ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 19 จากทั้งหมด 6210 หน้า แสดงรายการที่ 361 - 380 จากข้อมูลทั้งหมด 124195 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
361 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (นางอัมราภัสร์ อรรถชัยวัจน์) | สธ. | 01/07/2568 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นางอัมราภัสร์ อรรถชัยวัจน์ ข้าราชการพลเรือนสามัญ
ตำแหน่งผู้อำนวยการกอง [ผู้อำนวยการเฉพาะด้าน (วิชาการพยาบาล) สูง] กองการพยาบาล
สำนักงานปลัดกระทรวง ให้ดำรงตำแหน่งพยาบาลวิชาชีพทรงคุณวุฒิ (ด้านการพยาบาล) กลุ่มที่ปรึกษาระดับกระทรวง
สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงสาธารณสุข ตั้งแต่วันที่ ๑๒ มีนาคม ๒๕๖๘
ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
362 | การแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (นายฐิติพงศ์ เขียวไพศาล) | นร.53 | 01/07/2568 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายฐิติพงศ์ เขียวไพศาล เป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม
แทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิเดิมที่พ้นจากตำแหน่งก่อนครบวาระเนื่องจากลาออก
โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๑ กรกฎาคม ๒๕๖๘) เป็นต้นไป
โดยผู้ได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งแทนอยู่ในตำแหน่งเท่ากับวาระที่เหลืออยู่ของกรรมการซึ่งได้รับแต่งตั้งไว้แล้ว
ตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายประเสริฐ จันทรรวงทอง)
ประธานกรรมการส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
363 | การผ่อนผันให้แรงงานต่างด้าวสัญชาติเมียนมาซึ่งได้รับการขยายระยะเวลาการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2568 อยู่ในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราวและทำงานต่อไป | รง. | 01/07/2568 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติให้เลื่อนการพิจารณาเรื่องนี้ออกไปก่อน |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
364 | รัฐบาลสหสาธารณรัฐแทนซาเนียเสนอขอแต่งตั้งเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งสหสาธารณรัฐแทนซาเนียประจำประเทศไทย (นายมาฮาดี จูมา มาลิม) | กต. | 24/06/2568 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายมาฮาดี จูมา มาลิม (Mr. Mahadhi Juma Maalim) ให้ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งสหสาธารณรัฐแทนซาเนียประจำประเทศไทยคนใหม่
โดยมีถิ่นพำนัก ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ มาเลเซีย สืบแทน นายอับดุล ซิสโก อึมทีโร (Mr.
Abdul-Cisco Mtiro) ซึ่งครบวาระการดำรงตำแหน่ง ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
365 | รายงานผลการพิจารณาศึกษา เรื่อง ญัตติพิจารณาศึกษาการแก้ไขปัญหาการดูแลเด็ก เยาวชน และความมั่นคงของสถาบันครอบครัว | พม. | 24/06/2568 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการพิจารณารายงานผลการพิจารณาศึกษา
เรื่อง ญัตติพิจารณาศึกษาการแก้ไขปัญหาการดูแลเด็ก เยาวชน
และความมั่นคงของสถาบันครอบครัว ของคณะกรรมาธิการกิจการเด็ก เยาวชน สตรี
ผู้สูงอายุ ผู้พิการ กลุ่มชาติพันธุ์ และผู้มีความหลากหลายทางเพศ สภาผู้แทนราษฎร ซึ่งได้พิจารณาร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
โดยกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ได้ดำเนินการ เช่น เสริมสร้างสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยสำหรับเด็ก
โดยความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อเสริมสร้างโอกาสให้เด็กและครอบครัวที่มีความเปราะบางด้านที่อยู่อาศัยให้เข้าถึงสวัสดิการด้านที่อยู่อาศัยที่มีสภาพแวดล้อมมั่นคงและปลอดภัย
รวมถึงดำเนินการคุ้มครองช่วยเหลือเด็กภายใต้พระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก พ.ศ. ๒๕๔๖ ผ่านกลไกเฉพาะสำหรับกลุ่มเป้าหมายเด็ก
เป็นต้น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงศึกษาธิการได้ดำเนินโครงการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดเพื่อเสริมสร้างภูมิคุ้มกันยาเสพติด
ทักษะชีวิต และทักษะการป้องกันการเผชิญเหตุอันเกิดจากภัยยาเสพติด
และโครงการส่งเสริมและพัฒนาการจัดการเรียนรู้สำหรับเด็กปฐมวัยตามมาตรฐานสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยแห่งชาติ
เพื่อพัฒนาครูและบุคลากรให้มีความเชี่ยวชาญ กระทรวงมหาดไทยเห็นว่าควรให้ความสำคัญกับปัญหาการแกล้งหรือการรังแกกันในโรงเรียน
ซึ่งส่งผลกระทบทั้งทางร่างกาย จิตใจ และสังคม
แก่เด็กผู้ถูกกระทำจากการกลั่นแกล้งรังแก เป็นต้น ตามที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เสนอ
และแจ้งให้สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรทราบต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
366 | รายงานผลการดำเนินงานตามมาตรการลดการใช้พลังงานในหน่วยงานภาครัฐ ปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ระหว่างเดือนเมษายน - กันยายน 2567 | พน. | 24/06/2568 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการดำเนินงานตามมาตรการลดการใช้พลังงานในหน่วยงานภาครัฐ
ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๗ ระหว่างเดือนเมษายน - กันยายน ๒๕๖๗
โดยรายงานผลการดำเนินการดังกล่าวมีสาระสำคัญ เช่น ๑) ผลการประเมินด้านไฟฟ้า
โดยมีการรายงานข้อมูลด้านไฟฟ้าครบถ้วนทั้ง ๖ เดือน จำนวน ๕,๒๖๔ หน่วยงาน สามารถลดการใช้ไฟฟ้าต่ำกว่าค่าไฟฟ้ามาตรฐานตั้งแต่ร้อยละ
๒๐ ขึ้นไป จำนวน ๓,๘๘๒ หน่วยงาน (ร้อยละ ๗๔) และเมื่อเปรียบเทียบการใช้ไฟฟ้าในช่วงเดียวกันของปี
๒๕๖๖ พบว่าในปี ๒๕๖๗ มีปริมาณการใช้ไฟฟ้าเพิ่มขึ้น ๑๘ ล้านหน่วย (GWh) หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ ๑.๔ ทั้งนี้ เป็นผลมาจากสภาพอากาศของปี ๒๕๖๗ มีอุณหภูมิสูงกว่าในปีที่ผ่านมาทำให้มีการใช้ไฟฟ้าในระบบปรับอากาศเพิ่มสูงขึ้น
๒) ผลการประเมินด้านน้ำมันเชื้อเพลิง
โดยมีการรายงานการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงครบถ้วนทั้ง ๖ เดือน จำนวน ๕,๒๔๒ หน่วยงาน สามารถลดการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงได้มากกว่าร้อยละ ๒๐ จำนวน ๓,๐๓๘ หน่วยงาน (ร้อยละ ๕๘) และเมื่อเปรียบเทียบกับปี ๒๕๖๖ พบว่า ในปี ๒๕๖๗
มีปริมาณการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงลดลง ๓.๓ ล้านลิตร (ร้อยละ ๕)
โดยคิดเป็นเงินที่ประหยัดได้ ประมาณ ๑๑๕ ล้านบาท (ที่ราคาน้ำมัน ๓๕ บาท/ลิตร)
ตามที่กระทรวงพลังงานเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
367 | แจ้งผลการวินิจฉัยและข้อเสนอแนะของผู้ตรวจการแผ่นดิน [กรณีปัญหาการถือครองหรือครอบครองที่ดินหรืออสังหาริมทรัพย์โดยตัวแทนอำพรางของคนต่างด้าว (นอมินี)] | สผผ. | 24/06/2568 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. รับทราบผลการวินิจฉัยและข้อเสนอแนะของผู้ตรวจการแผ่นดิน
[กรณีปัญหาการถือครองหรือครอบครองที่ดินหรืออสังหาริมทรัพย์โดยตัวแทนอำพรางของคนต่างด้าว
(นอมินี)] ตามที่ผู้ตรวจการแผ่นดินเสนอ ๒.
ให้กระทรวงพาณิชย์เป็นหน่วยงานหลักรับเรื่องนี้ไปพิจารณาร่วมกับกระทรวงการคลัง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงมหาดไทย กระทรวงยุติธรรม กระทรวงแรงงาน
กระทรวงอุตสาหกรรม สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน
กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ธนาคารแห่งประเทศไทย
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ได้ข้อยุติ
โดยให้กระทรวงพาณิชย์สรุปผลการพิจารณา/ผลการดำเนินการ/ความเห็นในภาพรวมแล้วส่งให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีภายใน
๓๐ วัน นับจากวันที่ได้รับแจ้งจากสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี
เพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
368 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมรถยนต์ขนาดใหญ่ที่ใช้เครื่องยนต์แบบจุดระเบิดด้วยประกายไฟต้องเป็นไปตามมาตรฐาน พ.ศ. .... | อก. | 24/06/2568 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมรถยนต์ขนาดใหญ่ที่ใช้เครื่องยนต์แบบจุดระเบิดด้วยประกายไฟต้องเป็นไปตามมาตรฐาน
พ.ศ. ....
มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมรถยนต์ขนาดใหญ่ที่ใช้เครื่องยนต์แบบจุดระเบิดด้วยประกายไฟต้องเป็นไปตามมาตรฐานเลขที่
มอก. ๓๐๔๔ - ๒๕๖๓ โดยเป็นการปรับปรุงมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมดังกล่าว
เพื่อให้สอดคล้องกับการพัฒนาเทคโนโลยีและเป็นไปตามมาตรฐานระดับสากล
รวมทั้งให้สอดคล้องกับแผนปฏิบัติการขับเคลื่อนวาระแห่งชาติ “การแก้ไขปัญหามลภาวะด้านฝุ่นละออง”
ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว
และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
369 | รายงานประจำปี 2567 ของกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ | พปส. | 24/06/2568 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานประจำปี ๒๕๖๗ ของกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์
มีสาระสำคัญ ประกอบด้วย (๑) ผลการดำเนินงานของกองทุนฯ ประจำปี ๒๕๖๗ ดังนี้ ๑)
การใช้จ่ายงบประมาณประจำปี กองทุนฯ มีงบประมาณ จำนวน ๕๗๒.๔๐ ล้านบาท
มีการใช้จ่ายเงินแล้ว จำนวน ๕๒๖.๕๕ ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ ๙๑.๙๙
ของวงเงินงบประมาณรายจ่ายทั้งหมด และ ๒) การสนับสนุนทุนที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์
ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๗ ภายใต้กรอบวงเงินงบประมาณ ๓๐๐ ล้านบาท มีจำนวน ๑๑๕
โครงการ เป็นเงินทั้งสิ้น ๒๙๘.๙๓ ล้านบาท เช่น โครงการรู้เท่าทันป้องกันความรุนแรงในเด็ก
โครงการผลิตสื่อสร้างสรรค์และปลอดภัยสำหรับวัยรุ่น (๒) รายงานผลการตรวจสอบงบการเงิน
สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๖๗ ประกอบด้วย งบแสดงฐานะการเงิน
งบแสดงผลการดำเนินงานทางการเงิน และงบแสดงการเปลี่ยนแปลงสินทรัพย์สุทธิ/ส่วนทุน โดยผู้สอบบัญชีเห็นว่า
รายงานการเงินและผลการดำเนินงานถูกต้องตามที่ควรในสาระสำคัญตามมาตรฐานการบัญชีภาครัฐและนโยบายการบัญชีภาครัฐที่กระทรวงการคลังกำหนด
(๓) รายงานของคณะกรรมการประเมินผลดำเนินงานของกองทุนฯ พบว่า ผลการประเมินในภาพรวมเท่ากับ
๔.๘๘๖๓ คะแนน (คะแนนเต็ม ๕ คะแนน) และ (๔) ในปีงบประมาณ ๒๕๖๗ กองทุนฯ
สามารถผลิตผลงานเด่นที่สามารถสร้างผลกระทบเชิงบวกทางสังคม วัฒนธรรม และเศรษฐกิจ
เช่น
โครงการสร้างสภาพแวดล้อมเชิงบวกและสร้างการมีส่วนร่วมแกนนำภาคีเครือข่ายเพื่อส่งเสริมการรู้เท่าทันและเฝ้าระวังสื่อใน
๕ ภูมิภาค ตามที่คณะกรรมการกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์เสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
370 | รายงานประจำปี พ.ศ. 2567 ของคณะกรรมการการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น | ก.ก.ถ. | 24/06/2568 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานประจำปี พ.ศ. ๒๕๖๗
ของคณะกรรมการการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) มีสาระสำคัญ
เช่น ๑) จัดทำร่างแผนการกระจายอำนาจให้แก่อปท. (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๖๗ - ๒๕๗๑ และร่างแผนปฏิบัติการกำหนดขั้นตอนการกระจายอำนาจให้แก่
อปท. (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๖๗ - ๒๕๗๑ ๒) ถ่ายโอนภารกิจสถานีอนามัยเฉลิมพระเกียรติ
๖๐ พรรษา นวมินทราชินี/โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) ให้แก่องค์การบริหารส่วนจังหวัด
(อบจ.) ทั่วประเทศในปีงบประมาณ ๒๕๖๗ จำนวน ๔,๑๙๔ แห่ง ๓)
ออกประกาศกำหนดหลักเกณฑ์การจัดสรรเงินอุดหนุนทั่วไปให้แก่ อปท. ปีงบประมาณ ๒๕๖๗
จำนวน ๑๙๘,๒๔๗.๒๔ ล้านบาท และ ๔) มอบรางวัล อปท. ที่มีการบริหารจัดการที่ดี
ประจำปีงบประมาณ ๒๕๖๗ จำนวน ๖๕ รางวัล (แบ่งเป็น ประเภทดีเลิศ จำนวน ๓ รางวัล
ประเภทโดดเด่นและประเภททั่วไป จำนวน ๖๒ รางวัล) ตามที่คณะกรรมการการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
371 | สรุปมติการประชุมคณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ ครั้งที่ 1/2568 | กษ. | 24/06/2568 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปมติการประชุมคณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ
ครั้งที่ ๑/๒๕๖๘ เมื่อวันที่ ๘ พฤษภาคม ๒๕๖๘ โดยผลการประชุมฯ มีสาระสำคัญ เช่น ๑)
การขอความร่วมมือ กระทรวงพลังงานพิจารณาปรับสัดส่วนการผสมไบโอดีเซลในน้ำมันดีเซลหมุนเร็วจาก
บี ๕ เป็น บี ๗ ๒) การขอความร่วมมือผู้ค้าน้ำมันตามมาตรา ๗ แห่งพระราชบัญญัติการค้าน้ำมันเชื้อเพลิง
พ.ศ. ๒๕๔๓ สนับสนุนการรับซื้อน้ำมันโบโอดีเซล (บี ๑๐๐)
ตามราคาเสนอแนะจากสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน กระทรวงพลังงาน และ ๓)
แนวทางการพัฒนาและยกระดับอุตสาหกรรมปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์มอย่างยั่งยืน โดยมอบหมายคณะอนุกรรมการเพื่อบริหารจัดการปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์มด้านการผลิต
สำรวจพื้นที่ที่ไม่เหมาะสมต่อการผลิต รวมทั้งขอความอนุเคราะห์กระทรวงอุตสาหกรรมให้สำรวจและกำหนดแนวทางการควบคุมการผลิตของโรงงานสกัดน้ำมันปาล์มและโรงกลั่นน้ำมันปาล์ม
ตามที่คณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
372 | รายงานผลการพิจารณาแนวทางการดำเนินงานข้อคิดเห็นและข้อสังเกตญัตติเรื่อง การแก้ไขปัญหาและการพัฒนาลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลาและลุ่มน้ำทะเลสาบอื่น ๆ อย่างยั่งยืนของคณะกรรมาธิการการที่ดิน ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม | นร14 | 24/06/2568 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการพิจารณาแนวทางการดำเนินงานข้อคิดเห็นและข้อสังเกตญัตติเรื่อง
การแก้ไขปัญหาและการพัฒนาลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลาและลุ่มน้ำทะเลสาบอื่น ๆ
อย่างยั่งยืนของคณะกรรมาธิการการที่ดิน ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ซึ่งสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ
ได้รับข้อมูลผลการพิจารณาจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว โดยสรุปผลการพิจารณาได้
เช่น ๑) สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติจัดประชุมเชิงวิชาการเพื่อให้ความรู้และสร้างความเข้มแข็งให้กับภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในเขตลุ่มน้ำ
ทบทวนแผนแม่บทลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลา ร่วมส่งเสริมสนับสนุนในการดำเนินงานขององค์กรบริหารจัดการทรัพยากรน้ำระดับชุมชน
๒) กรมชลประทานถ่ายโอนภารกิจต่าง ๆ ที่อยู่ในเขตลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลาให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและจัดตั้งเครือข่ายองค์กรผู้ใช้น้ำในพื้นที่ลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลา
รวมถึงติดตามและเฝ้าระวังการบริหารจัดการน้ำไหลลงสู่ทะเลสาบสงขลาและการระบายน้ำสู่อ่าวไทยอย่างสม่ำเสมอ
๓) กรมประมงมีมาตรการในการดำเนินการเก็บกู้เครื่องมือประมงที่เสื่อมสภาพ
หมดอายุการใช้งานขึ้นจากทะเลสาบ และ ๔)
องค์การกำจัดน้ำเสียดำเนินการประสานงานกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นดำเนินงานโครงการเพิ่มประสิทธิภาพระบบรวบรวมน้ำเสียและระบบบำบัดน้ำเสียเทศบาลนครสงขลา
เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำเสียไหลลงสู่ทะเลสาบสงขลา เป็นต้น ตามที่สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติเสนอ
และแจ้งให้สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรทราบต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
373 | คำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 184/2568 | นร.04 | 24/06/2568 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ ๑๘๔/๒๕๖๘ เรื่อง แก้ไขเพิ่มเติมคำสั่งมอบหมายและมอบอำนาจให้รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีปฏิบัติราชการแทนนายกรัฐมนตรี
ลงวันที่ ๒๐ มิถุนายน ๒๕๖๘ ตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
374 | สรุปผลการดำเนินการเรื่องร้องทุกข์และข้อคิดเห็นจากประชาชน ในไตรมาสที่ 2 ของปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 | นร.01 | 24/06/2568 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการดำเนินการเรื่องร้องทุกข์และข้อคิดเห็นจากประชาชน
ในไตรมาสที่ ๒ ของปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๘ มีสาระสำคัญ เช่น ๑)
สรุปผลการดำเนินการเรื่องร้องทุกข์และข้อคิดเห็นจากประชาชนฯ
ที่ยื่นเรื่องผ่านช่องทางการร้องทุกข์ ๑๑๑๑ รวมทั้งสิ้น ๓๘,๒๖๐ ครั้ง หรือ ๒๐,๐๔๕ เรื่อง สามารถดำเนินการจนได้ข้อยุติ ๑๕,๙๗๔
เรื่อง คิดเป็นร้อยละ ๗๙.๖๙ โดยกระทรวงการคลังได้รับการประสานเรื่องร้องทุกข์ฯ
มากที่สุด (๒,๐๔๒ เรื่อง) และ ๒) การประมวลผลและวิเคราะห์เรื่องร้องทุกข์และรับข้อคิดเห็นฯ มีสถิติเรื่องร้องทุกข์รวมทั้งสิ้น
๒๐,๐๔๕ เรื่อง
เพิ่มขึ้นจากไตรมาสที่ ๒ ของปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๗
จำนวน ๕,๑๗๔ เรื่อง (มีเรื่องร้องทุกข์ ๑๔,๘๗๑ เรื่อง) โดยประเด็นที่ประชาชนยื่นเรื่องร้องทุกข์มากที่สุดคือ
ค่าครองชีพ (๖,๓๒๒ เรื่อง ซึ่งดำเนินการจนได้ข้อยุติแล้ว ๕,๒๔๗ เรื่อง) ตามที่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
375 | ขออนุมัติต่อเวลาการดำรงตำแหน่งของข้าราชการพลเรือนสามัญผู้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (นางณัฐฏ์จารี อนันตศิลป์) | นร. | 24/06/2568 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติต่อเวลาการดำรงตำแหน่งของ
นางณัฐฏ์จารี อนันตศิลป์ ข้าราชการพลเรือนสามัญ ตำแหน่งเลขาธิการคณะรัฐมนตรี สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี
สำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งจะดำรงตำแหน่งดังกล่าวครบ ๔ ปี ในวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๖๘
ต่อไปอีก ๑ ปี (ครั้งที่ ๑) ตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม
๒๕๖๘ ถึงวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๖๙ ตามที่รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
(นายชูศักดิ์ ศิรินิล) เสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
376 | การแต่งตั้งผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (นายสุเมธ ตั้งประเสริฐ) | อก. | 24/06/2568 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแต่งตั้ง
นายสุเมธ ตั้งประเสริฐ เป็นผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย โดยให้ได้รับค่าตอบแทนคงที่ในอัตราเดือนละ ๓๓๐,๐๐๐ บาท
ส่วนค่าตอบแทนพิเศษประจำปีและสิทธิประโยชน์อื่นที่ผู้รับจ้างจะได้รับให้เป็นไปตามที่กระทรวงการคลังให้ความเห็นชอบ
ซึ่งเป็นไปตามมติคณะกรรมการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย
ในการประชุมครั้งที่ ๖/๒๕๖๘ เมื่อวันที่ ๒๐ พฤษภาคม ๒๕๖๘ และครั้งที่
๗/๒๕๖๘ เมื่อวันที่ ๔ มิถุนายน ๒๕๖๘ ทั้งนี้
ให้มีผลตั้งแต่วันที่ลงนามในสัญญาจ้างเป็นต้นไป แต่ไม่ก่อนวันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ
ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
377 | การเสนอขอเพิ่มและเปลี่ยนแปลงงบประมาณรายจ่ายในการพิจารณาของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 | นร.07 | 24/06/2568 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการเสนอขอเพิ่มและเปลี่ยนแปลงงบประมาณรายจ่ายในการพิจารณาของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๙ โดยมีสาระสำคัญเป็นการกำหนดแนวทาง หลักเกณฑ์ แผนและขั้นตอนในการเสนอขอเพิ่มและเปลี่ยนแปลงงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๙ ซึ่งเป็นการดำเนินการในลักษณะเดียวกันกับปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๘
ตามที่สำนักงบประมาณเสนอ ให้สำนักงบประมาณและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาและสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
รวมทั้งให้หน่วยรับงบประมาณทุกหน่วยดำเนินการให้ถูกต้อง ครบถ้วน
เป็นไปตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะอย่างยิ่งมาตรา ๑๔๔
ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ดังนี้ สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา เห็นว่าในการดำเนินการดังกล่าว
ต้องปฏิบัติตามมาตรา ๑๔๔ วรรคหนึ่งและวรรคสอง ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ
พ.ศ. ๒๕๖๑ โดยเคร่งครัด สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เห็นควรให้สำนักงบประมาณและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ความสำคัญกับการปรับลดงบประมาณรายจ่ายในส่วนที่คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๙ เห็นว่าไม่จำเป็นหรือไม่เหมาะสม
เพื่อลดแรงกดดันต่อฐานะการคลังและเพื่อให้มีพื้นที่ทางการคลังเพียงพอต่อการรองรับความเสี่ยงจากความผันผวนของระบบเศรษฐกิจและการเงินโลกที่อาจมีความรุนแรงมากขึ้นในระยะปานกลาง
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
378 | การปรับปรุงแผนการบริหารหนี้สาธารณะ ประจำปีงบประมาณ 2568 ครั้งที่ 2 | กค. | 24/06/2568 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบการปรับปรุงแผนการบริหารหนี้สาธารณะ
ประจำปีงบประมาณ ๒๕๖๘ ครั้งที่ ๒ ซึ่งเป็นวงเงินคงเดิมจากการปรับปรุงแผนฯ
ประจำปีงบประมาณ ๒๕๖๘ ครั้งที่ ๑ ประกอบด้วย ๑) แผนการก่อหนี้ใหม่ วงเงิน ๑,๒๒๑,๓๒๒.๒๔ ล้านบาท ๒)
แผนการบริหารหนี้เดิม วงเงิน ๑,๗๔๐,๕๕๒.๙๖
ล้านบาท และ ๓) แผนการชำระหนี้ วงเงิน ๔๘๙,๓๘๐.๖๕ ล้านบาท
ตามที่คณะกรรมการนโยบายและกำกับการบริหารหนี้สาธารณะเสนอ ให้กระทรวงการคลังและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของสำนักงบประมาณและสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
ดังนี้ สำนักงบประมาณ เห็นว่ากระทรวงการคลังและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรกำกับ
ติดตาม และเร่งรัดหน่วยงานเจ้าของโครงการดำเนินการและเบิกจ่ายเงินกู้ให้สอดคล้องและบรรลุวัตถุประสงค์ตามแผนที่กำหนดไว้
เพื่อให้การใช้จ่ายเงินกู้เป็นไปอย่างโปร่งใส คุ้มค่า ประหยัด
เกิดประสิทธิภาพและประสิทธิผลต่อเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศอย่างแท้จริง สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เห็นควรให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งรัดการดำเนินการจัดหาเงินกู้และชำระค่าใช้จ่ายของผู้รับจ้างตามข้อผูกพันของสัญญาตามคำพิพากษาของศาลปกครองกลางโดยเร็วเพื่อลดความเสียหายที่เกิดขึ้นกับภาครัฐ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
379 | การกำหนดสินค้าและบริการควบคุมตามพระราชบัญญัติว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ. 2542 | พณ. | 24/06/2568 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบรายการสินค้าและบริการ จำนวน
๕๙ รายการ (๕๔ สินค้า ๕ บริการ) เป็นสินค้าและบริการควบคุม ซึ่งแบ่งเป็น ๑๑
หมวดสินค้า ๑ หมวดบริการ เพื่อให้คณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ
กำหนดมาตรการกำกับดูแลสินค้าและบริการให้มีผลบังคับใช้อย่างต่อเนื่อง ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ
และให้กระทรวงพาณิชย์รับความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ที่เห็นว่ากระทรวงพาณิชย์ควรประชาสัมพันธ์ให้ผู้ที่เกี่ยวข้องทราบและถือปฏิบัติได้อย่างถูกต้องต่อไป ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
380 | การดำเนินการเพื่อบริจาคเงินเพิ่มทุนในกองทุนพัฒนาเอเชีย 14 | กค. | 24/06/2568 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างเอกสารยืนยันการบริจาคเงิน [Instrument of Contribution (IOC)] สำหรับการบริจาคเงินเพิ่มทุนในกองทุนพัฒนาเอเชีย
๑๔ [Asian Development Fund 14 (ADF
14)] ของประเทศไทย และให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังลงนามในร่าง IOC
เพื่อยืนยันการบริจาคเงินเพิ่มทุนในกองทุน ADF 14 ของประเทศไทย ซึ่งเป็นการรักษาจุดยืนของประเทศไทยในเวทีระหว่างประเทศในฐานะการมีบทบาทเป็นประเทศผู้นำในการให้ความช่วยเหลือและสนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจที่ยั่งยืนแก่ประเทศกำลังพัฒนาที่มีฐานะยากจน
รวมถึงแก้ไขปัญหาที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างเอกสารยืนยันการบริจาคเงินในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้
ให้กระทรวงการคลังดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวตามหลักเกณฑ์ของมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๘ (เรื่อง
การจัดทำหนังสือสัญญาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรือองค์การระหว่างประเทศ)
สำหรับค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๘ และในปีต่อ ๆ ไป
ให้กระทรวงการคลัง (สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง)
ดำเนินการตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
|