ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 432 จากทั้งหมด 6200 หน้า แสดงรายการที่ 8621 - 8640 จากข้อมูลทั้งหมด 123994 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
8621 | ร่างบันทึกความเข้าใจสำหรับการจัดตั้งคลังเก็บสิ่งของช่วยเหลือทางไกลของอาเซียน (Satellite Warehouse) ภายใต้โครงการ DELSA | มท. | 20/04/2564 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
ดังนี้ ๑. เห็นชอบร่างบันทึกความเข้าใจ
(Memorandum of Understanding) สำหรับการจัดตั้งและการปฏิบัติงานของคลังเก็บสิ่งของช่วยเหลือทางไกลของอาเซียน
(Satellite Warehouse) ภายใต้โครงการคลังเป็นสิ่งของช่วยเหลือและระบบโลจิสติกส์เพื่อช่วยเหลือเมื่อเกิดภัยพิบัติฉุกเฉินของอาเซียน
(DELSA) ณ ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต ๑๖ ชัยนาท โดยให้อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยหรือผู้แทนในฐานะผู้ประสานงานหลัก
(Focal Point) ในคณะกรรมการอาเซียนด้านการจัดการภัยพิบัติ (ASEAN
Committee on Disaster Management : ACDM) เป็นผู้ลงนามในร่างบันทึกความเข้าใจฯ
ร่วมกับผู้อำนวยการบริหารศูนย์ประสานงานอาเซียนในการให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม
(ASEAN Coordinating Centre for Humanitarian Assistance on Disaster
Management : AHA Centre) เนื่องจากเป็นการดำเนินงานตามความตกลงอาเซียนว่าด้วยการจัดการภัยพิบัติและการตอบโต้สถานการณ์ฉุกเฉิน
ซึ่งเป็นพันธกรณีที่ประเทศไทยได้ลงนามรับรองไว้แล้ว เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๔๘ โดยร่างบันทึกความเข้าใจฯ
เป็นการกำหนดกรอบความร่วมมือระหว่างกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกับ AHA
Centre ในการจัดตั้งและเปิดปฏิบัติการคลังเก็บสิ่งของช่วยเหลือทางไกลของอาเซียน
ณ ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต ๑๖ ชัยนาท
เพื่อเตรียมความพร้อมและเพิ่มศักยภาพในการตอบโต้และให้ความช่วยเหลือเมื่อเกิดภัยพิบัติในอาเซียนได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ
สำหรับรายละเอียดในการดำเนินงานต่าง ๆ ภายใต้ร่างบันทึกความเข้าใจฯ
ที่ทั้งสองฝ่ายจะดำเนินการร่วมกัน เช่น เจ้าหน้าที่โลจิสติกส์ของ AHA
Centre ประจำประเทศไทยจะดำเนินการสนับสนุนด้านพิธีการศุลกากรทั้งหมด
กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจะจัดให้มีศูนย์ฝึกอบรมภายในสถานที่ตั้งคลังเก็บสิ่งของฯ
เป็นต้น ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ
และหากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างบันทึกความเข้าใจฯ ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้
ให้กระทรวงมหาดไทยดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง
พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ประเทศไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวตามหลักเกณฑ์ของมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๘ (เรื่อง
การจัดทำหนังสือสัญญาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรือองค์การระหว่างประเทศ) ๒. ให้กระทรวงมหาดไทยรับความเห็นของกระทรวงกลาโหมเกี่ยวกับกรณีที่มีอากาศยานทหารต่างประเทศบินผ่านหรือขึ้นลงในราชอาณาจักรให้ปฏิบัติตามมาตรา
๒๙ แห่งพระราชบัญญัติการเดินอากาศ พ.ศ. ๒๔๙๗
โดยขออนุญาตจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม
ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมได้มอบอำนนาจให้ผู้บัญชาการทหารอากาศหรือผู้แทนเป็นผู้ปฏิบัติราชการแทน
ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย |
||||||||||||||||||||||||||||||
8622 | การขอต่ออายุวงเงินกู้เบิกเงินเกินบัญชีกับธนาคารออมสิน วงเงิน 500 ล้านบาท โดยกระทรวงการคลังค้ำประกันเงินต้นและดอกเบี้ย | พม. | 20/04/2564 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
ดังนี้ ๑. เห็นชอบให้การเคหะแห่งชาติต่ออายุวงเงินกู้เบิกเงินเกินบัญชีจากธนาคารออมสิน
วงเงิน ๕๐๐ ล้านบาท ออกไปอีกเป็นระยะเวลา ๓ ปี นับตั้งแต่วันที่ ๑๒ มีนาคม ๒๕๖๔
สิ้นสุดวันที่ ๑๑ มีนาคม ๒๕๖๗ โดยมีกระทรวงการคลังค้ำประกันเงินต้นและดอกเบี้ย
เพื่อเป็นการสำรองวงเงินไว้สำหรับกรณีที่มีความจำเป็นและขาดแคลนเงินทุนหมุนเวียนในช่วงใดช่วงหนึ่ง
และเพื่อมิให้การดำเนินงานต้องกระทบกระเทือนหรือหยุดชะงักลง
โดยจะชำระคืนให้ธนาคารทันทีที่มีสภาพคล่องทางการเงินเพียงพอ
ตามที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เสนอ
และให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์รับความเห็นของกระทรวงการคลังและสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นว่า
การต่ออายุวงเงินกู้เบิกเงินเกินบัญชีในคราวต่อไป ขอให้การเคหะแห่งชาติพิจารณาเปรียบเทียบเงื่อนไขและต้นทุนการกู้เงินของสถาบันการเงินที่เหมาะสมและเป็นประโยชน์กับการเคหะแห่งชาติมากที่สุด
เพื่อประกอบการพิจารณาของคณะรัฐมนตรี ไปดำเนินการต่อไปด้วย ๒. ในครั้งต่อ ๆ ไป
ให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เร่งรัดเสนอเรื่องต่อคณะรัฐมนตรีโดยเร็ว
เพื่อให้การขอต่ออายุวงเงินกู้เบิกเงินเกินบัญชีแล้วเสร็จทันและต่อเนื่องกับระยะเวลาของอายุสัญญาเดิม
รวมทั้งเป็นไปตามข้อกำหนดและเงื่อนไขของสัญญากู้เบิกเงินเกินบัญชีด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||
8623 | ร่างกฎกระทรวงคลังก๊าซปิโตรเลียมเหลว พ.ศ. .... | พน. | 20/04/2564 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงคลังก๊าซปิโตรเลียมเหลว
พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์
วิธีการ และเงื่อนไขเกี่ยวกับการประกอบกิจการคลังก๊าซปิโตรเลียมเหลว
เพื่อให้เกิดความเหมาะสมและสอดคล้องกับสภาพการประกอบกิจการในปัจจุบัน ตามที่กระทรวงพลังงานเสนอ
และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||
8624 | การดำเนินโครงการช่วยเหลือเยียวยาเกษตรกรของรัฐบาล | นร. | 20/04/2564 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีพิจารณาเห็นว่า
เพื่อให้การช่วยเหลือเยียวยาเกษตรกรในโครงการต่าง ๆ ของรัฐบาลเป็นไปอย่างเหมาะสม
ถูกต้อง โปร่งใส บรรลุตามวัตถุประสงค์ของโครงการอย่างคุ้มค่าและเกิดประโยชน์สูงสุด
โดยไม่เกิดปัญหาความล่าช้า ชะงักงัน หรือจำเป็นต้องพิจารณาทบทวนเปลี่ยนแปลงสาระสำคัญของการดำเนินโครงการนั้น
ๆ ในภายหลัง ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อภาระงบประมาณและผลสัมฤทธิ์ของโครงการได้ ดังนั้น
คณะรัฐมนตรีจึงมีมติให้ทุกส่วนราชการที่รับผิดชอบการดำเนินโครงการช่วยเหลือเยียวยาเกษตรกร
เช่น กระทรวงการคลัง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงอุตสาหกรรม
พิจารณาจัดทำโครงการ กำหนดกลุ่มเป้าหมายและขั้นตอนการดำเนินงานให้ชัดเจน รัดกุม
ปฏิบัติได้จริงภายในระยะเวลาที่กำหนด
และตอบสนองต่อปัญหาและความเดือดร้อนของเกษตรกรอย่างแท้จริงและครบถ้วน โดยแนวทางการดำเนินการจะต้องเป็นไปอย่างถูกต้องตามกฎหมาย
ระเบียบ หลักเกณฑ์ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง (ถ้ามี) อย่างเคร่งครัด ทั้งนี้
ส่วนราชการเจ้าของโครงการจะต้องตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เป็นสาระสำคัญของโครงการให้ถูกต้องครบถ้วนและเป็นปัจจุบันก่อนนำเสนอโครงการตามขั้นตอนต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||
8625 | ขอทบทวนมติคณะรัฐมนตรี เรื่อง แนวทางการจัดเที่ยวบินขนส่งผู้แสวงบุญพิธีฮัจย์ (ถูกยกเลิกโดยมติ ครม. เมื่อวันที่ 18 ก.พ. 68 ส.ยืนยัน 4762/68) | มท. | 20/04/2564 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
ดังนี้ ๑.
เห็นชอบเป็นหลักการให้บริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน)
เป็นสายการบินแห่งชาติของไทยในการดำเนินภารกิจขนส่งผู้แสวงบุญพิธีฮัจย์ชาวไทย ๒.
ในส่วนของงบประมาณเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการจัดเที่ยวบินพิเศษเพื่อขนส่งผู้โดยสารไปประกอบพิธีฮัจย์
เนื่องจากกระทรวงคมนาคม (สำนักงานปลัดกระทรวงคมนาคม)
ได้รับจัดสรรงประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๔
รายการจัดเที่ยวบินพิเศษเพื่อเดินทางไปประกอบพิธีฮัจย์ จำนวน ๔๖.๔๘ ล้านบาท
จึงเห็นควรมอบหมายให้สำนักงานปลัดกระทรวงคมนาคมเป็นผู้ดำเนินการจัดเที่ยวบินพิเศษเพื่อไปประกอบพิธีฮัจย์ดังกล่าว
สำหรับในปีงบประมาณต่อ ๆ ไป ให้กระทรวงมหาดไทย (กรมการปกครอง) จัดทำแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ
เพื่อเสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีตามความจำเป็นและเหมาะสมตามขั้นตอนต่อไป
ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ๓.
ให้กระทรวงคมนาคมเป็นหน่วยงานหลักร่วมกับกระทรวงการคลัง กระทรวงมหาดไทย
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเกี่ยวกับการปรับปรุงมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๒๘ พฤศจิกายน ๒๕๒๑ (เรื่อง นโยบายการบินพาณิชย์ของประเทศไทย) ที่ระบุให้สายการบินของรัฐเท่านั้นเป็นสายการบินที่กำหนดของประเทศ
โดยให้พิจารณากำหนดหลักเกณฑ์/แนวทางในการพิจารณาให้ชัดเจนและครอบคลุมในทุกมิติ
รวมทั้งคำนึงถึงผลประโยชน์ของประเทศและประชาชนเป็นสำคัญ ไปพิจารณาดำเนินการให้สอดคล้องกับข้อเท็จจริงในปัจจุบันด้วย |
||||||||||||||||||||||||||||||
8626 | ขอความเห็นชอบการรับรองร่างแผนงานด้านการศึกษาของอาเซียน ปี พ.ศ. 2564 - 2568 (ASEAN Work Plan on Education 2021 – 2025) | ศธ. | 20/04/2564 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
ดังนี้ ๑.
เห็นชอบร่างแผนงานด้านการศึกษาของอาเซียน ปี พ.ศ. ๒๕๖๔-๒๕๖๘ (ASEAN
Work Plan on Education 2021-2025) รวมถึงผลผลิตที่ประเทศไทยรับเป็นเจ้าภาพ/เจ้าภาพร่วม รวมทั้งอนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการหรือผู้แทนให้การอนุมัติร่างแผนงานฯ
โดยกระทรวงศึกษาธิการจะนำร่างแผนงานฯ เสนอต่อสำนักงานเลขาธิการอาเซียน ในวันที่ ๒๓
เมษายน ๒๕๖๔ ซึ่งร่างแผนงานฯ ประกอบด้วย ๕ ผลลัพธ์ และ ๑๒ ผลผลิต โดยผลลัพธ์และผลผลิตที่ไทยรับเป็นเจ้าภาพ/เจ้าภาพร่วม
ได้แก่ (๑) การพัฒนาด้านความตระหนักรู้เกี่ยวกับอาเซียน
รวมถึงแนวปฏิบัติด้านการศึกษาที่มีความยืดหยุ่นและรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม
(๒) การเพิ่มขีดความสามารถในระดับภูมิภาคในการส่งเสริมและการประกันการเข้าถึงการศึกษาเพื่อการเรียนรู้อย่างมีคุณภาพตั้งแต่ระดับปฐมวัยจนถึงระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย
สำหรับเด็กหญิงและเด็กชาย รวมถึงเด็กและเยาวชนที่ตกหล่น และ (๓) การส่งเสริมการเข้าถึงการศึกษาและฝึกอบรมด้านเทคนิคและการอาชีวศึกษาที่มีคุณภาพเพื่อตอบสนองต่อความต้องการของตลาดแรงงานที่เปลี่ยนแปลงไป
ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ และหากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างแผนงานฯ
ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้
ให้กระทรวงศึกษาธิการดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง
พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าว ๒.
ให้กระทรวงศึกษาธิการรับข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะเพิ่มเติมของกระทรวงการอุดมศึกษา
วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ได้แก่ (๑) ประเด็นผลลัพธ์ (outcomes) ที่ ๒-๔ ควรพิจารณาให้มีความเชื่อมโยงกัน
เพื่อประโยชน์ในการพัฒนาการศึกษาแบบบูรณาการทั้งระบบ (๒) ประเด็นผลผลิต (outputs)
ควรพิจารณาถึงความสอดคล้องกับผลลัพธ์
(outcomes) โดยคำนึงถึงการพัฒนาการศึกษาในแต่ละมิติ
(๓) ประเด็นรายละเอียดกิจกรรม
ควรพิจารณาถึงความซ้ำซ้อนกับแผน/กิจกรรมภายใต้กรอบความร่วมมืออื่น ๆ
เพื่อให้สามารถดำเนินการได้อย่างมีประสิทธิภาพ (๔)
ควรพิจารณาการนำลการประเมินการดำเนินงานของแผนงานฯ มาประกอบการจัดทำแผนงานด้านการศึกษาดังกล่าว และ (๕) การพิจารณารับเป็น leading country ในแต่ละกิจกรรม ควรพิจารณาถึงประสบการณ์และแนวปฏิบัติที่ผ่านมา รวมไปถึงงบประมาณและทรัพยากรอื่น
ๆ ของหน่วยงานที่จะนำมาใช้ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||
8627 | ขออนุมัติโครงการศูนย์เปลี่ยนถ่ายรูปแบบการขนส่งสินค้าเชียงของ จังหวัดเชียงราย ของกรมการขนส่งทางบก | กค. | 20/04/2564 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ๑.
อนุมัติโครงการศูนย์เปลี่ยนถ่ายรูปแบบการขนส่งสินค้าเชียงของ จังหวัดเชียงราย
ของกรมการขนส่งทางบก และวงเงินงบประมาณรายจ่ายของโครงการฯ ตามมาตรา ๒๘
แห่งพระราชบัญญัติการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ
พ.ศ. ๒๕๕๖ ประกอบบทเฉพาะกาลมาตรา ๖๘ (๑)
แห่งพระราชบัญญัติการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน พ.ศ. ๒๕๖๒ ตามที่คณะกรรมการนโยบายการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชนเสนอ
ดังนี้ ๑.๑ ให้เอกชนร่วมลงทุนในรูปแบบ PPP
Net Cost โดยภาครัฐเป็นผู้ลงทุนค่าที่ดิน
ค่าก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐาน ขณะที่เอกชนเป็นผู้ลงทุนค่าอุปกรณ์ขนถ่ายสินค้า
อุปกรณ์สำนักงานและส่วนประกอบ
และงานระบบที่เกี่ยวข้องกับการบริหารด้านการขนส่งสินค้าและโลจิสติกส์และเอกชนเป็นผู้รับผิดชอบในส่วนของการดำเนินงานและบำรุงรักษา
(Operation and Maintenance : O&M)
ทั้งหมด
รวมทั้งเป็นผู้รับความเสี่ยงทางด้านรายได้และจ่ายค่าสัมปทานให้ภาครัฐตลอดระยะเวลา
๑๕ ปี นับจากปีเปิดให้บริการ ๑.๒ ให้ดำเนินโครงการฯ
ในกรอบวงเงินรวมสำหรับค่างานที่เกี่ยวข้องกับค่าก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐาน (ระยะที่
๒) ของโครงการฯ จำนวน ๖๖๐.๔๓ ล้านบาท
โดยให้สำนักงบประมาณจัดสรรงบประมาณตามความจำเป็นและเหมาะสมตามแผนการใช้จ่ายเงินจริง ๑.๓
กรอบวงเงินค่าตอบแทนการใช้ประโยชน์ที่ดินในส่วนของสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมของโครงการฯ
วงเงินจำนวน ๓๔,๒๑๗,๘๒๐ บาท
และวงเงินหลักประกันตามระเบียบคณะกรรมการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมที่เกี่ยวข้อง
จำนวน ๒๐๐,๐๐๐ บาท โดยให้สำนักงบประมาณจัดสรรงบประมาณตามความจำเป็นและเหมาะสมตามแผนการใช้จ่ายเงินจริง ๒.
ให้กระทรวงการคลัง (สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ) กระทรวงคมนาคม
(กรมการขนส่งทางบก) และคณะกรรมการคัดเลือกตามมาตรา ๓๖
แห่งพระราชบัญญัติการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน พ.ศ ๒๕๖๒
รับความเห็นของกระทรวงการคลัง กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงมหาดไทย สำนักงบประมาณ
และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เช่น
เห็นควรที่กรมการขนส่งทางบกและคณะกรรมการคัดเลือกฯ พิจารณากลไกที่จะทำให้ภาครัฐสามารถกำหนดขนาดและระยะเวลาการลงทุนพัฒนาโครงการฯ
ระยะที่ ๒ ให้สอดคล้องกับแผนการดำเนินโครงการรถไฟทางคู่สายเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ
หากกรณีการดำเนินการก่อสร้างไม่เป็นไปตามแผนที่กำหนดแล้วเสร็จในปี ๒๕๖๘ เป็นต้น
ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
๓.
ให้กระทรวงการคลัง (สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ)
รับไปพิจารณาร่วมกับสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สำนักงบประมาณ
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อกำหนดขอบเขตสมมติฐานทางการเงินและเศรษฐศาสตร์ที่ชัดเจน
เช่น อัตราคิดลด ระยะเวลาดำเนินโครงการ เป็นต้น
เพื่อใช้เป็นมาตรฐานในการวิเคราะห์ผลตอบแทนการลงทุนของโครงการที่เกี่ยวกับโครงสร้างพื้นฐานของหน่วยงานต่าง
ๆ ต่อไป |
||||||||||||||||||||||||||||||
8628 | ทบทวนการเรียกให้ทุนหมุนเวียนนำทุนหรือผลกำไรส่วนเกินของทุนหมุนเวียนส่งคลังเป็นรายได้แผ่นดิน และรายงานผลการนำทุนหรือผลกำไรส่วนเกินของทุนหมุนเวียนส่งคลังเป็นรายได้แผ่นดิน ปีบัญชี 2562 และปีบัญชี 2563 | กค. | 20/04/2564 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบและรับทราบตามที่คณะกรรมการนโยบายการบริหารทุนหมุนเวียนเสนอ
ดังนี้ ๑.
พิจารณาเรียกให้เงินทุนหมุนเวียนเพื่อแก้ไขปัญหาหนี้สินข้าราชการครูนำทุนหรือผลกำไรส่วนเกินของทุนหมุนเวียน
ปีบัญชี ๒๕๖๒ จำนวน ๓๕๐.๐๐ ล้านบาท
และกองทุนสิ่งแวดล้อมนำทุนหรือผลกำไรส่วนเกินของทุนหมุนเวียน ปีบัญชี ๒๕๖๓ จำนวน
๘๑.๔๑ ล้านบาท ส่งคลังเป็นรายได้แผ่นดินโดยเร็วต่อไป ๒.
รับทราบผลการเรียกให้ทุนหมุนเวียนนำทุนหรือผลกำไรส่วนเกินของทุนหมุนเวียนส่งคลังเป็นรายได้แผ่นดิน
ปีบัญชี ๒๕๖๒ รวมเป็นเงินทั้งสิ้น ๑,๓๐๙.๑๗ ล้านบาท และปีบัญชี ๒๕๖๓
รวมเป็นเงินทั้งสิ้น ๑,๐๘๑.๓๓ ล้านบาท เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
|
||||||||||||||||||||||||||||||
8629 | ข้อเสนอร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 | นร.07 | 20/04/2564 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
ดังนี้ ๑. รับทราบผลการรับฟังความคิดเห็นร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๕ และเห็นชอบข้อเสนอร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.
๒๕๖๕ เพื่อสำนักงบประมาณจะได้ดำเนินการจัดพิมพ์ร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๕ และเอกสารประกอบงบประมาณ
เพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาให้ความเห็นชอบในวันที่ ๑๑ พฤษภาคม ๒๕๖๔
และนำเสนอต่อสภาผู้แทนราษฎรต่อไป ตามที่สำนักงบประมาณเสนอ ๒.
ให้สำนักงบประมาณได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน
๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|
||||||||||||||||||||||||||||||
8630 | ร่างพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยปริญญาในสาขาวิชา อักษรย่อสำหรับสาขาวิชา ครุยวิทยฐานะ เข็มวิทยฐานะ และครุยประจำตำแหน่งของมหาวิทยาลัยราชภัฏพระนครศรีอยุธยา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | อว. | 20/04/2564 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
ดังนี้ ๑.
อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยปริญญาในสาขาวิชา อักษรย่อสำหรับสาขาวิชา
ครุยวิทยฐานะ เข็มวิทยฐานะ
และครุยประจำตำแหน่งของมหาวิทยาลัยราชภัฏพระนครศรีอยุธยา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....
มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยปริญญาในสาขาวิชา
อักษรย่อสำหรับสาขาวิชา ครุยวิทยฐานะ เข็มวิทยฐานะ
และครุยประจำตำแหน่งของมหาวิทยาลัยราชภัฏพระนครศรีอยุธยา พ.ศ. ๒๕๕๓
และที่แก้ไขเพิ่มเติม
เพื่อกำหนดปริญญาในสาขาวิชาและอักษรย่อสำหรับสาขาวิชารัฐศาสตร์
สาขาวิชาเศรษฐศาสตร์ และสาขาวิชาสาธารณสุขศาสตร์
รวมทั้งกำหนดสีประจำสาขาวิชาดังกล่าว ตามที่กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์
วิจัยและนวัตกรรมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา
แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒.
ให้กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์
วิจัยและนวัตกรรมและกระทรวงศึกษาธิการรับข้อคิดเห็นเพิ่มเติมของคณะรัฐมนตรีไปพิจารณาดำเนินการในประเด็นการเปิดสอนสาขาวิชาหรือหลักสูตรต่าง
ๆ ของสถาบันอุดมศึกษาและสถาบันการอาชีวศึกษา
ควรพิจารณาถึงความต้องการของตลาดแรงงาน รวมทั้งการพัฒนาองค์ความรู้
ส่งเสริมจริยธรรม เพื่อผลิตบุคลากรที่มีคุณภาพ ตอบสนองและเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาประเทศ
|
||||||||||||||||||||||||||||||
8631 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดประเภท ชนิด และขนาดของโรงงาน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | อก. | 20/04/2564 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
ดังนี้ ๑. อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดประเภท
ชนิด และขนาดของโรงงาน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....
มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมประเภทหรือชนิดของโรงงานในลำดับที่ ๔๒
แห่งบัญชีท้ายกฎกระทรวงกำหนดประเภท ชนิด และขนาดของโรงงาน พ.ศ. ๒๕๖๓
โดยเพิ่มประเภทโรงงานอุตสาหกรรมเคมีชีวภาพ ๓ ประเภท ให้เป็นโรงงานจำพวกที่ ๓
(ต้องได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการโรงงานตามกฎหมายว่าด้วยโรงงานก่อนจึงจะดำเนินการได้)
ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา
โดยให้รับความเห็นของกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์
วิจัยและนวัตกรรมที่มีความเพิ่มเติมต่อข้อความในลำดับที่ ๔๒
แห่งบัญชีท้ายกฎกระทรวงฯ เพื่อให้มีความชัดเจนและครอบคลุม ได้แก่ ข้อ ๔๒ (๓) ควรพิจารณาเพิ่มเติมข้อความเป็น
“(๓) การทำเคมีภัณฑ์ หรือสารเคมี หรือวัสดุเคมี หรือชีวเคมีภัณฑ์ หรือชีวภัณฑ์
ซึ่งใช้วัตถุดิบพื้นฐานทางการเกษตร หรือผลิตภัณฑ์อื่นที่ต่อเนื่อง
โดยใช้กระบวนการเคมีหรือกระบวนการทางชีวภาพเท่านั้น” ข้อ ๔๒ (๔)
ควรพิจารณาเพิ่มเติมข้อความเป็น “(๔)
การผลิตพลาสติกชีวภาพหรือวัตถุดิบตลอดจนการขึ้นรูปพลาสติกชีวภาพจากเคมีภัณฑ์
หรือสารเคมี หรือวัสดุเคมีที่ผลิตจากวัตถุดิบพื้นฐานทางการเกษตร หรือผลิตภัณฑ์ต่อเนื่อง”
และข้อ ๔๒ (๕) ควรพิจารณาเพิ่มเติมข้อความเป็น “(๕)
การผลิตพลาสติกชีวภาพหรือวัตถุดิบตลอดจนการขึ้นรูปพลาสติกชีวภาพจากเคมีภัณฑ์
หรือสารเคมี
หรือวัสดุเคมีที่ผลิตจากวัตถุดิบพื้นฐานทางการเกษตรหรือผลิตภัณฑ์ที่ต่อเนื่องรวมกับวัตถุดิบที่ผลิตมาจากปิโตรเลียมและทำให้พลาสติกชีวภาพนั้นสลายตัวได้ทางชีวภาพ”
ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒.
ให้กระทรวงอุตสาหกรรมรับความเห็นของกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์
วิจัยและนวัตกรรมเกี่ยวกับขนาดของโรงงาน ควรพิจารณาเพิ่ม “โรงงานจำพวกที่ ๒”
ซึ่งเป็นโรงงานขนาดกลางเพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการขนาดกลาง
เนื่องจากอุตสาหกรรมชีวภาพบางผลิตภัณฑ์ไม่ต้องผลิตในโรงงานขนาดใหญ่
โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มผลิตภัณฑ์ชีวภาพมูลค่าสูง เช่น เอนไซม์ชนิดพิเศษ (Specialty
enzyme) และกรณีกิจกรรมของโรงงานเกี่ยวข้องกับการใช้จุลินทรีย์
ควรพิจารณากำหนดเงื่อนไขเพิ่มเติมในการปฏิบัติตามคู่มือหลักเกณฑ์ เงื่อนไข
และวิธีปฏิบัติด้านความปลอดภัยทางชีวภาพสำหรับผู้ประกอบการโรงงานอุตสาหกรรม
กองส่งเสริมเทคโนโลยีความปลอดภัยโรงงาน กรมโรงงานอุตสาหกรรม
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย |
||||||||||||||||||||||||||||||
8632 | การสิ้นสุดหน้าที่ของกงสุลใหญ่กิตติมศักดิ์ประจำนครโฮบาร์ต เครือรัฐออสเตรเลียและการปิดสถานกงสุลใหญ่กิตติมศักดิ์ประจำนครโฮบาร์ต เป็นการชั่วคราว (นายอภิรัตน์ อจลบุญ) | กต. | 20/04/2564 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบ
ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ ดังนี้ ๑. การสิ้นสุดหน้าที่กงสุลใหญ่กิตติมศักดิ์ประจำนครโฮบาร์ต เครือรัฐออสเตรเลีย ของ นายอภิรัตน์
อจลบุญ เนื่องจากครบวาระการดำรงตำแหน่ง และไม่ประสงค์ต่ออายุการดำรงตำแหน่งดังกล่าว ๒. การปิดสถานกงสุลใหญ่กิตติมศักดิ์ประจำนครโฮบาร์ต เครือรัฐออสเตรเลีย เป็นการชั่วคราว ตั้งแต่วันที่ ๑ มกราคม ๒๕๖๔
|
||||||||||||||||||||||||||||||
8633 | รัฐบาลสาธารณรัฐอิสลามปากีสถานเสนอขอแต่งตั้งเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งสาธารณรัฐอิสลามปากีสถานประจำประเทศไทย (นายซาฮิบซาดา อาห์เมด คาน) | กต. | 20/04/2564 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายซาฮิบซาดา อาห์เมด คาน (Mr. Sahebzada Ahmed Khan) ให้ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งสาธารณรัฐอิสลามปากีสถานประจำประเทศไทยคนใหม่
โดยมีถิ่นพำนัก ณ กรุงเทพมหานคร สืบแทน นายอะศิม อิฟติคัร อะห์มัด (Mr. Asim Iftikhar Ahmad) ซึ่งครบวาระการดำรงตำแหน่ง
ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||
8634 | การพ้นจากตำแหน่งกงสุลกิตติมศักดิ์สาธารณรัฐอิตาลีประจำจังหวัดเชียงใหม่ (นายวิชิต ลีลามานิตย์) | กต. | 20/04/2564 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบการพ้นจากตำแหน่ง กงสุลกิตติมศักดิ์สาธารณรัฐอิตาลีประจำจังหวัดเชียงใหม่
ของ นายวิชิต ลีลามานิตย์ โดยมีผลตั้งแต่วันที่ ๓๑ มีนาคม ๒๕๖๔ ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||
8635 | รายงานของผู้สอบบัญชีและรายงานการเงินของสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2563 | สว. | 20/04/2564 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานของผู้สอบบัญชีและรายงานการเงินของสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา
สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๖๓
โดยรายงานดังกล่าวประกอบด้วยงบแสดงฐานะการเงิน และงบแสดงผลการดำเนินงานทางการเงิน
ซึ่งสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินได้ตรวจสอบแล้ว
เห็นว่ารายงานการเงินดังกล่าวถูกต้องตามที่ควรในสาระสำคัญตามมาตรฐานการบัญชีภาครัฐและนโยบายการบัญชีภาครัฐที่กระทรวงการคลังกำหนด
ตามที่สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||
8636 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (นายวิโรจน์ ภู่ไพบูลย์) | กษ. | 20/04/2564 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายวิโรจน์ ภู่ไพบูลย์
ข้าราชการพลเรือนสามัญ ตำแหน่งผู้ตรวจราชการกรม (ผู้ตรวจราชการกรมระดับสูง)
กรมส่งเสริมสหกรณ์ ให้ดำรงตำแหน่งผู้ทรงคุณวุฒิด้านการสหกรณ์
(นักวิชาการสหกรณ์ทรงคุณวุฒิ) กรมส่งเสริมสหกรณ์
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ตั้งแต่วันที่ ๗ ธันวาคม ๒๕๖๓
ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||
8637 | การแต่งตั้งข้าราชการการเมือง (1. นายสุทธิชัย จรูญเนตร) | ศธ. | 20/04/2564 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแต่งตั้งข้าราชการการเมือง จำนวน ๔ ราย โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติเป็นต้นไป
ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการเสนอ ดังนี้ ๑. นายสุทธิชัย จรูญเนตร ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ๒. นายณรงค์ ดูดิง ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (คุณหญิงกัลยา
โสภณพนิช) ๓. นางสาวอรพินทร์
เพชรทัต ดำรงตำแหน่งเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ๔. นางเจิมมาศ
จึงเลิศศิริ ดำรงตำแหน่งผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ
[ปฏิบัติหน้าที่เลขานุการ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ
(คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช)]
|
||||||||||||||||||||||||||||||
8638 | รายงานผลการพิจารณาตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ของสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา (สภาผู้แทนราษฎร) | สผ. | 07/04/2564 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการพิจารณาตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร
(ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ของสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา
ซึ่งกระทรวงการคลังได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาศึกษาแนวทางและความเหมาะสมของข้อสังเกตดังกล่าวแล้ว
โดยได้ดำเนินการ เช่น เตรียมการรองรับการบังคับใช้กฎหมาย
โดยการออกกฎกระทรวงและประกาศที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับกระบวนการทางอิเล็กทรอนิกส์ในการดำเนินการเกี่ยวกับทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม
จัดทำระบบเพื่อรองรับการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มที่สะดวกและง่ายต่อการใช้งานของผู้ประกอบการ
จัดทำคู่มือเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับการบังคับใช้กฎหมายตามร่างพระราชบัญญัติดังกล่าว
ประชาสัมพันธ์เพื่อสร้างการรับรู้และความเข้าใจให้แก่ผู้ประกอบการและประชาชนทั่วไป
เป็นต้น และการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มของผู้ประกอบการจากต่างประเทศนั้น
กระทรวงการคลังอยู่ระหว่างการพิจารณาศึกษาแนวทางการจัดเก็บภาษีดังกล่าว
สำหรับการปรับปรุงถ้อยคำว่า “ต่างประเทศ” จะต้องตราเป็นพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร
และต้องดำเนินการศึกษาร่วมกับหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง เพื่อความรอบคอบต่อไป
ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
และแจ้งให้สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรและสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาทราบต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||
8639 | ผลการพิจารณารายงานการพิจารณาศึกษา เรื่อง สภาพปัญหาและแนวทางส่งเสริมและคุ้มครองกลุ่มชาติพันธุ์ในประเทศไทย ของคณะกรรมาธิการกิจการเด็ก เยาวชน สตรี ผู้สูงอายุ ผู้พิการ กลุ่มชาติพันธุ์ และผู้มีความหลากหลายทางเพศ สภาผู้แทนราษฎร | สผ. | 07/04/2564 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการพิจารณารายงานการพิจารณาศึกษา
เรื่อง สภาพปัญหาและแนวทางส่งเสริมและคุ้มครองกลุ่มชาติพันธุ์ในประเทศไทย
ของคณะกรรมาธิการกิจการเด็ก เยาวชน สตรี ผู้สูงอายุ
กลุ่มชาติพันธุ์และผู้มีความหลากหลายทางเพศ สภาผู้แทนราษฎร
ซึ่งกระทรวงวัฒนธรรมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้พิจารณารายงานและข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการฯ
โดยสรุปผลการพิจารณาได้ว่า
กระทรวงวัฒนธรรมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้จัดทำร่างพระราชบัญญัติส่งเสริมและคุ้มครองกลุ่มชาติพันธุ์
พ.ศ. .... และได้มีการช่วยเหลือเยียวยากลุ่มชาติพันธุ์ในการจัดสรรที่ดินทำกิน รวมทั้งเร่งรัดกระบวนการทางสัญชาติไทยให้โดยเร็วเพื่อให้เข้าถึงสิทธิทางการศึกษา
สิทธิรักษาพยาบาล สิทธิผู้สูงอายุ สิทธิผู้พิการ
ตลอดจนการออกเอกสารรับรองตัวบุคคลให้กับกลุ่มชาติพันธุ์
สร้างความร่วมมือกับองค์กรภาคประชาชนต่าง ๆ สนับสนุนให้เกิดแหล่งการเรียนรู้เกี่ยวกับอัตลักษณ์
วิถีชีวิตชนเผ่า ประเพณี วัฒนธรรม รวมถึงการส่งเสริมรูปแบบการจัดสวัสดิการสังคมโดยชุมชน
และมีการจัดทำแผนพัฒนาราษฎรบนพื้นที่สูงเพื่อให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีสามารถพึ่งพาตนเองได้
ตามที่กระทรวงวัฒนธรรมเสนอ และแจ้งให้สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรทราบต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||
8640 | สรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร (วันจันทร์ที่ 5 เมษายน 2564) | ปสส. | 07/04/2564 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร
วันจันทร์ที่ ๕ เมษายน ๒๕๖๔ ซึ่งพิจารณาระเบียบวาระการประชุมร่วมกันของรัฐสภา
ครั้งที่ ๑ (สมัยวิสามัญ) วันพุธที่ ๗ เมษายน ๒๕๖๔ และครั้งที่ ๒ (สมัยวิสามัญ)
วันพฤหัสบดีที่ ๘ เมษายน ๒๕๖๔ ตามที่ฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรเสนอ
|