ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 265 จากทั้งหมด 6214 หน้า แสดงรายการที่ 5281 - 5300 จากข้อมูลทั้งหมด 124262 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
5281 | ขออนุมัติก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ เพื่อดำเนินโครงการพัฒนาระบบคลาวด์กลางด้านสาธารณสุขของประเทศไทย พ.ศ. 2566-2568 และอนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น | ดศ. | 24/01/2566 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. เห็นชอบให้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม
โดยสำนักงานคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติดำเนินโครงการพัฒนาระบบคลาวด์กลางด้านสาธารณสุขของประเทศ
ภายในกรอบวงเงิน ๑,๕๑๔,๖๑๗,๒๐๐ บาท และอนุมัติให้สำนักงานคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ดำเนินโครงการดังกล่าว ในลักษณะก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๖-พ.ศ. ๒๕๖๘
ในวงเงิน ๑,๕๑๔,๖๑๗,๒๐๐ บาท ตามนัยมาตรา ๔๒ ของพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑
เป็นกรณีเฉพาะราย สำหรับค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๖ ให้สำนักงานคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๖ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น จำนวน ๕๕๓,๘๒๐,๓๐๐ บาท ผูกพันงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๗-พ.ศ. ๒๕๖๘
โดยให้สำนักงานคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติจัดทำแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ
เพื่อเสนอขอรับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีตามความจำเป็นและเหมาะสมตามขั้นตอนต่อไป
ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ทั้งนี้
ให้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงการคลัง
ที่เห็นว่าควรให้ความสำคัญกับการควบคุม
และกำกับดูแลการดำเนินโครงการให้เป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ
และหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง
เพื่อให้การใช้จ่ายงบประมาณมีความคุ้มค่าและเกิดประโยชน์สูงสุด ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย ๒. รับทราบการดำเนินโครงการพัฒนาระบบคลาวด์กลางด้านสาธารณสุขของประเทศไทยให้เกิดประสิทธิภาพและประโยชน์สูงสุด
กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กระทรวงสาธารณสุข และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ควรต้องให้ความสำคัญกับการพัฒนาและปรับปรุงข้อมูลและเอกสารให้เป็นข้อมูลดิจิทัลตั้งแต่ต้นทาง
เพื่อให้มีความพร้อมที่จะเข้าสู่ระบบคลาวด์กลางได้อย่างครบถ้วน
โดยเฉพาะอย่างยิ่งการจัดเก็บข้อมูล ของหน่วยงานสาธารณสุขระดับปฐมภูมิหรือโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลหลายแห่งยังขาดความพร้อมที่จะร่วมดำเนินการ
ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยเสนอ
และให้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงมหาดไทย
สำนักงบประมาณ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นดังกล่าวไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป ๓.
ให้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมร่วมกับกระทรวงสาธารณสุขเร่งรัดดำเนินความร่วมมือกับสถานพยาบาลต่าง
ๆ
นอกสังกัดกระทรวงสาธารณสุขในการพัฒนาและเชื่อมโยงข้อมูลของสถานพยาบาลดังกล่าวเข้ากับระบบคลาวน์กลางด้านสาธารณสุขให้มีความสมบูรณ์ครบถ้วน
เพื่อให้การเข้าถึงข้อมูลผู้ป่วยเป็นไปอย่างถูกต้อง และลวดเร็วต่อไป ๔.
ให้กระทรวงสาธารณสุขและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะหน่วยงานระดับปฐมภูมิ
และทุติยภูมิให้ความสำคัญกับการปฏิรูปกระบวนการและขั้นตอนการปฏิบัติงาน
รวมถึงการลดการใช้เอกสารให้เหลือน้อยที่สุดและปรับเป็นข้อมูลดิจิทัลแทน
เพื่อให้สอดคล้องกับระบบงานคลาวด์กลางด้านสาธารณสุขต่อไป |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
5282 | คำขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 (ของสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา) | สว. | 24/01/2566 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบคำขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๗
ของสำนักงานเลขาธิการวุฒสภา จำนวน ๒,๖๗๑,๗๐๔,๕๐๐ บาท ทั้งนี้
การจัดทำคำของบประมาณรายจ่ายของหน่วยรับงบประมาณดังกล่าวเป็นการยื่นคำขอตั้งงบประมาณรายจ่ายต่อคณะรัฐมนตรีภายในระยะเวลาที่คณะรัฐมนตรีกำหนด
โดยแสดงวัตถุประสงค์ แผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ และรายงานเกี่ยวกับเงินนอกงบประมาณ ตามนัยมาตรา ๒๘
แห่งพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑
เพื่อสำนักงบประมาณจะได้จัดทำงบประมาณตามขั้นตอนต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
5283 | ขอยื่นคำขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 (สถาบันพระปกเกล้า) | พป. | 24/01/2566 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบคำขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๗
ของสถาบันพระปกเกล้า จำนวน ๖๗๐,๕๘๑,๑๐๐ บาท ทั้งนี้
การจัดทำคำของบประมาณรายจ่ายของหน่วยรับงบประมาณดังกล่าวเป็นการยื่นคำขอตั้งงบประมาณรายจ่ายต่อคณะรัฐมนตรีภายในระยะเวลาที่คณะรัฐมนตรีกำหนด
โดยแสดงวัตถุประสงค์ แผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ และรายงานเกี่ยวกับเงินนอกงบประมาณ ตามนัยมาตรา ๒๘
แห่งพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ เพื่อสำนักงบประมาณจะได้จัดทำงบประมาณตามขั้นตอนต่อไป
ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
5284 | การจัดทำคำของบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 (สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ) | ศร. | 24/01/2566 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบคำขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๗
ของสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ จำนวน ๔๔๘,๕๖๖,๘๐๐ บาท ทั้งนี้
การจัดทำคำของบประมาณรายจ่ายของหน่วยรับงบประมาณดังกล่าวเป็นการยื่นคำขอตั้งงบประมาณรายจ่ายต่อคณะรัฐมนตรีภายในระยะเวลาที่คณะรัฐมนตรีกำหนด
โดยแสดงวัตถุประสงค์ แผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ และรายงานเกี่ยวกับเงินนอกงบประมาณ ตามนัยมาตรา ๒๘
แห่งพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ เพื่อสำนักงบประมาณจะได้จัดทำงบประมาณตามขั้นตอนต่อไป
ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ทั้งนี้
ให้สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญรับความเห็นของกระทรวงการคลัง
ที่เห็นควรให้ความสำคัญกับการควบคุม และกำกับดูแลการใช้จ่ายงบประมาณให้เป็นไปตามกฎหมาย
ระเบียบ ข้อบังคับ และหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง
เพื่อให้การใช้จ่ายงบประมาณมีความคุ้มค่าและเกิดประโยชน์สูงสุด
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
5285 | ขอยื่นคำของบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 (สำนักงานอัยการสูงสุด) | อส. | 24/01/2566 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบคำขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๗ ของสำนักงานอัยการสูงสุด จำนวน ๒๐,๒๒๕,๖๗๖,๒๐๐ บาท ทั้งนี้
การจัดทำคำของบประมาณรายจ่ายของหน่วยรับงบประมาณดังกล่าวเป็นการยื่นคำขอตั้งงบประมาณรายจ่ายต่อคณะรัฐมนตรีภายในระยะเวลาที่คณะรัฐมนตรีกำหนด
โดยแสดงวัตถุประสงค์ แผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ และรายงานเกี่ยวกับเงินนอกงบประมาณ ตามนัยมาตรา ๒๘
แห่งพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ เพื่อสำนักงบประมาณจะได้จัดทำงบประมาณตามขั้นตอนต่อไป
ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ทั้งนี้
ให้สำนักงานอัยการสูงสุดรับความเห็นของกระทรวงการคลัง
ที่เห็นควรให้ความสำคัญกับการควบคุม และกำกับดูแลการใช้จ่ายงบประมาณให้เป็นไปตามกฎหมาย
ระเบียบ ข้อบังคับ และหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง
เพื่อให้การใช้จ่ายงบประมาณมีความคุ้มค่าและเกิดประโยชน์สูงสุด
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
5286 | การจัดทำคำของบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ของสำนักงานศาลปกครอง | ศป. | 24/01/2566 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบคำขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๗
ของสำนักงานศาลปกครอง จำนวน ๓,๕๖๑,๘๗๘,๙๐๐ บาท ทั้งนี้
การจัดทำคำของบประมาณรายจ่ายของหน่วยรับงบประมาณดังกล่าวเป็นการยื่นคำขอตั้งงบประมาณรายจ่ายต่อคณะรัฐมนตรีภายในระยะเวลาที่คณะรัฐมนตรีกำหนด
โดยแสดงวัตถุประสงค์ แผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ และรายงานเกี่ยวกับเงินนอกงบประมาณ ตามนัยมาตรา ๒๘
แห่งพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ เพื่อสำนักงบประมาณจะได้จัดทำงบประมาณตามขั้นตอนต่อไป
ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ทั้งนี้
ให้สำนักงานศาลปกครองรับความเห็นของกระทรวงการคลัง
ที่เห็นควรให้ความสำคัญกับการควบคุม และกำกับดูแลการใช้จ่ายงบประมาณให้เป็นไปตามกฎหมาย
ระเบียบ ข้อบังคับ และหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง
เพื่อให้การใช้จ่ายงบประมาณมีความคุ้มค่าและเกิดประโยชน์สูงสุด ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
5287 | ผลการดำเนินโครงการความร่วมมือระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (United Nations Development Programme: UNDP) ในการดำเนินงานศูนย์นวัตกรรมระดับภูมิภาค กรุงเทพมหานคร-UNDP (Bangkok-UNDP Regional Innovation Center: RIC) ประจำปี พ.ศ. 2564 ความก้าวหน้าของกิจกรรมประจำปี พ.ศ. 2565 และการขยายระยะเวลาการดำเนินโครงการฯ | นร.11 สศช | 24/01/2566 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
5288 | โครงการพัฒนาเครือข่ายระบบด้านการดูแลสุขภาพจิต | สธ. | 24/01/2566 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการของโครงการพัฒนาเครือข่ายระบบด้านการดูแลสุขภาพจิต
ภายในระยะเวลา ๕ ปี ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๖-๒๕๗๐
และกรอบวงเงินงบประมาณในการดำเนินการโครงการฯ จำนวน ๖๘๖.๐๗๕๑ ล้านบาท
ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ สำหรับค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๖ และในปีงบประมาณต่อ
ๆ ไป ให้กระทรวงสาธารณสุข (กรมสุขภาพจิต) ดำเนินการตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
(หนังสือสำนักงบประมาณ ด่วนที่สุด ที่ นร ๐๗๑๒/๒๖๕๙ ลงวันที่ ๒๙ ธันวาคม ๒๕๖๕)
ทั้งนี้ ให้กระทรวงสาธารณสุขรับความเห็นของกระทรวงการคลังและสำนักงาน ก.พ.
รวมทั้งข้อเสนอแนะของกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมและสำนักงาน
ก.พ.ร. ที่เห็นควรให้ความสำคัญกับการควบคุม
และกำกับดูแลการดำเนินโครงการให้เป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ
และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้การใช้จ่ายงบประมาณมีความคุ้มค่าและเกิดประโยชน์สูงสุด
กรมสุขภาพจิตควรพิจารณาจัดสรรจำนวนบุคลากรที่จะเข้ารับการอบรมไปยังพื้นที่ต่าง ๆ
โดยพิจารณาจากความจำเป็นของแต่ละเขตสุขภาพที่มีข้อมูลของผู้มีความเสี่ยงและต้องการได้รับการรักษาทางจิตเวชอย่างเร่งด่วนต่อไป
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
5289 | ขออนุมัติตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 สำหรับรายการงบประมาณที่มีวงเงินตั้งแต่ 1,000 ล้านบาทขึ้นไป ของกรมทางหลวง กรมทางหลวงชนบท กรมท่าอากาศยาน และการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย | คค. | 24/01/2566 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
ดังนี้ ๑.
อนุมัติในหลักการให้กระทรวงคมนาคมนำรายการที่มีวงเงินตั้งแต่ ๑,๐๐๐ ล้านบาทขึ้นไป จำนวน ๔ หน่วยงาน ๕๒ โครงการ
รวมเป็นเงินทั้งสิ้น ๑๔๔,๖๒๓.๔๔๕๐ ล้านบาท
เพื่อเสนอขอเป็นคำขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๗ ตามนัยมาตรา ๒๖
ของพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ ทั้งนี้
ให้จัดทำแผนการดำเนินการและยืนยันความพร้อมของโครงการดังกล่าว
รายละเอียดแบบรูปรายการ ประมาณการค่าก่อสร้างให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน
และมีสถานที่/พื้นที่ที่ได้รับอนุญาตจากหน่วยงานเจ้าของพื้นที่ตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
โดยคำนึงถึงความคุ้มค่าและประหยัด
รวมทั้งโครงการเงินกู้ที่กรมทางหลวงขออนุมัติตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๗ สำหรับรายการที่มีวงเงินตั้งแต่ ๑,๐๐๐
ล้านบาทขึ้นไป โครงการก่อสร้างทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองหมายเลข ๙
ถนนสายวงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานคร ช่วงบางบัวทอง-ลาดหลุมแก้ว
วงเงินงบประมาณทั้งสิ้น ๔,๓๐๐ ล้านบาท
เป็นโครงการที่ยังไม่ได้รับการบรรจุอยู่ในแผนการบริหารหนี้สาธารณะ ประจำปีงบประมาณ
๒๕๖๖ เห็นควรให้กรมทางหลวงประสานกับกระทรวงการคลัง (สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ)
เพื่อดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องตามขั้นตอนต่อไปด้วย ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
ทั้งนี้
ให้กระทรวงคมนาคมรับความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ที่เห็นว่าควรเร่งจัดทำแผนระดับที่ ๓
(แผนปฏิบัติการด้านการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมและสิ่งอำนวยความสะดวก)
ให้แล้วเสร็จโดยเร็ว และต้องคำนึงถึงประมาณการความต้องการเดินทางและขนส่งสินค้าทั้งในประเทศและระดับพื้นที่
การใช้ประโยชน์โครงสร้างพื้นฐานและสิ่งอำนวยความสะดวกทุกรูปแบบที่มีอยู่ในปัจจุบันให้เกิดประโยชน์สูงสุด
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย ๒. ให้กระทรวงคมนาคมได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี)
ในการเสนอเรื่องนี้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
5290 | การจัดทำคำของบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 (สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ) | สนง. กสม. | 24/01/2566 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบคำขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๗
ของสำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ จำนวน ๓๙๘,๑๑๑,๒๐๐ บาท
ทั้งนี้
การจัดทำคำของบประมาณรายจ่ายของหน่วยรับงบประมาณดังกล่าวเป็นการยื่นคำขอตั้งงบประมาณรายจ่ายต่อคณะรัฐมนตรีภายในระยะเวลาที่คณะรัฐมนตรีกำหนด
โดยแสดงวัตถุประสงค์ แผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ และรายงานเกี่ยวกับเงินนอกงบประมาณ ตามนัยมาตรา ๒๘
แห่งพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ เพื่อสำนักงบประมาณจะได้จัดทำงบประมาณตามขั้นตอนต่อไป
ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
5291 | ขออนุมัติรายการผูกพันข้ามปีงบประมาณที่มีวงเงินตั้งแต่ 1,000 ล้านบาทขึ้นไป กระทรวงยุติธรรม | ยธ. | 24/01/2566 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติในหลักการให้กระทรวงยุติธรรมนำรายการที่มีวงเงินตั้งแต่
๑,๐๐๐ ล้านบาทขึ้นไป จำนวน ๓ โครงการ
วงเงินทั้งสิ้น ๕,๐๐๔,๑๗๙,๒๐๐ บาท เพื่อเสนอเป็นคำขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๗
จำนวน ๑,๐๐๐,๘๓๕,๙๐๐
บาท ส่วนที่เหลือผูกพันงบประมาณรายจ่าย พ.ศ. ๒๕๖๘-พ.ศ. ๒๕๖๙ จำนวน ๔,๐๐๓,๓๔๓,๓๐๐ บาท ตามนัยมาตรา
๒๖ ของพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ ทั้งนี้
ให้จัดทำแผนการดำเนินการและยืนยันความพร้อมของโครงการก่อสร้างเรือนจำ จำนวน ๓
โครงการดังกล่าว โดยมีรายละเอียดรูปแบบรายการ ประมาณการค่าก่อสร้าง
สถานที่พร้อมที่จะดำเนินการ
รวมทั้งพิจารณาจัดลำดับความสำคัญของโครงการให้เหมาะสมตามความจำเป็นเร่งด่วน ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
ทั้งนี้ ให้กระทรวงยุติธรรมรับความเห็นของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ที่เห็นควรควบคุม
ดูแล และกำกับการดำเนินงานโครงการก่อสร้างเรือนจำดังกล่าว
เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และเป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบ
และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
5292 | การขอรับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ซึ่งจะต้องมีการก่อหนี้ผูกพันงบประมาณมากกว่าหนึ่งปีงบประมาณสำหรับรายการที่มีวงเงินตั้งแต่ 1,000 ล้านบาทขึ้นไป ของกระทรวงมหาดไทย | มท. | 24/01/2566 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติในหลักการให้กระทรวงมหาดไทยนำรายการที่มีวงเงินตั้งแต่
๑,๐๐๐
ล้านบาทขึ้นไป ของ ๓ หน่วยงาน จำนวน ๗ โครงการ วงเงินทั้งสิ้น ๑๕,๔๘๖.๘๔๗๗ ล้านบาท เพื่อเสนอเป็นคำขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๗ ตามนัยมาตรา ๒๖ ของพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑
และมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๕ ตุลาคม ๒๕๖๕ เรื่อง
แนวทางการจัดทำงบประมาณและปฏิทินงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๗ ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
ทั้งนี้
ให้กระทรวงมหาดไทยและกรุงเทพมหานครรับความเห็นของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ เช่น
มอบหมายให้หน่วยงานรับผิดชอบจัดทำรายละเอียดสาระสำคัญของโครงการ
เพื่อนำเสนอพิจารณาขอความเห็นชอบดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย และระเบียบที่เกี่ยวข้อง
เป็นต้น ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
5293 | ร่างประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การให้ใช้บังคับผังเมืองรวมสมุทรปราการ พ.ศ. .... (แก้ไขเพิ่มเติมกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมสมุทรปราการ พ.ศ. 2556) | มท. | 24/01/2566 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
ดังนี้ ๑. เห็นชอบร่างประกาศกระทรวงมหาดไทย
เรื่อง การให้ใช้บังคับผังเมืองรวมสมุทรปราการ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมสมุทรปราการ
พ.ศ. ๒๕๕๖ เพื่อเปลี่ยนแปลงการใช้ประโยชน์ที่ดินประเภทชนบทและเกษตรกรรม (สีเขียว)
บริเวณ ก. ๑-๓ (บางส่วน) ให้เป็นที่ดินประเภทสถาบันราชการ
การสาธารณูปโภคและสาธารณูปการ (สีน้ำเงิน) บริเวณ ส. -๑-๑
(ศูนย์บริการและสนับสนุนกิจการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ)
เพื่อจัดเตรียมพื้นที่ในการรองรับ การพัฒนากิจกรรม ระบบโครงสร้างพื้นฐาน
และสิ่งอำนวยความสะดวก เช่น การก่อสร้างอาคารรองรับนักท่องเที่ยวและผู้โดยสาร
อาคารตรวจสอบและรับรองคุณภาพสินค้า (Certify Hub) ก่อนส่งสินค้าออกไปต่างประเทศ
ตลอดจนพัฒนาพื้นที่เพื่อดำเนินการที่ต่อเนื่องกับกิจการท่าอากาศยานต่าง ๆ ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ
และให้ดำเนินการต่อไปได้ ๒.
ให้กระทรวงมหาดไทยรับความเห็นของกระทรวงคมนาคม ที่ควรต้องปฏิบัติตามกฎหมาย
กฎหรือระเบียบ และความเห็นของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
เพื่อให้เกิดความโปร่งใสในการดำเนินงาน ตามหลักธรรมาภิบาล เกิดผลสัมฤทธิ์
หรือประโยชน์ต่อภาครัฐและประชาชนเป็นสำคัญ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
5294 | การขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ของสำนักงานคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า | สขค | 24/01/2566 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบคำขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๗ ของสำนักงานคณะกรรมการแข่งขันทางการค้า จำนวน ๔๗๓,๑๑๙,๗๐๐ บาท ทั้งนี้
การจัดทำคำของบประมาณรายจ่ายของหน่วยรับงบประมาณดังกล่าวเป็นการยื่นคำขอตั้งงบประมาณรายจ่ายต่อคณะรัฐมนตรีภายในระยะเวลาที่คณะรัฐมนตรีกำหนด
โดยแสดงวัตถุประสงค์ แผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ และรายงานเกี่ยวกับเงินนอกงบประมาณ
ตามนัยพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ และให้สำนักงบประมาณพิจารณาตามแนวทางการจัดทำงบประมาณตามขั้นตอนต่อไป
ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ทั้งนี้ ให้สำนักงานคณะกรรมการแข่งขันทางการค้ารับความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ที่เห็นควรมุ่งเน้นการดำเนินการที่สำคัญอันจะช่วยเสริมสร้างให้เกิดบรรยากาศการแข่งขันทางการค้าที่เสรี
และเป็นธรรม สอดคล้องกับอำนาจหน้าที่ภายใต้พระราชบัญญัติการแข่งขันทางการค้า พ.ศ.
๒๕๖๐ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
5295 | ร่างพระราชบัญญัติโอนกรรมสิทธิ์ที่ราชพัสดุที่เป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินที่ใช้เพื่อประโยชน์ของแผ่นดินโดยเฉพาะ ในท้องที่ตำบลดงเย็น อำเภอบ้านดุง จังหวัดอุดรธานี ให้แก่นางมี รักเสมอวงศ์ พ.ศ. .... | กค. | 24/01/2566 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติโอนกรรมสิทธิ์ที่ราชพัสดุที่เป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินที่ใช้เพื่อประโยชน์ของแผ่นดินโดยเฉพาะ
ในท้องที่ตำบลดงเย็น อำเภอบ้านดุง จังหวัดอุดรธานี ให้แก่นางมี รักเสมอวงศ์ พ.ศ.
.... มีสาระสำคัญเป็นการโอนกรรมสิทธิ์ที่เป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินที่ใช้เพื่อประโยชน์ของแผ่นดินโดยเฉพาะเพื่อแลกเปลี่ยนกับที่ดินที่อยู่ในความครอบครองของนางมี
รักเสมอวงศ์ ซึ่งเป็นที่ตั้งของโรงเรียนวัดป่าเป้า จังหวัดอุดรธานี
ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรพิจารณา
ก่อนเสนอสภาผู้แทนราษฎรต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
5296 | ร่างกฎหมายการขยายระยะเวลามาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการบริจาคด้านสาธารณสุข [ร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....] | กค. | 24/01/2566 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. รับทราบการยกเลิกหลักเกณฑ์เพื่อเป็นแนวทางในการกำหนดสิทธิประโยชน์ทางภาษีสำหรับการบริจาคด้านสาธารณสุขตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๓๐ พฤศจิกายน ๒๕๖๔ และวันที่ ๒๖ กรกฎาคม ๒๕๖๕ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ๒. อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร
(ฉบับที่ ...) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการขยายระยะเวลายกเว้นภาษีเงินได้แก่บุคคลธรรมดาและบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล
โดยให้หักลดหย่อนหรือหักเป็นรายจ่ายได้สองเท่าของจำนวนเงินหรือทรัพย์สินที่บริจาคผ่านระบบบริจาคอิเล็กทรอนิกส์
(e-Donation)
ของกรมสรรพากร สำหรับการบริจาคให้แก่หน่วยรับบริจาค ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน
แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
5297 | การลงทุนโครงการจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) | อก. | 24/01/2566 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
ดังนี้ ๑.
รับทราบตามที่ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยชี้แจงว่า
เนื่องจากไม่มีที่ราชพัสดุในบริเวณใกล้เคียงที่มีขนาดใหญ่เพียงพอสำหรับดำเนินโครงการจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก
(EEC) ประกอบกับผลการสำรวจความต้องการของนักลงทุนพบว่านักลงทุนมีความสนใจที่จะลงทุนในโครงการนี้มากยิ่งขึ้นหากสามารถได้รับกรรมสิทธิ์ในที่ดินของโครงการฯ
ด้วย ดังนั้น
การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยจึงมีความจำเป็นต้องซื้อที่ดินจากเอกชนเพื่อดำเนินโครงการนี้ ๒. เห็นชอบการลงทุนจัดซื้อที่ดินโครงการจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก
(EEC) ตั้งอยู่ในท้องที่ตำบลสำนักทอง
อำเภอเมืองระยอง จังหวัดระยอง เนื้อที่ประมาณ ๑,๔๘๒ ไร่ วงเงิน ๒,๖๖๘ ล้านบาท
และการลงทุนจัดซื้อที่ดินโครงการจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมในพื้นที่จังหวัดลำพูน
พื้นที่ตำบลมะเขือแจ้ ตำบลบ้านกลาง อำเภอเมืองลำพูน จังหวัดลำพูน เนื้อที่ประมาณ
๖๕๓ ไร่ และที่ดินถนนทางเข้าประมาณ ๒๕ ไร่ วงเงิน ๘๔๒ ล้านบาท ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ
และให้กระทรวงอุตสาหกรรม (การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย)
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงการคลัง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
กระทรวงคมนาคม และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควร (๑)
จัดทำแผนการพัฒนานิคมอุตสาหกรรมในภาพรวม
และจัดทำแผนการตลาดของโครงการการศึกษาความต้องการของนักลงทุนในพื้นที่ (๒)
พัฒนานิคมอุตสาหกรรมให้มีลักษณะเป็นนิคมอุตสาหกรรม Smart Park (๓) ในกระบวนการจัดทำ EIA/EHIA ควรให้ความสำคัญกับความพอเพียงของการจัดการน้ำผิวดิน
น้ำบาดาล และการทำให้เกิด Circular Economy รวมถึงกำหนดให้แบบก่อสร้างมีทางไหลของน้ำเพื่อเลี่ยงกรณีน้ำท่วมใหญ่และไม่ขวางเส้นทางน้ำธรรมชาติ
(๔) ทบทวนรูปแบบการบริหารจัดการนิคมอุตสาหกรรมในระยะที่ผ่านมา
รวมทั้งทบทวนวิธีการการคำนวณผลตอบแทนทางการเงิน (๕)
ประชาสัมพันธ์และจัดทำแผนการตลาดเพื่อเชิญชวนและจูงใจกลุ่มนักลงทุนเป้าหมาย และ
(๖) สร้างความร่วมมือกับสถาบันการศึกษา สถาบันวิจัย
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการผลิตกำลังคนให้มีความพร้อม และจัดทำมาตรการส่งเสริมการถ่ายทอดเทคโนโลยีและนวัตกรรมจากผู้ประกอบการหรือบริษัทข้ามชาติในนิคมอุตสาหกรรม
สู่ผู้ประกอบการรายย่อย ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
5298 | แผนการใช้เงินของกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 | กสศ. | 24/01/2566 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
ดังนี้ ๑. เห็นชอบแผนการใช้เงินของกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา
ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๗ ภายในกรอบวงเงิน ๗,๙๘๕,๗๘๖,๑๐๐ บาท ตามนัยมาตรา ๖
(๓) ของพระราชบัญญัติกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา พ.ศ. ๒๕๖๑ โดยให้กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา
จัดทำแผนปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ
พร้อมรายละเอียดของกลุ่มเป้าหมายและค่าใช้จ่ายที่ชัดเจน ตามความจำเป็นอย่างเหมาะสม
และควรจัดทำรายละเอียดและฐานการคำนวณค่าใช้จ่ายต่อหัวในการขอปรับเพิ่มอัตราเงินอุดหนุนแก่นักเรียนทุนเสมอภาคเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาให้ความเห็นชอบก่อนที่จำนำมาใช้ปรับเพิ่มอัตราเงินอุดหนุนแก่นักเรียนทุนเสมอภาคในปีการศึกษา
๒๕๖๗ โดยคำนึงถึงความเสมอภาคในแต่ละช่วงระดับชั้นและไม่ซ้ำซ้อนในการสนับสนุนเงินและค่าใช้จ่ายให้แก่เด็กและเยาวชนที่ขาดแคลนทุนทรัพย์หรือด้อยโอกาส
เพื่อมิให้เกิดภาระงบประมาณในระยะยาว รวมทั้งควรพิจารณาให้ความสอดคล้องกับหลักเกณฑ์
แนวทาง รูปแบบ ในการพิจารณาปรับเพิ่มเงินอุดหนุนรายหัวตามความจำเป็นพื้นฐาน
และการรับอัตราค่าอาหารกลางวัน ตามที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้แล้ว
ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ๒. ในการดำเนินงานของกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา
(กสศ.) ให้ กสศ. บูรณาการการใช้ประโยชน์ข้อมูลของเด็กนักเรียนยากจนร่วมกับกระทรวงมหาดไทยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ตามระบบบริหารจัดการข้อมูลการพัฒนาคนแบบพุ่งเป้า (TPMAP) เพื่อแก้ไขการขาดโอกาสทางการศึกษาให้แก่เด็กนักเรียนที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ที่มีโอกาสหลุดออกจากระบบการศึกษาได้อย่างครอบคลุม
ทั่วถึง และไม่เกิดความซ้ำซ้อน ทั้งนี้ ให้ กสศ.
รับข้อเสนอแนะของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ที่เห็นว่าการให้เงินอุดหนุนเพื่อสร้างหลักประกันความเสมอภาคทางการศึกษาให้แก่กลุ่มเด็กนักเรียนยากจน
ควรคำนึงถึงมาตรการในการป้องกันการตกหล่นจากการได้รับสิทธิประโยชน์ของภาครัฐ
โดยอาจพิจารณาแนวทางการเชื่อมต่อระบบฐานข้อมูลร่วมกับฐานข้อมูลอื่น ๆ ของภาครัฐ
ที่มุ่งให้ความช่วยเหลือครัวเรือนกลุ่มยากจน ด้อยโอกาส และเปราะบาง
ควรยกระดับประสิทธิภาพและแนวทางการดำเนินงานเพื่อส่งต่อโอกาสในการเรียนระดับสูงกว่าการศึกษาภาคบังคับของเด็กนักเรียนยากจน
ผ่านการสร้างความร่วมมือกับภาคีเครือข่ายในการเชื่อมโยงและส่งต่อข้อมูลกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการดำเนินงาน
และควรมีการติดตามประเมินผลความสำเร็จในการดำเนินงานของกลไกภาคีเครือข่ายอย่างต่อเนื่อง
เพื่อสะท้อนให้เห็นถึงปัญหาและอุปสรรคในเชิงกระบวนการหรือกลไกการดำเนินงาน
เพื่อนำไปสู่การพัฒนากลไกการขับเคลื่อนแผนการดำเนินงานให้สามารถบรรลุผลสำเร็จได้ในระยะต่อไป
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
5299 | สรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร (วันจันทร์ที่ 23 มกราคม 2566) | ปสส. | 24/01/2566 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร
วันจันทร์ที่ ๒๓ มกราคม
๒๕๖๖ ซึ่งพิจารณาเรื่องที่คณะรัฐมนตรีส่งมาให้วิปรัฐบาลพิจารณา ได้แก่ ร่างพระราชบัญญัติการอุดมศึกษา
(ฉบับที่ ....) พ.ศ. .... ร่างพระราชบัญญัติการส่งเสริมวิทยาศาสตร์การวิจัยและนวัตกรรม
(ฉบับที่ ....) พ.ศ. .... ร่างพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการ
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....
ร่างพระราชบัญญัติสภานโยบายการศึกษาอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม
(ฉบับที่..) พ.ศ. .... พิจารณาระเบียบวาระการประชุมร่วมกันของรัฐสภา
ครั้งที่ ๖ (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่สอง) เป็นพิเศษ วันอังคารที่ ๒๔ มกราคม
๒๕๖๖ พิจารณาระเบียบวาระการประชุมร่วมกันของรัฐสภา
ครั้งที่ ๗ (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่สอง) เป็นพิเศษ วันพุธที่ ๒๕ มกราคม
๒๕๖๖ และพิจารณาระเบียบวาระการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ ๒๕ ปีที่ ๔ ครั้งที่ ๒๔
(สมัยสามัญประจำปีครั้งที่สอง) วันพฤหัสบดีที่ ๒๖ มกราคม ๒๕๖๖
ตามที่ฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
5300 | ร่างพระราชบัญญัติการอุดมศึกษา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ร่างพระราชบัญญัติการส่งเสริมวิทยาศาสตร์การวิจัยและนวัตกรรม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ร่างพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... และร่างพระราชบัญญัติสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... รวม 4 ฉบับ [สรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร (วันจันทร์ที่ 23 มกราคม 2566)] | ปสส. | 24/01/2566 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร
วันจันทร์ที่ ๒๓ มกราคม ๒๕๖๖ ซึ่งให้เสนอร่างพระราชบัญญัติการอุดมศึกษา
(ฉบับที่ ....) พ.ศ. .... ร่างพระราชบัญญัติการส่งเสริมวิทยาศาสตร์การวิจัยและนวัตกรรม
(ฉบับที่ ....) พ.ศ. .... ร่างพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการ
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... และร่างพระราชบัญญัติสภานโยบายการอุดมศึกษา
วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ (ฉบับที่..) พ.ศ. .... รวม ๔ ฉบับ เพื่อบรรจุระเบียบวาระเป็นเรื่องด่วน
ตามที่ฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรเสนอ
|