ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1658 จากทั้งหมด 6224 หน้า แสดงรายการที่ 33141 - 33160 จากข้อมูลทั้งหมด 124475 รายการ
| ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||
|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
| 33141 | ผลการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศลุ่มน้ำโขงกับญี่ปุ่น ครั้งที่ 4 การประชุมรัฐมนตรีข้อริเริ่มลุ่มน้ำโขงตอนล่างกับสหรัฐอเมริกา ครั้งที่ 4 และการประชุมรัฐมนตรีมิตรของประเทศลุ่มน้ำโขงตอนล่าง ครั้งที่ 1 | กต | 20/09/2554 | ||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบเอกสารผลการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศลุ่มน้ำโขงกับญี่ปุ่น ครั้งที่ ๔ (The 4th Mekong - Japan Foreign Ministers’ Meeting) การประชุมรัฐมนตรีข้อริเริ่มลุ่มน้ำโขงตอนล่างกับสหรัฐอเมริกา ครั้งที่ ๔ (The 4th Lower Mekong Initiative Ministerial Meeting) และการประชุมรัฐมนตรีมิตรของประเทศลุ่มน้ำโขงตอนล่าง ครั้งที่ ๑ (The Friends of the Lower Mekong Ministerial Meeting) จำนวน ๕ ฉบับ ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ ดังนี้ ๑.๑ แถลงการณ์ของประธานการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศลุ่มน้ำโขงกับญี่ปุ่น ครั้งที่ ๔ ๑.๒ แถลงการณ์การประชุมรัฐมนตรีข้อริเริ่มลุ่มน้ำโขงตอนล่างกับสหรัฐอเมริกา ครั้งที่ ๔ ๑.๓ แถลงการณ์การประชุมรัฐมนตรีมิตรของประเทศลุ่มน้ำโขงตอนล่าง ๑.๔ เอกสารแนวคิดข้อริเริ่มลุ่มน้ำโขงตอนล่าง ๑.๕ แผนปฏิบัติการเพื่อดำเนินการตามข้อริเริ่มลุ่มน้ำโขงตอนล่าง (ค.ศ. ๒๐๑๑ - ๒๐๑๕) ๒. ให้กระทรวงการต่างประเทศรับความเห็นของกระทรวงสาธารณสุขเกี่ยวกับผลการประชุมตามข้อ ๑ โดยเห็นควรให้เพิ่มประเด็นการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารด้านสุขภาพและการพัฒนาบุคลากรด้านสาธารณสุขในกลุ่มประเทศสมาชิก ไปประกอบการพิจารณาดำเนินการตามความเหมาะสมต่อไปด้วย |
|||||||||||||||||||||
| 33142 | สรุปสถานการณ์อุทกภัย ณ วันที่ 15 กันยายน 2554 | กษ | 20/09/2554 | ||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปสถานการณ์อุทกภัย ณ วันที่ ๑๕ กันยายน ๒๕๕๔ ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยศูนย์ติดตามและแก้ไขปัญหาภัยพิบัติด้านการเกษตรเสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. สถานการณ์อุทกภัยเนื่องจากอิทธิพลพายุโซนร้อน “นกเตน” ตั้งแต่ปลายเดือนกรกฎาคม ๒๕๕๔ เป็นต้นมา ทำให้ทั่วประเทศมีฝนตกชุกหนาแน่นและมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่งผลทำให้เกิดผลกระทบด้านการเกษตรทั้งสิ้นรวม ๕๖ จังหวัด ได้แก่ จังหวัดกำแพงเพชร เชียงราย เชียงใหม่ ตาก น่าน นครสวรรค์ พะเยา พิจิตร พิษณุโลก แพร่ เพชรบูรณ์ ลำปาง ลำพูน แม่ฮ่องสอน เลย สุโขทัย อุตรดิตถ์ อุทัยธานี กาฬสินธุ์ บึงกาฬ นครพนม ร้อยเอ็ด มุกดาหาร ยโสธร หนองคาย หนองบัวลำภู สกลนคร อำนาจเจริญ อุบลราชธานี อุดรธานี กรุงเทพ ชัยนาท นนทบุรี ลพบุรี สิงห์บุรี สระบุรี พระนครศรีอยุธยา อ่างทอง กาญจนบุรี นครปฐม สุพรรณบุรี ฉะเชิงเทรา จันทบุรี ชลบุรี ระยอง ตราด นครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ประจวบคีรีขันธ์ ระนอง ชุมพร ตรัง ภูเก็ต พังงา และสตูล ๒. ผลกระทบด้านการเกษตร ๒.๑ ด้านพืช เกษตรกรได้รับผลกระทบ ๕๐๔,๖๑๓ ราย พื้นที่คาดว่าจะเสียหาย ๔,๘๐๙,๓๐๒ ไร่ แบ่งเป็น ข้าว ๔,๑๙๒,๑๓๑ ไร่ พืชไร่ ๓๙๒,๑๓๐ ไร่ พืชสวนและอื่น ๆ ๒๒๕,๐๔๑ ไร่ ๒.๒ ด้านประมง เกษตรกรได้รับผลกระทบ ๕๑,๐๕๗ ราย พื้นที่เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำคาดว่าจะเสียหาย แบ่งเป็น บ่อปลา ๕๔,๘๕๒ ไร่ กุ้ง/ปู/หอย ๕๖๐ ไร่ กระชัง/บ่อซีเมนต์ ๗๕,๑๖๑ ตารางเมตร ๒.๓ ด้านปศุสัตว์ เกษตรกรได้รับผลกระทบ ๘๒,๐๙๔ ราย สัตว์ได้รับผลกระทบรวมทั้งสิ้น ๓,๙๕๔,๐๔๖ ตัว แบ่งเป็น โค - กระบือ ๘๖,๐๑๒ ตัว สุกร ๙๑,๐๔๔ ตัว แพะ - แกะ ๔,๕๐๕ ตัว สัตว์ปีก ๓,๗๗๒,๔๘๕ ตัว แปลงหญ้าเลี้ยงสัตว์ ๔,๓๘๙ ไร่ ๓. การช่วยเหลือด้านการเกษตร ได้มีการแจ้งเตือนสถานการณ์น้ำ จำนวน ๘ ฉบับ ของกรมชลประทาน และการคาดการณ์การเกิดอุทกภัย ดินโคลนถล่ม และน้ำป่าไหลหลาก จำนวน ๑๒ ฉบับ ของกรมพัฒนาที่ดิน การสนับสนุนเครื่องสูบน้ำเคลื่อนที่ และรถยนต์บรรทุกน้ำ การสนับสนุนพืชอาหารสัตว์ และดูแลสุขภาพสัตว์ สำหรับความก้าวหน้าการช่วยเหลือผู้ประสบภัยด้านการเกษตร ปี ๒๕๕๔ กรณีพิเศษ กรมส่งเสริมการเกษตร กรมประมง กรมปศุสัตว์ ได้ส่งเอกสารหลักฐานเพื่อขออนุมัติเงินงวดจากสำนักงบประมาณแล้ว ข้อมูล ณ วันที่ ๑๒ กันยายน ๒๕๕๔ รวมทั้งสิ้น ๑,๓๓๓,๖๒๑,๖๒๙.๒๕ บาท โดยสำนักงบประมาณได้อนุมัติเงินงวดให้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) แล้ว จำนวน ๔๘๐.๘๓ ล้านบาท เกษตรกร ๑๐,๖๗๖ ราย แบ่งเป็น ครั้งที่ ๑ วันที่ ๑๓ กันยาน ๒๕๕๔ จังหวัดพิษณุโลก จำนวน ๑๐๘.๐๑ ล้านบาท เกษตรกร ๒,๖๙๙ ราย และครั้งที่ ๒ วันที่ ๑๔ กันยายน ๒๕๕๔ จังหวัดนครสวรรค์ จำนวน ๓๗๒.๘๓ ล้านบาท เกษตรกร ๗,๙๗๗ ราย ซึ่ง ธ.ก.ส. สาขาจะเริ่มโอนเข้าบัญชีเกษตรกรตั้งแต่วันที่ ๑๔ กันยายน ๒๕๕๔
|
|||||||||||||||||||||
| 33143 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน ในท้องที่ตำบลบ้านติ้ว ตำบลบ้านหวาย ตำบลบ้านโสก ตำบลปากช่อง ตำบลปากดุก ตำบลบ้านกลาง ตำบลบ้านไร่ และตำบลช้างตะลูด อำเภอหล่มสัก จังหวัดเพชรบูรณ์ พ.ศ. .... | กษ | 20/09/2554 | ||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน ในท้องที่ตำบลบ้านติ้ว ตำบลบ้านหวาย ตำบลบ้านโสก ตำบลปากช่อง ตำบลปากดุก ตำบลบ้านกลาง ตำบลบ้านไร่ และตำบลช้างตะลูด อำเภอหล่มสัก จังหวัดเพชรบูรณ์ พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญคือ กำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืนในท้องที่ตำบลบ้านติ้ว ตำบลบ้านหวาย ตำบลบ้านโสก ตำบลปากช่อง ตำบลปากดุก ตำบลบ้านกลาง ตำบลบ้านไร่ และตำบลช้างตะลูด อำเถอหล่มสัก จังหวัดเพชรบูรณ์ เพื่อประโยชน์แก่การชลประทาน ในการก่อสร้างระบบส่งน้ำตามโครงการระบบส่งน้ำห้วยขอนแก่น ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||
| 33144 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทาน เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน จำนวน 2 ฉบับ | กษ | 20/09/2554 | ||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวง จำนวน ๒ ฉบับ ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ดังนี้
๑. ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทานในเขตโครงการชลประทานลำตะคอง เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ กำหนดให้ทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน ๑) ทางน้ำชลประทานคลองส่งน้ำฝั่งซ้ายเขื่อนระบายน้ำบ้านทุ่ง จากกิโลเมตรที่ ๐.๐๐๐ ในท้องที่ตำบลสีมุม อำเภอเมืองนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา ถึงกิโลเมตรที่ ๕.๐๐๐ ในท้องที่ตำบลพุดซา อำเภอเมืองนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา ๒) ทางน้ำชลประทานคลองส่งน้ำฝั่งซ้ายเขื่อนระบายน้ำบ้านนาตม จากกิโลเมตรที่ ๐.๐๐๐ ในท้องที่ตำบลหนองกระทุ่ม อำเภอเมืองนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา ถึงกิโลเมตรที่ ๙.๓๐๐ ในท้องที่ตำบลจอหอ อำเภอเมืองนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา ๓) ทางน้ำชลประทานคลองส่งน้ำฝั่งซ้ายเขื่อนระบายน้ำบ้านคนชุม จากกิโลเมตรที่ ๐.๐๐๐ ในท้องที่ตำบลหนองกระทุ่ม อำเภอเมืองนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา ๒. ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทานคลองส่งน้ำสายใหญ่ฝั่งขวาของเขื่อนระบายน้ำโพธิ์เตี้ย เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บ ค่าชลประทาน พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ กำหนดทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน จากจุดศูนย์กลางเขื่อนระบายน้ำโพธิ์เตี้ย กิโลเมตรที่ ๐.๐๐๐ ในท้องที่ตำบลหนองจะบก อำเภอเมืองนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา ถึง กิโลเมตรที่ ๑๐.๓๒๐ ในท้องที่ตำบลหมื่นไวย อำเภอเมืองนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา
|
|||||||||||||||||||||
| 33145 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดการขยายระยะเวลาการใช้บังคับผังเมืองรวม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (ขยายระยะเวลาการใช้บังคับผังเมืองรวมต่อไปอีกห้าปี จำนวน 1 ฉบับ) | มท | 20/09/2554 | ||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงกำหนดการขยายระยะเวลาการใช้บังคับผังเมืองรวม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญคือ แก้ไขเพิ่มเติมกฎกระทรวงกำหนดการขยายระยะเวลาการใช้บังคับผังเมืองรวม พ.ศ. ๒๕๔๙ เพื่อขยายระยะเวลาการใช้บังคับกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมต่อไปอีกห้าปี เพิ่มขึ้น จำนวน ๑ ฉบับ ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||
| 33146 | ขอรับการสนับสนุนงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2555 และสถานที่ทำการสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัด | นร | 20/09/2554 | ||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบในหลักการในการสนับสนุนงบประมาณเพื่อใช้จ่ายในการจัดตั้งสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัด ตามที่สำนักงาน ป.ป.ช. เสนอ ดังนี้ ๑.๑ ขอรับการสนับสนุนงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๕ เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินการจัดตั้งสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัด (๖๗ จังหวัด) เป็นเงินทั้งสิ้นจำนวน ๕๑๓,๘๓๙,๖๔๐ บาท เพิ่มเติมจากมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๘ มีนาคม ๒๕๕๔ ๑.๒ ให้จังหวัดต่าง ๆ หรือส่วนราชการอื่น ให้ความอนุเคราะห์ให้ใช้สถานที่เป็นที่ทำการสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดชั่วคราว เพื่อให้สำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดมีสถานที่ทำการชั่วคราวภายในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๕ รองรับการปฏิบัติหน้าที่ของกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประจำจังหวัด ๑.๓ ให้กรมธนารักษ์ และผู้ว่าราชการจังหวัด ให้ความอนุเคราะห์ในการจัดสรรที่ราชพัสดุที่เหมาะสมและเพียงพอสำหรับการจัดตั้งที่ทำการถาวรสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัด เพื่อให้สำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัด มีที่ทำการถาวรทั้ง ๗๖ จังหวัด (ยกเว้นกรุงเทพมหานคร) ๒. ให้สำนักงาน ป.ป.ช. ไปตกลงรายละเอียดกับสำนักงบประมาณ โดยให้จัดลำดับความสำคัญและคำนึงถึงความจำเป็นเร่งด่วนของจังหวัดที่จะจัดตั้ง ความพร้อมของบุคลากร ปริมาณงาน และการใช้งบประมาณอย่างประหยัดและมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ ให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องด้วย |
|||||||||||||||||||||
| 33147 | คณะกรรมการชุดต่าง ๆ ที่แต่งตั้งโดยมติคณะรัฐมนตรี (กระทรวงกลาโหม) | กห | 20/09/2554 | ||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแต่งตั้งคณะกรรมการที่มีความสำคัญและจำเป็นในการปฏิบัติหน้าที่ จำนวน ๑๖ คณะ โดยมีองค์ประกอบอำนาจหน้าที่สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ตลอดจนกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ตามที่กระทรวงกลาโหมเสนอ ดังนี้
๑. คณะกรรมการพิจารณาการส่งออกไปนอกราชอาณาจักร ซึ่งผลิตภัณฑ์ของเอกชน ตามพระราชบัญญัติโรงงานผลิตอาวุธของเอกชน พุทธศักราช ๒๕๕๐ ในความควบคุมของกระทรวงกลาโหม ๒. คณะกรรมการร่วมมือรักษาความสงบเรียบร้อยตามชายแดนทั่วไป ไทย - ลาว ๓. คณะกรรมการร่วมมือรักษาความสงบเรียบร้อยตามชายแดนระดับจังหวัด - แขวง ๔. คณะกรรมการชายแดนทั่วไปไทย - มาเลเซีย ๕. คณะกรรมการชายแดนทั่วไปไทย - กัมพูชา ๖. คณะกรรมการยีออเดซี่และยีออฟิสิกส์แห่งชาติ ๗. คณะกรรมการชื่อภูมิศาสตร์แห่งชาติ ๘. คณะกรรมการสภาวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร ๙. คณะกรรมการพิจารณาสิทธิกำลังพลกรณีพิเศษกองทัพไทย ๑๐. คณะกรรมการพิจารณาบำเหน็จพิเศษสำหรับการสู้รบของศูนย์ปฏิบัติการกองทัพบก ๑๑. คณะกรรมการขอพระราชทานเหรียญพิทักษ์เสรีชนของศูนย์ปฏิบัติการกองทัพบก ๑๒. คณะกรรมการพิจารณาสิทธิกำลังพลปฏิบัติราชการพิเศษของศูนย์ปฏิบัติการกองทัพบก ๑๓. คณะกรรมการพิจารณาสิทธิด้านกำลังพลให้แก่เจ้าหน้าที่กองทัพเรือที่ออกปฏิบัติการตามแผนป้องกันประเทศ แผนรักษาความสงบภายในประเทศ หรือออกปฏิบัติราชการรักษาความสงบในเวลาฉุกเฉิน (พิจารณาเงินทดแทนและบำเหน็จความชอบ) ๑๔. คณะกรรมการพิจารณาสิทธิด้านกำลังพลให้แก่เจ้าหน้าที่กองทัพเรือที่ออกปฏิบัติการตามแผนป้องกันประเทศ แผนรักษาความสงบภายในประเทศ หรือออกปฏิบัติราชการรักษาความสงบในเวลาฉุกเฉิน (พิจารณาบำเหน็จพิเศษสำหรับการสู้รบ) ๑๕. คณะกรรมการพิจารณาสิทธิด้านกำลังพลให้แก่เจ้าหน้าที่กองทัพเรือที่ออกปฏิบัติการตามแผนป้องกันประเทศ แผนรักษาความสงบภายในประเทศ หรือออกปฏิบัติราชการรักษาความสงบในเวลาฉุกเฉิน (ขอพระราชทานเหรียญพิทักษ์เสรีชน) ๑๖. คณะกรรมการเพื่อพิจารณาการได้รับสิทธิต่าง ๆ ของเจ้าหน้าที่กองทัพอากาศ (ขอพระราชทานเหรียญพิทักษ์เสรีชน)
|
|||||||||||||||||||||
| 33148 | คณะกรรมการต่าง ๆ ที่แต่งตั้งโดยมติคณะรัฐมนตรี (สำนักงานอัยการสูงสุด) | อส | 20/09/2554 | ||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้คงคณะกรรมการที่แต่งตั้งโดยมติคณะรัฐมนตรี จำนวน ๑ คณะ เพื่อปฏิบัติงานต่อไปคือ คณะกรรมการพิจารณาชี้ขาดการยุติในการดำเนินคดีแพ่งของส่วนราชการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง (กยพ.) ตามที่สำนักงานอัยการสูงสุดเสนอ
|
|||||||||||||||||||||
| 33149 | พระราชดำริเกี่ยวกับการบริหารจัดการน้ำ | รล | 20/09/2554 | ||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบพระราชดำริเกี่ยวกับการบริหารจัดการน้ำของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเพื่อเป็นแนวทางในการปฏิบัติงานสนองพระราชดำริ ตามที่สำนักราชเลขาธิการเสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. เรื่องดินถล่มที่เพิ่มขึ้นมาก ให้ศึกษาหาแนวทางแก้ไขโดยใช้ความระมัดระวังในการดำเนินงาน แม้กระทั่งหญ้าแฝกอาจจะเป็นตัวการให้ดินถล่มได้ เพราะรากเจาะลึกทำให้ดินแตกแยก ควรศึกษาอย่างรอบคอบว่าโครงสร้างดินลักษณะใด ควรจะดำเนินการอย่างไร ปลูกพืชชนิดใด เพื่อสามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเรื่องการบุกรุกพื้นที่เพาะปลูกเข้าไปในป่า ทำให้พื้นที่ดินถล่มเพิ่มขึ้นตามมา เมื่อเปิดพื้นที่ใหม่ขึ้นไปบนภูเขาจะเกิดการสร้างถนนขวางทางน้ำ ก่อความเสียหายทั้งอุทกภัยและดินถล่ม การแก้ไขปัญหาคือการปรับที่ดินทำกิน ที่อยู่อาศัยอย่างเหมาะสม ถูกต้อง ซึ่งใช้เวลา ๑๐ ถึง ๒๐ ปี จึงจำเป็นต้องศึกษา วิจัย ทดลองให้ได้คำตอบว่าจะปลูกพืชอย่างไรให้มีรากแก้วลึกสลับกับหญ้าแฝก หรือพืชอื่นที่เหมาะสมตามสภาพ ๒. เรื่องอุทกภัย ภัยแล้ง ให้ศึกษาสรุปการแก้ไขในพื้นที่สำคัญ แม่น้ำที่มีผลต่อการเกิดอุทกภัย ภัยแล้ง มี ๕ สาย คือ แม่น้ำปิง แม่น้ำวัง แม่น้ำยม แม่น้ำน่าน และแม่น้ำป่าสัก ให้ดำเนินการศึกษาและพัฒนาแม่น้ำทั้ง ๕ สาย จะช่วยแก้ไขปัญหาอุทกภัยและภัยแล้งของประเทศได้มาก พื้นที่แม่น้ำน่าน น้ำว้า ควรศึกษาพื้นที่ต้นน้ำว่าจะฟื้นฟูรักษาและใช้ประโยชน์อย่างไร ไม่ให้ดินถล่มและหน่วงน้ำไว้ได้ โดยการสร้างฝายและทำนบเพิ่มเติม พื้นที่แม่น้ำยมให้มูลนิธิชัยพัฒนาประสานดำเนินการสร้างพัฒนาเขื่อนเพื่อแก้ไขปัญหาอุทกภัยและภัยแล้ง โดยให้ประชาชนในพื้นที่ยอมรับและเห็นประโยชน์ร่วมกัน อาจเป็นการพัฒนาเขื่อนแก่งเสือเต้นให้เหมาะสมทั้งลักษณะและขนาดที่ยอมรับได้ และสอดคล้องกับความต้องการของประชาชน หากศึกษาแล้วสรุปได้ทางเลือกที่เหมาะสมก็ให้เร่งดำเนินการ เมื่อมีแผนงานแล้วให้เชื่อมโยงทั้งระบบของแม่น้ำปิง แม่น้ำวัง แม่น้ำยม แม่น้ำน่าน และแม่น้ำป่าสัก ใช้หลักการทั้งอ่างพ่วง แก้มลิง การผันน้ำ และคลองทูอินวัน (คลองส่งน้ำและคลองระบายน้ำ) เพื่อบริหารจัดการแก้ปัญหาอุทกภัยและภัยแล้งในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยา สำหรับพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือให้ดำเนินการเชื่อมต่อเขื่อนลำตะคองกับอ่างเก็บน้ำในลุ่มน้ำ แล้วศึกษาหาพื้นที่แก้มลิงก่อนถึงจังหวัดนครราชสีมา ๓. เรื่องการจัดการน้ำชุมชน ให้รวบรวมชุมชนมาช่วยทำงาน ให้ชุมชนชาวบ้านที่มีความรู้ ประสบความสำเร็จ มีประสบการณ์ จัดการและพัฒนาน้ำในพื้นที่ แล้วขยายผลยังชุมชนอื่น ๔. เรื่องน้ำปัญหามากมาย ให้พัฒนาพื้นที่ตัวอย่างก่อน การใช้ที่ดินป่าต้นน้ำ เกี่ยวโยงกัน ให้ศึกษาและพัฒนาโครงการตัวอย่างในพื้นที่ให้ประสบความสำเร็จ สรุปแนวทางแก้ปัญหาให้ได้แล้วจึงขยายผล
|
|||||||||||||||||||||
| 33150 | รายงานผลการตรวจสอบและผลการปฏิบัติหน้าที่ของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ประจำปี พ.ศ. 2552 | ปช | 20/09/2554 | ||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบรายงานผลการตรวจสอบและผลการปฏิบัติหน้าที่ของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ประจำปี พ.ศ. ๒๕๕๒ ตามที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (สำนักงาน ป.ป.ช.) เสนอ โดยสาระสำคัญของรายงานดังกล่าว ประกอบด้วยผลการปฏิบัติงานด้านปราบปรามการทุจริต ด้านป้องกันการทุจริต ด้านตรวจสอบทรัพย์สินและหนี้สิน และด้านบริหารจัดการองค์กร รวมทั้งข้อสังเกตและข้อเสนอแนะของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ซึ่งมีข้อสังเกตและข้อเสนอแนะ รวม ๒ เรื่อง ดังนี้ ๑.๑ เรื่อง “คุณธรรมและจริยธรรมของนักการเมือง” คณะกรรมการ ป.ป.ช. เห็นว่า ตามมาตรา ๓๐๔ บัญญัติให้ดำเนินการจัดทำประมวลจริยธรรมให้แล้วเสร็จภายในหนึ่งปีนับแต่วันประกาศใช้รัฐธรรมนูญ โดยในส่วนผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองประเภทที่ ๑ ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองระดับชาติ ได้แก่ นายกรัฐมนตรี รัฐมนตรี สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกวุฒิสภา ได้จัดทำประมวลจริยธรรมของตนแล้วเสร็จ และได้ออกประกาศใช้บังคับแล้ว สำหรับของผู้ดำรงตำแหน่งประเภทที่ ๒ ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองระดับท้องถิ่น ได้แก่ ผู้บริหารและสมาชิกสภาในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นประเภทต่าง ๆ ทั้งองค์การบริหารส่วนจังหวัด องค์การบริหารส่วนตำบล เทศบาลนคร เทศบาลเมือง เทศบาลตำบล และท้องถิ่นที่มีลักษณะการปกครองแบบพิเศษ คือ กรุงเทพมหานคร และเมืองพัทยา ยังมีองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอีกเป็นจำนวนมากที่ยังมิได้จัดทำประมวลจริยธรรมของหน่วยงาน จึงเป็นการสมควรอย่างยิ่งที่รัฐบาลและรัฐสภาในฐานะผู้กำกับดูแลและตรวจสอบการปฏิบัติราชการของหน่วยงานของรัฐจะเร่งรัดให้หน่วยงานของรัฐดังกล่าวดำเนินการจัดทำประมวลจริยธรรมของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองฝ่ายบริหารและฝ่ายสภาหรือประมวลจริยธรรมของข้าราชการหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐโดยเร็ว ๑.๒ เรื่อง “ปัญหาการทุจริตที่ดินของรัฐ” คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีข้อเสนอแนะแนวทางแก้ไขปัญหาด้านกฎหมายและระเบียบด้านนโยบาย ด้านการบริหารราชการ ด้านผู้มีอิทธิพลและอำนาจแฝง และด้านการบูรณาการกลไกภาคประชาสังคมในการป้องกันการทุจริตที่ดินของรัฐ เพื่อป้องกันมิให้เจ้าหน้าที่ของรัฐกระทำการทุจริตในการออกเอกสารสิทธิที่ดิน ๒. ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับประเด็นข้อเสนอแนะเรื่องคุณธรรมและจริยธรรมของนักการเมืองและเรื่องปัญหาการทุจริตที่ดินของรัฐ เช่น กระทรวงกลาโหม กระทรวงการคลัง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และกระทรวงมหาดไทย ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
|
|||||||||||||||||||||
| 33151 | ขออนุมัติโครงการและงบประมาณก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ บริเวณพื้นที่ราชพัสดุ ถนนทหาร (เกียกกาย) เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร | สผ | 20/09/2554 | ||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติในหลักการโครงการและงบประมาณก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ บริเวณพื้นที่ราชพัสดุ ถนนทหาร (เกียกกาย) เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร วงเงินรวม ๑๕,๓๒๔,๙๐๐,๐๐๐ บาท ตามที่สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรเสนอ ส่วนการเงินให้ตกลงรายละเอียดกับสำนักงบประมาณ โดยให้คำนึงถึงการใช้งบประมาณอย่างประหยัดและมีประสิทธิภาพตามความจำเป็นและเร่งด่วน และให้คำนึงถึงภาวะเศรษฐกิจของประเทศและความเห็นของคณะรัฐมนตรีเกี่ยวกับความจำเป็นต้องใช้งบประมาณส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยด้วย ๒. ให้สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรดำเนินการตามมติคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ในการประชุมครั้งที่ ๒/๒๕๕๔ เมื่อวันที่ ๔ พฤษภาคม ๒๕๕๔ ที่เห็นชอบกับความเห็นของคณะกรรมการผู้ชำนาญการพิจารณารายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม ด้านการพัฒนาโครงการของส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ หรือโครงการร่วมเอกชน ต่อรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมโครงการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ของสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร โดยให้สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรปฏิบัติตามมาตรการป้องกันและแก้ไขผลกระทบสิ่งแวดล้อม และมีมาตรการติดตามตรวจสอบผลกระทบสิ่งแวดล้อม และรับผิดชอบในการขอจัดสรรงบประมาณเพื่อดำเนินการตามมาตรการป้องกันและแก้ไขผลกระทบสิ่งแวดล้อม รวมทั้งมาตรการติดตามตรวจสอบผลกระทบสิ่งแวดล้อมตามที่กำหนดไว้ในรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมโครงการฯ และให้นำแผนติดตามตรวจสอบผลกระทบต่าง ๆ ที่ได้กำหนดไว้ในรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมโครงการฯ มาใช้ปฏิบัติอย่างเคร่งครัดและต่อเนื่อง ตามความเห็นของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติด้วย |
|||||||||||||||||||||
| 33152 | ขออนุมัติก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ (สำนักพระราชวัง) | พว | 20/09/2554 | ||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้สำนักพระราชวังเช่ารถยนต์เพื่อใช้ในราชการ โดยเบิกจ่ายจาก งบเงินอุดหนุนทั่วไป งบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ. ๒๕๕๔ ไปพลางก่อน ระยะเวลาเช่า ๓ ปี ตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๕๔ ถึง ๓๐ กันยายน ๒๕๕๗ จำนวน ๒๘ คัน เป็นเงิน ๒๐,๙๐๘,๖๕๖ บาท ตามที่สำนักพระราชวังเสนอ โดยให้ตกลงในรายละเอียดกับสำนักงบประมาณต่อไป
|
|||||||||||||||||||||
| 33153 | ขออนุมัติรายชื่อผู้เข้ารับการศึกษาหลักสูตรของวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร ประจำปีการศึกษา 2554 - 2555 จากคณะรัฐมนตรี (เพิ่มเติม) | กห | 20/09/2554 | ||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงกลาโหมเสนอ ดังนี้
๑. รายชื่อบุคคลที่ได้รับการคัดเลือกให้เข้ารับการศึกษาหลักสูตรการป้องกันราชอาณาจักร (วปอ.) รุ่นที่ ๕๔ (เพิ่มเติม) จำนวน ๙ คน และหลักสูตรการป้องกันราชอาณาจักรภาครัฐร่วมเอกชน (ปรอ.) รุ่นที่ ๒๔ (เพิ่มเติม) จำนวน ๑๘ คน ประจำปีการศึกษา ๒๕๕๔ - ๒๕๕๕ ห้วงการศึกษาตั้งแต่วันที่ ๖ ตุลาคม ๒๕๕๔ ถึงวันที่ ๒๐ กันยายน ๒๕๕๕ ๒. เปลี่ยนตัวบุคคลที่จะเข้ารับการศึกษา รวม ๓ คน ในหลักสูตรการป้องกันราชอาณาจักร (วปอ.) รุ่นที่ ๕๔ จำนวน ๒ คน และหลักสูตรการป้องกันราชอาณาจักรภาครัฐร่วมเอกชน (ปรอ.) รุ่นที่ ๒๔ จำนวน ๑ คน ๓. หากตรวจสอบคุณสมบัติในภายหลังพบว่า ผู้ได้รับการคัดเลือกเข้ารับการศึกษาหลักสูตรดังกล่าวขาดคุณสมบัติตามระเบียบกระทรวงกลาโหมว่าด้วยวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักรสถาบันวิชาการป้องกันประเทศ พ.ศ. ๒๕๔๗ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ให้กระทรวงกลาโหม โดยวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร สถาบันวิชาการป้องกันประเทศ ตัดรายชื่อออกจากจำนวนที่ได้รับอนุมัติ หากมีความจำเป็นที่จะพิจารณาผู้ที่จะเข้ารับการศึกษาทดแทนให้กระทรวงกลาโหม โดยสภาวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร ดำเนินการตามความเหมาะสม
|
|||||||||||||||||||||
| 33154 | ร่างพระราชบัญญัติที่คณะรัฐมนตรีเสนอที่รัฐสภายังมิได้ให้ความเห็นชอบ | ยธ | 20/09/2554 | ||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติให้กระทรวงยุติธรรมรับร่างพระราชบัญญัติคณะกรรมการปฏิรูปและพัฒนากระบวนการยุติธรรมแห่งชาติ พ.ศ. .... ไปพิจารณาทบทวน แล้วเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป
|
|||||||||||||||||||||
| 33155 | การจัดสรรเงินงบประมาณเหลือจ่ายเพื่อจ่ายเป็นเงินรางวัลสำหรับข้าราชการธุรการและลูกจ้างประจำของสำนักงานอัยการสูงสุด ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2553 | อส | 20/09/2554 | ||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบและเห็นชอบให้สำนักงานอัยการสูงสุดเบิกจ่ายเงินงบประมาณโครงการพัฒนาคุณภาพชีวิตบุคลากรของสำนักงานอัยการสูงสุด จำนวน ๑๐ ล้านบาท จากเงินเหลือจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๓ ที่ได้ผ่านการพิจารณาจากกระทรวงการคลังมาดำเนินการจัดสรรเพื่อใช้จ่ายเป็นเงินรางวัลสำหรับข้าราชการธุรการและลูกจ้างประจำของสำนักงานอัยการสูงสุดประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๓ โดยใช้หลักเกณฑ์ตามแนวทางและวิธีการจัดสรรเงินรางวัลของส่วนราชการ จังหวัด และสถาบันอุดมศึกษาที่จัดทำคำรับรองการปฏิบัติราชการที่คณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) กำหนด โดยอนุโลม ตามที่สำนักงานอัยการสูงสุดเสนอ
|
|||||||||||||||||||||
| 33156 | การปรับราคาผลิตภัณฑ์นม ยู.เอช.ที. ตราสัญลักษณ์กระทรวงยุติธรรม | ยธ | 20/09/2554 | ||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการปรับเพิ่มราคาการจำหน่ายผลิตภัณฑ์นม ยู.เอช.ที. ไทย - เดนมาร์คตราสัญลักษณ์กระทรวงยุติธรรม ขององค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย ขนาดบรรจุ ๒๕๐ มิลลิลิตร ที่จัดส่งให้สถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนทั่วประเทศ จากรายการเดิม ๙.๕๐ บาท/กล่อง เป็นราคาใหม่ ๙.๙๐ บาท/กล่อง โดยราคาที่ปรับเพิ่มขึ้น ๐.๔๐ บาท/กล่อง เป็นการปรับราคาในอัตราใกล้เคียงกับราคาที่ปรับเพิ่มขึ้นสำหรับนม ยู.เอช.ที. ชนิดกล่อง ขนาดบรรจุ ๒๐๐ มิลลิลิตร สำหรับภาระงบประมาณที่จะเกิดขึ้น ให้กรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนบริหารจัดการภายในวงเงินงบประมาณที่ได้รับต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
|
|||||||||||||||||||||
| 33157 | คณะกรรมการต่าง ๆ ที่แต่งตั้งโดยมติคณะรัฐมนตรี | วธ | 20/09/2554 | ||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้คณะกรรมการต่างๆ ที่แต่งตั้งโดยมติคณะรัฐมนตรีคงอยู่ปฏิบัติหน้าที่ต่อไป จำนวน ๗ คณะ ตามที่กระทรวงวัฒนธรรมเสนอ ดังนี้
๑. คณะกรรมการประสานงานฝ่ายไทยว่าด้วยวัฒนธรรมและสนเทศอาเซียน ๒. คณะกรรมการชำระประวัติศาสตร์ไทย ๓. คณะกรรมการอำนวยการและควบคุมการดำเนินงานโครงการอนุรักษ์และพัฒนานครประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา ๔. คณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยสภาการพิพิธภัณฑ์ระหว่างชาติ ๕. คณะกรรมการอำนวยการและควบคุมการดำเนินงานโครงการอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย อุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัย และอุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชร ๖. คณะกรรมการอำนวยการวันอนุรักษ์มรดกไทย ๗. คณะกรรมการพัฒนากฎหมายกระทรวงวัฒนธรรม
|
|||||||||||||||||||||
| 33158 | การทบทวนความจำเป็นต้องคงอยู่ของคณะกรรมการต่าง ๆ ที่แต่งตั้งโดยมติคณะรัฐมนตรี | ทส | 20/09/2554 | ||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้คณะกรรมการต่างๆ ที่คณะรัฐมนตรีชุดเดิมแต่งตั้งไว้ให้คงปฏิบัติหน้าที่ต่อไป จำนวน ๑๐ คณะ โดยปรับปรุงองค์ประกอบของคณะกรรมการ จำนวน ๒ คณะ และยกเลิก จำนวน ๑ คณะ คือ คณะกรรมการเฉพาะกิจเพื่อการเจรจากรณีการขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลก ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ ทั้งนี้คณะกรรมการที่ให้คงปฏิบัติหน้าที่มี ดังนี้
๑. คณะกรรมการอำนวยการโครงการปลูกป่าเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเนื่องในวโรกาสทรงครองราชย์ ปีที่ ๕๐ ๒. คณะกรรมการบริหารโครงการปลูกป่าเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวโรกาสทรงครองราชย์ ปีที่ ๕๐ ๓. คณะกรรมการกองทุนโครงการปลูกป่าเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวโรกาสทรงครองราชย์ ปีที่ ๕๐ ๔. คณะกรรมการโครงการปลูกป่าถาวรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวโรกาสทรงครองราชย์ ปีที่ ๕๐ ประจำจังหวัดทุกจังหวัด ๕. คณะกรรมการพัฒนาลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลา ๖. คณะกรรมการแม่น้ำโขงแห่งชาติไทย (ปรับปรุงองค์ประกอบของคณะกรรมการ) ๗. คณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยอนุสัญญาคุ้มครองมรดกโลก ๘. คณะกรรมการป้องกันและแก้ปัญหาพระสงฆ์ในพื้นที่ป่าไม้ ๙. คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการตัดไม้ทำลายป่าแห่งชาติ (ปรับปรุงองค์ประกอบของคณะกรรมการ) ๑๐. คณะกรรมการกำหนดราคาค่าขนย้าย ค่ารื้อย้ายอาคารบ้านเรือน สิ่งปลูกสร้าง ต้นไม้ยืนต้น พืชล้มลุก
|
|||||||||||||||||||||
| 33159 | คณะกรรมการต่าง ๆ ที่แต่งตั้งโดยมติคณะรัฐมนตรี | วช | 20/09/2554 | ||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้แต่งตั้งคณะกรรมการต่าง ๆ ที่แต่งตั้งโดยมติคณะรัฐมนตรีซึ่งยังมีความสำคัญและจำเป็นต้องมีอยู่ขึ้นใหม่
จำนวน ๔ คณะ ตามที่สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติเสนอ ดังนี้ ๑. คณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยการประสานงานของสภาสหภาพวิทยาศาสตร์ระหว่างประเทศ (ICSU-ไทย) ๒. คณะกรรมการโครงการความร่วมมือการวิจัยระหว่างไทย-ญี่ปุ่น ๓. คณะกรรมการแห่งชาติเพื่อพัฒนางานเลี้ยงและใช้สัตว์เพื่องานทางวิทยาศาสตร์ ๔. คณะกรรมการแห่งชาติเพื่อการวิจัยและพัฒนาระบบพฤติกรรมไทย
|
|||||||||||||||||||||
| 33160 | ขอรับการสนับสนุนงบประมาณ จากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2554 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพื่อช่วยเหลือและสนับสนุนจังหวัดที่ประสบอุทกภัย | สธ | 20/09/2554 | ||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติและให้ดำเนินการตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ดังนี้
๑. สนับสนุนงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ให้แก่กระทรวงสาธารณสุขเพื่อช่วยเหลือและสนับสนุนจังหวัดที่ประสบอุทกภัย ๒. ให้กระทรวงสาธารณสุขพิจารณาตรวจสอบความเสียหายที่ชัดเจน สอดคล้องกับข้อเท็จจริง และเป็นความจำเป็นเร่งด่วน เพื่อฟื้นฟูความเสียหายให้กลับสู่สภาพเดิมอย่างยั่งยืน และเสนอให้คณะกรรมการอำนวยการและบริหารสถานการณ์อุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม (คอส.) เพื่อพิจารณาแนวทางในการสนับสนุนงบประมาณในภาพรวมก่อนที่จะจัดสรรงบประมาณให้กับหน่วยงานต่าง ๆ ต่อไป
|
|||||||||||||||||||||
.....
