ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 531 จากทั้งหมด 6199 หน้า แสดงรายการที่ 10601 - 10620 จากข้อมูลทั้งหมด 123961 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
10601 | ผลการสอบบัญชีสำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2562 และรายงานประจำปี 2562 ของสำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก | สกพอ | 12/05/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการสอบบัญชีสำหรับปีสิ้นสุดวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๖๒ และรายงานประจำปี ๒๕๖๒ ของสำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก ตามที่สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออกเสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. ผลการสอบบัญชีสำหรับปีสิ้นสุดวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๖๒ ประกอบด้วย งบแสดงฐานะการเงิน งบแสดงผลการดำเนินงานทางการเงิน และงบแสดงการเปลี่ยนแปลงสินทรัพย์สุทธิ/ส่วนทุน ๒. รายงานประจำปี ๒๕๖๒ ของสำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก โดยมีผลงานที่สำคัญ เช่น แผนภาพรวมเพื่อการพัฒนาเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (Eastern Economic Corridor : EEC) โครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญ (เป็นการร่วมลงทุนระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน) การประกาศเขตส่งเสริมเศรษฐกิจพิเศษ การชักจูงนักลงทุนและความร่วมมือกับหน่วยงานทั้งในและต่างประเทศ และการจัดทำแผนผังการพัฒนาเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก เป็นต้น
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
10602 | รายงานของผู้สอบบัญชีและรายงานการเงินสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2562 | ปช | 12/05/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานของผู้สอบบัญชีและรายงานการเงินของสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๖๒ ประกอบด้วย งบแสดงฐานะการเงิน และงบแสดงผลการดำเนินงานทางการเงิน ซึ่งสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินได้ตรวจสอบแล้วเห็นว่า ถูกต้องตามที่ควรในสาระสำคัญตามมาตรฐานการบัญชีภาครัฐและนโยบายการบัญชีภาครัฐที่กระทรวงการคลังกำหนด ตามที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
10603 | รายงานของผู้สอบบัญชีและรายงานการเงินสำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2562 | สผ | 12/05/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานของผู้สอบบัญชีและรายงานการเงิน ของสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๖๒ โดยรายงานฯ มีสาระสำคัญ เช่น งบแสดงฐานะการเงิน และงบแสดงผลการดำเนินงานทางการเงิน ซึ่งสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินได้ตรวจสอบงบการเงินดังกล่าวแล้วไม่สามารถแสดงความเห็นต่อรายงานการเงินดังกล่าวได้ เนื่องจากไม่สามารถหาหลักฐานการสอบบัญชีที่เหมาะสมอย่างเพียงพอ เช่น ครุภัณฑ์มีการกำหนดรหัสสินทรัพย์ในระบบ GFMIS และรหัสสินทรัพย์ตามทะเบียนคุมทรัพย์สินไม่สอดคล้องกัน จึงไม่สามารถอ้างอิงกันได้ และการแสดงข้อมูลที่ขัดต่อข้อเท็จจริงอันเป็นสาระสำคัญ เช่น ลูกหนี้เงินยืมในงบประมาณได้รวมรายการหักล้างลูกหนี้เงินยืมโดยไม่มีเอกสารประกอบการบันทึกบัญชีของงวดปี ๒๕๕๖-๒๕๖๐ จำนวน ๑๖ รายการ ซึ่งสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรอยู่ระหว่างพิจารณาดำเนินการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นและปรับปรุงแก้ไขบัญชีตามความเห็นของสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน ตามที่สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
10604 | รายงานผลการดำเนินการโครงการจิตอาสาพระราชทาน | นร01 | 12/05/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการดำเนินการโครงการจิตอาสาพระราชทาน ประจำเดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๖๓ ตามที่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. การฝึกอบรมหลักสูตรจิตอาสา ๙๐๔ “หลักสูตรพื้นฐาน” รุ่นที่ ๔/๖๓ หน่วยราชการในพระองค์ฯ ได้จัดการฝึกอบรมหลักสูตรฯ ระหว่างวันที่ ๑-๑๕ มีนาคม ๒๕๖๓ ณ โรงเรียนจิตอาสาพระราชทาน มีผู้เข้ารับการอบรมจากส่วนราชการต่าง ๆ รวมทั้งประชาชนจิตอาสาทั้งส่วนภูมิภาคและส่วนกลาง จำนวน ๕๐๐ คน ๒. งานแถลงข่าวโครงการฝึกอบรมการช่วยชีวิตขั้นพื้นฐานจิตอาสา CPR เฉลิมพระเกียรติ เนื่องในโอกาสมหามงคลพระราชพิธีบรมราชาภิเษก โดยกระทรวงมหาดไทยร่วมกับมูลนิธิรามาธิบดี ในพระราชูปถัมภ์ฯ และคณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี ดำเนินโครงการฝึกอบรมฯ โดยฝึกอบรมให้แก่ประชาชนในพื้นที่ให้เป็นผู้มีองค์ความรู้และทักษะที่ถูกต้องในการช่วยชีวิตขั้นพื้นฐาน และแจกจ่ายอุปกรณ์การสอนให้แก่ ๖ จังหวัดนำร่อง ได้แก่ จังหวัดแม่ฮ่องสอน สมุทรปราการ สุรินทร์ ชุมพร ปัตตานี และสงขลา จังหวัดละ ๓๐ ชุด ๓. ความคืบหน้าการจัดตั้งชุดปฏิบัติการจิตอาสาภัยพิบัติประจำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ปัจจุบัน อปท. ทุกแห่งได้มีการจัดตั้งชุดปฏิบัติการจิตอาสาภัยพิบัติฯ ครบเรียบร้อยแล้ว (ตามเป้าหมาย ๗,๕๕๐ แห่ง ๓๗๗,๕๐๐ คน) โดยมีผู้เข้ารับการอบรมและผ่านการอบรมแล้ว ๔,๓๒๒ คน ๔. การดำเนินการจัดกิจกรรม “จิตอาสาต้านภัยแล้ง การประสานความร่วมมือการแก้ปัญหาภัยแล้งอย่างยั่งยืน” ศูนย์อำนวยการใหญ่จิตอาสาพระราชทานร่วมกับกระทรวงกลาโหม กระทรวงมหาดไทย กรมกิจการพลเรือนทหารบก และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้จัดกิจกรรมจิตอาสาต้านภัยแล้งฯ โดยกำหนดดำเนินการในพื้นที่ ๒๒ จังหวัดที่ประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน (ภัยแล้ง) ๕. การดำเนินการขับเคลื่อน “โครงการอบรมเชิงปฏิบัติการให้ความรู้ในการป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) และการจัดทำหน้ากากอนามัยเพื่อการป้องกันตนเอง” และ “โครงการพลังคนไทยร่วมใจป้องกันไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)” โดยกระทรวงมหาดไทยร่วมกับกระทรวงสาธารณสุขดำเนินโครงการฯ โดยการสร้างทีมวิทยากรหรือทีมครู ก. เพื่อเผยแพร่วิธีการจัดทำหน้ากากอนามัยป้องกันโรคให้แก่ประชาชนเพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายในการซื้อหน้ากากอนามัย ๖. การจัดกิจกรรมโครงการจิตอาสา “เราทำความดี เพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์” กิจกรรมทำความสะอาด และปรับปรุงภูมิทัศน์พื้นที่บริเวณ ๒ ฝั่งคลองคูเมืองเดิม เมื่อวันที่ ๒๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๓ สำนักนโยบายและแผนกลาโหม กระทรวงกลาโหม ได้จัดกิจกรรมโครงการจิตอาสาฯ โดยมีกำลังพลจิตอาสาจากกระทรวงกลาโหม กระทรวงมหาดไทย และส่วนราชการต่าง ๆ รวมทั้งประชาชนจิตอาสาในพื้นที่เข้าร่วมกิจกรรม ๘๐๐ คน ๗. ข้อมูลจำนวนจิตอาสาและกิจกรรมจิตอาสา ณ วันที่ ๒๙ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๓ มีจิตอาสาลงทะเบียน ๖,๕๗๐,๘๐๑ คน โดยจัดกิจกรรมจิตอาสาพัฒนา ๔๓,๙๑๖ ครั้ง และจิตอาสาภัยพิบัติ ๓๒๓ ครั้ง
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
10605 | รายงานของผู้สอบบัญชีและรายงานการเงินของสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2562 | สว | 12/05/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานของผู้สอบบัญชีและรายงานการเงินของสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๖๒ ประกอบด้วย งบแสดงฐานะการเงิน และงบแสดงผลการดำเนินการทางการเงิน ซึ่งสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินได้ตรวจสอบแล้วเห็นว่า รายงานการเงินดังกล่าวถูกต้องตามที่ควรในสาระสำคัญตามมาตรฐานการบัญชีภาครัฐและนโยบายการบัญชีภาครัฐตามที่กระทรวงการคลังกำหนด ตามที่สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
10606 | ขอความเห็นชอบร่างบันทึกความเข้าใจระหว่างกระทรวงการต่างประเทศ การค้า และการพัฒนาแห่งประเทศแคนาดากับสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ | อว | 12/05/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. เห็นชอบตามที่กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมเสนอ ดังนี้ ๑.๑ เห็นชอบร่างบันทึกความเข้าใจระหว่างกระทรวงการต่างประเทศ การค้า และการพัฒนาแห่งประเทศแคนาดากับสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างกรอบความร่วมมือเกี่ยวกับการให้บริการและฝึกอบรมแบบในการพัฒนาหลักสูตรด้านความมั่นคงปลอดภัยทางนิวเคลียร์และรังสีที่ยั่งยืนและได้รับการรับรอง ซึ่งจะเสริมสร้างขีดความสามารถของประเทศไทยในการป้องกันตนเองจากภัยคุกคามด้านความมั่นคงปลอดภัยทางนิวเคลียร์ เพื่อเสริมสร้างความปลอดภัยของวัตถุนิวเคลียร์และรังสีในสถานประกอบการ เช่น เครื่องฉายรังสีต่าง ๆ ในโรงพยาบาลหรือมหาวิทยาลัยให้ได้มาตรฐาน เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุโจรกรรมวัตถุดังกล่าว ซึ่งสามารถนำไปผลิตอาวุธ เช่น ระเบิดกัมมันตรังสี (Dirty Bomb) ได้ โดยฝ่ายแคนาดาจะจัดหาความเชี่ยวชาญทางวิชาการให้แก่สำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ เพื่อช่วยเหลือประเทศไทยในการพัฒนาโครงการฝึกอบรมในรูปแบบไม่เป็นตัวเงินและแบบให้เปล่ามูลค่าสูงสุด ๑,๒๐๐,๐๐๐ ดอลลาร์แคนาดา (๒๗,๗๐๘,๐๐๐ บาท) โดยมีกำหนดระยะเวลาเริ่มต้นภายในวันที่ ๓๐ มิถุนายน ๒๕๖๓ และสิ้นสุดภายในระยะเวลา ๒ ปี ๑.๒ เห็นชอบให้เลขาธิการสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติหรือผู้ที่ได้รับมอบหมายลงนามในบันทึกความเข้าใจฯ (ต้องลงนามก่อนวันที่ ๓๐ มิถุนายน ๒๕๖๓ เนื่องจากการดำเนินงานตามร่างบันทึกความเข้าใจฯ มีกำหนดระยะเวลาเริ่มต้นภายในวันที่ ๓๐ มิถุนายน ๒๕๖๓ และสิ้นสุดภายในระยะเวลา ๒ ปี) ๒. ให้กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมรับความเห็นของกระทรวงการต่างประเทศและสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเกี่ยวกับร่างบันทึกความเข้าใจฯ ระบุว่าฝ่ายแคนาดาจะให้ความช่วยเหลือที่ไม่ใช่ทางการเงินกับสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติเป็นมูลค่า ๑,๒๐๐,๐๐๐ ดอลลาร์แคนาดา จึงน่าจะเข้าข่ายมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๗ สิงหาคม ๒๕๔๗ เรื่อง แนวปฏิบัติเกี่ยวกับการขอรับความช่วยเหลือจากต่างประเทศ ซี่งให้ถือปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๙ พฤศจิกายน ๒๕๔๖ เรื่อง การขอรับความช่วยเหลือจากต่างประเทศ อย่างเคร่งครัด รวมทั้งควรสร้างการรับรู้แก่ภาคประชาชนและสังคมเพื่อสร้างความตระหนักและเข้าใจบริบทการพัฒนาและสร้างขีดความสามารถของประเทศด้านความมั่นคงปลอดภัยทางนิวเคลียร์และรังสี โดยเฉพาะในมิติของความปลอดภัยและประโยชน์ที่จะได้รับอย่างยั่งยืน รวมถึงการดำเนินงานที่จะมีส่วนช่วยสนับสนุนโครงสร้างพื้นฐานด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของประเทศ และติดตามประเมินผลการดำเนินการเป็นระยะ เพื่อให้สามารถพิจารณาขยายความร่วมมือระหว่างทั้งสองประเทศในสาขาอื่น ๆ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย ๓. หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างบันทึกความเข้าใจฯ ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้ ให้กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ประเทศไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าว ตามหลักเกณฑ์ของมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การจัดทำหนังสือสัญญาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรือองค์การระหว่างประเทศ) ด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
10607 | ขอความเห็นชอบและอนุมัติการลงนามร่างความตกลงให้ความสนับสนุนด้านการเงิน (Financing Agreement) "โครงการการรวมตัวทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาคอาเซียนจากสหภาพยุโรปเพิ่มเติมต่อประเทศไทย (ARISE Plus - Thailand) ในสาขาความช่วยเหลือด้านการค้า" | พณ | 12/05/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
10608 | ขอความเห็นชอบต่อร่างปฏิญญาอาเซียนว่าด้วยการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์สำหรับโลกที่เปลี่ยนแปลงไปของงาน | รง | 12/05/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
10609 | ขอความเห็นชอบการจัดทำโครงการและลงนามหนังสือยืนยันการเข้าร่วมโครงการกับองค์การพัฒนาอุตสาหกรรมแห่งสหประชาชาติ (UNIDO) | อก | 12/05/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบให้กระทรวงอุตสาหกรรม (กรมโรงงานอุตสาหกรรม) ร่วมกับองค์การพัฒนาอุตสาหกรรมแห่งสหประชาชาติ (United Nations Industrial Development Organization : UNIDO) ดำเนินโครงการ Application of Industry-urban Symbiosis and Green Chemistry for Low Emission and Persistent Organic Pollutants free Industrial Development in Thailand) และเห็นชอบร่างหนังสือยืนยันการเข้าร่วมโครงการฯ กับ UNIDO โดยมอบหมายให้ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรมเป็นผู้ลงนามหนังสือยืนยันการเข้าร่วมโครงการฯ โดยเอกสารโครงการฯ และร่างหนังสือยืนยันการเข้าร่วมโครงการฯ จัดทำขึ้นเพื่อแสดงเจตจำนงการเข้าร่วมโครงการฯ โดยได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากกองทุนสิ่งแวดล้อม (Global Environment Facility : GEF) มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมหลักการเอื้อประโยชน์ร่วมกันระหว่างอุตสาหกรรมและชุมชน และการใช้สารเคมีอย่างเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (Greenhouse Gas : GHG) และลดสารมลพิษที่ตกค้างยาวนาน (Persistent Organic Pollutant : POPs) ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ ๒. ให้กระทรวงอุตสาหกรรมรับความเห็นของกระทรวงคมนาคม สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และสำนักงบประมาณ เช่น ค่าใช้จ่ายในการดำเนินโครงการฯ เป็นเงินทุนร่วม เห็นควรพิจารณาดำเนินการบูรณาการร่วมกันในการจัดทำแผนการดำเนินงานเพื่อลดความซ้ำซ้อน ลดความเสี่ยงหรือความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้น และเกิดประโยชน์สูงสุดกับประเทศ รวมทั้งเห็นควรพิจารณาจัดลำดับความสำคัญของโครงการ/แผนงานภายใต้โครงการฯ ตามขั้นตอนต่อไป เป็นต้น ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
10610 | การขอขยายปริมาณในโควตาการนำเข้าสินค้าหัวมันฝรั่งสดเพื่อแปรรูปภายใต้ความตกลงองค์การการค้าโลก (WTO) ปี 2563 เพิ่มเติม | กษ | 12/05/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบการขยายปริมาณในโควตาการนำเข้าสินค้าหัวมันฝรั่งสดเพื่อแปรรูป ภายใต้ความตกลงองค์การการค้าโลก (WTO) ปี ๒๕๖๓ เพิ่มเติม จำนวน ๖,๔๐๐ ตัน โดยการขยายปริมาณโควตาดังกล่าวจะไม่ส่งผลกระทบต่อเกษตรกรผู้ปลูกมันฝรั่งภายในประเทศ เนื่องจากการนำเข้าส่วนใหญ่เป็นการนำเข้าในช่วงการปลูกมันฝรั่งนอกฤดู (เดือนกรกฎาคม-ธันวาคม) ซึ่งผลผลิตภายในประเทศไม่เพียงพอต่อความต้องการของโรงงานอุตสาหกรรม และมีการทำสัญญารับซื้อผลผลิตระหว่างผู้ประกอบการนำเข้ากับเกษตรกร โดยกำหนดราคารับซื้อขั้นต่ำตามที่คณะอนุกรรมการจัดการการผลิตและการตลาดกระเทียม หอมแดง หอมหัวใหญ่ และมันฝรั่ง กำหนด ตามที่คณะกรรมการนโยบายและแผนพัฒนาการเกษตรและสหกรณ์เสนอ และให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงอุตสาหกรรม และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เช่น การกำหนดเงื่อนไขและหลักเกณฑ์การจัดสรรโควตาเพิ่มเติม ควรยึดหลักความจำเป็นและเดือดร้อนของผู้ประกอบการ โดยให้พิจารณาปริมาณการนำเข้าตามโควตาที่ได้รับการจัดสรรในคราวแรกให้แล้วเสร็จเกินครึ่งก่อนพิจารณาจัดสรรปริมาณโควตานำเข้าเพิ่มเติมต่อไป และควรพิจารณากำหนดปริมาณโควตานำเข้าในระดับที่เหมาะสมในรอบปีต่อไป โดยพิจารณาจากศักยภาพและแผนการส่งเสริมการเพาะปลูกในประเทศ รวมถึงแนวโน้มความต้องการวัตถุดิบในอุตสาหกรรมที่จะใช้จริง ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป ๒. ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ร่วมกับกระทรวงการคลัง กระทรวงพาณิชย์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณากำหนดแนวทางการเพิ่มปริมาณผลผลิตหัวมันฝรั่งสดภายในประเทศทดแทนการนำเข้า เช่น การส่งเสริมการเพาะปลูกมันฝรั่งสดทดแทนพืชชนิดอื่น และการปรับปรุงคุณภาพผลผลิตหัวมันฝรั่งสดเพื่อลดปริมาณการนำเข้าและให้มีผลผลิตหัวมันฝรั่งสดเพียงพอต่อความต้องการใช้ภายในประเทศมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ ให้กำกับดูแลไม่ให้เกิดกรณีผลผลิตหัวมันฝรั่งสดออกสู่ตลาดเพิ่มมากขึ้นจนส่งผลกระทบต่อราคาผลผลิตและเกษตรกรผู้เพาะปลูกด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
10611 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดสารประกอบหรือสารผสมของยูเรเนียมหรือทอเรียม เพื่อให้สารประกอบหรือสารผสมนั้นเป็นวัสดุต้นกำลัง พ.ศ. .... | อว | 12/05/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงกำหนดสารประกอบหรือสารผสมของยูเรเนียมหรือทอเรียม เพื่อให้สารประกอบหรือสารผสมนั้นเป็นวัสดุต้นกำลัง พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้สารประกอบหรือสารผสมของยูเรเนียมที่มีอยู่ตามธรรมชาติ ยูเรเนียมด้อยสมรรถนะหรือทอเรียม เป็นวัสดุต้นกำลัง ตามที่กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
10612 | ร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ .. (พ.ศ. ....) ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (มาตรการภาษีเพื่อส่งเสริมวิสาหกิจชุมชนตามกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมวิสาหกิจชุมชน) | กค | 12/05/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ .. (พ.ศ. ....) ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (มาตรการภาษีเพื่อส่งเสริมวิสาหกิจชุมชนตามกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมวิสาหกิจชุมชน) มีสาระสำคัญเป็นการขยายระยะเวลาการยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับวิสาหกิจชุมชนตามกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมวิสาหกิจชุมชน เฉพาะที่เป็นห้างหุ้นส่วนสามัญหรือคณะบุคคลที่มิใช่นิติบุคคล ซึ่งมีเงินได้ปีละไม่เกิน ๑.๘ ล้านบาท ออกไปอีกเป็นระยะเวลา ๓ ปี ทั้งนี้ สำหรับเงินได้พึงประเมินที่ได้รับตั้งแต่วันที่ ๑ มกราคม ๒๕๖๓ ถึงวันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๖๕ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงการคลังรับความเห็นของสำนักงบประมาณที่เห็นควรเร่งสร้างการรับรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับมาตรการภาษีดังกล่าวให้กับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในโอกาสแรก รวมทั้งจัดทำประมาณการรายได้เพื่อกำหนดไว้ในแผนการคลังระยะปานกลางให้ถูกต้องครบถ้วน และใช้เป็นกรอบในการวางแผนการดำเนินการทางการเงินการคลังและงบประมาณของประเทศตามนัยแห่งพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. ๒๕๖๑ ต่อไป ตลอดจนติดตามประเมินผลสัมฤทธิ์และรายงานผลการดำเนินงานตามมาตรการภาษีดังกล่าวเมื่อสิ้นสุดระยะเวลาดำเนินการ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย ๓. ให้กระทรวงการคลังและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นว่า (๑) กระทรวงการคลังควรประเมินผลการดำเนินมาตรการภาษีดังกล่าว และรายงานให้คณะรัฐมนตรีรับทราบ รวมทั้งกำกับให้วิสาหกิจชุมชนที่ได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา จัดทำบัญชี รายงานแสดงรายได้และรายจ่ายประจำวัน และยื่นแบบแสดงรายการภาษี (๒) หน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรเร่งดำเนินงานตามแผนยุทธศาสตร์ส่งเสริมวิสาหกิจชุมชนที่สอดคล้องกับเจตนารมณ์ของพระราชบัญญัติส่งเสริมวิสาหกิจชุมชน พ.ศ. ๒๕๔๘ อย่างเป็นรูปธรรม และ (๓) กระทรวงการคลังและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรประชาสัมพันธ์ให้วิสาหกิจชุมชนทั่วประเทศทราบและเข้าถึงสิทธิประโยชน์จากมาตรการสนับสนุนด้านอื่น ๆ เช่น โครงการอบรมถ่ายทอดความรู้ด้านต่าง ๆ โครงการสนับสนุนกระบวนการยกระดับผลิตภัณฑ์และบริการเพื่อเสริมสร้างความสามารถในการแข่งขันให้แก่วิสาหกิจชุมชน และโครงการพัฒนาวิสาหกิจชุมชนต้นแบบและขยายผลเป็นแหล่งเรียนรู้ เป็นต้น ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
10613 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (นายพรเอก อภิพันธุ์) | สธ | 12/05/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายพรเอก อภิพันธุ์ ข้าราชการพลเรือนสามัญ ให้ดำรงตำแหน่งนายแพทย์ทรงคุณวุฒิ (ด้านเวชกรรม สาขาโสต ศอ นาสิก) โรงพยาบาลราชวิถี กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ตั้งแต่วันที่ ๒๓ เมษายน ๒๕๖๒ ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
10614 | ผลการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศกรอบความร่วมมือแม่โขง-ล้านช้าง ครั้งที่ 5 | กต | 12/05/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศกรอบความร่วมมือแม่โขง-ล้านช้าง ครั้งที่ ๕ [The Fifth Lancang-Mekong Cooperation (MLC) Foreign Minister’s Meeting] เมื่อวันที่ ๒๐ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๓ ณ เวียงจันทน์ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) โดยมีผลการประชุมฯ ที่สำคัญ ได้แก่ (๑) การรับรองแถลงการณ์ร่วมต่อสื่อมวลชนของการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศกรอบความร่วมมือ MLC ครั้งที่ ๕ ซึ่งที่ประชุมฯ ได้รับรองแถลงการณ์ร่วมฯ ต่อสื่อมวลชน โดยสาระสำคัญของแถลงการณ์ร่วมฯ ไม่แตกต่างจากที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบไปแล้วเมื่อวันที่ ๑๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๓ โดยได้มีการเพิ่มเติมประเด็นต่าง ๆ เช่น การแสดงความเห็นใจและชื่นชมจีนในการควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 และการเพิ่มสาขาความร่วมมือด้านการต่อต้านการค้ามนุษย์ การลักลอบและการค้าอาวุธปืนและกระสุน เป็นต้น (๒) ข้อเสนอของจีนในการดำเนินความร่วมมือ MLC ในอนาคต เช่น การส่งเสริมความเชื่อมโยงระหว่างระเบียงทางการค้าเชื่อมทางบกกับทางทะเลสายใหม่กับระเบียงการพัฒนาเศรษฐกิจแม่โขง-ล้านช้าง และการสนับสนุนให้กรอบความร่วมมือ MLC ดำเนินไปในทิศทางเดียวกันกับกรอบความร่วมมืออื่น ๆ ในอนุภูมิภาค เป็นต้น และ (๓) ประเด็นที่ประเทศสมาชิกลุ่มน้ำโขงให้ความสำคัญ เช่น ผลักดันให้ สปป.ลาว สามารถเป็นจุดเชื่อมต่อด้านคมนาคมขนส่งของอนุภูมิภาค การส่งเสริมความร่วมมือในประเด็นความมั่นคงรูปแบบใหม่และการแลกเปลี่ยนระดับประชาชนมากขึ้น และความร่วมมือด้านการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ เป็นต้น และมอบหมายส่วนราชการที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามผลการประชุมฯ ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
10615 | รายงานการเงินรวมภาครัฐ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 | กค | 12/05/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบรายงานการเงินรวมภาครัฐ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๒ ประกอบด้วย งบแสดงฐานะการเงิน และงบแสดงผลการดำเนินงานของรัฐบาลและหน่วยงานของรัฐ จำนวน ๘,๔๑๒ หน่วยงาน จากทั้งหมด ๘,๔๓๑ หน่วยงาน คิดเป็นร้อยละ ๙๙.๗๗ โดยมีหน่วยงานของรัฐที่ไม่ส่งรายงานการเงินภายในระยะเวลาที่กำหนด จำนวน ๖๗ หน่วยงาน และหน่วยงานของรัฐที่ไม่ส่งรายงานการเงิน จำนวน ๑๙ หน่วยงาน ในจำนวนนี้มี ๑๓ หน่วยงาน ที่ส่งรายงานเกินระยะเวลาที่กำหนดหรือไม่จัดส่งรายงานเป็นปีที่ ๒ ติดต่อกัน ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ๒. ให้รัฐมนตรีเจ้าสังกัดให้ความสำคัญ ควบคุม กำกับดูแล หน่วยงานภายใต้สังกัดส่งรายงานการเงินของหน่วยงานภายในระยะเวลาที่พระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. ๒๕๖๑ กำหนด หากไม่สามารถส่งรายงานการเงินให้กระทรวงการคลังได้ตามกำหนด ให้หน่วยงานรายงานเหตุผลหรือปัญหาอุปสรรคต่อรัฐมนตรีเจ้าสังกัดทราบ ๓. ให้รัฐมนตรีเจ้าสังกัดควบคุม กำกับดูแล หน่วยงานภายใต้สังกัดจัดทำบัญชี และรายงานการเงินตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กระทรวงการคลังกำหนด ๔. ให้กระทรวงการคลังกำหนดมาตรการและแนวทางในการเร่งรัด ติดตามให้ส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐจัดส่งรายงานการเงินในปีต่อ ๆ ไป ให้เป็นไปตามระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
10616 | ร่างกฎกระทรวงการหักเงินงบประมาณรายได้ประจำปีสมทบเข้าเป็นกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการส่วนท้องถิ่น พ.ศ. .... และร่างกฎกระทรวงกำหนดอัตราและวิธีการรับบำเหน็จดำรงชีพ พ.ศ. .... รวม 2 ฉบับ | มท | 12/05/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
10617 | รัฐบาลสาธารณรัฐทาจิกิสถานเสนอขอแต่งตั้งเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งสาธารณรัฐทาจิกิสถานประจำประเทศไทย (นายอัรดะชีร เกาะดีรี) | กต | 12/05/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายอัรดะชีร เกาะดีรี (Mr. Ardasher Qodiri) ให้ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งสาธารณรัฐทาจิกิสถานประจำประเทศไทยคนแรก โดยมีถิ่นพำนัก ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
10618 | โครงการประกันภัยข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ปีการผลิต 2563 | กค | 12/05/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
10619 | ผลการดำเนินงานของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทยในปีงบประมาณ 2562 นโยบายของคณะกรรมการ และโครงการและแผนงานของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทยในอนาคต | คค. | 12/05/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการดำเนินงานของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย
(รฟม.) ในปีงบประมาณ ๒๕๖๒ นโยบายของคณะกรรมการ และโครงการและแผนงานของ รฟม.
ในอนาคต ซึ่งภาพรวมผลการดำเนินงานของ รฟม. ในปี
๒๕๖๒ อยู่ในระดับดีเยี่ยม โดยสามารถผลักดันให้มีปริมาณผู้โดยสารโครงการรถไฟฟ้ามหานคร
สายเฉลิมรัชมงคล
และสายฉลองรัชธรรมเป็นไปตามเป้าหมายและมีปริมาณเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
สำหรับการดำเนินการของ รฟม. ในปี ๒๕๖๓ กระทรวงคมนาคมได้มอบหมายให้ รฟม.
พิจารณาดำเนินการ ดังต่อไปนี้ (๑) เร่งดำเนินการประกวดราคา/คัดเลือกเอกชนเพื่อร่วมลงทุนสำหรับโครงการรถไฟฟ้าที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติอนุมัติแล้ว
(๒) เร่งดำเนินการก่อสร้างโครงการที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างให้เป็นไปตามแผนงาน
โดยให้ความสำคัญกับการบริหารผลกระทบต่อการจราจรในทุกมิติ
และให้ควบคุมการก่อสร้างไม่ให้เกิดฝุ่นละออง PM 2.5 ตามมาตรการที่กำหนดไว้อย่างเคร่งครัด
(๓) เร่งดำเนินการพัฒนาระบบและสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ
ที่จะช่วยให้การเชื่อมต่อการเดินทางด้วยระบบรถไฟฟ้ากับระบบขนส่งมวลชนรูปแบบอื่นเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและสะดวกสบาย
ให้สามารถใช้งานได้ตามแผนงานที่กำหนดไว้
โดยเฉพาะการบริหารจัดการระบบตั๋วร่วม และ (๔)
การดำเนินโครงการระบบขนส่งมวลชนทางรางในเมืองภูมิภาค รฟม. ควรให้ความสำคัญสูงสุดกับความต้องการของประชาชนในพื้นที่
ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
10620 | รายงานผลการประเมินสถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนของประเทศไทย ปี 2562 และรายงานผลการปฏิบัติงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 | สม | 12/05/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. รับทราบรายงานผลการประเมินสถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนของประเทศไทย ปี ๒๕๖๒ และรายงานผลการปฏิบัติงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๒ ตามที่คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติเสนอ และให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงการคลัง กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงยุติธรรม กระทรวงแรงงาน กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงสาธารณสุข สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ รับข้อเสนอแนะของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป ดังนี้ ๑.๑ รายงานผลการประเมินสถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนของประเทศไทย ปี ๒๕๖๒ และรายงานผลการปฏิบัติงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๒ มีสาระสำคัญเกี่ยวกับสถานการณ์ปัญหาและอุปสรรคในด้านต่าง ๆ ได้แก่ (๑) ด้านสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง (สิทธิในกระบวนการยุติธรรม การกระทำทรมานและการบังคับสูญหาย และเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นและการชุมนุมโดยสงบ และปราศจากอาวุธ) (๒) ด้านสิทธิทางเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม (สิทธิเกี่ยวกับการทำงานและความคุ้มครองทางสังคม ด้านสุขภาพ ด้านการศึกษา และธุรกิจกับสิทธิมนุษยชน) (๓) ด้านสถานการณ์สิทธิมนุษยชนของบุคคล (สิทธิเด็ก ผู้สูงอายุ คนพิการ สตรี และผู้มีปัญหาสถานะ) และ (๔) ด้านสิทธิมนุษยชนในประเด็นที่อยู่ในความห่วงใย (สิทธิชุมชนในการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สถานการณ์ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ และการค้ามนุษย์) ๑.๒ รายงานผลการปฏิบัติงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๒ มีภารกิจที่สำคัญ ได้แก่ (๑) การตรวจสอบและรายงานข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการละเมิดสิทธิมนุษยชน (๒) การเสนอแนะมาตรการหรือแนวทางในการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชน (๓) การชี้แจงและรายงานข้อเท็จจริงที่ถูกต้องในกรณีที่มีการรายงานเกี่ยวกับสถานการณ์สิทธิมนุษยชนในประเทศไทยโดยไม่ถูกต้องหรือไม่เป็นธรรม (๔) การสร้างเสริมทุกภาคส่วนของสังคมให้ตระหนักถึงความสำคัญของสิทธิมนุษยชน และ (๕) การบริหารจัดการและการพัฒนาองค์กร ๒. ให้ส่งความเห็นของกระทรวงยุติธรรม กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงสาธารณสุข และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเกี่ยวกับการเตรียมความพร้อมสำหรับการออมเพื่อการเกษียณ การส่งเสริมการส่งเสริมและสนับสนุนให้นักลงทุนและองค์กรธุรกิจที่ตั้งอยู่ในประเทศไทยเคารพและปฏิบัติตามกฎหมายและระเบียบภายในประเทศ รวมทั้งการสร้างความตระหนักรู้ ส่งเสริม และอำนวยความสะดวกแก่ผู้ประกอบธุรกิจสัญชาติไทยที่จะไปลงทุนในต่างประเทศให้เคารพต่อหลักสิทธิมนุษยชน และปฏิบัติตามกฎและระเบียบต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับสิทธิมนุษยชนของประเทศที่รับการลงทุน การจัดการศึกษาให้แก่นักเรียน นักศึกษาพิการ และการศึกษาให้แก่บุคคลที่ไม่มีหลักฐานทะเบียนราษฎรหรือไม่มีสัญชาติไทย ให้คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติเพื่อพิจารณาต่อไปด้วย
|