ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 537 จากทั้งหมด 6214 หน้า แสดงรายการที่ 10721 - 10740 จากข้อมูลทั้งหมด 124262 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
10721 | กลไกเฝ้าระวังการใช้จ่ายงบประมาณตามพระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหาเยียวยาและฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 พ.ศ. 2563 | ปปท. | 16/06/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบกลไกเฝ้าระวังการใช้จ่ายงบประมาณตามพระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหาเยียวยาและฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ พ.ศ. ๒๕๖๓ ประกอบด้วย (๑) การเฝ้าระวังและแจ้งเบาะแส (๒) การป้องกันและลดโอกาสการทุจริต (๓) การตรวจสอบ และ (๔) การดำเนินมาตรการทางปกครอง วินัย อาญา และแจ้งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการต่อไป ตามที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (สำนักงาน ป.ป.ท.) เสนอ ทั้งนี้ ให้สำนักงาน ป.ป.ท. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงการคลังและสำนักงบประมาณที่เห็นควรให้สำนักงาน ป.ป.ท. เป็นหน่วยงานหลักในการบูรณาการขับเคลื่อนกลไกในเรื่องดังกล่าว และเห็นควรให้หน่วยรับงบประมาณที่เสนอขอรับการจัดสรรงบประมาณจัดทำแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายเงินกู้ ผลสัมฤทธิ์และประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ รวมทั้งกำหนดเป้าหมาย ตัวชี้วัด ให้สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ตามบัญชีท้ายพระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหาเยียวยาและฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ พ.ศ. ๒๕๖๓ เสนอต่อคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ เพื่อประกอบการพิจารณาอนุมัติ และใช้เป็นเครื่องมือในการติดตามและประเมินผลระหว่างและภายหลังการดำเนินการ/โครงการสิ้นสุด สำหรับค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจากการดำเนินงานของศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ ให้ใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีของสำนักงาน ป.ป.ท. ที่ได้ตั้งงบประมาณรองรับไว้แล้ว ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย ๒. ให้สำนักงาน ป.ป.ท. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องส่งเสริม สนับสนุน ตรวจสอบ ติดตาม และเฝ้าระวังการใช้จ่ายงบประมาณตามโครงการที่เบิกจ่ายตามพระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหาเยียวยาและฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ พ.ศ. ๒๕๖๓ ตั้งแต่เริ่มดำเนินโครงการในเชิงรุกอย่างเข้มงวด จริงจัง และต่อเนื่อง เพื่อให้การดำเนินการดังกล่าวเป็นไปด้วยความถูกต้อง โปร่งใส เป็นธรรม และตรวจสอบได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
10722 | การจัดสรรและแจกจ่ายหน้ากากอนามัยที่ผลิตได้ภายในประเทศ | นร | 16/06/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
ในคราวประชุมคณะรัฐมนตรี นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ รายงานว่า เนื่องจากปัจจุบันกำลังการผลิตหน้ากากอนามัยในประเทศสามารถผลิตได้มากขึ้น ส่งผลให้มีหน้ากากอนามัยที่เหลือจากการแจกจ่ายให้กระทรวงสาธารณสุขและกระทรวงมหาดไทยไปแล้ว จึงเห็นสมควรจัดสรรหน้ากากอนามัยให้แก่กระทรวงสาธารณสุขและกระทรวงมหาดไทยเพิ่มขึ้น และหากมีส่วนเหลือก็เห็นควรแจกจ่ายให้แก่กลุ่มที่จำเป็นต่อไป ซึ่งคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้กระทรวงสาธารณสุขจัดซื้อหน้ากากอนามัยทางการแพทย์ที่ผลิตได้ในประเทศเพื่อแจกจ่ายให้แก่บุคลากรทางการแพทย์ จำนวนไม่เกิน ๑,๘๐๐,๐๐๐ ชิ้นต่อวัน และให้กระทรวงพาณิชย์จัดซื้อหน้ากากอนามัยทางการแพทย์ที่ผลิตได้ในประเทศเพื่อจัดสรรให้แก่กระทรวงมหาดไทย จำนวนไม่เกิน ๑,๒๐๐,๐๐๐ ชิ้นต่อวัน ทั้งนี้ ให้กระทรวงมหาดไทยประสานกับกระทรวงศึกษาธิการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อนำหน้ากากอนามัยทางการแพทย์ จำนวนประมาณ ๒๐๐,๐๐๐ ชิ้นต่อวัน จากที่ได้รับการจัดสรรเพิ่มแล้วไปแจกจ่ายให้นักเรียนในโรงเรียนต่าง ๆ ทั่วประเทศที่ขาดแคลนหน้ากากอนามัยทางการแพทย์เพื่อรองรับการเปิดภาคเรียนประจำปีการศึกษา ๒๕๖๓ ในเดือนกรกฎาคม ๒๕๖๓ นี้ต่อไป ในกรณีมีกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นอีก ให้กระทรวงพาณิชย์ คณะกรรมการหรือคณะอนุกรรมการ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับไปพิจารณา
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
10723 | ผลการประชุมระดับรัฐมนตรีท่องเที่ยวอาเซียนวาระพิเศษผ่านระบบการประชุมทางไกล (Special Meeting of ASEAN Tourism Ministers on COVID-19) | กก | 16/06/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
10724 | การสรรหาและคัดเลือกบุคคลเพื่อแต่งตั้งเป็นกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ | นร04 | 16/06/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบและเห็นชอบตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... รายงานว่าการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... [แก้ไขเพิ่มเติมเกี่ยวกับกระบวนการสรรหาและคัดเลือกบุคคลเพื่อแต่งตั้งเป็นกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กรรมการ กสทช.)] ยังอยู่ระหว่างการพิจารณาในชั้นกรรมาธิการของสภาผู้แทนราษฎร ทำให้ไม่สามารถดำเนินการสรรหากรรมการ กสทช. แทนกรรมการชุดเดิมซึ่งหมดวาระไปแล้วตั้งแต่เดือนตุลาคม ๒๕๖๐ ตามร่างพระราชบัญญัติฉบับดังกล่าวได้ ดังนั้น เพื่อให้กรรมการ กสทช. ซึ่งมีภารกิจสำคัญในการประมูลและจัดสรรคลื่นความถี่ ตลอดจนการพัฒนาการสื่อสารโทรคมนาคมของประเทศสามารถดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ต่อไปได้ และโดยที่คำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ ๘/๒๕๖๒ เรื่อง มาตรการแก้ไขปัญหาความต่อเนื่องของกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ รวมทั้งการขยายบริการโทรคมนาคมเพื่อประโยชน์ด้านความมั่นคงและประโยชน์สาธารณะของประเทศ ลงวันที่ ๘ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๖๒ ข้อ ๑ กำหนดให้ระงับการสรรหาและคัดเลือกบุคคลเพื่อแต่งตั้งเป็น กรรมการ กสทช. ไว้ก่อนจนกว่าจะมีพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมจะมีผลใช้บังคับ หรือจนกว่านายกรัฐมนตรีโดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรีจะมีคำสั่งเป็นอย่างอื่น ดังนั้น จึงเห็นควรที่นายกรัฐมนตรีโดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรีจะมีมติเห็นชอบให้ดำเนินกระบวนการสรรหาและคัดเลือกบุคคลเพื่อแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งกรรมการ กสทช. ตามพระราชบัญญัติองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. ๒๕๕๓ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ไปพลางก่อน ทั้งนี้ ได้ประสานคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... เกี่ยวกับการแก้ไขเพิ่มเติมบทเฉพาะกาลให้กรรมการ กสทช. ที่ได้รับแต่งตั้งชุดใหม่สิ้นสุดลงเมื่อร่างพระราชบัญญัติที่แก้ไขเพิ่มในเรื่องนี้มีผลใช้บังคับ แต่ทั้งนี้ไม่ตัดสิทธิในการสมัครเข้ารับการสรรหาและคัดเลือกบุคคลของกรรมการดังกล่าวแต่อย่างใด ๒. ให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีแจ้งมติไปยังสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาซึ่งทำหน้าที่เป็นหน่วยธุรการในการดำเนินการสรรหาและคัดเลือกกรรมการ กสทช. ดำเนินกระบวนการสรรหาและคัดเลือกบุคคลเพื่อแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งกรรมการ กสทช. ตามพระราชบัญญัติองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. ๒๕๕๓ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
10725 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตสำรวจการจัดรูปที่ดิน รวม 6 ฉบับ (ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตสำรวจการจัดรูปที่ดิน ในท้องที่ตำบลเขื่อน ตำบลยางน้อย และตำบลยางท่าแจ้ง อำเภอโกสุมพิสัย จังหวัดมหาสารคาม พ.ศ. ....) | กษ | 16/06/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตสำรวจการจัดรูปที่ดิน ในท้องที่ตำบลเขื่อน ตำบลยางน้อย และตำบลยางท่าแจ้ง อำเภอโกสุมพิสัย จังหวัดมหาสารคาม พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดเขตสำรวจการจัดรูปที่ดิน ในท้องที่ตำบลเขื่อน ตำบลยางน้อย และตำบลยางท่าแจ้ง อำเภอโกสุมพิสัย จังหวัดมหาสารคาม เพื่อให้พนักงานเจ้าหน้าที่เข้าไปทำการสำรวจพื้นที่ที่จะจัดทำเป็นโครงการจัดรูปที่ดิน อันจะเป็นการส่งเสริมเกษตรกรรมของประเทศให้เจริญก้าวหน้า ส่งเสริมให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้นและมีมาตรฐานการครองชีพที่สูงขึ้น ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
10726 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตสำรวจการจัดรูปที่ดิน รวม 6 ฉบับ (ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตสำรวจการจัดรูปที่ดิน ในท้องที่ตำบลชัยนาท อำเภอเมืองชัยนาท จังหวัดชัยนาท พ.ศ. .... และร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตสำรวจการจัดรูปที่ดิน ในท้องที่ตำบลโพธิ์ อำเภอเมืองศรีสะเกษ จังหวัดศรีสะเกษ พ.ศ. ....) | กษ | 16/06/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตสำรวจการจัดรูปที่ดิน ในท้องที่ตำบลชัยนาท อำเภอเมืองชัยนาท จังหวัดชัยนาท พ.ศ. .... และร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตสำรวจการจัดรูปที่ดิน ในท้องที่ตำบลโพธิ์ อำเภอเมืองศรีสะเกษ จังหวัดศรีสะเกษ พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดเขตสำรวจการจัดรูปที่ดิน ในท้องที่ตำบลชัยนาท อำเภอเมืองชัยนาท จังหวัดชัยนาท และในท้องที่ตำบลโพธิ์ อำเภอเมืองศรีสะเกษ จังหวัดศรีสะเกษ เพื่อให้พนักงานเจ้าหน้าที่เข้าไปทำการสำรวจพื้นที่ที่จะจัดทำเป็นโครงการจัดรูปที่ดิน อันจะเป็นการส่งเสริมเกษตรกรรมของประเทศให้เจริญก้าวหน้า ส่งเสริมให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้นและมีมาตรฐานการครองชีพที่สูงขึ้น ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
10727 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตสำรวจการจัดรูปที่ดิน รวม 6 ฉบับ (ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตสำรวจการจัดรูปที่ดิน ในท้องที่ตำบลเมืองเพีย อำเภอกุดจับ จังหวัดอุดรธานี พ.ศ. ....) | กษ | 16/06/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตสำรวจการจัดรูปที่ดิน ในท้องที่ตำบลเมืองเพีย อำเภอกุดจับ จังหวัดอุดรธานี พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดเขตสำรวจการจัดรูปที่ดิน ในท้องที่ตำบลเมืองเพีย อำเภอกุดจับ จังหวัดอุดรธานี เพื่อให้พนักงานเจ้าหน้าที่เข้าไปทำการสำรวจพื้นที่ที่จะจัดทำเป็นโครงการจัดรูปที่ดิน อันจะเป็นการส่งเสริมเกษตรกรรมของประเทศให้เจริญก้าวหน้า ส่งเสริมให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้นและมีมาตรฐานการครองชีพที่สูงขึ้น ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
10728 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตสำรวจการจัดรูปที่ดิน รวม 6 ฉบับ (ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตสำรวจการจัดรูปที่ดิน ในท้องที่ตำบลเชียงเครือ อำเภอเมืองสกลนคร จังหวัดสกลนคร พ.ศ. ....) | กษ | 16/06/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตสำรวจการจัดรูปที่ดิน ในท้องที่ตำบลเชียงเครือ อำเภอเมืองสกลนคร จังหวัดสกลนคร พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดเขตสำรวจการจัดรูปที่ดิน ในท้องที่ตำบลเชียงเครือ อำเภอเมืองสกลนคร จังหวัดสกลนคร เพื่อให้พนักงานเจ้าหน้าที่เข้าไปทำการสำรวจพื้นที่ที่จะจัดทำเป็นโครงการจัดรูปที่ดิน อันจะเป็นการส่งเสริมเกษตรกรรมของประเทศให้เจริญก้าวหน้า ส่งเสริมให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้นและมีมาตรฐานการครองชีพที่สูงขึ้น ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
10729 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (นางสาวกรรณิกา ชูเกียรติมั่น นางสาวประไพ วงศ์สินคงมั่น และนางสิริภากร แสงกิจพร) (นางสิริภากร แสงกิจพร) | สธ | 16/06/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงสาธารณสุข ให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ จำนวน ๓ ราย ตั้งแต่วันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเสนอ ดังนี้
๑. นางสาวกรรณิกา ชูเกียรติมั่น ดำรงตำแหน่งทันตแพทย์ทรงคุณวุฒิ (ด้านทันตกรรม) สถาบันทัตกรรม กรมการแพทย์ ตั้งแต่วันที่ ๑๘ ธันวาคม ๒๕๖๒ ๒. นางสาวประไพ วงศ์สินคงมั่น ดำรงตำแหน่งผู้ทรงคุณวุฒิด้านวิจัยและพัฒนาวิทยาศาสตร์ การแพทย์ (เคมี) (นักวิทยาศาสตร์การแพทย์ทรงคุณวุฒิ) กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ตั้งแต่วันที่ ๑๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๓ ๓. นางสิริภากร แสงกิจพร ดำรงตำแหน่งผู้ทรงคุณวุฒิด้านวิจัยและพัฒนาวิทยาศาสตร์ การแพทย์ (ชีววิทยา) (นักวิทยาศาสตร์การแพทย์ทรงคุณวุฒิ) กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ตั้งแต่วันที่ ๓ มีนาคม ๒๕๖๓ |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
10730 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (นางสาวกรรณิกา ชูเกียรติมั่น นางสาวประไพ วงศ์สินคงมั่น และนางสิริภากร แสงกิจพร) (นางสาวกรรณิกา ชูเกียรติมั่น ) | สธ | 16/06/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงสาธารณสุข ให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ จำนวน ๓ ราย ตั้งแต่วันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเสนอ ดังนี้
๑. นางสาวกรรณิกา ชูเกียรติมั่น ดำรงตำแหน่งทันตแพทย์ทรงคุณวุฒิ (ด้านทันตกรรม) สถาบันทัตกรรม กรมการแพทย์ ตั้งแต่วันที่ ๑๘ ธันวาคม ๒๕๖๒ ๒. นางสาวประไพ วงศ์สินคงมั่น ดำรงตำแหน่งผู้ทรงคุณวุฒิด้านวิจัยและพัฒนาวิทยาศาสตร์ การแพทย์ (เคมี) (นักวิทยาศาสตร์การแพทย์ทรงคุณวุฒิ) กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ตั้งแต่วันที่ ๑๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๓ ๓. นางสิริภากร แสงกิจพร ดำรงตำแหน่งผู้ทรงคุณวุฒิด้านวิจัยและพัฒนาวิทยาศาสตร์ การแพทย์ (ชีววิทยา) (นักวิทยาศาสตร์การแพทย์ทรงคุณวุฒิ) กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ตั้งแต่วันที่ ๓ มีนาคม ๒๕๖๓
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
10731 | ผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ ครั้งที่ 1/2563 | ทส | 09/06/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (คทช.) ครั้งที่ ๑/๒๕๖๓ เมื่อวันที่ ๑๖ มกราคม ๒๕๖๓ ซึ่งที่ประชุมได้รับทราบและพิจารณาผลการดำเนินงานในเรื่องต่าง ๆ เช่น (๑) รับทราบผลการดำเนินงานของ คทช. เกี่ยวกับจัดที่ดินให้ชุมชน (๒) รับทราบความคืบหน้าการเสนอร่างพระราชบัญญัติปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (การจัดตั้งสำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ) (๓) เห็นชอบแนวทางแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของราษฎรบ้านปางมะโอ หมู่ที่ ๑๒ ตำบลแม่พุง อำเภอวังชิ้น จังหวัดแพร่ (๔) เห็นชอบกับความเห็นกรณีโครงการ กิจการ หรือการดำเนินการทุกประเภทในพื้นที่ลุ่มน้ำชั้นที่ ๑ (๕) รับทราบความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาตามข้อเสนอของขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (ขปส.) และ (๖) รับทราบผลการประชุมคณะกรรมการแก้ไขปัญหาสมัชชาคนจน (สคจ.) ครั้งที่ ๑/๒๕๖๓ ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ ๒. ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงมหาดไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ถือเป็นหลักในการจัดหาที่ดิน จัดที่ดิน หรือปฏิรูปที่ดินแล้วแต่กรณี เพื่อให้ชุมชน/ประชาชนเข้าใช้ประโยชน์ในที่ดินดังกล่าวว่าจะต้องพิจารณาเลือกพื้นที่ให้เหมาะสมตรงตามวัตถุประสงค์ของการใช้ประโยชน์ในที่ดินนั้น ๆ อย่างแท้จริง เช่น ที่ดินสำหรับเกษตรกรต้องเป็นพื้นที่ที่สามารถใช้เพาะปลูกได้อย่างเหมาะสม เป็นต้น
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
10732 | สรุปมติที่ประชุมคณะกรรมการจัดระบบการจราจรทางบก ครั้งที่ 1/2563 | คค | 09/06/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
10733 | มาตรการส่งเสริมและสนับสนุนการใช้และสวมใส่ผ้าไทย | มท | 09/06/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบมาตรการส่งเสริมและสนับสนุนการใช้และสวมใส่ผ้าไทย ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้กระทรวงมหาดไทย (กรมการพัฒนาชุมชน) เป็นหน่วยงานเจ้าภาพหลักร่วมกับกระทรวงวัฒนธรรม (กรมส่งเสริมวัฒนธรรม) ในการดำเนินการส่งเสริมและสนับสนุนตามมาตรการส่งเสริมและสนับสนุนการใช้และสวมใส่ผ้าไทย ทั้งนี้ ให้กระทรวงมหาดไทย (กรมการพัฒนาชุมชน) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการเอกลักษณ์ของชาติ เช่น ควรมีการจัดหาช่องทางจำหน่ายผ้าไทยและผ้าพื้นเมืองให้ประชาชนทั่วไปเข้าถึงผู้ผลิตและผู้จำหน่ายผ้าไทยได้ง่าย ควรดำเนินมาตรการส่งเสริมและสนับสนุนการใช้และสวมใส่ผ้าไทยในลักษณะเป็นการเชิญชวน มิได้เป็นคำสั่งหรือการบังคับ แต่ให้ดำเนินการด้วยความสมัครใจของแต่ละบุคคล และควรให้ความสำคัญกับแนวทางการผสมผสานเทคโนโลยีการผลิตสมัยใหม่มาประยุกต์ใช้กับผ้าไทยให้สวมใส่สบาย ดูแลรักษาง่าย คงทน ทันสมัย ตอบสนองความต้องการของทุกกลุ่มเป้าหมาย เป็นต้น ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย ๒. ให้กระทรวงมหาดไทย (กรมการพัฒนาชุมชน) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันดำเนินการขับเคลื่อนมาตรการดังกล่าวให้เกิดผลเป็นรูปธรรมอย่างต่อเนื่องและสอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน โดยให้คำนึงถึงมาตรฐาน การดูแลรักษา ราคาที่เหมาะสม และรักษาไว้ซึ่งอัตลักษณ์ของผ้าไทย เพื่อให้ผ้าไทยสามารถจำหน่ายและแข่งขันในตลาดได้อย่างยั่งยืน
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
10734 | รัฐบาลราชอาณาจักรสวีเดนเสนอขอแต่งตั้งเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งราชอาณาจักรสวีเดนประจำประเทศไทย (นายยอน ออสเตริม เกรินดาห์ล) | กต | 09/06/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายยอน ออสเตริม เกรินดาห์ล (Mr. Jon Astrom Grondahl) ให้ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งราชอาณาจักรสวีเดนประจำประเทศไทยคนใหม่ โดยมีถิ่นพำนัก ณ กรุงเทพมหานคร สืบแทน นายสตัฟฟาน แฮร์สเตริม (Mr. Staffan Herrstrom) ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
10735 | รัฐบาลสาธารณรัฐเซียร์ราลีโอนเสนอขอแต่งตั้งเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งสาธารณรัฐเซียร์ราลีโอนประจำประเทศไทย (นายเออร์เนสต์ อึมบาอิมบา อึนโดมาฮีนา) | กต | 09/06/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายเออร์เนสต์ อึมบาอิมบา อึนโดมาฮีนา (Mr. Ernest Mbaimba Ndomahina) ให้ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งสาธารณรัฐเซียร์ราลีโอนประจำประเทศไทยคนใหม่ โดยมีถิ่นพำนัก ณ กรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน สืบแทน นายอาลิมามี ฟิลิป โคโรมา (Mr. Alimamy Philip Koroma) ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
10736 | รัฐบาลสาธารณรัฐฟินแลนด์เสนอขอแต่งตั้งเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งสาธารณรัฐฟินแลนด์ประจำประเทศไทย (นายยูริ ยาร์วียาโฮ) | กต | 09/06/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายยูริ ยาร์วียาโฮ (Mr. Jyri Jarviaho) ให้ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งสาธารณรัฐฟินแลนด์ประจำประเทศไทยคนใหม่ โดยมีถิ่นพำนัก ณ กรุงเทพมหานคร สืบแทน นางซาตู ซุยก์การี-เคลฟเวน (Mrs. Satu Suikkari-Kleven) ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
10737 | ร่างกฎกระทรวงระบบการขนส่งก๊าซธรรมชาติทางท่อ พ.ศ. .... | พน | 09/06/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงระบบการขนส่งก๊าซธรรมชาติทางท่อ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการปรับปรุงหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขเกี่ยวกับการประกอบกิจการระบบการขนส่งก๊าซธรรมชาติทางท่อเพื่อให้ครอบคลุมถึงการประกอบกิจการทั้งท่อส่งก๊าซธรรมชาติบนบกและท่อส่งก๊าซธรรมชาติในทะเล รวมถึงท่อส่งก๊าซธรรมชาติเหลว เพื่อประโยชน์ในการกำกับดูแลระบบการขนส่งก๊าซธรรมชาติทางท่อให้สอดคล้องกับสภาพการประกอบกิจการในปัจจุบันและเป็นไปตามมาตรฐานสากล ซึ่งสอดคล้องกับพระราชบัญญัติควบคุมน้ำมันเชื้อเพลิง พ.ศ. ๒๕๔๒ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ตามที่กระทรวงพลังงานเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงพลังงานรับความเห็นของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมและสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรปฏิบัติตามกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งควรเตรียมความพร้อมของบุคลากรภายในองค์กร และทำความเข้าใจในการปฏิบัติตามกฎหมายให้กับผู้ที่เกี่ยวข้อง อาทิ ผู้ประกอบการขนส่งก๊าซธรรมชาติทางท่อ วิศวกรออกแบบ ผู้มีสิทธิจัดทำรายงานด้านสิ่งแวดล้อม ผู้ทดสอบและตรวจสอบ เพื่อให้เกิดความเข้าใจที่ตรงกันและสามารถปฏิบัติตามกฎหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
10738 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดหน่วยงานของรัฐตามพระราชบัญญัติความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ. 2539 (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา) | กสศ | 09/06/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดหน่วยงานของรัฐตามพระราชบัญญัติความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ. ๒๕๓๙ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษาเป็นหน่วยงานของรัฐตามพระราชบัญญัติความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ. ๒๕๓๙ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ของกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษาซึ่งปฏิบัติหน้าที่โดยสุจริตได้รับความคุ้มครองตามพระราชบัญญัติดังกล่าว ตามที่กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษาเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้รวมพิจารณาร่างพระราชกฤษฎีกาในเรื่องนี้กับร่างพระราชกฤษฎีกาฯ ที่เป็นเรื่องทำนองเดียวกันซึ่งอยู่ระหว่างสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาให้เป็นฉบับเดียวกัน แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้หน่วยงานของรัฐที่ประสงค์จะให้ตราร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดให้เป็นหน่วยงานของรัฐตามกฎหมายว่าด้วยความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ ให้เสนอเรี่องไปยังสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี เพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรีภายในเดือนมิถุนายน ๒๕๖๓ เพื่อให้มีการตราพระราชกฤษฎีกาในเรื่องนี้ไปในคราวเดียวกัน
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
10739 | ร่างพระราชกฤษฎีการะเบียบข้าราชการพลเรือนกลาโหม พ.ศ. .... | กห | 09/06/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีการะเบียบข้าราชการพลเรือนกลาโหม พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการกำหนดตำแหน่ง การบรรจุ การแต่งตั้ง การปรับตำแหน่ง การเลื่อนขั้นเงินเดือน การบังคับบัญชา วินัยและการรักษาวินัย การดำเนินการทางวินัย การออกจากราชการ การอุทธรณ์ การร้องทุกข์ และการอื่นใดตามที่จำเป็น ของข้าราชการพลเรือนกลาโหม ที่ได้พิจารณาร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจนได้ข้อยุติแล้ว ตามที่กระทรวงกลาโหมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้รับความเห็นของสำนักงบประมาณ สำนักงาน ก.พ. และสำนักงาน ก.พ.ร. เกี่ยวกับการกำหนดสิทธิของข้าราชการพลเรือนกลาโหม ควรพิจารณาให้มีความเสมอภาคและเท่าเทียมกับข้าราชการพลเรือนสังกัดหน่วยงานอื่นที่มีลักษณะงานเช่นเดียวกัน และควรพิจารณาปรับปรุงแก้ไขบทบัญญัติเกี่ยวกับการแต่งตั้งในมาตรา ๒๒ (๑) ของร่างพระราชกฤษฎีกาฯ ให้สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา ๑๘๐ นอกจากนี้ การจัดระเบียบข้าราชการพลเรือนกลาโหมด้านอื่น ๆ เช่น การกำหนดตำแหน่ง ประเภทตำแหน่งและระดับตำแหน่ง การสรรหา บรรจุและแต่งตั้ง การดำเนินการทางวินัย เป็นต้น ควรมีการเทียบเคียงกับการจัดระเบียบข้าราชการพลเรือนสามัญ โดยมิให้เกิดความลักลั่น เหลื่อมล้ำระหว่างกัน รวมทั้งควรมีการพิจารณากำหนดกรอบทิศทางการบริหารงานบุคคลให้สอดรับกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงและความท้าทายใหม่ ๆ ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงกลาโหมรับความเห็นของสำนักงบประมาณ และสำนักงาน ก.พ.ร. เกี่ยวกับการกำหนดสิทธิของข้าราชการพลเรือนกลาโหม โดยพิจารณาให้มีความเสมอภาคและเท่าเทียมกับข้าราชการพลเรือนสังกัดหน่วยงานอื่นที่มีลักษณะงานเช่นเดียวกัน และการจัดระเบียบข้าราชการพลเรือนกลาโหมด้านอื่น ๆ โดยเทียบเคียงกับการจัดระเบียบข้าราชการพลเรือนสามัญ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย ๓. ให้กระทรวงกลาโหมเร่งรัดการเสนอร่างพระราชบัญญัติเงินเดือน เงินประจำตำแหน่ง และประโยชน์ตอบแทนอื่น ๆ ของข้าราชการพลเรือนกลาโหม พ.ศ. .... ต่อคณะรัฐมนตรีต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
10740 | ร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (แก้ไขเพิ่มเติมเกี่ยวกับสถานที่ยื่นขอจดทะเบียนห้างหุ้นส่วนหรือบริษัท อำนาจลดและยกเว้นค่าธรรมเนียมการจดทะเบียนและการขอสำเนาเอกสาร และการนำเทคโนโลยีมาใช้ในการประชุมกรรมการ) | พณ | 09/06/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (แก้ไขเพิ่มเติมเกี่ยวกับสถานที่ยื่นขอจดทะเบียนห้างหุ้นส่วนหรือบริษัท อำนาจลดและยกเว้นค่าธรรมเนียมการจดทะเบียนและการขอสำเนาเอกสาร และการนำเทคโนโลยีมาใช้ในการประชุมกรรมการ) ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ ๓ ลักษณะ ๒๒ หุ้นส่วนและบริษัทเกี่ยวกับสถานที่ยื่นขอจดทะเบียนห้างหุ้นส่วนหรือบริษัท ให้สามารถยื่น ณ สำนักงานทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทแห่งใดก็ได้ การลดและยกเว้นค่าธรรมเนียมการจดทะเบียนต่าง ๆ การกำหนดให้ประทับตราบริษัทในใบหุ้นทุกใบเฉพาะกรณีที่บริษัทมีตราประทับเพื่อให้สอดคล้องกับหนังสือบริคณห์สนธิ และการกำหนดให้หนังสือบริคณห์สนธิซึ่งได้จดทะเบียนไว้แล้วแต่มิได้จดทะเบียนบริษัทภายใน ๓ ปี สิ้นผลลง รวมทั้งการนำเทคโนโลยีมาใช้ในการประชุมกรรมการ ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ และให้ส่งคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรพิจารณา ก่อนเสนอสภาผู้แทนราษฎรต่อไป ๒. รับทราบแผนในการจัดทำกฎหมายลำดับรอง กรอบระยะเวลา และกรอบสาระสำคัญของกฎหมายลำดับรองที่ออกตามร่างพระราชบัญญัติดังกล่าว ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ
|
.....