คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติในหลักการตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนองบประมาณเพิ่มเติมเพื่อการพัฒนา
งานสาธารณสุข และการให้บริการประชาชนในจังหวัดชายแดนภาคใต้ รวม  8  รายการ  วงเงินรวม 134.87 ล้าน
บาท ดังนี้ ค่าก่อสร้างสถานีอนามัยปานัน อำเภอมายอ จังหวัดปัตตานี  พร้อมครุภัณฑ์สำนักงานและครุภัณฑ์ทาง
การแพทย์ จำนวน 4.63 ล้านบาท ค่าซ่อมแซมอาคารสถานีอนามัย พร้อมครุภัณฑ์สำนักงานและครุภัณฑ์ทางการ
แพทย์ สำหรับสถานีอนามัยฆอรอราแม อำเภอยะหา จังหวัดยะลา และสถานีอนามัยโต๊ะแน  อำเภอกะพ้อ  จังหวัด
ปัตตานี แห่งละ 2.50 ล้านบาท รวมจำนวน 5 ล้านบาท  ค่าครุภัณฑ์ทางการแพทย์สำหรับการช่วยชีวิตฉุกเฉินและ
การผ่าตัดและครุภัณฑ์เพื่อความปลอดภัย เช่น ค่าก่อสร้างรั้ว โทรทัศน์วงจรปิด สำหรับหน่วยงานทุกระดับในพื้นที่
จำนวน  50  ล้านบาท ค่าก่อสร้างอาคารพักพยาบาล จำนวน  32  ยูนิต ของโรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์
ราคาค่าก่อสร้าง  จำนวน  26.04  ล้านบาท  ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานจัดหน่วยสาธารณสุขเคลื่อนที่สำหรับให้
บริการประชาชนในพื้นที่ร่วมกับหน่วยงานอื่น ๆ ในพื้นที่ จำนวน 5 ล้านบาท ค่าตอบแทนแพทย์อาสา  สาขาศัลย
ศาสตร์ และศัลยศาสตร์ออร์โธปิดิกส์ เพื่อช่วยปฏิบัติงานในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และสาขาอายุรศาสตร์
ช่วยปฏิบัติงานที่โรงพยาบาลสตูล จังหวัดสตูล จำนวน  8  ล้านบาท  ค่าตอบแทนการปฏิบัติงานให้บริการประชา
ชน และงานด้านอื่น  ๆ  ของหน่วยบริการนอกเวลาราชการในวันหยุดราชการ จำนวน  31.20  ล้านบาท  และค่า
ใช้จ่ายในการดำเนินการสร้างขวัญกำลังใจเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานในพื้นที่   โดยการจัดฝึกอบรมและศึกษาดูงานนอก
พื้นที่ จำนวน 5 ล้านบาท  ทั้งนี้  ให้ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้รับเรื่องนี้ไปพิจารณากลั่นกรอง
บูรณาการ และเสนอต่อกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในโดยด่วน  และให้เบิกจ่ายจากงบประมาณรายจ่าย
ประจำปีงบประมาณ  พ.ศ. 2550  งบกลาง  รายการค่าใช้จ่ายการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้  จำนวน  5,900
ล้านบาท ต่อไป

คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ประธานคณะกรรมการหลัก
ประกันสุขภาพแห่งชาติ เสนองบดุลและรายงานการรับจ่ายเงินกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ประจำปี
2548 และ 2547  ที่สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินได้ตรวจสอบรับรองแล้ว  โดยผลการดำเนินงานของกอง
ทุน ฯ สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2548  กองทุน ฯ มีรายได้รวม  40,904.23  ล้านบาท  เป็นรายได้
จากเงินงบประมาณกองทุน  ฯ จำนวน  40,889.95  ล้านบาท  และรายได้ดอกเบี้ยเงินฝากธนาคาร จำนวน
13.96  ล้านบาท  สำหรับค่าใช้จ่ายของกองทุน ฯ  ประกอบด้วย  ค่าบริการทางการแพทย์ที่จัดสรรให้หน่วย
บริการ จำนวน 40,894.73 ล้านบาท ทั้งนี้ กองทุน ฯ มีรายได้สูงกว่าค่าใช้จ่าย จำนวน 9.50 ล้านบาท

            คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์
วิธีการและเงื่อนไขการขอรับใบอนุญาตและการออกใบอนุญาตผลิต นำเข้า ส่งออก จำหน่าย  หรือมีไว้ในครอบ
ครอง เพื่อจำหน่ายซึ่งยาเสพติดให้โทษในประเภท 3 พ.ศ. ....  มีสาระสำคัญคือ  กำหนดหลักเกณฑ์  วิธีการและ
เงื่อนไขการขอรับใบอนุญาตและการออกใบอนุญาตผลิต  นำเข้า  ส่งออก   จำหน่าย   หรือมีไว้ครอบครองเพื่อ
จำหน่ายซึ่งยาเสพติดให้โทษในประเภท 3 เพื่อให้การควบคุมยาเสพติดให้โทษมีประสิทธิภาพ รัดกุม และเหมาะ
สมกับสภาวการณ์ มิให้เกิดปัญหาทางกฎหมาย  ทำให้ผู้รับอนุญาตได้รับความคุ้มครองครอบคลุมมากขึ้น  รวม
ทั้งเอื้อแก่การปฏิบัติของพนักงานเจ้าหน้าที่ในการตรวจสอบการมีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายซึ่งยาเสพติดให้
โทษในประเภท  3  ที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย   และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา  แล้ว
ดำเนินการต่อไปได้

            คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอให้ใช้ชื่อรัฐบาลไทยในการเป็นเจ้าภาพจัด
การประชุมวิชาการนานาชาติรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหิดล (Prince Mahidol Award Conference  หรือ  PMAC)
ซึ่งจะจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 1-2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2550 ณ โรงแรมอิมพีเรียล ควีนส์ ปาร์ค กรุงเทพมหานคร

              คณะรัฐมนตรีมีมติเกี่ยวกับร่างพระราชบัญญัติหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....  ของ
กระทรวงสาธารณสุข โดยที่ร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวมีประเด็นเกี่ยวข้องกับกองทุนประกันสังคม กองทุนเงิน
ทดแทน  และอำนาจหน้าที่ของกระทรวงแรงงาน  รวมทั้งเกี่ยวข้องกับสิทธิไล่เบี้ยแก่ผู้ทำละเมิดตามประมวลกฎ
หมายแพ่งและพาณิชย์ จึงให้นำร่างพระราชบัญญัติเสนอคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะ
ที่ 2 พิจารณาก่อนนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป โดยให้เชิญรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายประสิทธิ์
โฆวิไลกูล) เข้าร่วมพิจารณาด้วย

             คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเสนอแต่งตั้ง นายสุวิทย์ วิบุลผล
ประเสริฐ ให้ดำรงตำแหน่งผู้ทรงคุณวุฒิด้านควบคุมป้องกันโรค (นักวิชาการสาธารณสุข 11 ชช.) (ด้านวิจัย)
สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงสาธารณสุข ตั้งแต่วันที่ 27 ตุลาคม 2549 ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วน
สมบูรณ์

คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอดังนี้ เห็นชอบ (ร่าง) แผนยุทธศาสตร์การจัดการ
สารเคมีแห่งชาติ ฉบับที่ 3  (พ.ศ. 2550-2554)  โดยวัตถุประสงค์ของ (ร่าง) แผนยุทธศาสตร์ ฯ สอดคล้องกับ
เป้าหมายของแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 10  (พ.ศ. 2550-2554)  คือ  "สังคมที่มีความสุข
อย่างยั่งยืน"  และสอดรับกับยุทธศาสตร์การดำเนินงานระหว่างประเทศว่าด้วยการจัดการสารเคมี (SAICM) ทั้ง
3 ระบบ คือ High level Declaration, Overarching Policy Strategy  และ Global Plan of Action : GPA  เพื่อนำไป
สู่การบรรลุเป้าหมายการพัฒนาแห่งสหัสวรรษ (Millenium Development Goals : MDGs) คือ  "ลดการผลิตและ
ใช้สารเคมีในทางที่จะนำไปสู่การลดผลกระทบอันไม่พึงประสงค์ต่อสุขภาพอนามัยของมนุษย์และสิ่งแวดล้อมภาย
ในปี พ.ศ. 2563"  และเห็นชอบ (ร่าง) แผนปฏิบัติการและงบประมาณ  ภายใต้แผนยุทธศาสตร์การจัดการสาร
เคมีแห่งชาติ ฉบับที่ 3 (พ.ศ. 2550-2254)  มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ทุกกระทรวงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำไปใช้
เป็นแนวทางในการปฏิบัติก่อให้เกิดการจัดการสารเคมีของประเทศที่เป็นระบบและมีทิศทางเดียวกันโดยมีกรอบ
ระยะเวลาดำเนินการตามแผน ฯ 5 ปี ประกอบด้วย 137 แผนงาน/โครงการ งบประมาณดำเนินการ 1,127.30
ล้านบาท   ทั้งนี้  ให้กระทรวงสาธารณสุขรับความเห็นของส่วนราชการที่เกี่ยวข้องไปประกอบการปรับปรุงแก้ไข
(ร่าง) แผนทั้ง 2 ฉบับต่อไป อาทิ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติมีความเห็นว่า
ควรกำหนดแนวทาง มาตรการ รวมทั้งแผนงานและโครงการในแผนยุทธศาสตร์ ฯ และแผนปฏิบัติการ ฯ ในการ
จัดการสารเคมีในการบริการและสาธารณสุขเพิ่มเติม โดยกำหนดให้มีหน่วยงานรับผิดชอบโดยตรง  และควรให้
ความสำคัญกับเรื่องระบบกำกับควบคุมมาตรฐานและความปลอดภัยด้านอาหาร  (Food  Safety)  ตลอดจนให้
ความสำคัญกับการสร้างกระบวนการเรียนรู้ทั้งผู้ผลิต เกษตรกร และผู้บริโภค  โดยมีระบบข่าวสารข้อมูลที่โปร่ง
ใส และการให้ความรู้และมีระบบการใช้ที่ปลอดภัยแก่ผู้ผลิตด้วย เป็นต้น

             คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเสนอแต่งตั้ง นายสุรชาติ หฤทัย
ถาวร ดำรงตำแหน่งนายแพทย์ 10 วช. (ด้านเวชกรรม สาขาศัลยกรรม) กลุ่มงานศัลยกรรม โรงพยาบาลพระ
ปกเกล้า สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดจันทบุรี สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงสาธารณสุข  ตั้งแต่วันที่ทรง
พระกรุณาโปรดเกล้า ฯ แต่งตั้งเป็นต้นไป

               คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ประธานกรรมการหลักประกัน
สุขภาพแห่งชาติ รายงานสรุปผลการดำเนินงานการสร้างหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า ปีงบประมาณ พ.ศ. 2549
ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2548-30 กันยายน 2549 มีประชากรลงทะเบียนสิทธิหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าจำนวน
47.54  ล้านคน  เป็นสิทธิประกันสุขภาพแบบเสียค่าธรรมเนียม จำนวน 22.57 ล้านคน  และสิทธิประกันสุขภาพ
แบบไม่เสียค่าธรรมเนียมจำนวน  24.97  ล้านคน   หน่วยบริการคู่สัญญาในระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้ามี
จำนวนทั้งสิ้น 1,155 แห่ง เป็นกลุ่มโรงพยาบาล 959 แห่ง และคลินิก 196 แห่ง ด้านการใช้บริการทางการแพทย์
เฉพาะผู้มีสิทธิในระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า  มีการใช้บริการผู้ป่วยนอกจำนวน 110.88 ล้านครั้ง (34.89
ล้านคน) และผู้ป่วยในมีจำนวน 4.32 ล้านคน  ส่วนจำนวนหน่วยบริการที่มีการพัฒนาคุณภาพตามมาตรฐาน HA
และมาตรฐาน ISO เพิ่มขึ้นเป็น 878 แห่ง ของหน่วยบริการทั้งสิ้น  961  แห่ง  ด้านการพัฒนาแนวทางปฏิบัติการ
บริการสาธารณสุข  (Health Practice Guidelines : HPG)  ดำเนินการแล้วเสร็จ 10 สภาวะโรค ได้แก่ โรคอุจจาระ
ร่วงเฉียบพลันในผู้ใหญ่ โรคหอบหืด  ภาวะสมองเสื่อมในเวชปฏิบัติปฐมภูมิ  โรคเบาหวาน  โรคลมชัก  ภาวะโลหิต
จาง ภาวะเส้นเลือดในสมองแตก  โรคต้อกระจก  โรคหัวใจขาดเลือด  และการดูแลผู้ใหญ่และวัยรุ่นที่ติดเชื้อเอชไอวี
รายใหม่   และแนวทางการดูแลรักษาผู้ป่วยโรคมะเร็งที่ผ่านการพิจารณารับรองจากองค์กรวิชาชีพ ได้แก่ มะเร็งรัง
ไข่ มะเร็งปากมดลูก มะเร็งเต้านม มะเร็งลำไส้ใหญ่ มะเร็งหลอดอาหารและกระเพาะอาหาร  มะเร็งตับ  มะเร็งปอด
มะเร็งโพรงหลังจมูก  มะเร็งเม็ดเลือดขาวและต่อมน้ำเหลืองในผู้ใหญ่  และมะเร็งเม็ดเลือดขาวและต่อมน้ำเหลืองใน
เด็ก นอกจากนี้ ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2549 สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติได้จัดทำโครงการพัฒนาศูนย์
บริการหลักประกันสุขภาพเพื่อให้บริการด้านข้อมูลสิทธิประโยชน์  แนะนำการใช้บริการ  รับเรื่องร้องเรียน  การ
แก้ปัญหาและคุ้มครองสิทธิของผู้รับบริการและหน่วยบริการให้มีมาตรฐาน  รวมทั้งให้การช่วยเหลือเบื้องต้นกรณี
ผู้รับบริการได้รับความเสียหายที่เกิดจากการใช้บริการรักษาพยาบาลในระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า  และ
พัฒนาระบบบริหารจัดการผู้ป่วยโรคที่มีค่าใช้จ่ายสูงและโรคเรื้อรังต่าง  ๆ  ให้ได้รับการดูแลอย่างมีคุณภาพ  เป็น
ต้น สำหรับปัญหาอุปสรรคและปัจจัยที่มีผลกระทบต่อความสำเร็จของการดำเนินงานเช่น ผู้รับบริการยังไม่ทราบ
หรือไม่แน่ใจเรื่องสิทธิประโยชน์ กฎ ระเบียบ แนวทางปฏิบัติบางด้าน หรือหน่วยบริการไม่ปฏิบัติ หรือให้บริการ
ตามนโยบายที่สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติกำหนดหรือความไม่พอเพียงของงบประมาณในการบริการ
จัดการในการจัดตั้งสำนักสาขาเขตสำหรับการบริหารระบบหลักประกันสุขภาพในระดับพื้นที่ ทำให้เกิดข้อจำกัด
ในการพัฒนาระบบและกลไกต่าง ๆ เป็นต้น

            คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอร่างพระราชบัญญัติสถาบันพระบรมราช
ชนก พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ จัดตั้งสถาบันพระบรมราชชนกเป็นสถาบันอุดมศึกษา มีฐานะเป็นนิติบุคคลและ
เป็นหน่วยงานในกำกับของรัฐ   และให้ส่งคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณา   ก่อน
เสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติต่อไป

             คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอร่างกฎกระทรวงว่าด้วยการรับ
รองรุ่นการผลิตยาแผนปัจจุบันเกี่ยวกับยาชีววัตถุ พ.ศ. ....  มีสาระสำคัญคือ  กำหนดหน้าที่ให้ผู้รับอนุญาต
ผลิต หรือผู้รับอนุญาตนำหรือสั่งยาแผนปัจจุบันเข้ามาในราชอาณาจักร  กระทรวง  ทบวง  กรม  ในหน้าที่
ป้องกันหรือบำบัดโรค  สภากาชาดไทย  และองค์การเภสัชกรรม  ที่ผลิตหรือนำหรือสั่งเข้ามาในราชอาณา
จักรซึ่งยาชีววัตถุ ปฏิบัติตาม  และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อ
ไปได้

             คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอดังนี้ ให้คณะกรรมการคงอยู่ปฏิบัติหน้าที่
ต่อไป โดยมีอำนาจหน้าที่และองค์ประกอบคงเดิม จำนวน 9 คณะ ได้แก่ คณะกรรมการควบคุมโรคขาดสารไอโอ
ดีนแห่งชาติ คณะกรรมการโภชนาการ คณะกรรมการอาชีวอนามัยและสิ่งแวดล้อม คณะกรรมการวัคซีนแห่งชาติ
คณะกรรมการป้องกันและควบคุมโรคมะเร็งแห่งชาติ  คณะกรรมการพิจารณาจัดสรรนักศึกษาแพทย์ผู้ทำสัญญา
การเป็นนักศึกษาแพทย์  คณะกรรมการพิจารณาจัดสรรนักศึกษาทันตแพทย์ผู้ทำสัญญาการเป็นนักศึกษาทันต
แพทย์ คณะกรรมการพิจารณาจัดสรรนักศึกษาเภสัชศาสตร์ผู้ทำสัญญาการเป็นนักศึกษาเภสัชศาสตร์  และคณะ
กรรมการแห่งชาติว่าด้วยการพัฒนายุทธศาสตร์การจัดการสารเคมี และให้คณะกรรมการคงอยู่ปฏิบัติหน้าที่ต่อ
ไป โดยมีการปรับปรุงองค์ประกอบ จำนวน 4 คณะ ได้แก่ คณะกรรมการควบคุมการบริโภคยาสูบแห่งชาติ คณะ
กรรมการแห่งชาติด้านยา คณะกรรมการแห่งชาติด้านอาหาร และคณะกรรมการจัดทำตำรายาของประเทศไทย

             คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอการบริจาคเงินจำนวน 2 ล้านบาทต่อปี
ให้แก่ Intergovernmental Forum on Chemical Safety (IFCS)  เป็นเวลา 3 ปี  (พ.ศ. 2550-2552)  โดยมี
เงื่อนไขให้จัดตั้งเป็นกองทุนต่างหากแยกจากกองทุนรวมที่ IFCS มีอยู่แล้ว เพื่อให้ใช้ตามวัตถุประสงค์เท่านั้น
โดยให้กระทรวงสาธารณสุขปรับแผนการใช้จ่ายงบประมาณปี พ.ศ. 2550  เพื่อเจียดจ่ายเป็นเงินสนับสนุน
สำหรับ IFCS ดังกล่าว

            คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอรายการเพิ่มงบประมาณรายจ่ายประจำ
ปีงบประมาณ พ.ศ. 2550  เป็นกรณีพิเศษ  ในคำของบประมาณของสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข  จำนวน 3
กิจกรรม ประกอบด้วย การปฏิรูประบบสุขภาพและเตรียมการรองรับพระราชบัญญัติสุขภาพแห่งชาติ จำนวน
17.3410 ล้านบาท การศึกษาและวิจัยระบบสุขภาพ จำนวน 58.4891 ล้านบาท และการพัฒนาหลักประกัน
สุขภาพ จำนวน 16.7137 ล้านบาท รวมงบประมาณทั้งสิ้น 92.5438 ล้านบาท และให้เสนอต่อคณะกรรมาธิ
การวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2550 ภายในกำหนด
เวลาต่อไป

             คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอให้ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดการ
ประชุม International Congress of Pediatrics ครั้งที่ 27 (27th ICP) ในปี พ.ศ. 2556 โดยเหตุผลที่ขอรับ
เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมดังกล่าว เพื่อให้แพทย์ไทยได้มีโอกาสเข้าร่วมประชุมเพื่อเพิ่มพูนทักษะและเรียน
รู้วิวัฒนาการใหม่ ๆ และแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์กับแพทย์จากนานาประเทศ รวมทั้งจะทำให้
มีการหมุนเวียนเงินตราต่างประเทศเข้าสู่ประเทศไทยด้วย

          คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอการลงนามการรับรองพิธีสารแนบท้าย
ฉบับที่  3  ของอนุสัญญาเจนีวาว่าด้วยการเพิ่มสัญลักษณ์ของหน่วยงานกาชาดและเสี้ยววงเดือนแดงระหว่าง
ประเทศ (International  Red  Cross  and  Red  Crescent  Movement) ณ นครเจนีวา สมาพันธรัฐสวิส ซึ่ง
กำหนดให้ใช้สัญลักษณ์  "แก้วเจียรนัยแดง"  (Red Crystal) เพิ่มอีกหนึ่งสัญลักษณ์  ทั้งนี้  เมื่อลงนามแล้วให้
กระทรวงสาธารณสุขนำพิธีสาร ฯ   และร่างพระราชบัญญัติแก้ไขพระราชบัญญัติกาชาด  พ.ศ. 2499  เสนอ
ขอความเห็นชอบจากสภานิติบัญญัติแห่งชาติ เมื่อผ่านขั้นตอนนี้แล้ว จึงให้สัตยาบันพิธีสาร ฯ เพื่อให้มีผลใช้
บังคับกับประเทศไทย ตามความเห็นของกระทรวงการต่างประเทศ

            คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอร่างพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่ม
แอลกอฮอล์ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ ให้มีกฎหมายกำหนดมาตรการ ควบคุมการผลิต การนำเข้า การขาย การ
โฆษณา การบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และการบำบัดรักษา ฟื้นฟูสภาพผู้ติดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ขึ้นใช้บังคับ
และส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วนำเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณาต่อไป โดย
รับความเห็นของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ที่เห็นควรเพิ่มเติมมาตรการในการเก็บภาษี
สรรพสามิตเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เพิ่ม   และพิจารณาจัดสรรงบประมาณจากภาษีสรรพสามิตที่เก็บเพิ่มไปบริหาร
จัดการในรูปแบบกองทุนพัฒนาสังคม  โดยให้มีการศึกษาและยกร่างกฎหมายที่จำเป็นสำหรับมาตรการเพิ่มเติม
เพื่อเสนอต่อคณะรัฐมนตรีอีกครั้งภายใน 45 วัน รวมทั้งความเห็นของคณะรัฐมนตรีเกี่ยวกับร่างมาตรา 31 วรรค
สอง ที่กำหนดมิให้ใช้บังคับการโฆษณาที่ปรากฏในการถ่ายทอดสดรายการสดจากต่างประเทศ ควรกำหนดเพิ่ม
เติมมิให้ใช้บังคับกับการถ่ายทอดสดรายการสดในประเทศไปต่างประเทศด้วย  นอกจากนี้ การห้ามโฆษณาหรือ
นำเครื่องหมายของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไปแสดงบนผลิตภัณฑ์อื่นใด  ตามร่างมาตรา  33  ควรพิจารณากำหนด
ระยะเวลาให้ผู้ประกอบการที่ดำเนินการอยู่ในปัจจุบันสามารถปรับตัวได้ทัน ไปพิจารณาด้วย

             คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอแผนปฏิบัติการตามนโยบายรัฐบาลด้าน
สุขภาพ ประจำปีงบประมาณ 2550 ดังนี้
            (1) การออกกฎหมายเพื่อการพัฒนาระบบสุขภาพในระยะยาว
            (2) การพัฒนาระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า
            (3) การจัดตั้งศูนย์บริหารการพัฒนาสุขภาพจังหวัดชายแดนภาคใต้
            (4) การจัดการปัญหาทุจริตที่สำคัญและเป็นที่สนใจของสังคม
            (5) การพัฒนาและทดลองรูปแบบการกระจายอำนาจด้านสุขภาพ
            (6) การจัดตั้งโรงงานผลิตวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่
            (7) การฟื้นฟูวัฒนธรรมและค่านิยมที่เหมาะสม

            คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบอัตราเหมาจ่ายรายหัวสำหรับการสร้างหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าประจำ
ปีงบประมาณ พ.ศ. 2550 เท่ากับ 1,899.69 บาท ต่อประชากร

            คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอการมอบหมายให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการ
พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ
เป็นผู้รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในกรณีที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขไม่อยู่
หรือไม่อาจปฏิบัติราชการได้ ตามมาตรา 42 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 ตาม
ลำดับ โดยให้ครอบคลุมถึงกรณีที่ไม่มีผู้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขด้วย ทั้งนี้ ตามมาตรา 7
แห่งพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการเสนอเรื่องและการประชุมคณะรัฐมนตรี พ.ศ. 2548