ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 439 จากทั้งหมด 6200 หน้า แสดงรายการที่ 8761 - 8780 จากข้อมูลทั้งหมด 123994 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
8761 | ผลการลงนามความตกลงให้ความสนับสนุนด้านการเงิน (Financing Agreement) “โครงการการรวมตัวทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาคอาเซียนจากสหภาพยุโรปเพิ่มเติมต่อประเทศไทย (ARISE Plus -Thailand) ในสาขาความช่วยเหลือด้านการค้า” | พณ. | 23/03/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการลงนามความตกลงให้ความสนับสนุนด้านการเงิน
(Financing Agreement) “โครงการการรวมตัวทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาคอาเซียนจากสหภาพยุโรปเพิ่มเติมต่อประเทศไทย
(ARISE Plus-Thailand) ในสาขาความช่วยเหลือด้านการค้า” ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ
สรุปได้ ดังนี้ ๑. กระทรวงพาณิชย์ได้หารือกับสหภาพยุโรปเพื่อหาข้อสรุปร่วมกันเกี่ยวกับร่างความตกลงฯ
โดยทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องกับการปรับเปลี่ยนถ้อยคำเพื่อให้เกิดความถูกต้องและชัดเจนใน
๒ ส่วน ได้แก่ (๑) ความตกลงหลัก มีการระบุชื่อหน่วยงานผู้รับผิดชอบหลักของฝ่ายไทยเพื่อความชัดเจน
และเพิ่มชื่อกระทรวงพาณิชย์ในสวนของที่อยู่หน่วยงาน ตำแหน่งผู้ลงนามฝ่ายไทย
รวมทั้งมีการเปลี่ยนแปลงชื่อผู้ลงนามของสหภาพยุโรป และ (๒) ภาคผนวก ๒
เงื่อนไขทั่วไป มีการปรับแก้ถ้อยคำเพื่อความถูกต้องและสอดคล้องกับบริบทระหว่างข้อย่อย
ทั้งนี้ การปรับแก้ถ้อยคำดังกล่าวไม่ได้เปลี่ยนแปลงในสาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้ ๒. กระทรวงพาณิชย์ได้รับความตกลงฯ
ฉบับสมบูรณ์ที่ลงนามแล้วจากสหภาพยุโรป เมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๖๓
และได้ส่งต้นฉบับของความตกลงฯ ไปเก็บรักษาไว้ที่กรมสนธิสัญญาและกฎหมาย
กระทรวงการต่างประเทศด้วยแล้ว
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
8762 | ผลการประชุมคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (นัดพิเศษ) | นร.14 | 23/03/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
ดังนี้ ๑. รับทราบผลการประชุมคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ
(นัดพิเศษ) เมื่อวันที่ ๒๑ มกราคม ๒๕๖๔ ซึ่งที่ประชุมรับทราบรายงานสถานการณ์น้ำปัจจุบัน
การจัดทำงบประมาณรายจ่ายบูรณาการแผนงานบูรณาการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ
ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๕
และผลการดำเนินงานคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนโครงการขนาดใหญ่และโครงการสำคัญ ครั้งที่
๑/๒๕๖๔ รวมทั้งพิจารณาโครงการขนาดใหญ่ที่มีความพร้อมเสนอขอตั้งงบประมาณปี พ.ศ.
๒๕๖๕ จำนวน ๕ โครงการ การกำหนดให้ประธานกรรมการ กรรมการ
และอนุกรรมการได้รับเบี้ยประชุม ค่าพาหนะ ค่าเบี้ยเลี้ยง ค่าเช่าที่พัก
และค่าใช้จ่ายอย่างอื่นตามที่คณะรัฐมนตรีกำหนด ที่ออกตามความในพระราชบัญญัติทรัพยากรน้ำ
พ.ศ. ๒๕๖๑ มาตรา ๒๒ และมาตรา ๓๖ การแต่งตั้งคณะอนุกรรมการบริหาร
พัฒนา อนุรักษ์ และฟื้นฟูคลองแสนแสบ และการมอบหมายคณะอนุกรรมการภายใต้คณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ
และหน่วยงานดำเนินการตามความเห็นและข้อเสนอแนะจากการประชุมกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ
ครั้งที่ ๑/๒๕๖๔ ๒.
มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามมติคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติและข้อสั่งการของประธานกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ
ในการประชุมคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (นัดพิเศษ) เมื่อวันที่ ๒๑
มกราคม ๒๕๖๔ และให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
สำนักงบประมาณ และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นว่า (๑)
การปรับเปลี่ยนพันธุ์ข้าวให้เหมาะสมกับปริมาณน้ำน้อยเป็นมาตรการที่สามารถดำเนินการได้
และพันธุ์ข้าวต้องสอดคล้องกับความต้องการของตลาด
โดยส่งเสริมและถ่ายทอดเทคโนโลยีการปลูกข้าวน้ำน้อย ๒ รูปแบบ คือ
การให้น้ำแบบเปียกสลับแห้ง และการให้น้ำแบบดินชุมน้ำ (๒)
ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดทำแผนการดำเนินการ และยืนยันความพร้อมของโครงการ
โดยมีรายละเอียดของแบบรูปรายการ สถานที่ดำเนินการ ประมาณการค่าใช้จ่ายในการดำเนินการให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน
โดยคำนึงถึงความครอบคลุมของทุกแหล่งเงิน ศักยภาพและความสามารถในการใช้จ่าย
ความคุ้มค่า ความประหยัด เป้าหมาย
และประโยชน์ที่ทางราชการและประชาชนจะได้รับเป็นสำคัญ
เพื่อเสนอขอรับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีตามความจำเป็นและเหมาะสมตามขั้นตอนต่อไป
และ (๓) การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙
ทำให้ความต้องการงบประมาณเพื่อใช้จ่ายสำหรับฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมเพิ่มขึ้น
ดังนั้น
หน่วยงานที่ได้รับการจัดสรรงบประมาณควรดำเนินการด้วยความรอบคอบและยึดหลักความคุ้มค่าของการใช้จ่ายงบประมาณ
เพื่อให้โครงการต่าง ๆ
ดำเนินการแล้วเสร็จตามแผนงานอย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลในการบรรเทาปัญหาด้านทรัพยากรน้ำตามวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้
ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย ๓.
ในส่วนของการดำเนินแผนงาน/โครงการที่มีวงเงินงบประมาณตั้งแต่ ๑,๐๐๐ ล้านบาทขึ้นไป
ให้หน่วยงานเจ้าของแผนงาน/โครงการดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบ
และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องกับการจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปีอย่างครบถ้วนด้วย |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
8763 | ร่างกฎกระทรวงยกเว้นค่าธรรมเนียมรายปีให้แก่ผู้ได้รับใบอนุญาตจัดตั้งคลังสินค้าทัณฑ์บน โรงพักสินค้า ที่มั่นคง ท่าเรือรับอนุญาต และเขตปลอดอากร และผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการในเขตปลอดอากรตามกฎหมายว่าด้วยศุลกากร พ.ศ. .... | กค. | 23/03/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
ดังนี้ ๑.
เห็นชอบร่างกฎกระทรวงยกเว้นค่าธรรมเนียมรายปีให้แก่ผู้ได้รับใบอนุญาตจัดตั้งคลังสินค้าทัณฑ์บน
โรงพักสินค้า ที่มั่นคง ท่าเรือรับอนุญาต และเขตปลอดอากร
และผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการในเขตปลอดอากรตามกฎหมายว่าด้วยศุลกากร พ.ศ. ....
มีสาระสำคัญเป็นการยกเว้นค่าธรรมเนียมรายปี ประจำปี พ.ศ. ๒๕๖๔
ให้แก่ผู้ได้รับอนุญาตจัดตั้งคลังสินค้าทัณฑ์บน โรงพักสินค้า ที่มั่นคง ท่าเรือรับอนุญาต
เขตปลอดอากร และผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการในเขตปลอดอากร ทั้งนี้
เพื่อช่วยเหลือเยียวยาและบรรเทาผลกระทบที่เกิดขึ้นแก่ผู้ประกอบการในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
๒๐๑๙ (COVID-19) ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว และให้ดำเนินการต่อไปได้ ๒.
ให้กระทรวงการคลังรับความเห็นของกระทรวงคมนาคม สำนักงบประมาณ
และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เช่น
เห็นควรสร้างการรับรู้และความเข้าใจ รวมทั้งจัดทำประมาณการรายได้
เพื่อกำหนดไว้ในแผนการคลังระยะปานกลางให้ถูกต้องครบถ้วน
และใช้เป็นกรอบในการวางแผนการดำเนินการทางการเงินการคลังและงบประมาณของประเทศ
ตลอดจนติดตามประเมินผลสัมฤทธิ์และรายงานผลการดำเนินงานตามมาตรการดังกล่าว
ตามนัยแห่งพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. ๒๕๖๑
และเห็นควรจัดทำรายงานเปรียบเทียบประโยชน์ที่ได้รับกับการสูญเสียรายได้ที่เกิดขึ้นจริงกับประมาณการตามนัยมาตรา
๒๗ ของพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. ๒๕๖๑
เสนอคณะรัฐมนตรีรับทราบทุกสิ้นปีงบประมาณจนกว่าจะดำเนินการดังกล่าวแล้วเสร็จ
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
8764 | การแต่งตั้งกงสุลกิตติมศักดิ์ ณ เมืองดอร์นบีร์น สาธารณรัฐออสเตรีย (นายเยือร์เกิน พิฟเฟอร์) | กต. | 23/03/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายเยือร์เกิน
พิฟเฟอร์ (Mr. Jurgen Piffer) ให้ดำรงตำแหน่งกงสุลกิตติมศักดิ์ ณ เมืองดอร์นบีร์น สาธารณรัฐออสเตรีย โดยมีเขตกงสุลครอบคลุมรัฐโฟราร์ลแบร์ก
สืบแทน นายเปเตอร์ อัมโบรส ฟิตซ์ (Mr. Peter
Ambros Fitz) ซึ่งลาออกจากตำแหน่ง ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
8765 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (นายวิชิตร์ แสงทองล้วน) | นร.12 | 23/03/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายวิชิตร์
แสงทองล้วน ข้าราชการพลเรือนสามัญ ตำแหน่งผู้ช่วยเลขาธิการ ก.พ.ร.
(นักบริหารระดับต้น) สำนักงาน ก.พ.ร. ให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาการพัฒนาระบบราชการ (นักพัฒนาระบบราชการทรงคุณวุฒิ)
สำนักงาน ก.พ.ร. สำนักนายกรัฐมนตรี ตั้งแต่วันที่ ๒ ธันวาคม ๒๕๖๓
ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่สำนักงาน ก.พ.ร. เสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
8766 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (นายกิตติพงศ์ แซ่เจ็ง) | สธ. | 23/03/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง
นายกิตติพงศ์ แซ่เจ็ง ข้าราชการพลเรือนสามัญ ตำแหน่งผู้อำนวยการสำนัก [ผู้อำนวยการเฉพาะด้าน
(แพทย์) ระดับสูง] สำนักอนามัยการเจริญพันธุ์
กรมอนามัยให้ดำรงตำแหน่งนายแพทย์ทรงคุณวุฒิ ด้านส่งเสริมสุขภาพ กรมอนามัย
กระทรวงสาธารณสุข ตั้งแต่วันที่๑๖ กันยายน ๒๕๖๓ ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์
ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
8767 | รัฐบาลสหพันธ์สาธารณรัฐไนจีเรียเสนอขอแต่งตั้งเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งสหพันธ์สาธารณรัฐไนจีเรียประจำประเทศไทย (นายโอวีคูโรมา โอโรกุน เจบะฮ์) | กต. | 23/03/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายโอวีคูโรมา
โอโรกุน เจบะฮ์ (Mr. Ovikuroma Orogun Diebah) ให้ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งสหพันธ์สาธารณรัฐไนจีเรียประจำประเทศไทยคนใหม่
โดยมีถิ่นพำนัก ณ กรุงเทพมหานคร สืบแทน นายอาห์เมด นูฮู บามัลลี (Mr. Ahmed
Nuhu Bamalli) ซึ่งครบวาระการดำรงตำแหน่ง ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
8768 | แต่งตั้งกรรมการอื่นในคณะกรรมการองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (นายรัตนะ สวามีชัย และ นางสาวชวนชม กิจพันธ์) | กษ. | 23/03/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งกรรมการอื่นในคณะกรรมการองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร
จำนวน ๒ คน แทนผู้ที่ลาออก
และให้ผู้ซึ่งได้รับแต่งตั้งอยู่ในตำแหน่งเท่ากับวาระที่เหลืออยู่ของกรรมการซึ่งแต่งตั้งไว้แล้ว
ทั้งนี้ ให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๒๓ มีนาคม ๒๕๖๔) เป็นต้นไป ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ
ดังนี้ ๑. นายรัตนะ สวามีชัย
(ผู้แทนสถาบันเกษตรกร) ๒. นางสาวชวนชม กิจพันธ์
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
8769 | แต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการอื่นในคณะกรรมการการประปาส่วนภูมิภาค (1. นายธนาคม จงจิระ) | มท. | 23/03/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการอื่นในคณะกรรมการการประปาส่วนภูมิภาค รวม ๘ คน เนื่องจากประธานกรรมการและกรรมการอื่นเดิมได้ดำรงตำแหน่งครบวาระสามปี โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๒๓ มีนาคม ๒๕๖๔) เป็นต้นไป ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ ดังนี้ ๑. นายธนาคม จงจิระ ประธานกรรมการ ๒. พลเอก พงษ์สวัสดิ์
พรรณจิตต์ กรรมการ ๓. นายธวัช ผลความดี กรรมการ ๔. พลเอก กู้เกียรติ
ศรีนาคา กรรมการ ๕. พลตำรวจโท
เพิ่มพูน ชิดชอบ กรรมการ ๖. นายวิษณุ
ตัณฑวิรุฬห์ กรรมการ ๗. นางพรรณขนิตตา
บุญครอง กรรมการ ๘. นายธิบดี วัฒนกุล กรรมการ ผู้แทนกระทรวงการคลัง
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
8770 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทานอ่างเก็บน้ำคลองกะทะ เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน พ.ศ. .... และร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทานอ่างเก็บน้ำห้วยแม่ท้อ เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน พ.ศ. .... รวม 2 ฉบับ (ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทานอ่างเก็บน้ำคลองกะทะ เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน พ.ศ. ....) | กษ. | 16/03/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทานอ่างเก็บน้ำคลองกะทะ
เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน พ.ศ. ....
และร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทานอ่างเก็บน้ำห้วยแม่ท้อ
เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน พ.ศ. .... รวม ๒ ฉบับ มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้ทางน้ำชลประทานอ่างเก็บน้ำคลองกะทะ
ในท้องที่จังหวัดภูเก็ต และทางน้ำชลประทานอ่างเก็บน้ำห้วยแม่ท้อ
ในท้องที่จังหวัดตาก เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน
จากผู้ใช้น้ำที่นำน้ำไปใช้เพื่อกิจการโรงงาน การประปา
หรือกิจการอื่นนอกจากภาคเกษตรกรรม เพื่อประโยชน์ในการควบคุมดูแลปริมาณน้ำ
และให้การใช้น้ำเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ
และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
8771 | ร่างพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยปริญญาในสาขาวิชา อักษรย่อสำหรับสาขาวิชา ครุยวิทยฐานะ เข็มวิทยฐานะ และครุยประจำตำแหน่งของมหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | อว. | 16/03/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยปริญญาในสาขาวิชา
อักษรย่อสำหรับสาขาวิชา ครุยวิทยฐานะ เข็มวิทยฐานะ
และครุยประจำตำแหน่งของมหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....
มีสาระสำคัญเป็นกำหนดปริญญาในสาขาวิชาเพิ่มขึ้น และอักษรย่อสำหรับสาขาวิชาการบัญชี
สาขาวิชาสาธารณสุขศาสตร์ สาขาวิชารัฐศาสตร์ และสาขาวิชาศิลปกรรมศาสตร์ รวมทั้งกำหนดสีประจำสาขาวิชาดังกล่าว
ตามที่กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมเสนอ
และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
8772 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดสิทธิในการป้องกันและแก้ไขปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยรุ่นของราชการส่วนท้องถิ่น พ.ศ. .... | มท. | 16/03/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดสิทธิในการป้องกันและแก้ไขปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยรุ่นของราชการส่วนท้องถิ่น
พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขให้ราชการส่วนท้องถิ่นดำเนินการให้วัยรุ่นในเขตราชการส่วนท้องถิ่นได้รับสิทธิในการป้องกันและแก้ไขปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยรุ่น
ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา
โดยให้พิจารณาในประเด็นร่างข้อ ๕ ของร่างกฎกระทรวงดังกล่าวสมควรกำหนดให้มีการบริการข้อมูลข่าวสารโดยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์
เพื่ออำนวยความสะดวกในการเข้าถึงบริการข้อมูลข่าวสารของวัยรุ่นได้มากยิ่งขึ้น
ตามข้อสังเกตของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
8773 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทานอ่างเก็บน้ำคลองกะทะ เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน พ.ศ. .... และร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทานอ่างเก็บน้ำห้วยแม่ท้อ เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน พ.ศ. .... รวม 2 ฉบับ (ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทานอ่างเก็บน้ำห้วยแม่ท้อ เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน พ.ศ. ....) | กษ. | 16/03/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทานอ่างเก็บน้ำคลองกะทะ
เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน พ.ศ. ....
และร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทานอ่างเก็บน้ำห้วยแม่ท้อ
เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน พ.ศ. .... รวม ๒ ฉบับ มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้ทางน้ำชลประทานอ่างเก็บน้ำคลองกะทะ
ในท้องที่จังหวัดภูเก็ต และทางน้ำชลประทานอ่างเก็บน้ำห้วยแม่ท้อ
ในท้องที่จังหวัดตาก เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน
จากผู้ใช้น้ำที่นำน้ำไปใช้เพื่อกิจการโรงงาน การประปา
หรือกิจการอื่นนอกจากภาคเกษตรกรรม เพื่อประโยชน์ในการควบคุมดูแลปริมาณน้ำ
และให้การใช้น้ำเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ
และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
8774 | รายงานภาวะและแนวโน้มเศรษฐกิจไทยประจำไตรมาสที่ 4 ปี 2563 | กค. | 16/03/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานภาวะและแนวโน้มเศรษฐกิจไทยประจำไตรมาสที่
๔ ปี ๒๕๖๓ โดยมีสาระสำคัญประกอบด้วย (๑) ภาวะและแนวโน้มเศรษฐกิจโลก (๒) เศรษฐกิจและเงินเฟ้อของไทย
(๓) เศรษฐกิจไทยภายใต้การระบาดของโควิด-๑๙ ระลอกใหม่ (๔) เสถียรภาพระบบการเงินไทย
และ (๕) การดำเนินนโยบายการเงินในช่วงไตรมาสที่ ๔ ปี ๒๕๖๓ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
8775 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม สับปะรดในภาชนะบรรจุปิดสนิทต้องเป็นไปตามมาตรฐาน พ.ศ. .... | อก. | 16/03/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
ดังนี้ ๑. อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม
สับปะรดในภาชนะบรรจุปิดสนิทต้องเป็นไปตามมาตรฐาน พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการปรับปรุงมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมสับปะรดในภาชนะบรรจุปิดสนิท
เพื่อให้สอดคล้องกับความก้าวหน้าทางวิชาการและเทคโนโลยีและส่งเสริมให้เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพและมีความปลอดภัยต่อผู้บริโภคสอดคล้องกับสภาพอุตสาหกรรมในปัจจุบัน
ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา
แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒.
ให้กระทรวงอุตสาหกรรมรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาที่เห็นควรพิจารณาทบทวนความเหมาะสมของมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมที่ใช้บังคับอยู่ในปัจจุบันทั้งระบบ
เพื่อสร้างความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในอุตสาหกรรมของไทย อันจะเป็นผลดีต่อการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมของประเทศ
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
8776 | ร่างประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่อง มาตรการคุ้มครองทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ในพื้นที่อำเภอปะเหลียน อำเภอหาดสำราญ อำเภอย่านตาขาว อำเภอกันตัง และอำเภอสิเกา จังหวัดตรัง พ.ศ. .... | ทส. | 16/03/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
ดังนี้ ๑. อนุมัติหลักการร่างประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
เรื่อง มาตรการคุ้มครองทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ในพื้นที่อำเภอปะเหลียน
อำเภอหาดสำราญ อำเภอย่านตาขาว อำเภอกันตัง และอำเภอสิเกา จังหวัดตรัง พ.ศ. ....
มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดพื้นที่ให้ใช้มาตรการคุ้มครองทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง
ในพื้นที่อำเภอปะเหลียน อำเภอหาดสำราญ อำเภอย่านตาขาว อำเภอกันตัง และอำเภอสิเภา จังหวัดตรัง
เพื่อสงวน คุ้มครอง อนุรักษ์ และจัดระบบการใช้ประโยชน์ที่ยั่งยืน
รวมทั้งการสร้างความสมบูรณ์ของระบบนิเวศทางทะเลและชายฝั่ง
ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา
โดยให้รับความเห็นของกระทรวงคมนาคมที่เห็นว่า ร่างประกาศฉบับนี้ยังคงมีหลักการให้กรมเจ้าท่าต้องแจ้งไปยังอธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งล่วงหน้าไม่น้อยกว่า
๓๐ วัน ซึ่งกรณีโครงการของกรมเจ้าท่าที่อยู่ระหว่างดำเนินการและยังไม่แล้วเสร็จ
ควรได้รับการยกเว้นตามประกาศฉบับนี้ ไปประกอบการพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมรับความเห็นของกระทรวงคมนาคม
สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรประเมินผลสัมฤทธิ์ของประกาศนี้
และมาตรการที่กำหนดไว้เมื่อสิ้นระยะเวลาการบังคับใช้ด้วย
และหากพิจารณาเห็นเป็นการสมควรที่จะต้องมีมาตรการคุ้มครองทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งในบริเวณดังกล่าวเป็นการถาวร
ก็สมควรกำหนดเป็นกฎกระทรวงตามมาตรา ๒๐
แห่งพระราชบัญญัติส่งเสริมการบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง พ.ศ. ๒๕๕๘
ต่อไป และเห็นควรที่ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชน ชุมชน
และผู้ประกอบการในพื้นที่ทั้งผู้ประกอบการบนพื้นที่ชายหาดและชายฝั่งทะเล
และผู้ประกอบการเดินเรือท่องเที่ยวและประมงชายฝั่งในทะเลได้รับทราบทั่วถึง
เข้าใจถึงเจตนารมณ์ของร่างประกาศฉบับนี้ เพื่อให้ได้รับความร่วมมือจากประชาชน
ชุมชน และภาคเอกชนที่ประกอบการด้านการท่องเที่ยวและประมงในพื้นที่
ในการอนุรักษ์คุ้มครองทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งของจังหวัดตรังและพื้นที่ใกล้เคียงได้อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืนต่อไป
รวมทั้งเห็นควรพิจารณาจัดทำแผนการบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลภายใต้ร่างประกาศฉบับนี้
เพื่อให้การบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งมีประสิทธิภาพและสามารถแก้ไขปัญหาในพื้นที่ได้อย่างเป็นรูปธรรม
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
8777 | ร่างประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่อง กำหนดให้เครื่องพิมพ์อินทาลโยเป็นสินค้าที่ต้องขออนุญาตในการนำเข้ามาในราชอาณาจักร พ.ศ. .... | พณ. | 16/03/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติในหลักการร่างประกาศกระทรวงพาณิชย์
เรื่อง กำหนดให้เครื่องพิมพ์อินทาลโยเป็นสินค้าที่ต้องขออนุญาตในการนำเข้ามาในราชอาณาจักร
พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการปรับปรุงการควบคุมการนำสินค้าเข้ามาในราชอาณาจักร
โดยกำหนดให้เครื่องพิมพ์อินทาลโยเป็นสินค้าที่ต้องขออนุญาตในการนำเข้ามาในราชอาณาจักร
และปรับปรุงบทนิยามคำว่า “เครื่องพิมพ์อินทาลโย” ให้ชัดเจนยิ่งขึ้น
และยกเลิกการควบคุมเครื่องถ่ายเอกสารชนิดสอดสี ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ
และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา
แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
8778 | สรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร (วันจันทร์ที่ 15 มีนาคม 2564) | ปสส. | 16/03/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร
วันจันทร์ที่ ๑๕ มีนาคม ๒๕๖๔ ซึ่งพิจารณาระเบียบวาระการประชุมร่วมกันของรัฐสภา
ครั้งที่ ๑ (สมัยวิสามัญ) วันพุธที่ ๑๗ มีนาคม ๒๕๖๔ และครั้งที่ ๒ (สมัยวิสามัญ)
วันพฤหัสบดีที่ ๑๘ มีนาคม ๒๕๖๔ ตามที่ฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
8779 | ขอความเห็นชอบการจัดทำบันทึกความเข้าใจระหว่างสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กับสหรัฐอเมริกาด้านความร่วมมือเพื่อป้องกัน ตอบโต้ และตอบสนองต่อการก่อการร้ายที่ใช้วัสดุนิวเคลียร์และวัสดุกัมมันตรังสี | อว. | 16/03/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการจัดทำบันทึกความเข้าใจระหว่างสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กับสหรัฐอเมริกาด้านความร่วมมือเพื่อป้องกัน
ตอบโต้ และตอบสนองต่อการก่อการร้ายที่ใช้วัสดุนิวเคลียร์และวัสดุกัมมันตรังสี และอนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ
หรือผู้ที่ได้รับมอบหมายเป็นผู้ลงนามในเอกสารแจ้งการตอบรับไปยังอาเซียน
(ภายในเดือนมีนาคม ๒๕๖๔) ซึ่งการจัดทำบันทึกความเข้าใจฯ
มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นกรอบความร่วมมือระหว่างสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กับสหรัฐอเมริกาในด้านความปลอดภัยเพื่อป้องกัน
ตอบโต้ และตอบสนองต่อการก่อการร้ายที่ใช้วัสดุนิวเคลียร์และวัสดุกัมมันตรังสี
โดยกิจกรรมภายใต้บันทึกความเข้าใจฯ อาทิ การฝึกอบรม การแลกเปลี่ยนข้อมูลทางเทคนิค
และการประชุมเชิงปฏิบัติการให้หัวข้อต่าง ๆ เช่น
หน้าที่การกำกับดูแลความปลอดภัยจากกัมมันตรังสี
ระบบและมาตรการด้านความมั่นคงปลอดภัยทางนิวเคลียร์ เป็นต้น
ตามที่กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมเสนอ ทั้งนี้
หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนบันทึกความเข้าใจฯ
ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้
ให้กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมดำเนินการได้
โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
8780 | ร่างประกาศคณะกรรมการแรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ เรื่อง หลักเกณฑ์และอัตราค่ารักษาพยาบาลกรณีผู้ป่วยฉุกเฉินโรคติดต่ออันตรายตามกฎหมายว่าด้วยโรคติดต่อ กรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด 19 | รง. | 16/03/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
ดังนี้ ๑. เห็นชอบในหลักการร่างประกาศคณะกรรมการแรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์
เรื่อง
หลักเกณฑ์และอัตราค่ารักษาพยาบาลกรณีผู้ป่วยฉุกเฉินโรคติดต่ออันตรายตามกฎหมายว่าด้วยโรคติดต่อ
กรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด 19
มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์และอัตราค่ารักษาพยาบาลกรณีผู้ป่วยฉุกเฉินโรคติดต่ออันตรายตามกฎหมายว่าด้วยโรคติดต่อ
กรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด 19 เพื่อให้สอดคล้องกับประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ
และเงื่อนไขการกำหนดค่าใช้จ่ายในการดำเนินการผู้ป่วยฉุกเฉินโรคติดต่ออันตรายตามกฎหมายว่าด้วยโรคติดต่อ
กรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด 19
[Coronavirus Disease 2019 (COVID-19)] ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ
และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน
โดยให้รับความเห็นเพิ่มเติมบางประการของกระทรวงการคลัง กระทรวงสาธารณสุข
และสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ไปประกอบการพิจารณาด้วย
แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒.
ให้กระทรวงแรงงานรับความเห็นของกระทรวงการคลัง สำนักงบประมาณ
และสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|