ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 327 จากทั้งหมด 6201 หน้า แสดงรายการที่ 6521 - 6540 จากข้อมูลทั้งหมด 124006 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
6521 | รายงานการเงินประจำปีพร้อมกับรายงานผลการตรวจสอบของสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2564 | ลต. | 26/04/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานของผู้สอบบัญชีและรายงานการเงินของสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง
สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๖๔ ประกอบด้วย งบแสดงฐานะการเงิน
งบแสดงผลการดำเนินงานทางการเงิน
ซึ่งสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินได้ตรวจสอบแล้วเห็นว่า รายงานการเงินดังกล่าวถูกต้องตามที่ควรในสาระสำคัญตามมาตรฐานการบัญชีภาครัฐและนโยบายการบัญชีภาครัฐที่กระทรวงการคลังกำหนด
ตามที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
6522 | รายงานประจำปี 2564 ของกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ | พปส. | 26/04/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานประจำปี ๒๕๖๔ ของกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์
มีสาระสำคัญประกอบด้วย (๑) ผลการดำเนินงานของกองทุนฯ ประจำปี ๒๕๖๔ โดยกองทุนฯ
ได้ใช้จ่ายเงินงบประมาณ ประจำปี ๒๕๖๔ จำนวน ๕๕๔.๑๗ ล้านบาท
ภายใต้วงเงินงบประมาณรายจ่าย จำนวน ๕๘๘.๘๖ ล้านบาท
และภาพรวมการดำเนินงานของกองทุนฯ โดยได้ดำเนินงานตามยุทธศาสตร์ของกองทุนฯ ๔
ยุทธศาสตร์ ได้แก่ ยุทธศาสตร์ที่ ๑ การส่งเสริมและพัฒนาการผลิตและเผยแพร่สื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์
ยุทธศาสตร์ที่ ๒ การส่งเสริมและพัฒนาองค์ความรู้ในการพัฒนาสื่อและนิเวศสื่อที่ปลอดภัยและสร้างสรรค์
ยุทธศาสตร์ที่ ๓ การส่งเสริมและพัฒนาให้เกิดกลไกและกระบวนการคัดกรอง เฝ้าระวัง
และรู้เท่าทันสื่อ และยุทธศาสตร์ที่ ๔
การส่งเสริมและพัฒนาช่องทางการสื่อสารเพื่อสังคมให้เกิดการรับรู้
และมีส่วนร่วมของประชาชนและภาคี (๒) รายงานของคณะกรรมการประเมินผลการดำเนินงานของกองทุนฯ
พบว่า ผลการประเมินการดำเนินงานของกองทุนฯ มีคะแนน ๔.๗๙๘๕ (จากคะแนนเต็ม ๕ คะแนน)
และ (๓) รายงานของผู้สอบบัญชีและงบการเงินของกองทุนฯ สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ ๓๐
กันยายน ๒๕๖๔ ประกอบด้วย งบแสดงฐานะการเงิน งบแสดงผลการดำเนินงานทางการเงิน
และงบแสดงการเปลี่ยนแปลงสินทรัพย์สุทธิ/ส่วนทุน โดยผู้สอบบัญชี (จากผู้ตรวจสอบบัญชีภายนอก)
เห็นว่าถูกต้องตามที่ควรในสาระสำคัญตามมาตรฐานการบัญชีภาครัฐและนโยบายการบัญชีภาครัฐที่กระทรวงการคลังกำหนด
ตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม) ประธานกรรมการกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์เสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
6523 | ผลการพิจารณารายงานการพิจารณาศึกษา เรื่อง “การบริหารราชการกรุงเทพมหานคร กรณีสภาเขตและสมาชิกสภาเขต” ของคณะกรรมาธิการการกระจายอำนาจ การปกครองส่วนท้องถิ่น และการบริหารราชการรูปแบบพิเศษ สภาผู้แทนราษฎร | สผ. | 26/04/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการพิจารณารายงานการพิจารณาศึกษา
เรื่อง “การบริหารราชการกรุงเทพมหานคร กรณีสภาเขตและสมาชิกสภาเขต”
ของคณะกรรมาธิการการกระจายอำนาจ การปกครองส่วนท้องถิ่น
และการบริหารราชการรูปแบบพิเศษ สภาผู้แทนราษฎร
ซึ่งกระทรวงมหาดไทยได้พิจารณาร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว
โดยมีข้อเสนอแนะและข้อสังเกตเพิ่มเติมว่า การกำหนดให้มีสภาเขตและสมาชิกสภาเขต
หากจะมีการแก้ไขปรับปรุงกฎหมายว่าด้วยระเบียบบริหารราชการกรุงเทพมหานคร
ควรกำหนดโครงสร้าง ที่มา องค์ประกอบ บทบาท
และอำนาจหน้าที่ของสภาเขตและสมาชิกสภาเขตให้มีความชัดเจน
รวมถึงต้องสอดคล้องกับรัฐธรรมนูญ แผนยุทธศาสตร์ชาติ และแผนปฏิรูปประเทศ
เกี่ยวกับประเด็นปัญหาในเชิงพื้นที่ที่มีความหลากหลาย
เพื่อให้การบริหารราชการกรุงเทพมหานครเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
และกรุงเทพมหานครมีข้อสังเกตว่า ควรยกเลิกสภาเขต เนื่องจากการเลือกตั้งที่ผ่านมามีผู้ไปใช้สิทธิลงคะแนนค่อนข้างน้อย
สมาชิกสภาเขตส่วนใหญ่สังกัดพรรคการเมือง จึงเป็นอุปสรรคในการพัฒนาพื้นที่
ประชาชนส่วนใหญ่ในพื้นที่ไม่รู้จักสมาชิกสภาเขต และเหตุแห่งที่มา อำนาจหน้าที่
และสิทธิประโยชน์ระหว่างผู้แทนประชาคมเขตและสมาชิกสภาเขตมีความแตกต่างกัน
รวมทั้งกรุงเทพมหานครมีสภากรุงเทพมหานครทำหน้าที่ในทางนิติบัญญัติการตรวจสอบการทำงานของฝ่ายบริหารและพิจารณางบประมาณประจำปีอยู่แล้ว
จึงไม่จำเป็นต้องมีสมาชิกสภาเขตเข้ามาทำหน้าที่ซ้ำซ้อนกันอีก
ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และแจ้งให้สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรทราบต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
6524 | ผลการพิจารณารายงานการพิจารณาศึกษา เรื่อง การปฏิรูปองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นรูปแบบทั่วไปตามร่างพระราชบัญญัติให้ใช้ประมวลกฎหมายองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. .... และร่างประมวลกฎหมายองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ของคณะกรรมาธิการการปกครองท้องถิ่น วุฒิสภา | สว. | 26/04/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการพิจารณารายงานการพิจารณาศึกษา
เรื่อง
การปฏิรูปองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นรูปแบบทั่วไปตามร่างพระราชบัญญัติให้ใช้ประมวลกฎหมายองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
พ.ศ. .... และร่างประมวลกฎหมายองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
ของคณะกรรมาธิการการปกครองท้องถิ่น วุฒิสภา
ซึ่งกระทรวงมหาดไทยได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณารายงานพร้อมทั้งข้อเสนอแนะของคณะกรรมาธิการฯ
แล้ว สรุปว่า เห็นด้วยกับการให้มีระบบองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ๒ ระดับ คือ
ระดับจังหวัด ได้แก่ องค์การบริหารส่วนจังหวัด และระดับพื้นที่ ได้แก่ เทศบาล
โดยควรเปลี่ยนแปลงองค์การบริหารส่วนตำบลให้เป็นเทศบาลทั้งหมด
เพื่อให้มีรูปแบบการปกครองท้องถิ่นที่เป็นมาตรฐานเดียวกัน ทั้งนี้
ในส่วนการรวมองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นให้คำนึงถึงพื้นที่ในเขตตำบลเป็นลำดับแรก
โดยให้มี ๑ ตำบล ๑ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
การกำหนดเงื่อนไขในการรวมองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นควรคำนึงถึงจำนวนประชากรและรายได้
และเจตนารมณ์ของประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ด้วยเช่นเดียวกับกฎหมายจัดตั้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในปัจจุบัน
และการแก้ไขปัญหาองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นขนาดเล็กมีงบประมาณไม่เพียงพอที่จะจัดทำบริการสาธารณะหรือจัดทำบริการสาธารณะไม่มีประสิทธิภาพ
อาจใช้แนวทางการร่วมมือกันจัดทำบริการสาธารณะขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
โดยควรแบ่งตามเกณฑ์ประชากรเพื่อให้มีจำนวนสมาชิกสภาท้องถิ่นสอดคล้องกับจำนวนประชากรในแต่ละพื้นที่และสะท้อนความต้องการที่แท้จริงของประชาชน
ควรกำหนดหน้าที่และอำนาจขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นให้ครอบคลุมเป็นมาตรฐานเดียวกันทั้งประเทศและลดความซ้ำซ้อนของอำนาจหน้าที่ที่กำหนดสำหรับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นรูปแบบต่าง
ๆ ตามกฎหมายจัดตั้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและกฎหมายอื่น ควรพัฒนาปรับปรุงหรือกำหนดระเบียบว่าด้วยการคลัง
การเงิน การพัสดุ
และการจัดหาประโยชน์จากทรัพย์สินให้เป็นมาตรฐานและสอดคล้องกับระเบียบและแนวปฏิบัติของภาครัฐ
ควรกำหนดให้มีการส่งเสริมการดำเนินการสถานธนานุบาลขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในร่างประมวลกฎหมายองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
ควรกำหนดให้ประชาคมท้องถิ่นในพื้นที่มีอำนาจหน้าที่ เช่น ให้ข้อคิดเห็น
ข้อเสนอแนะหรือคำปรึกษาในการจัดทำแผนงาน งบประมาณการอนุรักษ์ ฟื้นฟู
หรือส่งเสริมภูมิปัญญาท้องถิ่น ศาสนา ศิลปะ วัฒนธรรม ขนบธรรมเนียมประเพณี
ให้ความร่วมมือในการดำเนินงานและการอื่นใดเพื่อพัฒนา
ปรับปรุงและแก้ไขปัญหาเมืองและคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่ ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ
และแจ้งให้สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาทราบต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
6525 | รายงานการเงินแผ่นดิน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 | กค. | 26/04/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
ดังนี้ ๑. รับทราบรายงานการเงินแผ่นดิน
ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๔ ประกอบด้วย งบแสดงผลการดำเนินงานทางการเงิน งบแสดงฐานะการเงิน งบแสดงการเปลี่ยนแปลงสินทรัพย์สุทธิ/ส่วนทุน
งบกระแสเงินสด และรายงานการรับจ่ายเงินประจำปีงบประมาณ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
และให้เสนอรัฐสภาทราบต่อไป ๒.
ให้กระทรวงการคลังได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔
พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
6526 | ร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... [การขยายเวลามาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนรายจ่ายค่าซื้อชุดตรวจหาแอนติเจนด้วยตนเอง (COVID-19 Antigen test self - test kits)] | กค. | 26/04/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
ดังนี้ ๑. อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร
ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... [การขยายเวลามาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนรายจ่ายค่าซื้อชุดตรวจหาแอนติเจนด้วยตนเอง
(COVID-19 Antigen test self-test kits)] โดยมีสาระสำคัญเป็นการขยายระยะเวลาการให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีให้แก่บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล
สำหรับเงินได้เป็นจำนวนร้อยละ ๕๐
ของรายจ่ายที่ได้จ่ายไปเป็นค่าซื้อชุดตรวจโควิด-๑๙ แบบเร่งด่วน
เพื่อให้สำหรับพนักงานหรือลูกจ้างของตนเอง ออกไปอีก ๙ เดือน ตั้งแต่วันที่ ๑
เมษายน ๒๕๖๕ ถึงวันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๖๕ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน
แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงการคลังและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของสำนักงบประมาณ
ที่ควรสร้างความรับรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับมาตรการภาษีดังกล่าว รวมถึงสถานการณ์
ความจำเป็นและประโยชน์ที่จะได้รับ ให้กับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในโอกาสแรก
ตลอดจนติดตามประเมินผลสัมฤทธิ์และรายงานผลการดำเนินงานตามมาตรการภาษีดังกล่าว
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
6527 | ร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... [การขยายระยะเวลามาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการบริจาคเพื่อแก้ไขปัญหาโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)] | กค. | 26/04/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
ดังนี้ ๑. อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร
ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... [การขยายระยะเวลามาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการบริจาคเพื่อแก้ไขปัญหาโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
๒๐๑๙ (COVID-19)] มีสาระสำคัญเป็นการการขยายระยะเวลาการยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาและบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลสำหรับการบริจาคเงินหรือทรัพย์สินให้แก่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี
(สปน.) ผ่านระบบบริจาคอิเล็กทรอนิกส์ (e-Donation) ของกรมสรรพากร
และยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่มให้แก่ผู้ประกอบการสำหรับการบริจาคสินค้าให้แก่ สปน.
เพื่อสนับสนุนการแก้ไขปัญหาโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ ที่ได้กระทำตั้งแต่วันที่
๖ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๖๕ ถึงวันที่ ๓๑ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๖ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน
แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงการคลังและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของสำนักงบประมาณและสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ที่ควรสร้างความรับรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับมาตรการภาษีดังกล่าว รวมถึงสถานการณ์ ความจำเป็นและประโยชน์ที่จะได้รับ
ให้กับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในโอกาสแรก ตลอดจนติดตาม ประเมินผลสัมฤทธิ์ และรายงานผลการดำเนินงานตามมาตรการภาษีดังกล่าวเมื่อสิ้นสุดระยะเวลาดำเนินการ
และมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามมาตรการ ๒๗ ของพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ
พ.ศ. ๒๕๖๑ และกฎหมายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องให้ครบถ้วนต่อไป
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
6528 | รายงานการเงินรวมภาครัฐ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 | กค. | 26/04/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ๑. รับทราบและเห็นชอบตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
ดังนี้ ๑.๑ รับทราบรายงานการเงินรวมภาครัฐ
ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๔ และรายงานการเงินรวมภาครัฐ (บทวิเคราะห์) ประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๔ ๑.๒ ให้หน่วยงานของรัฐตามบัญชีชื่อหน่วยงานของรัฐที่ไม่ส่งรายงานการเงินประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๔ ส่งรายงานการเงินประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๔ พร้อมทั้งรายงานเหตุผล หรือปัญหาอุปสรรค และแนวทางแก้ไขให้กระทรวงเจ้าสังกัดและกระทรวงการคลังภายใน
๖๐ วัน นับแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ
และให้หน่วยงานของรัฐส่งรายงานการเงินประจำปีงบประมาณถัดไปให้ทันภายในระยะเวลาที่กำหนด
เพื่อให้การจัดทำรายงานการเงินรวมภาครัฐมีความครบถ้วนสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น ๒. ให้กระทรวงการคลังได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี)
ในการเสนอเรื่องนี้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
6529 | ข้อเสนอร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 | นร.07 | 26/04/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
ดังนี้ ๑. เห็นชอบข้อเสนอร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๖ ตามที่สำนักงบประมาณเสนอ ๒. ให้สำนักงบประมาณได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี)
ในการเสนอเรื่องนี้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
6530 | การแก้ไขเพิ่มเติมคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี | นร.04 | 26/04/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบการแก้ไขเพิ่มเติมคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ
ดังนี้ ๑. คำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ ๗๘/๒๕๖๕ เรื่อง
แก้ไขเพิ่มเติมคำสั่งมอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
ปฏิบัติหน้าที่ประธานกรรมการ รองประธานกรรมการ และกรรมการในคณะกรรมการต่าง ๆ
ตามกฎหมาย และระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ลงวันที่ ๑๒ เมษายน ๒๕๖๕ ๒. คำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ ๘๖/๒๕๖๕ เรื่อง
แก้ไขเพิ่มเติมคำสั่งมอบหมายและมอบอำนาจให้รองนายกรัฐมนตรี
และรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่ประธานกรรมการในคณะกรรมการต่าง ๆ
ตามกฎหมาย และระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ลงวันที่ ๒๖ เมษายน ๒๕๖๕ ๓. คำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ ๘๗/๒๕๖๕ เรื่อง แก้ไขเพิ่มเติมคำสั่งมอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรี
และรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่ประธานกรรมการ รองประธานกรรมการ
และกรรมการ ในคณะกรรมการต่าง ๆ ตามกฎหมาย และระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ลงวันที่ ๒๖
เมษายน ๒๕๖๕
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
6531 | การแก้ไขเพิ่มเติมคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี | นร.04 | 26/04/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบการแก้ไขเพิ่มเติมคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ
ดังนี้ ๑. คำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ ๗๘/๒๕๖๕ เรื่อง
แก้ไขเพิ่มเติมคำสั่งมอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
ปฏิบัติหน้าที่ประธานกรรมการ รองประธานกรรมการ และกรรมการในคณะกรรมการต่าง ๆ
ตามกฎหมาย และระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ลงวันที่ ๑๒ เมษายน ๒๕๖๕ ๒. คำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ ๘๖/๒๕๖๕ เรื่อง
แก้ไขเพิ่มเติมคำสั่งมอบหมายและมอบอำนาจให้รองนายกรัฐมนตรี
และรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่ประธานกรรมการในคณะกรรมการต่าง ๆ
ตามกฎหมาย และระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ลงวันที่ ๒๖ เมษายน ๒๕๖๕ ๓. คำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ ๘๗/๒๕๖๕ เรื่อง แก้ไขเพิ่มเติมคำสั่งมอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรี
และรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่ประธานกรรมการ รองประธานกรรมการ
และกรรมการ ในคณะกรรมการต่าง ๆ ตามกฎหมาย และระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ลงวันที่ ๒๖
เมษายน ๒๕๖๕
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
6532 | เงินกู้รัฐบาลญี่ปุ่นสำหรับ COVID-19 Crisis Response Emergency Support Loan | กค. | 26/04/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
6533 | การจัดทำโครงการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรฮัชไมต์จอร์แดน ระหว่างปี 2565-2569 | วธ. | 26/04/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
6534 | ขอความเห็นชอบท่าทีไทยสำหรับการประชุมคณะกรรมการร่วมทางการค้า (JTC) ไทย - ภูฏาน ครั้งที่ 4 และกิจกรรมอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง | พณ. | 26/04/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
ดังนี้ ๑. เห็นชอบท่าทีไทยสำหรับการประชุมคณะกรรมการร่วมทางการค้า
(Joint Trade Committee : JTC) ไทย-ภูฏาน ครั้งที่ ๔
และกิจกรรมอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดขึ้นระหว่างวันที่
๒๖-๒๙ เมษายน ๒๕๖๕ ณ จังหวัดภูเก็ต
เพื่อให้ผู้แทนไทยซึ่งมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์หรือผู้แทนเป็นประธานฝ่ายไทยใช้หารือกับฝ่ายภูฏาน
โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ร่วมกันพิจารณาและเสนอประเด็นที่ฝ่ายไทยประสงค์จะผลักดันต่อเนื่องจากการประชุม
JTC ไทย-ภูฏาน ครั้งที่ ๓ เช่น ความร่วมมือการค้าและการลงทุน
การส่งเสริมและพัฒนาการท่องเที่ยวระหว่างกัน การพัฒนาระบบ e-Commerce และการพัฒนาและส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางขนาดย่อมและรายย่อย (MSMEs)
ทั้งนี้
หากในการประชุมดังกล่าวมีผลให้มีการตกลงเรื่องความร่วมมือด้านเศรษฐกิจการค้าในประเด็นอื่น
ๆ
อันจะเป็นประโยชน์ต่อการส่งเสริมความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจการค้าระหว่างไทยกับภูฏาน
ขอให้ผู้แทนไทยสามารถดำเนินการได้ โดยไม่ต้องนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาอีกครั้ง ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ
๒. ให้กระทรวงพาณิชย์รับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาและสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติในประเด็นเกี่ยวข้องที่จะต้องดำเนินการตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
มาตรา ๑๗๘ หรือไม่ และหากในการประชุมดังกล่าวมีผลให้มีการตกลงเรื่องความร่วมมือด้านเศรษฐกิจการค้าในประเด็นอื่น
ๆ นอกเหนือจากกิจกรรมที่เสนอ
อันจะเป็นประโยชน์ต่อการส่งเสริมความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจการค้าระหว่างไทยกับภูฏาน
เห็นควรให้ผู้แทนไทยสามารถดำเนินการได้โดยไม่ต้องนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาอีกครั้ง
รวมทั้งควรติดตามประเมินความก้าวหน้าความร่วมมือ ตลอดจนปัญหาอุปสรรคที่เกิดขึ้นด้วย
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||||||||
6535 | สรุปผลการประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) (ศบค.) ครั้งที่ 7/2565 | นร.04 | 26/04/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
2019
(โควิด-19) (ศบค.) ครั้งที่ ๗/๒๕๖๕ เมื่อวันศุกร์ที่ ๒๒ เมษายน
๒๕๖๕ ซึ่งมีผลการประชุมที่สำคัญ ได้แก่ (๑)
รายงานสถานการณ์และแนวโน้มการแพร่ระบาดและผู้ติดเชื้อ (๒) รับทราบแนวทางการรักษาและการให้ยาแก่ผู้ป่วยโควิด-19
รวมทั้งการจัดการผู้ป่วยในกลุ่มเด็ก (๓) รับทราบความก้าวหน้าการวิจัยและพัฒนาวัคซีนโควิด-19
ในประเทศไทย (๔) การปรับระดับพื้นที่สถานการณ์และมาตรการป้องกันควบคุมโรคแบบบูรณาการ
(๕) การปรับมาตรการป้องกันโรคสำหรับการเดินทางเข้าราชอาณาจักร (๖) การเตรียมความพร้อมด้านสาธารณสุขสำหรับการเปิดภาคเรียนในเดือนพฤษภาคม
๒๕๖๕ (๗) แผนการให้บริการวัคซีนเดือนพฤษภาคม ๒๕๖๕ และ (๘) ข้อสั่งการนายกรัฐมนตรี
ตามที่สำนักงานเลขาธิการศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 เสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
6536 | ร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (มาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการบริจาคด้านสาธารณสุข) | กค. | 26/04/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
ดังนี้ ๑. อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร
ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (มาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการบริจาคด้านสาธารณสุข) มีสาระสำคัญเป็นการยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาและบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล
โดยให้หักลดหย่อนหรือหักเป็นรายจ่ายได้ ๒
เท่าของจำนวนเงินหรือทรัพย์สินที่บริจาค
สำหรับการบริจาคผ่านระบบบริจาคอิเล็กทรอนิกส์ (e-Donation) ของกรมสรรพากร ให้แก่มูลนิธิต่าง ๆ
รวม ๖ แห่ง ได้แก่ (๑) มูลนิธิโรคมะเร็ง โรงพยาบาลศิริราช (๒) มูลนิธิโรงพยาบาลราชวิถี
(๓) มูลนิธิสมเด็จพระปิ่นเกล้า (๔) มูลนิธิโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า
ในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี (๕)
มูลนิธิโรงพยาบาลเวชศาสตร์เขตร้อนในพระอุปถัมภ์สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ
เจ้าฟ้ากัลยานิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ และ (๖)
มูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ กองทัพเรือ ในพระบรมราชินูปถัมภ์
และยกเว้นภาษีเงินได้ ภาษีมูลค่าเพิ่ม ภาษีธุรกิจเฉพาะ และอากรแสตมป์
สำหรับเงินได้ที่ได้รับจากการโอนทรัพย์สินหรือการขายสินค้า
หรือสำหรับการกระทำตราสารอันเนื่องมาจากการบริจาคให้แก่มูลนิธิดังกล่าวที่ได้กระทำตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบถึงวันที่
๓๑ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๕ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน
แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงการคลังและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของสำนักงบประมาณและสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ที่ควรสร้างความรับรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับมาตรการภาษีดังกล่าว รวมถึงสถานการณ์
ความจำเป็นและประโยชน์ที่จะได้รับ ให้กับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในโอกาสแรก
ตลอดจนติดตาม ประเมินผลสัมฤทธิ์ และรายงานผลการดำเนินงานตามมาตรการภาษีดังกล่าวเมื่อสิ้นสุดระยะเวลาดำเนินการ
และมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามมาตรการ ๒๗
ของพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. ๒๕๖๑ และกฎหมายอื่น ๆ
ที่เกี่ยวข้องให้ครบถ้วนต่อไป ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
6537 | สารบาหลี (Bali Message) ว่าด้วยความร่วมมือระหว่างประเทศด้านการทูตดิจิทัล | กต. | 26/04/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
ดังนี้ ๑. เห็นชอบสารบาหลี (Bali
Message) ว่าด้วยความร่วมมือระหว่างประเทศด้านการทูตดิจิทัล
“ถอดหน้ากากการทูตดิจิทัลในยุค New Normal” (Bali Message on International
Cooperation in Digital Diplomacy “Unmasking Digital Diplomacy in the New
Normal”) เพื่อที่จะได้นำผลการพิจารณาแจ้งฝ่ายอินโดนีเซียทราบในโอกาสแรก
โดยสารบาหลีฯ เป็นเอกสารสารผลลัพธ์การประชุม International Conference on
Digital Diplomacy ที่จัดขึ้นเมื่อวันที่ ๑๖ พฤศจิกายน ๒๕๖๔ ณ
เมืองบาหลี สาธารณรัฐอินโดนีเซีย ในรูปแบบกึ่งออนไลน์ เพื่อให้เกิดการตระหนักร่วมกันเกี่ยวกับความสำคัญของการทูตดิจิทัลที่เข้ามาเปลี่ยนแปลงและมีส่วนช่วยในการปกป้องผลประโยชน์ร่วมกัน
ทั้งในกระบวนการกำหนดนโยบาย การนำนโยบายไปปฏิบัติ
และการส่งเสริมความร่วมมือระหว่างประเทศ โดยจะใช้ ๕
ประเด็นหลักในการขับเคลื่อนเพื่อส่งเสริมให้เกิดการเติบโตที่สร้างสรรค์ ครอบคลุม
และยั่งยืน ไปพร้อมกับการเชื่อมโยงความเหลื่อมล้ำทางดิจิทัลระหว่างประเทศต่าง ๆ
ได้แก่ (๑) การพัฒนากรอบนโยบายของรัฐบาลในการสนับสนุนการทูตดิจิทัล (๒)
การจัดการวิกฤตผ่านการทูตดิจิทัล (การแลกเปลี่ยนข้อมูล) (๓)
การจัดการข้อมูลเพื่อสนับสนุนการทูตดิจิทัล
(การยกระดับการใช้เทคโนโลยีเพื่ออำนวยความสะดวกต่าง ๆ) (๔)
นวัตกรรมเพื่อสนับสนุนธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม และ (๕)
การเสริมสร้างขีดความสามารถและการมีส่วนร่วมทางดิจิทัลให้แก่สตรี เด็ก คนชรา
ผู้พิการ และผู้ที่อยู่ชายขอบของทุกประเทศ ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ ๒.
ให้กระทรวงการต่างประเทศรับความเห็นของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ที่ขอแก้ไขถ้อยคำในสารบาหลี
(Bali Message) ว่าด้วยความร่วมมือระหว่างประเทศด้านการทูตดิจิทัล
“ถอดหน้ากากการทูตดิจิทัลในยุค New Normal” บาหลี, ๑๖
พฤศจิกายน ค.ศ. ๒๐๒๑ ฉบับภาษาไทย ในหน้าที่ ๒ และ ๔ จากคำว่า “ผู้พิการ” เป็น
“คนพิการ” ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
6538 | รายงานผลการพิจารณาตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | สว. | 26/04/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการพิจารณาตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร
(ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... โดยกระทรวงการคลังได้ดำเนินการ เช่น
จัดทำกฎหมายในการแลกเปลี่ยนข้อมูลทางด้านภาษีของประเทศสมาชิกโดยเป็นไปตามมาตรฐานสากล
จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการตามพันธกรณีระหว่างประเทศเพื่อปฏิบัติงานที่เกี่ยวกับภารกิจระหว่างประเทศโดยเฉพาะ
แต่งตั้งคณะกรรมการจัดการความมั่นคงปลอดภัยด้านสารสนเทศ
โดยมีอธิบดีกรมสรรพากรเป็นประธาน เพื่อเตรียมการด้านต่าง ๆ
ที่เกี่ยวข้องกับการรักษาความลับของข้อมูลในการแลกเปลี่ยนให้เป็นมาตรฐานสากล
และจัดอบรมสัมมนาเชิงวิชาการและเชิงปฏิบัติให้กับเจ้าหน้าที่หน่วยปฏิบัติที่ต้องดำเนินการเกี่ยวข้องกับการแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างประเทศให้มีประสิทธิภาพและเป็นประโยชน์สูงสุดในการบริหารการจัดเก็บภาษี
ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และแจ้งให้สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาทราบต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
6539 | ขออนุมัติดำเนินโครงการติดตั้งระบบโครงข่ายโทรคมนาคมของการรถไฟแห่งประเทศไทย | คค. | 26/04/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑.
อนุมัติให้การรถไฟแห่งประเทศไทยดำเนินโครงการติดตั้งระบบโครงข่ายโทรคมนาคม
ในกรอบวงเงิน ๑,๔๕๘.๗๗ ล้านบาท
(รวมภาษีมูลค่าเพิ่มร้อยละ ๗) ๒.
เห็นชอบให้การรถไฟแห่งประเทศไทยกู้ยืมเงินตามนัยมาตรา ๓๙ (๔)
แห่งพระราชบัญญัติการรถไฟแห่งประเทศไทย พ.ศ. ๒๔๙๔
ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติการรถไฟแห่งประเทศไทย (ฉบับที่ ๗) พ.ศ. ๒๕๔๓
ภายใต้กรอบวงเงิน ๑,๔๕๘.๗๗ ล้านบาท
(รวมภาษีมูลค่าเพิ่มร้อยละ ๗) เพื่อดำเนินโครงการดังกล่าวข้างต้น ๓.
ให้การรถไฟแห่งประเทศไทยติดตามการดำเนินโครงการอย่างใกล้ชิดเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาการขอปรับเพิ่มเงินลงทุน
(Cost Overrun) ในอนาคต
ซึ่งอาจกระทบต่อผลการดำเนินงานและผลตอบแทนการลงทุน รวมทั้งอาจเกิดความล่าช้าในการให้บริการและไม่สามารถตอบสนองต่อความต้องการของประชาชนได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ๔.
ให้กระทรวงคมนาคมและการรถไฟแห่งประเทศไทยรับความเห็นของกระทรวงการคลัง
กระทรวงมหาดไทย สำนักงบประมาณ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง
กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ
รวมทั้งข้อสังเกตของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา เช่น
ควรคำนึงถึงความสามารถในการชำระหนี้และจำเป็นต้องติดตามการดำเนินโครงการอย่างใกล้ชิด
ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป ๕.
ให้กระทรวงการคลังรับข้อสังเกตของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเกี่ยวกับแนวโน้มการประกอบกิจการของรัฐวิสาหกิจต่าง
ๆ ในอนาคต ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||||||||
6540 | แต่งตั้งผู้ว่าการการประปานครหลวง (นายมานิต ปานเอม) | มท. | 26/04/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการแต่งตั้ง
นายมานิต ปานเอม ให้ดำรงตำแหน่งผู้ว่าการการประปานครหลวง และให้ได้รับค่าตอบแทนคงที่ในอัตราเดือนละ
๓๘๐,๐๐๐ บาท
และสิทธิประโยชน์อื่นตามที่กระทรวงการคลังได้ให้ความเห็นชอบแล้ว
โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ลงนามในสัญญาจ้างเป็นต้นไป
ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้นายมานิต ปานเอม
ลาออกจากการเป็นพนักงานรัฐวิสาหกิจก่อนลงนามในสัญญาจ้างด้วย
|