ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1 จากทั้งหมด 1 หน้า แสดงรายการที่ 1 - 1 จากข้อมูลทั้งหมด 1 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ |
---|---|---|---|
1 | รายงานผลการจัดอันดับความยาก - ง่ายในการประกอบธุรกิจของธนาคารโลก (Doing Business 2012) และข้อเสนอแนวทางการปรับปรุงบริการเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการประกอบธุรกิจ | นร | 04/01/2555 |
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบและเห็นชอบตามที่สำนักงาน ก.พ.ร. เสนอ ดังนี้ ๑.๑ รับทราบรายงานผลการจัดอันดับความยาก - ง่ายในการประกอบธุรกิจของธนาคารโลก (Doing Business 2012) ซึ่งประเทศไทยได้รับการจัดอันดับให้อยู่ในอันดับที่ ๑๗ จาก ๑๘๓ ประเทศ ๑.๒ เห็นชอบ ดังนี้ ๑.๒.๑ ให้หน่วยงานที่รับผิดชอบดำเนินการปรับปรุงบริการเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการประกอบธุรกิจของประเทศเป็นผลสำเร็จและอันดับของประเทศไทยดีขึ้น ตามความเห็นของคณะกรรมการ ก.พ.ร. ในการประชุมครั้งที่ ๘/๒๕๕๔ เมื่อวันที่ ๒๑ พฤศจิกายน ๒๕๕๔ ดังนี้ ๑.๒.๑.๑ ด้านการจดทะเบียนทรัพย์สิน ให้กรมที่ดินและกรมสรรพากรเป็นหน่วยงานรับผิดชอบหลักศึกษาความเหมาะสมในการปรับลดอัตราภาษีหรือค่าธรรมเนียมในการจดทะเบียนทรัพย์สินเพื่อกำหนดเป็นมาตรการถาวร หรือปรับแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้อง และควรเชื่อมโยงฐานข้อมูลของกรมพัฒนาธุรกิจการค้ากับกรมที่ดินให้สามารถตรวจสอบความเป็นนิติบุคคลของผู้ขอจดทะเบียนได้แบบ real time ๑.๒.๑.๒ ด้านการชำระภาษี ให้กระทรวงการคลังและหน่วยงานที่มีหน้าที่ในการจัดเก็บภาษีและค่าธรรมเนียมให้รัฐเป็นหน่วยงานรับผิดชอบหลักศึกษารายละเอียดกระบวนการจัดเก็บภาษีของประเทศและปฏิรูประบบการจัดเก็บภาษีใหม่ให้เกิดการบูรณาการ และศึกษาแนวทางการมอบอำนาจให้หน่วยงานอื่นจัดเก็บภาษีแทนได้ เพื่อให้เกิดระบบการชำระภาษีเพียงจุดเดียว ๑.๒.๑.๓ ด้านการปิดกิจการ ให้กรมบังคับคดีและศาลยุติธรรมเป็นหน่วยงานหลักรับผิดชอบดำเนินการเร่งปรับปรุงกฎหมายที่เกี่ยวข้อง และกำหนดมาตรการเพื่อลดระยะเวลาในกระบวนการปิดกิจการ ๑.๒.๑.๔ ด้านการค้าระหว่างประเทศ ให้กรมศุลกากรและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการนำเข้า - ส่งออกสินค้าเป็นหน่วยงานรับผิดชอบหลักดำเนินการผลักดันให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำระบบ National Single Window ไปใช้ในการนำเข้า - ส่งออกอย่างเป็นรูปธรรม และศึกษาเพื่อกำหนดแนวทางในการลดค่าใช้จ่ายและลดจำนวนเอกสารในการนำเข้า - ส่งออกให้แก่ผู้ประกอบการ ๑.๒.๑.๕ ด้านการเริ่มต้นธุรกิจ ให้กรมพัฒนาธุรกิจการค้าเป็นหน่วยงานรับผิดชอบหลักดำเนินการพัฒนาระบบการให้บริการจัดตั้งธุรกิจให้เป็นการให้บริการผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ ๑.๒.๑.๖ ด้านการได้รับสินเชื่อ ให้กระทรวงการคลังและกรมบังคับคดีเป็นหน่วยงานรับผิดชอบหลักดำเนินการเร่งรัดการประกาศใช้พระราชบัญญัติหลักประกันทางธุรกิจ ปรับปรุงกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เช่น กฎหมายล้มละลายเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งในสิทธิทางกฎหมายของเจ้าหน้าที่และลูกหนี้ในการขอสินเชื่อ กฎหมายเกี่ยวกับข้อมูลเครดิตเพื่อขยายขอบเขตการจัดเก็บข้อมูลเครดิต เป็นต้น ๑.๒.๒ ให้สำนักงบประมาณพิจารณาสนับสนุนงบประมาณการดำเนินงานหรือโครงการที่เกี่ยวข้องกับการปรับปรุงบริการตามรายงานผลการวิจัยเรื่อง Doing Business แก่หน่วยงานที่รับผิดชอบ และสนับสนุนงบประมาณแก่สำนักงาน ก.พ.ร. เพื่อดำเนินการศึกษาวิจัยแนวทางการดำเนินงานของประเทศที่ได้รับการจัดให้อยู่ในอันดับต้น ๆ (Benchmarking) เพื่อนำมาประยุกต์ใช้ให้เหมาะสมกับบริบทของไทย (มติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๘ มกราคม ๒๕๕๔ มอบหมายให้สำนักงาน ก.พ.ร. ดำเนินการศึกษาวิจัย) ๑.๒.๓ ให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาศึกษาและปรับปรุงกฎหมายที่เป็นอุปสรรคต่อการดำเนินการปรับปรุงบริการของหน่วยงานต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง ๑.๒.๔ ให้กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารสนับสนุนและพัฒนาระบบการให้บริการในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์แก่หน่วยงานต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง ๑.๒.๕ ให้สำนักงาน ก.พ.ร. รายงานความก้าวหน้าในการดำเนินการของหน่วยงานต่าง ๆ ที่รับผิดชอบในการปรับปรุงบริการให้คณะรัฐมนตรีทราบทุก ๖ เดือน ๒. ให้สำนักงาน ก.พ.ร. ดำเนินการติดตามและประเมินผลการปรับปรุงบริการเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการประกอบธุรกิจของประเทศเป็นผลสำเร็จและอันดับของประเทศไทยดีขึ้น เพื่อให้ผลการดำเนินการเรื่องนี้มีประสิทธิผลและประสิทธิภาพด้วย และให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเกี่ยวกับการกำหนดให้กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารสนับสนุนและพัฒนาระบบการให้บริการในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์แก่หน่วยงานต่าง ๆ จำเป็นต้องได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องให้ความร่วมมือในการพัฒนาระบบและดำเนินการระบบอย่างต่อเนื่องด้วย ไปประกอบการดำเนินการต่อไป ๓. ส่วนการมอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาศึกษาและปรับปรุงกฎหมายที่เป็นอุปสรรคต่อการดำเนินการดังกล่าวแล้ว นั้น ให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเร่งรัดพิจารณาปรับปรุงกฎหมาย กฎ และระเบียบ เพื่อเป็นการลดขั้นตอนและลดการขออนุญาตที่ไม่จำเป็นเพื่อให้เหมาะสมกับภาคธุรกิจ เช่น การกำหนดระยะเวลา การดำเนินการของพนักงานเจ้าหน้าที่ไว้ในกฎหมาย การกำหนดให้มีการพิจารณาร่วมกันระหว่างพนักงานเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้แล้วเสร็จในคราวเดียวกัน โดยมีมาตรฐานการพิจารณาเป็นอย่างเดียวกัน และการลดการอนุญาตตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องต่าง ๆ โดยประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงการคลัง กระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงอุตสาหกรรมต่อไป |
.....