ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 11 จากทั้งหมด 6210 หน้า แสดงรายการที่ 201 - 220 จากข้อมูลทั้งหมด 124195 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
201 | การทบทวนมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2544 ในประเด็นเรื่องการปรับองค์กรในการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับปิโตรเลียม | พน. | 05/08/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบทบทวนมติคณะรัฐมนตรี
เมื่อวันที่ ๑๘ ธันวาคม ๒๕๔๔ ตามมติคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ ครั้งที่ ๖/๒๕๔๔
(ครั้งที่ ๘๗) เมื่อวันที่ ๒๖ พฤศจิกายน ๒๕๔๔
ในประเด็นเรื่องการปรับองค์กรในการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับปิโตรเลียม
จาก “ตั้งแต่ปีงบประมาณ ๒๕๔๖ เป็นต้นไป ให้กระทรวงการคลังเป็นหน่วยงานหลัก
รับผิดชอบดูแลงานด้านการกำหนดนโยบายและมาตรการในการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับปิโตรเลียมแทนสำนักงานคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ
และรับไปดำเนินการจัดทำคำขอรับการจัดสรรงบประมาณแผ่นดินเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับปิโตรเลียมให้แก่หน่วยงานต่าง
ๆ ที่เกี่ยวข้อง
โดยให้ยุติการนำเงินจากกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงไปใช้จ่ายในการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับปิโตรเลียม
ตั้งแต่ปีงบประมาณ ๒๕๔๖ ทั้งนี้ ให้กระทรวงการคลังประสานงานกับสำนักงบประมาณในการจัดสรรงบประมาณตั้งแต่ปีงบประมาณ
๒๕๔๖ เป็นต้นไป” เป็น “ให้กระทรวงการคลังเป็นหน่วยงานหลัก
รับผิดชอบดูแลงานด้านการกำหนดนโยบายและมาตรการในการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับปิโตรเลียม
และให้หน่วยงานที่มีความประสงค์ขอรับการจัดสรรงบประมาณแผ่นดินเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับปิโตรเลียมดำเนินการจัดทำคำขอรับการจัดสรรงบประมาณโดยตรงตั้งแต่ปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๙ เป็นต้นไป” ตามที่กระทรวงพลังงานเสนอ
โดยให้เริ่มถือปฏิบัติตั้งแต่ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๗๐ เป็นต้นไป
สำหรับปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๙ ให้กระทรวงการคลัง (กรมสรรพสามิต)
เป็นหน่วยงานรับผิดชอบดำเนินการจัดทำคำขอรับการจัดสรรงบประมาณตามขั้นตอนต่อไป |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
202 | รัฐบาลสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวเสนอขอแต่งตั้งเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวประจำประเทศไทย (นายสีสะหวาด อินพะจัน) | กต. | 05/08/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายสีสะหวาด อินพะจัน (Mr. Sisavath Inphachanh) ให้ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวประจำประเทศไทยคนใหม่
โดยมีถิ่นพำนัก ณ กรุงเทพมหานคร สืบแทน นายคำพัน อั่นลาวัน (Mr. Khamphan
Anlavan) ซึ่งครบวาระการดำรงตำแหน่ง ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
203 | การขอความเห็นชอบต่อร่างแถลงการณ์รัฐมนตรีเอเปคด้านสตรีและเศรษฐกิจ ประจำปี 2568 (2025 APEC Women and the Economy Forum Ministerial Statement) | พม. | 05/08/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการต่อร่างแถลงการณ์รัฐมนตรีเอเปคด้านสตรีและเศรษฐกิจประจำปี
๒๕๖๘ (2025 APEC Women and the Economy Forum Ministerial
Statement) และอนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์หรือผู้แทนที่ได้รับมอบหมายร่วมรับรองร่างแถลงการณ์ฯ
ในการประชุมระดับสูงสำหรับผู้กำหนดนโยบายด้านสตรีและเศรษฐกิจ (High-Level
Policy Dialogue on Women and the Economy :
HLPDWE) ในวันที่ ๑๒ สิงหาคม ๒๕๖๘ ณ เมืองอินชอน สาธารณรัฐเกาหลี
โดยร่างแถลงการณ์ฯ มีสาระสำคัญเป็นการเสริมพลังสตรีและการเพิ่มการมีส่วนร่วมของสตรีในทางเศรษฐกิจ
การสร้างสังคมที่ปลอดภัยผ่านการป้องกันและขจัดความรุนแรงต่อสตรี และการมุ่งสู่อนาคตที่ยั่งยืนผ่านการพัฒนาระบบการดูแล
(การดูแลสมาชิกในครอบครัว เช่น เด็ก ผู้สูงอายุ ผู้พิการ)
ที่มีคุณภาพเพื่อไม่ให้เป็นการผลักภาระหน้าที่ไปยังผู้หญิงอย่างไม่เป็นธรรม ตามที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เสนอ
และให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์รับความเห็นของกระทรวงการต่างประเทศ
ที่เห็นว่าร่างถ้อยแถลงฯ ไม่เป็นสนธิสัญญาตามกฎหมายระหว่างประเทศ และไม่เป็นหนังสือสัญญาตามมาตรา
๑๗๘ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป ทั้งนี้
หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างแถลงการณ์ฯ ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้
ให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ดำเนินการได้
โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวด้วย |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
204 | รัฐบาลมาเลเซียเสนอขอแต่งตั้งเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งมาเลเซียประจำประเทศไทย (ดาตุก วัน ไซดี บิน วัน อับดุลละฮ์) | กต. | 05/08/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง ดาตุก วัน ไซดี บิน วัน อับดุลละฮ์ (Datuk Wan Zaidi Bin Wan Abdullah) ให้ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งมาเลเซียประจำประเทศไทยคนใหม่
โดยมีถิ่นพำนัก ณ กรุงเทพมหานคร สืบแทน ดาตุก โจจี แซมูเอล (Datuk Jojie
Samuel) ซึ่งครบวาระการดำรงตำแหน่ง ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
205 | ขออนุมัติหลักการและวิธีการจ่ายเงินช่วยเหลือเกี่ยวกับที่ดินให้แก่ราษฎรผู้ถือครองและทำประโยชน์ในที่ดินที่หน่วยราชการดูแล เนื่องในการก่อสร้างหรือพัฒนาท่าอากาศยาน | คค. | 05/08/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี
คณะที่ ๒ (ด้านการต่างประเทศ การคมนาคม การท่องเที่ยว และวัฒนธรรม) ในคราวประชุมครั้งที่
๑/๒๕๖๘ เมื่อวันที่ ๙ มิถุนายน ๒๕๖๘ โดยให้กรมท่าอากาศยานนำมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๓๑ พฤษภาคม ๒๕๕๙ เรื่อง อนุมัติหลักการและวิธีการจ่ายเงินช่วยเหลือเกี่ยวกับที่ดินให้แก่ราษฎรผู้ถือครองและทำประโยชน์ในที่ดินที่หน่วยราชการดูแล
เนื่องในการสร้างทางหลวง มาปรับใช้ในการพิจารณาการจ่ายเงินค่าขนย้าย
ค่ารื้อย้ายอาคาร บ้านเรือน สิ่งปลูกสร้าง ต้นไม้ยืนต้น พืชล้มลุก ให้แก่ราษฎรผู้ถือครองที่ดินโดยไม่มีเอกสารสิทธิ
ซึ่งได้รับผลกระทบจากโครงการก่อสร้างหรือพัฒนาท่าอากาศยาน ทั้งนี้
ให้นำหลักเกณฑ์ที่ได้รับอนุมัติ
มาใช้กับการจัดหาที่ดินในเขตปฏิรูปที่ดินเพื่อการเกษตรกรรม รวมเนื้อที่ประมาณ ๑๗๕
ไร่ ๒ งาน ๐๖ ตารางวา สำหรับก่อสร้างต่อเติมความยาวทางวิ่ง
ขยายทางขับและลานจอดเครื่องบิน ขนส่งสินค้าและอาคารคลังสินค้า พร้อมระบบไฟฟ้าสนามบิน
ท่าอากาศยานบุรีรัมย์ ตำบลร่อนทอง อำเภอสตึก จังหวัดบุรีรัมย์
และโครงการก่อสร้างหรือพัฒนาท่าอากาศยานอื่น ๆ ของกรมท่าอากาศยาน
ที่มีการดำเนินงานในลักษณะเดียวกัน ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ ทั้งนี้
ในส่วนของการแต่งตั้งคณะกรรมการกำหนดราคาค่าขนย้าย ค่ารื้อย้ายอาคาร บ้านเรือน
สิ่งปลูกสร้าง ต้นไม้ยืนต้น พืชล้มลุก ให้กระทรวงคมนาคม (กรมท่าอากาศยาน)
พิจารณาปรับปรุงโครงสร้างคณะกรรมการดังกล่าวโดยเฉพาะในส่วนของผู้แทนกรมท่าอากาศยานเพื่อให้องค์ประกอบของคณะกรรมการมีความสมดุล
ตามความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติต่อไป ให้กระทรวงคมนาคม (กรมท่าอากาศยาน)
รับความเห็นของสำนักงบประมาณ สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ข้อสังเกตของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
และข้อเสนอแนะของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป เช่น สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
เห็นควรให้กรมท่าอากาศยานพิจารณาปรับปรุงโครงสร้างคณะกรรมการกำหนดค่าทดแทนที่ดินและทรัพย์สิน
(คณะกรรมการฯ) โดยเฉพาะในส่วนของผู้แทนกรมท่าอากาศยานเพื่อให้องค์ประกอบของคณะกรรมการฯ
มีความสมดุล รวมถึงเร่งพิจารณาจัดทำหลักเกณฑ์การคำนวณค่าทดแทนต่าง ๆ ที่เหมาะสม เป็นธรรม
และสอดคล้องกับสภาพการถือครองที่ดินเพื่อให้คณะกรรมการฯ สามารถใช้เป็นแนวปฏิบัติประกอบการพิจารณากำหนดราคาค่าทดแทนให้เป็นไปอย่างรอบคอบ |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
206 | ขอยกเลิกคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติที่อยู่ในความรับผิดชอบของสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ | ปปท. | 05/08/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้ยกเลิกคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
ที่อยู่ในความรับผิดชอบของศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ จำนวน ๙ ฉบับ
ตามที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้
ดังนี้ ๑. คำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่
๑๙/๒๕๕๘ เรื่อง แต่งตั้งและให้เจ้าหน้าที่ของรัฐดำรงตำแหน่งและปฏิบัติหน้าที่อื่น
ลงวันที่ ๒๕ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๕๘ ๒. คำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ๑/๒๕๕๙ เรื่อง
ประกาศรายชื่อเจ้าหน้าที่ของรัฐที่อยู่ระหว่างการถูกตรวจสอบเพิ่มเติม ครั้งที่ ๓
ลงวันที่ ๕ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๕๙ ๓. คำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่
๓๓/๒๕๕๙ เรื่อง ให้ข้าราชการไปปฏิบัติราชการในหน่วยงานอื่น ลงวันที่ ๒๔ มิถุนายน
พุทธศักราช ๒๕๕๙ ๔. คำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
ที่ ๔๓/๒๕๕๙ เรื่อง ประกาศรายชื่อเจ้าหน้าที่ของรัฐที่อยู่ระหว่างการถูกตรวจสอบเพิ่มเติม
ครั้งที่ ๔ ลงวันที่ ๑๗ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๕๙ ๕. คำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่
๔๗/๒๕๕๙ เรื่อง การดำเนินการตามคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ ๓๓/๒๕๕๙
ลงวันที่ ๑๘ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๕๙ ๖. คำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่
๕๒/๒๕๕๙ เรื่อง
ประกาศรายชื่อเจ้าหน้าที่ของรัฐที่อยู่ระหว่างการถูกตรวจสอบเพิ่มเติม ครั้งที่ ๗
ลงวันที่ ๒ กันยายน พุทธศักราช ๒๕๕๙ ๗. คำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
ที่ ๕๙/๒๕๕๙ เรื่อง ประกาศรายชื่อเจ้าหน้าที่ของรัฐที่อยู่ระหว่างการถูกตรวจสอบเพิ่มเติม ครั้งที่ ๘
และการปรับปรุงการบริหารงานบุคคลในบางหน่วยงานของรัฐ ลงวันที่ ๒๗ กันยายน
พุทธศักราช ๒๕๕๙ ๘. คำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
ที่ ๓๕/๒๕๖๐ เรื่อง ประกาศรายชื่อเจ้าหน้าที่ของรัฐที่อยู่ระหว่างการถูกตรวจสอบเพิ่มเติม
ครั้งที่ ๙ ลงวันที่ ๒๕ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๖๐ ๙. คำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
ที่ ๓๙/๒๕๖๐ เรื่อง ประกาศรายชื่อเจ้าหน้าที่ของรัฐที่อยู่ระหว่างการถูกตรวจสอบเพิ่มเติม
ครั้งที่ ๑๐ ลงวันที่ ๘ กันยายน พุทธศักราช ๒๕๖๐ ทั้งนี้
ให้รับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา เห็นว่าคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ จำนวน ๙ ฉบับดังกล่าวเป็นคำสั่งที่มีลักษณะเป็นคำสั่งทางบริหารที่สามารถยกเลิกได้
โดยมติคณะรัฐมนตรี ซึ่งหากสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐเห็นสมควรยกเลิกคำสั่งดังกล่าว
ก็สามารถดำเนินการเสนอเรื่องต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อยกเลิกคำสั่งดังกล่าวต่อไปได้
สำหรับกรณีที่นายกรัฐมนตรีจะมีคำสั่งให้บุคคลผู้มีรายชื่อตามคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติที่อยู่ระหว่างดำเนินการให้กลับไปปฏิบัติราชการในอัตราและตำแหน่งเดิมหรืออัตราและตำแหน่งที่หัวหน้าส่วนราชการนั้น
ๆ พิจารณาตามความเหมาะสม
โดยอาศัยอำนาจตามบัญชีห้าท้ายคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติที่ ๙/๒๕๖๒ ตาม
๑. วรรคหก นั้น เห็นว่า นายกรัฐมนตรีสามารถอาศัยอำนาจดังกล่าวแก้ไขหรือเปลี่ยนแปลงหรือให้บุคคลดังกล่าวกลับไปปฏิบัติราชการในอัตราและตำแหน่งเดิม
หรืออัตราและตำแหน่งที่หัวหน้าส่วนราชการนั้น ๆ พิจารณาตามความเหมาะสม และให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการต่อเจ้าหน้าที่ของรัฐดังกล่าวตามอำนาจหน้าที่และกระบวนการตามกฎหมาย
กฎ หรือระเบียบที่เกี่ยวข้องของหน่วยงานนั้น ๆ กำหนดไว้ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
207 | ข้อเสนอโครงการ/รายการกระตุ้นเศรษฐกิจตามแผนการขับเคลื่อนเศรษฐกิจภายใต้กรอบวงเงิน 157,000 ล้านบาท ระยะที่ 2 | กค. | 05/08/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
208 | การโอนข้าราชการพลเรือนสามัญเพื่อแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์) | นร. | 05/08/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติรับโอน นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ ข้าราชการพลเรือนสามัญ ตำแหน่งปลัดกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงแรงงาน และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการพิเศษประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นักบริหารระดับสูง) เงินประจำตำแหน่ง ๒๑,๐๐๐ บาท ในกรอบอัตรากำลังชั่วคราวเป็นกรณีพิเศษในสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี สำนักนายกรัฐมนตรี ตามคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ ๙/๒๕๖๒ เรื่อง การยกเลิกประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ คำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ และคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ บางฉบับที่หมดความจำเป็น ลงวันที่ ๙ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๖๒ โดยให้ได้รับเงินเดือน เงินประจำตำแหน่ง และสิทธิประโยชน์ตามที่ได้รับอยู่เดิม ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไป ทั้งนี้ ผู้มีอำนาจสั่งบรรจุทั้งสองฝ่ายได้ตกลงยินยอมการโอน และรองนายกรัฐมนตรี (นายภูมิธรรม เวชยชัย) รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ได้เห็นชอบด้วยแล้ว ตามที่รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายสุชาติ ตันเจริญ) เสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
209 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (นายกิติภน รื่นสัมฤทธิ์) | นร.06 | 05/08/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายกิติภน
รื่นสัมฤทธิ์ ข้าราชการพลเรือนสามัญ ตำแหน่งผู้อำนวยการสำนัก (ผู้อำนวยการสูง)
สำนัก ๖ ให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาด้านการต่อต้านการก่อการร้ายและอาชญากรรมข้ามชาติ
(นักการข่าวทรงคุณวุฒิ) กลุ่มงานที่ปรึกษา สำนักข่าวกรองแห่งชาติ
สำนักนายกรัฐมนตรี ตั้งแต่วันที่ ๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๘ ตามที่สำนักข่าวกรองแห่งชาติเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
210 | การแต่งตั้งรองประธานกรรมการในคณะกรรมการองค์การคลังสินค้า (นายปวริศ ผุดผ่อง) | พณ. | 05/08/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายปวริศ ผุดผ่อง เป็นรองประธานกรรมการในคณะกรรมการองค์การคลังสินค้า
แทนรองประธานกรรมการเดิมที่พ้นจากตำแหน่งเนื่องจากมีอายุครบหกสิบห้าปีบริบูรณ์
โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๕ สิงหาคม ๒๕๖๘) เป็นต้นไป
และผู้ซึ่งได้รับแต่งตั้งนั้นดำรงตำแหน่งเท่ากับวาระที่เหลืออยู่ของกรรมการซึ่งแต่งตั้งไว้แล้ว
ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
211 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (1. นายพรพจน์ เพ็ญพาส ฯลฯ จำนวน 6 ราย) | มท. | 05/08/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ
สังกัดกระทรวงมหาดไทย ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน ๖ ราย
เพื่อสับเปลี่ยนหมุนเวียน และทดแทนตำแหน่งที่ว่าง
ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไป
ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยเสนอ ดังนี้ ๑. นายพรพจน์ เพ็ญพาส ดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ๒. นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมที่ดิน ๓. นายเชษฐา โมสิกรัตน์ ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ๔. นายสันติ รังษิรุจิ ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา
สำนักงานปลัดกระทรวง ๕. นายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี
สำนักงานปลัดกระทรวง ๖. นายภาสกร บุญญลักษม์ ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง สำนักงานปลัดกระทรวง
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
212 | คณะกรรมการต่าง ๆ ที่แต่งตั้งโดยมติคณะรัฐมนตรี (กระทรวงมหาดไทย) | มท. | 05/08/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบคณะกรรมการต่าง ๆ ที่แต่งตั้งโดยมติคณะรัฐมนตรีของกระทรวงมหาดไทย
จำนวน ๒ คณะ โดยปรับปรุงองค์ประกอบของกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ จากจำนวน ๒๒ ราย
เป็นจำนวน ๒๐ ราย ในคณะกรรมการพิจารณาร่างกฎหมายของกระทรวงมหาดไทย คณะที่ ๑
และคณะกรรมการพิจารณาร่างกฎหมายของกระทรวงมหาดไทย คณะที่ ๒ ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
213 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง | ทส. | 05/08/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ
สังกัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน
๓ ราย เพื่อทดแทนผู้ดำรงตำแหน่งที่จะเกษียณอายุราชการและสับเปลี่ยนหมุนเวียน
ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๖๘ เป็นต้นไป ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ
ดังนี้ ๑. นางสาวปรีญาพร สุวรรณเกษ ดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ๒. นายสุรินทร์ วรกิจธำรง ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมควบคุมมลพิษ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
214 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (นายกันตพงศ์ รังษีสว่าง) | พม. | 05/08/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายกันตพงศ์ รังษีสว่าง ข้าราชการพลเรือนสามัญ
ตำแหน่งอธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ ให้ดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวง
สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เพื่อทดแทนผู้ดำรงตำแหน่งที่จะเกษียณอายุราชการ
ตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๖๘ เป็นต้นไป ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
215 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (นายพิเชฐ โพธิ์ภักดี และนายสุรศักดิ์ อินศรีไกร) | ศธ. | 05/08/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ
สังกัดกระทรวงศึกษาธิการ ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน ๒ ราย
เพื่อทดแทนผู้ดำรงตำแหน่งที่จะเกษียณอายุราชการ และสับเปลี่ยนหมุนเวียน ทั้งนี้
ตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๖๘ เป็นต้นไป ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการเสนอ
ดังนี้ ๑. นายพิเชฐ โพธิ์ภักดี ดำรงตำแหน่งเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ๒. นายสุรศักดิ์ อินศรีไกร ดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
216 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (นางสาวศุธาศินี สมิตร และนางสาวฐนิตา ศิริทรัพย์) | นร.13 | 05/08/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ
สังกัดสำนักนายกรัฐมนตรี ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน ๒ ราย
เพื่อทดแทนผู้ดำรงตำแหน่งที่จะเกษียณอายุราชการ ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม
๒๕๖๘ เป็นต้นไป ตามที่สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนเสนอ ดังนี้ ๑. นางสาวศุธาศินี สมิตร ดำรงตำแหน่งรองเลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน
สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน ๒. นางสาวฐนิตา ศิริทรัพย์ ดำรงตำแหน่งรองเลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน
สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
217 | หลักเกณฑ์และวิธีการให้ความช่วยเหลือเยียวยาแก่เจ้าหน้าที่ของรัฐและประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ปะทะกันตามแนวบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา | นร.08 | 01/08/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีพิจารณาแล้วเห็นว่าสืบเนื่องจากสถานการณ์ปะทะกันตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา
ที่เกิดขึ้นในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาทำให้เจ้าหน้าที่ของรัฐและประชาชนได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต
รวมทั้งที่พักอาศัยและทรัพย์สินจำนวนมากได้รับความเสียหาย
จึงมีความจำเป็นที่จะต้องให้ความช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ดังกล่าวอย่างเร่งด่วน
ซึ่งตามมาตรา ๘ วรรคสอง
แห่งพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการเสนอเรื่องและการประชุมคณะรัฐมนตรี พ.ศ. ๒๕๔๘
บัญญัติให้ในกรณีจำเป็นเพื่อเป็นการรักษาประโยชน์สำคัญของประเทศ หรือมีกรณีฉุกเฉิน
นายกรัฐมนตรีอาจพิจารณาเรื่องใดกับรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องตามที่นายกรัฐมนตรีเห็นควรเพื่อมีมติของคณะรัฐมนตรีในเรื่องนั้นได้ รองนายกรัฐมนตรี (นายภูมิธรรม เวชยชัย)
และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี
จึงได้ประชุมร่วมกับรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย รองนายกรัฐมนตรี (นายพิชัย
ชุณหวชิร) และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม และรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ (นายฉันทวิชญ์
ตัณฑสิทธิ์)
แล้วมีมติเห็นชอบในหลักการให้ปรับเพิ่มเงินเยียวยาให้กับประชาชนและเจ้าหน้าที่ของรัฐที่เสียชีวิต
โดยมอบหมายให้สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติรับไปพิจารณาร่วมกับกระทรวงกลาโหม กระทรวงการคลัง
กระทรวงมหาดไทย สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี สำนักงบประมาณ
สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
เพื่อกำหนดหลักเกณฑ์และอัตราเงินเยียวยาให้แก่เจ้าหน้าที่ของรัฐและประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ดังกล่าวให้เหมาะสม
ชัดเจน โดยให้ใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายงบกลาง
รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพื่อแก้ไขหรือเยียวยาความเดือดร้อนเสียหายในบางกรณี
และให้นำผลการพิจารณาเสนอคณะรัฐมนตรีโดยด่วนในวันที่ ๕ สิงหาคม ๒๕๖๘ ต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
218 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดค่าธรรมเนียมการออกใบอนุญาต หนังสือรับรองการแจ้ง และการให้บริการในการจัดการสิ่งปฏิกูลหรือมูลฝอย (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | สธ. | 29/07/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. เห็นชอบร่างกฎกระทรวงกำหนดค่าธรรมเนียมการออกใบอนุญาต
หนังสือรับรองการแจ้งและการให้บริการในการจัดการสิ่งปฏิกูลหรือมูลฝอย (ฉบับที่ ..)
พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดค่าธรรมเนียมการออกใบอนุญาตและการให้บริการในการจัดการมูลฝอยที่เป็นพิษหรืออันตรายจากชุมชนให้เหมาะสมและสอดคล้องกับภาระค่าใช้จ่ายในการดำเนินเก็บ
ขน และกำจัดมูลฝอยที่เป็นพิษหรืออันตรายจากชุมชนของราชการส่วนท้องถิ่น ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ
ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว และให้ดำเนินการต่อไปได้ |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
219 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดบัญชีต้นไม้ตามกฎหมายว่าด้วยสวนป่า พ.ศ. .... | ทส. | 29/07/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดบัญชีต้นไม้ตามกฎหมายว่าด้วยสวนป่า พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการปรับปรุงแก้ไขบัญชีต้นไม้ท้ายพระราชบัญญัติสวนป่า
(ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๘ จากเดิมจำนวน ๕๘ รายการ เป็นจำนวน ๒๑๑ รายการ
เพื่อให้เหมาะสมกับบริบทและสถานการณ์ในปัจจุบัน ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ
และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
220 | ผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก ครั้งที่ 3/2567 เรื่อง (ร่าง) แผนสิ่งแวดล้อมในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก พ.ศ. 2566-2570 | สกพอ. | 29/07/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก
ครั้งที่ ๓/๒๕๖๗ เรื่อง (ร่าง) แผนสิ่งแวดล้อมในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก
พ.ศ. ๒๕๖๖ - ๒๕๗๐ ตามที่คณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออกเสนอ ให้คณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงคมนาคม
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงมหาดไทย กระทรวงสาธารณสุข
สำนักงบประมาณ และสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
เช่น กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เห็นว่า (ร่าง)
แผนสิ่งแวดล้อมในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก พ.ศ. ๒๕๖๖ - ๒๕๗๐ จำเป็นต้องอาศัยมาตรการทางเศรษฐศาสตร์ เพื่อจูงใจให้ทุกภาคส่วนได้เข้ามามีส่วนร่วมในการบูรณาการขับเคลื่อนการพัฒนาให้บรรลุตามวัตถุประสงค์และเป้าหมายของแผนต่อไป กระทรวงมหาดไทย เห็นว่าการขับเคลื่อนการพัฒนาและบริหารจัดการด้านสิ่งแวดล้อมดังกล่าวต้องเป็นไปตามข้อกฎหมาย
ระเบียบ มติคณะรัฐมนตรี ขั้นตอนและแนวทางการปฏิบัติที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด
โดยคำนึงถึงความถูกต้อง โปร่งใส และประโยชน์สูงสุดของรัฐและประชาชนเป็นสำคัญ |