ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 235 จากทั้งหมด 6210 หน้า แสดงรายการที่ 4681 - 4700 จากข้อมูลทั้งหมด 124181 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
4681 | ภาวะสังคมไทยไตรมาสสี่และภาพรวม ปี 2565 | นร.11 สศช | 04/04/2566 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบภาวะสังคมไทยไตรมาสสี่และภาพรวม ปี ๒๕๖๕
สรุปสาระสำคัญได้ ดังนี้ (๑) ความเคลื่อนไหวทางสังคมไตรมาสสี่และภาพรวม ปี ๒๕๖๕
เช่น สถานการณ์แรงงานไตรมาสสี่ การจ้างงานมีการขยายร้อยละ ๑.๕
จากช่วงเดียวกันของปีก่อน หนี้สินครัวเรือนในไตรมาสสาม ปี ๒๕๖๕ ขยายตัวร้อยละ ๓.๙ จากร้อยละ
๓.๕ ของไตรมาสก่อน
เป็นผลการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและการเจ็บป่วยด้วยโรคเฝ้าระวังไตรมาสสี่และภาพรวม ปี
๒๕๖๕ เพิ่มขึ้น ทั้งนี้ ต้องให้ความสำคัญกับการป้องกันโรคโควิด-๑๙
จากการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติและการหามาตรการป้องกันมลพิษทางอากาศที่ยั่งยืน
(๒) สถานการณ์ทางสังคมที่สำคัญ จำนวน ๓ เรื่อง ได้แก่ ๑) อินเทอร์เน็ต : โอกาสและข้อจำกัดในการยกระดับการศึกษาของเด็กไทย ๒) เรียนรู้การกำหนดค่าจ้างจากต่างประเทศ
และ ๓) การพัฒนาทักษะแรงงานไทย ทันหรือไม่ต่อการเปลี่ยนแปลง (๓) บทความเรื่อง
“ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา : แหล่งรายได้รัฐและเครื่องมือลดความเหลื่อมล้ำ”
มีประเด็นที่ควรดำเนินการ ได้แก่ ๑) นำคนทุกกลุ่มเข้ามาอยู่นระบบภาษี โดยเฉพาะกลุ่มแรงงานนอกระบบ
๒) ทบทวนการยกเว้นภาษีให้แก่รายได้บางประเภท ๓)
ทบทวนสิทธิประโยชน์การหักค่าใช้จ่ายและค่าลดหย่อน และ ๔) สื่อสารให้ประชาชนเห็นถึงความสำคัญของการจ่ายภาษี
ตามที่สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอ
|
|||||||||||||||||||||
4682 | สรุปรายงานการติดตามการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาลและข้อสั่งการนายกรัฐมนตรี ครั้งที่ 22 (ระหว่างวันที่ 1 มกราคม 2564 - 31 มกราคม 2566) | นร.04 | 04/04/2566 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปรายงานการติดตามการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาลและข้อสั่งการนายกรัฐมนตรี
ครั้งที่ ๒๒ (ระหว่างวันที่
๑ มกราคม ๒๕๖๔-๓๑ มกราคม ๒๕๖๖)
สรุปได้ ดังนี้ (๑) ผลการดำเนินงานตามนโยบายหลัก ๗ ด้าน เช่น
การปกป้องและเชิดชูสถาบันพระมหากษัตริย์
การสร้างความมั่นคงความปลอดภัยของประเทศและความสงบสุขของประเทศ การทำนุบำรุงศาสนา
การปฏิรูปกระบวนการเรียนรู้และพัฒนาศักยภาพของคนไทยทุกช่วงวัย
การพัฒนาระบบสาธารณสุขและหลักประกันทางสังคม และการฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและรักษาสิ่งแวดล้อมเพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน
และ (๒) นโยบายเร่งด่วน ๘ เรื่อง เช่น การแก้ไขปัญหาในการดำรงชีวิตของประชาชน
การปรับปรุงระบบสวัสดิการและพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน
มาตรการเศรษฐกิจเพื่อรองรับความผันผวนของเศรษฐกิจโลก การให้ความช่วยเหลือเกษตรกรและพัฒนานวัตกรรม
การยกระดับศักยภาพแรงงาน การวางรากฐานระบบเศรษฐกิจของประเทศสู่อนาคต
การแก้ไขปัญหายาเสพติดและสร้างความสงบสุขในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้
การพัฒนาระบบการให้บริการประชาชน ตามที่คณะกรรมการติดตามการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาลและข้อสั่งการนายกรัฐมนตรีเสนอ
|
|||||||||||||||||||||
4683 | นโยบายและแนวทางในการพัฒนาการสหกรณ์ ระยะ 5 ปี (พ.ศ. 2566-2570) | กษ. | 04/04/2566 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบนโยบายและแนวทางในการพัฒนาการสหกรณ์ ระยะ๕ ปี (พ.ศ.
๒๕๖๖-๒๕๗๐)
ตามมติคณะกรรมการพัฒนาการสหกรณ์แห่งชาติ ครั้งที่ ๔ เมือวันที่ ๒๒ ธันวาคม ๒๕๖๕
สรุปสาระสำคัญได้ ดังนี้ (๑) สถานการณ์ทั่วไปของสหกรณ์ไทย ปัจจุบันสหกรณ์มีแนวโน้มลดลง
โดยมีประมาณธุรกิจด้านการให้เงินกู้มากที่สุด
ส่วนชุมนุมสหกรณ์มีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่องเช่นกัน
โดยมีสัดส่วนปริมาณธุรกิจในการให้บริการรับฝากสูงที่สุด และ (๒)
นโยบายและแนวทางในการพัฒนาการสหกรณ์ฯ ประกอบด้วย ๖ นโยบายย่อย ได้แก่ (๑)
พัฒนาศักยภาพการบริหารจัดการสหกรณ์สู่การเป็นองค์กรสมรรถนะสูงด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรม
(๒) ส่งเสริมการขับเคลื่อนองค์กรและดำเนินธุรกิจด้วยเทคโนโลยีและข้อมูลสารสนเทศ
(๓) ยกระดับศักยภาพและสมรรถนะการดำเนินธุรกิจตามลักษณะธุรกิจและประเภทของสหกรณ์
(๔) สร้างการเชื่อมโยงและร่วมมือกันทางธุรกิจและสังคม เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน
(๕) สร้างธรรมาภิบาลในขบวนการสหกรณ์ และ (๖) ปรับโครงสร้างและบทบาทหน้าที่ขบวนการสหกรณ์
และ (๖)
ปรับโครงสร้างและบทบาทหน้าที่ขบวนการสหกรณ์และภาครัฐเพื่อให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลง ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ
|
|||||||||||||||||||||
4684 | รายงานสรุปผลการดำเนินงานของหน่วยรับงบประมาณที่เกี่ยวกับข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 วุฒิสภา | สว. | 04/04/2566 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานสรุปผลการดำเนินงานของหน่วยรับงบประมาณที่เกี่ยวกับข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๖ วุฒิสภา โดยรายงานสรุปผลการดำเนินงานดังกล่าวประกอบด้วยภาพรวมและข้อเสนอแนะที่มีต่องบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๖ จำแนกตามกระทรวง หน่วยงาน และแผนงานบูรณาการ ซึ่งครบถ้วนทุกประเด็นแล้ว
ตามที่สำนักงบประมาณเสนอ และแจ้งให้สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาทราบต่อไป
|
|||||||||||||||||||||
4685 | ร่างประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การให้ใช้บังคับผังเมืองรวมบางสะพาน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พ.ศ. .... | มท. | 04/04/2566 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. เห็นชอบร่างประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การให้ใช้บังคับผังเมืองรวมชุมชนบางสะพาน
จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พ.ศ. ....
มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้ใช้บังคับผังเมืองรวมในท้องที่ตำบลร่อนทอง
ตำบลกำเนิดนพคุณ ตำบลแม่รำพึง และตำบลพงศ์ประศาสน์ อำเภอบางสะพาน
จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เพื่อใช้เป็นแนวทางในการพัฒนา และการดำรงรักษาเมืองและบริเวณที่เกี่ยวข้องหรือชนบท
ในด้านการใช้ประโยชน์ในทรัพย์สิน การคมนาคมและขนส่ง การสาธารณูปโภค บริการสาธารณะ
และสภาพแวดล้อมให้สอดคล้องกับการพัฒนาระบบเศรษฐกิจและสังคมของประเทศตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ซึ่งมีนโยบายเพื่อส่งเสริมและพัฒนาที่อยู่อาศัย
การบริการด้านการคมนาคมและขนส่งให้เพียงพอ
และได้มาตรฐานโดยดำรงรักษาวัฒนธรรมและประเพณีซึ่งเป็นวิถีชีวิตของชุมชน
อนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมภายในพื้นที่เพื่อให้เกิดความสมดุลของระบบนิเวศ
และรักษาดุลยภาพระหว่างเศรษฐกิจชุมชนเดิมซึ่งเป็นชุมชนประมงชายฝั่งกับการพัฒนาด้านการท่องเที่ยวเชิงนิเวศที่สำคัญของประจวบคีรีขันธ์
ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงมหาดไทยรับความเห็นของกระทรวงคมนาคม
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงสาธารณสุข และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
เช่น จะต้องปฏิบัติตามกฎหมาย กฎหรือระเบียบ และความเห็นของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
เพื่อให้เกิดความโปร่งใสในการดำเนินงานตามหลักธรรมาภิบาล เกิดผลสัมฤทธิ์
หรือประโยชน์ต่อภาครัฐและประชาชนเป็นสำคัญ
การกำหนดการใช้ประโยชน์ที่ดินประเภทอนุรักษ์พื้นที่ป่าไม้บางส่วนไม่สอดคล้องกับพื้นที่วนอุทยานแม่รำพึงและวนอุทยานป่ากลางอ่าว
ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวอยู่ระหว่างเตรียมการกำหนดพื้นที่ให้เป็นอุทยานแห่งชาติอ่าวสยาม
จึงควรแก้ไขแผนผังให้ถูกต้องตรงกับแผนที่
จะต้องคำนึงถึงผลกระทบต่อการดำรงชีวิตที่ปกติสุขของประชาชน
และเป็นไปตามกฎกระทรวงควบคุมสถานประกอบกิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ พ.ศ. ๒๕๖๐
ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง กำหนดประเภทหรือขนาดของกิจการ และหลักเกณฑ์ วิธีการ
เงื่อนไข ที่ผู้ขออนุญาตจะต้องดำเนินการก่อนการพิจารณาออกใบอนุญาต พ.ศ. ๒๕๖๑
และประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง
หลักเกณฑ์การรับฟังความคิดเห็นของประชาขนที่เกี่ยวข้อง พ.ศ. ๒๕๖๑
และเมื่อผังชุมชนเมืองนี้มีผลใช้บังคับ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรกำกับดูแลการใช้ประโยชน์ที่ดินให้เป็นไปตามข้อกำหนดอย่างเคร่งครัด
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย |
|||||||||||||||||||||
4686 | การขอความเห็นชอบต่อร่างปฏิญญาเวียงจันทน์ ค.ศ. 2023 | นร.14 | 04/04/2566 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการต่อร่างปฏิญญาเวียงจันทน์
ค.ศ. ๒๐๒๓ โดยร่างปฏิญญาฯ เป็นเอกสารแสดงเจตนารมณ์เชิงนโยบายของประเทศสมาชิกคณะกรรมาธิการแม่น้ำโขงในการมุ่งเน้นการดำเนินการตามพันธกรณี
ของความตกลงว่าด้วยความร่วมมือเพื่อการพัฒนาลุ่มแม่น้ำโขงอย่างยั่งยืน พ.ศ. ๒๕๓๘
และอนุมัติให้รองนายกรัฐมนตรี (นายประวิตร วงษ์สุวรรณ) หรือผู้ที่ได้รับมอบหมายให้เป็นหัวหน้าคณะผู้แทนไทยในการประชุมรัฐมนตรีเสนอการปรับแก้ไขถ้อยคำในร่างปฏิญญาเวียงจันทน์
ค.ศ. ๒๐๒๓ ตามข้อคิดเห็นของกรมสนธิสัญญาและกฎหมายในการประชุมรัฐมนตรีในกรณีที่มีความจำเป็น
และให้นายกรัฐมนตรีหรือผู้ที่ได้รับมอบหมายให้เป็นหัวหน้าคณะผู้แทนไทยในการประชุมรัฐมนตรีสุดยอดผู้นำลุ่มน้ำโขงตอนล่าง
ครั้งที่ ๔ เป็นผู้รับรองปฏิญญาเวียงจันทน์ ค.ศ. ๒๐๒๓ ตามที่สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติเสนอ
ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างปฏิญญาเวียงจันทน์ ค.ศ. ๒๐๒๓
ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้
ให้สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง
พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าว
ตามหลักเกณฑ์ของมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การจัดทำหนังสือสัญญาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรือองค์การระหว่างประเทศ)
ด้วย |
|||||||||||||||||||||
4687 | ร่างเอกสารผลลัพธ์การประชุมระดับรัฐมนตรีอาเซียนว่าด้วยเรื่องการเร่งรัดการขับเคลื่อนเพื่อให้บรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน ครั้งที่ 2 | นร.11 สศช | 04/04/2566 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างเอกสารผลลัพธ์การประชุมระดับรัฐมนตรีอาเซียนว่าด้วยเรื่องการเร่งรัดการขับเคลื่อนเพื่อให้บรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน
ครั้งที่ ๒ ซึ่งประกอบด้วย (๑)
ร่างขอบเขตการดำเนินงานของการประชุมระดับรัฐมนตรีอาเซียนว่าด้วยเรื่องการเร่งรัดการขับเคลื่อนเพื่อให้บรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน
และ (๒)
ร่างแถลงการณ์ร่วมระดับรัฐมนตรีว่าด้วยเรื่องการเร่งรัดการขับเคลื่อนเพื่อให้บรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน
ครั้งที่ ๒ และเห็นชอบให้รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายอนุชา นาคาศัย)
หรือผู้แทนที่ได้รับมอบหมายปฏิบัติหน้าที่รัฐมนตรีในการประชุมระดับรัฐมนตรีอาเซียนว่าด้วยเรื่องการเร่งรัดการขับเคลื่อนเพื่อให้บรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน
ครั้งที่ ๒
และเข้าร่วมการประชุมในฐานะหัวหน้าคณะผู้แทนฝ่ายไทยในการประชุมระดับรัฐมนตรีดังกล่าว
พร้อมทั้งร่วมกับรัฐมนตรีของประเทศสมาชิกอาเซียนให้การรับรองร่างเอกสารผลลัพธ์ฯ
โดยไม่มีการลงนาม โดยร่างขอบเขตการดำเนินงานฯ มีวัตถุประสงค์เพื่อติดตาม เร่งรัด
แลกเปลี่ยน และให้ข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการดำเนินงานเพื่อให้บรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนในระดับภูมิภาคอาเซียน
ส่วนร่างแถลงการณ์ร่วมระดับรัฐมนตรีฯ เป็นการแสดงเจตนารมณ์ร่วมกันของรัฐมนตรีด้านการวางแผนแห่งชาติของประเทศสมาชิกอาเซียนที่ต้องการส่งเสริมและเน้นย้ำเรื่องความร่วมมือเกี่ยวกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนในภูมิภาคอาเซียน
ตามที่สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอ ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างเอกสารผลลัพธ์ฯ
ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้
ให้สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติดำเนินการได้
โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง
พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวด้วย
|
|||||||||||||||||||||
4688 | นายกรัฐมนตรีลากิจในวันที่ 31 มีนาคม 2566 วันที่ 3 เมษายน 2566 และวันที่ 4 เมษายน 2566 | นร.05 | 04/04/2566 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่เลขาธิการคณะรัฐมนตรีแจ้งว่า
นายกรัฐมนตรีได้ลากิจในวันศุกร์ที่ ๓๑ มีนาคม ๒๕๖๖ ตั้งแต่เวลา ๑๓.๐๐ น. เป็นต้นไป
วันจันทร์ที่ ๓ เมษายน ๒๕๖๖ ตั้งแต่เวลา ๐๘.๓๐-๑๖.๓๐ น. และในวันอังคารที่ ๔
เมษายน ๒๕๖๖ ตั้งแต่เวลา ๐๘.๓๐ น.-๑๔.๐๐ น.
ซึ่งสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีได้จัดทำหนังสือเวียนแจ้งให้รัฐมนตรีทุกท่านทราบแล้ว
ทั้งนี้ ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการลาของข้าราชการ พ.ศ. ๒๕๕๕ ข้อ ๔๑
กำหนดให้การลาทุกประเภทของนายกรัฐมนตรีให้อยู่ในดุลพินิจของนายกรัฐมนตรี
แลแจ้งให้คณะรัฐมนตรีทราบ
|
|||||||||||||||||||||
4689 | ร่างบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือระหว่างสำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออกและสำนักงานส่งเสริมการค้าและการลงทุนแห่งสาธารณรัฐเกาหลีฉบับใหม่ | สกพอ. | 04/04/2566 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือระหว่างสำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออกและสำนักงานส่งเสริมการค้าและการลงทุนแห่งสาธารณรัฐเกาหลี
และอนุมัติให้เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออกหรือผู้ที่ได้รับมอบหมายเป็นผู้ลงนามบันทึกความเข้าใจฯ
ฉบับใหม่ของฝ่ายไทย โดยร่างบันทึกความเข้าใจฯ
มีวัตถุประสงค์เป็นกรอบความร่วมมือในการส่งเสริมความสัมพันธ์ในด้านธุรกิจและอุตสาหกรรมระหว่างไทยและเกาหลีใต้
โดยมุ่งเน้นการสนับสนุนให้เกิดการลงทุนในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออกของไทย
โดยเฉพาะอุตสาหกรรมที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง โดยบันทึกความเข้าใจฯ
ได้รับการลงนามและมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ ๒๕ พฤศจิกายน ๒๕๖๒ และมีอายุ ๓ ปี
(สิ้นสุดผลบังคับใช้วันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๖๕)
ตามที่สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออกเสนอ และหากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างบันทึกความเข้าใจฯ
ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้
ให้สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออกดำเนินการได้
โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวตามหลักเกณฑ์ของมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๘ (เรื่อง
การจัดทำหนังสือสัญญาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรือองค์การระหว่างประเทศ)
ทั้งนี้ ให้สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออกรับความเห็นของกระทรวงคมนาคมที่เห็นควรมุ่งเน้นส่งเสริมให้มีการแลกเปลี่ยนถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านการวิจัยและพัฒนาในมิติต่าง
ๆ ที่เกี่ยวข้องในการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมในภาคอุตสาหกรรม
โดยเฉพาะอุตสาหกรรมที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง
ผลักดันให้เกิดการลงทุนพัฒนาในระบบนิเวศทางธุรกิจและอุตสาหกรรม (Ecosystems) ของไทย
ซึ่งรวมถึงการพัฒนาระบบขนส่งโลจิสติกส์ที่มีประสิทธิภาพ เพื่อให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม
โดยเฉพาะในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก โดยสำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก
สำนักงานส่งเสริมการค้าและการลงทุนแห่งสาธารณรัฐเกาหลี และหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนของทั้งสองประเทศสามารถแสวงหาโอกาสต้นแบบการพัฒนาที่เหมาะสมเพื่อผลประโยชน์ร่วมกันและแบ่งปันข้อมูล
ตลอดจนเทคโนโลยีที่ทันสมัยภายใต้กรอบความร่วมมือฉบับนี้ โดยขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องปฏิบัติตามกฎหมาย
ระเบียบ ข้อบังคับ มติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง และหลักธรรมาภิบาลอย่างเคร่งครัด
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย |
|||||||||||||||||||||
4690 | การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ | นร. | 04/04/2566 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติกำชับให้กระทรวงการคลัง
คณะกรรมการประชารัฐสวัสดิการเพื่อเศรษฐกิจฐานรากและสังคม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องระมัดระวังในการเก็บรักษาข้อมูลอย่างรอบคอบ
รัดกุม รวมทั้งให้ถือปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๔ และ ๒๘ กุมภาพันธ์
๒๕๖๖ อย่างเคร่งครัด
โดยไม่ให้เผยแพร่ข้อมูลส่วนบุคคลภายใต้โครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐแก่สาธารณชน
หรือนำข้อมูลส่วนบุคคลไปใช้เพื่อวัตถุประสงค์อื่นใดที่ไม่เกี่ยวข้องกับการดำเนินโครงการตามอำนาจหน้าที่อย่างเด็ดขาด
|
|||||||||||||||||||||
4691 | การแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการการจัดการเรื่องราวร้องทุกข์ (รองศาสตราจารย์พันธุ์ทิพย์ สายสุนทร) | นร.01 | 04/04/2566 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง
รองศาสตราจารย์พันธุ์ทิพย์ สายสุนทร เป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ
(ด้านการคุ้มครองสิทธิเสรีภาพของประชาชน) ในคณะกรรมการการจัดการเรื่องราวร้องทุกข์
แทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิเดิมที่พ้นจากตำแหน่งเนื่องจากขอลาออก โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ
(๔ เมษายน ๒๕๖๖) เป็นต้นไป
และผู้ได้รับแต่งตั้งแทนนี้อยู่ในตำแหน่งเท่ากับวาระที่เหลืออยู่ของกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งได้แต่งตั้งไว้แล้ว
ตามที่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเสนอ
|
|||||||||||||||||||||
4692 | การสิ้นสุดหน้าที่ของ นายอาร์มันด์ โยสต์ กงสุลใหญ่กิตติมศักดิ์ ณ นครเจนีวา สมาพันธรัฐสวิส และการปิดสถานกงสุลกิตติมศักดิ์ ณ นครเจนีวา สมาพันธรัฐสวิส เป็นการชั่วคราว | กต. | 04/04/2566 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบ ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ ดังนี้ ๑. การสิ้นสุดหน้าที่ของ
นายอาร์มันด์ โยสต์ (Mr. Armand Jost) กงสุลใหญ่กิตติมศักดิ์ ณ นครเจนีวา สมาพันธรัฐสวิส ตั้งแต่วันที่ ๒๐
มิถุนายน ๒๕๖๕ เนื่องจากขอลาออกจากตำแหน่ง
|
|||||||||||||||||||||
4693 | รายงานผลการพิจารณาในภาพรวมต่อข้อเสนอแนะมาตรการหรือแนวทางในการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชน กรณีสิทธิมนุษยชนของแรงงานข้ามชาติกับสถานการณ์การลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมาย | สม. | 28/03/2566 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานสรุปผลการพิจารณาต่อข้อเสนอแนะมาตรการหรือแนวทางในการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชน
กรณีสิทธิมนุษยชนของแรงงานข้ามชาติกับสถานการณ์การลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมาย ของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ
ซึ่งกระทรวงแรงงานได้หารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว โดยมีผลสรุปในภาพรวมว่า
ข้อเสนอในระยะสั้นกระทรวงแรงงานได้สำรวจความต้องการแรงงานข้ามชาติของผู้ประกอบการ
และได้ประชุมหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับการปรับลดค่าธรรมเนียมใบอนุญาตแล้ว
โดยที่ประชุมเห็นว่า หากมีการปรับลดค่าธรรมเนียมใบอนุญาตทำงานจะส่งผลกระทบต่อการบริหารจัดการกองทุนเพื่อบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว
ควรให้คงค่าธรรมเนียมใบอนุญาตทำงานในอัตราเดิม
รวมทั้งได้ปรับลดมาตรการการนำเข้าแรงงานต่างด้าวตาม MOU ให้มีความสะดวกและรวดเร็ว
โดยให้เพิ่มช่องทางการเดินทางระหว่างประเทศทางอากาศ และเห็นชอบในหลักการปรับลดค่าธรรมเนียมการตรวจลงตรา
(VISA) จาก ๒,๐๐๐ บาท เหลือ ๕๐๐ บาท
นอกจากนี้
กระทรวงแรงงานได้แก้ไขปัญหาการนำเข้าแรงงานต่างด้าวให้มีกระบวนการขั้นตอนที่สะดวกและรวดเร็วตามมาตรฐานสากล
ส่วนข้อเสนอแนะในระยะยาวกระทรวงแรงงานได้ร่วมลงนามใน MOU กับประเทศคู่ภาคี
(กัมพูชา ลาว เมียนมา และเวียดนาม) เพื่อแก้ปัญหาการลักลอบนำเข้าแรงงานผิดกฎหมาย ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ
และแจ้งให้คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติทราบต่อไป
|
|||||||||||||||||||||
4694 | รายงานสรุปผลการพิจารณาต่อข้อเสนอแนะมาตรการหรือแนวทางในการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชน กรณีปัญหาการจัดการที่ดินของหน่วยงานของรัฐ | สม. | 28/03/2566 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานสรุปผลการพิจารณาต่อข้อเสนอแนะมาตรการหรือแนวทางในการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชน
กรณีปัญหาการจัดการที่ดินของหน่วยงานของรัฐ ของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ
ซึ่งได้ประชุมหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว เมื่อวันที่ ๒๗ กันยายน ๒๕๖๕
โดยมีผลสรุปในภาพรวมว่า ให้คงคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ ๓๑/๒๕๖๐
เรื่องการใช้ที่ดินเพื่อเกษตรกรรมตามกฎหมายว่าด้วยการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่เกษตรกรและประโยชน์สาธารณของประเทศ
ลงวันที่ ๒๓ มิถุนายน ๒๕๖๐ ไว้
โดยให้ใช้เฉพาะในบางพื้นที่และเป็นกิจการที่ได้รับอนุญาตก่อนวันที่คำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติดังกล่าวมีผลบังคับใช้เท่านั้น
และให้การแก้ไขปัญหาพื้นที่ทับซ้อนระหว่างป่าสงวนแห่งชาติกับพื้นที่เขตปฏิรูปที่ดินเป็นกรณีที่ควรดำเนินการเร่งด่วน
ทั้งนี้
ให้แต่ละหน่วยงานคำนึงถึงผลกระทบและการเยียวยาประชาชนที่ได้รับผลกระทบนั้นด้วย
รวมทั้งให้ดำเนินการตามความเห็นของคณะกรรมการกฤษฎีกา เรื่องเสร็จที่ ๘๕๑/๒๕๕๕
อย่างเคร่งครัด ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ
และแจ้งให้คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติทราบต่อไป
|
|||||||||||||||||||||
4695 | การดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีเรื่อง ระบบการอำนวยความสะดวกแก่ผู้เดินทาง (Ease of Traveling) | กก. | 28/03/2566 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีเรื่อง
ระบบการอำนวยความสะดวกแก่ผู้เดินทาง (Ease of Traveling)
โดยมีข้อเสนอเพื่อผลักดันระบบให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยการดำเนินการพัฒนาระบบการอำนวยความสะดวกแก่ผู้เดินทางถือเป็นเรื่องที่มีความสำคัญที่ช่วยเพิ่มโอกาสให้ผู้เดินทางตัดสินใจเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศมากขึ้น
โดยมีผลต่อการสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวเข้าสู่ประเทศ ดังนั้น
เมื่อมีการดำเนินการให้เป็นไปตามแผนการดำเนินการปี ๒๕๖๕-๒๕๖๗
ควรมีการขยายผลโดยการวิเคราะห์ความพึงพอใจ พฤติกรรมและความต้องการของนักท่องเที่ยว
ที่สอดคล้องกับทิศทางและการคาดการณ์ด้านการท่องเที่ยวในอนาคตและจัดทำแผนการดำเนินการในปีต่อ
ๆ ไป
เพื่อพัฒนาระบบการอำนวยความสะดวกแก่ผู้เดินทางให้ตอบสนองพฤติกรรมและความต้องการของนักท่องเที่ยวให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
และการสร้างการรับรู้ให้แก่ผู้เดินทางหรือนักท่องเที่ยวเกี่ยวกับระบบการอำนวยความสะดวกแก่ผู้เดินทางถือเป็นเรื่องที่สำคัญเนื่องจากจะทำให้ผู้เดินทางหรือนักท่องเที่ยวเข้ามาใช้ระบบการอำนวยความสะดวกแก่ผู้เดินทางมากขึ้น
จึงอาจมีความจำเป็นที่จะต้องสร้างการรับรู้ด้วยการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ให้ความรู้แก่ประชาชน
ผู้ประกอบการ หน่วยงานของรัฐ ควบคู่ไปกับการพัฒนาระบบให้ดียิ่งขึ้นต่อไปในอนาคต ตามที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเสนอ
|
|||||||||||||||||||||
4696 | รายงานประจำปี 2565 ของสถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี | ศธ. | 28/03/2566 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานประจำปี ๒๕๖๕ ของสถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
(สสวท.) สรุปสาระสำคัญได้ ดังนี้ (๑) ผลการดำเนินงานของสถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ประจำปี ๒๕๖๕ เช่น การพัฒนาเครื่องมือที่เป็นกรอบการประเมินและข้อสอบวิชาวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์สำหรับคัดเลือกนักเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนปลายเข้าศึกษาต่อระดับอุดมศึกษา
ปีการศึกษา ๒๕๖๕ (TCAS 65) การพัฒนาครูผู้สอนวิทยาศาสตร์
คณิตศาสตร์ และเทคโนโลยีและบุคลากรทางการศึกษาในโรงเรียน
โครงการพระราชดำริให้แก่ครูโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน จำนวน ๖๐๘ คน
การบริหารการผลิตครูที่มีความสามารถพิเศษทางวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ (สควค.)
โดยบรรจุผู้รับทุนโครงการ สควค. ที่สำเร็จการศึกษาในตำแหน่งครูผู้ช่วย จำนวน ๙๒๘
คน และการประชาสัมพันธ์เชิงรุกเพื่อให้เกิดความรู้ความเข้าใจในการทำงานของ สสวท.
และสร้างความตระหนักรู้ทางด้านวิทยาศาสตร์ เช่น จัดเทศกาลภาพยนต์วิทยาศาสตร์ในหัวข้อ
“สุขภาพที่ดีจากความเข้าใจที่มากขึ้น” ให้ได้รับชมฟรี และ (๒)
รายงานของผู้สอบบัญชีและรายงานการเงินของ สสวท. สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ ๓๐ กันยายน
๒๕๖๕ ประกอบด้วย งบแสดงฐานะทางการเงิน และงบแสดงผลการดำเนินงานทางการเงิน
ซึ่งสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินได้ตรวจสอบแล้ว
เห็นว่าถูกต้องตามที่ควรในสาระสำคัญตามมาตรฐานการบัญชีภาครัฐและนโยบายการบัญชีภาครัฐที่กระทรวงการคลังกำหนด
ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการเสนอ
|
|||||||||||||||||||||
4697 | แจ้งผลคำพิพากษาศาลปกครองกลาง ในคดีหมายเลขดำที่ ส.88/2561 คดีหมายเลขแดงที่ ส.9/2566 ระหว่างเครือข่ายวางแผนและผังเมืองเพื่อสังคม ที่ 1 กับพวกรวม 12 คน ผู้ฟ้องคดี คณะรัฐมนตรี ที่ 1 กับพวกรวม 4 คน ผู้ถูกฟ้องคดี เรื่อง คดีพิพาทเกี่ยวกับการที่หน่วยงานทางปกครองหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐกระทำการโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย (การดำเนินโครงการพัฒนาริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา) | อส. | 28/03/2566 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลคำพิพากษาศาลปกครองกลาง ในคดีหมายเลขดำที่ ส.๘๘/๒๕๖๑ คดีหมายเลขแดงที่ ส.๙/๒๕๖๖ ระหว่างเครือข่ายวางแผนและผังเมืองเพื่อสังคม ที่ ๑ กับพวกรวม ๑๒ คน
ผู้ฟ้องคดี คณะรัฐมนตรี ที่ ๑ กับพวกรวม ๔ คน ผู้ถูกฟ้องคดี เรื่อง
คดีพิพาทเกี่ยวกับการที่หน่วยงานทางปกครองหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐกระทำการโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย
(การดำเนินโครงการพัฒนาริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา) โดยไม่ยื่นอุทธรณ์คัดค้านคำพิพากษาของศาลปกครองกลางในส่วนของคณะรัฐมนตรี
ผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๑ ต่อไป ตามความเห็นของสำนักงานคดีปกครอง สำนักงานอัยการสูงสุด
|
|||||||||||||||||||||
4698 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมเหล็กกล้าทรงเเบนรีดร้อน สำหรับงานโครงสร้างเครื่องจักรกลต้องเป็นไปตามมาตรฐาน พ.ศ. .... | อก. | 28/03/2566 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมเหล็กกล้าทรงเเบนรีดร้อน
สำหรับงานโครงสร้างเครื่องจักรกลต้องเป็นไปตามมาตรฐาน พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการปรับปรุงแก้ไขมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมเหล็กกล้าทรงแบนรีดร้อน
เนื่องจากมาตรฐานบังคับดังกล่าวใช้มาเกิน ๕ ปีแล้ว
และเพื่อให้สอดคล้องกับมาตรฐานอ้างอิง การพัฒนาเทคโนโลยี
การทำและการใช้ภายในประเทศ ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว
และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||
4699 | ร่างประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การให้ใช้บังคับผังเมืองรวมชุมชนโคกกลอย - ท้ายเมือง จังหวัดพังงา พ.ศ. .... | มท. | 28/03/2566 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ๑. เห็นชอบร่างประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การให้ใช้บังคับผังเมืองรวมชุมชนโคกกลอย-ท้ายเมือง จังหวัดพังงา
พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้ใช้บังคับผังเมืองรวม ในท้องที่ตำบลท้ายเหมือง
ตำบลนาเตย อำเภอท้ายเหมือง และตำบลโคกลอย ตำบลหล่อยูง และตำบลท่าอยู่
อำเภอตะกั่วทุ่ง จังหวัดพังงา
เพื่อใช้เป็นแนวทางในการพัฒนาและการดำรงรักษาเมืองและบริเวณที่เกี่ยวข้องหรือชนบท
ในด้านการใช้ประโยชน์ การคมนาคมและขนส่ง การสาธารณูปโภค การบริการสาธารณะ
และสภาพแวดล้อม ให้สอดคล้องกับการพัฒนาระบบเศรษฐกิจและสังคมเพื่อจัดระบบและควบคุมการใช้ประโยชน์ที่ดินส่งเสริมการพัฒนาด้านที่อยู่อาศัยและพาณิชยกรรมให้สอดคล้องกับการขยายตัวของชุมชนระบบเศรษฐกิจ
ส่งเสริมและพัฒนาเกษตรกรรม และการประมงให้เหมาะสมกับสภาพพื้นที่
และดำรงรักษาเอกลักษณ์ วิถีชีวิตดั้งเดิมของชุมชน ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ
และให้ดำเนินการต่อไปได้ ๒.
ให้กระทรวงมหาดไทยรับความเห็นของกระทรวงคมนาคม
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงสาธารณสุข
และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เช่น ต้องปฏิบัติตามกฎหมาย กฎหรือระเบียบ
และความเห็นของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
เพื่อให้เกิดความโปร่งใสในการดำเนินงานตามหลักธรรมาภิบาล เกิดผลสัมฤทธิ์
หรือประโยชน์ต่อภาครัฐและประชาชนเป็นสำคัญ หากมีการใช้ประโยชน์ที่ดินเพื่อกิจการใด
ๆ ในบริเวณย่านชุมชนเก่า ควรคำนึงถึงความสอดคล้องและส่งเสริมการอนุรักษ์
รักษาอัตลักษณ์ของย่านชุมชนเก่าให้อยู่ด้วย การพิจารณาอนุญาตกิจการต้องคำนึงถึงผลกระทบต่อการดำรงชีวิตที่ปกติสุขของประชาชน
และเป็นไปตามกฎกระทรวงควบคุมสถานประกอบกิจการที่เป็นอัตรายต่อสุขภาพ พ.ศ. ๒๕๖๐
เมื่อผังเมืองรวมชุมชนฉบับนี้มีผลใช้บังคับ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรกำกับดูแลการใช้ประโยชน์ที่ดินให้เป็นไปตามข้อกำหนดอย่างเคร่งครัด
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปได้ |
|||||||||||||||||||||
4700 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมเหล็กกล้าทรงแบนรีดร้อน ทนแรงดึงสูงที่ปรับปรุงสมบัติการขึ้นรูป สำหรับงานโครงสร้างรถยนต์ ต้องเป็นไปตามมาตรฐาน พ.ศ. .... | อก. | 28/03/2566 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมเหล็กกล้าทรงแบนรีดร้อน
ทนแรงดึงสูงที่ปรับปรุงสมบัติการขึ้นรูป สำหรับงานโครงสร้างรถยนต์
ต้องเป็นไปตามมาตรฐาน พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการปรับปรุงแก้ไขมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมเหล็กกล้าทรงแบนรีดร้อน
ทนแรงดึงสูงที่ปรับปรุงสมบัติการขึ้นรูป สำหรับงานโครงสร้างรถยนต์
เพื่อให้สอดคล้องกับมาตรฐานอ้างอิงการพัฒนาเทคโนโลยี
รวมทั้งการทำและการใช้ภายในประเทศมากยิ่งขึ้น ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ
ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว และให้ดำเนินการต่อไปได้
|