ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 15 จากทั้งหมด 6235 หน้า แสดงรายการที่ 281 - 300 จากข้อมูลทั้งหมด 124686 รายการ
| ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||
|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
| 281 | ร่างเอกสารผลลัพธ์การประชุมรัฐมนตรีเอเปคและการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค ประจำปี 2568 | กต. | 21/10/2568 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างเอกสารผลลัพธ์การประชุมรัฐมนตรีเอเปคและการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค
ประจำปี ๒๕๖๘ จำนวน ๕ ฉบับ ได้แก่ (๑) ร่างถ้อยแถลงร่วมรัฐมนตรีเอเปค ครั้งที่ ๓๖
มีสาระสำคัญเกี่ยวกับการทบทวนการทำงานของเอเปคและแนวทางสำหรับการดำเนินการต่อไป
ครอบคลุมประเด็นด้านการค้า การลงทุน
การเชื่อมโยงห่วงโซ่อุปทาน การบูรณาการทางเศษฐกิจ (๒) ร่างปฏิญญาคยองจูของผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค
ค.ศ. ๒๐๒๕ มีสาระสำคัญเป็นเอกสารแสดงเจตนารมณ์ระดับผู้นำในการขับเคลื่อนภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกให้เติบโตอย่างยั่งยืน
โดยเน้นความร่วมมือ ๓ ด้าน คือ การเชื่อมโยง นวัตกรรม และความมั่งคั่ง (๓)
ร่างข้อริเริ่มปัญญาประดิษฐ์ของเอเปค มีสาระสำคัญเป็นกำหนดวิสัยทัศน์ให้เอเปคเป็นภูมิภาคที่ใช้ปัญญาประดิษฐ์เพื่อสร้างกลไกการเติบโตใหม่และเสริมความยืดหยุ่นทางเศรษฐกิจ
(๔) ร่างกรอบความร่วมมือเพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงทางประชากร มีสาระสำคัญมุ่งส่งเสริมการตอบสนองเชิงรุกผ่านนโยบายแบบองค์รวม
ครอบคลุมประเด็นการจ้างงาน การศึกษา ระบบการเงิน เพื่อสร้างสังคมที่ยั่งยืนและมีความยืดหยุ่น
และ (๕) ร่างถ้อยแถลงผู้นำว่าด้วยความร่วมมือในอุตสาหกรรมวัฒนธรรมและความคิดสร้างสรรค์
มีสาระสำคัญเน้นย้ำบทบาทสำคัญและส่งเสริมความร่วมมือของอุตสาหกรรมวัฒนธรรม และความคิดสร้างสรรค์
การอนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรม รวมทั้งประสานความร่วมมือระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาสังคม
และให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ
หรือผู้แทนที่ได้รับมอบหมายจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ
และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ หรือผู้แทนที่ได้รับมอบหมายจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์
ร่วมรับรองถ้อยแถลงร่วมรัฐมนตรีเอเปค ครั้งที่ ๓๖ค.ศ. ๒๐๒๕ โดยให้นายกรัฐมนตรี หรือผู้แทนที่ได้รับมอบหมายจากนายกรัฐมนตรี
ร่วมรับรองปฏิญญาคยองจูของผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค ค.ศ. ๒๐๒๕ ข้อริเริ่มปัญญาประดิษฐ์ของเอเปค
กรอบความร่วมมือเพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงทางประชากร
และถ้อยแถลงผู้นำว่าด้วยความร่วมมือในอุตสาหกรรมวัฒนธรรมและความคิดสร้างสรรค์ ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างเอกสารผลลัพธ์ฯ ดังกล่าว จำนวนรวม ๕
ฉบับ ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญ และไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้
ให้กระทรวงการต่างประเทศดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง
พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 282 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (นางสาวบุปผา เรืองสุด และนายสมาสภ์ ปัทมะสุคนธ์) | รง. | 21/10/2568 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ
สังกัดกระทรวงแรงงาน ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน ๒ ราย
เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่าง ทั้งนี้
ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไป
ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานเสนอ ดังนี้ ๑. นางสาวบุปผา เรืองสุด ดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ๒. นายสมาสภ์ ปัทมะสุคนธ์ ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 283 | การจัดทำระบบบัญชีรับ - จ่ายเงินของวัดและศาสนสมบัติของวัด | นร. | 21/10/2568 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ) เสนอว่า
กฎกระทรวงการดูแลรักษาและจัดการศาสนสมบัติของวัด พ.ศ. ๒๕๖๔ กำหนดให้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติกำหนดแบบทะเบียน
บัญชี แบบสัญญา และแบบพิมพ์อื่น ๆ และวิธีการลงทะเบียน จำหน่ายทะเบียน
และการทำบัญชี
รวมทั้งให้คำแนะนำการปฏิบัติแก่วัดเกี่ยวกับการดูแลรักษาและจัดการศาสนสมบัติของวัด
ดังนั้น เพื่อให้การบริหารจัดการทรัพย์สินและศาสนสมบัติของวัดต่าง ๆ รวมทั้งศาสนสมบัติกลางเป็นไปอย่างเป็นระบบ
ถูกต้อง เหมาะสม
จึงเห็นควรมอบหมายให้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติเร่งประสานกับกระทรวงการคลัง
(กรมบัญชีกลาง) เพื่อจัดทำระบบบัญชีรับ-จ่ายเงินของวัดและศาสนสมบัติของวัด
รวมถึงศาสนสมบัติกลาง ให้แล้วเสร็จโดยเร็ว
เพื่อให้วัดตามที่มหาเถรสมาคมกำหนดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำไปประยุกต์ใช้ในการควบคุม
ดูแลรักษา และบริหารจัดการเงินและศาสนสมบัติของวัดตลอดจนศาสนสมบัติกลาง
ให้เป็นบรรทัดฐานเดียวกันต่อไป รวมทั้งเพื่อประโยชน์ในการตรวจสอบ ติดตามเงิน และศาสนสมบัติดังกล่าวได้อย่างถูกต้อง
ครบถ้วน และโปร่งใสด้วย ทั้งนี้ เมื่อจัดทำระบบบัญชีดังกล่าวแล้วเสร็จ ขอให้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติร่วมกับกระทรวงการคลัง
(สำนักงานคลังจังหวัดทุกแห่ง) ดำเนินการเผยแพร่และจัดอบรมการใช้งานระบบบัญชีดังกล่าวให้แก่วัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ชัดเจนและทั่วถึงเพื่อให้วัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสามารถนำไปปฏิบัติให้เกิดประสิทธิภาพและประสิทธิผลสูงสุดต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 284 | คณะกรรมการต่าง ๆ ที่แต่งตั้งโดยมติคณะรัฐมนตรี (กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม) | มทส. | 21/10/2568 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้คณะกรรมการต่าง ๆ ที่แต่งตั้งโดยมติคณะรัฐมนตรีชุดเดิม
ของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จำนวน ๔ คณะ คงอยู่ปฏิบัติหน้าที่ต่อไป
โดยมีองค์ประกอบ หน้าที่และอำนาจของคณะกรรมการคงเดิม ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ
โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ ๔ ตุลาคม ๒๕๖๘ เป็นต้นไป ดังนี้ ๑. คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการตัดไม้ทำลายป่าแห่งชาติ
(คปป.) ๒. คณะกรรมการร่วม (Joint
Committee) ฝ่ายไทย ๓. คณะกรรมการนโยบายบริหารจัดการถ้ำแห่งชาติ
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 285 | การแต่งตั้งคณะกรรมการจัดการแข่งขันกีฬาเอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 13 | กก. | 21/10/2568 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแต่งตั้งกรรมการจัดการแข่งขันกีฬาเอเชี่ยนเกมส์
ครั้งที่ ๑๓ โดยให้ปฏิบัติหน้าที่ต่อเนื่องนับจากวันที่ ๓ ตุลาคม ๒๕๖๘ ตามที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเสนอ
โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ ๔ ตุลาคม ๒๕๖๘ เป็นต้นไป ดังนี้ ๑. รองนายกรัฐมนตรี ประธานกรรมการ กำกับการบริหารราชการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ๒. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา รองประธานกรรมการ ๓. ปลัดกระทรวงการคลัง กรรมการ ๔. อธิบดีอัยการ สำนักงานคดีแพ่งหรือผู้แทน กรรมการ ๕. อธิบดีอัยการ สำนักงานการบังคับคดีหรือผู้แทน กรรมการ ๖. ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ กรรมการ ๗. ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย กรรมการและเลขาธิการ
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 286 | การแต่งตั้งกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี (จำนวน 10 ราย) (สำนักนายกรัฐมนตรี) | นร.04 | 21/10/2568 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแต่งตั้งกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่นายกรัฐมนตรีลงนามในประกาศแต่งตั้ง ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้เห็นชอบแล้ว
ตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ ดังนี้ ๑. นายอารี ไกรนรา ๒. นายนพพล ชูกลิ่น ๓. นายเบญจรงค์ สุวรรณคีรี ๔. พลเอก นเรศรักษ์ ฐิตะฐาน ๕. นายวิชาวัฒน์ อิศรภักดี ๖. นางสาวเพชรดาว โต๊ะมีนา ๗. นางสาวกิริฎา เภาพิจิตร ๘. นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ ๙. นายสิรภพ ดวงสอดศรี ๑๐. นายสุรพงศ์ นำชัยรุจิพงศ์
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 287 | การแต่งตั้งกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี (จำนวน 4 ราย) (สำนักนายกรัฐมนตรี) | นร.04 | 21/10/2568 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแต่งตั้งกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี
โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่นายกรัฐมนตรีลงนามในประกาศแต่งตั้ง
ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้เห็นชอบแล้ว ตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ ดังนี้ ๑. นายณัฏฐกิตติ์ ของทิพย์ ๒. นางสาวณมาณิตา กลับบ้านเกาะ ๓. พลตำรวจตรี มนตรี แป้นเจริญ ๔. นางสาวอรทัย เกิดทรัพย์
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 288 | การแต่งตั้งข้าราชการการเมือง (นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์) | พม. | 21/10/2568 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการแต่งตั้ง นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์
เป็นข้าราชการการเมือง
ตำแหน่งที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๒๑ ตุลาคม ๒๕๖๘) เป็นต้นไป ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 289 | การแต่งตั้งผู้รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ | พณ. | 21/10/2568 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติเป็นหลักการมอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
(นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ) เป็นผู้รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์
ในกรณีที่ไม่มีผู้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์
หรือมีแต่ไม่อาจปฏิบัติราชการได้ ตามความในมาตรา ๔๒
แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. ๒๕๓๔ ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 290 | มาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวภายในประเทศ | กค. | 21/10/2568 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. อนุมัติตามมติคณะกรรมการนโยบายเศรษฐกิจ
ในคราวประชุมครั้งที่ ๑/๒๕๖๘ เมื่อวันที่ ๑๕ ตุลาคม ๒๕๖๘ และเห็นชอบ ๑.๑
ร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ .. (พ.ศ. ....) ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร ๑.๒
ร่างกฎกระทรวงกำหนดพิกัดอัตราภาษีสรรพสามิต (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ๑.๓ ร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร
ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... รวม
๓ ฉบับ ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว และให้ดำเนินการต่อไปได้ ๒.
ให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงมหาดไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาทบทวนกฎหมายและประกาศที่เกี่ยวข้องที่อาจเป็นอุปสรรคต่อการส่งเสริมและกระตุ้นการท่องเที่ยว โดยให้รับความเห็นของนายกรัฐมนตรีและเลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกาไปประกอบการพิจารณาต่อไป
เพื่อให้กฎหมายและประกาศที่จะปรับปรุงแก้ไขมีความเหมาะสมสอดคล้องกับบริบททางเศรษฐกิจและสังคมของประเทศในปัจจุบัน
แล้วเสนอให้คณะกรรมการนโยบายเศรษฐกิจพิจารณาก่อนเสนอคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์พิจารณาและดำเนินการออกประกาศตามขั้นตอนที่กฎหมายกำหนดต่อไป
ทั้งนี้ ให้ดำเนินการให้แล้วเสร็จก่อนวันที่ ๘ พฤศจิกายน ๒๕๖๘
เพื่อให้มีประกาศกำหนดเวลาให้ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แทนประกาศของคณะปฏิวัติ
ฉบับที่ ๒๕๓ ได้อย่างต่อเนื่องต่อไป นายกรัฐมนตรี เห็นว่าตามที่คณะกรรมการนโยบายเศรษฐกิจ
ในคราวประชุม ครั้งที่ ๑/๒๕๖๘ เมื่อวันที่ ๑๕ ตุลาคม ๒๕๖๘
ได้พิจารณามาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวภายในประเทศ
และกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาอยู่ระหว่างการพิจารณาทบทวนการกำหนดพื้นที่และการกำหนดเวลาขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
เพื่อนำเสนอแนวทางในการลดข้อจำกัดในด้านต่าง ๆ
เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและเพิ่มรายได้ไห้กับผู้ประกอบการและภาคการท่องเที่ยวของไทย
นั้น การพิจารณาในเรื่องดังกล่าวจะต้องคำนึงถึงปัจจัยและผลกระทบในด้านต่าง ๆ
ที่เกี่ยวข้องให้ครบถ้วนและรอบด้านในทุกมิติ เช่น ผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจการค้า
ความเหมาะสมสอดคล้องกับหลักศาสนาและศีลธรรม ผลกระทบด้านสุขภาพอนามัยของประชาชน
ปัญหาการเกิดอุบัติเหตุและอาชญากรรม การสูญเสียชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน
ความมั่นคงปลอดภัยของประเทศโดยรวม
อีกทั้งยังต้องมีความเหมาะสมและเป็นธรรมในระหว่างผู้ประกอบการด้วยกันด้วย เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา เห็นด้วยว่าพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
(ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๘ จะมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ ๘ พฤศจิกายน ๒๕๖๘ เป็นต้นไป และมีผลเป็นการยกเลิกประกาศของคณะปฏิวัติ
ฉบับที่ ๒๕๓ ลงวันที่ ๑๖ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๑๕
ที่กำหนดให้ขายสุราได้เฉพาะตั้งแต่ เวลา ๑๑.๐๐ นาฬิกา ถึงเวลา ๑๔.๐๐ นาฬิกา
และตั้งแต่เวลา ๑๗.๐๐ นาฬิกา ถึงเวลา ๒๔.๐๐ นาฬิกา จึงจำเป็นต้องออกประกาศฉบับใหม่ทดแทนให้มีผลใช้บังคับต่อเนื่องกันไป
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 291 | ขอความเห็นชอบต่อร่างถ้อยแถลงผลการพบหารือระหว่างนายกรัฐมนตรีราชอาณาจักรไทย กับนายกรัฐมนตรีราชอาณาจักรกัมพูชา ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ มาเลเซีย | กต. | 21/10/2568 | ||||||||||||||||||||||||
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 292 | ร่างกรอบการเจรจาสำหรับการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป ไทย - กัมพูชา สมัยพิเศษ ครั้งที่ 2/2568 | กห. | 21/10/2568 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑.
เห็นชอบร่างกรอบการเจรจาสำหรับการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (General Border Committee : GBC) ไทย-กัมพูชา สมัยพิเศษ ครั้งที่ ๒ ซึ่งมีกำหนดจัดขึ้นในวันที่ ๒๓ ตุลาคม
๒๕๖๘ ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ มาเลเซีย โดยร่างกรอบเจรจาสำหรับการประชุมฯ มีองค์ประกอบสำคัญในประเด็นที่จะร่วมดำเนินการต่อไป
ได้แก่ ๑) การลดระดับความตึงเครียดทางทหาร ๒) ขอบเขตการปฏิบัติงาน (Terms
of Reference : TOR) ของคณะผู้สังเกตการณ์อาเซียน
(ASEAN Observer Team : AOT) ๓)
การเก็บกู้ทุ่นระเบิดเพื่อมนุษยธรรม ๔) การต่อต้านอาชญากรรมข้ามชาติ ๕)
การบริหารจัดการพื้นที่ชายแดน และ ๖) ประเด็นการส่งคืนเชลยศึก ตามที่กระทรวงกลาโหมเสนอ
ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างกรอบการเจรจาสำหรับการประชุมฯ ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้
ให้กระทรวงกลาโหมดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าว
และหากในการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป ไทย-กัมพูชา สมัยพิเศษ ที่ ๒/๒๕๖๘
จะต้องมีการลงนามในเอกสารหรือบันทึกการประชุมร่วมกัน ซึ่งมีสาระสำคัญอยู่ภายใต้กรอบเจรจาที่ได้รับความเห็นชอบไว้แล้วข้างต้น
ก็ให้กระทรวงกลาโหมสามารถพิจารณาดำเนินการต่อไปได้ ๒.ในกรณีจำเป็นเพื่อเป็นการรักษาประโยชน์สำคัญของประเทศ
หากในการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป ไทย-กัมพูชา สมัยพิเศษ ครั้งที่ ๒/๒๕๖๘
จะต้องมีการลงนามในเอกสารหรือบันทึกการประชุมร่วมกัน
ซึ่งมีสาระสำคัญแตกต่างไปจากกรอบการเจรจาข้างต้น
ให้นายกรัฐมนตรีร่วมประชุมกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเพื่อมีมติของคณะรัฐมนตรีในเรื่องนั้นและดำเนินการไปได้
และเมื่อมีการประชุมเป็นกรณีปกติให้นายกรัฐมนตรีแจ้งให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีทราบมติของคณะรัฐมนตรีดังกล่าวด้วย
ทั้งนี้ ตามมาตรา ๘ วรรคสอง แห่งพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการเสนอเรื่องและการประชุมคณะรัฐมนตรี
พ.ศ. ๒๕๔๘
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 293 | คณะกรรมการต่าง ๆ ที่แต่งตั้งโดยมติคณะรัฐมนตรี (กระทรวงมหาดไทย) | มท. | 21/10/2568 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งคณะกรรมการ จำนวน ๖
คณะ ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ ๔ ตุลาคม ๒๕๖๘ เป็นต้นไป
ดังนี้ ๑. คณะกรรมการพิจารณาตั้งกิ่งอำเภอและอำเภอ ๒. คณะกรรมการพิจารณาอนุญาตให้ดูดทราย ๓.
คณะกรรมการพิจารณาเรื่องการขอเปลี่ยนแปลงชื่อจังหวัด อำเภอ และตำบล หมู่บ้าน
หรือสถานที่ราชการอื่น ๆ ๔. คณะกรรมการพิจารณาร่างกฎหมายของกระทรวงมหาดไทย
คณะที่ ๒ ๕. คณะกรรมการอำนวยการโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริเศรษฐกิจแบบพอเพียงเฉลิมพระเกียรติ ๖. คณะกรรมการพิจารณาร่างกฎหมายของกระทรวงมหาดไทย
คณะที่ ๑
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 294 | การขอความเห็นชอบต่อร่างขอบเขตอำนาจหน้าที่ของคณะผู้สังเกตการณ์อาเซียน | กห. | 21/10/2568 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบต่อร่างขอบเขตอำนาจหน้าที่ของคณะผู้สังเกตการณ์อาเซียน
และให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม หรือผู้แทนที่ได้รับมอบหมาย
ลงนามในร่างขอบเขตอำนาจหน้าที่ของคณะผู้สังเกตการณ์อาเซียน โดยร่างขอบเขตอำนาจหน้าที่ฯ
มีสาระสำคัญเป็นการระบุขอบเขตอำนาจหน้าที่ของคณะผู้สังเกตการณ์อาเซียน
ซึ่งจัดตั้งขึ้นตามผลของการประชุมสมัยพิเศษ เมื่อ ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๖๘ ณ เมืองปุตราจายา
มาเลเซีย โดยคณะผู้สังเกตการณ์อาเซียนจะดำเนินการภายใต้อาณัติ (mandate) ที่ได้รับจากที่ประชุม GBC ไทย-กัมพูชา สมัยวิสามัญ เมื่อ ๗ สิงหาคม ๒๕๖๘
และตามที่ได้รับคำเชิญจากรัฐบาลไทยและกัมพูชา ซึ่งร่างขอบเขตอำนาจหน้าที่ฯ ไม่มีถ้อยคำหรือบริบทใดที่มุ่งจะก่อให้เกิดพันธกรณีภายใต้บังคับของกฎหมายระหว่างประเทศ
กอปรกับไทยและกัมพูชามีเจตนารมณ์ชัดแจ้งว่าร่างขอบเขตอำนาจหน้าที่ฯ ไม่มีผลผูกพันทางกฎหมาย
จึงไม่เป็นสนธิสัญญาภายใต้บังคับของกฎหมายระหว่างประเทศ ตามที่กระทรวงกลาโหมเสนอ
และให้กระทรวงกลาโหมรับข้อสังเกตของเลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา ที่เห็นควรกำหนดให้ชัดเจนว่า
การที่คณะผู้สังเกตการณ์อาเซียนของแต่ละฝ่ายจะเข้าไปในพื้นที่พิพาท
ต้องแจ้งให้อีกฝ่ายหนึ่งทราบล่วงหน้าเป็นลายลักษณ์อักษรก่อน
เพื่อมิให้เกิดการกระทบกระทั่งกันดังเช่นที่เคยเกิดขึ้น ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป
ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นต้องเปลี่ยนร่างขอบเขตอำนาจหน้าที่ฯ ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้
ให้กระทรวงกลาโหมดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง
พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวตามหลักเกณฑ์ของมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๘ (เรื่อง
การจัดทำหนังสือสัญญาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรือองค์การระหว่างประเทศ)
ด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 295 | การแต่งตั้งประธานกรรมการในคณะกรรมการองค์การเภสัชกรรม (นายพงศธร พอกเพิ่มดี) | สธ. | 21/10/2568 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้คณะกรรมการองค์การเภสัชกรรมมีจำนวนกรรมการเกินกว่าสิบเอ็ดคนแต่ไม่เกินสิบห้าคน
(นับรวมประธานกรรมการ กรรมการอื่นที่คณะรัฐมนตรีแต่งตั้ง
และผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรมซึ่งเป็นกรรมการโดยตำแหน่ง) ตามมาตรา ๑๘
แห่งพระราชบัญญัติองค์การเภสัชกรรม พ.ศ. ๒๕๐๙ และมาตรา ๖
วรรคสองแห่งพระราชบัญญัติคุณสมบัติมาตรฐานสำหรับกรรมการและพนักงานรัฐวิสาหกิจ พ.ศ.
๒๕๑๘ และที่แก้ไขเพิ่มเติม และแต่งตั้ง นายพงศธร พอกเพิ่มดี
(ผู้แทนกระทรวงสาธารณสุข) เป็นประธานกรรมการในคณะกรรมการองค์การเภสัชกรรม
แทนประธานกรรมการเดิมที่พ้นจากตำแหน่งเนื่องจากขอลาออก
โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๒๑ ตุลาคม ๒๕๖๘) เป็นต้นไป และผู้ที่ได้รับแต่งตั้งเข้าแทนนี้ย่อมอยู่ในตำแหน่งได้เพียงเท่ากำหนดเวลาของผู้ซึ่งตนแทน
ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเสนอ ทั้งนี้
ได้ยกเลิกชั้นความลับนับแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๒๑ ตุลาคม ๒๕๖๘)
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 296 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (นายบุญชอบ วิเศษปรีชา) | กค. | 21/10/2568 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง
นายบุญชอบ วิเศษปรีชา ข้าราชการพลเรือนสามัญ ตำแหน่งรองอธิบดีกรมธนารักษ์
ให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาด้านการบริหารเหรียญกษาปณ์และทรัพย์สินมีค่า (นักวิเคราะห์นโยบายและแผนทรงคุณวุฒิ) กรมธนารักษ์ กระทรวงการคลัง
ตั้งแต่วันที่ ๑ พฤษภาคม ๒๕๖๘ ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 297 | การแต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง (1. นายนพดล เฮงเจริญ ฯลฯ รวม 9 คน) | นร.09 | 21/10/2568 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีติอนุมัติแต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง
รวม ๙ คน
เนื่องจากประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิเดิมได้ดำรงตำแหน่งครบวาระสามปี
โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๒๑ ตุลาคม ๒๕๖๘) เป็นต้นไป
ตามที่สำนักเลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกาเสนอ ดังนี้ ๑. นายนพดล เฮงเจริญ ประธานกรรมการ ๒. นายกฤษฎา บุณยสมิต กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ๓. นายชาญชัย แสวงศักดิ์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ๔. นายต่อพงศ์ กิตติยานุพงศ์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ๕. นายนันทวัฒน์ บรมานันท์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ๖. นายนิพนธ์ ฮะกีมี กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ๗. นายประสงค์ วินัยแพทย์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ๘. นายสุรพล นิติไกรพจน์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ๙. นายฤทัย หงส์สิริ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 298 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (นางวรสุดา รัตนสุคนธ์) | มท. | 21/10/2568 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นางวรสุดา รัตนสุคนธ์ ข้าราชการพลเรือนสามัญ
ตำแหน่งผู้ช่วยปลัดกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง
ให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาด้านการบริหารงานจังหวัดแบบบูรณาการ
(นักวิเคราะห์นโยบายและแผนทรงคุณวุฒิ) สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงมหาดไทย
ตั้งแต่วันที่ ๑๙ พฤษภาคม ๒๕๖๘ ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์
ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 299 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (นางเพ็ญนภา กัญชนะ) | อว. | 21/10/2568 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นางเพ็ญนภา กัญชนะ
ข้าราชการพลเรือนสามัญ ตำแหน่งรองเลขาธิการสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ
ให้ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม
เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่าง ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไป
ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมเสนอ
ทั้งนี้ ได้ยกเลิกชั้นความลับนับแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๒๑ ตุลาคม ๒๕๖๘)
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 300 | ขอยกเลิกมติคณะรัฐมนตรีกรณีการแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญเฉพาะราย (นายชูศักดิ์ รู้ยิ่ง) และการแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง | มท. | 21/10/2568 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยเสนอ
ดังนี้ ๑. ยกเลิกมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๔ ตุลาคม ๒๕๖๘
[เรื่อง การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง
(นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ฯลฯ จำนวน ๔๕ ราย] เฉพาะราย นายชูศักดิ์ รู้ยิ่ง ๒. แต่งตั้ง นายชูศักดิ์ รู้ยิ่ง
ข้าราชการพลเรือนสามัญ ตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดสกลนคร สำนักงานปลัดกระทรวง
ให้ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดตาก สำนักงานปลัดกระทรวง เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่าง
ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไป
|
|||||||||||||||||||||||||||
