ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 495 จากทั้งหมด 6213 หน้า แสดงรายการที่ 9881 - 9900 จากข้อมูลทั้งหมด 124254 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
9881 | สรุปผลการปฏิบัติราชการของคณะรัฐมนตรีในพื้นที่กลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามัน (ภูเก็ต กระบี่ ตรัง พังงา ระนอง และสตูล) | นร.11 | 03/11/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
ดังนี้ ๑.
เห็นชอบแนวทางและข้อสั่งการของรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีในการปฏิบัติราชการในพื้นที่กลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามัน
(ภูเก็ต กระบี่ ตรัง พังงา ระนอง และสตูล)
ซึ่งมีข้อสั่งการตามประเด็นการพัฒนากลุ่มจังหวัด เช่น (๑)
การพัฒนาคุณภาพด้านการท่องเที่ยวให้มีมาตรฐานอย่างยั่งยืน (๒) การพัฒนาระบบและสร้างมูลค่าเพิ่มให้สินค้าภาคเกษตร
ประมงและปศุสัตว์ที่มีศักยภาพในพื้นที่ เพื่อให้ชุมชนเกิดความเข้มแข็งอย่างยั่งยืน
และ (๓) การเสริมสร้างและพัฒนาศักยภาพต้นทุนมนุษย์เพื่อนำไปสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน เป็นต้น
โดยมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับข้อสั่งการไปพิจารณาดำเนินการต่อไป
รวมทั้งรายงานผลการดำเนินงานให้สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติทราบด้วย
ตามที่สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอ ๒. ให้สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี)
ในการเสนอเรื่องนี้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
9882 | การปิดสถานกงสุลใหญ่กิตติมศักดิ์ประจำกรุงโคเปนเฮเกนเป็นการถาวร และการพ้นจากตำแหน่งกงสุลใหญ่กิตติมศักดิ์ประจำกรุงโคเปนเฮเกน ราชอาณาจักรเดนมาร์ก (นายคาร์สเตน เด็งเคอ นีลเซน) | กต. | 03/11/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
ดังนี้ ๑. การปิดสถานกงสุลใหญ่กิตติมศักดิ์ประจำกรุงโคเปนเฮเกน
ราชอาณาจักรเดนมาร์ก เป็นการถาวร ๒.
การพ้นจากตำแหน่งกงสุลใหญ่กิตติมศักดิ์ประจำกรุงโคเปนเฮเกน
ราชอาณาจักรเดนมาร์ก ของ นายคาร์สเตน เด็งเคอ นีลเซน) เนื่องจากถึงแก่กรรม
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
9883 | ขออนุมัติดำเนินการตามมติคณะกรรมการนโยบายยางธรรมชาติ ครั้งที่ 1/2563 | กษ. | 03/11/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ๑. อนุมัติดำเนินการตามมติคณะกรรมการนโยบายยางธรรมชาติ
ในคราวประชุมครั้งที่ ๑/๒๕๖๓ เมื่อวันที่ ๑ มิถุนายน ๒๕๖๓
ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ ดังนี้ ๑.๑
อนุมัติโครงการสนับสนุนสินเชื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียนแก่ผู้ประกอบกิจการไม้ยางและผลิตภัณฑ์
วงเงิน ๒๐,๐๐๐ ล้านบาท
เป็นการสนับสนุนสินเชื่อเพื่อเป็นทุนหมุนเวียนแก่ผู้ประกอบกิจการไม้ยางพาราและผลิตภัณฑ์
โดยรัฐบาลสนับสนุนวงเงินชดเชยดอกเบี้ยในอัตราตามที่จ่ายจริงแต่ไม่เกินร้อยละ ๓
ต่อปี จำนวนไม่เกิน ๖๐๐ ล้านบาท จากวงเงินกู้ ๒๐,๐๐๐ ล้านบาท ๑.๒
อนุมัติขยายระยะเวลาชำระคืนเงินกู้โครงการพัฒนาศักยภาพสถาบันเกษตรกรเพื่อรักษาเสถียรภาพราคายาง
และโครงการสร้างมูลภัณฑ์กันชนรักษาเสถียรภาพราคายาง
เป็นการขยายระยะเวลาชำระคืนเงินกู้โครงการทั้งสองโครงการเดิมให้กับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร
ออกไปจนถึงวันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๖๖
โดยให้กระทรวงการคลังขยายระยะเวลาค้ำประกันเงินกู้ออกไปและยกเว้นค่าธรรมเนียมในการค้ำประกันเงินกู้ตามระยะเวลาการขยายระยเวลาชำระคืนเงินกู้พร้อมชดเชยต้นทุนเงินในอัตรา
FDR+1
ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ มกราคม ๒๕๕๕ รวมทั้งขอรับจัดสรรงบประมาณเป็นค่าใช้จ่ายของโครงการ
(ค่าเช่าโกดัง ค่าประกันภัย และค่าจ้างผลิตยาง) รวมทั้งสิ้น ๘๙๘.๗๖ ล้านบาท ๑.๓
อนุมัติปรับปรุงหลักเกณฑ์และวิธีการดำเนินงานโครงการสนับสนุนสินเชื่อผู้ประกอบการผลิตผลิตภัณฑ์ยาง
เป็นการปรับปรุงหลักเกณฑ์และวิธีการดำเนินงานโครงการฯ โดยให้ผู้ประกอบการสามารถขอสินเชื่อได้จากทั้งธนาคารพาณิชย์หรือธนาคารของรัฐ
(สถาบันการเงินเฉพาะกิจ) และผ่อนปรนเงื่อนไขการใช้ยางเพิ่มขึ้นของผู้ประกอบการในปีการผลิต
๒๕๖๓ เพื่อลดผลกระทบอันเนื่องมาจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (COVID-19) ๑.๔ อนุมัติเพิ่มกิจกรรมช่วยเหลือผู้ประกอบกิจการยาง
(ยางแห้ง) ในสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (COVID-19) ภายใต้โครงการสนับสนุนสินเชื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียนแก่ผู้ประกอบการกิจการยาง
(ยางแห้ง) วงเงินสินเชื่อ ๒๐,๐๐๐ ล้านบาท โดยสนับสนุนให้ผู้ประกอบการซื้อยางมาเป็นวัตถุดิบในการผลิตของฤดูกาลใหม่เป็นรายเดือน
และรัฐบาลชดเชยดอกเบี้ยในอัตราไม่เกินร้อยละ ๒ ต่อปี ๒.
สำหรับแหล่งเงินเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินโครงการฯ
ให้เป็นไปตามความเห็นของสำนักงบประมาณ เช่น ค่าใช้จ่ายโครงการพัฒนาศักยภาพสถาบันเกษตรกรเพื่อรักษาเสถียรภาพราคายางพารา
และโครงการสร้างมูลภัณฑ์กันชนรักษาเสถียรภาพราคายาง
ให้ใช้จ่ายจากเงินกองทุนยางพารา เป็นต้น และให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
การยางแห่งประเทศไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงการคลัง
รวมทั้งข้อสังเกตของกระทรวงอุตสาหกรรมและสำนักงบประมาณ เช่น (๑)
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ควรหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อศึกษามาตรการและแนวทางเพิ่มเติมในการดูดซับอุปทานส่วนเกินของยางพาราในระบบ
และ (๒)
การขยายระยะเวลาชำระคืนเงินกู้โครงการพัฒนาศักยภาพสถาบันเกษตรกรเพื่อรักษาเสถียรภาพราคายาง
และโครงการสร้างมูลภัณฑ์กันชนรักษาเสถียรภาพราคายาง รัฐบาลจะต้องใช้งบประมาณจำนวนมาก
การยางแห่งประเทศไทยจึงควรหาวิธีชำระคืนเงินกู้โดยเร็ว เป็นต้น ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
๓.
มอบหมายให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (การยางแห่งประเทศไทย)
เร่งดำเนินการระบายสต็อกยางในโครงการพัฒนาศักยภาพสถาบันเกษตรกรเพื่อรักษาเสถียรภาพราคายาง
และโครงการสร้างมูลภัณฑ์กันชนรักษาเสถียรภาพราคายางให้หมดไปโดยเร็ว
โดยให้คำนึงถึงระยะเวลาและระดับราคาจำหน่ายที่เหมาะสม
เพื่อลดภาระงบประมาณและรักษาประโยชน์สูงสุดของรัฐ |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
9884 | การแต่งตั้งข้าราชการการเมือง (นายณัฏฐวุฒิ โพธิสาโร) | พน. | 03/11/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการแต่งตั้ง นายณัฏฐวุฒิ โพธิสาโร
เป็นข้าราชการการเมือง ตำแหน่งที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ
(๓ พฤศจิกายน ๒๕๖๓) เป็นต้นไป ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
9885 | การแต่งตั้งคณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยอุทยานธรณี | ทส. | 03/11/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. เห็นชอบแต่งตั้งคณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยอุทยานธรณี โดยมีองค์ประกอบของคณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยอุทยานธรณี รวม ๒๗ คน
และอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยอุทยานธรณี รวม ๗ ข้อ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ
(๓ พฤศจิกายน ๒๕๖๓) เป็นต้นไป ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ ๒. ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมรับความเห็นของกระทรวงการต่างประเทศและสำนักงาน
ก.พ.ร.
ที่เห็นควรคำนึงถึงมิติความสัมพันธ์ระหว่างประเทศและการเมืองระหว่างประเทศประกอบด้วยเสมอ
และเมื่อมีการแต่งตั้งคณะกรรมการดังกล่าวแล้ว กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจะต้องดำเนินการยุบเลิกคณะกรรมการส่งเสริมการอนุรักษ์แหล่งธรณีวิทยาและจัดตั้งอุทยานธรณี
และคณะอนุกรรมการที่เกี่ยวข้องในทันที ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
9886 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (นางธิดา พัทธธรรม และนายวันฉัตร สุวรรณกิตติ) | นร.11 | 03/11/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สำนักนายกรัฐมนตรี ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง
จำนวน ๒ ราย เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่าง ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไป
ตามที่สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอ ดังนี้ ๑. นางธิดา พัทธธรรม ดำรงตำแหน่งรองเลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ๒. นายวันฉัตร
สุวรรณกิตติ ดำรงตำแหน่งรองเลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
9887 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (นายประวิต เอราวรรณ์ และนายสุรินทร์ แก้วมณี) | ศธ. | 03/11/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงศึกษาธิการ
ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง
จำนวน ๒ ราย เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่าง ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไป
ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการเสนอ ดังนี้ ๑. นายประวิต เอราวรรณ์ ดำรงตำแหน่งเลขาธิการคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา
สำนักงานคณะกรรมการ ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา
สำนักงานปลัดกระทรวง ๒. นายสุรินทร์ แก้วมณี ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง
สำนักงานปลัดกระทรวง
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
9888 | การแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการมาตรวิทยาแห่งชาติเพิ่มขึ้น | อว. | 03/11/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง
นายสรนิต ศิลธรรม เป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการมาตรวิทยาแห่งชาติ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๓ พฤศจิกายน
๒๕๖๓) เป็นต้นไป และให้ ผู้ได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิเพิ่มขึ้นอยู่ในตำแหน่งเท่ากับวาระที่เหลืออยู่ของกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งได้แต่งตั้งไว้แล้ว
ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
9889 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (นางพันทิพา เอี่ยมสุธา เอกะโรหิต และ นายนิกรเดช พลางกูร) | กต. | 03/11/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงการต่างประเทศ ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน ๒ ราย เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่าง ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไป ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเสนอ ดังนี้
๑. นางพันทิพา เอี่ยมสุทธา เอกะโรหิต ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูต สถานเอกอัครราชทูต
ณ กรุงมาดริด ราชอาณาจักรสเปน
๒. นายนิกรเดช พลางกูร ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูต สถานเอกอัครราชทูต
ณ กรุงฮานอย สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
9890 | การแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลเครดิต | กค. | 03/11/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลเครดิต จำนวน ๕ คน เนื่องจากกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิเดิมได้ดำรงตำแหน่งครบวาระสองปี โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๓ พฤศจิกายน ๒๕๖๓) เป็นต้นไป ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเสนอ ดังนี้ ๑. ด้านการคุ้มครองผู้บริโภค ๒ คน ๑.๑ นางดาราพร ถิระวัฒน์ ๑.๒. นายอรรถพล อรรถวรเดช ๒.
ด้านการเงินการธนาคาร ๑ คน นางอัมพร ปุรินทวรกุล ๓.
ด้านคอมพิวเตอร์ ๑ คน นายอนุชิต
อนุชิตานุกูล ๔. ผู้แทนผู้ประกอบการค้าด้านธุรกิจภาคเอกชน
๑ คน นายธีรนันท์ ศรีหงส์
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
9891 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทานคลองน้ำหู เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน พ.ศ. .... | กษ. | 28/10/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทานคลองน้ำหู
เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน พ.ศ. ....
มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้ทางน้ำชลประทานคลองน้ำหู ในท้องที่ตำบลเนินพระ อำเภอเมืองระยอง
จังหวัดระยอง เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน
จากผู้ใช้น้ำที่นำน้ำไปใช้เพื่อกิจการโรงงาน การประปา
หรือกิจการอื่นนอกจากภาคเกษตรกรรม เพื่อประโยชน์ในการควบคุมดูแลปริมาณน้ำ
และให้การใช้น้ำเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ
และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
9892 | ประกาศคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน เรื่อง นโยบายการตรวจเงินแผ่นดินประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 | ตผ. | 28/10/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบประกาศคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน
เรื่อง นโยบายการตรวจเงินแผ่นดินประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๔ ลงวันที่ ๓๐ กันยายน
พ.ศ. ๒๕๖๓
เพื่อให้ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดินใช้เป็นกรอบในการจัดทำแผนการตรวจสอบและแผนการปฏิบัติราชการ
อันจะส่งผลให้การตรวจเงินแผ่นดินและการใช้จ่ายเงินของหน่วยรับตรวจเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
เกิดผลสัมฤทธิ์สูงสุดต่อประเทศชาติและประชาชน
ตามที่สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
9893 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินที่จะเวนคืน ในท้องที่ตำบลบ้านดู่ ตำบลนางแล และตำบลริมกก อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย พ.ศ. .... | คค. | 28/10/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินที่จะเวนคืน
ในท้องที่ตำบลบ้านดู่ ตำบลนางแล และตำบลริมกก อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย
พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดเขตที่ดินที่จะเวนคืน ในท้องที่ตำบลบ้านดู่
ตำบลนางแล และตำบลริมกก อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย เพื่อสร้างทางหลวงชนบท
สายเชื่อมระหว่างทางหลวงแผ่นดินหมายเลข ๑ กับทางหลวงชนบท ชร.๕๐๒๓ และขยายถนน
สายเชื่อมระหว่างทางหลวงแผ่นดินหมายเลข ๑ กับถนนบ้านฝั่งหมิ่น-บ้านหนองบัวแดง
และสร้างทางหลวงชนบทสายเชื่อมระหว่างทางหลวงแผ่นดินหมายเลข ๑๒๐๗ กับถนนเลี่ยงเมืองเชียงราย
ส่วนที่ ๒ (กม.ที่ ๑๕+๕๒๐)
เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาการจราจรที่คับคั่งบริเวณสี่แยกศูนย์ราชการ
พร้อมบริเวณใกล้เคียง
และเป็นการเปิดพื้นที่ของการพัฒนาด้านเหนือของสนามบินนานาชาติแม่ฟ้าหลวงเชียงราย
เพื่อรองรับการเจริญเติบโตของเมืองในอนาคต และสนับสนุนการพัฒนาเมืองเชียงรายให้เป็นศูนย์กลางทางภาคเหนือตอนบน
รวมทั้งเป็นประตูการค้าชายแดนกับประเทศเพื่อนบ้าน
ตลอดจนเพื่อให้เจ้าหน้าที่หรือผู้ซึ่งได้รับมอบหมายจากเจ้าหน้าที่มีสิทธิเข้าไปทำการสำรวจเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ที่จะต้องเวนคืนที่แน่นอน
ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา
แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงคมนาคมรับความเห็นของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นว่า
ก่อนการก่อสร้างทางหลวงชนบททุกเส้นทาง ขอให้กรมทางหลวงชนบทให้ความสำคัญและตระหนักถึงแนวทางในการป้องกันปัญหาที่อาจเกิดจากการก่อสร้างทางหลวงชนบทกีดขวางการไหลของน้ำตามธรรมชาติ
และให้กระทรวงคมนาคมพิจารณาจัดลำดับความสำคัญและบูรณาการแผนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่จะดำเนินการเพื่อแก้ปัญหาการจราจรติดขัดในพื้นที่เมืองเชียงราย
และรองรับการขยายตัวของเมืองเพื่อประกอบการพิจารณาจัดสรรงบประมาณ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
9894 | รายงานผลการดำเนินการโครงการจิตอาสาพระราชทาน | นร.01 | 28/10/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการดำเนินการโครงการจิตอาสาพระราชทาน
ประจำเดือนกรกฎาคม ๒๕๖๓ ตามที่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเสนอ สรุปได้ ดังนี้ ๑. การจัดฝึกอบรมชุดปฏิบัติการจิตอาสาภัยพิบัติประจำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
(อปท.) โดย อปท. ทุกแห่งได้จัดตั้งชุดปฏิบัติการจิตอาสาภัยพิบัติฯ
ครบถ้วนและบันทึกรายชื่อผู้สมัครในระบบรายงานแบบอิเล็กทรอนิกส์ (E-Report)
ของกรมการปกครอง ๔๓๕,๗๓๕ คน และได้จัดฝึกอบรมชุดปฏิบัติการจิตอาสาภัยพิบัติฯ
ใน ๖๒ จังหวัด ๑,๔๔๑ อปท. มีผู้ผ่านการอบรมแล้ว จำนวน ๗๔,๔๖๖ คน ๒. การฝึกอบรม
“จิตอาสาราชทัณฑ์ (จอส.รท.)”
เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ต้องขังที่มีจิตอาสาได้เข้าร่วมโครงการในการเป็นจิตอาสาช่วยเหลือเรือนจำและสังคม
โดยไม่หวังสิ่งตอบแทน ก่อให้เกิดความภาคภูมิใจแก่ตัวผู้ต้องขัง
ซึ่งมีหลักสูตรระยเวลาการฝึกอบรม จำนวน ๓ วัน ชั่วโมงการศึกษา ๑๕ ชั่วโมง หมวดวิชา
จำนวน ๗ วิชา ผู้เข้ารับการฝึกอบรมตั้งแต่ ๒๐ คนขึ้นไป แต่ไม่เกิน ๕๐ คน ต่อรุ่น ๓.
โครงการปลูกป่าและป้องกันไฟป่า โดยศูนย์อำนวยการใหญ่จิตอาสาพระราชทานร่วมกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชนได้จัดทำโครงการดังกล่าว
โดยกำหนดพื้นที่เป้าหมายดำเนินโครงการในพื้นที่ลุ่มน้ำชั้น ๑ และชั้น ๒ ครอบคลุมป่าต้นน้ำ
ป่าชายเลน ป่าพรุ และที่ดินของรัฐประเภทอื่น ๆ ไม่น้อยกว่า ๒.๖๘ ล้านไร่ ในพื้นที่
๗๖ จังหวัด และกรุงเทพมหานคร ในช่วงปี ๒๕๖๓-๒๕๗๐ ๔.
การจัดกิจกรรมจิตอาสา เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
๒๘ กรกฎาคม ๒๕๖๓ ได้แก่ การจัดกิจกรรมจิตอาสา
“ชีวิตใหม่ใต้ร่มพระบารมี...เราสร้างไปด้วยกัน” และการจัดกิจกรรมจิตอาสาพัฒนา
บำเพ็ญสาธารณประโยชน์ ๕.
ข้อมูลจำนวนจิตอาสาและกิจกรรมจิตอาสา ณ วันที่ ๓๑ กรกฎาคม ๒๕๖๓ มีจิตอาสาลงทะเบียน
รวมทั้งสิ้น ๖,๖๖๑,๐๔๗ คน โดยมีการจัดกิจกรรมจิตอาสาพัฒนา จำนวน ๔๙,๘๔๔ ครั้ง และกิจกรรมจิตอาสาภัยพิบัติฯ
จำนวน ๖๒๗ ครั้ง
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
9895 | ร่างกฎกระทรวงว่าด้วยการควบคุมกระเช้าไฟฟ้า พ.ศ. .... | มท. | 28/10/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑.
อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงว่าด้วยการควบคุมกระเช้าไฟฟ้า พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์
วิธีการ และเงื่อนไขในการก่อสร้าง การอนุญาตให้ใช้ การตรวจสอบมาตรฐานการรับน้ำหนัก
ความปลอดภัย และคุณสมบัติของวัสดุหรืออุปกรณ์ที่จำเป็นเกี่ยวเนื่องกับกระเช้าไฟฟ้า
และการกำหนดให้กระเช้าไฟฟ้าเป็นอาคารประเภทควบคุมการใช้งาน ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ
และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา
โดยให้พิจารณาการกำหนดอัตราค่าธรรมเนียมในเรื่องนี้ให้สอดคล้องตามนัยมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๒ มกราคม ๒๕๖๓ (เรื่อง แนวทางการทบทวนอัตราค่าธรรมเนียมในการอนุมัติ อนุญาต
ของทางราชการ) และให้รับความเห็นของกระทรวงสาธารณสุขและสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัยที่เห็นควรเพิ่มเติมมาตรการความปลอดภัยใน
หมวด ๒ ข้อ ๒๐ ของร่างกฎกระทรวงดังกล่าวด้วยการจัดให้มีพื้นที่หรือห้องพร้อมเตียงปฐมพยาบาล
ยาและเวชภัณฑ์ที่จำเป็นสำหรับการปฐมพยาบาล
และ/หรือการช่วยฟื้นคืนชีพเบื้องต้นตามความเหมาะสม นอกจากนี้ ในร่างข้อ ๑๒ การที่เจ้าพนักงานท้องถิ่นตรวจสอบเพื่อออกใบรับรอง
ต้องเป็นกรณีที่เห็นว่าการดำเนินการเป็นไปโดยถูกต้องตามที่ได้รับอนุญาต และนำส่งเอกสารหลักฐานครบถ้วน
ซึ่งถ้อยคำในส่วน “...และมีผลการพิจารณาตรวจสอบ พร้อมทั้งจัดให้มีการประกันภัยตามข้อ
๑๑...” ควรแก้ไขเป็น “...และมีผลการพิจารณาตรวจสอบและทดสอบกระเช้าไฟฟ้า
พร้อมทั้งหลักฐานการจัดให้มีการประกันเพื่อประกันความรับผิดชอบของบุคคลภายนอก ตามที่กำหนดในข้อ
๑๑ วรรคสอง...” เพื่อให้เกิดความชัดเจน ไปประกอบการพิจารณาด้วย
แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒.
ให้กระทรวงมหาดไทยรับความเห็นของกระทรวงคมนาคมและสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรปฏิบัติตามกฎหมาย
ระเบียบ มติคณะรัฐมนตรีและความเห็นของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
เพื่อให้เกิดความโปร่งใสในการดำเนินงานตามหลักธรรมาภิบาลเกิดผลสัมฤทธิ์
หรือประโยชน์ต่อภาครัฐและประชาชนเป็นสำคัญ และกรมโยธาธิการและผังเมืองควรกำกับดูแลให้เจ้าพนักงานท้องถิ่น
เจ้าของหรือผู้ครอบครองอาคารควบคุมการขออนุญาตก่อสร้าง การตรวจสอบและทดสอบความมั่นคงแข็งแรง
มาตรฐานความปลอดภัย
และคุณสมบัติของวัสดุหรืออุปกรณ์ที่จำเป็นเกี่ยวเนื่องกับกระเช้าไฟฟ้า
รวมทั้งการปฏิบัติอื่น ๆ ให้เป็นไปตามข้อกำหนดของกฎกระทรวงดังกล่าวอย่างเข้มงวดต่อไป
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
9896 | ร่างบันทึกความเข้าใจระหว่างสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรมแห่งราชอาณาจักรไทย และสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงความมั่นคงสาธารณะ สาธารณรัฐประชาชนจีน เพื่อแลกเปลี่ยนความรู้ทางวิชาการและความร่วมมือทางนิติวิทยาศาสตร์ | ยธ. | 28/10/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
ดังนี้ ๑. เห็นชอบร่างบันทึกความเข้าใจระหว่างสถาบันนิติวิทยาศาสตร์
กระทรวงยุติธรรมแห่งราชอาณาจักรไทย และสถาบันนิติวิทยาศาสตร์
กระทรวงความมั่นคงสาธารณะ สาธารณรัฐประชาชนจีน เพื่อแลกเปลี่ยนความรู้ทางวิชาการและความร่วมมือทางนิติวิทยาศาสตร์
(Draft Memorandum of Understanding between The Central Institute
of Forensic Science, Ministry of Justice of the Kingdom of Thailand and
Institute of Forensic Science, Ministry of Public Security of China on Forensic
Science Academic Exchange and Cooperation) และให้ผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์เป็นผู้ลงนามฝ่ายไทยในร่างบันทึกความเข้าใจฯ
โดยร่างบันทึกความเข้าใจฯ มีสาระสำคัญเกี่ยวกับความร่วมมือและช่วยเหลือด้านการเสริมสร้างศักยภาพเกี่ยวกับ
(๑) การพัฒนาวิชาชีพ (การแลกเปลี่ยนบุคลากรและการฝึกอบรม) และ (๒) การพัฒนาเทคนิค
(การพัฒนาฐานข้อมูลด้านไบโอเมตริกส์และการพัฒนาเทคนิค วิธีการและเทคโนโลยี
ผู้เชี่ยวชาญและสมรรถนะห้องปฏิบัติการในการตรวจดีเอ็นเอ (DNA) ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ ทั้งนี้
หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างบันทึกความเข้าใจฯ
ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้
ให้กระทรวงยุติธรรมดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง
พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวด้วย ๒.
ให้กระทรวงยุติธรรมรับความเห็นของกระทรวงการต่างประเทศ สำนักงบประมาณ สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ
และข้อสังเกตของกระทรวงพาณิชย์ เช่น
ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นตามร่างบันทึกความเข้าใจฯ
ควรให้ใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีของหน่วยงานตามความจำเป็นและเหมาะสม
และควรพิจารณาหลักประกันในการป้องกันไม่ให้ต่างชาติเข้าถึงระบบฐานข้อมูลอัตลักษณ์บุคคลของไทย
เป็นต้น ไปดำเนินการต่อไปด้วย |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
9897 | ร่างระเบียบคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย ว่าด้วยหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการจัดเก็บเงินเข้ากองทุนอ้อยและน้ำตาลทรายเพื่อใช้ในการดำเนินการตามวัตถุประสงค์ของกองทุนอ้อยและน้ำตาลทราย (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | อก. | 28/10/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑.
เห็นชอบในหลักการร่างระเบียบคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย ว่าด้วยหลักเกณฑ์ วิธีการ
และเงื่อนไขการจัดเก็บเงินเข้ากองทุนอ้อยและน้ำตาลทรายเพื่อใช้ในการดำเนินการตามวัตถุประสงค์ของกองทุนอ้อยและน้ำตาลทราย
(ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....
มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมระเบียบคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย
ว่าด้วยหลักเกณฑ์ วิธีการ
และเงื่อนไขการจัดเก็บเงินเข้ากองทุนอ้อยและน้ำตาลทรายเพื่อใช้ในการดำเนินการตามวัตถุประสงค์ของกองทุนอ้อยและน้ำตาลทราย
พ.ศ. ๒๕๖๓ เพื่อขอขยายระยะเวลาการนำส่งเงินของโรงงานเข้ากองทุนอ้อยและน้ำตาลทรายสำหรับฤดูการผลิตปี
๒๕๖๐/๒๕๖๑ และฤดูการผลิตปี ๒๕๖๑/๒๕๖๒
โดยให้โรงงานน้ำตาลทรายต้องนำส่งเงินเข้ากองทุนอ้อยและน้ำตาลทรายภายใน ๑๘๐ วัน
นับตั้งแต่วันที่ ๒๐ สิงหาคม ๒๕๖๓ เป็นต้นไป ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ
และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน
แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒.
ให้กระทรวงอุตสาหกรรมรับความเห็นของกระทรวงการต่างประเทศและสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
เช่น ควรเร่งรัดกำหนดราคาอ้อยขั้นสุดท้ายและผลตอบแทนการผลิตและจำหน่ายน้ำตาลทรายขั้นสุดท้าย
ฤดูการผลิตปี ๒๕๖๐/๒๕๖๑ และปี ๒๕๖๑/๒๕๖๒
เพื่อให้การบังคับใช้ร่างระเบียบดังกล่าวเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ เป็นต้น ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
9898 | การอนุญาตให้เรือสำราญและกีฬา (เรือยอร์ช) เข้ามาในราชอาณาจักร (ร่างประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การอนุญาตให้คนต่างด้าวบางจำพวกอยู่ในราชอาณาจักรเป็นกรณีพิเศษ) | คค. | 28/10/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. เห็นชอบร่างประกาศกระทรวงมหาดไทย
เรื่อง การอนุญาตให้คนต่างด้าวบางจำพวกอยู่ในราชอาณาจักรเป็นกรณีพิเศษ
มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดคุณสมบัติของคนต่างด้าวที่มีสิทธิขอรับการตรวจลงตราประเภทนักท่องเที่ยวประเภทพิเศษ
[Special Tourist Visa (STV)] รวมทั้งกำหนดหลักเกณฑ์
วิธีการ และเงื่อนไขการขออนุญาตและการอนุญาตเพื่ออยู่ในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราว
เพื่อเปิดรับนักท่องเที่ยวโดยเรือสำราญและกีฬา ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ
และให้ดำเนินการต่อไปได้ ๒.
ให้กระทรวงคมนาคมรับข้อสังเกตของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาและสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
เช่น (๑)
ควรพิจารณาให้บุคคลต่างด้าวที่มีความประสงค์จะเดินทางเข้าประเทศไทยเข้ากักตัวในโรงแรมที่พักที่เป็นสถานที่กักกันโรคแห่งรัฐทางเลือก
หรือสถานกักกันในโรงพยาบาลทางเลือกในราชอาณาจักรไทย แทนการกักตัวภายในเรือ
เพื่อเป็นการลดความเสี่ยงในการติดเชื้อระหว่างกันของคนต่างด้าวภายในเรือ (๒)
ควรคำนึงถึงความพร้อมของแนวทางในการบริหารจัดการของท่าเรือที่จะรองรับนักท่องเที่ยว
และ (๓)
ควรหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในรายละเอียดเพื่อให้สามารถเกิดผลในทางปฏิบัติโดยเร็ว
เป็นต้น ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย ๓. ให้กระทรวงคมนาคมได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี)
ในการเสนอเรื่องนี้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
9899 | ขออนุมัติร่างบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือในโครงการภายใต้กองทุนพิเศษแม่โขง-ล้านช้าง ประจำปี 2563 ระหว่างกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย | กษ. | 28/10/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. เห็นชอบร่างบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือในโครงการภายใต้กองทุนพิเศษแม่โขง-ล้านช้าง
ประจำปี ๒๕๖๓ ระหว่างกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีน
ประจำประเทศไทย และอนุมัติให้ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์หรือผู้ที่ได้รับมอบหมายเป็นผู้ลงนามในร่างบันทึกความเข้าใจฯ
(กระทรวงเกษตรและสหกรณ์จะลงนามในบันทึกความเข้าใจฯ ร่วมกับฝ่ายจีนภายในเดือนตุลาคม
๒๕๖๓) โดยร่างบันทึกความเข้าใจฯ มีวัตถุประสงค์เพื่อกำหนดแนวทางในการบริหารจัดการงบประมาณของโครงการที่ได้รับการอนุมัติจากฝ่ายจีนให้เกิดประสิทธิภาพในการใช้กองทุนพิเศษแม่โขง-ล้านช้าง
อย่างสูงสุด ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ ๒. หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างบันทึกความเข้าใจฯ
ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้
ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ดำเนินการได้ พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวตามหลักเกณฑ์ของมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การจัดทำหนังสือสัญญาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรือองค์การระหว่างประเทศ)
ด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
9900 | ร่างกฎกระทรวงยกเว้นค่าธรรมเนียมให้แก่โรงงานของมูลนิธิชัยพัฒนา พ.ศ. .... | อก. | 28/10/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงยกเว้นค่าธรรมเนียมให้แก่โรงงานของมูลนิธิชัยพัฒนา
พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการยกเว้นค่าธรรมเนียมที่เรียกเก็บตามพระราชบัญญัติโรงงาน
พ.ศ. ๒๕๓๕
และที่แก้ไขเพิ่มเติมให้แก่โรงงานของมูลนิธิชัยพัฒนาที่ได้ดำเนินงานตามโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ
เพื่อเป็นการส่งเสริมโรงงานของมูลนิธิและลดภาระค่าใช้จ่ายค่าธรรมเนียมของมูลนิธิชัยพัฒนา
ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา
แล้วดำเนินการต่อไปได้
|