นของไทยในการประชุมระดับสูงว่าด้วยความไร้รัฐ (High-Level Segment on Statelessness) เมื่อวันที่ ๗ ตุลาคม ๒๕๖๒ ซึ่งเป็นวันแรกของการประชุมคณะกรรมการบริหาร (Executive Committee : ExCom) ของสำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (Office of the United Nations High Commissioner for Refugees : UNHCR) สมัยที่ ๗๐ ระหว่างวันที่ ๗-๑๑ ตุลาคม ๒๕๖๒ ณ นครเจนีวา สมาพันธรัฐสวิส ซึ่งเอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ ณ นครเจนีวา ในฐานะหัวหน้าคณะผู้แทนประเทศไทยในการประชุม ExCom สมัยที่ ๗๐ ได้ระบุคำมั่นของไทยในการประชุมระดับสูงว่าด้วยความไรรัฐ (ตามที่คณะรัฐมนตรีมีมติเมื่อวันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๖๒ เห็นชอบแล้ว) ในช่วงต้นของถ้อยแถลงในนามประเทศไทย เช่น (๑) การส่งเสริมการเข้าถึงการศึกษาของเด็กไร้รัฐไร้สัญชาติ (๒) การยกระดับการให้การคุ้มครองทางสังคมแก่คนไร้รัฐไร้สัญชาติ และ (๓) การปรับปรุงกฎระเบียบต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับการพิจารณาสัญชาติและสิทธิความเป็นพลเมือง เป็นต้น และประเทศต่าง ๆ ย้ำความสำคัญของปัญหาความไร้รัฐและความมุ่งมั่นที่จะขจัดความไร้รัฐให้หมดไป และคำมั่นเหล่านี้จะปรากฏในเอกสารผลลัพธ์ของการประชุมเวทีผู้ลี้ภัยโลก (Global Refugee Forum) ครั้งที่ ๑ ที่จะมีขึ้นระหว่างวันที่ ๑๗-๑๘ ธันวาคม ๒๕๖๒ ที่นครเจนีวาต่อไป ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
11519 | ร่างกฎกระทรวงที่ออกโดยอาศัยอำนาจตามพระราชบัญญัติภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง พ.ศ. 2562 จำนวน 4 ฉบับ | มท | 11/12/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงที่ออกโดยอาศัยอำนาจตามพระราชบัญญัติภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง พ.ศ. ๒๕๖๒ จำนวน ๔ ฉบับ ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้ ดังนี้
๑. ร่างกฎกระทรวงกำหนดค่าใช้จ่ายในการจัดเก็บภาษีแทนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทำความตกลงมอบหมายให้ส่วนราชการดำเนินการรับชำระภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างแทนได้ และกำหนดอัตราส่วนลดหรือค่าใช้จ่ายในการจัดเก็บภาษีที่ส่วนราชการรับชำระไว้แทน ๒. ร่างกฎกระทรวงกำหนดที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างที่ทิ้งไว้ว่างเปล่าหรือไม่ได้ทำประโยชน์ตามควรแก่สภาพ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์สำหรับที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างที่ทิ้งไว้ว่างเปล่าหรือไม่ได้ทำประโยชน์ตามควรแก่สภาพ ๓. ร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการประกาศราคาประเมินทุนทรัพย์ อัตราภาษี และรายละเอียดอื่นในการจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการประกาศราคาประเมินทุนทรัพย์ของที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง อัตราภาษีที่จัดเก็บ และรายละเอียดอื่นที่จำเป็นในการจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ๔. ร่างกฎกระทรวงการผ่อนชำระภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดจำนวนงวดและจำนวนเงินภาษีขั้นต่ำที่มีสิทธิผ่อนชำระภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง รวมทั้งหลักเกณฑ์และวิธีการในการผ่อนชำระภาษี
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
11520 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดบริเวณห้ามก่อสร้าง ดัดแปลง หรือเปลี่ยนการใช้อาคารบางชนิดหรือบางประเภท ในพื้นที่บางส่วนในท้องที่จังหวัดชุมพร พ.ศ. .... และร่างกฎกระทรวงกำหนดบริเวณห้ามก่อสร้าง ดัดแปลง หรือเปลี่ยนการใช้อาคารบางชนิดหรือบางประเภท ในพื้นที่บางส่วนในท้องที่จังหวัดปราจีนบุรี พ.ศ. .... รวม 2 ฉบับ (ร่างกฎกระทรวงกำหนดบริเวณห้ามก่อสร้าง ดัดแปลง หรือเปลี่ยนการใช้อาคารบางชนิดหรือบางประเภท ในพื้นที่บางส่วนในท้องที่จังหวัดชุมพร พ.ศ. ....) | มท | 11/12/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวง จำนวน ๒ ฉบับ ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้ ดังนี้
๑. ร่างกฎกระทรวงกำหนดบริเวณห้ามก่อสร้าง ดัดแปลง หรือเปลี่ยนการใช้อาคารบางชนิดหรือบางประเภท ในพื้นที่บางส่วนในท้องที่จังหวัดชุมพร พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดบริเวณห้ามก่อสร้าง ดัดแปลง หรือเปลี่ยนการใช้อาคารบางชนิดหรือบางประเภท ในพื้นที่บางส่วนในท้องที่จังหวัดชุมพร เพื่อประโยชน์ในด้านกาป้องกันอัคคีภัย การรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม การผังเอง การสถาปัตยกรรม และการอำนวยความสะดวกแก่การจราจร ๒. ร่างกฎกระทรวงกำหนดบริเวณห้ามก่อสร้าง ดัดแปลง หรือเปลี่ยนการใช้อาคารบางชนิดหรือบางประเภท ในพื้นที่บางส่วนในท้องที่จังหวัดปราจีนบุรี พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดบริเวณห้ามก่อสร้าง ดัดแปลง หรือเปลี่ยนการใช้อาคารบางชนิดหรือบางประเภท ในพื้นที่บางส่วนในท้องที่จังหวัดปราจีนบุรี เพื่อประโยชน์ในด้านกาป้องกันอัคคีภัย การรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม การผังเอง การสถาปัตยกรรม และการอำนวยความสะดวกแก่การจราจร
|
.....